เสริมภูมิคุ้มกันดูแลโรคเบาหวาน มะเร็ง ซีสต์และโรคเสื่อมNcds

เสริมภูมิคุ้มกันดูแลโรคเบาหวาน มะเร็ง ซีสต์และโรคเสื่อมNcds โปรตีนพืชจากเห็ดเป๋าฮื้อแท้สกัดสู?

🐹 "ปาฏิหาริย์แห่งการให้" 🐸🐶   1. ให้ "เวลา" แก่คนที่คุณรัก🐺   2. ให้ "ความรัก" แก่คนในครอบครัว🐱   3. ให้ "ความกตัญญู" แก...
17/07/2022

🐹 "ปาฏิหาริย์แห่งการให้" 🐸

🐶 1. ให้ "เวลา" แก่คนที่คุณรัก
🐺 2. ให้ "ความรัก" แก่คนในครอบครัว
🐱 3. ให้ "ความกตัญญู" แก่บุพการี
🐭 4. ให้ "ความรับผิดชอบ" แก่การทำงาน
🐹 5. ให้ "อภัย" แก่คนที่หลงผิด
🐰 6. ให้ "ความรู้" แก่ผู้ที่ยังเขลา
🐸 7. ให้ "ทาน" แก่คนที่ยังขัดสน
🐯 8. ให้ "อนาคตที่ดี" แก่คนรุ่นหลัง
🐨 9. ให้ "มิตรภาพ" แก่คนทั้งโลก
🐻 10. ให้ "ความทุ่มเท" แก่งานที่ทำ
🐷 11. ให้ "ความจริงใจ" แก่สัมพันธภาพ
🐮 12. ให้ "ความซื่อสัตย์" แก่การทำงาน
🐗 13. ให้ "ความเสียสละ" แก่ประเทศชาติ
🐵 14. ให้ "ความยินดี" แก่ผู้ประสบความสำเร็จ
🐴 15. ให้ "การปล่อยวาง" แก่สิ่งสุดวิสัย
🐑 16. ให้ "ความเป็นธรรม" แก่ผู้ถูกรังแก
🐼 17. ให้ "มรรคา" แก่ผู้ที่ยังหลงทาง
🐧 18. ให้ "ที่พึ่งทางใจ" แก่ผู้สับสน
🐦 19. ให้ "อิสรภาพ" แก่ผู้ถูกกิเลสครอบงำ
🐤 20. ให้ "โอกาส" แก่ตนเองได้ลิ้มรสพระธรรม

คำสอนโดย ท่าน ว. วชิรเมธี

วั น นี้  #วันเข้าพรรษาอานิสงส์ของการถวายเทียนพรรษาการถวายเทียนพรรษานี้เป็นโบราณประเพณีที่ทำสืบ ๆ มาเป็นเวลาช้านานเมื่อถ...
14/07/2022

วั น นี้ #วันเข้าพรรษา
อานิสงส์ของการถวายเทียนพรรษา

การถวายเทียนพรรษานี้เป็นโบราณประเพณีที่ทำสืบ ๆ มาเป็นเวลาช้านานเมื่อถึงฤดูเข้าพรรษา ภิกษุทั้งปวงต้องจำพรรษาในอาวาสของตน 3 เดือน พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จึงได้จัดทำให้เป็นกุศลพิธีขึ้นเมื่อได้นำเทียนไปถวายพระสงฆ์แล้ว ท่านก็จะได้จุดบูชาต่อหน้าพระประธานในพระอุโบสถ ผู้ถวายย่อมได้รับอานิสงค์ คือ

1.ทำให้เกิดปัญญา ทั้งชาตินี้และชาติหน้า เปรียบเหมือนแสงสว่างแห่งเทียน
2.ทำให้สว่างไสวรุ่งเรือง ผู้ถวายย่อมทำให้มีความรุ่งเรืองด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญ
3.ทำให้คลี่คลายเรื่องราวต่างๆ ที่มีปัญหาให้ร้ายกลายเป็นดี
4. เจริญไปด้วยมิตรบริวาร
5.ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย
6.เมื่อจากโลกนี้ไปย่อมมีกายทิพย์อันสว่างไสว
7.เมื่อลาลับโลกนี้ไปย่อมไปสู่สุคติสวรรค์
8.หากบารมีมากพอ ย่อมทำให้เกิดดวงตาจักษุ คือปัญญารู้แจ้งเข้าสู่พระนิพพาน

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้ไซซ์เล็กแต่มากด้วยคุณประโยชน์ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (Berries) เป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องสุขภาพ มีร...
06/07/2022

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้ไซซ์เล็กแต่มากด้วยคุณประโยชน์
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (Berries) เป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องสุขภาพ มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน และยังเปี่ยมไปด้วยสารอาหารหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถรับประทานผลสดหรือนำมาทำน้ำผลไม้ปั่น แยม และเมนูขนมหวานได้หลากหลาย โดยเบอร์รี่ที่เราคุ้นเคย เช่น สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ และโกจิเบอร์รี่
การรับประทานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั้นมีส่วนช่วยในการบำรุงสุขภาพ และลดความเสี่ยงของอาการเจ็บป่วยเรื้อรังจากโรคต่าง ๆ เนื่องจากผลไม้ตระกูลนี้ให้แคลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซี ไฟเบอร์ และแร่ธาตุอื่น ๆ ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามชนิดของเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็นโพแทสเซียม แมกนีเซียม แมงกานีส แคลเซียม และโฟเลต
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้ไซซ์เล็กแต่มากด้วยคุณประโยชน์
ประโยชน์ของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
อนุมูลอิสระ (Free Radical) เป็นโมเลกุลที่ถูกสร้างขึ้นในร่างกายเมื่อเผาผลาญอาหาร หรือได้รับจากปัจจัยภายนอก เช่น รังสียูวี (UV) และควันบุหรี่ หากร่างกายมีอนุมูลอิสระมากเกินไปอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์และนำไปสู่โรคต่าง ๆ
สารต้านอนุมูลอิสระมีส่วนช่วยลด Oxidation Stress หรือภาวะที่ร่างกายขาดความสมดุลระหว่างอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจกระตุ้นให้เซลล์เกิดการอักเสบและอาจนำไปสู่ความเสี่ยงของโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงหลายชนิด เช่น แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) และกรดเอลลาจิก (Ellagic Acid) จากผลการศึกษาพบว่าบลูเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ และแครนเบอร์รี่มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น และโกจิเบอร์รี่มีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างเม็ดเลือด ชะลอความเสื่อมของผิวตามวัย และต้านมะเร็ง
นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ยังช่วยบำรุงสายตา โดยอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม (Age-Related Macular Degeneration) ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยในผู้มีอายุมากกว่า 55 ปี รวมถึงช่วยป้องกันและชะลอความรุนแรงของต้อกระจก (Cataracts) ซึ่งช่วยให้สุขภาพสายตาดีได้ยาวนานขึ้น
2. ประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย เพราะเป็นพรีไบโอติก (Prebiotics) ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่ร่างกายย่อยไม่ได้ และเป็นอาหารของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ จึงช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหารและช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
นอกจากนี้ การรับประทานแครนเบอร์รี่อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Infections) โดยช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (E. Coli) ไม่ให้เกาะติดกับผนังกระเพาะปัสสาวะหรือระบบทางเดินปัสสาวะ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
3. ช่วยควบคุมน้ำหนัก
การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะช่วยให้รู้สึกอิ่มได้เร็วและนานขึ้น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ประกอบด้วยน้ำและไฟเบอร์สูง โดยเบอร์รี่แต่ละชนิดมีไฟเบอร์ต่างกัน เช่น ราสเบอร์รี่ 1 ถ้วยน้ำหนักประมาณ 123 กรัม มีไฟเบอร์สูงถึง 8 กรัม บลูเบอร์รี่ 1 ถ้วย น้ำหนัก 148 กรัม มีไฟเบอร์ 3.6 กรัม และสตรอว์เบอร์รี่ 1 ถ้วย น้ำหนัก 144 กรัม มีไฟเบอร์ 3 กรัม
นอกจากนี้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ยังให้พลังงานต่ำเมื่อเทียบปริมาณแคลอรี่ในเบอร์รี่น้ำหนัก 1 ถ้วย ราสเบอร์รี่ให้พลังงาน 64 แคลอรี่ แบล็คเบอร์รี่ให้พลังงาน 65 แคลอรี่ และสตรอเบอร์รี่มี 48 แคลอรี่ ทำให้ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนัก อย่างคนที่รับประทานอาหารคีโต (Ketogenic Diet)
4. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอล
แม้ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว แต่ก็มีไฟเบอร์สูง โดยเฉพาะราสเบอร์รี่ จึงช่วยลดการดูดซึมไขมันและคอเลสเตอรอล รวมทั้งช่วยให้การดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดช้าลง จากงานวิจัยบางส่วนพบว่าการรับประทานเบอร์รี่อาจให้การตอบสนองของอินซูลิน (Insulin) เร็วขึ้น ซึ่งอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่มีหน้าที่นำน้ำตาลในเลือดไปสร้างเป็นพลังงาน จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
นอกจากนี้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ที่เป็นปัจจัยสำคัญของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ผลการวิจัยบางส่วนระบุว่าราสเบอร์รี่สีดำ (Black Raspberries) และสตรอว์เบอร์รี่มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลในผู้ที่มีโรคอ้วนและผู้มีภาวะเผาผลาญอาหารผิดปกติ
5. เป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุ
นอกจากสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และแบล็คเบอร์รี่เป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และโฟเลตที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
โกจิเบอร์รี่มีไทอะมีน (Thiamine) หรือวิตามินบี 1 ไรโบฟลาวิน (Riboflavin) หรือวิตามินบี 2 กรดนิโคตินิก (Nicotinic Acid) หรือวิตามินบี 3 และแร่ธาตุอื่น เช่น แมงกานีส แมกนีเซียม ทองแดง และซีลีเนียม
รับประทานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ให้ได้ประโยชน์
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สามารถรับประทานผลสดเป็นอาหารว่างแทนขนมขบเคี้ยว รับประทานในมื้อเช้ากับโยเกิร์ตและข้าวโอ๊ด หรือนำไปทำสลัด แซนด์วิช เค้ก พาย คุ้กกี้ น้ำผลไม้ปั่น และแยมผลไม้
ข้อมูลธงโภชนาการเพื่อสุขภาพที่ดีสำหรับคนไทยได้แนะนำปริมาณการรับประทานผลไม้วันละ 3–5 ส่วนตามช่วงอายุและกิจกรรมที่ทำ ได้แก่ เด็กรับประทานผลไม้วันละ 3 ส่วน วัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ทำงานที่ใช้พลังงานมาก และผู้สูงอายุควรรับประทานผลไม้วันละ 4 ส่วน สำหรับผู้ที่ต้องใช้พลังงานมาก ควรรับประทานผลไม้วันละ 5 ส่วน
ผลไม้แต่ละชนิดมีปริมาณแตกต่างกัน โดยผลไม้ 1 ส่วนในที่นี้หมายถึงปริมาณของผลไม้ที่ให้คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม หรือให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี่ หากเป็นผลไม้ผลเล็ก เช่น ลำไย ลองกอง องุ่น ปริมาณ 1 ส่วนจะเท่ากับ 5-8 ผล ทั้งนี้ ควรรับประทานผักและผลไม้ที่หลากหลายในแต่ละวัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
หากเป็นไปได้ ควรรับประทานเบอร์รี่สดแทนการรับประทานเบอร์รี่แช่แข็งหรือชนิดแปรรูป เช่น เบอร์รี่กระป๋องในน้ำเชื่อม ที่มีคุณค่าทางโภชนาการน้อยกว่าและมีน้ำตาลสูง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและผู้ป่วยเบาหวาน
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกายมากมาย แถมยังมีรสชาติอร่อยถูกปากใครหลายคน วันนี้ลองเปลี่ยนจากการรับประทานขนมขบเคี้ยวมาเป็นเบอร์รี่ชนิดที่ชื่นชอบ หรือจะเพิ่มเบอร์รี่ในมื้ออาหาร ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพอยู่ไม่น้อย

ประโยชน์ของเห็ดมีอะไรบ้าง1. มีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็งในปี 2010 มีการศึกษาและถูกตีพิมพ์ในวารสาร Experimental Biology ...
08/06/2022

ประโยชน์ของเห็ดมีอะไรบ้าง
1. มีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็ง

ในปี 2010 มีการศึกษาและถูกตีพิมพ์ในวารสาร Experimental Biology and Medicine ได้ทดสอบเห็ด 5 ชนิด ได้แก่ เห็ดไมตาเกะ เห็ดคริมมินิเห็ดกระดุมสีน้ำตาล เห็ดนางรม และเห็ดกระดุมสีขาว พบว่าสามารถยับยั้งการเติบโตและการสืบพันธุ์ของเซลล์มะเร็งเต้านมได้

นอกจากนี้เห็ดหอมหรือเห็ดซิตาเกะ ยังมีสารเลนทิแนน (Lentinan) ซึ่งเป็นโมเลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่ง ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยมะเร็งบางชนิดในระหว่างที่เข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด แม้ว่าจะไม่ได้ฆ่าเซลล์มะเร็งโดยตรง แต่จะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจช่วยในการชะลอการเติบโตของเนื้องอกได้และยังฆ่าไวรัสและจุลินทรีย์โดยตรงในการศึกษาในห้องปฏิบัติการ

นักวิจัยในญี่ปุ่นได้ทำการศึกษาผู้ชายมากกว่า 36,000 คน พบว่าคนที่กินเห็ดเป็นประจำมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง ส่วนคนที่กินเห็ด 3 ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นไป จะมีความเสี่ยงต่ำกว่าผู้ที่กินเห็ดน้อยกว่า 17 เปอร์เซ็นต์ต่อสัปดาห์

2. กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

สารเลนทิแนน (Lentinan) ที่พบได้ในเห็ดหอม เป็นสารที่สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพได้นอกจากนี้ยังมีสารเบต้ากลูแคน (Beta-Glucan) ที่พบได้ในเห็ดหอมและเห็ดทั่วไปหลายชนิด เป็นสารที่สามารถฟื้นฟูการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานอย่างสมดุล ไม่มากเกินหรือน้อยเกินไปอีกด้วย

3. เห็ดช่วยลดไขมันในเลือด

เห็ดโดยทั่วไปแล้วจะไม่มีคอเลสเตอรอล แต่มีไฟเบอร์ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ในปี 2012 ได้มีการศึกษาและรายงานผลในวารสารนานาชาติ Medicinal Mushrooms ว่าเห็ดนางรมสีชมพูลดปริมาณไขมัน
ในเลือดของหนูทดลองที่มีระดับไขมันในเลือดสูงได้ ส่วนเห็ดหอมมีส่วนประกอบที่ช่วยการทำงานของตับ แถมยังขับคอเลสเตอรอลจากเส้นเลือด ป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดและรักษาระดับความดันโลหิตให้ปกติ รวมทั้งกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตให้ทำงานดีขึ้นอีกด้วย

4. เห็ดเป็นแหล่งอาหารที่มีวิตามิน B และวิตามิน D สูง

เห็ดเป็นอาหารไม่กี่ชนิดที่มีวิตามิน D มีรายงานว่าเห็ดกระดุมและเห็ดคริมมินิ มีปริมาณวิตามิน D สูง ซึ่งเห็ดคริมมินินั้นยังมีวิตามิน B12 ซึ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ เพราะมีวิตามินดังกล่าวอยู่ในเนื้อสัตว์ด้วย และวิตามิน B นับว่ามีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก เพราะเป็นตัวช่วยในการนำอาหารเข้าไปให้พลังงานกับร่างกาย ส่วนวิตามิน D ก็ช่วยให้ร่างกายของเราดูดซึมแคลเซียมที่ทำให้กระดูกแข็งแรง

5. เห็ดช่วยต่อต้านการอักเสบ

เห็ดช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ช่วยลดอาการอักเสบของร่างกาย โดยเห็ดหลินจือเป็นเห็ดที่คนเอเชียนำมาใช้ทำยากันมานานนับพันปีแล้ว เพราะช่วยลดการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเพิ่มเติมพบว่ามีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น ต่อสู้กับเชื้อโรค ช่วยลดอาการภูมิแพ้ และชะลอการเติบโตของเนื้อร้ายอีกด้วย

ราชาแห่งสมุนไพรจีน... เห็ดเป๋าฮื้อ➡️Abalon อาบาโลน สมุนไพรแห่งความหวัง💥อาบาโลน 1 เม็ดเท่ากับทานเห็ด 1 กิโลกรัม✨อบาโลน ช่...
04/06/2022

