Weed ‘n’ Boom

Weed ‘n’ Boom วิทยากรออนไลน์ ให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์

18/07/2025

อาการอย่างนี้พาญาติไปตรวจฉี่ด่วนเลยครับไม่น่าใช่กัญชาละ กัญชาสายพันธุ์อะไรครับที่ทำให้คนใช้ ตาขวางไม่หลับไม่นอน คนไม่รู้จักกัญชา แต่มาให้สัมภาษณ์เรื่องกัญชาออกสื่อแบบนี้ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จนี่นา

เทอร์ปีนในดอกกัญชา — กลิ่นหอมที่มากกว่าความรู้สึกเมื่อพูดถึงกัญชา หลายคนอาจจะนึกถึงกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ลอยมาแต่ไกล แต่รู้...
27/04/2025

เทอร์ปีนในดอกกัญชา — กลิ่นหอมที่มากกว่าความรู้สึก

เมื่อพูดถึงกัญชา หลายคนอาจจะนึกถึงกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ลอยมาแต่ไกล แต่รู้หรือไม่ว่ากลิ่นนั้นไม่ได้มาจากสาร THC หรือ CBD ที่มักถูกพูดถึงบ่อย ๆ หากแต่เป็น “เทอร์ปีน” (Terpene) กลุ่มสารประกอบทางธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ในพืชหลากหลายชนิด รวมถึงในดอกกัญชาด้วย เทอร์ปีนเป็นตัวกำหนดกลิ่น รสชาติ และยังส่งเสริมประสบการณ์การใช้งานกัญชาในแง่บวก ทั้งในด้านความรู้สึกผ่อนคลาย ความสดชื่น หรือแม้แต่สมาธิที่ดีขึ้น

แม้เทอร์ปีนจะมีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ แต่ในกัญชานั้นมันกลับทำหน้าที่ได้โดดเด่นและมีเอกลักษณ์มาก การที่เรารู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น หรือตื่นตัวเมื่อใช้กัญชาแต่ละสายพันธุ์ อาจไม่ใช่เพียงเพราะระดับ THC แต่เป็นผลมาจาก “โปรไฟล์เทอร์ปีน” ที่แตกต่างกัน เช่น กลิ่นซิตรัสจากลิโมนีนอาจช่วยกระตุ้นความรู้สึกแจ่มใส หรือกลิ่นไม้สนจากพินีนที่ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ทั้งหมดนี้เป็นผลของการทำงานร่วมกันระหว่างสารในพืชที่เรียกว่า “เอฟเฟกต์พ้อง” (Entourage Effect) [Booth et al., 2019]

ในดอกกัญชามีเทอร์ปีนมากมายหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่น่าสนใจ ได้แก่:

1. ไมร์ซีน (Myrcene) — กลิ่นดิน กลิ่นมะม่วง ช่วยผ่อนคลายและส่งเสริมการนอนหลับ

2. ลิโมนีน (Limonene) — กลิ่นส้ม มะนาว มีฤทธิ์ต้านความเครียด ช่วยให้สดชื่น

3. พินีน (Pinene) — กลิ่นไม้สน เสริมสมาธิ ช่วยเรื่องการหายใจ

4. ลินาลูล (Linalool) — กลิ่นลาเวนเดอร์ ส่งผลต่อการผ่อนคลายและต้านการอักเสบ

5. คารีโอไฟลีน (Caryophyllene) — กลิ่นพริกไทย เป็นเทอร์ปีนที่สามารถจับกับตัวรับ CB2 ได้โดยตรง

6. ฮิวมูลีน (Humulene) — กลิ่นไม้และสมุนไพร มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

7. เทอร์พิโนลีน (Terpinolene) — กลิ่นดอกไม้และสมุนไพร ออกฤทธิ์ให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า

8. โอซมีน (Ocimene) — กลิ่นหวานและไม้ อาจมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย

9. เกอร์มาเครน (Germacrene) — กลิ่นไม้และผลไม้ อาจมีฤทธิ์ต้านจุลชีพ

10. บิสาโบลอล (Bisabolol) — กลิ่นดอกไม้ อ่อนโยน มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านการระคายเคือง

11. ฟาร์นีเซน (Farnesene) — กลิ่นแอปเปิ้ลและผลไม้ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ

12. เนอโรลิโดล (Nerolidol) — กลิ่นไม้และดอกไม้ อาจช่วยในการนอนหลับ

13. วัลเลนเซน (Valencene) — กลิ่นส้ม มีฤทธิ์ขับไล่แมลง

14. กัวเอียล (Guaiol) — กลิ่นไม้และดิน มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย

15. เซดรอล (Cedrol) — กลิ่นไม้ซีดาร์ มีฤทธิ์สงบประสาท

ในเชิงวิชาการ เทอร์ปีนจัดอยู่ในกลุ่มสารอินทรีย์ไฮโดรคาร์บอน โดยมีโครงสร้างหลักเป็นหน่วยไอโซพรีน (C₅H₈)n ซึ่งสามารถจำแนกได้เป็นกลุ่ม เช่น มอโนเทอร์ปีน (C₁₀H₁₆) และเซสควิเทอร์ปีน (C₁₅H₂₄) ซึ่งเป็นกลุ่มที่พบมากที่สุดในกัญชา เทอร์ปีนสามารถสังเคราะห์ในไตรโครมของดอกกัญชา โดยมีปริมาณและองค์ประกอบที่แปรผันตามสายพันธุ์ วิธีเพาะปลูก สิ่งแวดล้อม และกระบวนการหลังการเก็บเกี่ยว ปัจจุบันเทอร์ปีนได้รับความสนใจในวงการวิจัยทางการแพทย์และเภสัชกรรม เนื่องจากมีศักยภาพในการเสริมฤทธิ์ของสารแคนนาบินอยด์และเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกฤทธิ์เชิงชีวภาพของกัญชา [Russo, 2011; Chizzola et al., 2020]

อ้างอิง
• Booth, J. K., Page, J. E., & Bohlmann, J. (2019). Terpene synthases from Cannabis sativa. PLOS ONE, 14(3), e0213911.
• Russo, E. B. (2011). Taming THC: potential cannabis synergy and phytocannabinoid-terpenoid entourage effects. British Journal of Pharmacology, 163(7), 1344–1364.
• Chizzola, R., Parmentier, D., & Friedrich, W. (2020). Variation of terpenes in Cannabis sativa L.: Influence of cultivation and processing. Plant Physiology and Biochemistry, 152, 224–231.

เมื่อ "ร่างกาย" พูดกับตัวเองผ่านสารธรรมชาติ:  ทำความเข้าใจระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์ (Endocannabinoid System) อย่างอบอุ่นและ...
03/04/2025

เมื่อ "ร่างกาย" พูดกับตัวเองผ่านสารธรรมชาติ:

ทำความเข้าใจระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์ (Endocannabinoid System) อย่างอบอุ่นและลึกซึ้ง

เคยไหมครับ เวลาที่เราเครียด ปวด อักเสบ หรือแม้แต่รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

ร่างกายเรากำลังสื่อสารกับตัวเอง ผ่านสารบางอย่างที่มองไม่เห็น

หนึ่งในสารสำคัญที่ทำหน้าที่นี้ คือกลุ่มที่เรียกว่า **"เอ็นโดแคนนาบินอยด์"** (Endocannabinoids)

หลายคนอาจเพิ่งเคยได้ยินชื่อระบบนี้เป็นครั้งแรก แต่จริง ๆ แล้ว **ระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์ (ECS)** มีอยู่ในร่างกายเราทุกคน และทำหน้าที่เหมือน "ผู้ควบคุมสมดุลชีวิต" อย่างเงียบ ๆ ตลอดเวลา

🌼 ระบบที่สร้างขึ้นมาเพื่อเยียวยา: ECS คืออะไร?

ระบบ ECS ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ:

1. **สารสื่อประสาทธรรมชาติ** (Endocannabinoids) เช่น
- AEA (Anandamide)
- 2-AG

👉 ทั้งสองตัวนี้จะถูกสร้างขึ้นเมื่อร่างกายเผชิญกับภาวะเครียดหรือความไม่สมดุล เช่น ปวด, อักเสบ, นอนไม่หลับ

2. **ตัวรับ (Receptors)** ที่รอรับข้อความจากสารเหล่านี้ เช่น

- **CB1** (อยู่ในสมองและระบบประสาทส่วนกลาง)
- **CB2** (อยู่ในระบบภูมิคุ้มกัน)

3. **เอนไซม์ที่ย่อยสลาย** สารเหล่านี้เมื่อหมดหน้าที่ เช่น FAAH และ MAGL

พืชที่พูดภาษาร่างกายเราได้ คือ กัญชา & กัญชง

สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือ…

พืชบางชนิดอย่าง **กัญชา (Cannabis)** ก็มีสารที่ "พูดภาษาร่างกายเราได้" เช่นเดียวกัน
เราจึงเรียกมันว่า **Phytocannabinoids** เช่น:

THC**: จับกับ CB1 ได้ดี ➝ ส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้รู้สึก "เมา" หรือเคลิบเคลิ้ม

CBD**: จับ CB1/CB2 ได้น้อย ➝ แต่มีผลต่อ **TRPV1** ซึ่งเกี่ยวกับความร้อน ความเจ็บปวด และการอักเสบ

CBD จึงเป็นสารที่น่าสนใจมากในการใช้เพื่อ “ปลอบโยนร่างกาย” โดยไม่ทำให้มึนเมา

ตัวรับ TRPV1: ประตูแห่งความเจ็บปวดและการอักเสบ

ในภาพจะเห็นว่ามีอีกหนึ่งตัวรับชื่อว่า **TRPV1**

เป็นเหมือน “ประตูไอออน” ที่เปิดให้ **Ca²⁺** และ **Na⁺** ไหลผ่าน ➝ สร้างสัญญาณเจ็บปวด ร้อน หรือการอักเสบ

สาร AEA และ CBD สามารถไปจับที่ TRPV1 ได้ด้วย ➝ ผลคือช่วยลดความรู้สึกเจ็บ ร้อน และการอักเสบได้อย่างอ่อนโยน

แล้วระบบนี้ทำอะไรกับเราในชีวิตจริง?

เมื่อระบบ ECS ทำงานได้ดี ร่างกายเราจะ…

- จัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น

- ลดการอักเสบแบบเรื้อรัง

- ปรับสมดุลระบบประสาทและภูมิคุ้มกัน

- ส่งเสริมการนอน การย่อย และแม้แต่การจดจำ

แต่หากระบบนี้เสียสมดุล เช่น สร้าง AEA ไม่พอ หรือ CB1 ถูกกระตุ้นมากเกินไป อาจนำไปสู่ภาวะ:

- ซึมเศร้า

- ปวดเรื้อรัง

- การอักเสบที่ไม่หยุด

- นอนไม่หลับ

สารจากธรรมชาติ ที่มากกว่าแค่ "ยา"

สารอย่าง **CBD**, **Lipoxins**, **Resolvins** และ **peptide จากร่างกาย** ก็สามารถปรับระบบนี้ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่รบกวนสมองหรือทำให้เสพติด

การศึกษาเหล่านี้จึงทำให้เรารู้ว่า...

**พืชไม่ใช่แค่พืช แต่คือผู้เยียวยา**

**สารธรรมชาติไม่ใช่แค่สาร แต่คือ ภาษาที่ร่างกายเข้าใจ**

บทสรุป

> ร่างกายของเรามีระบบที่สร้างมาเพื่อดูแลตัวเองเสมอ

> และพืชธรรมชาติหลายชนิดก็เป็นเหมือนเพื่อนที่มาช่วยพูดภาษานั้นให้ร่างกายเราฟังง่ายขึ้น

ระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

แต่มันคือเรื่องของการอยู่รอด การเยียวยา และการเข้าใจตัวเองจากภายใน

Cr.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี

🌿 กัญชา: พืชมหัศจรรย์ที่เชื่อมโยงสมอง ลำไส้ และสุขภาพแบบองค์รวม! 🌿*กัญชาไม่ได้เป็นแค่พืชสมุนไพรทั่วไป แต่มันคือ **ขุมพลั...
13/03/2025

🌿 กัญชา: พืชมหัศจรรย์ที่เชื่อมโยงสมอง ลำไส้ และสุขภาพแบบองค์รวม! 🌿*
กัญชาไม่ได้เป็นแค่พืชสมุนไพรทั่วไป แต่มันคือ **ขุมพลังแห่งการบำบัดจากธรรมชาติ** ที่ส่งผลโดยตรงต่อ **สมอง ระบบลำไส้ และระบบภูมิคุ้มกัน** ✨💚

🔬 **งานวิจัยใหม่ ๆ ชี้ให้เห็นว่ากัญชาสามารถช่วยปรับสมดุลของระบบสำคัญในร่างกาย** ผ่านการทำงานร่วมกับ **ระบบเอนโดแคนนาบินอยด์ (Endocannabinoid System - ECS)** ที่มีบทบาทในการควบคุมกระบวนการต่าง ๆ เช่น อารมณ์ การอักเสบ และสุขภาพทางเดินอาหาร

🌱 กลไกสำคัญของกัญชาต่อร่างกาย 🌱

1️⃣ Gut-Brain Axis: การเชื่อมโยงระหว่างลำไส้และสมอง** 🧠💛
รู้หรือไม่ว่า **สมองกับลำไส้สื่อสารกันตลอดเวลา** ผ่านทางเส้นประสาทวากัส (Vagus Nerve) และสารสื่อประสาทต่าง ๆ?
💡 **ลำไส้มีบทบาทต่ออารมณ์ ความเครียด และสุขภาพสมอง** เพราะมันเต็มไปด้วย
**แบคทีเรียชนิดดีที่ช่วยผลิตสารสำคัญ เช่น ซีโรโทนิน (Serotonin) และโดพามีน (Dopamine)** ซึ่งเป็นตัวควบคุมอารมณ์และความสุข
🔹 **กัญชาอาจช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiome)**
🔹 ลดความเครียด **ทำให้สมองและลำไส้ทำงานสัมพันธ์กันอย่างมีประสิทธิภาพ**
🔹 ลดอาการลำไส้แปรปรวน **(Irritable Bowel Syndrome - IBS)** ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและการอักเสบ
✨ **ผลลัพธ์:** อารมณ์ดีขึ้น สมองปลอดโปร่ง และลำไส้ทำงานดีขึ้น

2️⃣ Neurodegenerative Diseases: ป้องกันโรคสมองเสื่อม** 🧠⚡
**โรคทางระบบประสาทเสื่อม** เช่น **อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis) และ Multiple Sclerosis (MS)** เกิดจากความเสียหายของเซลล์สมองและระบบประสาท
🌿 **กัญชามีฤทธิ์ปกป้องเซลล์ประสาทโดย**
🔹 ลดการสะสมของ **Amyloid Beta (Aβ) และ Tau Proteins** ที่เป็นพิษต่อสมอง
🔹 ลดการอักเสบในระบบประสาท **ช่วยป้องกันสมองเสื่อมและชะลอการเสื่อมของเซลล์สมอง**
🔹 ปรับสมดุลสารสื่อประสาท **ช่วยให้การทำงานของสมองเป็นปกติขึ้น**
✨ **ผลลัพธ์:** ป้องกันอัลไซเมอร์ **เสริมสร้างความจำและการรับรู้**

3️⃣ Inflammatory Processes: ลดการอักเสบเรื้อรัง** 🔥🛡
การอักเสบเป็น **ต้นเหตุของโรคเรื้อรังหลายชนิด** รวมถึง **โรคทางสมอง โรคลำไส้อักเสบ และโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน**
💡 **CBD ในกัญชามีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่โดดเด่น!**
🔹 ลดการหลั่ง **Cytokines** (สารกระตุ้นการอักเสบ)
🔹 ลดการกระตุ้นของ **เซลล์ภูมิคุ้มกันที่มากเกินไป**
🔹 ป้องกันการอักเสบของลำไส้ **ช่วยลดอาการ Crohn’s Disease และ Colitis**
✨ **ผลลัพธ์:** ลดการอักเสบ **ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง**

4️⃣ Gut Microbiome & ระบบย่อยอาหาร: ปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้** 🍽️💚
สุขภาพของลำไส้ไม่ได้ส่งผลแค่กับการย่อยอาหาร แต่ยังเกี่ยวข้องกับ **ระบบภูมิคุ้มกันและสมอง**
🌱 **กัญชาส่งผลต่อระบบย่อยอาหารโดย**
🔹 **ลดการอักเสบของลำไส้** ทำให้การดูดซึมสารอาหารดีขึ้น
🔹 **ปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้** ส่งผลต่อการเผาผลาญพลังงานและภูมิคุ้มกัน
🔹 **ลดอาการปวดท้องจาก IBS และ Crohn’s Disease**
✨ **ผลลัพธ์:** สุขภาพลำไส้ดีขึ้น **ภูมิคุ้มกันแข็งแรงและลดปัญหาลำไส้อักเสบเรื้อรัง**

🔬 สรุป: กัญชาเป็นมากกว่ายา มันคือสมุนไพรแห่งอนาคต!**
💚 **เชื่อมโยงสมองและลำไส้** → ลดภาวะเครียด **ช่วยให้สมดุลอารมณ์ดีขึ้น**
💚 **ป้องกันโรคสมองเสื่อม** → ลดการสะสมของสารพิษ **ชะลออัลไซเมอร์และพาร์กินสัน**
💚 **ลดการอักเสบ** → ป้องกันโรคเรื้อรัง **ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น**
💚 **ปรับสมดุลจุลินทรีย์ลำไส้** → ส่งเสริมระบบย่อยอาหาร **ช่วยลดปัญหาลำไส้อักเสบ**

🌿✨ **"กัญชาอาจไม่ใช่เพียงแค่ยา แต่เป็นกุญแจสำคัญสู่สุขภาพองค์รวมของมนุษย์!"** ✨💚

Cr. พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี

Cannabidiol (CBD) กำจัดเซลล์มะเร็งได้อย่างไร? กลไกที่น่าทึ่งของสารสกัดจากธรรมชาติ  งานวิจัยเมื่อปีที่ผ่านมา ปี 2024 ยืนย...
10/03/2025

Cannabidiol (CBD) กำจัดเซลล์มะเร็งได้อย่างไร? กลไกที่น่าทึ่งของสารสกัดจากธรรมชาติ

งานวิจัยเมื่อปีที่ผ่านมา ปี 2024 ยืนยันว่า สาร Cannabidiol หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ **CBD** เป็นสารที่สกัดจากกัญชา กัญชง ซึ่งนอกจากจะมีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลาย ลดอาการปวด และต้านการอักเสบแล้ว

นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า **CBD อาจมีศักยภาพในการกำจัดเซลล์มะเร็งได้อย่างน่าทึ่ง** ผ่านกลไกหลายรูปแบบที่ทำให้วงการแพทย์ต้องจับตามอง!

🧬 **1. กระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็ง (Apoptosis)

CBD มีความสามารถในการ **กระตุ้นเซลล์มะเร็งให้ทำลายตัวเอง** ผ่านการส่งสัญญาณที่ผิดปกติในระบบเซลล์ ซึ่งแตกต่างจากเซลล์ปกติที่มีการควบคุมการตายที่เหมาะสม

แต่เซลล์มะเร็งมักจะ "โกง" ระบบนี้ ทำให้มันเติบโตโดยไม่มีการยับยั้ง ซึ่ง **CBD จะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งกลับมาตายตามกระบวนการปกติ**

🔥 **2. ยับยั้งการเจริญเติบโตและแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง (Anti-Proliferative Effect)

เซลล์มะเร็งสามารถแบ่งตัวอย่างรวดเร็วและไม่สามารถควบคุมได้ แต่ **CBD มีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการนี้** โดยไปรบกวนวงจรชีวิตของเซลล์มะเร็ง ทำให้มันไม่สามารถแพร่กระจายได้ง่าย

🩸 **3. ตัดเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงเซลล์มะเร็ง (Anti-Angiogenesis Effect)

เซลล์มะเร็งต้องการเส้นเลือดใหม่เพื่อรับสารอาหารและออกซิเจนในการเติบโต **CBD สามารถยับยั้งการสร้างเส้นเลือดใหม่ของมะเร็งได้** ทำให้เซลล์มะเร็งขาดสารอาหารและอ่อนแอลงจนตายในที่สุด

⚔️ **4. ลดความสามารถในการแพร่กระจายของมะเร็ง (Anti-Metastatic Effect)

มะเร็งสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ ได้ แต่ **CBD มีบทบาทสำคัญในการลดการเคลื่อนที่และการยึดเกาะของเซลล์มะเร็ง** ทำให้มันไม่สามารถลุกลามไปทั่วร่างกายได้ง่าย

⚡ **5. ต้านการอักเสบ ลดสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของเซลล์มะเร็ง

การอักเสบเรื้อรังเป็นปัจจัยที่ช่วยให้เซลล์มะเร็งเติบโตได้อย่างรวดเร็ว **CBD มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่ดีเยี่ยม** ช่วยลดสารที่กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งขยายตัว และทำให้ร่างกายสามารถควบคุมมันได้ดีขึ้น 🌱✨

Cr. ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี

The best thing about being a person is being an ordinary person who is happy.🪴💚“ที่สุดของคน คือ การเป็นคนธรรมดาที่มีความ...
07/03/2025

The best thing about being a person is being an ordinary person who is happy.🪴💚

“ที่สุดของคน คือ การเป็นคนธรรมดาที่มีความสุข..” 😌

#สมุนไพรเพื่อการแพทย์
#สมุนไพร420

21/08/2024

ร่างกายสร้างสารกัญชาตามธรรมชาติขึ้นมาจากอะไร

สารเอ็นโดแคนนาบินอยด์ ในระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์ ร่างกายมนุษย์เราสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ เพื่อใช้ในการควบคุมสมดุลการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย พร้อมทั้งใช้ในการแก้ไขความผิดปกติของเซลล์ในร่างกาย ที่จะนำไปสู่การเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ

สารเอ็นโดแคนนาบินอยด์ ที่ร่างกายสร้างนั้น วัตถุดิบมาจากกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว (Polyunsaturated fatty acids) ในกลุ่ม โอเมก้า 6 โดยเฉพาะสารที่ชื่อว่า Arachidonic acid (ARA) ที่เรารับประทานจากอาหารเข้าไป แล้วมีการสะสมอยู่ตามเยื่อหุ้มเซลล์ของอวัยวะต่างๆ เช่น สาร AEA และ 2-AG

นอกจากนั้นสารเอ็นโดแคนนาบินอยด์ ยังได้มาจากกรดไขมันไม่อิ่มตัว ในกลุ่มโอเมก้า 3 ด้วยเช่นกัน เช่น DHEA, EPEA และ 2- DHG เป็นต้น

หลายท่านอาจจะเข้าใจว่า สารกัญชาตามธรรมชาติที่ร่างกายสร้างขึ้นได้เองนั้น หรือที่เรียกว่า สารเอ็นโดแคนนาบินอยด์ มีแค่ AEA กับ 2-AG เท่านั้น แต่จริงๆมีการค้นพบมากถึง 10 ชนิด และ DHEA, EPEA และ 2- DHG ก็จัดเป็นสารในกลุ่มเอ็นโดแคนนาบินอยด์ เช่นกัน

ซึ่งการรับประทานโอเมก้า 6 ที่มากเกินไปก็มีผลทำให้กระตุ้นการเกิดโรคต่างๆได้ ฉะนั้น การรักษาสมดุลด้วยการรับประทานโอเมก้า 3 ด้วย จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด

และสารเอ็นโดแคนนาบินอยด์เหล่านี้ ไม่มีการสร้างมาเก็บสะสมไว้ จะสร้างใช้ทันที เมื่อมีการกระตุ้น และจะสลายอย่างรวดเร็ว เมื่อหมดหน้าที่แล้ว ไม่เหมือนสารอื่นๆที่ร่างกายสร้างขึ้น แล้วเก็บสะสมไว้ได้

จากภาพประกอบเราจะเห็นว่า สารเอ็นโดแคนนาบินอยด์ ที่สร้างมาจากโอเมก้า 3 ฝั่งซ้ายมือ คือ DHA (ดีเอชเอ คุ้นๆกันใช่ไหมครับว่า อยู่ในอาหารอะไร) และฝั่งขวามือ ARA ล้วนมีผลต่อการทำงานของร่างกาย และจะต้องมีควาสมดุลเช่นกันของสารเอ็นโดแคนนาบินอยด์ทั้งสองฝั่งนี้ที่ถูกสร้างขึ้นมา

ฉะนั้น ถ้าต้องการเพิ่มโอกาสให้ร่างกายได้รับสารเอ็นโดแคนนาบินอยด์ เพิ่มมากขึ้น ก็ควรเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า ซึ่งควรเน้นไปที่โอเมก้า 3 เพราะว่า รูปแบบอาหารในปัจจุบันมีโอเมก้า 6 มากเกินพอดีแล้ว

สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ในหนังสือ 82 กระบวนท่า กัญชา กัญชง ฆ่ามะเร็ง สนใจสั่งซื้อหนังสือ ทักที่ไลน์ Pharmalogger หรือ ทักข้อความได้เลยครับ หนังสือ จำนวน 612 หน้า พิมพ์ 4 สีครับ

อ้างอิงบางส่วนจาก

Nutritional omega-3 deficiency abolishes endocannabinoid-mediated neuronal functions. Nat
Neurosci. 2011;14: 345–350.

Endocannabinoid signaling and synaptic function. Neuron. 2012;76: 70–81.

Metabolism of endocannabinoids and related N-acyle‐
thanolamines: canonical and alternative pathways. FEBS J. 2013;280: 1874–1894.

Synaptamide, endocannabinoid-like derivative of docosahex‐aenoic acid with cannabinoid-independent function. Prostaglandins Leukot Essent Fatty Acids. 2013;88: 121–125.

16/08/2024

กัญชาไมโครโด๊ส
หมอดื้อ
เขียนตั้งแต่ 2562

การใช้กัญชาที่ถูกหลักคือการใช้ขนาดน้อยที่สุดหรือที่เรียกว่าไมโครโด๊ส ที่เราเรียกว่าใช้ปลายไม้จิ้มฟันแตะซอกฟัน เวลาเย็นหรือก่อนนอนเป็นการใช้ครั้งแรก และในวันต่อๆมาค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้นทีละน้อย

เช่นไม้จิ้มฟันหักปลายจุ่มลงในน้ำมันกัญชาปาดส่วนเกินออก แตะที่ซอกฟัน
(กรณีที่ไม่มีฟันจะใช้ดูดเอาก็ได้)
การเริ่มต้นด้วยการหยดใต้ลิ้นแม้ว่าถ้าหยดถูกวิธีจะทำให้การดูดซึมค่อนข้างสมบูรณ์และออกฤทธิ์ได้เร็วภายใน 15 ถึง 45 นาทีก็ตาม แต่มักควบคุมขนาดของหยดไม่ได้และกลายเป็นได้ปริมาณมากเกินไปจนเกิดเมา

การใช้ไม้จิ้มฟันแม้ว่าปริมาณที่ได้รับอาจไม่แน่นอนและการออกฤทธิ์อาจช้า โดยต้องรอถึง 1-4 ชั่วโมงก็ตาม แต่มีความปลอดภัยกว่ามาก
และจะทำให้กลไกทั้งหลายที่พูดกันขณะนี้ นุ่มนวลขึ้น ไม่เมา

แต่ในขณะเดียวกันอาจยังไม่เห็นผลทันที โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสมองเสื่อม การลดอาการเกร็งและในเรื่องของโรคพาร์กินสัน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปรับขนาดทีละเล็กทีละน้อย โดยอาจจะต้องใช้เวลาถึง 10-14 วัน

เรื่องที่กัญชาทำให้ความดันต่ำ (โดยที่ไม่ต้องเมา) เป็นเรื่องจริง
ดังนั้นเมื่อใช้ไป ค่อยๆปรับยาความดันที่ใช้ในปัจจุบันทีละน้อยเช่นเดียวกับเบาหวาน กัญชาทำให้ระดับน้ำตาลลด ได้

ทั้งนี้เป็นที่น่าประหลาดใจโดยที่ตำราส่วนมากจะพูดถึงกัญชาที่ทำให้เมาจะทำให้เบาหวานควบคุมยากขึ้นและกันชง ที่ไม่เมาทำให้น้ำตาลลดลง

การใช้ปริมาณน้อยที่สุดแม้ว่าจะเป็นตัวออกฤทธ์ที่ทำให้เมาได้ก็ตาม กลับทำให้ระดับน้ำตาลลดลงได้

และนี่คือกลไกของการออกฤทธิ์ที่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวจับตัวรับกัญชาอย่างเดียว โดยที่ทราบกันมาประมาณ 33 ปีที่แล้ว (จนถึง 2567) แต่เป็นเรื่องของการที่กัญชาที่ได้จากภายนอกไปกระตุ้นการสร้างกัญชาธรรมชาติในร่างกาย เฉพาะกิจ และทำงานตามสั่งในช่วงระยะเวลาที่ต้องการในการปรับความผิดปกติในร่างกาย
(On demand. Time specific. System selection)

ซึ่งกัญชาในร่างกายเหล่านี้ แม้ว่าจะสามารถจับกับตัวรับได้แทบทุกตัวเหมือนกันหมดแต่จะเลือกที่จะทำงานในส่วนที่จะต้องทำ เท่านั้น
(Functional selectivity )ไม่ว่าจะใช้ inverse agonism. Receptor bias. Heterodimerization ก็ตาม

และนี่เป็นเหตุผลที่แม้ว่าจะพยายามสร้างสรรยากัญชา ที่มีตัวออกฤทธิ์ที่พยายามให้จำเพาะเจาะจงมากที่สุด

แต่ผลที่ได้แท้จริงแล้วเป็นการปรับสมดุลตามธรรมชาติโดยกัญชาจากภายนอกเป็นเพียงแต่ตัวกระตุ้นเท่านั้น

และนี่เป็นที่มาของการใช้กัญชาจากภายนอกแทนที่จะเป็นการเลือกตัวเดียวโดด ที่ได้จากการสกัดหรือจากการสังเคราะห์จะทำให้ได้ผลไม่ดีเท่ากับกัญชาที่ได้จากพืชเต็มๆ full spectrum
หรือถ้าจะเกรงกลัวปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดเมา ก็จะทำการแยกสารที่ทำให้เมาออกและเหลือแต่ตัวอื่นๆทั้งหมด กลายเป็น broad spectrum

การอมเกลือใต้ลิ้น 5 นาทีอาจช่วยในกรณีที่ใช้กัญชาในปริมาณมากเกินไปและเกิดเมา

โดยปฏิกิริยาเมาของกัญชาต่อระบบความดันมีสามเฟส
Triple phase cannabis response Bezold Jarisch reaction
ระยะแรกมีความดันต่ำและชีพจรต่ำทั้งนี้อาจจะอธิบายจากตัวรับสองตัวด้วยกัน
Phase I hypotension bradycardia. Trvpv1 HT3receptor
ระยะที่สองมีความดันขึ้นและชีพจรเร็วขึ้นอาจจะอธิบายจากตัวรับตัวเดิมด้วยซ้ำ
Phase II hypertension. Tachycardia
Also by Trypv 1
และระยะที่สามเป็นความดันต่ำและชีพจรเร็วขึ้น
Phase III. Hypotension.

ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา

ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
มหาวิทยาลัยรังสิต

#ไทยรัฐ หมอดื้อ

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Weed ‘n’ Boomผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram