Charlie TCM Clinic -ชาร์ลีคลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาแพทย์แผนจีน

Charlie TCM Clinic -ชาร์ลีคลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาแพทย์แผนจีน *คลินิกปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากคุณหมอไปเรียนต่อ ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ*

19/06/2023
05/02/2023
18/11/2022

🏠ช่วงคำถามจากทางบ้าน
Q: 👉🏻คุณหมอคะช่วงนี้โควิดกลับมาระบาดหนักอีกรอบ และคนติดเยอะมากด้วย คุณหมอช่วยแนะนำวิธีป้องกันและดูแลร่างกายง่ายได้ผลดีอย่างไรได้บ้างคะ

A:🗣️สำหรับวิธีการดูแลตัวเองตามหลักศาสตร์การแพทย์แผนจีน มีวิธีที่ง่ายมีประสิทธิภาพและใช้ได้ผลจริง มีวิธีการดังนี้ครับ

✅การป้องกันและการดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนหลังวิกฤตโควิด 19 ด้วยหลัก 5 อ

🦠โรคโควิด 19 ในมุมมองการแพทย์แผนจีนจัดเป็นกลุ่มโรคประเภทอี๋ปิ้ง คือเป็นโรคติดต่อ มักเกิดขึ้นในช่วงของการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล และในปีที่มีสภาพอากาศที่แปรปรวณ อาการแสดงของโรคมักมีอาการแสดงค่อนข้างรุนแรง ติดต่อได้ง่ายระหว่สงคนสู่คนได้อย่างรวดเร็ว

☯️ในมุมมองทางการแพทย์แผนจีน โควิดจึงมีความสำพันธ์กับการกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล รวมถึงความสามารถของภูมิต้านทานโรคของมนุษย์

👨🏻‍⚕️👩‍⚕️🧑‍⚕️เครือข่ายแพทย์จีน The oriental tcm จึงขอแนะนำการป้องกันและดูแลสุขภาพ ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีนด้วยหลัก 5 อ ดังนี้

✅อ.1 อากาศ ☂️☔️
✅อ.2 อาหาร 🌽
✅อ.3 อ่อนโยน 🌸
✅อ.4 ออกกำลังกาย 💪
✅อ.5 อารมณ์ 🥰

อ.1. อากาศ คือการป้องกันตัวเองจากสภาวะอากาศ ให้เหมาะสมตามฤดูกาล
⛄️🌨️ในฤดูหนาวควรอบอุ่นร่างกายควรใส่เสื้อผ้าที่สามารถต้านทานลมเย็นได้ รักษาพลังงานหยางไม่ทานอาหารเย็น อาหารที่ยากต่อการย่อยเพราะอาจส่งผลให้พลังของม้ามกระเพาะพร่องทำให้พลังหยางของไตพร่อง มีผลทำให้ ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง ทำให้ร่างกายไม่สามารถต้านทานโรคในฤดูหนาวได้
🔥🥵ในฤดูร้อนควรรักษาร่างกายไม่ให้ร้อนจนเกินไป เลือกสวมเสื้อผ้าไม่หนาและบางจนเกินไป เลือกทานอาหารที่ไม่เผ็ดร้อนมาก เลือกทานอาหารบำรุงอินเป็นหลัก เพื่อให้ร่างกายสามารถต้านทานโรคในฤดูร้อนได้

อ.2 อาหาร🌽🥜🌰🍗 คือการทานอาหารให้เหมาะสมกินร้อนช้อนกลาง ทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะไม่มากจนเกินไปไม่น้อยเกินไป และไม่ทานอาหารรสชาติจำเจ เช่นทานหวานอยู่บ่อยๆ หรือทานเค็มอยู่บ่อยๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลทำลายสุขภาพทั้งสิ้น
อ.3 อ่อนโยน 🌸❤️🥰คือการอ่อนโยนกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ไม่ทำงานหักโหมจนเกินไป รู้จักแบ่งเวลามีช่วงของการทำงาน มีช่วงของการพักผ่อน มีช่วงของการนอนหลับที่เหมาะสม จะช่วยให้ผู้นั้นมีร่างกายที่แข็งแรงและไม่เจ็บป่วย
อ.4 ออกกำลังกาย 💪ออกกำลังกายคือการเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆช่วยให้เลือดและพลังลมปราณในร่างกายเกิดการหมุนเวียน ส่งเสริมให้ร่างกายนั้นมีภูมิต้านทานโรค
อ. 5 อารมณ์ 😍🥰😊อารมณ์มีผลอย่างมากกับสุขภาพร่างกายพื้นฐานอารมณ์ที่ดีส่งผลให้ร่างกายดีเช่นกันพยายามทำจิตใจ ให้สงบละเว้นกิเลส โลภ โกรธ หลง เมื่อจิตใจสงบ ส่งผลให้ลมปราณไหลเวียนคล่องไม่ติดขัดอยู่มลภาวะสมดุลไม่ค่อยเจ็บป่วย

ด้วยความปราถนาดีจาก
เครือข่ายแพทย์จีน The oriental tcm

12/11/2022

📣📣คำถามจากทางบ้าน คุณหมอคะพี่เห็นเห็นคุณป้าตัวเองเป็น Stroke แล้วพี่เองไม่อยากเป็นโรคนี้เลย คุณหมอโรคนี้มันมีวิธีป้องกันมั้ยคะ?🇨🇳🇨🇳

ตอบ✅ Stroke หรือ โรคหลอดเลือดในสมองนั้นถึงแม้จะรุนแรงแต่ก็มีวิธีป้องกันและเป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องรู้ ทั้งการกินของเราและพฤติกรรมด้วย วันนี้หมอจะมาแชร์เทคนิคง่ายๆในการ

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างจากโรคหลอดเลือดสมองด้วย 8 สิ่งนี้

1. เสริมกรดโฟลิค🍀
รีวิวที่ตีพิมพ์ใน The Lancet-Nutrition ชี้ให้เห็นว่าการเสริมกรดโฟลิคที่เหมาะสมสามารถลดระดับ HCY (Homocysteine) และลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราสามารถเลือกรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกเป็นส่วนประกอบ ดังเช่น
1. ผัก
:ฟักทอง, แครอท, มะเขือเทศ, ผักโขม, กะหล่ำปลี ฯลฯ 🎃🥕🍅🥬
2.ผลไม้
:สตอเบอรี่,องุ่น,ส้ม,กล้วย,มะละกอ,แคนตาลูป ฯลฯ🍓🍌🍊🫐
3 .โฟลิคจากสัตว์
:ตับหมู, เนื้อวัว, เนื้อแกะ, ไก่, ไข่ ฯลฯ
🐮🐑🍗🍳
4.ตระกูลถั่ว
:ถั่วเหลือง,ถั่วแดง,ถั่วลิสง,ถั่วดำ,ถั่วเฮเซลนัท, วอลนัท, มะคาชิ, อัลมอนด์, ไพน์ ฯลฯ
🥜🫘🌰
5.เมล็ดข้าว
:ข้าวบาร์เลย์ ข้าวกล้อง
🍚🌽🍙🌾

2. ฝึกรับประทานพริกไทย🌶️
เพราะในพริกไทยมีแคปไซซิน(Capsaicin)ซึ่งเป็นสารที่มีช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย อวัยวะ และเสริมสร้างการทํางานของหลอดเลือดแดงและเส้นเลือดฝอย ทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานได้ปกติไม่ติดขัด ลดอัตราเสี่ยงต่อภาวะเส้นเลือดอุดตันตำแหน่งต่างๆได้

3. ดื่มน้ําให้มากๆ 🚰
มากแค่ไหนถึงจะพอดี?�ร่างกายของแต่ละคนต้องการน้ำในปริมาณที่แตกต่างกัน คำนวณได้โดยใช้สูตร น้ำหนัก x 2.2 x 30/2 = ปริมาณน้ำ(มล.)
เช่น น้ำหนักตัว 55 x 2.2 x 30/2 = 1,815 มล.คือปริมาณที่ควรดื่มต่อวัน
ถ้าหากดื่มน้ำได้น้อยกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการก็จะส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดทำงานได้ไม่ดี ทำให้ร่างกายขับของเสียได้ยาก และเมื่อเลือดไหลเวียนไม่สะดวกก็ส่งผลให้เกิดลิ่มเลือด เลือดข้น อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆอีกด้วย

4 . ดื่มชาเขียว🍵
ชาเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอลซึ่งช่วยขยายหลอดเลือดแดงและปรับการไหลเวียนโลหิต และยังมีธาตุซีลีเนียมซึ่งช่วยย่อยอาหาร ลดไขมัน ลดน้ําหนัก ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแดงตีบและลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
การดื่มชาเขียวให้ได้วันละ 1-2 แก้ว ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้เราห่างไกลจากโรคหลอดเลือดสมองได้ค่ะ
แต่ในชาเขียวมีคาเฟอีนที่อาจส่งผลทำให้นอนไม่หลับ เราอาจจะเลือกเวลาที่ดื่มเป็นตอนเช้า ช่วยให้กระปรี้กระเปร่าพร้อมเริ่มวันทำงานด้วยความสดใส ห่างไกลโรค และอีกหนึ่งข้อควรระวังชาเขียวเป็นแหล่งหลักของ oxalates ซึ่งอาจทําให้เกิดนิ่วในไตได้ เพราะฉะนั้นควรทานในปริมาณที่เหมาะสมคือไม่เกินวันละ 1-2 แก้วต่อวันนะคะ

5. ดื่มน้ําผึ้งและขิง 🐝
น้ำผึ้งและขิงเป็นส่วนผสมในครัวทั่วไปซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ป้องกันหลอดเลือดอุดตันลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง แถมยังช่วยในเรื่องความสวยความงามด้วยนะคะ เพราะทั้งน้ำผึ้งและขิงล้วนมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ฝ้ากระตามร่างกายจางลงได้ด้วย
มีสูตรความอร่อยง่ายๆมาฝากด้วยค่ะ
ฝานขิงเป็นแผ่นบางๆ แช่ในน้ำปริมาณ 200-300 มล.ประมาณ 5-10 นาที แล้วเติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา- 1 ช้อนโต๊ะ (แล้วแต่ชอบ) คนให้เข้ากันแล้วดื่มได้เลยค่า

6.กระเทียมดิบ 🧄
กระเทียมน่าจะถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในหลายเมนูอาหาร เพราะฉะนั้นการทานกระเทียมให้ได้ 3 กลีบต่อวันน่าจะเป็นเรื่องที่ทำกันได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ส่วนคนที่ไม่ทานกระเทียมเลย อยากให้ลองเปิดใจให้น้องดูนะคะ เพราะน้องมีสารสกัดอัลลิซินที่ช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ลดความดันโลหิต และลดความเสี่ยงของหลอดเลือดแดงตีบได้ดีมากๆเลยค่า

7. ออกกําลังกาย 🏃‍♀️🏃🏃‍♂️
การออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างความแข็งแรงให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ตั้งแต่หัวใจ กล้ามเนื้อ ปอด การไหลเวียนของเลือด รวมไปถึงอวัยวะอื่น ๆ ด้วย
ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนักหรือท่ายากอะไร เพียงแค่การวิ่ง เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ตามระยะเวลาที่เหมาะสม คือ 20-30 นาที อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์อย่างสม่ำเสมอเพียงเท่านั้น นอกจากจะช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองแล้วยังช่วยให้ร่างกายส่วนอื่นๆแข็งแรงตามไปด้วย

8. นวด 💆‍♀️💆‍♂️💆
การนวดกดจุดบริเวณต่างๆด้วยตนเองช่วยส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต และยังช่วยปรับสมดุลร่างกายในด้านอื่นๆอีกด้วย ทางเพจจะมีการแนะนำจุดลมปราณต่างๆที่เราสามารถนวดกดจุดได้เองเรื่อยๆ รอติดตามกันนะคะ รอบนี้จะเสนอวิธีง่ายๆคือการหวีผมให้นานขึ้น โดยหวีจากข้างหน้าไปข้างหลังตรงกึ่งกลางศีรษะ และหวีตามแนวโค้งของใบหูทั้ง 2 ข้าง หวีอย่างน้อย 100 ครั้งขึ้นไป ก็เป็นวิธีง่ายๆที่จะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนเลือดบนศีรษะของเราได้ค่ะ

คำแนะนำเพิ่มเติม อาหารทุกประเภทควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ และทานอาหารให้ครบ5หมู่ หากไม่มั่นใจในการเลือกทานอาหารว่าเหมาะสมกับร่างกายของตนเองหรือไม่ สามารถทักมาปรึกษากับทางเพจได้ตลอด ด้วยความปรารถนาดี จากเครือข่ายแพทย์ดิ ออเรียลทอล ทีซีเอ็ม 🙏

10/11/2022

เคล็ดลับการรับประทานอาหารเพื่อความแข็งแรงของร่างกายตามหลักแพทย์จีน

หมอคิดว่าหลายคนคงไม่เคยทราบถึงประโยชน์ของความหิว วันนี้เราจะมาทราบถึงที่มาและประโยชน์ที่แท้จริงกันครับกินอย่างไรให้ไกลโรค

กับหัวข้อ
“8โรคร้าย รักษาได้ด้วยความหิว”

“饿,是一种养生法,还能助长寿!富养精神,穷养身体”
(ความหิวเป็นวิธีการดูแลสุขภาพ ช่วยให้มีจิตใจ ร่างกายและอายุที่ยืนยาว)

มุมมองทางการแพทย์แผนจีนเกี่ยวกับความหิว
ในคัมภีร์หวงตี้เน่ยจิง 巜黄帝内经》ได้มีคำกล่าวบอกคนรุ่นหลังว่า
“如要获得健康长寿,必须做到“食饮有节”;在“内经”全书中以有详细的说明,五味过度损五脏,烟酒其性猛烈,易耗散维持生命的元气”
(หากต้องการมีสุขภาพดีและมีอายุยืนยาว จะต้องมีการทานอาหารที่เหมาะสม และมีการกล่าวถึงอาหาร5รสชาติที่ทำลายอวัยวะภายในทั้ง5 รวมถึงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์และการมีเพศสัมพันธ์ที่มากเกินไป จะมีผลต่อการกระจายพลังชีวิตทำให้ร่างกายอ่อนแอ) ซึ่งการแพทย์สมัยใหม่ได้พิสูจน์แล้วว่า การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปสามารถทําให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะต่างๆในร่างกายและทําให้เกิดโรคที่ยากต่อการรักษามากกว่า 180 ชนิด

แพทย์จีนโบราณกล่าวไว้ว่า “少吃一点,吃到七分饱就可以了,这确实是健康身体的前提之一”
(กินให้น้อยลง ให้อิ่ม70%ต่อมื้อ ถือเป็นตัวบ่งชี้ถึงการมีสุขภาพแข็งแรงอย่างนึง) กินอิ่ม70%ต่อมื้อคือ กินอาหารอย่างพอเหมาะ โดยที่มีความรู้สึกว่ายังไม่อิ่ม แต่ความกระตือรือร้นในความหิวก็ไม่ได้เยอะเกินไป ทานต่อก็ได้หรือไม่ทานก็ได้

การรับประทานอาหารที่มากเกินไปไม่เพียงแต่จะทําให้ระบบย่อยอาหารมีผลกระทบในระยะยาว ยังนำไปสู่ความเสื่อมความชราก่อนวัยอันควร การทํางานของภูมิคุ้มกันลดลง และเกิดภาวะเสี่ยง 8 โรคได้แก่

1.โรคหัวใจ - เมื่อเราทานอาหารในจำนวนมาก ระบบย่อยอาหารจะใช้พลังงานมาก ส่งผลให้หัวใจทำงานหนัก
ทางแพทย์แผนจีนมองโรคหัวใจว่า ต้นกำเนิดเกิดจากเลือดและชี่ที่ไม่คงที่หรือไหลเวียนไม่ดี แล้วทำให้เกิดโรคหัวใจ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากอารมณ์ที่ไม่คงที่ ฉุนเฉียว ควรเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายไม่เกิดเสมหะและความชื้น ซึ่งมีผลต่อการสร้างชี่และเลือด รวมถึงทำให้ชี่ติดขัดได้

2.โรคมะเร็ง - การทานอาหารมากเกินไปจะทำให้ความสามารถในการยับยั้งการก่อมะเร็งของเซลล์ลดลง
ทางแพทย์แผนจีนมองว่า ผู้ป่วยมะเร็งไม่ควรรับประทานอาหารที่ง่ายต่อการเกิดไฟ หรือแม้กระทั่งการทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไปก็จะเกิดความร้อนได้ง่าย โดยความร้อนนี้จะทำให้ร่างกายมีอาการปวดมากขึ้น และเซลล์มะเร็งสามารถแพร่กระจายได้เร็วขึ้น

3.โรคไต - ในทางแพทย์จีน ไตเป็นรากฐานของสารตั้งต้นก่อนกำเนิด ควบคุมสารน้ำในร่างกาย ผู้ป่วยที่มีภาวะโรคไตควรควบคุมปริมาณอาหารในทุกๆวันให้เหมาะสม หากรับประทานอาหารที่มากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อระบบปัสสาวะ เพราะร่างกายจะขับไนโตรเจนที่ไม่ใช่โปรตีนออกจากไต ซึ่งจะเพิ่มภาระต่อไตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

4.โรคเบาหวาน - ในทางแพทย์จีนจัดอยู่ในภาวะหยินพร่อง หนึ่งในปัจจัยร่วมคือการกินอาหารที่ไม่เหมาะสม หากทานอาหารหวาน อาหารไขมันมากเกินไป รวมทั้งการดื่มสุรา ทำให้กระเพาะอาหารและม้ามทำงานผิดปกติ เกิดความร้อนสะสม เกิดความแห้ง สารน้ำในร่างกายถูกทำลายเกิดเป็นโรคเบาหวาน (消渴)

5.โรคอัลไซเมอร์ - ผลสำรวจผู้ป่วยอัลไซเมอร์พบว่าประมาณ 30% - 40% มีนิสัยการกินอิ่มในระยะยาว
ทฤษฎีการแพทย์แผนจีนโบราณเชื่อว่าไตเป็นรากฐานของสารตั้งต้นก่อนกำเนิด สร้างและควบคุมไขกระดูก
ม้ามเป็นรากฐานของสารอาหารหลังกำเนิด ควบคุมชี่และเลือด ภาวะม้ามพร่องหรือไตพร่อง จะทำให้ชี่และเลือดไม่เพียงพอ สมองจะสูญเสียสารอาหารขาดการหล่อเลี้ยง เกิดภาวะสมองเสื่อม หากรับประทานอาหารไม่เหมาะสมหรือมากเกินไปก็จะทำให้เกิดเสมหะอุดกั้นการหล่อเลี้ยงของสมองด้วย

6.โรคกระดูกพรุน - มักแสดงให้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์ของสารจำเป็น(จิง) ชี่ และเลือด เมื่อสารจำเป็น(จิง) ชี่และเลือดไม่เพียงพอจะทำให้กระดูกบางและแตกหักง่าย เกิดภาวะกระดูกพรุน ในทางแพทย์จีน ม้ามมีหน้าที่สร้างและแปรสภาพสารอาหารเป็นสารจำเป็น(จิง) ชี่และเลือดให้กับอวัยวะภายในร่างกาย ทำให้ไตมีสารจำเป็น(จิง) ชี่และเลือดที่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้กระดูกแข็งแรงดังนั้นการที่จะมีกระดูกและร่างกายที่แข็งแรง ต้องมาจากปัจจัยทางโภชนาการที่ดี

7.หายใจไม่ออก - ถ้าเรารับประทานอาการที่มากเกินไป กระเพาะอาหารและม้ามทำงานหนัก ชี่ของม้ามและกระเพาะอาหารอ่อนแอ “中气不足” เมื่อเราทานอาหาร กระเพาะอาหารจะบีบเยื่อหุ้มปอดและครอบครองพื้นที่ปอด ทําให้ปอดไม่สามารถขยายตัวได้อย่างสมบูรณ์และทำให้รู้สึกแน่นหายใจไม่ออก

8.โรคอ้วน - โรคอ้วนสัมพันธ์กับหยางชี่พร่อง ก่อเกิดเสมหะและความชื้นมาก ชี่ของม้ามพร่อง ทำให้การลำเลียงของม้ามไม่มีกำลัง สารอาหารต่างๆไม่ถูกลำเลียงส่งกระจายไปทั่วร่างกายอย่างเหมาะสม จึงแปรสภาพเป็นไขมัน น้ำและความชื้นตกค้างติดขัดอยู่ภายใน ดังนั้นบุคคลที่อยู่ในภาวะโรคอ้วนควรควบคุมอาหารการกินไม่ให้เกินกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องใช้ หรือปล่อยให้ร่างกายหิวเพื่อย่อยไขมันส่วนเกิน

จากการศึกษาพบว่า หากคนหิว และไม่กินอาหารเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ร่างกายจะมีสารที่เรียกว่า "ยีนส์อายุยืน" จากการติดตามกลุ่มคนที่หิวอย่างเหมาะสมพบว่าจะมีอายุเฉลี่ยและดัชนีสุขภาพสูงกว่าคนที่กินอาหารเต็มอิ่มมาก
ดังนั้น ความหิวไม่เพียงแต่เป็นวิธีการรักษาสุขภาพ แต่สามารถ "รักษา" โรคต่างๆทั้งยังช่วยให้มนุษย์มีอายุที่ยืนยาวขึ้น

โจ๊ก... อาหารง่ายๆที่ได้ประโยชน์เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย หลายๆท่านคงจะคุ้นเคยกับการทานโจ๊กเป็นอาหารเช้า หรือยามเจ็บป่วยก็...
09/11/2022

โจ๊ก... อาหารง่ายๆที่ได้ประโยชน์เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย หลายๆท่านคงจะคุ้นเคยกับการทานโจ๊กเป็นอาหารเช้า หรือยามเจ็บป่วยก็อยากทานอะไรที่สบายท้องและย่อยง่ายอย่างโจ๊กร้อนๆสักชาม

วันนี้หมอมีสูตรโจ๊กดีๆมาแบ่งปันทุกท่านค่ะ เพียงแค่เติมคื่นฉ่ายฝรั่งหรือที่เรียกกันว่า Celery ลงไปในโจ๊กก็เพิ่มคุณประโยชน์ในเรื่องของการควบคุมความดันโลหิตได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงหรือเวียนหัวจากความดันสูง ทั้งนี้ใน 1 มื้ออาหารควรทานให้ครบ 5 หมู่เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงด้วยนะคะ 😊
____________________________________
👩‍⚕️ปรึกษาปัญหาสุขภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ inbox หรือโทร 0884551544 แพทย์จีน กนิษฐา ม่วงแกม (หมอน้ำหวาน)

🕘เวลาทำการคลินิก: ทุกวัน 9:00 - 20:00 น. (งดรับ walk-in กรุณานัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันขอบคุณค่ะ)

📍แผนที่ตั้ง https://goo.gl/maps/YyP4deqAgLsgYA1g8

#ฝังเข็ม #ครอบแก้ว #กัวซา #ยาจีน #ฝังเข็มพระราม2 #ครอบแก้วรักษาโรค #กัวซาหน้าใส #ออฟฟิศซินโดรม

กัวซาหน้าใสดีอย่างไร❓การกัวซาหน้าใสคือการนำหินหรือหยกมาลูบบนใบหน้าเบาๆทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ประโยชน์ของการกัวซามีดังนี้✅ลด...
08/11/2022

กัวซาหน้าใสดีอย่างไร❓การกัวซาหน้าใสคือการนำหินหรือหยกมาลูบบนใบหน้าเบาๆทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ประโยชน์ของการกัวซามีดังนี้
✅ลดเลือนริ้วรอย
✅การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองดีขึ้น ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งมีสุขภาพดี
✅กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้หน้าดูกระชับขึ้น
____________________________________
👩‍⚕️ปรึกษาปัญหาสุขภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ inbox หรือโทร 0884551544 แพทย์จีน กนิษฐา ม่วงแกม (หมอน้ำหวาน)

🕘เวลาทำการคลินิก: ทุกวัน 9:00 - 20:00 น. (งดรับ walk-in กรุณานัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันขอบคุณค่ะ)

📍แผนที่ตั้ง https://goo.gl/maps/YyP4deqAgLsgYA1g8

#ฝังเข็ม #ครอบแก้ว #กัวซา #ยาจีน #ฝังเข็มพระราม2 #ครอบแก้วรักษาโรค #กัวซาหน้าใส #ออฟฟิศซินโดรม

เคยสงสัยกันไหมคะ? ว่าที่มาของเส้นลมปราณที่หมอจีนพูดถึงนั้นมีที่มาจากอะไร วันนี้หมอจะพาทุกท่านย้อนไปยังอดีตกับเรื่องราวขอ...
07/11/2022

เคยสงสัยกันไหมคะ? ว่าที่มาของเส้นลมปราณที่หมอจีนพูดถึงนั้นมีที่มาจากอะไร วันนี้หมอจะพาทุกท่านย้อนไปยังอดีตกับเรื่องราวของหมอจีนโบราณ "เปี่ยน เชวี่ย" กับนิทานแพทย์จีนตอน กำเนิดเส้นลมปราณ
ขอให้ทุกท่านอ่านนิทานเรื่องนี้เพื่อความบันเทิงนะคะ 😃

____________________________________
👩‍⚕️ปรึกษาปัญหาสุขภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ inbox หรือโทร 0884551544 แพทย์จีน กนิษฐา ม่วงแกม (หมอน้ำหวาน)

🕘เวลาทำการคลินิก: ทุกวัน 9:00 - 20:00 น. (งดรับ walk-in กรุณานัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันขอบคุณค่ะ)

📍แผนที่ตั้ง https://goo.gl/maps/YyP4deqAgLsgYA1g8

#ฝังเข็ม #ครอบแก้ว #กัวซา #ยาจีน #ฝังเข็มพระราม2 #ครอบแก้วรักษาโรค #กัวซาหน้าใส #ออฟฟิศซินโดรม #นิทานแพทย์จีน #เส้นลมปราณ

ที่อยู่

305 พระราม2ซอย 39 จอมทอง บางมด
Bangkok
10150

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 20:00
อังคาร 09:00 - 20:00
พุธ 09:00 - 20:00
พฤหัสบดี 09:00 - 20:00
ศุกร์ 09:00 - 20:00
เสาร์ 09:00 - 20:00
อาทิตย์ 09:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

+66884551544

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Charlie TCM Clinic -ชาร์ลีคลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาแพทย์แผนจีนผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์