Remind Clinic รีมายด์ ให้บริการปรึกษา บำบัด ทางด้านจิตใจ และทำแบบทดสอบ การตรวจวินิจฉัยโดยนักจิตวิทยาคลินิก

✨การกอดแม่✨ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของลูกน้อยในช่วงแรกเกิดและช่วงวัยทารก เพราะการสัมผัสและการกอดช่วยสร้างความรู้...
14/07/2025

✨การกอดแม่✨ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของลูกน้อยในช่วงแรกเกิดและช่วงวัยทารก เพราะการสัมผัสและการกอดช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัย มั่นคง และกระตุ้นพัฒนาการด้านต่างๆ ทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา

ดังนั้น✨ การกอดและการสัมผัสลูกน้อยอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมพัฒนาการรอบด้านของลูกน้อยในช่วงวัยแรกเกิดและช่วงวัยทารก

⛅️ รีมายด์พร้อมรับฟัง ด้วยความเข้าใจ
Line Official :
Tel : 086-441-5254

#นักจิตวิทยาคลินิก
#รักตัวเอง #สุขภาพจิตดี

คุณไม่จำเป็นต้องรอให้ถึง "จุดพัง"ถึงจะเริ่มดูแลใจตัวเอง 🧠ไม่ว่าจะโดนเท โดนทิ้ง หรือแค่ไม่รู้จะคุยกับใคร...เราพร้อม "ฟัง"...
07/07/2025

คุณไม่จำเป็นต้องรอให้ถึง "จุดพัง"
ถึงจะเริ่มดูแลใจตัวเอง 🧠

ไม่ว่าจะโดนเท โดนทิ้ง หรือแค่ไม่รู้จะคุยกับใคร...
เราพร้อม "ฟัง" และอยู่ข้างคุณเสมอ

✨ 7.7 นี้ Remind จัดโปรพิเศษให้คุณ
✔️ ปรึกษานักจิตวิทยาในราคาพิเศษ
📆 เฉพาะวันที่ 7-9 ก.ค. นี้เท่านั้น

⛅️ รีมายด์พร้อมรับฟัง ด้วยความเข้าใจ
📲 ทักไลน์เลย:
Tel : 086-441-5254

#นักจิตวิทยาคลินิก
#รักตัวเอง #สุขภาพจิตดี

01/07/2025

#อาการแพนิค (panic attack) กับ #โรคแพนิค (panic disorder) ต่างกันอย่างไร

\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•

โรคแพนิค เป็นภาวะทางจิตเวชอย่างหนึ่งที่พบได้บ่อย โดยพบได้ 2-5% ของประชากร

อย่างไรก็ตาม #การมีอาการแพนิคหนึ่งครั้ง (panic attack) #ไม่ได้แปลว่ามีโรคแพนิค (panic disorder)

ความแตกต่างคืออะไร?

เรามาเริ่มทำความรู้จัก #อาการแพนิค ( #ทางการแพทย์) กันก่อนค่ะ
(หลายคนใช้คำว่า แพนิค แต่จริง ๆ เป็นภาษาอังกฤษว่า Panic ที่จะสื่อว่า ตื่นตระหนก ตกใจ /กลัว เท่านั้น)

ผู้ป่วยจะมี ❤️‍🔥 อาการทางร่างกายหลาย ๆ อย่าง (อย่างน้อย 4 อาการ) ขึ้นมา พร้อม ๆ กัน ❤️‍🔥 ได้แก่
ใจสั่น , หัวใจเต้นแรงหรือเร็วมาก / หายใจไม่อิ่ม หายไม่ออก (บางคนจะบอกว่า หายใจไม่เข้า) / รู้สึกอึดอัด /
แน่นหน้าอก / รู้สึกมึนหัว , โคลงเคลง , เหมือนจะเป็นลม / เหงื่อแตก / ตัวสั่น / คลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วน / มือไม้ชาๆ ซ่าๆ หรือรู้สึกอ่อนแรง / รู้สึกเย็บวาบ หรือ ร้อนวูบ

ด้วยความที่อยู่ๆ อาการหลาย ๆ อย่างดังกล่าว ก็เกิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน ทำให้ผู้ป่วยมักกลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้ กลัวจะเป็นบ้า หรือกลัวว่าจะตาย (ส่วนใหญ่คิดว่าเป็นโรคหัวใจ)

อาการมักจะขึ้นถึงจุดสูงสุดใน 10-15 นาที จากนั้นก็จะค่อยๆ เบาลง และมักจะหายไปในเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง

บางคนมีความเครียด อยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน
แต่บางรายก็มีอาการขึ้นมาเองได้ จากระบบประสาทออโตโนมิค ที่ทำงานผิดปกติ
ดังนั้น #ไม่ใช่เรื่องแปลกหากผู้ป่วยไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในช่วงที่มีเครียดหรือกังวลอะไร


หากมีอาการแพนิค (panic attack) เพียงครั้งเดียว
เช่น ตอนลงทะเลครั้งแรกในการเรียนดำน้ำ , ตอนต้องพูดต่อหน้าที่ประชุมใหญ่
แล้วไม่ได้มีอาการอีกซ้ำๆ ไม่มีผลอะไรต่อการใช้ชีวิต
ก็ไม่นับว่าเป็นโรคแพนิค (panic disorder) ค่ะ

⭕️ จะบอกว่าเป็น "โรคแพนิค" ต่อเมื่อ มีอาการแพนิค ซ้ำๆ โดยที่อาการ
***** #ไม่ได้เกิดจากยา_สารต่างๆ ือสาเหตุทางกายอื่นๆ *****
เพราะหากเป็นจากเหตุอื่น อาจเป็นอันตรายได้
(กาดอกจัน 10 ดวง)

ดังนั้น การที่ผู้ป่วยที่มีอาการครั้งแรก รีบไปห้องฉุกเฉิน จึงเป็นการกระทำที่ถูกต้อง เนื่องจาก

#มีหลายภาวะที่ทำให้เกิดอาการคล้ายแพนิคได้ เช่น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคปอด โรคธัยรอยด์ อาการนำของโรคลมชัก เป็นต้น

🩻 จำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมก่อนว่า ไม่ใช่อาการของโรคใดโรคหนึ่ง

#สารบางตัวกระตุ้นให้เกิดอาการแพนิคได้ เช่น คาเฟอีนที่มากเกินไป พิษกัญชา อาการถอนจากสารเสพติดหลายชนิด เป็นต้น

สรุป คือ Panic attack อาจเป็น จากภาวะทางจิตใจ เช่น ความกลัว สถานการณ์บางอย่าง / กลัวอะไรบางอย่าง และ อาจเป็นอาการเริ่มต้น ของโรค แพนิค

หรือ เกิดจากโรคทางกาย บางชนิด ( มีทั้งที่เป็นโรคร้ายแรง และ โรคทั่วไปก็ได้ )

ภาวะ Panic attack จึงต้องหาสาเหตุและรักษา ไป ตาม โรค / ภาวะนั้น ๆ
อาการก็จะหายไป

ส่วน โรคแพนิค เป็นโรคทางจิตเวช ที่ต้องรักษา ในระยะยาว เมื่อคุมอาการได้แล้ว เรียกว่า อาการสงบ
อาจเป็นซ้ำ แต่อาการ จะไม่มากเท่ากับที่เป็นครั้งแรก

#ผลกระทบของโรคแพนิค

ในครั้งแรกๆ อาการจะเกิดขึ้นแบบคาดเดาไม่ได้ (unexpected)
แต่เมื่ออาการเกิดขึ้นแล้ว ผู้ป่วยมักจะรู้สึกทนไม่ไหว อยากออกจากจุดนั้น ถ้าขับรถก็ต้องจอด บางคนอยากลงจากเครื่องบิน
ทำให้มักเกิดความกังวลตามมาว่า จะเกิดอาการแล้วไม่มีใครช่วยได้ หรืออยู่ในจุดที่หนีไม่ได้ เช่น อยู่ในรถสาธารณะแล้วลงไม่ได้ อยู่บนรถไฟฟ้า หรือรถติดอยู่บนทางด่วน

ในบางกรณี โดยเฉพาะหากไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยอาจจะเชื่อมโยงอาการกับสถานที่ที่เคยมีอาการ เช่น บันไดเลื่อน ลิฟท์ รถไฟฟ้า แล้วเริ่มมีอาการที่คาดเดาได้ (expected)

จนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่กล้าเดินทาง บางรายมีภาวะซึมเศร้าตามมา หรือ หันไปดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติดเพื่อบรรเทาอาการ (เกิดเป็นอีกปัญหาตามมา)

+ + + #การรักษา + + +

ประกอบด้วย การดูแลทางด้านจิตใจ การใช้ยา และการควบคุมลมหายใจ

1) 💚 การดูแลทางด้านจิตใจ
คือ การอธิบาย ให้เข้าใจ กระบวนการเกิดโรค ให้ผู้ป่วยทราบว่า #แม้อาการจะน่ากลัวแต่ไม่มีอันตราย #ไม่ตายหรือกลายเป็นโรคร้ายแรง
และมียาที่สามารถรักษาให้ #หายได้ รวมถึงมีวิธีดูแลตัวเองเฉพาะหน้า โดย การฝึก ควบคุมลมหายใจเพื่อบรรเทาอาการเมื่อมีอาการ

2) 💚 การใช้ยา มี 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่

2.1 💊 ยาที่กินเพื่อป้องกันการเกิดอาการ และยาที่รักษาอาการ 💊
คือ ยากลุ่มยาต้านเศร้า แบบเดียวกับที่ใช้ในโรคซึมเศร้า
เป็น #ยาตัวหลักที่ใช้ในการรักษาทำให้อาการแพนิคเกิดขึ้นถี่น้อยลงจนหายไปในที่สุด
รวมทั้งช่วย #ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำด้วย

แต่ยาในกลุ่มนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นผล
ดังนั้นในอาทิตย์แรก ๆ แพทย์จึงมักให้ทานยาในข้อ 2.2 เพื่อบรรเทาอาการ

เมื่ออาการหายดีแล้ว แนะนำให้กินยาหลักนี้ต่อไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน เนื่องจากการศึกษาพบว่า ผู้ที่หยุดยาเร็ว มักมีอาการกลับมาเป็นซ้ำได้บ่อยกว่า

2.2 ยาที่กินเพื่อลดอาการ

เรียกว่าเป็นยาฉุกเฉิน กินเฉพาะเมื่อมีอาการ ถ้าไม่มีอาการก็ไม่จำเป็นต้องกิน
ยาที่นิยมใช้ในกรณีนี้ได้แก่ ยา
กลุ่ม Benzodiazepine เช่น Alprazolam , Clorazepate , Diazepam , Clonazepam

ยากลุ่มนี้ แม้ว่าจะเป็นยาที่ออกฤทธิ์เร็ว แต่ก็ต้องรอให้ยาออกฤทธิ์ประมาณ 15-20 นาที
ในระหว่างนี้จึงแนะนำให้ควบคุมลมหายใจควบคู่ไปด้วยค่ะ

3) 💚 การควบคุมลมหายใจเวลาที่มีอาการ (Breathing exercise)

เมื่อรู้ว่าอาการแพนิคเริ่มมา
ตั้งสติ นั่งพัก แล้วหายใจเข้าออก **ช้าๆ ลึกๆ ยาวๆ** เหมือนเวลานั่งสมาธิหรือเล่นโยคะ
โดยเราจะหายใจออก ให้ยาวกว่าหายใจเข้า (เพื่อเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปให้หมดก่อน)
โดย หายใจเข้านับ 1-2-3-4 หายใจออกนับ 1-2-3-4-5-6

เนื่องจากเวลามีอาการ ผู้ป่วยมักจะหายใจเร็ว คือหายใจตื้นๆ ถี่ๆ ซึ่งจะยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดหนักขึ้นไปอีก

คนไข้หลายรายไม่จำเป็นต้องใช้ยาฉุกเฉิน เนื่องจากอาการลดลงไปมากเมื่อหายใจอย่างถูกวิธีค่ะ

\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•\|•

เครดิตเรื่อง : หมอมีฟ้า ( Rerun )
เครดิตภาพ :
https://images.app.goo.gl/V22B59dhpQxsoML4A

✨ รักตัวเองคือก้าวแรกสู่ความสุข ✨ในวันที่ชีวิตวุ่นวาย มักลืมดูแลตัวเอง ลองพักผ่อน ใส่ใจความรู้สึกของตัวเอง แล้วจะพบว่าคว...
26/06/2025

✨ รักตัวเองคือก้าวแรกสู่ความสุข ✨
ในวันที่ชีวิตวุ่นวาย มักลืมดูแลตัวเอง ลองพักผ่อน ใส่ใจความรู้สึกของตัวเอง แล้วจะพบว่าความสุขนั้นเริ่มจากการรักตัวเอง 💖

⛅️ รีมายด์พร้อมรับฟัง ด้วยความเข้าใจ
Line Official :
Tel : 086-441-5254

#นักจิตวิทยาคลินิก
#รักตัวเอง #สุขภาพจิตดี

23/06/2025

#งานบ้านเล็กๆ สร้างนิสัยที่ยิ่งใหญ่ให้ลูกบทความโดย #มัมมี่Bชวนเมาท์
เนื่องจากปัจจุบัน เป็นยุคแห่งความสะดวกสบาย บางบ้านจึงมีพี่เลี้ยง แม่บ้าน หรือมีหุ่นยนต์ช่วยทำความสะอาด บางบ้าน พ่อแม่อาจเลือกที่จะทำเองทั้งหมดเพื่อความรวดเร็ว ทำให้ลูกไม่ต้องช่วยทำงานบ้าน ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเรียนและกิจกรรมต่างๆของตัวเองได้อย่างเต็มที่
แต่พ่อแม่รู้ไหมคะว่า การมอบหมายหน้าที่ให้ลูกช่วยทำงานบ้านนั้น ให้ประโยชน์กับลูกของเราทั้งในปัจจุบันและอนาคตมากมายอย่างคาดไม่ถึงจริงๆ
เพราะงานบ้านคืองานที่เหนื่อย ไม่สนุก และน่าเบื่อ การที่ลูกช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน เราไม่ได้หวังเพียงผลลัพธ์ที่บ้านจะสะอาดเรียบร้อย แต่การที่ลูกช่วยทำงานบ้านจนเสร็จเป็นหน้าที่ จะส่งผลดีต่อลูกอย่างมากดังนี้
➡️ หน้าที่ทำงานบ้าน เป็นการปลูกฝังให้ลูกมีวินัยและรับผิดชอบต่อหน้าที่ตนเอง
➡️ การทำงานบ้าน เป็นการฝึกความอดทนและความพยายามในการทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ แม้ลูกจะรู้สึกเบื่อหรือเหนื่อยก็ตาม
➡️ การทำงานบ้าน จะช่วยลูกเพิ่มทักษะในการคิดและแก้ปัญหาที่พบในระหว่างการทำงานบ้านให้สำเร็จ
➡️ ฝึกลูกในการวางแผน ยืดหยุ่น และการจัดการเวลาในการช่วยงานบ้าน เวลาเรียน เวลาส่วนตัว และเวลาพักผ่อนด้วยตนเองได้
➡️ การช่วยงานบ้าน จะปลูกฝังความมีน้ำใจในการช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งเบาภาระพ่อแม่
การมอบหมายงานบ้านให้ลูก สามารถเริ่มได้ตั้งแต่อายุ 2-3 ขวบ ค่อยๆ มอบหมายงานบ้านให้เหมาะสมตามวัยของลูก ฝึกได้โดยการทำให้ลูกดู จับมือทำ และ พาลูกทำไปด้วยกัน
พ่อแม่ต้องชื่นชมในความพยายามและความมีน้ำใจของลูก แม้เขาจะยังทำงานบ้านได้ไม่เรียบร้อย ตามที่เราคาดหวังก็ตาม โดยชมทันทีเมื่อลูกเห็นลูกทำ จะกระตุ้นพฤติกรรมให้ลูกอยากที่จะทำซ้ำ และทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
คำชมจากพ่อแม่จะทำให้ลูกภูมิใจ และเกิดเป็นความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นการสร้าง Self -Esteem ให้กับลูก ทำให้ลูกรู้ว่า เขามีความสามารถ เขาทำได้ เขาทำในสิ่งที่มีประโยชน์ สามารถช่วยเหลือพ่อแม่และผู้อื่น
นอกจากนี้ การทำงานบ้านยังเป็นการฝึก Executive Functions หรือทักษะ EF ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมตนเอง การวางแผน และการตัดสินใจยืดหยุ่น ใส่ใจจดจ่อ ลงมือทำจนสำเร็จ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้และการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว
ทั้งหมดจะเห็นได้ว่า การฝึกให้ลูกช่วยงานบ้าน นอกจากจะเป็นการปลูกฝังวินัยและความรับผิดชอบ ยังเป็นการสร้าง Self Esteem และ ทักษะ EF ที่ดีให้กับลูกอีกด้วย
สำคัญยิ่งไปกว่านั้น การที่ลูกช่วยงานบ้านยังเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว สร้างบรรยากาศที่ดีในบ้าน บ้านที่เรียบร้อย ทำให้มองแล้วสบายตา รู้สึกสบายใจ การที่ลูกมีน้ำใจ ทำให้พ่อแม่ชื่นชมและภูมิใจในตัวเขา ที่ช่วยแบ่งเบาภาระ ส่งผลทำให้ลูกรู้สึกดีกับพ่อแม่และชื่นชมในตัวเองเช่นกัน
Net PAMA ขอเป็นตัวช่วยให้กับพ่อแม่ทุกท่านที่ต้องการฝึกลูกทำงานบ้าน ด้วยหลักการเลี้ยงลูกเชิงบวก สร้าง“ความสัมพันธ์ที่ดีกับลูก" ควบคู่ไปกับ “การสร้างวินัยให้กับลูก” ซึ่งแต่บทเรียนพ่อแม่จะได้เรียนรู้ถึง
🔹ปัจจัยต่างๆในการปรับพฤติกรรมลูก
🔹ทักษะในการสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว
🔹เทคนิคการชมทำให้ลูกมีกำลังใจ
🔹การให้รางวัลเพื่อกระตุ้นพฤติกรรมดีของลูก
🔹การลงโทษที่ถูกวิธีโดยที่ลูกไม่ต่อต้าน
🔹 เทคนิคการใช้ตารางเด็กดี
การันตรีว่า ความรู้ในทุกบทอยู่ในชีวิตประจำวันของเราและลูกแน่นอน สามารถลงทะเบียนเรียนฟรีได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ https://www.netpama.com ค่ะ ♥️
#เน็ตป๊าม้า #คัมภีร์เลี้ยงลูกเชิงบวก

Pe******ia (โรคใคร่เด็ก)ลักษณะที่พบได้บ่อยมีดังนี้1️⃣ มีทักษะทางสังคมดี สามารถสร้างสัมพันธภาพได้ทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ มั...
11/06/2025

Pe******ia (โรคใคร่เด็ก)

ลักษณะที่พบได้บ่อยมีดังนี้

1️⃣ มีทักษะทางสังคมดี สามารถสร้างสัมพันธภาพได้ทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ มักมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาผู้คน เช่น เป็นที่รู้จักในชุมชน หรือมีตำแหน่งหน้าที่ที่น่าเคารพ ทำให้ผู้ปกครองมัก "วางใจ" ให้ลูกอยู่ใกล้ชิดกับคนเหล่านี้
2️⃣ ผู้ที่เป็น Pe******ia มักรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับเด็กมากกว่าผู้ใหญ่
3️⃣ มีความชำนาญในการ "เลือกผู้เสียหายที่เป็นเด็ก" (Child Profiling)
4️⃣ มีความสามารถในการ "รอ" เพื่อใกล้ชิดกับเด็ก จึงใช้วิธี "grooming" ทำให้เด็กรู้สึกผูกพัน เพื่อลดความระแวง
5️⃣ พยายามหาโอกาสอยู่ลำพังกับเด็ก
6️⃣ รูปแบบการตอบสนองความพึงพอใจทางเพศอาจไม่ใช่การมีเพศสัมพันธ์เสมอไป แต่อาจอยู่ในรูปแบบของการสัมผัส การมอง หรือรูปแบบอื่นๆ
7️⃣ บางคนกระทำโดยลำพัง ขณะที่บางคนอาจมีส่วนร่วมในเครือข่ายล่วงละเมิดเด็ก

