ดีพอต D-POT รักปอด ดูแลระบบทางเดินหายใจ By 0943536428

  • Home
  • ดีพอต D-POT รักปอด ดูแลระบบทางเดินหายใจ By 0943536428

ดีพอต D-POT รักปอด ดูแลระบบทางเดินหายใจ By 0943536428 ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุง ดูแล ป้องกัน ปอดและระบบทางเดินหายใจให้แข็งแรง เลข อย. 10-1-15456-5-0026

พอต D-POT ผลิตภัณฑ์ เพื่อ อวัยวะปอด โดยตรง
1. มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันมะเร็งปอด
2. มีส่วนช่วยกำจัดสารพิษที่จะทำลายปอด ต้านอนุมูลอิสระ
4. มีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ เชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา เบาหวาน
5. มีส่วนช่วย แก้การไอ หอบ ขับเสมหะ ขยายหลอดลม
6. มีส่วนช่วยป้องกันทำลายปอดจากสารพิษ และการทำลายเซลล์ปอด
7. มีส่วนช่วย ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี ป้องกันมะเร็งปอด
8. มีส่วนช่วยช่วยปอดมีประสิทธิภาพการทำงานได้ดีขึ้น
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืด การอักเสบของทางเดินหายใจส่วนล่าง
:
ดี-พอต D-POT ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับปอด
ส่วนประกอบสำคัญใน 1 เม็ด (1,000 มิลลิกรัม)
1.สารสกัดจากกระเทียม (Garlic extract) 300 มก.
2.สารสกัดจากแอปเปิ้ล (Apple extract) 180 มก.
3.สารสกัดจากโสม (Ginseng extract) 100 มก.
4.สารสกัดซิง (Ginger extract) 80 มก.
5.สารสกัดบร็อคโคลี่ (Broccoli extract) 55 มก.
6.สารสกัดจากเมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed extract) 50 มก.
7.สารสกัดแครอท (Carrot extract) 45 มก.
8.กรดแอสคอร์บิด (Ascorbic acid) 40 มก.
9.ชิงค์อะมิโนแอซิดดีเลต 20% (Zinc amino acid chelate
20%) 30.5 มก.
10.วิตามิน (D3 Vitamin D3) 0.5 มก.
:
วิธีรับประทาน: รับประทานวันละ 1 เม็ต
ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง 3 แผง แผงละ 10 เม็ด รวม 30 เม็ด
:
เลขสารบบ อย. : 10-1-15456-5-0026
:
ราคา 1,765 บาท
:
ดีพอต D-POT สารสกัดจากธรรมชาติ สั่งทางเลยจ้า
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
:
☎ 094-353-6428 คุณนฤมล
:
📲 สั่งซื้อเพิ่มเพื่อนในไลน์ คลิ๊กลิ้งค์นี้นะคะ 👇👇
:
https://line.me/ti/p/3PfLpa1IFt
https://line.me/ti/p/3PfLpa1IFt
:
หรือทักในกล่องข้อความ คลิ๊กเลย
m.me/dpot0943536428

10/11/2021

7 วิธีดื่มน้ำให้ “สวย-หล่อ-ใส-สุขภาพดี”👍
:
ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยน้ำถึง 70% โดยทุกเซลล์จะมีน้ำเป็นองค์ประกอบ และจะมีการหมุนเวียนน้ำในร่างกายตลอดเวลา ดังนั้น น้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมากต่อมนุษย์เรา
:
💦 โรคภัยไข้เจ็บในปัจจุบันก็เริ่มต้นมาจากสาเหตุง่ายๆ แต่ไม่มีผู้ใดให้ความสนใจคือ เราดื่มน้ำน้อยจนเกินไป
:
💦 การดื่มน้ำที่น้อยจนเกินไป ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการขั้นพื้นฐานของร่างกาย เมื่อร่างกายเจ็บป่วยร่างกายจึงเรียกร้องขอน้ำ แต่เรากลับไม่ทราบว่าร่างกายขาดน้ำแต่กลับไปพูดถึงการเป็นโรค เชื่อว่าทุกคนคงอยากให้ตัวเองมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บตลอดทั้งปี
:
🔹กรมอนามัยจึงฝากคำแนะนำวิธีในการดื่มน้ำเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี 7 ข้อ ดังนี้
:
1. ดื่มน้ำสะอาด ปราศจากสิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
:
2. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว โดย 1 แก้วมีขนาดประมาณ 240 ซีซี โดยระยะเวลาที่ควรดื่มในหนึ่งวันอาจเปลี่ยนแปลงได้บ้างเล็กน้อย ตามสะดวกคือ ตื่นนอนตอนเช้า 1 แก้ว ตอนสาย (ประมาณ 09.00-10.00 น.) 2 แก้ว ตอนบ่าย (ประมาณ 13.00-14.00 น.) 3 แก้ว ตอนเย็น (ประมาณ 19.00-20.00 น.) 3 แก้ว และก่อนเข้านอน 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชะล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร ถ้าเป็นน้ำอุ่นจะช่วยให้หลับสบาย
:
3. ไม่ดื่มน้ำที่ร้อนมากหรือเย็นจัด ควรดื่มน้ำอุ่นเล็กในตอนเช้าจะทำให้การขับถ่ายดีขึ้น ลำไส้สะอาด
:
4. ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำครั้งละ 2-3 แก้ว ติดต่อกันทันทีให้ดื่มตามปกติ สบายๆ
:
5. ไม่ควรดื่มน้ำมากประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนและหลังรับประทานอาหาร
:
6. ไม่ควรรับประทานอาหารพร้อมกับน้ำดื่มตลอดเวลา
:
7. ควรมีน้ำสะอาดบรรจุขวด สำหรับเป็นน้ำดื่มพกติดตัวขณะเดินทางการดื่มน้ำที่สะอาดอย่างเพียงพอจะช่วยให้ระบบในร่างกายได้รับการกระตุ้นและพร้อมที่จะทำงาน ส่งผลให้เกิดประโยชน์ ดังนี้
:
1. นัยน์ตาสดใส เป็นประกาย เพราะมีน้ำหล่อเลี้ยงแวววาวตลอด ไม่มีเส้นเลือดแดงก่ำ ไม่แสบตา
:
2. ใบหน้าชุ่มชื่น เต่งตึงเป็นสีชมพู เพราะเลือดไหลเวียนดี
:
3. ปาก ลิ้นสะอาด ไม่ร้อนใน
:
4. ผิวกายไม่เหี่ยวย่น
:
5. ลมหายใจสะอาดสดชื่น หายใจโล่งเย็น
:
6. เลือดไม่ข้น การไหลเวียนเป็นไปได้ง่าย สูบฉีดดี หัวใจจึงไม่ทำงานหนัก ไม่เมื่อยล้า ไม่เหนื่อยง่าย หัวใจเป็นปกติ มีประสิทธิภาพดีและแข็งแรง
:
7. ระบบขับถ่ายดี ไม่ท้องผูก
:
8. ไตดี ปัสสาวะใสสะอาด ไม่ปวดหลังปวดเอว รูขุมขนมีเหงื่อชุ่มเสมอ
:
ใครที่อยากมีสุขภาพดี แข็งแรง สวยหล่อ ขอให้นึกถึงวิธีพื้นฐานธรรมชาติคือ การดื่มน้ำสะอาดในปริมาณเพียงพอ ตามวิธีที่แนะนำ เพื่อทำความสะอาดชำระล้างอวัยวะภายในร่างกาย ก็จะช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นได้ สำหรับผู้ที่ทำงานกลางแดด ต้องเสียเหงื่อจำนวนมาก หรือคนที่ต้องสูญเสียน้ำในร่างกายมาก เช่น นักกีฬา กรรมกร ย่อมต้องการน้ำมากกว่าคนธรรมดา แต่พบว่ามีคนจำนวนมากมักดื่มน้ำเฉพาะในเวลาคอแห้งหรือกระหายน้ำมากๆ เท่านั้น
:
🔺 ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีบูเน่ ดูแลกระดูกและข้อ
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข

ALS คือโรคอะไร⁉️:⭕️โรค ALS ย่อมาจาก Amyotrophic Lateral Sclerosis หรือ  #โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส :🌀เป็นโรคเกี่ยวกับ...
01/10/2021

ALS คือโรคอะไร⁉️
:
⭕️โรค ALS ย่อมาจาก Amyotrophic Lateral Sclerosis หรือ #โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส
:
🌀เป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทเสื่อมสภาพหรือ ซถูกทำลาย ส่งผลต่อการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ
:
🌀อาการของโรค :
เริ่มจากมือ แขน ขา เท้าไม่มีแรง
แล้วจะค่อยๆ กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
จนมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น
-เดินไม่คล่อง
-สะดุดล้มง่าย
-ล้มแล้วลุกไม่ไหว
-หยิบจับสิ่งของไม่สะดวก มือไม้อ่อน หยิบอะไรก็ร่วงหล่น
-รู้สึกปวดกล้ามเนื้อ
-กล้ามเนื้ออ่อนแรง ลีบและกระตุก
-ไม่มีแรงพยุงลำคอ ทำให้มีอาการคอตก
-จะมีอาการแข็งเกร็งที่แขน ไหล่
-ลิ้นแข็งพูดไม่ชัด เคื้ยวและกลืนอาหารลำบาก
-หายใจไม่สะดวก เพราะไม่สามารถควบคุมกระบังลม ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ ที่ช่วยในการหายใจ จนหมดแรงที่จะหายใจ และเสียชีวิตในที่สุด
-ผู้ป่วยมักจะเสียชีวิตภายในเวลา 3-5 ปี แต่บางรายอาจอยู่ได้นาน 10 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลร่างกายของแต่ละคนด้วย
:
🌀โรค ALS :
เกิดได้กับคนอายุน้อยจนถึงผู้ใหญ่ สาเหตุของโรคยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดและ เป็นโรคที่ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ แต่แพทย์ก็มีวิธีรักษาบรรเทาอาการต่างๆและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน
:
🌀การป้องกันโรค :
เนื่องจากยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการเกิดโรคนี้ได้ จึงทำให้ยังไม่มีวิธีป้องกันการเกิดโรคที่แน่นอน แต่อาจลดความเสี่ยงของโรคได้ โดยการ
-ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
-ออกกำลังกายอยู่เสมอ
-รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารที่ครบถ้วน
-ไม่สูบบุหรี่
-ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
-หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีอันตราย
-พักฝ่อนให้เพียงพอ
-อย่าเครียด
:
🌀หากพบว่ามีอาการที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเป็นโรคนี้ ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที รีบให้แพทย์ช่วยดูแลประคับประคอง จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไปนานๆ
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
#ดีพอตดีต่อปอด
:
สนใจ ปรึกษา ☎️ 094-353-6428
#สุชภาพดีชีวิตมีสุข ❤
➕❤️

โรคผิวหนังแข็ง✴️: #ที่เสี่ยงมีอาการรุนแรง หากติดเชื้อไวรัสโคโรน่า  คือโรคภูมิคุ้มกันตัวเองผิดปกติชนิดหนึ่ง หรือ:       ⏩...
01/10/2021

โรคผิวหนังแข็ง✴️
:
#ที่เสี่ยงมีอาการรุนแรง หากติดเชื้อไวรัสโคโรน่า
คือโรคภูมิคุ้มกันตัวเองผิดปกติชนิดหนึ่ง หรือ
:
⏩ คือการที่ระบบภูมิคุ้มกันของตัวเองทำงานผิดปกติซึ่งหมายความว่าโรคนี้จะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันโจมตีร่างกาย เนื้อเยื่อที่ดีจะถูกทำลายเพราะว่าระบบภูมิคุ้ทกันเข้าใจผิดว่าเนื้อเยื่อที่ดีเป็นสารแปลกปลอมหรือการติดเชื้อ โรคแพ้ภูมิตัวเองมีหลายประเภทที่สามารถทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ
:
⏩ โรคผิวหนังแข็งมีลักษณะปรากฎขึ้นเมื่อผิวเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากมีการผลิตคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้นซึ่งคอลลาเจนเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
:
⏩ความผิดปกติที่เกิดจากผิวหนังเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดผลกระทบกับส่วนต่างๆของร่างกายดังต่อไปนี้
:
- หลอดเลือด
- กล้ามเนื้อ
- หัวใจ
- ระบบย่อยอาหาร
- ปอด
- ไต
:
⏩ ลักษณะของโรคผิวหนังแข็งเกิดขึ้นจากระบบภูมิกันร่างกายทำงานผิดปกติ เมื่อโรคนี้เกิดขึ้นก่อให้เกิดความผิดปกติหลายอย่างผสมผสานกัน โดยปกติเเล้วโรคนี้เกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุ 30-50 ปีแต่อย่างไรก็ตามโรคนี้สามารถวินิจฉัยพบในคนทุกวัย ผู้หญิงมีโอกาสได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย โดยความรุนเเรงและอาการของโรคนี้มีเกิดขึ้นในแต่ละคนแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเเละอวัยวะที่เกี่ยวข้อง
:
⏩ #โรคผิวหนังแข็ง ภาษาอังกฤษเรียกว่า scleroderma หรือโรค CREST โดยคำว่า “CREST” ย่อมาจาก
:
▶️ calcinosis คือการสะสมแคลเซียมที่ผิวหนังมากเกินไป
▶️ Raynaud’s phenomenon คือโรคที่เกิดความผิดปกติขึ้นกับหลอดเลือดเมื่อเจอความเย็นหรือความเครียด
▶️ esophageal dysmotility คือโรคหลอดอาหารเคลื่อนไหวผิดปกติ
▶️ sclerodactyly คือผิวหนังแข็งเฉพาะนิ้วมือและนิ้วเท้า
▶️ telangiectasia คือภาวะเส้นเลือดฝอยขยายตัว
:
✴️ #อาการของโรคผิวหนังแข็ง
โรคหนังแข็งสามารเกิดขึ้นบนผิวหนังตั้งแต่ระยะแรกของการเกิดโรคซึ่งคุณจะสังเกตุเห็นว่าผิวหนังของคุณหนาขึ้นและมีความมันวาวซึ่งสามารถสังเกตุได้ที่บริเวณโดยรอบของปาก จมูก นิ้วมือและบริเวณอื่นๆที่ใกล้กับกระดูก
:
✴️เมื่อมีอาการของโรคเกิดขึ้น คุณจะมีอาการเริ่มขยับอวัยวะส่วนที่เกิดโรคผิวหนังแข็งได้น้อยลงและมีอาการอื่นๆเกิดขึ้นร่วมด้วยได้แก่
:
📌 ผมร่วง
📌 เกิดการสะสมของแคลเซียมหรือเกิดก้อนสีขาวใต้ผิวหนัง
📌 เกิดเส้นการขยายตัวของเส้นเลือดใต้ผิวหนัง
📌 รู้สึกเจ็บปวดที่ข้อต่อ
📌 หายใจสั้น
📌 ไอแห้ง
📌 ท้องร่วง
📌 ท้องผูก
📌 การกลืนลำบาก
📌 เกิดกรดไหลย้อน
📌 ท้องอืดหลังจากทานอาหาร
📌 คุณอาจจะเริ่มมีอาการหลอดเลือดชักกระตุกที่บริเวณนิ้วมือและนิ้วเท้า จากนั้นส่วนปลายแขนและขาของคุณจะกลายเป็นสีขาวหรือสีน้ำเงินเมื่อคุณอยู่ในอาการที่หนาวหรือเกิดความเครียดอย่างรุนเเรง ซึ่งอาการนี้เรียกว่าโรคเรเนาด์
:
#สาเหตุของโรคผิวหนังเเข็ง ✴️
⏩ เมื่อโรคผิวหนังแข็งเริ่มเกิดขึ้น ร่างกายจะเริ่มมีการผลิตคอลลาเจนที่มากเกินไปและเกิดการสะสมอยู่ในเนื้อเยื่อ คอลลาเจนคือสารที่เป็นโครงสร้างของโปรตีนซึ่งมีอยู่ในอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย
:
⏩แพทย์ยังไม่เเน่ใจว่าสาเหตุของการผลิตคอลลาเจนมากเกินไปเกิดขึ้นจากอะไร ดังนั้นจึงไม่สามารถทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคผิวหนังแข็งได้ (SS)
:
✴️ โรคความดันสูงอาจเกิดจากการทำงานของไตที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการแข็งตัวของเนื้อเยื่อร่างกาย แพทย์จะสั่งให้คุณตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบการทำงานของแอนตี้บอดี้ ปัจจัยการเกิดโรครูาตอยด์และอัตราการตกตะกอนของเลือด
:
✴️การรักษาโรคผิวหนังไม่สามารถรักษาอาการของโรคให้หายไปได้แต่สามารถช่วยบรรเทาอาการและทำให้โรคนี้เกิดขึ้นได้ช้าลง โดยปกติการรักษาขึ้นอยู่กับอาการที่เกิดขึ้นของแต่ละบุคคลและการป้องกันความเสี่ยง
:
✴️ภาวะแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นได้จากโรคผิวหนังแข็ง
ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังเเข็งอาจมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้แก่
:
📌 ภาวะหัวใจล้มเหลว
📌 โรคมะเร็ง
📌 ภาวะไตล้มเหลว
📌 โรคความดันโลหิตสูง
:
✴️การรักษาโรคผิวหนังเเข็งได้รับการพัฒนาเมื่อ 30 ปีที่เเล้ว แม้ว่ายังไม่มีวิธีการรักษาโรคผิวหนังแข็งโดยเฉพาะ มีเพียงแค่การรักษาเพื่อบรรเทาอาการต่างๆที่เกิดขึ้นเเละจัดการกับอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น คุณควรปรึกษาแพทย์ถ้าหากอาการที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ โดยคุณสามารถทำงานร่วมกับแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนแผนการรักษา
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุง ดูแลระบบหายใจและปอด
#ดีพอตดีต่อปอด
:
สนใจ ปรึกษา ☎️ 094-353-6428
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤️

ผู้ป่วยโรคหัวใจ ❤️:💢 หากติดเชิ้อไวรัสโคโรน่า อาจมีอาการหัวใจวายหรือภาวะหัวใจล้มเหลวได้ อาการโรคหัวใจที่รุนแรงยิ่งขึ้นนี้...
30/09/2021

ผู้ป่วยโรคหัวใจ ❤️
:
💢 หากติดเชิ้อไวรัสโคโรน่า อาจมีอาการหัวใจวายหรือภาวะหัวใจล้มเหลวได้ อาการโรคหัวใจที่รุนแรงยิ่งขึ้นนี้เกิดจากอาการป่วยของการติดเชื้อไวรัสและการที่หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น เช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้นจากภาวะไข้
:
💢ประกอบกับระดับออกซิเจนที่ต่ำลงจากปอดบวมและโอกาสในการเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังอาจพบภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน (Myocarditis) ในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 อีกด้วย ถึงแม้ไม่มีวิธีการป้องกันใดๆเป็นพิเศษ :
แต่ผู้ป่วยควรปฏิบัติตัวดังนี้
🔹 กินยาอย่างต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง
🔹 สำรองยาไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์
🔹 ปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านการรักษาสุขอนามัยในช่วงการระบาดของโควิด-19
🔹 ออกกำลังกายอยู่ที่บ้านตามที่แพทย์แนะนำ
🔹 จัดการกับความเครียด นอนหลับให้เพียงพอ
🔹 กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ งดเค็ม
:
💢การทำเช่นนี้นอกจากช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายแล้ว ยังช่วยชะลอการเสื่อมของกล้ามเนื้อหัวใจอีกด้วย
:
💢ผู้ป่วยโรคหัวใจ เป็น 1 ใน 8 กลุ่มผู้ป่วยที่เสี่ยงมีอาการรุนแรงหากติดไวรัสโคโรน่า
:
💜 ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจ และปอด
#ดีพอตดีต่อปอด
:
สนใจ ปรึกษา ☎️ 094-353-6428
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤️

ผู้ป่วยที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน 💊:       ✡️ เช่น ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากยากดภูมิคุ้มกันทำให...
30/09/2021

ผู้ป่วยที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน 💊
:
✡️ เช่น ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากยากดภูมิคุ้มกันทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายต่อต้านอวัยวะใหม่แต่ขณะเดียวกันทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายขึ้นและอาจมีความรุนแรงของการติดเชื้อสูงขึ้น
:
🔹 ใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่ง
🔹 สำรองยาไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์
🔹 ปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านการรักษาสุขอนามัยในช่วงการระบาดของโควิด-19 เช่น หลีกเลี่ยงการไปที่ในชุมชน รักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร เป็นต้น
:
💢ผู้ป่วยที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เป็น 1 ใน 8 ของกลุ่มผู้ป่วยที่เสี่ยงมีอาการรุนแรงหากติดเชื้อไวรัสโคโรน่า
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
#ดีพอตดีต่อปอด
:
สนใจ ปรึกษา ☎️ 094-353-6428
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤️

มาทำความรู้จัก “ โรคภูมิแพ้ ” กันเถอะ ‼️:🔥ลูกตัวน้อยของคุณ มีอาการเหล่านี้หรือไม่ ผื่นแพ้ผิวหนัง คันเรื้อรัง ผิวแห้ง หยา...
29/09/2021

มาทำความรู้จัก “ โรคภูมิแพ้ ” กันเถอะ ‼️
:
🔥ลูกตัวน้อยของคุณ มีอาการเหล่านี้หรือไม่ ผื่นแพ้ผิวหนัง คันเรื้อรัง ผิวแห้ง หยาบหนา ถ่ายเหลว ถ่ายบ่อย แหวะนม น้ำหนักไม่ขึ้น เลี้ยงไม่โต น้ำมูกไหลทุกเช้า แน่นจมูก หายใจครืดคราดทุกคืน เป็นหวัดทุกเดือน นอนกรน เล่นซนไม่มีสมาธิ หายใจหอบเหนื่อยต้องมาพ่นยาที่ รพ. เมื่อเป็นหวัด

:
⭕สาเหตุสำคัญ
ของการเกิดโรคภูมิแพ้ คือ พันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม พันธุกรรม เป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่เพิ่มความ เสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ทุกชนิด โดยถ้าพ่อหรือแม่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่ก่อนแล้ว ลูกก็จะมีโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้ได้มากขึ้น สิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ตอนคุณแม่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ไปจนถึงสภาพแวดล้อมที่เลี้ยงดูเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การอยู่ใกล้ชิดคนสูบ บุหรี่จะเพิ่มความรุนแรงของการเป็นโรคภูมิแพ้
:
⭕การเกิดโรคภูมิแพ้
▪️มักเป็นไปตามอายุเช่น การแพ้โปรตีนนมวัว (Cow’s milk protein allergy) มักพบในช่วงขวบปี แรก โดยพบว่า การที่แม่ดื่มนมวัวปริมาณมากกว่าปกติในช่วงตั้งครรภ์ให้นมบุตรการมีพี่น้องมีอาการแพ้โปรตีนนมวัวอยู่แล้ว จะเพิ่มความเสี่ยง
:
▪️ต่างจากการเป็น ภูมิแพ้อากาศ (Allergic rhinitis) มักจะพบในช่วงอายุ 3-4 ขวบปีโดยพบว่า การเลี้ยงดูในสิ่งแวดล้อมที่มีสารก่อภูมิแพ้ ไรฝุ่นแมลงสาป เชื้อรา หญ้า วัชพืช ละอองเกสร รวมไปถึงการมีสัตว์เลี้ยงในบริเวณบ้าน ทั้งสุนัข และแมวจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค และกระตุ้นทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้ส่วนการเกิดภาวะหลอดลมไวหลังการติดเชื้อไวรัส (Viral induced wheezing)และการเป็นโรคหอบหืด (Asthma) นั้น สามารถพบได้ในช่วงอายุที่หลากหลาย ซึ่งถ้า มีภาวะหลอดลมไวหลังการติดเชื้อไวรัส บ่อยครั้งก่อนอายุ 5 ปี จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืดได้มากกว่าปกติ ถึง 2-3 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การติดเชื้อจากไวรัสทางเดินหายใจ RSV
:
▪️การแพ้โปรตีนนมวัว (cow’s milk protein allergy) มีอาการแสดงได้หลายรูปแบบ ทั้งอาการทางผิวหนัง เช่น ผื่นคันผื่นเม็ด ทราย (Maculopapular rash) ผื่นแพ้ผิวหนัง ที่มีลักษณะหยาบ หนา แห้ง คันเรื้อรัง บริเวณที่เฉพาะเจาะจง (Atopic dermatitis) เช่น แก้ม ข้อมือข้อเท้า ข้อพับแขนขา รวมไปถึงตามลำตัวและท้องได้ ผื่นลมพิษ (Urticaria) ไปจนถึงอาการบวม ของเยื่อบุบริเวณหน้าและปาก (Angioedema) ไปจนถึงแพ้แบบรุนแรง Anaphylaxis ได้ อาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น น้ำมูกไหลเรื้อรัง หายใจครืดคราด หอบเหนื่อย อาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ถ่ายบ่อย ถ่ายท้องเสีย แหวะนม กินนม ยาก น้ำหนักไม่ขึ้น เลี้ยงไม่โต ร้องไห้โคลิค (Colic)
:
▪️ภูมิแพ้อากาศ (Allergic rhinitis) มีอาการแสดงระบบทางเดินหายใจ ได้ตั้งแต่ การเป็นหวัดเรื้อรัง น้ำมูกใส จามง่าย คันจมูก คันตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแน่นจมูกบ่อยๆ นอนหายใจเสียงดัง เหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม ออกกำลังกายไม่ได้เต็มที่ โดยอาจจะ เป็นเฉพาะช่วงเวลาเช้า กลางคืน เวลาที่อากาศเปลี่ยน อากาศเย็น หรือเมื่อสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ สารก่อระคายเคือง ถ้ารุนแรง อาจเป็นตลอดเวลาจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้ ในผู้ป่วยบางรายอาจสังเกตได้จากการที่มีใต้ตาคล้ำ (Allergic shiners) หรือริมฝีปากล่างแห้งแตก (Chelitis) เนื่องมาจากอาการแน่นจมูกเรื้อรัง จนทำให้มีการขยายตัวของเส้นเลือดดำ ภูมิแพ้อากาศ ในผู้ป่วยบางรายอาจเป็นครั้งคราว จึงทำให้ส่วนใหญ่ละเลยเรื่องของการรักษา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน เป็นไซนัสอักเสบ (Sinusitis) ริดสีดวงจมูก (Nasal polyp) เยื่อบุตาอักเสบ (Atopic conjunctivitis)ได้ และในรายที่เป็นโรคหอบหืดอยู่แล้ว อาจจะกระตุ้นให้อาการหอบเหนื่อยเป็นบ่อยครั้ง จนควบคุมไม่ได้ด้วย

▪️ภาวะหลอดลมไว หลังการติดเชื้อไวรัส (Viral induced wheezing) ในที่นี้ หมายรวมถึง เชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจหลายชนิด เช่น เชื้อไวรัสไข้หวัดธรรมดา (Rhinovirus) ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ไวรัส อาร์ เอส วี (RSV; Respiratory syncytial virus) ผู้ป่วยในกลุ่มนี้ จะมีภาวะของหลอดลมที่ไวต่อสิ่งกระตุ้น เมื่อมีการติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจ นอกจากจะมีไข้ ไอ น้ำมูกแล้ว จะยังมีอาการรุนแรงถึง ไอเรื้อรัง หอบเหนื่อย หายใจลำบาก หายใจมีเสียงวี๊ดจากหลอดลมเกร็ง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการให้ยาพ่นขยายหลอดลม และการให้ออกซิเจนอย่างทันท่วงที มักพบในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปีที่ยังไม่มี อาการแสดงของโรคหอบหืดอย่างชัดเจน แต่การหอบเหนื่อยจากการติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไวรัส RSV จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหอบหืดได้ ถึงแม้ผู้ป่วยจะไม่มีความเสี่ยงทางด้านพันธุกรรมในครอบครัวก็ตาม ในปัจจุบัน มีการทดสอบทางภูมิแพ้หลากหลายวิธี นอกจากจะช่วยในเรื่องของการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้องแม่นยำ แล้วยังช่วยในเรื่องของการพิจารณาทางเลือกในการรักษา การพยากรณ์โรค และการหลีกเลี่ยงป้องกันเพื่อให้ความรุนแรงของ โรคลดลง และไม่เกิดการเป็นซ้ำได้อีก
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
:
สนใจ ปรึกษา ☎ 094-353-6428
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤

ผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ⭕️:⭕️ ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น กลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็ง กลุ่มผู้ป่วยโรคเอดส์ คนที่สู...
27/09/2021

ผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ⭕️
:
⭕️ ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น กลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็ง กลุ่มผู้ป่วยโรคเอดส์ คนที่สูบบุหรี่ล้วนมีความเสี่ยงในการเกิดอาการรุนแรงเนื่องจากภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
:
⭕️ นอกจากนี้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ยังอาจติดเชื้อนานกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส กลุ่มอื่นๆ
:
⭕️ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตัวตามข้อแนะนำดังนี้
🔹 ใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่ง
🔹 สำรองยาไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์
🔹 ระวังอย่าให้ภูมิคุ้มกันลดต่ำลงกว่าเดิม ความเครียด การอดนอน ความเหนื่อยล้าทางร่างกายทำให้ภุมิคุ้มกันลดต่ำลงได้
:
✅ผู้ป่วยควรหาวิธีการจัดการกับความเครียดและพักผ่อนให้เพียง กินอาหารที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
#ดีพอตดีต่อปอด
:
สนใจ ปรึกษา ☎️ 094-353-6428
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤️

🤱ลูกเป็นไข้หวัดแบบนี้…เช็คให้ชัวร์ ติดเชื้อไวรัส RSV หรือเปล่า:❄️โรค RSV คือ เป็นเชื้อไวรัสที่ติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใ...
27/09/2021

🤱ลูกเป็นไข้หวัดแบบนี้…เช็คให้ชัวร์
ติดเชื้อไวรัส RSV หรือเปล่า
:
❄️โรค RSV คือ เป็นเชื้อไวรัสที่ติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ ระบาดหน้าฝน และช่วงที่มีอากาศชื้น มีอาการคล้ายไข้หวัด มักจะพบบ่อยในเด็กเล็ก หรือเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี
:
❄️RSV กับ ไข้หวัด ต่างกันอย่างไร
RSV มีอาการคล้ายไข้หวัด พบว่ามีเสมหะ หรือสารคัดหลั่ง ในปริมาณมาก อาจทำให้ลูกเหนื่อยหอบได้มาก หรืออาจทำให้ปอดติดเชื้อ มีอาการเหน่อย หอบได้ง่าย
:
🔥อาการที่ควรรีบพาลูก หรือ บุตรหลานของท่านมาพบแพทย์
– พบว่าไข้สูง
– ไอมีเสมหะมาก
– หายใจครืดคราด หรือหายใจมีหน้าอกบุ๋ม
– หายใจเร็วและแรงกว่าปกติ
– มีอาการตัวเขียว
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
:
สนใจ ปรึกษา ☎️ 094-353-6428
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤

โรคตับ ✳️:✳️ผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง เช่น โรคตับแข็ง ผู้ป่วยปลูกถ่ายตับที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยภาวะที่มีตับอักเสบจากภู...
26/09/2021

โรคตับ ✳️
:
✳️ผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง เช่น โรคตับแข็ง ผู้ป่วยปลูกถ่ายตับที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยภาวะที่มีตับอักเสบจากภูมิไวเกิน (AIH) และผู้ป่วยมะเร็งตับที่อยุ่ระหว่างการรักษาด้วยคีโม มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงหากติดเชื้อไวรัส
:
✳️เนื่องจากอาการป่วยจากโรคติดเชื้อไวรัส รวมถึงยาที่ใช้ในการรักษาโรคอาจมีผลกระทบต่อการทำงานของตับ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับอยู่เดิม
:
ดังนั้นควรปฏิบัติดังนี้
🔹 ใช้ยาอย่างเนื่องตามที่แพทย์สั่ง
🔹 สำรองยาไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์
🔹 ป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อด้วยการปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านการรักษาสุขอนามัยในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัส และควรอยู่แต่ในบ้าน รวมถึงไม่สังสรรค์กับเพื่อนหรือคนในครอบครัวระหว่างอยู่บ้าน
:
💢โรคตับ เป็น 1 ในโรค 8 กลุ่มผู้ป่วยที่เสี่ยงมีอาการรุนแรงหากป่วยจากการติดเชื้อไวรัส
:
💜 ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
#ดีพอตดีต่อปอด
:
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤

💢โรคอ้วน:✡ผู้ที่เป็นโรคอ้วนชนิดรุนแรงคือผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ 40 ขึ้นไปหรือตั้งแต่ 30 ขึ้นไป:✡สำหรับชาวเอเชีย ผู...
26/09/2021

💢โรคอ้วน
:
✡ผู้ที่เป็นโรคอ้วนชนิดรุนแรงคือผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ 40 ขึ้นไปหรือตั้งแต่ 30 ขึ้นไป
:
✡สำหรับชาวเอเชีย ผู้ที่เป็นโรคอ้วนชนิดรุนแรงมีความเสี่ยงในการเกิด กลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของโรคติดเชื้อไวรัส
:
✡นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคอ้วนชนิดรุนแรงยังมีโรคประจำตัวเรื้อรังอื่นๆที่ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของการมีอาการที่รุนแรง
:
ดังนั้นควรปฏิบัติดังนี้
🔹 ใช้ยาอย่างเนื่องตามที่แพทย์สั่ง
🔹 สำรองยาไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์
🔹 ป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อด้วยการปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านการรักษาสุขอนามัยในช่วงการระบาดของโควิด-19 และควรอยู่บ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
:
💢โรคอ้วน เป็น 1 ใน 8 กลุ่มผู้ป่วยที่เสี่ยงมีอาการรุนแรงหากป่วยจากการติดเชื้อไวรัส
:
💜 ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
#ดีพอตดีต่อปอด
:
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤

โรคปอดและทางเดินทางหายใจ 💨:✴️ผู้ป่วยโรคปอดและทางเดินหายใจที่มีความเสี่ยงสูง คือ ผู้ป่วยโรคหืดหอบระดับปานกลางถึงรุนแรงและ...
23/09/2021

โรคปอดและทางเดินทางหายใจ 💨
:
✴️ผู้ป่วยโรคปอดและทางเดินหายใจที่มีความเสี่ยงสูง คือ ผู้ป่วยโรคหืดหอบระดับปานกลางถึงรุนแรงและผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง เช่น
▪️โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
▪️ โรคปอดอักเสบเรื้อรัง
▪️โรคซิสติก ไฟโบรซิส
:
✴️เนื่องจากป่วยจากการติดเชื้อจะมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ กระตุ้นอาการหอบหืดและอาจทำให้เกิดโรคปอดบวมและโรคร้ายแรงอื่นๆ
:
✴️สำหรับผู้ป่วยโรคปอดติดเชื้ออาจทำให้โรคปอดกำเริบหนักขึ้น ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง
:
✴️ข้อควรปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยโรคปอดและทางเดินหายใจคือ
🔹 ใช้ยาอย่างต่อเนื่องรวมถึงยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ตามที่แพทย์แนะนำ
:
🔹 สำรองยาไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ควรจำกัดการเดินทางไปยังร้านขายยา
:
✴️หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้อาการกำเริบหรือแย่ลง
:
🔹 หากเป็นไปได้ให้ผู้อื่นที่ไม่ได้เป็นโรคหอบหืดช่วยทำความสะอาดบ้านและฆ่าเชื้อโรคภายในบ้านให้ โดยใช้ยาฆ่าเชื้อที่อาจทำให้อาการหอบหืดกำเริบให้น้อยที่สุด ฉีดน้ำยาทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อลงบนผ้าแทนที่จะฉีดลงบนพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาดโดยตรง รวมถึงให้เปิดประตู หน้าต่างและเปิดพัดลมเป่าอากาศภายในบ้านออกไป
:
🔹 ทำตามข้อแนะนำด้านการรักษาสุขอนามัยในช่วงการระบาดของการติดเชื้อ เช่น ล้างมือ เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเมื่อกลับถึงบ้านน อยู่ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร เป็นต้นสำรองยาไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ควรจำกัดการเดินทางไปยังร้านขายยา
:
🔹 หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้อาการกำเริบหรือแย่ลง

💢โรคปอดและทางเดินหายใจ เป็น 1 ใน 8 กลุ่มผู้ป่วยที่เสี่ยงมีอาการรุนแรงหากป่วยจากการติดเชื้อ
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
#ดีพอตดีต่อปอด
:
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤️

โรคไตเรื้อรัง 💢:✡️ ผู้ป่วยโรคไตที่อยู่ในขั้นที่ 3 ถึงขั้นที่ 5 ผู้ป่วยที่รักษาด้วยการฟอกเลือดและผู้ป่วยที่เปลี่ยนถ่ายไตอ...
23/09/2021

โรคไตเรื้อรัง 💢
:
✡️ ผู้ป่วยโรคไตที่อยู่ในขั้นที่ 3 ถึงขั้นที่ 5 ผู้ป่วยที่รักษาด้วยการฟอกเลือดและผู้ป่วยที่เปลี่ยนถ่ายไตอยู่ในกลุ่มเสี่ยงในการมีอาการรุนแรง
:
✡️ผู้ป่วยที่รักษาด้วยการฟอกเลือดอาจมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนปกติทั่วไป
:
✡️นอกจากนี้ผู้ป่วยที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายไตต้องได้รับยากดภูมิคุ้มกันทำให้ภูมิคุ้มกันลดต่ำลงทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
:
✡️ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามข้อแนะนำดังนี้
🔹 สำหรับผู้ป่วยที่รักษาด้วยการฟอกเลือดให้มารับบริการตามนัดหมาย
🔹 หากคุณมีไข้ให้ติดต่อกับทางโรงพยาบาลก่อนที่จะเข้ารับบริการ
🔹 ผู้ป่วยที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายไต ให้กินยาตามที่แพทย์สั่งและสำรองยาไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์
🔹 ปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านการรักษาสุขอนามัยในช่วงการระบาดของโควิด-19 เช่น ล้างมือ
🔹หลีกเลี่ยงสถานที่หนาแน่น รักษาระยะห่างจากผู้อื่น
🔹พยายามอยู่บ้านให้มากที่สุด
🔹หากคุณมีไข้ให้ติดต่อกับทางโรงพยาบาลก่อนที่จะเข้ารับบริการ
:
💢โรคไตเรื้อรัง เป็น 1 ใน 8 กลุ่มผู้ป่วยที่เสี่ยงมีอาการรุนแรงหากป่วยจากการติดเชื้อ
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
:
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤

มารู้จัก...โรคเบาหวาน ‼️:⚛ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 รวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ล้วนมีความเสี่ยงใน...
23/09/2021

มารู้จัก...โรคเบาหวาน ‼️
:
⚛ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 รวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ล้วนมีความเสี่ยงในการเกิดอาการรุนแรงหากมีอาการป่วยจากการติดเชื้อ
:
⚛เนื่องจากผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดีและมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าเป้าหมาย มักมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆร่วมด้วย
:
⚛นอกจากนี้การติดเชื้อยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวนและควบคุมได้ยาก ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลงและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น รวมถึงเชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีในภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
:
⚛ดังนั้นในช่วงระบาดของโควิด-19 ผู้ป่วยควรปฏิบัติตัว ดังนี้
🔹 ปฏิบัติตัวตามแพทย์แนะนำ กินยาเบาหวาน ยาร่วมอื่นๆและฉีดอินซูลินตามปกติ
🔹 สำรองยาและอินซูลินไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์
🔹 วัดอุณหภูมิร่างกายทุกเช้าเย็น เพราะอาการไข้อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อ
🔹 สำรองอาหารประเภทน้ำตาลเผื่อไว้สำหรับเมื่อมีภาวะน้ำตาลต่ำ
🔹 ตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดบ่อยครั้งขึ้นและติดตามผลให้อยู่ในระดับ 80-180 มก./ดล.
🔹 ชั่งน้ำหนักร่างกายทุกวัน หากน้ำหนักลดลงขณะกินอาหารได้ตามปกติ เป็นสัญญาณว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูง
🔹 ดื่มน้ำให้เพียงพอเพราะการติดเชื้อทุกชนิด ทำให้ร่างกายขาดน้ำ
🔹 หากมีอาการคล้ายไข้หวัด เช่น มีไข้ ไอ หายใจลำบากให้รีบปรึกษาแพทย์
🔹 หากอยู่เพียงลำพังให้หาคนที่มั่นใจว่าจะช่วยเหลือคุณได้เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน
:
⚛ผู้ป่วยบางคนอาจไม่แสดงอาการใดๆเลย ในขณะที่ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการหนักมากจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
:
⚛โดยความเสี่ยงในการมีอาการรุนแรงเกิดขึ้นกับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
#ดีพอตดีต่อปอด
:
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤

ระบบหายใจ....ทางเดินหายใจส่วนบน 💨: ⚛️ทางเดินหายใจส่วนบน (อังกฤษ: Upper respiratory tract, upper airway) :💠ประกอบด้วยอวัย...
22/09/2021

ระบบหายใจ....ทางเดินหายใจส่วนบน 💨
:
⚛️ทางเดินหายใจส่วนบน (อังกฤษ: Upper respiratory tract, upper airway)
:
💠ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการหายใจเหนือกล่องเสียง (larynx) ขึ้นไป เช่น จมูก, คอหอย (pharynx) เป็นต้น
:
💠โดยทางเดินหายใจส่วนบนนั้นจะทำหน้าที่เป็นทางผ่านของอากาศจากภายนอกเข้าสู่ทางเดินหายใจส่วนล่างต่อไป
:
⚛️องค์ประกอบ
:
💠จมูก รวมทั้ง โพรงจมูก (nasal cavity) และ paranasal sinuses
:
💠คอหอย แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Nasopharynx, Oropharynx, Laryngopharynx
:
⚛️หน้าที่
:
💠เป็นทางผ่านของอากาศที่ใช้ในการหายใจและช่วยกรองอากาศที่หายใจเข้าไป โดยฝุ่นละอองที่อยู่ในอากาศจะถูกดักจบโดยเมือกหรือสารหล่อลื่น (mucous) ที่ถูกหลั่งออกมาและเส้นขนเล็กๆที่อยู่ภายในจมูก
:
💠นอกจากนี้ยังช่วยปรับสภาพอากาศให้มีความเหมาะสมก่อนที่จะส่งต่อไปยังทางเดินหายใจส่วนต่อไป เช่น
-การเพิ่มความชื้นและการปรับอุณหภูมิ เป็นต้น
:
💠อีกทั้งยังมีหน้าที่ต่างๆเช่น ช่วยให้เสียงเกิดความก้องกังวาน ช่วยให้กระดูกหน้ามีน้ำหนักเบาลง เกี่ยวข้องกับการดมกลิ่น การออกเสียง และการพูด เป็นต้น
:
⚛️โรคทางเดินหายใจส่วนบน
โรคที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบนเช่น
1.โรคหวัด โดยสาเหตุของโรคนั้นเกิดจากเชื้อไวรัส
2.เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโรคอื่นๆ เมื่อเชื้อโรคเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย จะเข้าไปแบ่งตัวอยู่ที่เยื่อบุทางเดินหายใจและทำให้เยื่อบุนี้หลั่งสารที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้
:
💜 ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
#ดีพอตดีกับปอด
:
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤

ระบบทางเดินหายใจ....ส่วนล่าง 🌬:💨ทางเดินหายใจส่วนล่าง (อังกฤษ: lower respiratory tract) :💮 เป็นทางเดินของอากาศที่อยู่ถัดจ...
22/09/2021

ระบบทางเดินหายใจ....ส่วนล่าง 🌬
:
💨ทางเดินหายใจส่วนล่าง (อังกฤษ: lower respiratory tract)
:
💮 เป็นทางเดินของอากาศที่อยู่ถัดจากทางเดินหายใจส่วนบน มีความสำคัญคือลำเลียงอากาศเข้าสู่ปอดเพื่อแลกเปลี่ยนแก๊ส
:
💮ประกอบด้วย กล่องเสียง (larynx), หลอดคอ (trachea), หลอดลมใหญ่หรือหลอดลมปอด (bronchus) และปอด
:
💨โครงสร้างและหน้าที่
อวัยวะที่เป็นส่วนประกอบของทางเดินหายใจส่วนล่าง
:
🟣มีหน้าที่เป็นทางผ่านของอากาศเข้าสู่ปอด
:
🟣สำหรับกล่องเสียงซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างเสียงและช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเช่นน้ำและอาหารตกเข้าสู่หลอดคอเวลาที่เราหายใจ
:
🟣 เนื่องจากกล่องเสียงมีฝาปิดกล่องเสียง (epiglottis) คอยควบคุมอยู่
:
ส่วนหลอดคอนั้นจะประกอบด้วยกระดูกอ่อนมาเรียงตัวกันกลายเป็นท่อที่ใหญ่ที่สุดในระบบทางเดินหายใจ ที่ปลายสุดของหลอดคอจะแตกแขนงออกเป็นสองแขนงเรียกว่า
:
💮หลอดลมใหญ่
💮และหลอดลมใหญ่นั้นก็จะแตกเป็นแขนงย่อยๆเป็นหลอดลมฝอยเข้าสู่ปอดซึ่งเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในระบบทางเดินหายใจ โดยหลอดลมฝอยนั้นจะสัมผัสกับถุงลมปอด และที่บริเวณนี้เองที่เป็นบริเวณที่มีการแลกเปลี่ยนแก๊สเกิดขึ้น
:
💮การติดเชื้อ
ทางเดินหายใจส่วนล่างเป็นบริเวณที่มีการติดเชื้อสูง เช่น
😷 การอักเสบที่บริเวณฝาปิดกล่องเสียง (acute epiglottis)
😷 การอักเสบของกล่องเสียง (acute laryngitis)
😷 โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
#ดีพอตหายใจได้เต็มปอด
#โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ #ดีพอตดีต่อปอด
:
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤️

💨อวัยวะระบบต่างๆ ในร่างกายระบบทางเดินหายใจส่วนบน....คอหอย :✴️คอหอย (อังกฤษ: pharynx, pharynges)         เป็นส่วนหนึ่งของ...
21/09/2021

💨อวัยวะระบบต่างๆ ในร่างกาย
ระบบทางเดินหายใจส่วนบน....คอหอย
:
✴️คอหอย (อังกฤษ: pharynx, pharynges)
เป็นส่วนหนึ่งของคอ (neck) และช่องคอ (throat) ตั้งอยู่ด้านหลังปากและโพรงจมูก และอยู่บนหลอดอาหาร กล่องเสียงและท่อลม (trachea)
:
✴️หน้าที่
คอหอยเป็นส่วนหนึ่งของระบบทางเดินอาหารและระบบทางเดินหายใจของสิ่งมีชีวิตหลายชนิด เนื่องจากทั้งอาหารและอากาศต่างผ่านเข้าสู่คอหอย ร่างกายมนุษย์จึงมีแผ่นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเรียกว่า ฝาปิดกล่องเสียง (epiglottis) ปิดช่องท่อลมเมื่อมีการกลืนอาหาร เพื่อป้องกันการสำลัก ในมนุษย์ คอหอยยังมีความสำคัญในการออกเสียง
:
✴️ส่วนต่างๆ ของคอหอย
คอหอยของมนุษย์โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. คอหอยส่วนปาก 💋
คอหอยส่วนปาก หรือคอหอยหลังช่องปาก (oropharynx) เป็นส่วนที่อยู่หลังช่องปาก ผนังด้านหน้าประกอบด้วยฐานของลิ้นและวัลเลคิวลา (vallecula; ช่องระหว่างลิ้นกับฝาปิดกล่องเสียง) ผนังด้านข้างเกิดจากต่อมทอนซิล, แอ่งทอนซิล (tonsillar fossa) , และผนังช่องปาก (faucial pillars) ผนังด้านบนประกอบด้วยพื้นผิวด้านล่างของเพดานอ่อนและลิ้นไก่
:
2. คอหอยส่วนจมูก 👃
คอหอยส่วนจมูก หรือคอหอยหลังโพรงจมูก (nasopharynx) ตั้งอยู่ด้านหลังโพรงจมูก ด้านหลังเยื้องด้านบนของส่วนนี้ มาจากระดับรอยต่อของเพดานอ่อนและเพดานแข็ง ถึงฐานของกะโหลกศีรษะ ด้านข้างเป็นแอ่งโรเซนมุลเลอร์ (fossa of Rosenmuller) ผนังด้านล่างประกอบด้วยพื้นผิวด้านบนของเพดานอ่อน
:
3. คอหอยส่วนกล่องเสียง 🗣
คอหอยส่วนกล่องเสียง หรือคอหอยหลังกล่องเสียง (laryngopharynx หรือ hypopharynx) อยู่ที่ประมาณระดับ C3 ถึง C6 บริเวณนี้มีจุดเชื่อมกล่องเสียงและหลอดอาหาร (บริเวณหลังกระดูกอ่อนไครคอยด์ (postcricoid area)) , แอ่งพิริฟอร์ม (piriform sinus) , และผนังคอหอยด้านหลัง (posterior pharyngeal wall)
:
✴️เช่นเดียวกับคอหอยส่วนปากที่อยู่ด้านบน คอหอยส่วนกล่องเสียงเป็นทางผ่านของทั้งอาหารและอากาศ และดาดด้วยเนื้อเยื่อบุผิวชนิดสแตรทิฟายด์ สความัส (stratified squamous epithelium)
:
✴️ส่วนนี้จะวางตัวอยู่ด้านหน้าฝาปิดกล่องเสียง และยื่นลงมาจดกล่องเสียงซึ่งเป็นบริเวณที่แยกออกเป็นทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร หลอดอาหารจะนำอาหารลงไปยังกระเพาะอาหาร ส่วนอากาศจะผ่านกล่องเสียงซึ่งอยู่ด้านหน้า ระหว่างการกลืนการหายใจจะหยุดชั่วครู่เพื่อให้อากาศผ่านลงไปยังหลอดอาหาร
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต #ระบบทางเดินหายใจ
#ดีพอตหายใจได้เต็มปอด #ดีพอตดีต่อปอด
:
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤

🌬ระบบต่างๆ ในร่างกาย....ระบบหายใจ....ทางเดินหายใจ....ส่วนบน....จมูก👃: 👃 จมูก เป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากตรงกึ่งกลางของใบหน้า...
21/09/2021

🌬ระบบต่างๆ ในร่างกาย....ระบบหายใจ....
ทางเดินหายใจ....ส่วนบน....จมูก👃
:
👃 จมูก เป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากตรงกึ่งกลางของใบหน้า รูปร่างของจมูกมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมพีระมิด
:
🔸 รูจมูกทำหน้าที่เป็นทางผ่านของอากาศที่หายใจเข้าไปยังช่องจมูกและกรองฝุ่นละอองด้วย
:
🔸 จมูกเป็นอวัยวะรับสัมผัสที่สำคัญอย่างหนึ่งของร่างกาย โดยทำหน้าที่รับกลิ่นของสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา เช่นกลิ่นอาหาร กลิ่นดอกไม้ ฯลฯ
:
🔸จมูกยังเป็นทางผ่านของอากาศที่เราหายใจอยู่ตลอดเวลา โดยทำหน้าที่กรองอากาศ ปรับอุณหภูมิ และความชื้นของอากาศก่อนที่จะเข้าสู่ปอด คือ ถ้าอากาศเย็น จมูกจะปรับให้อุ่นขึ้น ถ้าอากาศแห้งมาก จมูกจะให้อากาศชุ่มชื้น
:
🔸จมูกยังช่วยในการปรับเสียงที่เราพูดให้กังวานน่าฟังอีกด้วย
:
👃ส่วนประกอบ
🔸จมูก มีโครงร่างเป็นกระดูกแข็งและกระดูกอ่อน
-ภายนอกหุ้มด้วยผิวหนัง
-ภายในบุด้วยแผ่นเยื่อเมือกโดยตลอด
:
🔸ส่วนประกอบของจมูกมีดังนี้
1.สันจมูก เป็นกระดูกอ่อนที่เริ่มตั้งแต่ใต้หัวคิ้ว ส่วนบนเป็นกระดูกที่เรียกว่าดั้งจมูก ส่วนล่างเป็นกระดูกอ่อน มีเนื้อเยื่อและผิวหนังปกคลุมอยู่ภายนอก
:
2.รูจมูก มีอยู่ 2 ข้าง ตรงส่วนล่างของจมูก ภายในมีขนจมูกทำหน้าที่ป้องกันฝุ่นละอองในขณะหายใจเข้า
:
3.โพรงจมูก อยู่ถัดจากรูจมูกเข้าไปข้างใน ชึ่งเป็นที่พักของอากาศก่อนจะถูกสูดเข้าปอด
:
-โพรงจมูกทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นของอากาศ โดย หลอดเลือดฝอยชึ่งมีอยู่มากมายตามแผ่นเยื่อเมือกจะถ่ายเทความร้อนออกมาทำให้อากาศชุ่มชื้น แผ่นเยื่อเมือกเองก็จะทำหน้าที่ปรับความชื้นให้กับอากาศพร้อม ทั้งดักจับฝุ่นละอองที่เล็ดลอดผ่านขนจมูกเข้าไปแล้วขับทิ้งออกมาเป็นน้ำมูกนั่นเอง
:
-บริเวณด้านบนของโพรงจมูกมีปลายประสาท ทำหน้าที่รับกลิ่นอยู่มากมาย
:
-ภายในจมูกยังมีรูเปิดของ ท่อน้ำตาชึ่งเป็นที่ระบายน้ำตาลงมาในโพรงจมูก เพื่อไม่ให้เอ่อล้นออกมานอกลูกตา เมื่อเราร้องไห้จะมีน้ำตาออกมามาก น้ำตาส่วนหนึ่งไหลลงมาตามท่อนี้เข้าสู่ช่องจมูก ทำให้เห็นเป็นน้ำมูกใสๆ ไหลออกมา ทางจมูก เวลาร้องไห้จึงมักจะคัดจมูกและมีน้ำมูกไหลออกมาด้วย
:
4.โพรงอากาศรอบจมูก (ไชนัส) เป็นโพรงกระดูกที่อยู่ในบริเวณรอบๆ จมูก มีอยู่ 4 คู่ คือ
-บริเวณกึ่งกลางหน้าผากเหนือคิ้วทั้งสองข้าง 1 คู่
-บริเวณใต้สมองทั้งสองข้าง 1 คู่
-บริเวณค่อนไปข้าง หลังของกระดูกจมูก 1 คู่
-และอยู่บริเวณสองข้างของ จมูกอีก 1 คู่
:
🔸โพรงอากาศเหล่านี้มีเยื่อบางๆ อยู่เช่นเดียวกับ ช่องจมูก และโพรงอากาศเหล่านี้ก็จะเปิดเข้ารูช่อง จมูกโดยตรงด้วย ดังนั้น ถ้ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นที่ช่องจมูกก็มีผลต่อโพรงอากาศนี้ด้วย
:
🔸การได้รับกลิ่น
🌬กระเปาะรับกลิ่นคือบริเวณที่เยื่อบุภายในโพรงจมูกมีประสาทสำหรับรับกลิ่นอยู่ทั่วไป ซึ่งเชื่อมโยงไปสู่สมอง เมื่อกลิ่นผ่านเข้าไปในโพรงจมูก กลิ่นมากระทบปลาย ประสาทสัมผัสรับกลิ่น ปลายประสาทรับกลิ่นส่งกระแสประสาทไปสู่สมอง เพื่อแปลความหมายของสิ่งที่ได้รับ
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
:
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤

ภูมิแพ้โรค...ฮิต...ของคนไทย🤦:✡ภูมิแพ้ เป็นภาวะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ผู้ที่มีบิดา มารดา หรือญาติเป็น จะมีโอกาสเป็นภูมิแพ...
21/09/2021

ภูมิแพ้โรค...ฮิต...ของคนไทย🤦
:
✡ภูมิแพ้ เป็นภาวะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ผู้ที่มีบิดา มารดา หรือญาติเป็น จะมีโอกาสเป็นภูมิแพ้มากกว่าผู้อื่น ซึ่งธรรมชาติของภูมิแพ้คือ
:
🔹คนส่วนมากจะมีอาการเป็นๆ หายๆ ตั้งแต่เด็กๆ มีบางช่วงที่อาการดีขึ้น และบางช่วงอาการแย่ลง เด็กบางคนเมื่อโตขึ้นอาจไม่มีอาการของภาวะภูมิแพ้อีก เด็กส่วนมากอาจกลับมามีอาการอีกเมื่อโตขึ้นเป็นวัยรุ่นหรืออายุประมาณสามสิบกว่าขึ้นไป
:
✡อาการของผู้โรคภูมิแพ้จะเกิดตามอวัยวะที่มีการอักเสบจากการกระตุ้นของสารก่อภูมิแพ้ ได้แก่
-ผื่นคัน
-ลมพิษ
-น้ำมูก
-จาม
-คันจมูก
-คัดจมูก
-คันตา
-เคืองตา
-แสบตา
-น้ำตาไหลบ่อย
-ไอ
:
✡ประเภทสารก่อภูมิแพ้ 2 ประเภท
:
1) สารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อมและอากาศ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสร แมลงสาบ เชื้อรา ฯลฯ
:
2) สารก่อภูมิแพ้ประเภทอาหาร เช่น นม ไข่ ถั่ว แป้งสาลี อาหารทะเล ฯลฯ
:
💜ด้วยความปรารถนาดีจาก
#ดีพอต มีส่วนช่วยบำรุงดูแลระบบหายใจและปอด
#ไอ #หอบ #หายใจมีเสียงหวีด #ไอแห้งๆ #มีเสมหะสีขาวใส #ภูมิแพ้ #หวัด #คันจมูก #จาม #เหนื่อยง่าย
:
ปรึกษา☎️ 094-353-6428 คุณนฤมล
#สุขภาพดีชีวิตมีสุข
➕❤

Address

420 ถ.พระรามที่2 ซ.36 แขวงบางมด เขตจอมทอง

10150

Telephone

+66943536428

Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when ดีพอต D-POT รักปอด ดูแลระบบทางเดินหายใจ By 0943536428 posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Practice

Send a message to ดีพอต D-POT รักปอด ดูแลระบบทางเดินหายใจ By 0943536428:

  • Want your practice to be the top-listed Clinic?

Share

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram