19/07/2025
ขิง (Zingiber officinale): สมุนไพรสารพัดประโยชน์
ขิง เป็นพืชสมุนไพรที่รู้จักกันดีและถูกนำมาใช้มาอย่างยาวนาน
ในระบบการแพทย์แผนจีน อายุรเวท และแผนไทย โดยใช้ทั้งในรูปแบบอาหาร ยา และเวชสำอาง
(*)สารสำคัญในขิง
สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพของขิงแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก:
1.น้ำมันหอมระเหย (Volatile oils) – ได้แก่ Zingiberene, Geraniol, Neral, และ α-Curcumene
2.สารไม่ระเหย (Non-volatile compounds) – เช่น Gingerol, Shogaol, และ Zingerone
สารเหล่านี้ให้กลิ่นฉุนและรสเผ็ดอันเป็นเอกลักษณ์ของขิง
สรรพคุณทางยา
✅ ต้านการอักเสบ
(*)Gingerol และ Shogaol ยับยั้งเอนไซม์ COX-1, COX-2 และ 5-LOX
ซึ่งลดการสร้างสารกระตุ้นการอักเสบ (prostaglandin, leukotriene)
(*)ลดไซโตไคน์ก่อการอักเสบ (TNF-α, IL-1β, IL-6) และเพิ่มไซโตไคน์ต้านการอักเสบ (IL-10, IL-22)
✅ ต้านอนุมูลอิสระ
สารฟีนอลิกในขิงช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายของอนุมูลอิสระ และรักษาสมดุลของกระบวนการออกซิเดชันในร่างกาย
✅ ต้านจุลินทรีย์
ขิงสามารถยับยั้งแบคทีเรียแกรมบวกและแกรมลบบางชนิด
รวมไปถึงเชื้อรา Candida albicans, Aspergillus spp., Trichophyton spp.
โดยไปทำลายเยื่อหุ้มเซลล์และป้องกันการสร้างไบโอฟิล์ม
✅ ต้านมะเร็ง
Gingerol และ Shogaol ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
(เช่น มะเร็งต่อมลูกหมากและกระเพาะอาหาร)
(*)ลดการแสดงออกของโปรตีน MRP1 และ GSTπ
(*)เพิ่มการสร้าง ROS กระตุ้นการตายของเซลล์ (apoptosis)
(*)ยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ (anti-angiogenesis)
✅ ต้านเบาหวาน
(*)6-Gingerol กระตุ้นการทำงานของ GLUT4 ส่งเสริมการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่เซลล์
(*)6-Shogaol ยับยั้งการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน โดยลดการสร้างสารประกอบที่เกิดจากกระบวนการ glycation ที่มีบทบาทในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
(*)ช่วยลดระดับน้ำตาล ความดัน และไขมันในเลือด โดยกระตุ้นเอนไซม์ AMPK ที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญพลังงาน
ข้อควรระวัง
(*)ขิงมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดเล็กน้อย ควรระวังในผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
(*)ขิงเข้มข้นมีฤทธิ์แสบร้อน อาจทำให้เกิดอาการแสบท้องหรือท้องเสียในบางราย
#ขิง #สรรพคุณของขิง #สมุนไพรไทย