Vively Home Care บริการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ผู้ป่วยพาร์กินสัน และผู้ป่วยระยะพักฟื้น

19/09/2025

👴🏻💪🏻👵🏻การออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุติดเตียงดูเหมือนเป็นเรื่องยาก แต่จริงๆแล้วเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการนอนนิ่งนานๆ ยังช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้ดีขึ้นได้

🤩ประโยชน์ของการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุติดเตียง

✅ ลดความเสี่ยงแผลกดทับ: การขยับร่างกายจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดแรงกดทับเฉพาะจุด

✅ ป้องกันข้อติด: การบริหารข้อต่อต่างๆ จะช่วยให้กล้ามเนื้อและเอ็นมีความยืดหยุ่น ข้อต่อไม่ยึดติด

✅ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต: การขยับร่างกายเบาๆ จะช่วยให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น

✅ ลดภาวะซึมเศร้า: การได้ทำกิจกรรมและรู้สึกว่าร่างกายยังเคลื่อนไหวได้จะช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้น

👴🏻🏡👵🏻วันนี้ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์มีหลักการออกกำลังกายขั้นพื้นฐานสำหรับผู้สูงอายุติดเตียงมาฝากกันค่ะ😊

โดยสามารถแบ่งการออกกำลังกายออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ

1. การออกกำลังกายแบบมีผู้ช่วย (Passive Exercise)

: เป็นการออกกำลังกายที่ผู้ดูแลจะช่วยขยับร่างกายของผู้สูงอายุให้ โดยผู้สูงอายุไม่ต้องใช้แรงเอง เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีแรงหรือเคลื่อนไหวเองไม่ได้

2. การออกกำลังกายแบบทำด้วยตัวเอง (Active Exercise)

: เป็นการออกกำลังกายที่ผู้สูงอายุสามารถใช้แรงของตนเองในการขยับร่างกายได้ โดยมีผู้ดูแลคอยดูและให้กำลังใจ

3. การออกกำลังกายที่ผู้สูงอายุทำด้วยตนเองบางส่วน(Active assistive Exercise)

: เป็นการออกกำลังกายที่ผู้สูงอายุสามารถใช้แรงของตัวเองเท่าที่ทำได้ โดยมีผู้ดูแลคอยให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เหลือ

❇️ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุติดเตียง คือการทำอย่างสม่ำเสมอและอ่อนโยน ควรเริ่มต้นด้วยท่าที่ง่ายที่สุดและจำนวนครั้งน้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความยากและจำนวนครั้งขึ้นตามความเหมาะสม

🔆 สำคัญคือต้องสังเกตอาการของผู้สูงอายุ หากมีอาการเจ็บปวดหรือเหนื่อยล้า ควรหยุดพักทันที การมอบความรัก ความอดทน และความเข้าใจ จะทำให้การออกกำลังกายเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขและเป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุอย่างแท้จริงค่ะ😍

💕ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคนที่คุณรักนะคะ

ติดต่อสอบถามข้อมูล และ นัดเข้าชมสถานที่

☎️ โทร : 0915191659, 0863498278

🆔 Line :

💌 : vivelyhealth@gmail.com

📍ที่อยู่ : 156 ซอยศูนย์วิจัย 6 (หมู่บ้านศรีนคร) แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
#ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์ #ดูแลคนชรา #อัลไซเมอร์ #สมองเสื่อม #หลงลืม #การดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง #ดูแลผู้สูงอายุ #ดูแลคนแก่ #สมองเสื่อม #ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น #พยาบาลผู้สูงอายุ #ดูแลหลังผ่าตัด #ศูนย์ฟื้นฟู #ศูนย์วิจัย #กายภาพบำบัด #เวชศาสตร์ฟื้นฟู #ศูนย์วิจัย6 #หมู่บ้านศรีนคร #ห้วยขวาง #บางกะปิ #พระราม9 #ออกกำลังกาย #ผู้ป่วยติดเตียง
#กระตุ้นผู้สูงอายุ

ใครชอบงีบหลับ  ลองอ่านดูนะคะ ‼️
16/09/2025

ใครชอบงีบหลับ ลองอ่านดูนะคะ ‼️

วิจัยชี้ งีบกลางวันมากเกินไป
อาจเป็นสัญญาณเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์! 😴

🥱ใครที่ชอบนอนกลางวันหรือมีอาการง่วงระหว่างวันอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัย ก็ควรหมั่นสังเกตและเฝ้าระวังกันให้มากขึ้น เพราะจากงานวิจัยพบว่า การงีบกลางวันที่มากเกินไปนั้น อาจเป็นได้ทั้งปัจจัยเสี่ยงและสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's disease) ซึ่งเป็นภาวะสมองเสื่อมประเภทหนึ่งค่ะ

🔬โดยงานศึกษานี้เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียและศูนย์โรคอัลไซเมอร์ Rush ซึ่งทำการติดตามอาสาสมัคร 1,401 คนเป็นเวลานานถึง 14 ปี โดยอาสาสมัครมีอายุเฉลี่ย 81 ปี สวมอุปกรณ์คล้ายกับนาฬิกาที่ข้อมือเพื่อติดตามการเคลื่อนไหว โดยการไม่เคลื่อนไหวในช่วงเวลา 9 โมงเช้าถึง 1 ทุ่มจะถูกตีความว่าเป็นการงีบหลับ

นักวิจัยพบว่าความถี่และระยะเวลาการงีบหลับในแต่ละวันมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับอายุ และมีความสัมพันธ์แบบสองทิศทางกับโรคอัลไซเมอร์ กล่าวคือ การงีบหลับมากเกินไปอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ และโรคอัลไซเมอร์ก็เร่งให้อาสาสมัครมีอาการงีบหลับมากขึ้นอีกด้วย

โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ จะมีการงีบหลับนานขึ้นเฉลี่ยวันละ 68 นาที เทียบกับผู้สูงอายุทั่วไปที่งีบเฉลี่ยวันละ 11 - 24 นาที หรือก็คือเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยร่วม 2 เท่าเลยทีเดียว

การศึกษายังพบว่าผู้ที่มีอาการงีบหลับกลางวันมากกว่าหนึ่งชั่วโมงมีความเสี่ยงสูงกว่า 40% ที่จะพัฒนาเป็นโรคอัลไซเมอร์ เทียบกับผู้ที่งีบหลับน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง นักวิจัยเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในสมองที่เกิดจากโรคอัลไซเมอร์ที่ยังไม่แสดงอาการอาจส่งผลให้เกิดการงีบหลับมากขึ้น รวมถึงโรคร้ายอื่นๆ ในอนาคต

แม้ว่าการวิจัยนี้จะมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การใช้เครื่องมือวัดการนอนหลับที่อาจไม่แม่นยำเท่าการตรวจวัดด้วยวิธีมาตรฐาน และการที่กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุ ทำให้ผลการวิจัยอาจไม่สามารถใช้กับกลุ่มคนที่อายุน้อยกว่าได้โดยตรง

🔬 อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนอนหลับกลางวันนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ควรสังเกต และอาจมีบทบาทในการพัฒนาหรือป้องกันโรคสมองเสื่อมได้ในอนาคต หากใครที่รู้สึกว่าตัวเองหรือผู้สูงวัยที่บ้านงีบกลางวันนานกว่าปกติมากๆ ก็ควรเฝ้าระวังและหมั่นดูแลสุขภาพให้มากขึ้น ทั้งอาหารการกิน การออกกำลังกาย และอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอด้วยนะคะ ❤️😃

วิจัยอ้างอิง:
https://www.iflscience.com/taking-excessive-daytime-naps...
https://alz-journals.onlinelibrary.wiley.com/.../alz.12636
https://scitechdaily.com/vicious-cycle-discovered.../

#อัลไซเมอร์ ิถีชีวิตที่ยั่งยืน

💇🏻🙏🏻💪🏻 กิจกรรมหลากหลายที่ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์ 💪🏻🦵🏻ออกกำลังกายแขนขา กระตุ้นการเคลื่อนไหว เพราะผู้สูงอายุที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหว ...
14/09/2025

💇🏻🙏🏻💪🏻 กิจกรรมหลากหลายที่ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์

💪🏻🦵🏻ออกกำลังกายแขนขา กระตุ้นการเคลื่อนไหว
เพราะผู้สูงอายุที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหว นานๆไปก็จะข้อติด
🌷🪷 จัดดอกไม้ ไหว้พระ สวดมนตร์ กระตุ้นความจำ ท่องบทสวดมนตร์ ทำให้จิตใจสงบ
💇🏻💈 ตัดผม เสริมหล่อ ให้หน้าตาสดใส

🏡💜“เราดูแลทั้งกาย ทั้งใจ เพราะเราอยากให้ผู้สูงอายุที่มาอยู่กับเรา มีชีวิต ชีวา”

📍ติดต่อสอบถามข้อมูล และ นัดเข้าชมสถานที่
☎️ โทร : 0915191659,0863498278
🆔 Line :
📍ที่อยู่ : 156 ซอยศูนย์วิจัย 6 (หมู่บ้านศรีนคร) แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
#สมองเสื่อม #อัลไซเมอร์ #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์ #ผู้สูงอายุ #กิจกรรมผู้สูงอายุ #สังคม #หลงลืม #กระตุ้นผู้สูงอายุ

รู้ทันก่อนเบาหวานมาเยือน 🍦🍭🍰🧋 ต้องทำยังไงบ้าง 🤔🤔🤔
10/09/2025

รู้ทันก่อนเบาหวานมาเยือน 🍦🍭🍰🧋
ต้องทำยังไงบ้าง 🤔🤔🤔

5 เคล็ดลับปรับพฤติกรรมง่ายๆ
ช่วยป้องกัน "โรคเบาหวาน" ก่อนจะมาเยือน

"เบาหวาน" เป็นชื่อโรคที่เชื่อว่าหลายคนได้ยินแล้วต้องใจแป้วกันบ้างใช่ไหมคะ? ยิ่งถ้ามีคนในครอบครัวเป็นอยู่แล้ว ก็อาจจะกังวลว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องเป็นตามไปด้วยหรือเปล่า แต่ข่าวดีก็คือ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดนั้น เราสามารถป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคได้ค่ะ! หัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่การหักดิบหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองแบบสุดขั้ว แต่เป็นการค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตทีละเล็กทีละน้อยค่ะ วันนี้เรามี 5 เคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณสร้างเกราะป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคเบาหวานได้ มาดูกันเลยค่ะ

1️⃣ ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของโรคเบาหวานก็คือน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐานหรือภาวะอ้วนค่ะ เพราะเมื่อร่างกายมีไขมันสะสมอยู่มาก โดยเฉพาะไขมันในช่องท้อง จะทำให้เซลล์ต่างๆ ดื้อต่อฮอร์โมน "อินซูลิน" ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด พอนานวันเข้า ร่างกายก็จะควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดีจนกลายเป็นโรคเบาหวานในที่สุดค่ะ
▪️ ลองเช็กค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ของตัวเองดูนะคะ โดยคำนวณจาก น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง คนเอเชียอย่างเราๆ ควรควบคุมให้ค่า BMI ไม่เกิน 23 นะคะ การค่อยๆ ลดน้ำหนักลงเพียง 5-10% ของน้ำหนักตัวเริ่มต้น ก็สามารถลดความเสี่ยงเบาหวานได้อย่างมีนัยสำคัญแล้วค่ะ

2️⃣ ขยับร่างกาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 🏃‍♀️
การออกกำลังกายเปรียบเสมือนยาวิเศษที่ช่วยป้องกันได้สารพัดโรค รวมถึงโรคเบาหวานด้วยค่ะ เพราะในขณะที่เราออกกำลังกาย กล้ามเนื้อจะดึงน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานมากขึ้น และยังช่วยให้เซลล์ต่างๆ ตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้นอีกด้วย ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงเลยนะคะ
▪️ ตั้งเป้าหมายง่ายๆ แค่ "ขยับให้มากขึ้น" ในแต่ละวัน อาจจะเป็นการเดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน หรือเต้นแอโรบิก พยายามทำให้ได้ต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และทำให้ได้ 5 วันต่อสัปดาห์ค่ะ
▪️ สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาข้อเข่า อาจจะเลือกการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ เช่น การเดินในน้ำ หรือการรำไทเก็ก ก็เป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัยค่ะ

3️⃣ ลดการบริโภคของหวานและเครื่องดื่มรสหวาน 🍰
ข้อนี้อาจจะทำใจยากสักหน่อยสำหรับสายหวาน แต่เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เลยค่ะ น้ำตาลที่อยู่ในขนมเค้ก คุกกี้ เบเกอรี่ ของหวานไทยต่างๆ รวมถึงเครื่องดื่มรสหวาน เช่น น้ำอัดลม ชานมไข่มุก กาแฟเย็น จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงปรี๊ดเลยค่ะ
▪️ ไม่ได้หมายความว่าต้องงดกินของหวานไปตลอดชีวิตนะคะ แต่ให้กินในปริมาณที่น้อยลงและไม่บ่อยจนเกินไป อาจจะให้เป็นรางวัลตัวเองสัปดาห์ละครั้งสองครั้งก็พอค่ะ
▪️ ลองเปลี่ยนจากการดื่มน้ำหวาน มาเป็นดื่มน้ำเปล่า หรือชาจืดไม่ใส่น้ำตาลแทนดูนะคะ แค่นี้ก็ช่วยลดปริมาณน้ำตาลที่ได้รับต่อวันไปได้เยอะมากแล้วค่ะ

4️⃣ รู้ทัน "น้ำตาลแฝง" ในกลุ่มข้าว-แป้ง 🍚
นอกจากน้ำตาลในของหวานแล้ว ยังมี "น้ำตาลแฝง" ที่ซ่อนอยู่ในอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่เรากินกันเป็นประจำด้วยค่ะ โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว เส้นก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ร่างกายจะย่อยอาหารเหล่านี้ให้กลายเป็นน้ำตาลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลไม่ต่างจากการกินของหวานเลยค่ะ
▪️ ลองปรับเปลี่ยนโดยการลดปริมาณข้าวขาวในจานลงครึ่งหนึ่ง แล้วเพิ่มปริมาณผักและโปรตีนดีๆ อย่างเนื้อปลาหรือเต้าหู้เข้าไปแทน
▪️ หรือจะลองเปลี่ยนไปกินข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ที่มีใยอาหารสูง ซึ่งจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อยๆ สูงขึ้นอย่างช้าๆ ค่ะ

5️⃣ ลดของมัน ของทอด และอาหารไขมันสูง 🍗
อาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์จากของทอดต่างๆ เช่น ไก่ทอด หมูทอด ปาท่องโก๋ หรืออาหารที่มีไขมันจากสัตว์เยอะๆ เช่น ขาหมู หนังสัตว์ ไม่เพียงแต่จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ไขมันเหล่านี้ยังเข้าไปรบกวนการทำงานของอินซูลิน ทำให้ภาวะดื้ออินซูลินแย่ลงไปอีกค่ะ
▪️ พยายามปรับวิธีการปรุงอาหารมาเป็นการ ต้ม นึ่ง ย่าง อบ หรือผัดโดยใช้น้ำมันน้อยๆ แทนการทอด
▪️ เลือกกินไขมันดีจากแหล่งธรรมชาติ เช่น อะโวคาโด ถั่วต่างๆ หรือน้ำมันมะกอก ซึ่งดีต่อสุขภาพโดยรวมมากกว่าค่ะ

การป้องกันโรคเบาหวานคือการเดินทางระยะยาวที่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอค่ะ ไม่ต้องกดดันตัวเองให้ทำทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบในวันแรกนะคะ แค่ค่อยๆ เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่เราทำได้ แล้วค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปทีละอย่าง ลองเลือกทำสัก 1-2 ข้อจากลิสต์นี้ก่อนก็ได้ค่ะ การลงมือทำตั้งแต่วันนี้ คือการมอบของขวัญที่ดีที่สุดให้กับสุขภาพของเราในอนาคตนะคะ

ิถีชีวิตที่ยั่งยืน #โรคเบาหวาน

🧠สมองเสื่อม, อัลไซเมอร์ เป็นภาวะที่การทำงานของสมองถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง โดยส่งผลกระทบต่อความจำ ความคิด การใช้เหตุผล และพ...
06/09/2025

🧠สมองเสื่อม, อัลไซเมอร์ เป็นภาวะที่การทำงานของสมองถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง โดยส่งผลกระทบต่อความจำ ความคิด การใช้เหตุผล และพฤติกรรมของผู้ป่วย

การดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การเข้าใจในแต่ละระยะของโรคและปรับวิธีการดูแลให้เหมาะสม จะช่วยให้ทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแลสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาท้าทายนี้ไปได้ 🥰

💕การมอบความรัก ความอดทน และความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ในทุกช่วงเวลา

🔅ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์ 🏡👴🏻👵🏻

🫶🏻 บริการดูแลผู้สูงอายุ/ผู้ป่วย อัลไซเมอร์
สมองเสื่อม หลงลืม

✅ เราเข้าใจธรรมชาติของโรคอัลไซเมอร์,
สมองเสื่อมและธรรมชาติของผู้สูงอายุ�
✅ ทีมงานมีความชำนาญในการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ สมองเสื่อม หลงลืม�
✅ มีความเข้าใจในการดูแลกิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุที่เหมาะสม�
✅ ดูแลผู้สูงอายุทุกท่านด้วยความรักและใส่ใจในทุกรายละเอียดของท่านผู้สูงอายุตลอดเวลา

✅ เราเข้าใจความรู้สึกและความต้องการของครอบครัวผู้สูงอายุเป็นอย่างดี

💕ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคนที่คุณรักนะคะ

ติดต่อสอบถามข้อมูล และ นัดเข้าชมสถานที่

☎️ โทร : 0915191659, 0863498278

🆔 Line :

💌 : vivelyhealth@gmail.com

📍ที่อยู่ : 156 ซอยศูนย์วิจัย 6 (หมู่บ้านศรีนคร) แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
#ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์ #ดูแลคนชรา #อัลไซเมอร์ #สมองเสื่อม #หลงลืม #การดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง #ดูแลผู้สูงอายุ #ดูแลคนแก่ #สมองเสื่อม #ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น #พยาบาลผู้สูงอายุ #ดูแลหลังผ่าตัด #ศูนย์ฟื้นฟู #ศูนย์วิจัย #กายภาพบำบัด #เวชศาสตร์ฟื้นฟู #ศูนย์วิจัย6 #หมู่บ้านศรีนคร #ห้วยขวาง #บางกะปิ #พระราม9

เดิน หรือ วิ่ง 🏃🏻‍♀️ >> อย่างไหนดีกว่ากันนะ 🤔
02/09/2025

เดิน หรือ วิ่ง 🏃🏻‍♀️ >> อย่างไหนดีกว่ากันนะ 🤔

🚶🏻‍♂️ เดิน VS 🏃🏻‍♀️ วิ่ง ออกกำลังกายแบบไหน
ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาวกว่ากัน?

ระหว่างการ "เดิน" กับการ "วิ่ง" ถ้าต้องเลือกให้เป็นกิจกรรมออกกำลังกายหลัก ทำเป็นประจำแบบไหนจะดีกว่ากัน? บางคนอาจจะคิดว่าเดินสบายๆ ก็เพียงพอแล้ว ในขณะที่บางคนก็เชื่อว่าต้องวิ่งเท่านั้นถึงจะเห็นผล วันนี้ Bluzone จะพาไปหาคำตอบจากงานวิจัยกันค่ะ

🔹 "เดิน" จุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดีที่ง่ายที่สุด
การเดินเป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ค่ะ เหตุผลก็เพราะว่ามันทั้งง่าย สะดวก และไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากมาย แค่มีรองเท้าที่ใส่สบายก็เริ่มได้แล้ว

👟 ประโยชน์ของการเดิน
การเดินเป็นประจำนั้นมีมากมายอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ
▪️ ลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น โรคเบาหวาน และมะเร็งบางชนิด
▪️ ดีต่อสุขภาพจิต ช่วยลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี
▪️ เมื่อร่างกายเริ่มปรับตัวได้ การเดินเร็วขึ้นอีกนิด หรือเดินในเส้นทางที่ชันขึ้น จะช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจและปอด ทำให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรงขึ้นอีกระดับหนึ่งค่ะ
พูดง่ายๆ ก็คือ การเดินเป็นการวางรากฐานร่างกายที่แข็งแรงได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย หรือมีข้อจำกัดทางร่างกายบางอย่างที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการวิ่งค่ะ

🔸 "วิ่ง" กิจกรรมที่ทรงประสิทธิภาพกว่าในเวลาที่น้อยกว่า
แม้ว่าการเดินจะมีประโยชน์มาก แต่ถ้าพูดถึงในแง่ของ "ประสิทธิภาพ" และการมี "อายุยืน" แล้ว งานวิจัยชี้ว่าการวิ่งนั้นดูจะมีภาษีดีกว่าค่ะ

👟 ทำไมวิ่งจึงเหมือนจะดีกว่า (ถ้าร่างกายอำนวย)
▪️ ใช้พลังงานมากกว่า: การวิ่งต้องใช้พลังงานและแรงมากกว่าการเดินอย่างชัดเจน เพราะทุกก้าวของการวิ่งมีจังหวะที่ร่างกายต้องลอยตัวกลางอากาศแล้วกระโดดไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้หัวใจและปอดต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ
▪️ เพิ่มสมรรถภาพร่างกายได้ดีกว่า: การที่หัวใจและปอดได้ทำงานหนักขึ้นเป็นประจำ จะทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของการมีอายุยืนยาว หรือที่เรียกว่าค่า VO2 Max นั่นเองค่ะ
▪️ ประหยัดเวลากว่า: งานวิจัยพบว่า การวิ่งเพียง 5 นาที ให้ประโยชน์ต่อการยืดอายุขัยเทียบเท่ากับการเดินถึง 15 นาทีเลยทีเดียว!

โดยสรุปแล้ว การวิ่งช่วยให้เราใช้เวลาน้อยลง แต่ได้ผลลัพธ์ในแง่ของการเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้มากกว่าการเดินนั่นเองค่ะ

🔸 ข้อควรระวังสำหรับนักวิ่งมือใหม่
ถึงแม้การวิ่งจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงในการบาดเจ็บที่สูงกว่าการเดินเช่นกันค่ะ ปัญหาที่พบบ่อยมักเกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อและข้อต่อ โดยเฉพาะหัวเข่า ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้อง
1️⃣ วิ่งให้ถูกท่า: ศึกษาท่าวิ่งที่ถูกต้องเพื่อลดแรงกระแทกและป้องกันการบาดเจ็บ
2️⃣ เลือกรองเท้าให้เหมาะสม: รองเท้าวิ่งที่ดีจะช่วยรองรับแรงกระแทกและซัพพอร์ตเท้าของเราได้
3️⃣ ค่อยๆ เพิ่มความหนัก: อย่าหักโหมในครั้งแรกๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเพิ่งหายจากการบาดเจ็บหรือหยุดพักไปนาน ควรเริ่มต้นจากการเดิน แล้วค่อยๆ เพิ่มช่วงเวลาการวิ่งสลับเข้าไปจะปลอดภัยที่สุดค่ะ

🔸 วิ่งสลับเดิน อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุด?
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะเริ่มท้อใจว่าต้องวิ่งเท่านั้นถึงจะดีใช่ไหมคะ? อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ! เพราะจริงๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอไป

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การออกกำลังกายแบบ "วิ่งสลับเดิน" (Run-Walk Method) อาจเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับหลายๆ คน การสลับระหว่างการวิ่งในช่วงสั้นๆ กับการเดิน จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากการออกกำลังกายที่หนักหน่วง (Vigorous intensity) ของการวิ่ง โดยที่ร่างกายไม่เหนื่อยล้าหรือเสี่ยงต่อการบาดเจ็บมากเกินไป

คำแนะนำทั่วไปคือ ในหนึ่งสัปดาห์เราควรตั้งเป้าออกกำลังกายแบบแอโรบิกระดับปานกลาง (เช่น เดินเร็ว) ให้ได้ 150-300 นาที หรือออกกำลังกายระดับหนัก (เช่น วิ่ง) ให้ได้ 75-150 นาทีค่ะ การผสมผสานทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันจึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมมากค่ะ

🔹 บทสรุปและคำแนะนำ
สรุปแล้ว ทั้งการเดินและการวิ่งต่างก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมหาศาลค่ะ ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าแบบไหนดีที่สุดสำหรับ "ทุกคน" เพราะการออกกำลังกายที่ดีที่สุดก็คือ "การออกกำลังกายที่คุณสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ" ค่ะ

ดังนั้น แทนที่จะถามว่าอะไรดีกว่ากัน ลองถามตัวเองว่า "อะไรที่เหมาะกับเราที่สุด" จะดีกว่านะคะ ลองเริ่มต้นจากการเดินเป็นประจำ ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เมื่อร่างกายพร้อมแล้ว อาจจะลองท้าทายตัวเองด้วยการวิ่งสลับเดิน หรือวิ่งเหยาะๆ ดูบ้างก็ได้ค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดคือการขยับร่างกาย และทำให้หัวใจของเราได้ทำงานหนักขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและชีวิตที่ยืนยาวของเราเองค่ะ ❤️

ที่มา:
The New York Times https://www.nytimes.com/2023/11/14/well/move/walking-running-health-benefits.html

Mayo Clinic Press https://mcpress.mayoclinic.org/nutrition-fitness/running-vs-walking-which-is-right-for-you/

Healthline
https://www.healthline.com/health/walking-vs-running

#ออกกำลังกาย ิถีชีวิตที่ยั่งยืน

🧠🧐กิจกรรมกระตุ้นสมองในผู้สูงอายุสมองเสื่อม✨มีความสำคัญมาก เพราะช่วยชะลอความเสื่อมของโรคให้ความเสื่อมช้าลง✨📍กิจกรรมที่ใช้...
27/08/2025

🧠🧐กิจกรรมกระตุ้นสมองในผู้สูงอายุสมองเสื่อม

✨มีความสำคัญมาก เพราะช่วยชะลอความเสื่อมของโรคให้ความเสื่อมช้าลง✨

📍กิจกรรมที่ใช้กระตุ้น
เป็นกิจกรรมที่ชัดเจน เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อนเกินไป และเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน

🍌เหมือนกิจกรรมของไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์วันนี้เป็นกิจกรรม ทายชื่อผลไม้ 🍓🍊🥑
โดยมีการให้คำใบ้ที่ตรงกับการ์ดของผู้สูงอายุแต่ละท่านได้รับ และสุดท้ายมีการสรุปว่า ผู้สูงอายุท่านไหน ชอบผลไม้อะไรบ้าง

💚ผู้สูงอายุทุกท่าน ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ และได้ทบทวนว่า ผลไม้แต่ละชนิด รูปร่าง หน้าตา สี รสชาติ เป็นยังไงบ้าง เคยได้ลองลิ้มชิมรสมาก่อนไหม

📍ติดต่อสอบถามข้อมูล และ นัดเข้าชมสถานที่
☎️ โทร : 0915191659,0863498278
🆔 Line :
📍ที่อยู่ : 156 ซอยศูนย์วิจัย 6 (หมู่บ้านศรีนคร) แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
#สมองเสื่อม #อัลไซเมอร์ #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์ #ผู้สูงอายุ #กิจกรรมผู้สูงอายุ #สังคม #หลงลืม #กระตุ้นผู้สูงอายุ

ไขมันในเลือดคืออะไร🩸ไขมันในเลือดมาจากไหน 🥓🍔🍜🍦แล้วค่าไขมันเท่าไหร่ถึงจะดี🥥🥑🥚โพสนี้มีคำตอบค่า
26/08/2025

ไขมันในเลือดคืออะไร🩸
ไขมันในเลือดมาจากไหน 🥓🍔🍜🍦
แล้วค่าไขมันเท่าไหร่ถึงจะดี🥥🥑🥚
โพสนี้มีคำตอบค่า

🩺 "ไขมันในเลือด" เท่าไหร่ถึงเรียกว่าอันตราย? 🤔🩸
ปัญหา “ไขมันในเลือดสูง” เป็นภัยเงียบที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ และ โรคหลอดเลือดสมอง หากคุณมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ทานของทอดบ่อยๆ หรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ควรเริ่มต้นตรวจระดับไขมันในเลือดอย่างจริงจังค่ะ มาดูกันว่าไขมันในเลือดควรมีค่าเท่าไหร่ และวิธีป้องกันดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้สุขภาพแย่ลงค่ะ
💡 ไขมันในเลือดมีอะไรบ้าง?
ไขมันในเลือดที่ต้องจับตามองมี 2 ชนิดหลักค่ะ
1️⃣ ไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides)
ไตรกลีเซอร์ไรด์เป็นไขมันที่ร่างกายใช้เก็บพลังงานไว้ในระยะยาว หากระดับสูงเกินไปจะสะสมตามหลอดเลือดและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจค่ะ
▪️ ระดับปกติ: ไม่เกิน 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
▪️ เสี่ยงสูง: 200 มิลลิกรัมขึ้นไป
2️⃣ คอเลสเตอรอล (Cholesterol)
คอเลสเตอรอลมีบทบาทสำคัญในการสร้างฮอร์โมนและเซลล์ แต่ต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมค่ะ คอเลสเตอรอลแบ่งออกเป็น:
▪️ LDL (ไขมันไม่ดี): หากเกิน 160 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการอุดตันของหลอดเลือด
▪️ HDL (ไขมันดี): ควรมีไม่น้อยกว่า 35 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร เพื่อช่วยลดไขมันส่วนเกิน
▪️ คอเลสเตอรอลรวม: ควรไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หากเกิน 240 มิลลิกรัมถือว่าเสี่ยงมากค่ะ
🚨 ระดับไขมันในเลือดสูงอันตรายอย่างไร?
การมีไขมันในเลือดสูงอาจทำให้หลอดเลือดตีบหรืออุดตัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบไหลเวียนโลหิต ภาวะเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:
▪️ โรคหลอดเลือดหัวใจ: เกิดจากหลอดเลือดที่เลี้ยงหัวใจอุดตัน
▪️ โรคหลอดเลือดสมอง: ไขมันอุดตันหลอดเลือดในสมอง อาจทำให้เกิดอัมพาต
▪️ โรคความดันโลหิตสูง: ไขมันในเลือดส่งผลให้หลอดเลือดตีบ เพิ่มแรงดันโลหิต
▪️ ภาวะไขมันพอกตับ: ไขมันส่วนเกินสะสมในตับ ส่งผลให้การทำงานของตับผิดปกติ
🛡️ วิธีป้องกันและลดระดับไขมันในเลือด
หากคุณตรวจพบว่าระดับไขมันในเลือดสูง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสามารถช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้ค่ะ
1️⃣ ปรับพฤติกรรมการกิน
▪️ เลือกอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง และธัญพืชเต็มเมล็ด
▪️ หลีกเลี่ยงของทอด อาหารแปรรูป และไขมันอิ่มตัวจากเนื้อสัตว์ติดมัน
▪️ ใช้วิธีการปรุงอาหารแบบ ต้ม นึ่ง อบ แทนการทอด
2️⃣ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
▪️ ออกกำลังกายวันละ 30 นาที อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน
▪️ ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และเพิ่มระดับ HDL (ไขมันดี)
3️⃣ เสริมโอเมก้า 3
▪️ ทานปลาไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู หรือปลาซาร์ดีน อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
▪️ หรือเลือกทานถั่ว เมล็ดแฟลกซ์ หรืออาหารเสริมโอเมก้า 3
4️⃣ ลดพฤติกรรมเสี่ยง
▪️ งดสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะเพิ่มระดับ LDL (ไขมันไม่ดี)
▪️ หลีกเลี่ยงอาหารหวานจัดและไขมันทรานส์ เช่น เค้ก ขนมอบ และมาการีน
5️⃣ ลดน้ำหนักส่วนเกิน
▪️ การลดน้ำหนักเพียง 5-10% ของน้ำหนักตัว สามารถช่วยลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์และ LDL ได้อย่างชัดเจน
🩺 คำแนะนำเพิ่มเติม
▪️ ตรวจสุขภาพเป็นประจำ: ควรตรวจระดับไขมันในเลือดทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป หรือมีปัจจัยเสี่ยง
▪️ ปรึกษาแพทย์: หากไขมันในเลือดสูงเกินเกณฑ์ แพทย์อาจแนะนำการใช้ยาเพื่อลดระดับไขมัน
▪️ ทานอาหารเสริม: หากจำเป็น อาจปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการเสริมวิตามินหรืออาหารเสริม เช่น ไฟเบอร์หรือวิตามินบี
การดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันภัยเงียบจากไขมันในเลือดสูงได้ อย่ารอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยแก้ไข เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการป้องกันตั้งแต่วันนี้ค่ะ 😊💪
#อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ #ไขมันในเลือด #ไตรกลีเซอไรด์ #คอเลสเตอรอล

Quercetin 🍎🫐🧅🍵 สารธรรมชาติ เพื่อสมองที่แข็งแรง ห่างไกลอัลไซเมอร์ 🧠
22/08/2025

Quercetin 🍎🫐🧅🍵 สารธรรมชาติ
เพื่อสมองที่แข็งแรง ห่างไกลอัลไซเมอร์ 🧠

🍎🫐🧅Quercetin สารธรรมชาติเพื่อสมองที่แข็งแรง ห่างไกลอัลไซเมอร์ 🧠

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมก็ยิ่งสูงขึ้น ทั้งจากพันธุกรรม ไลฟ์สไตล์ และความเสื่อมของร่างกาย งานวิจัยพบว่า ฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากพืช สามารถช่วยชะลอการเสื่อมของสมองได้ โดยเฉพาะ เควอซิติน (Quercetin) ที่พบมากในหัวหอม แอปเปิล เบอร์รี และชาเขียว มีบทบาทสำคัญในการลดการอักเสบและปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหาย ช่วยลดการสะสมของโปรตีนเบตาอะไมลอยด์ สาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ และส่งเสริมการทำงานของไมโทคอนเดรียทำให้เซลล์สมองมีพลังงานเพียงพอ การบริโภคอาหารที่มีเควอซิตินอย่างต่อเนื่องจึงเป็นหนึ่งในแนวทางธรรมชาติที่ช่วยเสริมความจำและการทำงานของสมอง หรือการเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Quercetin เพื่อดูแลสมองให้แข็งแรงและลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมอย่างมีประสิทธิภาพ
#อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ #เควอซิติน #โรคสมองเสื่อม #ฟลาโวนอยด์

🥰 อ่านแล้วชื่นใจ…เป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนเลยค่ะ 💖“เราเชื่อว่าการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ได้มีแค่เรื่องสุขภาพกายที่แข็งแรงเท่า...
20/08/2025

🥰 อ่านแล้วชื่นใจ…
เป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนเลยค่ะ 💖

“เราเชื่อว่าการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ได้มีแค่เรื่องสุขภาพกายที่แข็งแรงเท่านั้น แต่สุขภาพใจที่อบอุ่นก็สำคัญไม่แพ้กัน

📝ทุกคำรีวิวจากญาติที่บอกว่าคุณพ่อคุณแม่มีความสุขขึ้น ทำให้ทีมงานเราทุกคนมีพลังที่จะดูแลและให้บริการต่อไปค่ะ 😊

ขอบคุณที่เชื่อมั่นและวางใจให้ “ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์” ดูแลคนที่คุณรักนะคะ💕

✅ เราทำศูนย์ฯเพื่อให้ผู้สูงอายุ มีความสุข มีรอยยิ้ม
มีเสียงหัวเราะ

✅ เราทำศูนย์ฯเพื่อแบ่งเบาความกังวลของญาติ

✅ เราทำศูนย์ฯเพื่อให้พนักงาน ผู้ดูแล ทำงานอย่างมีความสุข

🧐เราพร้อมที่จะ เรียนรู้ รับฟัง แก้ไข/ปรับปรุง
เพื่อการบริการที่ดีที่สุดค่ะ 😊

ติดต่อสอบถามข้อมูล และ นัดเข้าชมสถานที่
☎️ โทร : 0915191659, 0863498278
🆔 Line :
💌 : vivelyhealth@gmail.com

📍ที่อยู่ : 156 ซอยศูนย์วิจัย 6 (หมู่บ้านศรีนคร) แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
#ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์ #ดูแลคนชรา #การดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง #ดูแลผู้สูงอายุ #ดูแลคนแก่ #สมองเสื่อม #ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น #พยาบาลผู้สูงอายุ #ดูแลหลังผ่าตัด #ศูนย์ฟื้นฟู #ศูนย์วิจัย #กายภาพบำบัด #เวชศาสตร์ฟื้นฟู #ศูนย์วิจัย6 #หมู่บ้านศรีนคร #ห้วยขวาง #บางกะปิ #พระราม9
#รีวิวศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #ความสุขของผู้สูงวัย #ดูแลจากใจ

ดื่มน้ำทันทีหลังตื่นนอนช่วยแก้ปัญหาเรื่องท้องผูกรู้แบบนี้แล้ว ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้วนะคะ 🥛
14/08/2025

ดื่มน้ำทันทีหลังตื่นนอนช่วยแก้ปัญหาเรื่องท้องผูก
รู้แบบนี้แล้ว
ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้วนะคะ 🥛

หลายคนมีปัญหาอาการท้องผูกแม้ว่ามันจะน่าหงุดหงิดและเจ็บปวด แต่วันนี้อาการเหล่านั้นจะหมดไป ด้วยมีวิธีง่ายๆ แก้อาการท้องผูก แบบเร่งด่วน ขับถ่ายไม่คล่องที่เราเอามาฝาก ลองเอาไปทำกันดู ได้ผลยังไงมาบอกกันบ้างนะคะ ^^
#ชีวจิต #น้ำ #แก้ท้องผูก

12 สิงหาคม “วันแม่แห่งชาติ” 🩵👵🏻💜🏡ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์ ขอแชร์ภาพบรรยากาศน่ารักอบอุ่นของกิจกรรมวันแม่ที่ทางศูนย์ของเราได้จัดขึ...
12/08/2025

12 สิงหาคม “วันแม่แห่งชาติ” 🩵👵🏻

💜🏡ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์ ขอแชร์ภาพบรรยากาศน่ารักอบอุ่น
ของกิจกรรมวันแม่ที่ทางศูนย์ของเราได้จัดขึ้น

🧠ผู้สูงอายุสมองเสื่อม อะไรๆก็ลืมไปบ้าง
แต่ “ความเป็นแม่” ไม่เคยจางหายจากใจ

🩵 “แม่” ทุกท่านยังให้คำอวยพรลูกๆ ได้อย่างไพเราะ
🩵 “แม่” ทุกท่านยังซาบซึ้งกับความรักที่ลูกๆ มอบให้
🩵 “แม่” ทุกท่านยังปรารถนาดีกับลูกๆ เสมอ

🩵 สุขสันต์วันแม่ ให้กับ “แม่” ทุกท่านค่ะ

#วันแม่แห่งชาติ #ไวฟ์ลี่ย์โฮมแคร์ #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #ผู้สูงอายุ #สมองเสื่อม #อัลไซเมอร์ #ดูแลผู้สูงอายุ

ที่อยู่

156 ซอยศูนย์วิจัย 6 แยก 26-1-2-1 (หมู่บ้านศรีนคร) แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
Bangkok
10310

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Vively Home Careผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram