U-Qmac ยูคิวแม็ก กรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก กรดเกินในกระเพาะอาหาร

U-Qmac ยูคิวแม็ก กรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก กรดเกินในกระเพาะอาหาร U-Qmac ยู-คิวแม็ก กรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก กรดเกินในกระเพาะอาหาร
โทร 098-263-9988 คุณปิ๊ก https://u-qmac.pikhealthy.com/

U-Qmac ยู-คิวแม็ก กรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก กรดเกินในกระเพาะอาหาร ยับยั้ง บรรเทา ติดต่อ-สอบถาม โทร. 098-263-9988 คุณปิ๊ก

มะเร็งกับแผลในกระเพาะอาหาร... อาการที่คล้ายกันเรามักคิดว่า...เราน่าจะเป็นแผลในกระเพาะอาหารมั้ง?ปวดท้องบ่อย ปวดจุกแน่นท้อ...
10/11/2024

มะเร็งกับแผลในกระเพาะอาหาร... อาการที่คล้ายกัน
เรามักคิดว่า...เราน่าจะเป็นแผลในกระเพาะอาหารมั้ง?
ปวดท้องบ่อย ปวดจุกแน่นท้อง แสบท้อง เรอเปรี้ยว
กรดไหลย้อน อาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
เป็น...ก็แค่กินยา แต่ทำไมกินยาแล้วไม่หาย
หรือเป็นๆ หายๆ เป็นบ่อย จนยกให้เป็นโรคประจำตัว

ต้นเหตุสำคัญของแผลในกระเพาะอาหาร
คือ...เจ้าเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter Pylori (H.pylori)
และ 90% ของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
มาจากการตรวจพบเจ้าเชื้อนี้ในกระเพาะอาหาร
ซึ่งกว่าจะเจอ...ก็มักเจอในระยะที่สี่
หรือระยะสุดท้ายแล้ว ที่การผ่าตัดก็เอาไม่อยู่
เพราะเราชะล่าใจ คิดว่าเป็นแค่โรคกระเพาะ

สิ่งที่จะตัดตอน...เพื่อการทำลายเจ้าเชื้อตัวนี้ให้ได้ไว
เพื่อการรักษาให้ถูกต้อง ลดความเสี่ยงของแผลในกระเพาะ
และลดโอกาสที่จะเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารโดยไม่รู้ตัว
คือการตรวจหาภาวะติดเชื้อ H.pylori ที่แฝงมาในอุจจาระ
ไม่เจอ...ก็เบาใจ เจอไว...ก็จะได้รีบไปรักษา

ใครจะไปรู้ว่า...เจ้าเชื้อ H.pylori จะร้ายแรงกว่าที่คิด
เพียงเพราะเรา “ไม่รีบ”
มะเร็งในยุคนี้ ไม่ใช่โรคของคนสูงวัยอีกต่อไปแล้วนะครับ
และเจ้าแบคทีเรียตัวนี้...มันก็ใจง่ายซะด้วย
เพราะมันอยู่กับใครก็ได้ ไม่เกี่ยงเพศและวัย!

คัดกรองมะเร็งกระเพาะอาหารง่ายๆ
ตรวจได้เองเลยที่บ้าน สนใจชุดตรวจ H.Pylori
พิมคอมเม้นเลยครับ ด้วยความห่วงใยจากผม
หมอเจด...เจตนาดี

ปรึกษาโทร. 098 263 9988 คุณปิ๊ก
#มะเร็งกระเพาะอาหาร #กรดไหลย้อน #ยูคิวแม็ก #ยูคิวแมค
#หมอเจด #มะเร็งป้องกันได้ไม่ควรเป็น
#มะเร็งรักษาได้ไม่ควรตาย
#หมอเจดสุขภาพ #สุขภาพ
#สุขภาพดี #สุขภาพดีกับหมอเจด

สัญญาณเตือน...มะเร็งกระเพาะอาหาร (Gastric cancer)มะเร็งกระเพาะอาหาร (Gastric cancer) เกิดจากการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์...
08/11/2024

สัญญาณเตือน...มะเร็งกระเพาะอาหาร (Gastric cancer)
มะเร็งกระเพาะอาหาร (Gastric cancer) เกิดจากการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหาร จึงทำให้ระบบการทำงานของกระเพาะอาหารเสียหาย นอกจากนี้มะเร็งกระเพาะอาหารยังสามารถลุกลามหรือแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้ อาทิ ลำไส้ ตับ ตับอ่อน ต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น
สาเหตุและปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
มีประวัติป่วยเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร จากการได้รับเชื้อ Helicobacter pylori (H. pylori)
เคยเป็น"โรคกรดไหลย้อน"
เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง
มีอาชีพหรือใช้ชีวิตประจำวันที่สัมผัสกับฝุ่นและสารเคมีบางชนิด
การมีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานในเพศชาย (ในเพศหญิงยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด)
มีบุคคลในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น สูบบุหรี่เป็นประจำ หรือได้รับควันบุหรี่มือสองอยู่เสมอ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินอาหารแปรรูป หมักดอง ตากเค็ม รมควันเป็นประจำ ไม่กินผักและผลไม้
อาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารที่สังเกตได้
สำหรับอาการเตือนโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร อาจแบ่งเป็นอาการในช่วงแรก เช่น
อาหารไม่ย่อย จึงรู้สึกไม่สบายท้อง
แสบร้อนบริเวณหน้าอก
ท้องอืดหลังรับประทานอาหาร
รู้สึกคลื่นไส้
เบื่ออาหาร
แต่เมื่อเป็นมากขึ้น มักมีอาการเพิ่มเติม ดังนี้
รู้สึกไม่สบายท้องบริเวณส่วนบนและส่วนกลาง
มีเลือดปนในอุจจาระ
อาเจียน หรืออาเจียนเป็นเลือด
อ่อนเพลีย และน้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
การตรวจส่องกล้องกระเพาะอาหาร มีประโยชน์มากกว่าที่คิด
เพราะโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะแรกจะไม่แสดงอาการที่เด่นชัดนัก แต่มักถูกตรวจพบด้วยการตรวจสุขภาพจากการส่องกล้องกระเพาะอาหาร (Gastroscopy) ซึ่งหากพบติ่งเนื้อหรือเนื้องอกเล็กๆ แพทย์สามารถทำการผ่าตัดขณะส่องกล้องที่เป็นเหมือนทั้งการรักษาก่อนที่ติ่งเนื้อนั้นจะลุกลามไปเป็นมะเร็งในอนาคต และตัดเพื่อนำไปตรวจว่าใช้เซลล์มะเร็งหรือไม่ เพื่อวางแผนการติดตาม หรือทำการรักษาต่อไป
วิธีการรักษาโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
ผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะลุกลามหรือแพร่กระจาย จำเป็นต้องได้รับการรักษาตามลักษณะอาการของโรค เช่น การทำเคมีบำบัด หรือการทำคีโม (Chemotherapy) การฉายรังสี (Radiotherapy) ก่อนที่จะทำการผ่าตัดรักษาตามลำดับ โดยแพทย์จะพิจารณาเลือกวิธีการรักษาและช่วงเวลาที่เหมาะสมจากผลการวินิจฉัย ทั้งอาการและระดับความรุนแรง ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ดูแลสุขภาพอย่างไร? ให้ห่างไกลมะเร็งกระเพาะอาหาร
การใส่ใจดูแลสุขภาพพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เช่น การบริหารจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารที่มีการปรุงแต่งและแปรรูป ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หากทำเช่นนี้สม่ำเสมอก็จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันดีที สุขภาพแข็งแรง ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ได้
สำหรับความเสี่ยงโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร เราควรดูแลสุขภาพเพิ่มเติมด้วยการหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายแม้เพียงเล็กน้อย เช่น อาการปวดท้อง ท้องอืด แน่นน้อง อาหารไม่ย่อย โดยไม่ปล่อยผ่าน ยิ่งหากมีอาการบ่อยๆ ควรรีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แน่ชัด
แม้ในหลายๆ ครั้ง อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการป่วยด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร แต่เป็นโรคอื่นๆ ในระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอาหาร โรคกรดไหลย้อน ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมหรือปล่อยทิ้งไว้ก็อาจกลายเป็นโรคเรื้อรัง และเป็นปัจจัยเสี่ยงในการก่อให้เกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในอนาคตได้เช่นกัน
ทั้งนี้ ไม่ว่าเราจะมีอาการใดๆ หรือไม่มีอาการเลย การตรวจสุขภาพประจำปีจะช่วยคัดกรองให้พบความเสี่ยงหรือรอยโรคต่างๆ ได้ก่อนลุกลามรุนแรง ทำให้เราสามารถวางแผนการดูแลสุขภาพไปในทิศทางที่ถูกต้อง หรือรักษาโรคได้ทันท่วงทีในกรณีมีโรคหรือภาวะใดๆ ซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้มาก

ปรึกษาโทร. 098 263 9988 คุณปิ๊ก
#ยูคิวแมค #กรดไหลย้อย #โรคกระเพาะ #มะเร็งกระเพาะอาหาร

ไม่อยากเป็นโรคกระเพาะอักเสบต้องทำยังไงนะ? โรคกระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโรคกระเพาะเป็นโรคที่...
07/11/2024

ไม่อยากเป็นโรคกระเพาะอักเสบต้องทำยังไงนะ?
โรคกระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโรคกระเพาะเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบหรือเกิดการระคายเคืองบริเวณเยื่อบุภายในกระเพาะอาหาร สามารถเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลันในระยะเวลาอันรวดเร็ว เป็นระยะสั้นๆ และหายภายในเวลา 1-2สัปดาห์ หรือมีอาการบ่อยครั้งเป็นระยะเวลานานจนเกิดอาการอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดแผลและเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้
สาเหตุของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ
การติดเชื้อแบคทีเรีย เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร หรือเรียกสั้นๆ ว่า เอช ไพโร (H.Pylori) เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหารและน้ำดื่ม
การรับประทานยาในกลุ่มต้านการอักเสบ หรือยาแก้ปวด (Non-Steroidal Anti-inflammatory Drugs หรือ NSAIDs)
การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ สุราต่างๆ
อาการของโรคที่ควรเฝ้าระวัง
อาการที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ในบางรายอาจไม่พบอาการชัดเจน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาพบแพทย์ จะมีอาการดังนี้
อาการปวดท้อง
รู้สึกไม่สบายช่องท้องส่วนบน
อาการท้องเฟ้อ อิ่มง่าย
จุกหน้าอก
แน่นท้อง
เรอบ่อย
อาหารไม่ย่อย
รู้สึกคลื่นไส้หลังการรับประทานอาหาร
ปรึกษาโทร. 098 263 9988 คุณปิ๊ก
#โรคกระเพาะ #กรดไหลย้อย #ยูคิวแมค

เจ็บแน่นหน้าอกบ่อย หายใจไม่อิ่ม ให้ระวัง 7 โรคร้ายนี้!สภาวะของอาการแน่นหน้าอก คือ ความรู้สึกอึดอัด ไม่สบาย มีอาการปวด หร...
03/11/2024

เจ็บแน่นหน้าอกบ่อย หายใจไม่อิ่ม ให้ระวัง 7 โรคร้ายนี้!
สภาวะของอาการแน่นหน้าอก คือ ความรู้สึกอึดอัด ไม่สบาย มีอาการปวด หรือเจ็บ แสบร้อนกลางอก รู้สึกถึงความดันอัดแน่น บริเวณหน้าท้องส่วนบน และบริเวณคอส่วนล่าง อาการแน่นหน้าอกนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย และอาจเป็นความเสี่ยงที่มาจากโรคร้ายต่าง ๆ ดังนี้
1. โรคหัวใจขาดเลือด
จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุข โรคหัวใจเป็นสาเหตุการตายอันดับ 2 ของโรคทั้งหมด เกิดขึ้นเนื่องจากหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบ หรือตัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจมีเลือดไปเลี้ยงลดลง หรือไม่มีเลย
มักพบในวัยกลางคน หรือ สูงอายุ ส่วนใหญ่มักจะมีอาการเมื่อออกกำลังกาย หรือทำงานหนัก เครียด อาการทุเลา เมื่อได้พัก บางรายมีอาการในขณะพัก
อาการโรคหัวใจขาดเลือด : อาการเจ็บหน้าอก เป็นความรู้สึก บีบรัด และแน่นอึดอัด ที่บริเวณหน้าอกไม่ต่ำกว่าสะดือ บางรายรู้สึกเหมือนกดทับ แสบร้อน จุกขึ้นคอ บางครั้งมีอาการปวดร้าวไปหัวไหล่ซ้าย หรือกราม 2 ครั้ง เหงื่อแตก
2. น้ำท่วมปอด
น้ำท่วมปอด หรือปอดบวมน้ำ คือ ภาวะที่มีน้ำขังอยู่ในช่องเยื่อหุ้มปอด มีได้หลายสาเหตุที่พบบ่อย น้ำท่วมปอด แม้ไม่ใช่โรค แต่ก็มีความเกี่ยวพันกับโรคอื่น ๆ ได้ เช่น หัวใจขาดเลือด หัวใจวาย รวมถึงโรคไต
อาการน้ำท่วมปอด : หายใจหอบเหนื่อย โดยเฉพาะเวลานอนที่หอบเหนื่อยกว่าปกติ ไอ หายใจไม่อิ่ม บวมตามแขนขา
3. โรคกรดไหลย้อน
โรคกรดไหลย้อน พบได้ตั้งแต่เด็กทารกไปจนถึงผู้ใหญ่ เป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก หรืออาการขย้อน จนรบกวนชีวิตประจำวัน
อาการโรคกรดไหลย้อน : แสบร้อนบริเวณหน้าอก มีน้ำรสเปรี้ยว หรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาในปาก เจ็บแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม โดยที่ไม่มีปัญหาโรคหัวใจ นอกจากนี้ ยังพบว่า โรคกรดไหลย้อนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง และโรคหอบหืด
4. โรคหอบหืด
โรคหอบหืด เกิดจากหลอดลมตีบแคบลง จากการโดนกระตุ้นด้วยฝุ่น เกสรดอกไม้ อากาศเย็น ออกกำลังกายหนัก จึงทำให้หายใจไม่อิ่ม หายใจมีเสียงวี้ด
อาการโรคหอบหืด : มีอาการไอ มีเสมหะ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม หายใจมีเสียงหวีด และเหนื่อยหอบ โดยอาการจะเป็น ๆ หาย ๆ ส่วนใหญ่เป็นช่วงกลางคืนหรือเช้ามืด และหลังจากสัมผัสปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ
5. โรคถุงลมโป่งพอง
โรคถุงลมโป่งพอง หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง สาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพองก็คือ การที่เราสูดสารที่เป็นพิษ อาจจะอยู่ในรูปของฝุ่นควันที่มีอานุภาพเล็ก ๆ หรือแก๊ส หรือสารเคมีเข้าไปยังปอด นอกจากนั้นสาเหตุที่เรารู้กันดี คือ การสูบบุหรี่ ยิ่งสูบนานสูบมากก็จะมีโอกาสที่จะเป็นมากขึ้น
อาการโรคถุงลมโป่งพอง : หายใจลำบาก หอบ เหนื่อย หายใจมีเสียงวี๊ด หรือเจ็บหน้าอกร่วมด้วย ไอเรื้อรัง มีเสมหะ
6. โรคแพนิค
โรคแพนิค หรือ โรคตื่นตระหนก เป็นโรควิตกกังวลประเภทหนึ่งที่เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ โดยระบบประสาทนี้เป็นระบบที่ควบคุมการทำงานของร่างกายหลายส่วน จึงทำให้เกิดอาการหลายอย่างร่วมกัน
อาการโรคแพนิค : ใจสั่น แน่นหน้าอก หายใจหอบ หายใจถี่ หวาดกลัว รู้สึกกลัวไปหมดทุกอย่าง มือสั่น เท้าสั่น ตัวชา ควบคุมตัวเองไม่ได้
7. โรคหลอดลมอักเสบ
โรคหลอดลมอักเสบ เป็นอีกหนึ่งโรคที่เป็นได้ง่ายมาก เพราะว่าสาเหตุส่วนใหญ่มักจะมากจากชีวิตประจำวันของเราทั้งนั้น เป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากการติดเชื้อที่หลอดลม เช่น เชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เยื่อบุหลอดลมเกิดการอักเสบบวม
อาการโรคหลอดลมอักเสบ : หายใจลำบาก เจ็บแน่นหน้าอกบ่อย ไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ เจ็บคอ แสบคอ
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?
อาการแน่นหน้าอกบ่อย เป็นอาการที่ควรรีบเข้าพบแพทย์ โดยเฉพาะหากคุณมีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย หรือเมื่อมีอาการแน่น หรือเจ็บหน้าอกขึ้นมา แม้จะนั่งพักสักครู่หนึ่ง หรือปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้น ควรไปพบคุณหมอทันที
หรือปรึกษาโทร. 098 263 9988 คุณปิ๊ก

โรคนอนไม่หลับ จากภาวะความเครียดโรคนอนไม่หลับ (insomnia) เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยทั้งจากพฤติกรรมการนอนที่ไม่เหมาะสม ความเ...
02/11/2024

โรคนอนไม่หลับ จากภาวะความเครียด
โรคนอนไม่หลับ (insomnia) เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยทั้งจากพฤติกรรมการนอนที่ไม่เหมาะสม ความเครียด หรือโรคซึมเศร้า เป็นต้น อาการของโรคแม้จะไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แต่ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยการปรับพฤติกรรมการนอนใหม่ ในบางรายอาจต้องใช้การทานยาร่วมด้วยขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดโรค
สาเหตุและความเสี่ยงเป็นโรคนอนไม่หลับ
โรคนี้เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยทั้งปัจจัยที่ควบคุมได้ และปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนี้
ปัจจัยด้านร่างกาย มีอาการป่วยที่มีส่วนทำให้เกิดโรค เช่น โรคขาอยู่ไม่สุข "โรคกรดไหลย้อน" ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคขากระตุกขณะหลับ นอกจากนี้ยังเกิดจากสภาวะของร่างกายตามอายุ เช่น การหมดประจำเดือน รวมไปถึงอาการเหนื่อยล้าจากการทำงาน เป็นต้น
ปัจจัยด้านจิตใจ สภาวะความเครียดทำให้เกิดความกังวล หมดกำลังใจ อาการเหล่านี้มีผลทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ หรืออาจเกิดจากโรคที่มีผลโดยตรงกับความรู้สึก เช่น โรคไบโพลาร์ หรือโรคซึมเศร้า เป็นต้น
ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม จากห้องที่มีความสว่างหรือมีเสียงดังรบกวนเกินไป อาจเกิดจากพื้นที่นอนที่ไม่พอดี และความรู้สึกของการนอนต่างพื้นที่ทำให้ไม่คุ้นเคย
ปัจจัยด้านอื่น ๆ เช่น ผลข้างเคียงจากใช้ยาบางชนิด การออกกำลังกายมากเกินไป การดื่มหรือทานอาหารที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน
อาการของโรคนอนไม่หลับ
อาการทางด้านร่างกาย นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท มีอาการอ่อนเพลีย และง่วงนอนในเวลากลางวัน
อาการทางด้านอารมณ์ ไม่ค่อยมีสมาธิ อารมณ์หงุดหงิดง่าย และมีความกังวลเกี่ยวกับการนอนหลับ
#โรคนอนไม่หลับ #โรคกรดไหลย้อน #ยูคิวแมค
หรือปรึกษาโทร. 098 263 9988 คุณปิ๊ก

กรดไหลย้อน อาการหนักเป็นสัญญาณเตือนโรคใดกรดไหลย้อน (GERD) เกิดจากกรดและสารคัดหลั่งในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหา...
31/10/2024

กรดไหลย้อน อาการหนักเป็นสัญญาณเตือนโรคใด
กรดไหลย้อน (GERD) เกิดจากกรดและสารคัดหลั่งในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร เนื่องจากหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัวกว่าปกติ ทำให้เกิดการระคายเคืองในหลอดอาหาร

อาการที่พบบ่อย
แสบร้อนบริเวณกลางหน้าอก มักเป็นหลังกินอาหาร โดยเฉพาะมื้อใหญ่ๆ
และพบบ่อยช่วงกลางคืน เจ็บแน่นหน้าอก กลืนลำบาก หรือ จุกคอ
รู้สึกมีอาหาร หรือ กรดเปรี้ยวไหลย้อนขึ้นมาในลำคอ
ภาวะที่ทำให้กรดไหลย้อนเป็นมากขึ้น
น้ำหนักเกิน หรือ ภาวะอ้วน เกิดจากแรงดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น
ระหว่างตั้งครรภ์ กระเพาะอาหารเคลื่อนตัวช้าผิดปกติ
โรคบางอย่าง เช่น scleroderma ทำให้การบีบตัวของหลอดอาหารน้อยลง
ปัจจัยที่กระตุ้นภาวะกรดไหลย้อน
สูบบุหรี่ แอลกอฮอล์
กินอาหารมื้อใหญ่ หรือ กินตอนกลางคืน
ชา กาแฟ อาหารทอด อาหารมัน
ยาบางอย่าง เช่น aspirin, calcium channel blocker, antihistamine, ยานอนหลับ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากกระตุ้นภาวะกรดไหลย้อน
อาหารมัน และ อาหารรสจัด
ชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
Chocolate, peppermint

ภาวะแทรกซ้อน
หลอดอาหารอักเสบ (Esophagitis)
หลอดอาหารตีบ (Esophageal stricture) เกิดจากการอักเสบเป็นเวลานาน ทำให้มีอาการกลืนลำบาก
Barrett’s esophagus เกิดจากเซลล์เยื่อบุในหลอดอาหารมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารในอนาคต
ปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ เช่น เสียงแหบ หอบหืด กล่องเสียงอักเสบ ปอดบวม
การวินิจฉัย
EGD โดยการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารส่วนต้นและอาจพิจารณาตัดชิ้นเนื้อมาตรวจถ้ามีสิ่งผิดปกติ
Upper GI series โดยการเอ็กซเรย์ดูความผิดปกติของหลอดอาหาร
Esophageal manometry ดูการเคลื่อนไหวของหลอดอาหาร และวัดการบีบตัวของหูรูดหลอดอาหารส่วนปลาย
Esophageal pH and impedance monitoring เป็นการวัดระดับความเป็นกรดในหลอดอาหารในช่วงระหว่างทานอาหาร หรือ ตอนนอน
Bravo wireless esophageal pH monitoring โดยการติดแคปซูลขนาดเล็กไว้ที่หลอดอาหาร และวัดค่าความเป็นกรดในระยะเวลา 48 ชม

การรักษา
รักษาโดยการใช้ยา
ยาลดกรด (PPI) เป็นยาหลักที่ใช้ในการรักษา โดยไปลดกรดในกระเพาะอาหาร
H2 Blockers เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลดกรดในกระเพาะอาหาร และช่วยเสริมฤทธิ์ของยา PPI
ยาน้ำลดกรด โดยไป Neutralized กรดในกระเพาะ แต่อาจทำให้เกิดท้องผูก หรือ ท้องเสียได้ในผู้ป่วยบางราย
Prokinetics กระตุ้นการบีบตัวของหลอดอาหารให้เคลื่อนไปข้างหน้า
Erythromycin เป็นยาอีกตัว ที่ช่วยให้การบีบตัวของหลอดอาหารดีขึ้น
รักษาโดยการผ่าตัด พิจารณาทำเมื่อ Lifestyle modification และใช้ยาไม่ดีขึ้น

การป้องกัน โดยการ Lifestyle modifications
ทานแต่พอดี หลีกเลี่ยงอาหารมื้อใหญ่
งดทาน 2-3 ชม ก่อนนอน
งดบุหรี่ ชา กาแฟ แอลกอฮอล์
ลดน้ำหนัก นอนหัวสูง พยายามใส่เสื้อผ้าหลวมสบาย ไม่รัดแน่นบริเวณท้อง

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
นพ. ธนชัย ปัญจชัยพรพล
อายุรแพทย์ทางเดินอาหารและตับ
โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต

29/10/2024

📍 ULTIMATE PRODUCT E-Catalogue 2024
อัพเดทผลิตภัณฑ์กว่า 40 รายการ ทั้งภาษาไทย
และภาษาอังกฤษ ให้กับสมาชิกเรียบร้อยแล้ว
สะดวก แค่มีมือถือก็แนะนำผลิตภัณฑ์และสั่งซื้อได้เองได้ทันที

สามารถดูรายละเอียดได้ที่เมนูของ
ทั้ง 2 LINE OA
📱
📱
สนใจสอบถามโทร. 098 263 9988 คุณปิ๊ก
💙

29/10/2024

กรดไหลย้อน เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หรือเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม พฤติกรรมในการดำเนินชีวิต เช่น การรับประทานเสร็จแล้วนอนทันที การรับประทานของมันๆ มากเกินไป ภาวะความเครียด โดยผู้ที่มีความเครียดมักมีภาวะหลอดอาหารที่มีความไวเกินต่อสิ่งกระตุ้น หลอดอาหารอ่อนไหวต่อกรด เมื่อมีกรดไหลย้อนขึ้นมาแม้เพียงเล็กน้อย จะมีอาการแสดง

ปรึกษาโทร. 098 263 9988 คุณปิ๊ก

28/10/2024

กรดไหลย้อน ห้ามกินขิง เพราะถ้ากินในปริมาณมากจะทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิม เนื่องจากขิงมีฤทธิ์ร้อนจึงไปกระตุ้นนั่นเอง แต่สามารถดื่มน้ำขิงอุ่นๆ ได้ เพียงจิบเล็กน้อยก็จะช่วยให้สบายท้องขึ้น
กรดไหล ย้อน ห้ามกินกาแฟ เพราะจะทำให้ควบคุมอาหารของโรคได้ยาก มีอาการกรดไหลย้อนที่รุนแรงกว่าเดิม ดังนั้นควรเลี่ยงอย่างเด็ดขาด

กรดไหลย้อนขึ้นคอ ต่างจากกรดไหลย้อนปกติอย่างไร รักษาได้ไหม“กรดไหลย้อนขึ้นคอ” (Laryngopharyngeal Reflux : LPR) เป็นอีกปัญห...
27/10/2024

กรดไหลย้อนขึ้นคอ ต่างจากกรดไหลย้อนปกติอย่างไร รักษาได้ไหม
“กรดไหลย้อนขึ้นคอ” (Laryngopharyngeal Reflux : LPR) เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่กวนใจคนในยุคนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนเมืองวัยทำงานที่ใช้ชีวิตบนความกดดัน เร่งรีบ ไม่ใส่ใจพฤติกรรมการกิน จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะกรดไหลย้อนขึ้นคอได้ บางคนอาจสงสัยว่าแล้วมันต่างจากกรดไหลย้อนทั่วไปอย่างไร อันตรายกว่ากันหรือไม่ หาคำตอบของทุกคำถามได้จากบทความนี้เลยค่ะ

กรดไหลย้อนขึ้นคอ
เมื่อเราเคี้ยวอาหารและกลืนลงคอไปแล้ว อาหารจะเดินทางผ่านหลอดอาหารไปสู่กระเพาะอาหาร โดยที่ปลายสุดของหลอดอาหารจะมีหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างอยู่ ทำหน้าที่เปิดให้อาหารเคลื่อนผ่านไปที่กระเพาะอาหาร และปิดเพื่อไม่ให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับมา

เมื่อหูรูดส่วนนี้ปิดไม่สนิทหรือทำงานผิดปกติ จะทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาสู่หลอดอาหารและลำคอ ซึ่งอาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณหลอดอาหาร คอ และกล่องเสียงได้รับความเสียหายได้

กรดไหลย้อนขึ้นคอนั้นเป็นปัญหาปกติสำหรับทารก เนื่องจากทารกนั้นมีหลอดอาหารสั้นและกล้ามเนื้อหูรูดยังพัฒนาไม่เต็มที่ ประกอบกับทารกนอนเกือบตลอดเวลา จึงเสี่ยงต่อภาวะกรดไหลย้อนขึ้นคอได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่

อาการกรดไหลย้อนขึ้นคอ
สำหรับอาการของภาวะกรดไหลย้อนขึ้นคอนั้นจะทำให้รู้สึกระคายเคืองบริเวณคอ รวมถึงอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติได้อีกหลายประการ โดยอาการของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น

● แสบร้อนบริเวณคอ
● รู้สึกเหมือนมีก้อนอยู่ที่คอ
● กลืนลำบาก
● เสียงแหบ
● มีเสมหะ
● กล่องเสียงอักเสบ บวม แดง ระคายเคือง
● ไอเรื้อรัง

นอกจากนี้ หากใครเป็นกรดไหลย้อนขึ้นคอแล้วปล่อยไว้ไม่รักษา ภาวะนี้อาจส่งผลกระทบต่อปอด รวมทั้งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้อีกหลายชนิด เช่น มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกล่องเสียง เป็นต้น

กรดไหลย้อนขึ้นคอ ต่างจากกรดไหลย้อนอย่างไร?
กรดไหลย้อนกับกรดไหลย้อนขึ้นคอนั้นมีอาการคล้ายกัน กล่าวคือ

ภาวะกรดไหลย้อน คือ การที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร
หากกรดไหลย้อนขึ้นมาถึงลำคอหรือกล่องเสียง ก็จะเรียกว่า ภาวะกรดไหลย้อนขึ้นคอ
ซึ่งกรดไหลย้อนทั้ง 2 ชนิดนี้อาจเกิดขึ้นพร้อมกันได้อีกด้วย

นอกจากนี้ กรดไหลย้อนขึ้นคอมีอีกชื่อหนึ่งว่า “กรดไหลย้อนเงียบ (Silent Reflux)” สาเหตุเพราะผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการเด่นของกรดไหลย้อนอย่างแสบร้อนกลางอก ทำให้วินิจฉัยได้ยาก

กรดไหลย้อนขึ้นคอป้องกันได้ไหม?
แม้ในปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีป้องกันโรคกรดไหลย้อนขึ้นคอได้แบบร้อยเปอเซ็นต์ แต่เราสามารถปรับนิสัยการกินและพฤติกรรมบางอย่าง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดกรดไหลย้อนขึ้นคอได้ ตัวอย่างเช่น

● ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
● ไม่ทานอาหารก่อนนอน ควรทานเสร็จอย่างน้อย 2 ชั่วโมงค่อยเข้านอน
● หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด อาหารมัน และอาหารที่มีกรดสูง
● หลีกเลี่ยงการทานช็อกโกแลต รวมถึงมินต์ และอาหารที่มีรสมินต์
● หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา โซดา เป็นต้น
● ลดความเครียด พยายามอย่าเครียดเกินไป
● ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป
● งดดื่มแอลกอฮอล์
● เลิกสูบบุหรี่

ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารนั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากเราไม่ระวังหรือไม่ใส่ใจพฤติกรรมการกินของตัวเอง นอกจากจะเกิดขึ้นได้ง่ายแล้ว กรดไหลย้อนยังอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่างมะเร็งได้อีกด้วย ดังนั้นอย่าลืมนำคำแนะนำจากบทความนี้ไปปรับใช้ เพื่อให้เรามีสุขภาพดี ทานอาหารอร่อย ห่างไกลโรคร้ายกันนะคะ

ปรึกษาโทร. 098 263 9988 คุณปิ๊ก
#ยูคิวแม็ก #กรดไหลย้อนเรื้อรัง

กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) เป็นภาวะที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหาร ซึ่งเกิดจาก...
26/10/2024

กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) เป็นภาวะที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปยังหลอดอาหาร ซึ่งเกิดจากกรดในกระเพาะอาหาร จนทำให้เกิดอาการที่รบกวนต่อการชีวิตประจำวัน และเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ เช่น การอักเสบของหลอดอาหาร
โรคกรดไหลย้อนเป็นภัยเงียบที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยสาเหตุหลักๆ ของโรคนี้ก็มาจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของเรานั่นเอง โดยจะทำให้มีอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ ลามขึ้นมาบริเวณหน้าอกหรือลำคอ หลังจากทานอาหารมื้อหนัก และมีอาการเรอมีกลิ่นเปรี้ยว
สาเหตุของโรคกรดไหลย้อน
หลอดอาหารส่วนปลายคลายตัวโดยที่ยังไม่กลืนอาหาร
ความดันจากหูรูดของหลอดอาหารส่วนปลายลดลงต่ำกว่าปกติ หรือเกิดการเลื่อนของกระเพาะอาหารเข้าไปในหลอดอาหาร
ความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหาร หรือหลอดอาหาร ทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าปกติ
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หรือเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม
พฤติกรรมในการดำเนินชีวิต เช่น การรับประทานเสร็จแล้วนอนทันที การรับประทานของมันๆ มากเกินไป
ภาวะความเครียด โดยผู้ที่มีความเครียดมักมีภาวะหลอดอาหารที่มีความไวเกินต่อสิ่งกระตุ้น หลอดอาหารอ่อนไหวต่อกรด เมื่อมีกรดไหลย้อนขึ้นมาแม้เพียงเล็กน้อย จะมีอาการแสดงทันที
ปัจจัยอื่นๆ เช่น โรคอ้วน การตั้งครรภ์ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม การรับประทานยาบางชนิด เป็นต้น
“รับประทานแล้วนอน” ระวังกรดไหลย้อนมาเยือน
หนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคกรดไหลย้อน ก็คือ พฤติกรรม “รับประทานแล้วนอน” ซึ่งการนอนจะทำให้หูรูดมีการทำงานที่ไม่ดี เกิดอาการกรดไหลย้อนขึ้นไปได้ รวมไปถึงท่านอนราบยังทำให้กรดไหลย้อนขึ้นไปได้ง่ายกว่าปกติ นอกจากนี้แล้ว การรับประทานอาหารและนอนทันที ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกรดไหลย้อนถึง 2 เท่า
หรือปรึกษาโทร. 098 263 9988 คุณปิ๊ก

ที่อยู่

5 อาคารสวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร
Bangkok
10900

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ U-Qmac ยูคิวแม็ก กรดไหลย้อน แสบร้อนกลางอก กรดเกินในกระเพาะอาหารผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์