Raja Cool - ราชาคูล

16/07/2025

สั่วมวลชนไทย กับกัญชา

ข่าวคลั่ง กับ กัญชา

# # กัญชา กับ อคติของนักข่าว

🌿 **ใช้กัญชาแล้วคลั่ง จริงหรือ?**
หลายสำนักข่าวยังคงรายงานข่าว “คลั่งเพราะกัญชา” แต่ความจริงคือ *การใช้กัญชาเพียงอย่างเดียวไม่ได้ทำให้คนคลั่งในทันที* แต่ปัจจัยสำคัญคือ “ความเปราะบางด้านสุขภาพจิตเดิม” หรือการใช้ร่วมกับสารอื่น เช่น แอลกอฮอล์หรือยากระตุ้น (Grinspoon, 2023) งานวิจัยจากหลายประเทศระบุว่าอัตราความเสี่ยงต่อพฤติกรรมรุนแรงจากผู้ใช้กัญชาอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับแอลกอฮอล์และยากระตุ้น (WHO, 2022) แต่ข่าว “คลั่ง” ถูกหยิบมาเสนอซ้ำ เพราะง่ายต่อการขายความกลัวและดึงความสนใจจากคนอ่านมากกว่า (Leafly, 2023)

---

📺 **ภาพลักษณ์กัญชาในอดีตจาก Propaganda ของภาครัฐ**
หลายคนยังจำภาพยนตร์โฆษณารัฐบาลยุค 70–90 ที่บอกว่ากัญชาคือ “ยาเสพติดร้ายแรง” ทั้งที่ในความเป็นจริงกัญชาเคยเป็นสมุนไพรทางการแพทย์และอุตสาหกรรมทั่วโลก การประกาศ “สงครามยาเสพติด” โดยสหรัฐอเมริกาในยุค Nixon ถูกส่งออกไปทั่วโลกผ่านสื่อและโครงการความร่วมมือทางการทูต ทำให้กัญชาถูกตีตราเป็น “ภัยร้าย” มากกว่าที่จะถูกอธิบายด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ (Hari, 2015; Baum, 1996) ผลลัพธ์คือสังคมไทยเรียนรู้เรื่องกัญชาผ่านสื่อทางเดียวเป็นเวลาหลายสิบปี (ศิริวรรณ, 2024)

---

👴 **Generation Gap: ผู้สูงวัยกับการยึดติดข้อมูลเดิม**
ผู้สูงวัย Gen Baby Boomer (อายุ 60 ปีขึ้นไป) และ Gen X (45–59 ปี) เติบโตมากับการเรียนรู้ด้าน “โทษของกัญชา” ผ่านหลักสูตรและข่าวสารจากภาครัฐ ข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อสุขภาพหรืออุตสาหกรรมแทบไม่ถูกอัปเดตในกลุ่มนี้ (King, 2022) เมื่อพฤติกรรมการเรียนรู้ใหม่ลดลง ข้อมูลที่พวกเขายึดถือจึงไม่ทันกับหลักฐานวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน (Pew Research, 2023) ปัญหาคือคนในกลุ่มนี้หลายคนเป็น *ผู้มีอำนาจกำหนดทิศทางนโยบายกัญชา* ทั้งในระดับราชการ นักการเมือง และผู้กำกับดูแลสื่อ ทำให้ “ความกลัว” ถูกส่งต่อผ่านกฎหมายและข่าวซ้ำไปซ้ำมา นอกจากนี้ ผู้สูงวัยกลุ่มนี้ยังเป็นฐานเสียงหลักของพรรคการเมืองหลายพรรคที่มักชูโยบายต้านกัญชาเพื่อเรียกคะแนนเสียงจากความกลัวที่พวกเขามีต่อกัญชา ซึ่งส่งผลต่อทิศทางนโยบายและกฎหมายกัญชาในประเทศไทย (ศุภชัย, 2025)

---

📚 **สรุป: ถึงเวลายกระดับความเข้าใจเรื่องกัญชา**
เมื่อพิจารณาในภาพรวม จะเห็นว่าภาพลักษณ์กัญชาถูกสร้างจากการ Propaganda ความเชื่อดั้งเดิม และความเข้าใจผิดที่ถูกย้ำซ้ำโดยสื่อ ทำให้เกิดอคติและความกลัวโดยไม่อิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ทั้งที่ปัจจุบันมีงานวิจัยยืนยันว่า “กัญชาไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของความรุนแรง” และมีศักยภาพในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม (UNODC, 2023) การสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของกัญชาที่แท้จริงควรอยู่บนฐานของ “ข้อมูลวิทยาศาสตร์” ไม่ใช่ความกลัว เพื่อให้สังคมไทยเดินหน้าอย่างมีวุฒิภาวะ และสร้างกฎหมายที่ตอบสนองต่ออนาคต ไม่ใช่อดีตที่หลอกหลอนเรามานาน

---

\ #กัญชา #ใช้กัญชาอย่างมีวุฒิภาวะ

**📌 อ้างอิง:**

* WHO (2022). [Cannabis and health](https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/cannabis)
* Grinspoon, P. (2023). [Cannabis: What the research says](https://www.health.harvard.edu/blog/medical-marijuana-what-the-research-shows-2021010721721)
* Hari, J. (2015). Chasing the Scream.
* Baum, D. (1996). Smoke and Mirrors: The War on Drugs and the Politics of Failure.
* King, M. (2022). [Generational differences in cannabis perceptions](https://www.pewresearch.org)
* UNODC (2023). [World Drug Report](https://www.unodc.org/unodc/en/data-and-analysis/world-drug-report-2023.html)
* Leafly (2023). [Debunking cannabis myths](https://www.leafly.com/news/cannabis-101/debunking-cannabis-myths)
* ศิริวรรณ (2024). รายงานนโยบายกัญชาในไทย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
* ศุภชัย (2025). การเมืองกัญชาไทย, สำนักพิมพ์สุขศาลา

#บทความ #บทความกัญชา #ข่าวคลั่งกับกัญชา

19/06/2025

ได้อะไรบ้าง?

“เปิดกัญชาเสรีครบ 3 ปี ไทยได้อะไรบ้าง?”

ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2022 ที่ไทยปลดล็อกการใช้กัญชาได้เสรี อุตสาหกรรมกัญชามีการเติบโตอย่างโดดเด่น ตำแหน่งงานอย่าง breeder และ grower มีปริมาณเพิ่มขึ้นเพื่อแข่งขันและพัฒนาสายพันธุ์คุณภาพสูงควบคู่ไปกับอาชีพ budtender และผู้ประกอบการร้านกัญชาที่ให้คำปรึกษาเรื่องการใช้กัญชาอย่างเชี่ยวชาญ ในห้องแล็บของโรงงานสกัด extraction facility นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยทำงานโดยสกัดสาร Cannabinoids และ Terpenes จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ ขณะเดียวกันบริษัทขายอุปกรณ์ปลูกทั้งระบบไฮโดรโปนิกส์ โคมไฟ LED และวัสดุแพ็กเกจจิ้งต่างก็รองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ influencer สายเขียวที่แจ้งเกิดเป็นหมื่นราย ผลักดันกระแสกัญชาให้เป็นที่แพร่หลาย ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เกิดตำแหน่งงานใหม่กว่า 12,000 ตำแหน่งภายใน 3 ปี (สำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ, 2025)

หลังการเปิดเสรี ไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านกัญชาของเอเชีย มูลค่าตลาดอุตสาหกรรมกัญชาในประเทศไทยประเมินไว้ที่กว่า 45,000 ล้านบาทในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตประมาณ 30% ต่อปี ผู้ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศตัดสินใจเทเงินเข้ามาลงทุน เพื่อพัฒนาโรงงานผลิตและศูนย์วิจัย ขณะเดียวกัน มูลค่าตลาดการท่องเที่ยวเชิงกัญชา (Green Tourism) อยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาทในปีเดียวกัน นักท่องเที่ยวสายเขียวจากสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรปเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ use case จริงในร้านและฟาร์มกัญชา คาเฟ่เฉพาะทาง และกิจกรรมเชิงการศึกษา ทำให้รายได้กระจายสู่ชุมชนท้องถิ่น (สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, 2025; การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, 2025)

การเปิดกว้างรับการวิจัยทำให้ไทยก้าวสู่เวทีวิชาการระดับโลก โครงการวิจัยของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบของ CBD ในผู้ป่วยข้ออักเสบเรื้อรัง ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ หลักสูตร Cannabis Therapy ที่มหาวิทยาลัยมหิดล และหลักสูตรเทคโนโลยีการสกัดสารกัญชาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เปิดสอนเสริมศักยภาพนักศึกษา ห้องปฏิบัติการร่วมกับโรงพยาบาลชั้นนำทดสอบความปลอดภัยและเภสัชจลนศาสตร์ของผลิตภัณฑ์ และผลงานวิจัยของนักวิจัยไทยได้รับทุนสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศมากขึ้น (มหาวิทยาลัยมหิดล, 2025)

พลวัตของอุตสาหกรรมกัญชาในไทยตลอด 3 ปีหลังการเปิดเสรีชี้ให้เห็นถึงการสร้างงานใหม่และมูลค่าการลงทุนข้ามชาติ การผลักดันให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายเขียว และการขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสารแคนนาบินอยด์ (cannabinoids) อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้ง CBD และ THC ซึ่งมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในการต้านการอักเสบ ลดความเจ็บปวด และบรรเทาอาการเรื้อรัง อย่างไรก็ตาม การติดตามผลระยะยาวผ่านการทดลองทางคลินิกและการกำหนดกรอบกฎหมายควบคุมมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยยังเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมให้ยั่งยืน (วารสารวิทยาศาสตร์การแพทย์, 2025)

“3 ปี เปิดเสรีกัญชาไทยสร้างงานใหม่ 12,000 ตำแหน่ง • นักท่องเที่ยวสายเขียวหลั่งไหล • งานวิจัยนานาชาติ พร้อมก้าวต่อเพื่อคุณภาพและความปลอดภัย” #เสรีภาพกัญชา

อ้างอิง
สำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติ. (2025). รายงานภาพรวมอุตสาหกรรมกัญชา. URL: https://nreresearch.go.th/cannabis2025
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2025). รายงานตลาดนักท่องเที่ยวสายเขียว. URL: https://tat.or.th/green-tourism2025
มหาวิทยาลัยมหิดล. (2025). ฤทธิ์ต้านการอักเสบของ CBD ในผู้ป่วยข้ออักเสบเรื้อรัง. URL: https://www.mahidol.ac.th/research/cbd2025
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. (2025). หลักสูตรเทคโนโลยีการสกัดสารกัญชา. URL: https://www.ku.ac.th/cannabis-tech2025
วารสารวิทยาศาสตร์การแพทย์. (2025). การประเมินผลระยะยาวของการใช้สาร Cannabinoid. URL: https://www.jmedsci.or.th/cannabinoid2025

#บทความ #บทความกัญชา #เปิดกัญชาเสรีครบ3ปีไทยได้อะไรบ้าง

11/06/2025

ลูกพี่มาเองเลยค้าบบบ #ซียู ✌️💚

ประกาศ!!! แขกรับเชิญสุดพิเศษของเราปีนี้ The Living Legend “𝗠𝗶𝗸𝗲 𝗧𝘆𝘀𝗼𝗻” ตำนานที่ยังมีลมหายใจผู้ไม่เคยยอมแพ้ จะมาเจอกับเราทุกคนแบบใกล้ชิด
22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1986 Mike Tyson ในวัย 20 ปี 4 เดือน คว้าแชมป์มวยโลกรุ่นเฮฟวี่เวต ทำให้เค้าเป็นแชมป์ในรุ่นที่อายุน้อยที่สุดตลอดกาล สร้างสถิติที่ยังไม่มีใครทำลายได้จนปัจจุบัน จากนั้นเพียง 252 วัน Mike Tyson เดินหน้าคว้าแชมป์ ครบ 3 สถาบันเป็นคนแรก ทั้ง WBC-WBA-IBF ชีวิตพุ่งสู่จุดสูงสุดแบบทะลุเพดาน ครองแชมป์ยาวนานนับสิบปีกวาดรายได้มากกว่า 400 ล้านดอลลาร์
“วันที่ตกต่ำ” จากสังเวียนสู่เรือนจำและล้มละลาย ชีวิตพลิกผัน สู่การเป็นหนี้ 23 ล้านดอลลาร์ ถูกฟ้องล้มละลาย ชีวิตวนเวียนเข้าคุกอยู่หลายรอบ จากจุดสูงสุดสู่ติดลบ เพราะการบริหารเงินและการใช้ชีวิตที่ผิดพลาด ทำให้เขาดับจากทุกวงการ
หลังจากหายไปนาน Mike คว้าโอกาสครั้งสำคัญในหนังเรื่อง “The Hangover” ทำให้ Mike เริ่มกลับมาได้ ปี 2021 Mike ได้เริ่มต้นใหม่กับธุรกิจ Tyson 2.0 จนทำให้เค้าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนกลายมาเป็นตำนานบทใหม่บนเส้นทางสายเขียว
“ผู้ไม่เคยยอมแพ้” ปี 2024 Mike ตัดสินใจกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งในวัย 58 โดยมีกำหนดชกไฟต์หยุดโลกกับ Jake Paul แต่ก่อนชก Mike เกิดอาการอาเจียนเป็นเลือดเพราะมีแผลในกระเพาะ ทำให้เขาเกือบเสียชีวิตต้องถ่ายเลือดไปเกือบครึ่งตัวน้ำหนักหายไป 10 กิโล Mike บอกว่า “ขอตายบนเวทีดีกว่าตายในโรงพยาบาล” 4 เดือนหลังจากนั้น เขาขึ้นชกกับ Jake Paul และยืนหยัดจนครบ 8 ยก ไฟต์นั้นมีคนดูพร้อมกันทั่วโลกกว่า 65 ล้านสตรีม สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้ง และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเค้าคือ ตำนานที่แท้จริง
วันนี้นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่งานเล็กๆ ของเราจะได้บุคคลระดับตำนานอย่าง Mike Tyson มาร่วมงาน ถือเป็นของขวัญครบรอบ 10 ปี ที่สุดพิเศษสำหรับเราทุกคน ต้องขอขอบคุณทีมงาน Tyson 2.0 และ TPO Wellness เป็นอย่างมากที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้
Mike Tyson จะมาเจอกับเราวันที่ 15 มิถุนายน เวลา 17.00-18.00 น. โดยที่เราจะจัดโซนถ่ายรูปให้ทุกคนได้มาถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด แต่ขอความกรุณางดขอลายเซ็น และงดสัมภาษณ์
ใครที่ยังไม่มีบัตรเข้างานซื้อได้ที่ลิงก์นี้ —> https://www.theconcert.com/highlandcafebkk/the-10th-thailand-420

11/06/2025

อาจทำให้ขี้เกียจจริงๆ ถ้าล่อ อินดิก้าเข้าไป โดยไม่รู้เวล่ำเวลาว่า ตอนไหนควรใช้อินดิก้า ช่วงไหนควรใช้ ซาติว่า หรือไฮบริด 🤣🤣🤣

กัญชาทำให้ขี้เกียจจริงหรือ?

ภาพจำว่าคนใช้กัญชาคือคนขี้เกียจ มักถูกวาดขึ้นจากสื่อในอดีตและการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐ ที่มุ่งเน้นสร้างความกลัวแทนความเข้าใจ โดยเฉพาะในยุคที่รัฐใช้นโยบายปราบปรามกัญชาเป็นเครื่องมือควบคุมสังคม กัญชาถูกจับคู่กับภาพของคนที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต เอาแต่นั่งเฉย ๆ และไร้ความรับผิดชอบ ทั้งที่ในชีวิตจริงไม่เคยมีใครตั้งคำถามกลับว่า พฤติกรรมแบบเดียวกันนี้หากเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้สารอื่น ๆ ทำไมจึงไม่ถูกมองว่า “ขี้เกียจ” แต่กลับถูกมองเป็นเรื่องปกติในบางสังคม [Hari, 2015].

หากพิจารณาอย่างเป็นธรรม การใช้กัญชาไม่ได้ทำให้ใครขี้เกียจโดยอัตโนมัติ เพราะความขยันหรือความเฉื่อยเป็นเรื่องเฉพาะตัว ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของแต่ละคนมีตั้งแต่บุคลิกส่วนตัว สภาพแวดล้อม ไปจนถึงสุขภาพจิต การใช้กัญชาอย่างมาวุฒิภาวะในบริบทที่เหมาะสม เช่น พักผ่อนหลังเลิกงาน ในวันหยุด ก่อนนอน หรือเพื่อช่วยให้ผ่อนคลายจากความเครียด ไม่ได้หมายความว่าผู้ใช้ขาดความรับผิดชอบแต่อย่างใด [Drug Policy Alliance, 2023].

ในความเป็นจริง คนใช้กัญชาหลายคนคือคนทำงานหนัก ศิลปิน โปรแกรมเมอร์ ครู พ่อค้า ไปจนถึงนักวิจัยที่มีคุณภาพในสายงานของตนเอง พวกเขาใช้กัญชาเพื่อเสริมคุณภาพชีวิต บางคนใช้เพื่อให้หลับง่ายขึ้น บางคนใช้เพื่อคลายวิตกกังวล คนกลุ่มนี้มีวุฒิภาวะพอที่จะรู้ว่าเวลาไหนควรใช้ และเวลาไหนควรหยุด ความเข้าใจที่ว่า “คนใช้กัญชาคือคนไม่เอาไหน” จึงควรถูกทบทวนเสียใหม่ เพราะผู้ใช้หลายคนเป็นตัวอย่างของการใช้กัญชาอย่างรับผิดชอบ เพียงแต่บุคคลเหล่านี้อาจไม่ได้เปิดเผยตัว เนื่องจากสังคมไทยยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่มองกัญชาด้วยความอคติหรือภาพจำจากอดีต [Carliner et al., 2017].

งานวิจัยทางประสาทวิทยาหลายชิ้นพบว่ากัญชามีผลต่อระบบรางวัล (dopaminergic reward system) จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าทำให้ผู้ใช้หมดแรงจูงใจเสมอไป สาร THC กระตุ้นการปลดปล่อยโดปามีนเฉพาะในช่วงเวลาสั้น ๆ และในระดับที่ร่างกายควบคุมได้ในผู้ที่มีสุขภาพจิตดี หากบุคคลมีแรงจูงใจเดิมอยู่แล้ว การใช้กัญชาไม่ได้ลดทอนแรงผลักดัน แต่กลับอาจช่วยลดความตึงเครียดที่เป็นอุปสรรคต่อ productivity ด้วยซ้ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณและบริบทการใช้ อีกทั้งผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัย UCL ยังพบว่า ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่ากัญชาทำให้เกิด amotivational syndrome หรือภาวะหมดแรงจูงใจเรื้อรัง ในผู้ใช้ทั่วไป และพฤติกรรมเชิง motivation หรือ พฤติกรรมที่สะท้อนแรงจูงใจหรือความตั้งใจในการลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างผู้ใช้กัญชาและไม่ใช้ [Lawn et al., 2022]. เช่นเดียวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สามารถบริโภคได้อย่างมีวุฒิภาวะ กัญชาก็สามารถใช้ได้ในลักษณะที่ไม่ส่งผลต่อหน้าที่ความรับผิดชอบในชีวิตประจำวัน หากมีสติและความเหมาะสมในการใช้ สังคมจึงควรเปิดพื้นที่ให้การใช้กัญชาอย่างรับผิดชอบเป็นเรื่องปกติ ไม่ต่างจากการยอมรับการดื่มที่มีสติและรู้ขอบเขตของตนเอง

อ้างอิง:

Hari, J. (2015). Chasing the Scream: The First and Last Days of the War on Drugs. Bloomsbury.

Drug Policy Alliance. (2023). Cannabis and Responsibility: Myth vs Fact.

Carliner, H. et al. (2017). Cannabis use and mental health: Risk and benefits. Harvard Review of Psychiatry.

Lawn, W. et al. (2022). Cannabis use and motivation: A review of current evidence. University College London.

#บทความ #บทความกัญชา #กัญชาทำให้ขี้เกียจจริงหรือ

23/05/2025

ใครบอกว่า กัญชา ติดง่าย? 😁😁😁

https://www.facebook.com/share/p/15HJa141S3/

น้ำตาล VS กัญชา

ใครจะไปคิดว่า "น้ำตาล" ที่หวานละมุนจะติดง่ายกว่า “กัญชา” เสียอีก! งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าน้ำตาลสามารถกระตุ้นระบบสมองที่เกี่ยวข้องกับการให้รางวัล (reward system) และที่น่าสนใจ แม้น้ำตาลจะดูร้ายแรงกว่าในเชิงของการเสพติด แต่สังคมกลับยอมรับได้ง่ายกว่าเยอะ เราไม่เคยเห็นใครพูดว่า “อย่ากินเค้กเยอะ เดี๋ยวติด” แต่เรากลับได้ยินว่า “อย่าสูบกัญชา เดี๋ยวติดยานะ!” ทั้งที่น้ำตาลนั้นมีความเกี่ยวข้องกับโรคอ้วน เบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งกัญชาไม่ได้แสดงออกในระดับเดียวกันในงานวิจัยส่วนใหญ่ (Lenoir et al., 2007; Di Marzo & Matias, 2005)ในการศึกษาจาก American Journal of Clinical Nutrition พบว่าการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปอาจทำให้เกิดการตอบสนองในสมองแบบเดียวกับสารเสพติด (Lustig, Schmidt, & Brindis, 2012) ขณะที่อัตราการเสพติดน้ำตาลทั่วโลกถูกประเมินว่าอาจสูงถึง 14–20% ของประชากร (Westwater, Fletcher, & Ziauddeen, 2016) ซึ่งมากกว่าการเสพติดกัญชา ที่มีอัตราอยู่ที่ ประมาณ 9% ของผู้ใช้ทั้งหมด (Lopez-Quintero et al., 2011)

กัญชาอาจดูเป็นผู้ร้ายในสายตาผู้ใหญ่หัวโบราณ แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ทั่วโลก มันคือพืชแห่งความผ่อนคลายที่บางทีก็มาแทนเบียร์ยามเย็น จากการศึกษาพบว่าการใช้กัญชาในระดับพอเหมาะ ไม่ได้สร้างอันตรายเทียบเท่ากับแอลกอฮอล์หรือนิโคติน และในบางกรณีอาจช่วยผู้ป่วยบางกลุ่มได้ด้วยซ้ำ (Lucas et al., 2013) แต่ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ เมื่อมีกัญชา ก็มักมี “ของหวาน” ตามมาเสมอ!

ว่ากันตามตรงแล้ว กัญชากับน้ำตาลนี่มันดูจะเกิดมาคู่กันจริงๆ! เมื่อฤทธิ์ของกัญชาเริ่มออกฤทธิ์ สิ่งแรกที่ผู้ใช้จำนวนมากจะรู้สึกคือ “หิวของหวาน” ชนิดที่ต่อให้เมื่อกี้กินอิ่มมื้อใหญ่แค่ไหน พอ high ปุ๊บ ตู้เย็นกับชั้นขนมก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “munchies” และมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์รองรับชัดเจน งานวิจัยใน Nature Neuroscience ระบุว่ากัญชากระตุ้นระบบประสาทส่วนที่ควบคุมกลิ่นและรสให้ไวขึ้น ทำให้ทุกอย่างดูหอมและอร่อยขึ้นกว่าปกติ (Bellocchio et al., 2010) นั่นทำให้เค้ก ช็อกโกแลต หรือซีเรียลหวานๆ กลายเป็นพระเอกหลังสูบกัญชาในทันที เรียกได้ว่าใครที่เป็นสายเขียว ก็แทบต้องมีของหวานติดตู้เย็นในบ้านไว้ตลอดเวลา

ในทางวิชาการ ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการเสพติดของทั้งน้ำตาลและกัญชา แม้จะมีความต่างด้านกลไก แต่กลับมีจุดร่วมคือการกระตุ้นวงจรโดปามีนและการเสริมแรงเชิงบวก (positive reinforcement) การศึกษาโดย Lenoir et al. (2007) พบว่าในบางกรณี หนูทดลองเลือกน้ำตาลแทนโคเคนซ้ำๆ เมื่อมีตัวเลือก พร้อมกันนั้น Lopez-Quintero et al. (2011) ยังชี้ว่าอัตราการเสพติดกัญชานั้นต่ำกว่าสารเสพติดหลักๆ อย่างนิโคติน (32%) หรือเฮโรอีน (23%) อย่างชัดเจน สิ่งนี้สะท้อนว่า “ความพอดี” ต่างหากที่เป็นหัวใจสำคัญ ไม่ว่าคุณจะหลงใหลความหวานหรือสายเขียว ทุกอย่างที่มากเกินไป…ย่อมกลายเป็นโทษเสมอ

อ้างอิง:

Lenoir, M., Serre, F., Cantin, L., & Ahmed, S. H. (2007). Intense Sweetness Surpasses Co***ne Reward. PLoS ONE, 2(8), e698. https://doi.org/10.1371/journal.pone.0000698

Lustig, R. H., Schmidt, L. A., & Brindis, C. D. (2012). Public health: The toxic truth about sugar. Nature, 482(7383), 27–29. https://doi.org/10.1038/482027a

Westwater, M. L., Fletcher, P. C., & Ziauddeen, H. (2016). Sugar addiction: the state of the science. European Journal of Nutrition, 55(2), 55–69. https://doi.org/10.1007/s00394-016-1229-6

Lopez-Quintero, C., Pérez de los Cobos, J., Hasin, D. S., et al. (2011). Probability and predictors of transition from first use to dependence on ni****ne, alcohol, cannabis and co***ne: results of the National Epidemiologic Survey on Alcohol and Related Conditions (NESARC). Drug and Alcohol Dependence, 115(1–2), 120–130. https://doi.org/10.1016/j.drugalcdep.2010.11.004

Bellocchio, L., et al. (2010). Cannabinoid receptors control food intake and olfactory sensitivity in mice. Nature Neuroscience, 13(3), 325–332. https://doi.org/10.1038/nn.2514

Lucas, P., Walsh, Z., Crosby, K., et al. (2013). Cannabis as a substitute for alcohol and other drugs: A dispensary-based survey of substitution effect in Canadian medical cannabis patients. Addictive Behaviors, 40, 162-166. https://doi.org/10.1016/j.addbeh.2014.07.011

Lenoir, M., Serre, F., Cantin, L., & Ahmed, S. H. (2007). Intense sweetness surpasses co***ne reward. PLoS ONE, 2(8), e698. https://doi.org/10.1371/journal.pone.0000698

#บทความ #บทความกัญชา #กัญชา #น้ำตาล

20/04/2025

🌈

28/01/2025

สวัสดีวันตรุษจีน🧧🎉
💚🌈💚🌈
🫰ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว กิจการเจริญรุ่งเรือง สำเร็จสมดั่งใจหมาย มีชัยชนะและเงินทองไหลมาเทมาตลอดทั้งปีและตลอดไป
" ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ กงสี่ฟาไฉ " 💖

22/06/2024

กัญชารักษามะเร็งปอด

#กัญชากับมะเร็งปอดระยะแพร่กระจาย
การใช้กัญชาควบรวมกับการรักษามะเร็งแผนปัจจุบัน

ข้อมูลจากปี 2562 และเป็นชีวิตจริง ที่เพื่อนที่เป็นแพทย์ส่งมาให้
เรื่องนี้เป็นชีวิตจริง
จะเป็นผลจากอะไรนั้นแต่ถ้าคนป่วยดีขึ้นน่าจะใช้เป็นโอกาสอันดีที่จะนำมาศึกษาว่า มะเร็งชนิดนั้นๆ มีอะไรเป็นพิเศษ และกัญชาที่ใช้มีส่วนประกอบอะไรที่ชัดเจน และคนป่วยมีสภาวะการตอบสนอง ด้วยการวัด biomarkers ตัวอะไร เพื่อเป็นการพัฒนาการรักษาผสมผสานเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดกับผู้ป่วยไม่ใช่เป็นการเคลมว่า กัญชารักษาได้อย่างเดียว จะเป็นการเสียประโยชน์ของคนป่วย

ส่งจาก สหายกัญชาที่เป็นแพทย์
เคสนี้ ชายอายุ 46 ปี
อาชีพช่างไฟฟ้าและช่างแอร์
(เปิดและมุดฝ้าเพดาน ซึ่งคือจุดที่โรยยาฉีดปลวก//ยากำจัดหนู)
(ล้างแอร์ พุ่นเอาสิ่งสกปรกออกมา)
มีอาการไอเรื้อรังและไอเป็นเลือด1เดือน
วินิจฉัยมะเร็งปอด ชนิด NSC
ได้กัญชาหยด ก่อนได้ ยามุ่งเป้า 1-2 สัปดาห์
มาตรวจติดตาม 7 เดือน ตรวจปอด
Oxygen Saturation 99-100 %
รอผล CT Chest มีนาคม 2563
การสูบ แนะนำ แบบผ่านบ้องน้ำ
จะคล้ายหลักการพ่นยาผ่าน Nebulizer
================================
สวัสดีค่ะคุณหมอ และทีมงาน ผู้ป่วยและคนดูแลผู้ป่วย ในเคสของดิฉันที่แฟนเป็น
#มะเร็งปอดระยะแพร่กระจาย ค่ะ ผลจากการใช้น้ำมันกัญชาแบบหยดใต้ลิ้น แบบสูบ และต้มดื่มกิน โดยใช้ควบคู่กับยามุ่งเป้าแผนปัจจุบัน ระยะเวลาประมาณเดือนกว่า ผลปรากฏว่ามะเร็งที่แพร่กระจายเกือบเต็มปอด ลดลงมากค่ะ เหลือเป็นจุด4-5จุด ค่ะเลือดใกล้เคียงคนปกติ แม้ว่ายังไม่หาย 100% แต่ก็เป็นนิมิตหมายที่ดีมากสำหรับครอบครัวดิฉันมากค่ะ
ดิฉันและแฟนขอกราบขอบพระคุณหมอและทีมงาน และผู้ป่วยและผู้ดูแลที่แชร์ประสบการณ์ ให้ได้อ่านได้ศึกษา และที่จะลืมมิได้เลย .............. ที่แนะนำให้รู้กัญชา วิธีการใช้โดยเฉพาะมะเร็งปอดต้องใช้แบบสูบ
ได้ทันเวลาทำให้มะเร็งไม่ได้แพร่กระจายไปที่อื่น ขอบคุณมากนะคะ
แนบผลเอ็กซเรย์ปอดมาให้ดูค่ะ
ภาพแรกเป็นผลล่าสุด คือวันนี้12/6/62
ภาพสอง คือผลเมื่อเดือนที่แล้วประมาณ 15/5/62 ค่ะ

ระหว่างการรอผลเลือดว่าสามารถใช้ยามุ่งเป้าตัวที่คุณหมอแนะนำได้มั๊ย
พี่ให้แฟนใช้น้ำมันกัญชาแบบหยดใต้ลิ้นเช้าเย็น ครั้งละ 2 หยดก่อน และ
แบบสูบใช้ช่วงกลางวัน และกลางคืนก่อนนอนค่ะ ก่อนจะใช้ยามุ่งเป้าของรพ. ประมาณเกือบอาทิตย์ค่ะ นับว่าเป็นความโชคดีมากที่ได้รู้จักกลุ่มนี้ และสมาชิกในกลุ่มที่ช่วยแนะนำและได้แบ่งปันยาให้ทันเวลา ก่อนที่จะใช้ยามุ่งเป้า เพราะตัวยาแรงมาก บางคนถึงกับทานข้าวไม่ได้ แต่แฟนก็เป็นตุ่มขึ้นคล้ายสิวเต็มหน้านะคะ แต่กินข้าวได้อร่อยอยู่ เพราะได้หยดน้ำมันและดื่มชา กัญชา เลยไม่มีตุ่มหรือแผลที่ข้างในค่ะ.........

เมื่อวานมาหา แข็งแรงมากค่ะ

คนไข้แข็งแรงดีค่ะ มาหาเมื่อวาน (26/12/62) จากสระบุรี ขับรถมากันเองกับภรรยา

17/11/2023

#กัญชามีอยู่ในตัวของทุกคน

https://www.facebook.com/100064749694453/posts/733470005487983/?mibextid=Nif5oz

ท่ามกลางเสียงของวงการแพทย์ที่มองกัญชาต่างออกไป ในความหมายว่ากัญชาเป็นยาเสพติด เสียงของ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เห...

25/10/2023

Thank you❤️❤️🙏🙏

25/10/2023

22/10/2023

Welcome back💚
Thank you 🙏🌈