Light Heart - Art for Well-being

Light Heart - Art for Well-being ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Light Heart - Art for Well-being, นักบำบัด, Bangkok.

‘Light Heart - Art for Well-being’ is a therapeutic service aimed to bring the beauty and effectiveness of art therapy to everyone who believe they deserve a lighter, more joyful heart.

ทางเพจกำลังเปิดรับสมัครลูกค้าที่สนใจทำศิลปะบำบัดในสถานที่เป็นส่วนตัว ซอยงามดูพลีสนใจ inbox มาคุยกันได้นะคะ Credit - Jaso...
05/05/2025

ทางเพจกำลังเปิดรับสมัครลูกค้าที่สนใจทำศิลปะบำบัดในสถานที่เป็นส่วนตัว ซอยงามดูพลี

สนใจ inbox มาคุยกันได้นะคะ

Credit - Jason Beckett via Your Therapist Needs a Therapist FBs

ข้อคิดสำหรับพ่อแม่ทุกคน จาก The School of Life สถาบันเพื่อความเข้าใจชีวิตในประเทศอังกฤษที่ก่อตั้งโดยปราชญ์ Alain de Bott...
06/04/2023

ข้อคิดสำหรับพ่อแม่ทุกคน จาก The School of Life สถาบันเพื่อความเข้าใจชีวิตในประเทศอังกฤษที่ก่อตั้งโดยปราชญ์ Alain de Botton

INSTRUCTIONS FOR PROSPECTIVE PARENTS
It’s often said that no one can ever really say what a good parent is, let alone draw up a checklist for a prospective one. We politely disagree:
1. It’s fundamentally about love, properly understood: a willingness to put one’s whole life aside for fifteen years at least in order to enter imaginatively into someone else’s boundlessly delicate and perplexing experience. It’s about an unfamiliar word: sacrifice.
2. Soften whatever you need to say, moderate your anger, attenuate your frustrations. Edit yourself. You are meant to be playing a role. This is a very small and very fragile being you’ll have on your hands. They’ll notice everything you do and are. And will, at the start (when it really counts) blame themselves for every error you make.
3. Get on top of your issues for the requisite hours of duty. Your neuroses will no longer be a charming indulgence. The person you’ll put on the earth will be around for some 90 years and how you perform in the first 10 will be everything. No one is forcing you to do this. You’re volunteering on the implicit basis that you have the necessary skills. Your audience will not be impressed if you don’t and has no need to be forgiving.
4. Let yourself be ‘boring.’ No one wants an exciting parent. Just a reliable and humane one. Try not to go mad. Allow them to be the crazy centre of attention for as long as it takes.
5. Don’t use your 35 year head start to intimidate. Appreciate all the temptations - and quash them one by one.
6. Don’t hold it against them that they might have a nicer life than you: Allow them to be more intelligent, successful and happy than you have ever been; that’s a prize, not a humiliation.
7. Make sure your sexuality is resolved. Do not take them into your loneliness or employ them as a crutch. The rest doesn’t even need to be said.
8. Try to get on with your partner - and when you no longer can (few do) hate them very politely.
9. Understand that bad behaviour will always be a symptom of something missing; try to find out what it is.
10. Don’t require that they always be ‘good’: prefer that they be real, with all the dramas that will entail.
12. Allow yourself to be hated sometimes. Be prepared to be the bad guy in the name of directing them to what they need, not what they want.
13. Prepare to fail substantially - and to accept failure with a thorough lack of defensiveness. Offer them a map to their likely neuroses early on. Pay for their first therapist.
14. There’s in fact only one rule in the end, not fourteen: Love Them Properly.

17/01/2023

ถาม-ตอบ EP 3: ชายหนุ่มที่โดนพ่อทอดทิ้งวัยเด็ก ผิดมั้ยที่โล่งใจเมื่อได้ยินว่าพ่อตกสะพานเสียชีวิต แม้บอกตัวเองจะดูแลพ่อให้ดีที่สุดในบั้นปลาย?

💌 ถึง Light Heart

พ่อแม่ผมเลิกกันตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมมีพี่น้อง 3 คน ตัวผมอยู่กับยาย ส่วนพ่อกับแม่แยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่

จากนั้นแม่ผมเสีย พ่อก็ยังอยู่กับครอบครัวใหม่ จนกระทั่งเมื่อสิบกว่าปีก่อน เมียใหม่พ่อเสียชีวิต และพ่อก็โดนรีไทร์งาน และเอาเงินก้อนที่ได้จากการรีไทร์ไปช่วยส่งเสียญาติพี่น้องเมียใหม่จนหมดเกลี้ยง

ผมจึงขอร้องให้พ่อกลับมาอยู่กับผม ผมรักพ่อมากๆ ทั้งที่พ่อไม่เคยดูแลผมเลย เมื่อก่อนพ่อเป็นคนน่ารัก ใจดี แต่เมื่อมาอยู่ด้วย พ่อเปลี่ยนไปมาก เจ้าอารมณ์และไม่ฟังความเห็นคนอื่น รวมทั้งยาย ป้า พี่น้องทุกคน แล้วก็เสียงดังจนไม่มีใครทนได้ เหลือแค่ผมกับภรรยาและลูก

ผมไม่สามารถพูดคุยอะไรกับพ่อได้เลย พ่อเป็นเกาท์ แต่ผมคิดว่าอาจะเป็นโรคประสาทด้วย เพราะเวลาพาไปหาหมอก็ตะคอกใส่หมอ จนหมอระอา และพ่อก็ไม่ยอมรับการรักษา หาว่าหมอเลี้ยงไข้

พ่อชอบใส่อารมณ์กับลูกเมียผม วันนึงผมจึงด่าพ่อ และพาลูกเมียก็หนีไปนอนบ้านญาติ จนมาทราบข่าวว่า มีชายสูงวัยตกสะพานตายและมีกล้องวงจรปิด มีความเป็นไปได้จะเป็นพ่อผมในวันนั้น

ผมก็ออกตามหาและภาวนาให้พ่อมีชีวิตอยู่ สัญญากับตัวเองว่า แม้พ่อจะบ่น จะเสียงดัง จะทำอะไร ผมจะดูแลพ่อให้ดีกว่าเดิมและเข้าใจพ่อให้มากๆ แต่พอมาไล่วงจรปิด คนที่ตกสะพานเป็นชายสูงอายุอีกคนซึ่งไม่ใช่พ่อผม

จนเวลาผ่านไป ชีวิตผมเข้าสู่วงจรเดิม พ่อใช้อารมณ์ เก็บตัว หลบหน้าเวลาผมกลับจากทำงาน และจะออกมานอกห้องเวลาผมเข้านอน แบบนี้ทุกวัน ผมกับภรรยาเหนื่อยกับงานแล้ว หมดแรงจะพยายามปรับความเข้าใจ เพราะคุยกันทีไรก็อารมณ์ขึ้น อึดอัดเหลือเกิน

เรื่องราวของผมก็มีแค่นี้ครับ ยังไงก็ขอบคุณนะครับ

ชัย
————————————————————————-

✍🏻 ถึง คุณชัย

ก่อนอื่น ขอแสดงความชื่นชมคุณชัยที่ดูแลคุณพ่อ ทั้งๆ ที่คุณพ่อไม่ได้ดูแลเราในวัยเด็ก แม้บางทีเราจะรู้สึกโล่งใจเมื่อคิดว่าท่านไปสบายแล้ว และรู้สึกผิดที่คิดแบบนั้น สลับไปมา ยังไงก็ต้องให้กำลังใจตัวเองนะคะ ที่เป็นคนมีความเมตตา ใจดีเลี้ยงดูคุณพ่อ

✨ ผิดไหม?

ไม่แปลกเลยที่เราจะทรมานกับสถานการณ์นี้ เพราะจะสุขก็สุขไม่ได้ จะทุกข์ก็อาจไม่ 100% ตัดขาดพ่อไม่ได้ แต่รักพ่อไม่ได้เช่นกัน

คุณพ่อคุณชัยเองอาจมีบาดแผลหรือเจออะไรในชีวิตมาที่หล่อหล่อมให้ท่านเป็นแบบนี้ คือ “บุญมี แต่กรรมบัง” มีลูกชายที่ยินดีดูแลท่านในยามแก่เฒ่า แต่ท่านไม่สามารถจะซาบซึ้งในจุดนี้ อีกทั้งยังทำอะไรที่บั่นทอนจิตใจ มันจึงเป็นความอิหลักอิเหลื่อ เหมือนเราอยากจะได้พ่อ แต่ได้เพียงร่างกายของท่านที่มาอยู่บ้านเรา จิตใจของท่านเราไม่อาจชนะใจให้รักและให้ความอบอุ่นกับเราแบบที่อยากได้ แต่จะให้ตัดขาดก็ทำไม่ลง

✨ มุมมองที่อยากแชร์ให้คุณชัย มีประมาณนี้นะคะ

• ข้อแรก เข้าใจก่อน ว่าความรู้สึก “ทั้งรักทั้งเกลียด” เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แม้ในครอบครัวที่อบอุ่นใกล้ชิดกัน ในกรณีของคุณชัยกับคุณพ่อ ซึ่งเกิดการทอดทิ้งจากคุณพ่อในวัยเด็ก รวมทั้งการใช้วาจาไม่ดี ระบายอารมณ์ในบั้นปลายของพ่อ ย่อมทำให้เราเกิดความรู้สึกแบบนี้แน่นอน

• ขอให้ชื่นชมตัวเองที่เป็นมนุษย์ปุถุชน มีความรู้สึกตามที่สมควร และไม่ต้องพยายามจะรักพ่อมากเกินกว่าที่เรารู้สึกจริงๆ เพียงแต่มองพ่อด้วยความเมตตา เข้าใจในสิ่งที่ท่านเป็นวันนี้

• เมื่อเราพอจะเห็นภาพท่านเป็นเด็กหรือชายหนุ่มคนหนึ่งที่อาจจะเจอด้านร้ายๆ ของชีวิตมา ทำให้กลายเป็นพ่อและผู้สูงอายุที่มีขีดจำกัดมากมาย เราอาจจะปล่อยวางความอึดอัด ความโกรธท่านลงได้ รวมทั้งเลิกคาดหวังในสิ่งที่ท่านให้เราไม่ได้ คือ ความรัก ความเข้าใจ การดูแลที่พ่อพึงมีให้ลูก หรือปู่พึงมีให้หลาน เพราะท่านเองอาจไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ หรือไม่ก็มีทิฐิมานะ มีกำแพงกั้นอยู่

• เปรียบเหมือนการให้ที่พักพิงกับสัตว์โลกชีวิตหนึ่งซึ่งบาดเจ็บมา เค้าอาจจะแว้งกัดเราได้บ้างเมื่อยามตื่นตระหนก เราต้องเข้าใจและป้องกันตัวเองตามเหมาะสม ในขณะที่รู้สึกยินดีที่ได้เป็นที่พึ่งให้กับชีวิตนั้น และไม่คาดหวังให้เค้าเป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่องน่ารัก

• ข้อสอง เรื่องการจัดการ เราดูแลให้ท่านมีที่อยู่ปลอดภัย มีอาหารอิ่มท้อง ป่วยไข้ได้รักษาก็เรียกว่าทำหน้าที่ของลูกที่ดีมากๆ แล้ว การที่ท่านจะขุ่นมัว ด่าทอ หรือทำให้บรรยากาศในบ้านเสียนั้น เราต้องพิจารณาดูว่า อยู่ในระดับไหน

• หากในระดับที่พอรับได้กันทั้งครอบครัว และใช้วิธีเลี่ยงๆ ได้บ้าง เช่น ไปหาอะไรกินกันนอกบ้านกันกับลูกเมีย หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ่อยๆ และให้คุณพ่ออยู่ที่บ้าน อันนี้ก็ลงตัว และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกของคุณชัย ในแง่การดูแลพ่อแม่ยามแก่ โดยคุยกับลูกเมียให้เข้าใจถึงข้อจำกัด และวิธีรับมือกับคุณปู่ในยามฉุนเฉียว เป็นต้น

• หากว่าอยู่ด้วยกันแล้วบั่นทอนมากจริงๆ แบบบ้านจะแตก หรือคุณพ่อมีอาการทางจิตทำให้ก้าวร้าวมากขึ้นๆ เกินเราจะดูแลไหว (ซึ่งบางทีผู้สูงอายุก็เป็นแบบนี้ได้ มาจากความเสื่อมของร่างกาย) แนะนำให้พาท่านไปอยู่บ้านพักคนชราหรือสถานพยาบาลที่มีผู้ดูแลเฉพาะทาง พี่น้องหลายคนน่าจะช่วยกันออกค่าใช้จ่าย แบ่งเบากันไปได้นะคะ

ด้วยความปรารถนาดี

Light Heart – Art for Well Being✨

17/01/2023

ถาม-ตอบ EP 3: ชายหนุ่มที่โดนพ่อทอดทิ้งวัยเด็ก ผิดมั้ยที่โล่งใจเมื่อได้ยินว่าพ่อตกสะพานเสียชีวิต แม้บอกตัวเองจะดูแลพ่อให้ดีที่สุดในบั้นปลาย?

การให้อภัย อาศัยความเข้าใจว่า เรื่องไม่ดีที่คนอื่นทำกับเรามาจากความเป็นทุกข์ของเขา มากกว่าความตั้งใจจะทำร้ายเรา (ไม่ง่าย...
13/01/2023

การให้อภัย อาศัยความเข้าใจว่า เรื่องไม่ดีที่คนอื่นทำกับเรามาจากความเป็นทุกข์ของเขา มากกว่าความตั้งใจจะทำร้ายเรา

(ไม่ง่ายเลยที่จะมองแบบนี้ได้ แต่เมื่อไรที่ทำได้ Light Heart ✨ ใจเบาสบาย ของจริง)

The roots of awful behaviour lie – far more often than the unforgiving can admit – in terror and anxiety. Faced with the antics of our species, one should be moved more to profound pity than to indignation, more to sorrow than to fury.

To learn more of the art of forgiveness, find our full article on the topic below:
https://www.theschooloflife.com/article/on-forgiveness/

14/12/2022

ถาม-ตอบ EP 2: ชายหนุ่มเติบโตมากับคุณอาหญิงที่เข้มงวดและชอบลงโทษ และพบแฟนที่คล้ายกันมาก

💌 ถึง Light Heart

“ผมชื่อหนุ่ยนะครับ อายุ 24 มีปัญหาเกี่ยวกับจิตใจมาตั้งแต่เด็กๆ ละครับ ตอน 5 ขวบ พ่อแม่เลิกกัน ผมเลยอยู่ในการดูแลของคุณปู่คุณย่า และคุณอา น้องสาวพ่อที่อยู่ในรั้วเดียวกัน

คุณอาตั้งกฎให้ผมเข้าบ้านก่อน 2 ทุ่ม ถ้าเลย 2 ทุ่มไปแล้วเขาจะตี ความที่ผมเป็นเด็ก ก็กลับบ้านตามเวลา แต่ มีครั้งนึงถึงบ้านตอน 20:01 ผมเลยโดนตี เคยลองกลับบ้าน 19:00 กว่าๆ ก็ยังโดนตี สาเหตุคือ คุณอามองว่าผมติดเล่นเกินไป เขาให้เรียนอย่างเดียว ความเข้มงวดแบบนี้เริ่มตั้งแต่ผม 5 ขวบ เลยฝังใจอยู่ทุกวันนี้

พอโตขึ้นหน่อยคุณอาก็กดดันเรื่องเรียน ตอนม.ต้น ก็โดนด่าเรื่องเกรดตก จากที่เคยทำได้ 3.5 ตอนม.2 พอขึ้น ม.3 ได้ 3.47 โดนยึดโทรศัพท์ไปเลยเพราะคุณอาคิดว่าไม่ตั้งใจเรียน ช่วงม.ปลายดูเหมือนคุณอาคลายความเข้มงวด แต่แล้วพอขึ้นมหาวิทยาลัยปี 1 ก็กลับมาหนักอีก ช่วงนั้นมีกิจกรรมต้องกลับตี 2 คุณอาด่าว่า “มึงกลับดึกขนาดนี้ก็ไปอยู่ที่ม.เลยไป” เขาไม่เข้าใจเรื่องกิจกรรมทั้งๆ ที่อาจารย์ และคนที่บ้านอธิบายแล้ว

หลังจากนั้น ผมมีแฟนคนแรก และพามาแนะนำกับที่บ้าน อาผมไม่เห็นด้วยเรื่องมีแฟน ตอนนั้นผม 20 พอดี ก็ทะเลาะกันทุกวันเรื่องแฟนผมเนี่ยแหละ จนผมตั้งใจเรียน focus เรื่องเรียนเรื่องรักด้วย จนเราทั้งคู่ได้เกรดดีมากๆ ได้รับรางวัลเรียนดีด้วย แต่คุณอาก็เพิกเฉย จากนั้นก็ทะเลาะกับอาหนักขึ้น ผมไปฝึกงานที่ภูเก็ต เขายังขับรถมาด่าถึงที่ว่าทำไมไม่ฝึกงานที่บ้านทั้งที่ผมเคยคุยกับครอบครัวใหญ่แล้วว่า สาขาผมเรียนต้องฝึกงานในจังหวัดท่องเที่ยว เป็นแบบนี้จนผมเลิกกับแฟน

เรื่องแฟนเนี่ย เลิกกันไป 2 ปีละครับ แต่ผมยังเครียดอยู่ ที่เลิกกันเพราะเขาแค้นผม เรื่องมีอยู่ว่า ตอนฝึกงาน ผมมีหน้าที่ให้คำแนะนำนักท่องเที่ยว แล้วมีฝรั่งคนนึงอยากไปเที่ยวเกาะ ผมเลิกงานพอดี ผมเลยขออนุญาตแฟนพาฝรั่งไปเที่ยว (ตอนนั้นแฟนอยู่อีกจังหวัด) เขาก็อนุญาต ตัวผมไม่ได้มีอะไรกับฝรั่งเลย แต่เรื่องเกิดเพราะแฟนผมมีรหัสเฟซบุ๊ค ไอจีผม และมาเห็นข้อความที่ผมส่งบอกฝรั่งให้เดินทางดีๆ แล้วเข้าใจว่าผมมีอะไรกับฝรั่ง ก็ทะเลาะกันหนักมาก แต่สุดท้ายเคลียร์กันได้

หลังเรียนจบ แฟนผมเริ่มแปลกไป คือเริ่มพูดว่า เราเป็นเพื่อนกันดีกว่า พูดแบบนี้เกือบทุกวัน แต่ผมไม่ได้คิดอะไรมาก ผ่านมา 9 อีกเดือนกว่าๆ ถึงได้รู้ความลับว่า แฟนผมไปมีอะไรกับคนอื่นเพื่อแก้แค้นผมที่ผมพาฝรั่งไปเที่ยว พอผมรู้ความจริงก็เลิกกัน และคุยกันแบบเพื่อน ผ่านมา 2 ปีก็คุยกันดีอยู่ แต่ก็ยังอยากกลับไปนะ

ยังมีเรื่องอีกเยอะแต่แค่นี้ก่อนครับ”

หนุ่ย

————————————————————————-

✍🏻 ถึง คุณหนุ่ย

ความทรงจำและชีวิตของคุณหนุ่ยนั้นผูกพันอยู่กับคุณอา และเริ่มต้นชัดๆ เมื่ออายุ 5 ขวบที่คุณพ่อคุณแม่เลิกกัน แม้คุณปู่คุณย่าเป็นผู้ดูแลอย่างเป็นทางการ แต่คุณอาน่าจะเป็นตัวแทนของพ่อแม่และมีอิทธิพลทางจิตใจกับเรามาก เดาว่าคุณอาคงจะโสด จึงได้มีบทบาทในชีวิตคุณหนุ่ยเป็นพิเศษ

เมื่อคุณพ่อคุณแม่คุณเลิกกันและออกไปจากระบบครอบครัวนี้ บทบาทของคนในครอบครัวย่อมเปลี่ยนไป ทุกคนทำหน้าที่ในการดูแลเด็กชายหนุ่ย ในแบบที่ตัวเองทำได้ เช่น บางคนดูแลเรื่องการกินอยู่ ไปโรงเรียน ค่าใช้จ่าย บางคนดูแลเรื่องความประพฤติ การเรียน

คุณอาก็อาจจะได้รับมอบหมาย หรืออาสามาดูแลในแง่ความประพฤติและการเรียน และด้วยสไตล์ส่วนตัวหรือแนวคิดบางอย่างทำให้คุณอาเข้มงวดกับคุณหนุ่ยมาก หรือไม่ก็เป็นไปได้ว่าการที่คุณอาเป็นคนเข้มงวดระดับนี้ เป็นเพราะระหว่างลูกๆ ทุกคนของคุณปู่คุณย่านั้น มีบางคนถูกคาดหวังให้ต้องเป๊ะ ต้องเจ้าระเบียบ ในขณะที่บางคนอาจจะได้อิสระมากกว่า

อย่างไรก็ตามอันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณอา ที่เราเองไม่อาจทราบได้ชัดเจน

สิ่งสำคัญคือตัวคุณหนุ่ย ที่น่าจะเซ็งและเครียดจากความสัมพันธ์กับ “ผู้หญิง” ในชีวิต คือคุณอา และแฟนเก่า และเราจะทำยังไงดีเพื่อให้มีความสัมพันธ์กับคนเหล่านี้ในแบบที่เป็นสุขขึ้น

สิ่งที่คุณอาและแฟนเก่าของมีคล้ายกันคือ การชอบควบคุมและลงโทษคุณหนุ่ย เช่น คุณอาพยายามควบคุมให้กลับบ้านตรงเวลา ตั้งใจเรียน ฝึกงานแบบนี้ๆ สำหรับแฟนเก่า การมี password เข้าโทรศัพท์หรือ social media ของเราถือว่าเป็นการควบคุมอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ วิธีที่ผู้หญิงสองคนนี้ใช้ “ลงโทษ” ก็โหดเกินไป เช่น กดดัน ด่าทอ หรือขับรถทางไกลมาเพื่อระบายอารมณ์ใส่เรา (คุณอา) ไปนอนกับคนอื่น (!) เพียงเพราะสงสัยว่าเรานอกใจ (แฟนเก่า)

สำหรับทั้งสองกรณี วิธีที่คุณหนุ่ยเล่าเรื่องนี้ก็ดูสงบมาก ทั้งๆ ที่น่าจะโกรธหรือเสียใจไม่น้อย เรื่องที่กระทบใจเราหนักขนาดนี้ ขอแนะนำให้ทำความเข้าใจกับมัน แสดงความโกรธ ความเสียใจออกมา และปรับความเข้าใจกับอีกฝ่ายนะคะ หากเก็บไว้มากๆ จะทำให้เรามองอะไรผิดเพี้ยนไปหรือไม่ก็มีปัญหาสุขภาพในภายหลัง

คนเรามักแสวงหาความคุ้นเคย บางที “คลิก” กับคนคนนึงเพราะลึกๆ เค้ามีอะไรบางอย่างเหมือนพ่อแม่หรือผู้ที่เลี้ยงดูเรามา แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบก็ตาม เช่น ผู้หญิงบางคนมีพ่อติดเหล้า พอมีแฟน ก็ได้แฟนติดเหล้าอีกทั้งๆ ที่คนนอกมองดูแล้วก็คิดว่า เค้าน่าจะหนีให้ไกลคนแบบนี้รึเปล่า นี่คืออำนาจของจิตใต้สำนึกที่มักไปจูนกับสิ่งที่เราคุ้นเคยจนติด

ไม่แน่ใจว่าทำไมคุณหนุ่ยถึงยังเครียดแม้เลิกกับแฟนเก่ามาเป็นปีๆ แล้ว ตอนนี้น่าจะถามตัวเองว่าเราจะเอายังไงกับคนนี้ หากยังรักและดูไปกันต่อได้ ก็คุยกันให้เป็นเรื่องเป็นราวและกลับไปคบกัน หากลึกๆ คิดว่าไม่ใช่ก็ลองหาคนอื่น โลกกว้างมากมายสำหรับคนอายุ 24 เรามีโอกาสจะเริ่มใหม่ได้ง่ายๆ

เรื่องที่แฟนเก่าไปนอนกับคนอื่นเพื่อแก้แค้น ส่วนตัวคิดว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอเลย ความรักคือความอ่อนโยนค่ะ คนที่ทำแบบนี้บ่งบอกว่าแคร์เราน้อยมากๆ และกล้าทำในสิ่งที่จะทำให้เราเสียใจได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของแฟนที่เราอยากได้มั้ยอันนี้ลองคิดดู สิ่งที่เค้าควรทำคือบอกเราตรงๆ ว่าไม่ชอบ อย่าทำอีก อะไรแบบนี้ การไปนอนกับคนอื่นดูเหมือนเป็นข้ออ้าง

ต่อจากนี้ไป ขอเอาใจช่วยให้คุณหนุ่ยได้พบกันคนที่อ่อนโยน รักและดูแลจิตใจของเราในแบบที่เราอยากได้ และมีสิทธิ์จะได้รับนะคะ สำหรับคุณอานั้น ยิ่งเราโตขึ้น ก็ยิ่งมีอิสระจากกัน หากยังพบว่าอิทธิพลจากคุณอาตามมารบกวน แนะนำให้พยายามปรับความเข้าใจก่อน โดยพูดสิ่งที่เราคิดให้ท่านเข้าใจอย่างละมุนละม่อม หากไม่เวิร์คก็อยู่ห่างๆ ถ้าหลอนมากแนะนำปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตบำบัดเพื่อ detox เรื่องราวหนักๆ ออกไปจากใจค่ะ

ด้วยความปรารถนาดี
Light Heart – Art for Well Being ✨

14/12/2022

ถาม-ตอบ EP 2: ชายหนุ่มเติบโตมากับคุณอาหญิงที่ชอบควบคุมและลงโทษ และพบแฟนที่คล้ายกันมาก

08/12/2022

ถาม-ตอบ EP 1: ต้องเลือกระหว่างครอบครัวที่ร่ำรวยแต่ไร้ความเข้าใจ กับแฟนที่ยอมรับเราแต่ไม่มีงานทำ

💌 ถึง Light Heart

“ก่อนอื่นเลย ต้องบอกว่า มีปัญหาเรื่องเครียดหลายเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะ เรื่องครอบครัว เรื่องงาน เรื่องสภาวะทางการเงิน

ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวคนจีนอยู่ในจังหวัดใหญ่จังหวัดหนึ่งนะคะ คุณพ่อกับคุณแม่จะออกแนวหัวโบราณมาก และตีกรอบให้แบบที่ท่านอยากให้เราเป็น

ซึ่งพอโตขึ้นได้มีแฟน ก็มีปัญหาเรื่องทางบ้านไม่ชอบสักคน แฟนแต่ละคนที่คบมา ถึงขนาดคุณแม่เคยให้เลือกระหว่างคุณแม่กับแฟน ว่าเราจะเลือกใคร ตอนนั้นเครียดมากๆ ค่ะ ไปทำงานแอบร้องไห้คนเดียวทุกวัน เพราะคุณแม่โทรมาต่อว่า กดดันเรา ตอนนี้อายุ 37 แล้ว ท่านก็ยังคงตีกรอบให้อยู่เหมือนเดิม

สำหรับคำว่า"ตีกรอบ" ที่พูดมา ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ โดยส่วนตัวเป็นคนชอบการสัก ซึ่งทางบ้านไม่โอเค เคยเปิดอกคุยกันเรื่องนี้ ท่านทั้งสองก็เหมือนจะรับได้และเข้าใจในตัวเรา แต่พอกลับไปอยู่บ้านจริงๆ ท่านก็ยังรับไม่ได้ที่เราเป็นแบบนี้ จะให้เราแต่งตัวมิดชิดอยู่แต่ในบ้าน เคยถามว่าทำไม คำตอบที่ได้คือ ท่านบอกอายคนแถวบ้าน ซึ่งทำให้เรารู้สึกเสียใจและอึดอัด ความรู้สึกคือ "บ้านไม่ใช่เซฟโซนเลย"

เราเลยมาใช้ชีวิต ทำงานในกรุงเทพ 10 กว่าปีแล้วตั้งแต่เรียนจบเพราะอิสระดี ได้เป็นตัวเอง อยากไปไหนก็ไป อยากแต่งตัวแบบไหนก็ได้ตามใจเรา

ตอนนี้ปัญหาใหญ่ๆ เลย คือ 1. ทางบ้านมีกิจการ สุขสบาย แต่ไม่อิสระ 2. ชีวิตข้างนอกที่อยู่กับแฟน อิสระ แต่สภาพทางการเงินแย่ เพราะตอนนี้ตกงานและแฟนก็ไม่ได้ทำงาน

นี่แหละปัญหาที่เจออยู่ตอนนี้ ตอนนี้ก็เริ่มจะอยากกลับบ้านแล้วเหมือนกันค่ะ ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเราแม้จะต้องเสียอิสระไปก็ตาม เพราะชีวิตตอนนี้ที่เป็นอยู่กับแฟน แย่มาก คบกันได้ปีกว่าๆ แต่แฟนเป็นคนขี้เกียจ ไม่ขยัน ไม่ช่วยหาเงินเลย ดิฉันต้องเป็นฝ่ายหางาน หาเงิน อยู่ฝ่ายเดียวมาตลอด ซึ่งรู้สึกเหนื่อยมากๆ เบื่อมากๆ ไม่อยากหางานหาเงินอยู่ฝ่ายเดียวแล้วอ่ะค่ะ
ก็มีเท่านี้แหละค่ะปัญหาชีวิตของดิฉัน ขอบคุณนะค่ะที่ทางเพจ ได้มีกิจกรรมแบบนี้”

น้ำหวาน
--------------------------------------------------------------------------

✍🏻 ถึง คุณน้ำหวาน

สิ่งที่ทำให้กลุ้มใจก็คือเราจะต้องเลือกระหว่างสองสิ่งที่ไม่ลงตัวทั้งคู่ใช่ไหมคะ จะเป็นไปได้ไหมถ้าเรามองเรื่องนี้โดยคิดว่า ที่จริงยังมีทางเลือกที่สามหรือสี่ ห้า หก ด้วยซ้ำ

ทำไมเราถึงมาอยู่ในจุดนี้? เราห่างจากครอบครัวเพื่อมาสร้างชีวิตในแบบที่เราพอใจ แต่ทำไมคนรักของเราถึงไม่เป็นครอบครัวที่อบอุ่นให้เราได้?

การที่เราเติบโตมาในบ้านที่เต็มไปด้วยความคาดหวังให้เราเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่เรา ย่อมอึดอัดและรู้สึกเหมือนโดน “ตีกรอบ” โดยเฉพาะในครอบครัวคนจีนที่มีขนบชัดเจนและมีฐานะดี ถึงแม้จะอยู่ห่างกันคนละจังหวัด แต่ “กรอบ” นั้นอาจยังอยู่ในใจเราและมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของเราในระดับนึง เช่น เวลาเราเลือกทำอะไร ข้างในลึกๆ เราจะมีตัวบอกว่าสิ่งนั้นอยู่ในกรอบ หรือขัดกับกรอบ จึงเป็นความหนักๆ ที่แอบอยู่ในใจของเราเสมอ และสิ่งนี้อาจจะมีอิทธิพลมากในการใช้ชีวิตในทุกด้านของเรา

สำหรับแฟน การที่เราคบกี่คนๆ ก็ไม่ถูกใจทางบ้าน บวกกับความรู้สึกของเราที่อาจจะถูกบ่มเพาะมานาน ว่า “เรา” ในแบบที่เป็น ”เรา” จริงๆ นั้น ไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ซึ่งเป็นคนที่มีความหมายที่สุด เวลาเราเลือกคบใคร หรือรู้สึก “คลิก” กับใคร เราอาจจะใช้เกณฑ์ตัดสินที่ไม่เป็นผลดีกับเรามากนัก เช่น เลือกคนที่เป็นคนง่ายๆ ดูยอมรับเราได้ในทุกๆ เรื่อง (ตรงข้ามกับพ่อแม่) ซึ่งสิ่งนี้อาจจะเป็นเรื่องสำคัญมากตอนคบกันแรกๆ แต่คนคนนี้อาจจะไม่ได้มีคุณสมบัติเป็นคู่ชีวิตที่ดูแลเรา รักเรา หรือให้ความอบอุ่นกับเราได้อย่างแท้จริงในระยะยาว เหมือนกับเราต้องเลือกระหว่าง “ความมั่นคง” ที่มาพร้อมกรอบแบบทางบ้าน กับ “ความอิสระ” ที่มาพร้อมกับการที่เราต้องเป็นคนดูแลตัวเอง (และดูแลไปถึงคนข้างๆ ด้วย) นี่หรือเปล่าเป็นที่มาของการหนีเสือปะจระเข้ที่เราเจออยู่

ทางเลือกที่สาม ที่อยากจะแนะนำ ก็คือ “เลือกตัวเอง” ค่ะ คุณน้ำหวานเป็นผู้หญิงเก่งที่ดูแลตัวเองได้ อยากให้ “ดูแล” ตัวเองจริงจังโดยเฉพาะการกลับเข้ามาสำรวจภายในจิตใจของตัวเอง เข้าใจตัวเองให้ลึกซึ้งว่าเราต้องการอะไร อยากมีอนาคต มีสังคมเพื่อนฝูง มีคู่ชีวิต มีการงานหรือธุรกิจ มีบั้นปลายชีวิตแบบไหน แล้วลองดูว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่ในวันนี้ มันจะส่งให้เราไปถึงตรงนั้นมั้ย ความสัมพันธ์กับคนในชีวิตเรา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือแฟน น่าจะเป็นไปในแบบ give and take คือผลัดกันให้และรับ คือเราก็มีความสุข เขาก็มีความสุข หากว่าเอียงไปทางอีกฝั่งมากไป แน่นอนนั่นคือเรากำลังบั่นทอนตัวเอง

การ “เลือกตัวเอง” คือ จัดการกับปัญหาสำคัญๆ ที่รบกวนเราก่อน เช่น ตอนนี้ปัญหาเรื่องงานอาจจะสำคัญที่สุดเพราะเราไม่มีงาน หากจำเป็นต้องกลับบ้านเพื่อให้มีรายได้ ลองกำหนดขอบเขตที่โอเคกับเราเมื่ออยู่กับพ่อแม่ เช่น สิ่งใดที่เราไม่ชอบ ลองบอกท่านแบบถนอมน้ำใจ แต่ตรงไปตรงมา เช่น เรื่องรอยสัก บอกว่า เข้าใจที่พ่อแม่ไม่ชอบและอายคน แต่อันนี้คือความชอบของเรา เวลากลับบ้านเราจะใส่เสื้อผ้าที่ไม่โชว์รอยสักมากนักเพื่อความสบายใจของท่าน ในทางกลับกันเรื่องแฟน เราเป็นคนใช้ชีวิตกับเค้า เราขอเลือกเอง แต่ยินดีรับฟังความเห็นจากพ่อแม่เพราะบางทีผู้ใหญ่ก็มองคนเก่งกว่าเรา แต่ขอให้มองแบบเป็นกลาง

แน่นอนว่าการอยู่คนละบ้านทำให้การสร้างขอบเขตนี้ง่ายกว่าการอยู่บ้านเดียวกัน สิ่งสำคัญคือการที่เรากล้าจะพูดและยืนยันกับพ่อแม่ในสิ่งที่เราเป็น (พูดด้วยความละมุนละม่อม) และขอให้เค้าเคารพเราในแบบที่เราเป็น เพราะหากว่าเรารู้สึกโดนตัดสินบ่อยๆ หรือทำอะไรก็ไม่ดีพอ ย่อมจะทำให้เรากับพ่อแม่ห่างเหินกันออกไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในบั้นปลายชีวิตของพ่อแม่ซึ่งก็น่าจะอยากให้ลูกอยู่ใกล้ๆ

“เลือกตัวเอง” หรือการสร้างขอบเขตกับแฟน ทำได้โดยการเขียน Love List ลองลิสท์ออกมาว่า เราอยากได้อะไรจากคนรักของเรา (ไม่จำเป็นต้องเป็นคนนี้ แต่เป็นความคิดของเราเมื่อนึกถึงแฟนที่ดี ควรเป็นอย่างไร ทำอะไร) สิ่งนี้จะเป็นเหมือนเข็มทิศให้เราในการคบคน จากนั้นลองดูว่า กับแฟนคนปัจจุบัน มีอะไรที่เราอยากให้เค้าทำ หรือเลิกทำ แล้วคุยกับเค้าตรงๆ บางทีเค้าอาจจะเซอร์ไพรส์เราโดยการเปลี่ยนตัวเองก็ได้ หากว่าไม่เปลี่ยน เราเองก็จะได้เห็นว่าคนนี้คือคนที่เราน่าจะอยู่ด้วยหรือไม่ สำหรับเรื่องเงิน ส่วนตัวมองว่า ผู้ชายที่ให้ผู้หญิงหาเลี้ยงนั้นอาจจะเป็นภาระต่อไปในระยะยาว เราไม่จำเป็นต้องมีแฟนรวยแต่ผู้ชายควรรักความก้าวหน้า รายได้เท่ากันหรือน้อยกว่าไม่ใช่ปัญหาถ้าตั้งใจสร้างอนาคต

ไม่แน่ใจว่ามุมมองคุณน้ำหวานเป็นยังไงนะคะ ส่วนใหญ่ผู้หญิงพออายุเข้าสามสิบกว่าก็มักจะคิดว่าเราไม่มีทางเลือกมากนัก ผู้ชายคนไหนรักเรา อยู่กับเรา เราควรจะอยู่กับเขา แต่ที่จริงแล้วคนเราพบรักที่ดีได้ตลอดชีวิต โดยเฉพาะหากไม่คิดจะมีลูก เรื่องอายุนั้นมีผลเพียงเล็กน้อยกับการพบคู่ที่ดีค่ะ เพราะไม่ว่าอายุเท่าไรก็มีผู้ชายที่อยากได้คู่ชีวิตและไม่ได้ต้องการมีแฟนเด็กๆ เสมอไปรออยู่

ชีวิตของเราผ่านไปเร็วมากนะคะ คุณน้ำหวาน อย่าเสียเวลากับการพยายามเป็นทุกอย่างให้ทุกคน ทางเลือกมีเยอะแยะ กลับมาดูแลตัวเอง สื่อสารกับคนใกล้ตัวถึงสิ่งที่เราต้องการ และขอให้เชื่อว่าเราไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างความมั่นคงกับความอิสระ เราสามารถมีทั้งสองอย่างได้ เพียงแต่ที่ผ่านมาเราอาจจะยังมองไม่เห็นจุดนี้เท่านั้นเองค่ะ

ด้วยความปรารถนาดี
Light Heart – Art for Well Being ✨

08/12/2022

ถาม-ตอบ EP1: ต้องเลือกระหว่างครอบครัวที่ร่ำรวยแต่ไร้ความเข้าใจ กับแฟนที่ยอมรับเราแต่ไม่มีงานทำ

02/12/2022

ถึง คุณที่อ่านอยู่ 💌

ถ้ามีปัญหาชีวิต ความรัก การงาน หรือครอบครัวที่รบกวนใจ อยากปรึกษาใครสักคนที่รับฟังอย่างเป็นกลาง ไม่เข้าข้างและไม่ด่วนตัดสิน ไม่มีค่าใช้จ่ายและเป็นความลับ

อยากชวนให้ inbox เขียนเล่าเรื่องราวของคุณมาอย่างละเอียด เพื่อรับคำแนะนำเชิงจิตวิทยาจากนักศิลปะบำบัด ฟรี สิ่งเดียวที่ขอคือ เรื่องราวที่มีประโยชน์กับคนอื่นๆ จะถูกขอนำมาถ่ายทอดลงในเพจนี้ในรูปแบบจดหมาย ถาม-ตอบ สไตล์ Agony Aunt หรือเรียกแบบไทยๆ คือ “ศิราณี” โดยไม่เปิดเผยชื่อและรายละเอียดที่จะทำให้ระบุตัวตนได้ (ขอ consent ก่อนแน่นอน)

เป้าหมายของเพจ คือการเป็นแสงสว่าง สร้างใจที่เบา ตามขื่อเพจ และ pay it forward. ♥️✨

หากมีปัญหาชีวิตที่คิดไม่ออก เศร้า หรือเครียด เขียนเล่ามา เจ้าของเพจสัญญาจะพยายามตอบทุกคอมเมนท์

จนกว่าเราจะถาม-ตอบกัน
Light Heart - Art for Well-being

15/08/2022

ประกาศไม่ขึ้นราคาค่า therapy

ของอื่นนั้นขึ้นราคา แต่ค่าตัวน้องรับรองเหมือนเดิม หากเครียดกับสิ่งรอบตัว inbox มาคุยกันนะคะ

11/08/2022

วันนี้สำหรับคนที่น้อยใจแม่ คุยกับแม่ไม่รู้เรื่อง มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับแม่ เป็นอย่างไร ?

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Light Heart - Art for Well-beingผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท