เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/101483329405674/

สมุนไพร RPQ No.1 For U, รามอินทรา, Bangkok (2025)

23/06/2023

โรคเบาหวานคืออะไร ?
โรคเบาหวาน คือโรคที่เกิดจากความบกพร่องของฮอร์โมนอินซูลิน
ซึ่งผลิตจากตับอ่อน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ
อาการของโรค "เบาหวาน"
ㆍ ปัสสาวะบ่อย ทั้งกลางวันกลางคืน
ㆍ ปลายมือ ปลายเท้าชา อันเนื่องมาจากประสาทเสื่อม
ㆍ อ่อนเพลีย และน้ำหนักลด
ㆍ หิวบ่อย รับประทานเก่งขึ้น
ㆍ คันตามตัว ติดเชื้อได้ง่าย เป็นเชื้อรา ตกขาวบ่อย
ㆍ ตาพร่า เห็นกาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน
·กระหายน้ำ
สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวาน
มีหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งปัจจัยทางพันธุกรรม (genetic factor)
และปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม (environmental factor)
ㆍ กรรมพันธุ์
ㆍ น้ำหนักเกิน ความอ้วน ขาดการเคลื่อนไหว ขาดการออกกำลังกาย
ㆍ อายุที่มากขึ้น มืโอกาสเป็นเบาหวานได้มากขึ้น
ㆍ โรคของตับอ่อน เซ่น ตับอ่อนอักเสบ ได้รับการผ่าตัดตับอ่อน
ㆍ ความเครียดเรื้อรัง
ㆍ การได้รับยาบางชนิด ทำให้มีการสร้างน้ำตาลมากขึ้น หรือ
การตอบสนองของอินซูลินได้ไม่ดี
· การตั้งครรกํ เนื่องจากมีการสร้างฮอร์โมนจากรกหลายชนิด
ซึ่งมีผลยับยั้งการทำงานของอินซูลิน
โรคแทรกซ้อน
จากโรคเบาหวาน
ตา
อาจเป็นต้อกระจกก่อนวัย จอตาเสื่อม
ทำให้ตามัวลงเรื่อยๆและอาจทำให้ตาบอดในที่สุด
เท้า
ทำให้อาการชาปลายมือปลายเท้าเกิดแผลได้ง่าย และ
อาจก่อให้เกิดความพิการ
ไต
มักจะเสื่อม จนเกิดอาการไตเสื่อมเรื้อรัง,
โปรตีน (ไข่ขาว) รั่วในปัสสาว:
อาการติดเชื้อได้ง่าย
เนื่องจากภูมิต้านทานต่ำ
ภาวะคิโตซีส (Ketosis)
ผู้ป่วยมีอาการคลื่นใส้ อาเจียน กระหายน้ำมาก
หายใจหอบลึก มีใช้ กระวนกระวาย
ผนังหลอดเลือดแดงแข็ง
ทำให้เป็นความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองตีบ
อัมพาต หัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดแดงส่วปลาย
เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
เดือนถัดไปค่าน้ำตาลปรับลดลงเหลือไม่เกิน 126 จะใช้ยาแค่เดือนละ 2 กล่องเท่านั้น

น้ำตาลเริ่มปรับตัวลดลง
ตั้งแต่ 2 สัปดาห์แรก อาการที่เป็นอยู่เริ่มดีขึ้น อาการแทรกซ้อนลดลง
ขอให้ทานต่อเนื่องจนครบ 1 เดือน เมื่อครบ 1 เดือน ให้ไปตรวจน้ำตาลปลายนิ้วอีกครั้ง ค่าน้ำตาลลดลงเหลือไม่เกิน 126 ให้ปรับลดยาเหลือมื้อละ 1 แคปซูลเช้าและเย็น เท่ากับว่าเดือนถัดไปใช้ยาแค่เดือนละ 2 กล่องครับ

สั่งซื้อติดต่อ
090-926-9264

หรือสอบถามเพิ่มเติม
Line @ : http://line.me/ti/p/%40rhj3971k

02/02/2023

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า “น้ำเปล่า”
สามารถรักษาโรคได้สารพัดจริง ๆ
ไม่ได้เป็นศาสตร์มนต์ดำ
หรือเกี่ยวข้องกับศาสนาใด ๆ
แต่เป็นหลักวิทยาศาสตร์
และกลไกมนุษย์ธรรมดา ๆ
แถมยังเป็นโรคที่ใครหลายคน
ประสบพบเจอมาด้วย
จะต้องดื่มน้ำเปล่าอย่างไร เท่าไร
แล้วรักษาโรคอะไรได้บ้าง
----------------------------------
1. ท้องผูก
ง่าย ๆ ก็เริ่มที่อาการท้องผูก
ที่ใครหลายคนต้องเคย
ประสบกับปัญหา
นี้มาไม่มากก็น้อย
สาเหตุของอาการท้องผูก
มักมาจากอาหารการกิน
ที่เราทานเข้าไป
ทำให้อุจจาระของเรา
ขาดความอ่อนนุ่ม
อัดรวมเป็นก้อนแข็งใหญ่
ทำให้ถ่ายลำบาก (หรือไม่ถ่าย)
การดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น
จะช่วยให้อาการท้องผูก
ลดลงได้อย่างแน่นอน
โดยเฉพาะการดื่มน้ำอุ่น
( อาจจะแช่มะนาวฝานบาง ๆ
ลงไปในแก้ว 1 ชิ้นด้วย )
ในตอนเช้า และดื่มน้ำ
ตามหลังจากทานอาหาร
ไปจนถึงน้ำเปล่า
อีก 1 แก้วก่อนนอน
รับรองได้ผลแน่
----------------------------------
2. โรคริดสีดวงทวาร
ต่อจากอาการท้องผูก
หากอุจจาระอ่อนนุ่มลง
เราก็จะมีโอกาสเป็นโรค
ริดสีดวงทวารน้อยลงเช่นกัน
เพราะฉะนั้นหากไม่อยากเป็น
โรคริดสีดวงทวาร
นอกจากการเลือกทานอาหาร
ที่มีกากใยอาหารสูง
ลดการทานอาหารที่มีแป้ง
และไขมันสูงแล้ว
ควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
ในแต่ละวันด้วย
----------------------------------
3. ปวดศีรษะ/ไมเกรน
ใครที่มีอาการปวดศีรษะ
หรือปวดไมเกรนเป็นโรค
ประจำตัวอยู่แล้ว
หากไม่อยากมีอาการ
ปวดบ่อย ๆ หรือไม่อยาก
ทานยาบ่อย สามารถจิบน้ำเปล่า
ดื่มระหว่างวันได้
ช่วยลดอาการ
ปวดศีรษะได้ดีเลยทีเดียว
----------------------------------
4. ความดันโลหิตสูง
การดื่มน้ำน้อยเกินไป
ทำให้เลือดของเราข้น
ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิต
ในร่างกายทำงานหนักขึ้นไปด้วย
นั่นจึงทำให้หลอดเลือด
มีความดันมากขึ้น
จนอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
หรือคนที่มีอาการ
ความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว
ก็อาจมีอาการหนักขึ้นได้
เพราะฉะนั้นหากเราดื่มน้ำ
ให้เพียงพอในแต่ละวัน
ก็จะช่วยให้ระบบ
ไหลเวียนโลหิตทำงานได้ง่ายขึ้น
----------------------------------
5. โรคอ้วน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า
แค่น้ำเปล่าธรรมดา ๆ นี่แหละ
ที่ช่วยลดโอกาสในการเป็น
โรคอ้วนได้ นอกจากนี้
ใครที่ต้องการลดน้ำหนัก
ลองดื่มน้ำเปล่าระหว่างวันให้มากขึ้น
จะช่วยให้เราไม่หิวบ่อยระหว่างวัน
และดื่มเปล่าแทนน้ำหวานไปได้เลย
จะเติมความสดชื่นด้วยการ
แช่ผลไม้สดลงไปในน้ำเปล่าด้วยก็ได้
หรือที่เราเรียกว่า Defused water
ช่วยลดความอยากน้ำหวานของเรา
ไปได้เยอะเลยล่ะ แพทย์แนะนำว่า
ใครที่เป็นโรคอ้วนอยู่แล้ว
ลองดื่มน้ำให้ได้ 2 - 3 ลิตรต่อวัน
ควบคู่ไปกับการลดทานแป้ง
น้ำตาล ไขมันไม่ดี และออกกำลังกายด้วย
ช่วยลดน้ำหนักได้แน่นอน
----------------------------------
6. ปวดข้อ
อาการปวดข้อมักตามมากับโรคอ้วน
เพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินไป
และน้ำในข้อน้อย
จึงทำให้ข้อต่าง ๆ เช่น
ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อไหล่แห้ง
ฝืดเคือง ขยับได้ไม่คล่อง
การเติมความชุ่มชื้นให้กับ
เนื้อเยื่อบริเวณข้อต่อ ทำได้ง่าย ๆ
เพียงดื่มน้ำให้มากขึ้น อาการอักเสบ
หรือบวมปวดก็จะน้อยลง
----------------------------------
7. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
จากประสบการณ์ส่วนตัว
นอกจากการทำงานที่รีบเร่ง
ที่ทำให้เราดื่มน้ำน้อย
และต้องกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน
ทำให้มีโอกาสเป็นโรค
กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้มากขึ้น
เพราะฉะนั้นหากคุณดื่มน้ำให้มากขึ้น
และลุกไปเข้าห้องน้ำทันทีที่ปวดปัสสาวะ
ก็จะไม่เป็นโรคนี้อย่างแน่นอน
----------------------------------
ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า
น้ำเปล่าเป็นยาวิเศษที่ดื่มปุ๊บ
อาการของโรคต่าง ๆ จะหายปั๊บ
หากแต่จะช่วยป้องกันการเกิดโรค
หรือช่วยบรรเทาให้อาการ
ของโรคเหล่านั้นลดน้อยลง
หากเป็นโรคอะไร
ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องจะดีกว่าค่ะ
----------------------------------
ที่มา : Deno Health , Health and Trend
----------------------------------
รับปรึกษาปัญหาสุขภาพ ด้วยสมุนไพร
ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดสมองตีบ
เส้นเลือดหัวใจตีบ มะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ
ไทรอยด์ ปวดประจำเดือน ริดสีดวง
กระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน
ภาวะเลือดจาง ความดันโลหิตต่ำ
ธาลัสซีเมีย ลูคีเมีย ไต โรคไมเกรน
โรคแพ้ภูมิตัวเองจากภาวะเลือดจาง
---------------------------------------------
สาขาพระประแดง เปิดให้บริการ
เวลา 9.00-18.00 น.
โทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
082-750-8148 , 084-3322586

01/02/2023

กล้วยน้ำว้า ... ต้นไม้ที่ไม่เคยให้โทษ

30/01/2023

ผักพื้นบ้าน ต้านมะเร็ง

17/01/2023

ชนิดของเบาหวาน
1. โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (type 1 diabetes mellitus, T1DM) จัดเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง
(Autoimmune disease) ซึ่งหมายถึง ความผิดปกติของภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำลายเนื้อเยื่อปกติของ
ร่างกาย เป็นโรคเรื้อรังที่ เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำลายเบต้าเซลล์ (Beta cell) ในตับอ่อนซึ่งทำหน้าที่ผลิต
อินซูลิน จนร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินที่คอยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Level) ได้
ตามปกติ เมื่อร่างกายขาดอินซูลินจึงเกิดปัญหาในการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ในร่างกายผ่านทางระบบไหลเวียน
โลหิต ทำให้เกิดการสะสมของน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรดที่เกิดจากกรดคีโตนคั่ง
ก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ โรคเบาหวาน ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 จึงจำเป็นต้องฉีดอินซูลินเข้าร่างกาย เป็น
ประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและไม่เกิดภาวะกรดคีโตนคั่ง ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
ส่งผลทำให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย หิวหรือกระหายน้ำมาก ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักลด ขณะนี้ยังไม่มีการรักษา
ที่ทำให้หายขาด และยังไม่พบวิธีที่จะป้องกัน หากไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลให้มีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง
ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สาเหตุที่ตับอ่อนถูกทำลายยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่จากหลักฐานทางการแพทย์
คาดว่าเกิดจากปัจจัยทางกรรมพันธุ์ การติดเชื้อบางอย่างเป็นตัวกระตุ้น เช่นโรคซิสติก ไฟโบรซิส ( Cystic
fibrosis) ที่ส่งผลกระทบต่อตับอ่อน การผ่าตัดนำตับอ่อนออก หรือการติดเชื้อที่ตับอ่อนขั้นรุนแรง แพทย์และ
นักวิจัยกำลังพยายามหาวิธีป้องกันในเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กที่มีพี่น้องป่วยเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 และ
วิธีการรักษาโดยการปลูกถ่ายเซลล์ตับอ่อน ซึ่งยังต้องติดตามผลการวิจัยต่อไป
2. โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (type 2 diabetes mellitus, T2DM) เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด ร้อยละ 95
ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมด เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน มักพบในผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนร่วมด้วย
3. โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (gestational diabetes mellitus, GDM) เป็นโรคเบาหวานที่เกิดขึ้น
ขณะตั้งครรภ์ มักเกิดเมื่อไตรมาส 2-3 ของการตั้งครรภ์
4. โรคเบาหวานที่มีสาเหตุจำเพาะ (specific types of diabetes due to other causes) มีได้
หลายสาเหตุ เช่น โรคทางพันธุกรรม โรคของตับอ่อน โรคทางต่อมไร้ท่อ ยาบางชนิด เป็นต้น

06/01/2023

📢ภาวะแทรกซ้อนเรื้อรัง (หรืออันตรายภัยเงียบจากเบาหวาน)
เบาหวาน มักจะพบในคนที่อ้วน มีญาติหรือบรรพบุรุษเป็นเบาหวานมักจะมีความดันโลหิตสูง และมีไขมันในเลือดที่ผิดปกติร่วมด้วย สองโรคหลังนี้จะมีส่วนช่วยเร่งให้เกิดโรคแทรกซ้อนทางหลอดเลือดขนาดใหญ่ได้เร็วขึ้น ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะส่งผลต่อหลอดเลือดแดงในร่างกาย ทำให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายเสื่อมเร็วขึ้น นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดตามมาในอนาคต จึงต้องรักษาอย่างเข้มงวด ไปพร้อมๆ กับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดที่ผิดปกติ มักพบร่วมกับโรคเบาหวาน เป็นตัวเร่งให้เกิดโรคแทรกซ้อนทางหลอดเลือดขนาดใหญ่
1. หลอดเลือดหัวใจ : ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือกล้ามเนื้อหัวใจตาย
2. หลอดเลือดสมอง : ทำให้เกิดภาวะอัมพาต อัมพฤกษ์
3. หลอดเลือดส่วนปลายที่ขา : ทำให้เลือดไปเลี้ยงขาไม่เพียงพอ มีอาการปวดน่องเวลาเดิน และอาจทำให้เกิดแผลที่เท้าเนื่องจากการขาดเลือดไปเลี้ยง
4. จอประสาทตา : ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจจอประสาทตาโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และหากพบความผิดปกติ สามารถรักษาได้โดยการ laser เพื่อป้องกันระดับสายตาเสื่อมลงและตาบอด อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องเบาหวานขึ้นตา
5. ไต : ขั้นแรกจะตรวจพบ protein รั่วออกมาในปัสสาวะ และหากไม่ระวังดูแลให้ดีอาจทำให้เกิดภาวะไตวายในอนาคตได้
6. เส้นประสาท : อาการที่พบบ่อยคือ มีอาการชา หรือ ปวดแสบปวดร้อน หรือ ปวดรุนแรง หรือ รู้สึกชาแบบเหน็บชา หรือเหมือนถูกแทง โดยมักมีอาการที่ปลายเท้า และ ปลายมือก่อน
การปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
1. ควบคุมอาหาร โดยลด ข้าว แป้ง น้ำตาล และเครื่องดื่นที่มีน้ำตาลโดยเฉพาะ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และนมเปรี้ยว
2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30-60 นาทีต่อครั้ง 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์
3. งดสูบบุหรี่
4. รับประทานยาหรือฉีดยาตามแพทย์แนะนำ
5. รักษาปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่พบร่วม ได้แก่ ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง
6. หากมีอาการผิดปกติ เช่น อาเจียนมาก รับประทานอาหารไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์เนื่องจากระดับน้ำตาลจะแกว่งสูงหรือต่ำได้มาก

05/01/2023

โรคเบาหวาน เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ ร่างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
โดยในระยะยาวจะส่งผลให้เกิดการทำลายหลอดเลือด และนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่รุนแรงมากขึ้น
"RPQ ฟื้นฟูตรงจุด หยุดเบาหวาน"
"ทางเลือกใหม่สมุนไพรบำบัด"
1กล่องมี 30 แคปซูล
ราคากล่องละ950บาท

สนใจสั่งซื้อทักข้อความ หรือโทร.สอบถาม
090-926-9264

15/12/2022

7 อาการ สัญญาณ
เตือนโรคเบาหวาน
1.เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง
2.ตาแห้ง สายตาพล่ามัวแบบไม่มีสาเหตุ
3.ผิวแห้ง มีอาการคันผิวหนัง
4.ปัสวะบ่อยผิดปกติ กระหายน้ำหิวน้ำตลอดเวลา
5.มีอาการชาที่เท้า รู้สึกเจ็บที่เท้าหรือที่ปลายเท้า
6.กินเก่งหิวบ่อย แต่น้ำหนักลดลงแบบไม่มีสาเหตุ
7.เมื่อเกิดเป็นแผลที่เท้า หรือที่บริเวณอื่นๆจะหายช้ากว่าปกติ
ผนังหลอดเลือดแดงแข็ง
ทำให้เป็นความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองตีบ
อัมพาต หัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

05/12/2022

โรคเบาหวานคืออะไร ?
โรคเบาหวาน คือโรคที่เกิดจากความบกพร่องของฮอร์โมนอินซูลิน
ซึ่งผลิตจากตับอ่อน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ
อาการของโรค "เบาหวาน"
ㆍ ปัสสาวะบ่อย ทั้งกลางวันกลางคืน
ㆍ ปลายมือ ปลายเท้าชา อันเนื่องมาจากประสาทเสื่อม
ㆍ อ่อนเพลีย และน้ำหนักลด
ㆍ หิวบ่อย รับประทานเก่งขึ้น
ㆍ คันตามตัว ติดเชื้อได้ง่าย เป็นเชื้อรา ตกขาวบ่อย
ㆍ ตาพร่า เห็นกาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน
·กระหายน้ำ
สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวาน
มีหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งปัจจัยทางพันธุกรรม (genetic factor)
และปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม (environmental factor)
ㆍ กรรมพันธุ์
ㆍ น้ำหนักเกิน ความอ้วน ขาดการเคลื่อนไหว ขาดการออกกำลังกาย
ㆍ อายุที่มากขึ้น มืโอกาสเป็นเบาหวานได้มากขึ้น
ㆍ โรคของตับอ่อน เซ่น ตับอ่อนอักเสบ ได้รับการผ่าตัดตับอ่อน
ㆍ ความเครียดเรื้อรัง
ㆍ การได้รับยาบางชนิด ทำให้มีการสร้างน้ำตาลมากขึ้น หรือ
การตอบสนองของอินซูลินได้ไม่ดี
· การตั้งครรกํ เนื่องจากมีการสร้างฮอร์โมนจากรกหลายชนิด
ซึ่งมีผลยับยั้งการทำงานของอินซูลิน
โรคแทรกซ้อน
จากโรคเบาหวาน
ตา
อาจเป็นต้อกระจกก่อนวัย จอตาเสื่อม
ทำให้ตามัวลงเรื่อยๆและอาจทำให้ตาบอดในที่สุด
เท้า
ทำให้อาการชาปลายมือปลายเท้าเกิดแผลได้ง่าย และ
อาจก่อให้เกิดความพิการ
ไต
มักจะเสื่อม จนเกิดอาการไตเสื่อมเรื้อรัง,
โปรตีน (ไข่ขาว) รั่วในปัสสาว:
อาการติดเชื้อได้ง่าย
เนื่องจากภูมิต้านทานต่ำ
ภาวะคิโตซีส (Ketosis)
ผู้ป่วยมีอาการคลื่นใส้ อาเจียน กระหายน้ำมาก
หายใจหอบลึก มีใช้ กระวนกระวาย

(ปักหมุด) เบาหวานเป็นภาวะเรื้อรังของการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเกิดจากความบกพร่องของการสร้างอินซูลินจากตับอ่อน โรคเบาหวานมักจะเกี่ยวพันกับโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงหลายโรค เช่น โรคหัวใจ ภาวะหัวใจขาดเลือด โรคไต ความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจมีปัญหาต่อหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจ อาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร อย่างไรก็ตามผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถที่จะดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นได้...ปัจจุบันมีพืชสมุนไพรหลายชนิด ที่มีผลงานวิจัยจากวงการแพทย์แผนไทย ว่ามีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟูตับอ่อน ลดน้ำตาลในเลือด ลดอาการของโรคเบาหวาน ช่วยฟื้นฟูเซลล์ต่างๆในร่างกายให้กลับมาทำงานได้ดียิ่งขึ้น

(ปักหมุด) 7 อาการ สัญญาณ
เตือนโรคเบาหวาน

1.เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง
2.ตาแห้ง สายตาพล่ามัวแบบไม่มีสาเหตุ
3.ผิวแห้ง มีอาการคันผิวหนัง
4.ปัสวะบ่อยผิดปกติ กระหายน้ำหิวน้ำตลอดเวลา
5.มีอาการชาที่เท้า รู้สึกเจ็บที่เท้าหรือที่ปลายเท้า
6.กินเก่งหิวบ่อย แต่น้ำหนักลดลงแบบไม่มีสาเหตุ
7.เมื่อเกิดเป็นแผลที่เท้า หรือที่บริเวณอื่นๆจะหายช้ากว่าปกติ
ผนังหลอดเลือดแดงแข็ง
ทำให้เป็นความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองตีบ
อัมพาต หัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

02/12/2022

"RPQ ฟื้นฟูตรงจุด หยุดเบาหวาน"
"ทางเลือกใหม่สมุนไพรบำบัด"
👉วิธีใช้ : รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล เช้า - เย็น
เลขที่ : อย.50-1-18363-5-0019
ขนาดบรรจุ : 30 แคปซูล

ทาน 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือนถ้าค่าน้ำตาลต่ำลงเหลือไม่เกิน 126 จะใช้ยาแค่เดือนละ 2 กล่องเท่านั้น
(ลดปริมาณการทานเหลือครั้งละ 1 แคปซูล)

1 กล่องราคา 1,050 บาทรวมค่าจัดส่งและเก็บเงินปลายทาง
2 กล่องราคา 1,900 บาท บริการจัดส่งฟรีเก็บเงินปลายทาง (950฿/กล่อง)
3 กล่องราคา 2,700 บาท บริการจัดส่งฟรีเก็บเงินปลายทาง (900฿/กล่อง)
4 กล่องราคา 3,500 บาท บริการจัดส่งฟรีเก็บเงินปลายทาง (875฿/กล่อง)
5 กล่องแถม 1 กล่องราคา 4,750 บาท บริการจัดส่งฟรีเก็บเงินปลายทาง (791฿/กล่อง)

🚛 มีบริการเก็บเงินปลายทาง

16/11/2022

7 อาการ สัญญาณ
เตือนโรคเบาหวาน

1.เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง
2.ตาแห้ง สายตาพล่ามัวแบบไม่มีสาเหตุ
3.ผิวแห้ง มีอาการคันผิวหนัง
4.ปัสวะบ่อยผิดปกติ กระหายน้ำหิวน้ำตลอดเวลา
5.มีอาการชาที่เท้า รู้สึกเจ็บที่เท้าหรือที่ปลายเท้า
6.กินเก่งหิวบ่อย แต่น้ำหนักลดลงแบบไม่มีสาเหตุ
7.เมื่อเกิดเป็นแผลที่เท้า หรือที่บริเวณอื่นๆจะหายช้ากว่าปกติ
ผนังหลอดเลือดแดงแข็ง
ทำให้เป็นความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองตีบ
อัมพาต หัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดแดงส่วปลาย
เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

08/10/2022

#พิสูจน์แล้ว ทานแล้วเห็นผล #บอกลาความทรมาน
⬇️ น้ำตาล ⬇️ ความดัน ⬇️ ชาปลายมือเท้า
⬇️ ตาพร่ามัว ⬇️ ฉี่บ่อย ⬇️ หลับยาก

🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰🔰
✔️ เบาหวาน ความดัน
✔️ น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในเส้นเลือด
✔️ ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัย นอนหลับสนิท
✔️ สายตาพร่ามัว
✔️ บำรุงกำลัง สร้างภูมิคุ้มกัน แก้ภูมิแพ้
✔️ บำรุงสมอง
วิธีใช้ : รับประทานครั้งละ 2 แคปซูล เช้า - เย็น
เลขที่ : อย.50-1-18363-5-0019
ขนาดบรรจุ : 30 แคปซูล
🚛 มีบริการเก็บเงินปลายทาง
👉 คลิ๊กเลย เพื่อรับ 🎉 โปรโมชั่นพิเศษ
🔎 สนใจ/ 🛒 สั่งซื้อ
📱 ปรึกษาสายตรง 090-926-9264

#อาร์พีคิว #ลดน้ำตาล #ลดระดับน้ำตาลในเลือด #สมานแผล #แผลหายเร็วขึ้น #ลดการอักเสบ #ลดการตายของเซลล์ตับอ่อน #ฟื้นฟูเบต้าเซลล์

สมุนไพร RPQ No.1 For U

23/06/2023

02/02/2023

01/02/2023

30/01/2023

17/01/2023

06/01/2023

05/01/2023

15/12/2022

05/12/2022

02/12/2022

16/11/2022

08/10/2022

ที่อยู่

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ทางลัด

แชร์

ประเภท