12/03/2023
สาธุ 99! นครมูเบอร์เกอร์
เมนูฟิวชั่นไทยอเมริกัน เจาะกลุ่มลูกค้าสายมู?!..
ต้นกำเนิดเมนูเบอร์เกอร์นั้นเกิดขึ้นมาตอนไหนยังเป็นที่ถกเถียงกันและยังไม่มีใครกล้าฟันธง โดยมีสองชาติที่ยกเหตุผลร้อยแปดออกมาเคลมว่าประเทศข้าคือผู้ให้กำเนิดเมนู Junk Food ที่แพร่หลายไปทั่วโลกในขณะนี้
ตามความคุ้นชินของผู้คนทั่วไปอาจเข้าใจว่าเมนูนี้มาจากฝั่งอเมริกา แต่ข้อมูลจากหลายๆ แห่งกลับแย้งว่า ถิ่นกำเนิดที่แท้จริงมาจากประเทศเยอรมนี โดยตั้งเมนูนี้ตามชื่อเมือง Hamburg ก่อนจะถูกนำมาเผยแพร่ยังสหรัฐอเมริกาในภายหลังโดยผู้อพยพชาวเยอรมัน
ส่วนในไทยเองทางแบรนด์ Siam Steak ก็เคลมว่าเป็นผู้ริเริ่มรายแรกที่ทำให้คนไทยรับประทานแฮมเบอร์เกอร์ในชีวิตประจำวัน Soft power ด้านฟาสต์ฟู้ดเมืองฝรั่งประเภทนี้จึงค่อยๆ ซึมซับในสังคมไทยตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมา และมีอีกหลายต่อหลายแบรนด์ที่เข้ามาขยายอาณาเขตแบรนด์ดิ้งบ้านเรา
ซึ่งแน่นอน ไม่ว่าเมนูไหนเมื่อเดินทางมาถึงแดนสยามนี้แล้ว ต้องถูกรื้อ ถูกปรุง ด้วยรสชาติรสมือแบบไทยๆ จนเกิดเป็นเมนูรสชาติใหม่ๆ อย่าง เบอร์เกอร์ต้มยำกุ้ง, เบอร์เกอร์กะเพราไข่ดาว, เบอร์เกอร์ส้มตำทะเล, ฯลฯ
นอกจากเรื่องรสชาติที่เอามาเป็นจุดเด่นเพื่อแข่งขันกันแล้ว
ในวันนี้ใครจะรู้ว่า “มูเก็ตติ้ง” ยังเอามาใช้กับ Food Business ได้อีกด้วย…
"นครมูเบอร์เกอร์" ตลาดจ๊อดแฟร์
ร้านเบอร์เกอร์ที่กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน
อย่าง “นครมูเบอร์เกอร์” มีผู้ร่วมก่อตั้งคือ บาส-กวินพัฒน์ สุทธิภัทรวนันต์ และ ไอชญาณ์ สุทธิภัทรวนันต์ ได้ช่วยกันเล่าถึงที่มาของการเปิดร้านกับทาง The Attraction ไว้ว่า
“เมื่อก่อนไม่ได้มีความเชื่อทางด้านโชคลาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบเต็มขั้นขนาดนี้ ตั้งแต่เด็กจนโตมาก็ถูกสอนและร่ำเรียนมาทางสายวิทยาศาสตร์ ที่ก่อนจะเชื่อเรื่องใดต้องมีเหตุมีผลพิสูจน์ได้
จนชีวิตได้เดินทางมาเจอกับจุดตกต่ำ เผชิญปัญหารอบด้าน วันที่เหลือเงินติดตัวเพียง 20 บาท ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพิงใคร เมื่อชีวิตต้องการที่ยึดเหนี่ยว จึงตั้งจิตอธิษฐานต่อองค์พระศิวะ ว่าถ้าผ่านจุดนี้ไปได้จะตั้งใจตั้งมั่นส่งต่อคุณงามความดี
นับจากวันนั้นชีวิตก็ค่อยๆ ดีขึ้นมาตามลำดับ ทั้งเรื่องการงาน การเงิน ความรัก ที่เคยขอ เคยบนบาน ก็สำเร็จสมหวังได้ดังตั้งใจ และยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบเหนือความคาดหมาย ทำให้ค่อยๆ เปิดใจและเดินเข้าสู่สายมูอย่างเต็มตัว”
ฟิวชั่นเมนูเบอร์เกอร์ จาก Junk Food สู่ Craft Food
ความเป็นเบอร์เกอร์มันมีความน่าสนใจตรงที่ เมนูนี้ผู้คนทั่วโลกสามารถทานได้ เป็นอาหารที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ชาวต่างชาติอาจจะจัดเบอร์เกอร์อยู่ในหมวด Junk Food แต่ ‘นครมู’ ตั้งใจจะนำมาปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ด้วยการใส่งานคราฟท์ ความปราณีตแบบไทยเพิ่มเติมลงไป
เพราะประเทศไทยนั้นมีต้นทุนวัฒนธรรมทางด้านอาหารที่ดีเยี่ยมเบอร์ต้นๆ ของโลก เลยอยากจะถ่ายทอดเอกลักษณ์และความภาคภูมิเหล่านั้นลงในเมนูอาหารให้ชาวต่างชาติและคนในประเทศได้เห็น จึงกลายเป็นเมนูเบอร์เกอร์แบบฟิวชั่นที่ผสานความเป็นไทยเข้ากับอาหารตะวันตก นำเสนอรสชาติแบบไทยไทยในหลายเมนู เมื่อได้ลิ้มลองในแต่ละรสชาติ ความแตกต่างของรสสัมผัสนั้นก็จะมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าที่ชิม เสมือนได้เดินทางออกไปเยือนตามรอยอาหารทั้ง 4 ภาค
เริ่มต้นทริปแบบต๊ะต่อนยอนขึ้นเหนือชิม “เบอร์เกอร์ข้าวซอย”
ล่องลอยสู่แดนใต้เพื่อลิ้มลองความหรอยแรงแห่ง “เบอร์เกอร์รสคั่วกลิ้ง”
ออกชิ่งวิ่งเลนขวาพาตัวเองสู่แดนหมอลำ สัมผัส “เบอร์เกอร์รสลาบ” สุดซี๊ด
ปิดท้ายด้วยซิกเนเจอร์ขึ้นชื่อ พูดออกไปใครๆ ก็รู้จักอย่าง “เบอร์เกอร์รสต้มยำกุ้ง”
ความตั้งใจในการรังสรรค์เมนูเหล่านี้ เกิดจากความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมการกินของคนในชาติ ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยถูกปากเป็นพื้นฐานแล้ว เครื่องปรุงและวัตถุดิบต่างๆ ยังมีประโยชน์หลายอย่างต่อร่างกายเราอีกด้วย
นครมูเบอร์เกอร์อยากจะส่งต่อความรู้สึกเหล่านั้น ถ่ายทอดลงสู่อาหารในแต่ละเมนู เราอยากให้นครมูเบอร์เกอร์ เป็น “คราฟท์ฟู้ด” รสชาติไทย ที่คนไทยภาคภูมิ ทั่วโลกยกย่อง ขยายเป็นร้าน Stand Alone ขยายสาขาได้แบบ KFC หรือ McDonald
โดยลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมา สามารถมามูเตลูสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ร้าน ควบคู่ไปกับการลิ้มลองรสชาติเบอร์เกอร์รสชาติไทยๆ หาที่ไหนไม่ได้ในโลก ได้ทั้งอิ่มท้อง อิ่มบุญ อิ่มใจ นี่เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่เราวาดไว้ และอยากจะไปให้ถึง”
Beyond ไปอีกขั้น เบอร์เกอร์สักยันต์มูเตลู!
จริงๆ แล้วเรื่องของการนำความเชื่อสายมู มา Featuring กับอาหารการกินนั้นมันอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนมานานแล้ว ยกตัวอย่างการเซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีน เราจะเห็นการนำผลไม้ หัวหมู เครื่องเซ่น ไหว้เจ้า ไหว้ศาล หลังจากผ่านพิธีกรรมเรียบร้อย เราก็จะลาของไหว้ แล้วนำอาหารเหล่านั้นมาแจกจ่ายรับประทานเพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต
เข้าวัดวาอารามทำบุญ มีการทำกับข้าวไปถวายพระ เลี้ยงอาหารเพล หลังจากที่พระและคณะสงฆ์ฉันอาหารเสร็จ ญาติโยมก็นำอาหารเหล่านั้นมาแบ่งปันกันกินด้วยความเชื่อว่าอาหารเหลือจากการถวายเพลพระเหล่านั้นเมื่อทานแล้วจะได้รับผลบุญ ก่อเกิดเป็นความอิ่มอกอิ่มใจขึ้นภายใน
ซึ่งอันนี้ก็เป็นความเชื่อที่สืบต่อกันมา เราไม่สามารถพิสูจน์ได้หรอกว่ากินไปแล้วมันจะมีผลดีต่อชีวิตขนาดไหน มีผลที่เห็นได้ชัดอย่างไร แต่สิ่งที่รับรู้ได้ตั้งแต่แรกเลยก็คือความสบายใจของตัวเราเอง จิตใจเราจะรู้สึกดี ทำให้เรามีพลังใจพลังกายไปต่อสู้กับชีวิต
นี่จึงเป็นที่มาของการต่อยอดความมูมาสู่อาหาร เพราะเราอยากจะส่งต่อพลังบวกความรู้สึกดีๆ ไปยังผู้คน เมื่อเขารับรู้ได้ถึงความรู้สึก ถึงพลังงานพลังความคิดที่เรามอบให้ มันก็จะเกิดเป็นพลังบวกส่งต่อซึ่งกันและกัน
มูแค่เปลือก? กิมมิคการตลาดแบบฉาบฉวย?
หลายคนที่ดูผ่านๆ อาจจะตั้งคำถามว่า เบอร์เกอร์ลงยันต์นี้ มันเป็นแค่หนึ่งในกิมมิคทางการตลาดแบบฉาบฉวย ใส่เข้ามาเพื่อเป็นลูกเล่นดึงดูดให้ชาวต่างชาติ เข้ามาถ่ายรูป ทำคอนเทนต์เฉยๆ หรือเปล่า
บาสให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า การสักยันต์ของไทยนั้น นับเป็นหนึ่งใน Soft power ที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางเข้ามา เกจิอาจารย์หลายท่านมีชื่อเสียงได้รับการเคารพนับถือในวงกว้าง ซึ่งการสักยันต์นี้เป็นเหมือนวัฒนธรรมร่วมของผู้คนทั้งโลก แตกต่างกันไปบ้างในแต่ละพื้นที่ อาจจะมีการสัก Tattoo เป็นลวดลายเอกลักษณ์
ประเทศไทยเองนั้นก็มีเรื่องราววัฒนธรรมประเพณีเกี่ยวกับการสักที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน นั่นจึงเป็นที่มาของการปั๊มลายยันต์เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลลงสู่ Burger กลายเป็นนครมูเบอร์เกอร์อย่างที่เห็น
อีกอย่างคือ ลายยันต์ที่ร้านนำมาใช้ ไม่ได้ไปก็อบมาจากเน็ตมั่วๆ เราตั้งใจหาข้อมูลและออกแบบดีไซน์ขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ เพื่อเป็นเครื่องหมายแทนคำขอบคุณไปยังลูกค้าที่เข้ามาอุดหนุน เพราะนอกเหนือไปจากรสชาติความอร่อยที่เราอยากส่งต่อไปถึงมือลูกค้าแล้ว เรายังส่งต่อความหวังดี ส่งต่อพรอันประเสริฐ ไปยังลูกค้าทุกท่านด้วยเจตนาดี ด้วยจิตที่บริสุทธิ์
ใครจะมองว่าสิ่งที่เราทำเป็นแค่ Gimmick เป็นการตลาดแบบฉาบฉวยก็ไม่ผิด เพราะศาสตร์ความมูมันเหมือนเหรียญที่มีสองด้าน แล้วแต่คนจะมอง แต่ตราบใดที่ความเชื่อของเราไม่ได้เบียดเบียนใคร และสามารถเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้ใครอีกหลายคนได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ควรทำ เหมือนกับ “นครมูเบอเกอร์” ที่เราเองรู้ดีว่าสิ่งนี้มันคือเมนูที่เราตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อมอบให้คนไทยได้กิน ได้อิ่มท้อง ได้อิ่มใจ
ครัวสายมู…สู่ครัวโลก
กลุ่มประเทศในแถบเอเชีย มีแนวโน้มจะมาเป็นลูกค้าหลักของนครมูเบอร์เกอร์ไม่น้อย เพราะด้วยวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีนที่มีความเชื่อและความศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศอื่นๆ เรามักเห็นนักท่องเที่ยวชาวจีน มากราบไหว้พ่อปู่เท้าเวสสุวรรณ ต่อแถวเช่าพระเครื่อง นั่งรอคิวสักยันต์ และอีกหลายพิธีกรรม
เหตุเพราะประเทศจีนนั้นไม่ได้มีศาสนาหลักประจำชาติที่เด่นชัด ประกอบกับสภาพสังคมของคนจีนที่ต้องแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา เพื่อความอยู่รอดและพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ทำให้การแสวงหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือเพื่อเสริมสร้างกำลังใจ จึงเป็นที่นิยมของคนจีน..
เราอาจสรุปได้ว่า “มูเตลู” เป็นหนึ่งในซอฟท์พาวเวอร์ของไทย ที่สามารถส่งเสริมและพัฒนาไปได้อีกไกลในศาสตร์ต่างๆ รวมถึงการต่อยอดสู่การรังสรรค์เมนูอาหาร แน่นอนว่าเอกลักษณ์และความแปลกจะเป็นตัวดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวและชาวไทยในยุคโซเชียลมีเดียครองโลกได้ไม่ยากนัก แต่การจะยกระดับความมูเตลูแบบไทยๆ นี้ ไปสู่ความมูในระดับสากล “คุณภาพ” จะเป็นตัวตัดสินว่า “นครมู เบอร์เกอร์” จะเดินทางไปถึงจุดหมายนั้นได้หรือไม่
https://www.facebook.com/profile.php?id=100077001327147
https://www.instagram.com/nakornmuburger9/
#เบอร์เกอร์สายมู