01/07/2025
#อาการแพนิค (panic attack) กับ #โรคแพนิค (panic disorder) ต่างกันอย่างไร
\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•
โรคแพนิค เป็นภาวะทางจิตเวชอย่างหนึ่งที่พบได้บ่อย โดยพบได้ 2-5% ของประชากร
อย่างไรก็ตาม #การมีอาการแพนิคหนึ่งครั้ง (panic attack) #ไม่ได้แปลว่ามีโรคแพนิค (panic disorder)
ความแตกต่างคืออะไร?
เรามาเริ่มทำความรู้จัก #อาการแพนิค ( #ทางการแพทย์) กันก่อนค่ะ
(หลายคนใช้คำว่า แพนิค แต่จริง ๆ เป็นภาษาอังกฤษว่า Panic ที่จะสื่อว่า ตื่นตระหนก ตกใจ /กลัว เท่านั้น)
ผู้ป่วยจะมี ❤️🔥 อาการทางร่างกายหลาย ๆ อย่าง (อย่างน้อย 4 อาการ) ขึ้นมา พร้อม ๆ กัน ❤️🔥 ได้แก่
ใจสั่น , หัวใจเต้นแรงหรือเร็วมาก / หายใจไม่อิ่ม หายไม่ออก (บางคนจะบอกว่า หายใจไม่เข้า) / รู้สึกอึดอัด /
แน่นหน้าอก / รู้สึกมึนหัว , โคลงเคลง , เหมือนจะเป็นลม / เหงื่อแตก / ตัวสั่น / คลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วน / มือไม้ชาๆ ซ่าๆ หรือรู้สึกอ่อนแรง / รู้สึกเย็บวาบ หรือ ร้อนวูบ
ด้วยความที่อยู่ๆ อาการหลาย ๆ อย่างดังกล่าว ก็เกิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ทำให้ผู้ป่วยมักกลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ กลัวจะเป็นบ้า หรือกลัวว่าจะตาย (ส่วนใหญ่คิดว่าเป็นโรคหัวใจ)
อาการมักจะขึ้นถึงจุดสูงสุดใน 10-15 นาที จากนั้นก็จะค่อยๆ เบาลง และมักจะหายไปในเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง
บางคนมีความเครียด อยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน
แต่บางรายก็มีอาการขึ้นมาเองได้ จากระบบประสาทออโตโนมิค ที่ทำงานผิดปกติ
ดังนั้น #ไม่ใช่เรื่องแปลกหากผู้ป่วยไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในช่วงที่มีเครียดหรือกังวลอะไร
หากมีอาการแพนิค (panic attack) เพียงครั้งเดียว
เช่น ตอนลงทะเลครั้งแรกในการเรียนดำน้ำ , ตอนต้องพูดต่อหน้าที่ประชุมใหญ่
แล้วไม่ได้มีอาการอีกซ้ำๆ ไม่มีผลอะไรต่อการใช้ชีวิต
ก็ไม่นับว่าเป็นโรคแพนิค (panic disorder) ค่ะ
⭕️ จะบอกว่าเป็น "โรคแพนิค" ต่อเมื่อ มีอาการแพนิค ซ้ำๆ โดยที่อาการ
***** #ไม่ได้เกิดจากยา_สารต่างๆ ือสาเหตุทางกายอื่นๆ *****
เพราะหากเป็นจากเหตุอื่น อาจเป็นอันตรายได้
(กาดอกจัน 10 ดวง)
ดังนั้น การที่ผู้ป่วยที่มีอาการครั้งแรก รีบไปห้องฉุกเฉิน จึงเป็นการกระทำที่ถูกต้อง เนื่องจาก
#มีหลายภาวะที่ทำให้เกิดอาการคล้ายแพนิคได้ เช่น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคปอด โรคธัยรอยด์ อาการนำของโรคลมชัก เป็นต้น
🩻 จำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมก่อนว่า ไม่ใช่อาการของโรคใดโรคหนึ่ง
#สารบางตัวกระตุ้นให้เกิดอาการแพนิคได้ เช่น คาเฟอีนที่มากเกินไป พิษกัญชา อาการถอนจากสารเสพติดหลายชนิด เป็นต้น
สรุป คือ Panic attack อาจเป็น จากภาวะทางจิตใจ เช่น ความกลัว สถานการณ์บางอย่าง / กลัวอะไรบางอย่าง และ อาจเป็นอาการเริ่มต้น ของโรค แพนิค
หรือ เกิดจากโรคทางกาย บางชนิด ( มีทั้งที่เป็นโรคร้ายแรง และ โรคทั่วไปก็ได้ )
ภาวะ Panic attack จึงต้องหาสาเหตุและรักษา ไป ตาม โรค / ภาวะนั้น ๆ
อาการก็จะหายไป
ส่วน โรคแพนิค เป็นโรคทางจิตเวช ที่ต้องรักษา ในระยะยาว เมื่อคุมอาการได้แล้ว เรียกว่า อาการสงบ
อาจเป็นซ้ำ แต่อาการ จะไม่มากเท่ากับที่เป็นครั้งแรก
#ผลกระทบของโรคแพนิค
ในครั้งแรกๆ อาการจะเกิดขึ้นแบบคาดเดาไม่ได้ (unexpected)
แต่เมื่ออาการเกิดขึ้นแล้ว ผู้ป่วยมักจะรู้สึกทนไม่ไหว อยากออกจากจุดนั้น ถ้าขับรถก็ต้องจอด บางคนอยากลงจากเครื่องบิน
ทำให้มักเกิดความกังวลตามมาว่า จะเกิดอาการแล้วไม่มีใครช่วยได้ หรืออยู่ในจุดที่หนีไม่ได้ เช่น อยู่ในรถสาธารณะแล้วลงไม่ได้ อยู่บนรถไฟฟ้า หรือรถติดอยู่บนทางด่วน
ในบางกรณี โดยเฉพาะหากไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยอาจจะเชื่อมโยงอาการกับสถานที่ที่เคยมีอาการ เช่น บันไดเลื่อน ลิฟท์ รถไฟฟ้า แล้วเริ่มมีอาการที่คาดเดาได้ (expected)
จนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่กล้าเดินทาง บางรายมีภาวะซึมเศร้าตามมา หรือ หันไปดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติดเพื่อบรรเทาอาการ (เกิดเป็นอีกปัญหาตามมา)
+ + + #การรักษา + + +
ประกอบด้วย การดูแลทางด้านจิตใจ การใช้ยา และการควบคุมลมหายใจ
1) 💚 การดูแลทางด้านจิตใจ
คือ การอธิบาย ให้เข้าใจ กระบวนการเกิดโรค ให้ผู้ป่วยทราบว่า #แม้อาการจะน่ากลัวแต่ไม่มีอันตราย #ไม่ตายหรือกลายเป็นโรคร้ายแรง
และมียาที่สามารถรักษาให้ #หายได้ รวมถึงมีวิธีดูแลตัวเองเฉพาะหน้า โดย การฝึก ควบคุมลมหายใจเพื่อบรรเทาอาการเมื่อมีอาการ
2) 💚 การใช้ยา มี 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่
2.1 💊 ยาที่กินเพื่อป้องกันการเกิดอาการ และยาที่รักษาอาการ 💊
คือ ยากลุ่มยาต้านเศร้า แบบเดียวกับที่ใช้ในโรคซึมเศร้า
เป็น #ยาตัวหลักที่ใช้ในการรักษาทำให้อาการแพนิคเกิดขึ้นถี่น้อยลงจนหายไปในที่สุด
รวมทั้งช่วย #ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำด้วย
แต่ยาในกลุ่มนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นผล
ดังนั้นในอาทิตย์แรก ๆ แพทย์จึงมักให้ทานยาในข้อ 2.2 เพื่อบรรเทาอาการ
เมื่ออาการหายดีแล้ว แนะนำให้กินยาหลักนี้ต่อไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน เนื่องจากการศึกษาพบว่า ผู้ที่หยุดยาเร็ว มักมีอาการกลับมาเป็นซ้ำได้บ่อยกว่า
2.2 ยาที่กินเพื่อลดอาการ
เรียกว่าเป็นยาฉุกเฉิน กินเฉพาะเมื่อมีอาการ ถ้าไม่มีอาการก็ไม่จำเป็นต้องกิน
ยาที่นิยมใช้ในกรณีนี้ได้แก่ ยา
กลุ่ม Benzodiazepine เช่น Alprazolam , Clorazepate , Diazepam , Clonazepam
ยากลุ่มนี้ แม้ว่าจะเป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็ว แต่ก็ต้องรอให้ยาออกฤทธิ์ประมาณ 15-20 นาที
ในระหว่างนี้จึงแนะนำให้ควบคุมลมหายใจควบคู่ไปด้วยค่ะ
3) 💚 การควบคุมลมหายใจเวลาที่มีอาการ (Breathing exercise)
เมื่อรู้ว่าอาการแพนิคเริ่มมา
ตั้งสติ นั่งพัก แล้วหายใจเข้าออก **ช้าๆ ลึกๆ ยาวๆ** เหมือนเวลานั่งสมาธิหรือเล่นโยคะ
โดยเราจะหายใจออก ให้ยาวกว่าหายใจเข้า (เพื่อเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปให้หมดก่อน)
โดย หายใจเข้านับ 1-2-3-4 หายใจออกนับ 1-2-3-4-5-6
เนื่องจากเวลามีอาการ ผู้ป่วยมักจะหายใจเร็ว คือหายใจตื้นๆ ถี่ๆ ซึ่งจะยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดหนักขึ้นไปอีก
คนไข้หลายรายไม่จำเป็นต้องใช้ยาฉุกเฉิน เนื่องจากอาการลดลงไปมากเมื่อหายใจอย่างถูกวิธีค่ะ
\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•
เครดิตเรื่อง : หมอมีฟ้า ( Rerun )
เครดิตภาพ :
https://images.app.goo.gl/V22B59dhpQxsoML4A