️⚠️ หากพบเห็นเด็กที่อาจถูกทำร้าย หรือตกอยู่ในความเสี่ยง สามารถแจ้งได้ที่:
มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก: 0-2412-1196 (เวลาราชการ)
ศูนย์ช่วยเหลือสังคม (สายด่วน พม.): โทร. 1300 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
การละเลยไม่แจ้งถือว่ามีความผิด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง

รีมายด์พร้อมรับฟัง ด้วยความเข้าใจ
Line Official :
Tel : 086-441-5254

#นักจิตวิทยาคลินิก

🌈ชวนคุณให้ เปิดใจฟัง ตั้งใจคุย มาคุยกันแบบได้รับส่วนลด โปร  6.6⚡️      ❗️Online  30 นาที จากราคา 1300 บาท ลดเหลือ 966 บา...
06/06/2025

🌈ชวนคุณให้ เปิดใจฟัง ตั้งใจคุย
มาคุยกันแบบได้รับส่วนลด
โปร 6.6⚡️

❗️Online 30 นาที จากราคา 1300 บาท ลดเหลือ 966 บาท✨️.
❗️Online 60 นาที จากราคา 1800 บาท ลดเหลือ 1,566 บาท✨️
❗️Onsite 60 นาที จากราคา 2000 บาท ลดเหลือ 1,566 บาท ✨️.
สามารถซื้อโปรแล้วเก็บไว้ใช้ได้ภายในเดือน มิถุนายน 2568 เท่านั้น!

✨️Remind Clinicให้บริการดูแลสุขภาพใจโดยนักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบประกอบโรคศิลปะ
Line Official:
Tel: 086-441-5254

Binge Eating Cycle หรือ วงจรของการกินแบบย้ำคิดย้ำทำ (การกินมากผิดปกติ) 🍔คือรูปแบบพฤติกรรมที่มีลักษณะเป็นวงจรซ้ำๆ ซึ่งเกี...
02/06/2025

Binge Eating Cycle หรือ วงจรของการกินแบบย้ำคิดย้ำทำ (การกินมากผิดปกติ) 🍔

คือรูปแบบพฤติกรรมที่มีลักษณะเป็นวงจรซ้ำๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกินอาหารในปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกายในระยะเวลาอันสั้น โดยมักตามมาด้วยความรู้สึกผิด ละอายใจ และพยายามควบคุมพฤติกรรมการกินอย่างเข้มงวด จนกลับเข้าสู่วงจรเดิมอีกครั้ง

ผลกระทบของ Binge Eating Cycle

📍ร่างกาย: น้ำหนักขึ้น ระบบย่อยอาหารผิดปกติ เสี่ยงโรคเรื้อรัง
📍จิตใจ: ซึมเศร้า ภาวะวิตกกังวล ความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ
📍สังคม: แยกตัว ไม่มั่นใจ กลัวการรับประทานร่วมกับผู้อื่น

Intuitive Eating (การกินอย่างมีสติและตามสัญญาณร่างกาย)

คือแนวคิดและแนวทางการกินที่เน้น การฟังร่างกายของตัวเอง แทนที่จะใช้กฎเกณฑ์จากภายนอก เช่น การควบคุมแคลอรี ห้ามอาหารบางประเภท หรือการอดอาหาร แนวคิดนี้พัฒนาโดยนักกำหนดอาหารชาวอเมริกัน Evelyn Tribole และ Elyse Resch ตั้งแต่ปี 1995 และกลายเป็นแนวทางที่ได้รับการสนับสนุนในด้านสุขภาพจิตและพฤติกรรมการกินที่ยั่งยืน

หลักสำคัญของ Intuitive Eating (10 หลัก)

✅ปฏิเสธแนวคิดการไดเอต (Reject the Diet Mentality)
✅เคารพความหิวของตัวเอง (Honor Your Hunger)
✅สร้างความสัมพันธ์กับอาหารแบบสันติ (Make Peace with Food)
✅ท้าทายเสียงวิจารณ์ตัวเองเรื่องการกิน (Challenge the Food Police)
✅รู้จักอิ่ม (Feel Your Fullness)
✅ให้ความพึงพอใจในการกินเป็นสิ่งสำคัญ (Discover the Satisfaction Factor)
✅เคารพความรู้สึกโดยไม่ใช้การกินกลบอารมณ์ (Cope with Your Emotions Without Using Food)
✅เคารพร่างกายตัวเอง (Respect Your Body)
✅ออกกำลังกายเพื่อรู้สึกดี ไม่ใช่แค่ลดน้ำหนัก (Exercise – Feel the Difference)
✅ให้สุขภาพเป็นเป้าหมายโดยไม่ต้องสมบูรณ์แบบ (Honor Your Health – Gentle Nutrition)

Remind Clinic ให้บริการดูแลสุขภาพใจโดยนักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบประกอบโรคศิลปะ
Line Official:
Tel: 086-441-5254

#นักจิตวิทยาคลินิก

28/05/2025
🌱 เปลี่ยน Self-Talk = เปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อตัวเอง💡 เทคนิคฝึก Self-Talk สำหรับวันที่ไม่มั่นใจในรูปร่าง🔸 พูดกับตัวเองห...
28/05/2025

🌱 เปลี่ยน Self-Talk = เปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อตัวเอง


💡 เทคนิคฝึก Self-Talk สำหรับวันที่ไม่มั่นใจในรูปร่าง
🔸 พูดกับตัวเองหน้ากระจกวันละ 1 นาที
— เริ่มต้นด้วยคำว่า “ขอบคุณร่างกาย” แล้วเติมสิ่งที่เรารู้สึกจริง เช่น
“ขอบคุณที่ยังอยู่กับฉัน แม้ฉันจะเคยเกลียดเธอก็ตาม”
🔸 เขียนบันทึกวันละประโยค
— เช่น “ฉันไม่ใช่รูปร่างของฉัน” หรือ “ฉันกำลังเรียนรู้ที่จะเมตตาตัวเอง”
🔸 เปลี่ยนเสียงในหัวเมื่อพลาดหรือเครียดจากรูปร่างตัวเอง
✘ “ดูสิ ทำไมยังอ้วนอยู่”
✔ “ฉันกำลังอยู่ในกระบวนการดูแลตัวเองอย่างอ่อนโยน ไม่ใช่ทรมานตัวเอง”

💛 เพราะคุณคู่ควรกับคำพูดดี ๆ จากตัวคุณเอง
🪞Self-Talk ไม่ใช่การหลอกตัวเอง
แต่คือ การซื่อสัตย์กับความรู้สึก
และเลือกที่จะ “ไม่ซ้ำเติม” ตัวเองซ้ำจากคำพูดของโลกภายนอก
ถ้าเรารอให้รูปร่าง “ดีพอ” ก่อน จึงจะรักตัวเองได้
บางที…เราจะไม่มีวันได้รักเลย
เริ่มจากวันนี้
แค่ใจเรากลับมาอยู่ข้างตัวเอง — ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยาที่ยิ่งใหญ่แล้ว

⛅️ Remind Clinic ดูแลสุขภาพใจโดยนักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบประกอบโรคศิลปะ
ทำนัด/ ปรึกษาเพิ่มเติม ได้ที่
Line Official :
Tel : 086-441-5254

#นักจิตวิทยาคลินิก #สุขภาพจิต #ซึมเศร้า

ทำตามแผน ไม่ทำตามอารมณ์: กลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนชีวิตให้มั่นคงขึ้น🗓📍ในชีวิตประจำวัน เราทุกคนต่างเคยมีช่วงเวลาที่รู้ว่า “ควรท...
26/05/2025

ทำตามแผน ไม่ทำตามอารมณ์: กลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนชีวิตให้มั่นคงขึ้น🗓📍

ในชีวิตประจำวัน เราทุกคนต่างเคยมีช่วงเวลาที่รู้ว่า “ควรทำอะไร” แต่กลับ “ทำในสิ่งที่ไม่ควร” เพราะอารมณ์ในขณะนั้นครอบงำเรา เช่น ตั้งใจจะกินคลีน แต่พอเครียดกลับสั่งขนมหวานมากิน หรือวางแผนจะออกกำลังกายแต่กลับนอนดูซีรีส์ทั้งคืน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นตัวอย่างของการ “ทำตามอารมณ์ แทนที่จะทำตามแผน”

🧠 ในทางจิตวิทยา แนวทางที่เรียกว่า CBT (Cognitive Behavioral Therapy) หรือ การบำบัดความคิดและพฤติกรรม มีหลักการหนึ่งที่ทรงพลังและเรียบง่าย คือ “Act according to your plan, not your mood” หรือ ทำตามแผน ไม่ใช่อารมณ์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

วิธีฝึก “ทำตามแผน ไม่ทำตามอารมณ์”

1. เขียนแผนล่วงหน้า
ตั้งเป้าหมายรายวันหรือรายสัปดาห์
เมื่อมีแผนชัดเจน จะง่ายต่อการตัดสินใจแม้ในเวลาที่รู้สึกไม่อยากทำ
2. ระบุอารมณ์ให้ชัด
แทนที่จะพูดว่า “ฉันอยากกินของหวาน” ให้ถามว่า “ตอนนี้ฉันรู้สึกอะไร?” เช่น เครียด? เหงา? ไม่มีแรง?
3. หยุดสั้น ๆ เพื่อทบทวน
หายใจลึก ๆ แล้วถามตัวเองว่า “ฉันกำลังทำตามแผน หรืออารมณ์?”
แค่การหยุดคิดเพียง 5 วินาที ก็สามารถเปลี่ยนการตัดสินใจได้
4. ใช้ “If–Then” แผนรับมือ
ตัวอย่าง: “ถ้าฉันรู้สึกเบื่อ → ฉันจะเดินเล่น 10 นาทีแทนการกินขนม”
ช่วยเตรียมใจล่วงหน้าและลดโอกาสตัดสินใจตามอารมณ์

⛅️ รีมายด์พร้อมรับฟัง ด้วยความเข้าใจ
Line Official :
Tel : 086-441-5254

#นักจิตวิทยาคลินิก #สุขภาพจิต

Trichotillomania (โรคดึงผม)ความเครียด วิตกกังวล หรือแรงกดดันสะสม กลายเป็นพฤติกรรมที่ไม่อาจควบคุมได้ เช่น “การดึงผมตัวเอง...
23/05/2025

Trichotillomania (โรคดึงผม)

ความเครียด วิตกกังวล หรือแรงกดดันสะสม กลายเป็นพฤติกรรมที่ไม่อาจควบคุมได้ เช่น “การดึงผมตัวเอง” จนเกิดผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ

อาการที่พบได้บ่อย เช่น
• ดึงผมซ้ำ ๆ ที่ศีรษะ คิ้ว ขนตา หรือขนตามร่างกาย
• มีความรู้สึกโล่งหรือผ่อนคลายหลังดึงผม
• พยายามหยุดแต่หยุดไม่ได้
• มีผมบางหรือศีรษะเป็นหย่อมจากการดึง

ใครบ้างที่มีแนวโน้มเกิดภาวะนี้?
• มีความเครียด วิตกกังวล หรืออารมณ์ไม่คงที่
• มีประวัติครอบครัวเป็นโรคทางจิตเวช
• มีแนวโน้มย้ำคิดย้ำทำ หรือควบคุมตนเองได้ยาก

ความเข้าใจอาการและรักษาอย่างถูกวิธี เช่น
• การบำบัดทางจิต
• การใช้ยาในบางกรณีร่วมกับจิตแพทย์
• การฝึกผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก การทำสมาธิ

” ไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ใช่ความผิดของคุณ การรักษาเริ่มจากความเข้าใจ และการไม่ตัดสิน ”

หากสงสัยว่าตนเองหรือคนรอบข้างอาจมีปัญหานี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและการดูแลที่เหมาะสม

Remind Clinicให้บริการดูแลสุขภาพใจโดยนักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบประกอบโรคศิลปะ
Line Official:
Tel: 086-441-5254

#สุขภาพจิต #นักจิตวิทยา #เครียด #ซึมเศร้า

ที่อยู่

Amphoe Bangkok Noi

เวลาทำการ

จันทร์ 10:00 - 21:00
อังคาร 10:00 - 21:00
พุธ 10:00 - 21:00
พฤหัสบดี 10:00 - 20:00
ศุกร์ 10:00 - 20:00
เสาร์ 10:00 - 21:00
อาทิตย์ 10:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

+66864415254

เว็บไซต์

https://goo.gl/maps/5cB9qhZXxEJzk8en9

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Remind Clinicผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Remind Clinic:

แชร์