ราชาแห่งสมุนไพรจีน... เห็ดเป๋าฮื้อ
➡️Abalon อาบาโลน สมุนไพรแห่งความหวัง
💥อาบาโลน 1 เม็ดเท่ากับทานเห็ด 1 กิโลกรัม
✨อบาโลน ช่วยคุณเรื่องอะไรบ้าง✨
✔️ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย
✔️ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายไหลเวียนได้ดีขึ้น
✔️ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในระดับที่ปกติ
✔️ ช่วยบรรเทา อาการของโรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน
✔️ช่วยบรรเทา โรคหวัด ลดน้ำมูก และอาการไข้
✔️ช่วยทำให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้ดี
✔️ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม
#เห็ดเป๋าฮื้อสกัดเข้มข้น #เห็ดเป๋าฮื้อ #โรคมะเร็ง #โรคเบาหวาน #ระบบไหลเวียนเลือด #กระเพาะอาหาร #กรดไหลย้อน #ริดสีดวง

โรคไตมีกี่ระยะ ?.....และวิธีการรักษาในแต่ละระยะเป็นอย่างไร ?การแบ่งระยะของโรคไตเรื้อรัง1. แบ่งระยะของโรคไตตามสาเหตุ และต...
02/06/2022

โรคไตมีกี่ระยะ ?.....และวิธีการรักษาในแต่ละระยะเป็นอย่างไร ?

การแบ่งระยะของโรคไตเรื้อรัง

1. แบ่งระยะของโรคไตตามสาเหตุ และตามโรคร่วม เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคพันธุกรรม โรคที่เกิดจากปัจจัยสิ่งแวดล้อม และโครงสร้างทางกายวิภาคของไต เป็นต้น

2. แบ่งระยะตามระดับอัตราการกรองของไตหรือ eGFR (estimated glomerular filtration rate)

โดยเราจะแบ่งโรคไตเรื้อรังออกเป็น 5 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 หรือค่า eGFR มากกว่า 90% เป็นระยะที่อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงต่ำ

ระยะที่ 2 หรือค่า eGFR อยู่ในช่วงระยะ 60 - 89% เป็นระยะที่เราจะเริ่มประเมินและชะลอการเสื่อมของโรคไตเรื้อรัง

ระยะที่ 3 หรือค่า eGFR อยู่ในช่วงระยะ 30 - 60% เป็นระยะที่แพทย์จะเพิ่มการดูแลภาวะแทรกซ้อนของไต และต้องระวังในเรื่องของโรคหัวใจที่จะเป็นภาวะแทรกซ้อนและทำให้ผู้ป่วยโรคไตเสียชีวิตได้มาก

ระยะที่ 4 หรือค่า eGFR น้อยกว่า 30% เราจะต้องเริ่มคุยกันเรื่องการทำบำบัดทดแทนไต เพราะการฟอกไตไม่ว่าจะฟอกเลือดด้วยเครื่องฟอกไตเทียม การฟอกไตทางหน้าท้อง หรือการปลูกถ่ายไต

ระยะที่ 5 เมื่อ eGFR น้อยกว่า 15% แพทย์จะเริ่มการบำบัดทดแทนไต ตามที่ได้ปรึกษากันแล้วก่อนหน้านี้ โดยเริ่มการบำบัดทดแทนไตในเวลาที่เหมาะสม
ปรึกษาสุขภาพฟรี 080-2895953

มะเร็งตับตอนนี้คนเป็นอันดับ 1 ของโลกสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม ตับก็เปรียบเสมือนโรงงานที่มีหน้าที่เผาผลาญ 🔹ผลิตฮอร์โมน🔹ผลิต...
02/06/2022

มะเร็งตับ
ตอนนี้คนเป็นอันดับ 1 ของโลก
สิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม ตับก็เปรียบเสมือนโรงงานที่มีหน้าที่เผาผลาญ
🔹ผลิตฮอร์โมน
🔹ผลิตน้ำดี
🔹สะสมวิตามิน
🔹ปรับระดับของกรดอะมิโน
🔹เก็บพลังงาน
🔹สร้างโปรตีน
🔹สร้างให้เลือดแข็งตัว
🔹สร้างภูมิต้านทาน
🔹กลั่นกรองของเสีย

การตรวจวัดค่ามะเร็งต้องมีปริมาณที่มากพอเครื่องถึงจะตรวจจับได้ ระยะแรกๆจะไม่ค่อยเจอจะเจอในระยะที่ 3-4

SIETE ซีเอเต้- โพรไบโอติก ดีท๊อกซคุณสมบัติ :• ระบบขับถ่าย และลำใส้ ช่วยเพิ่มจุรินทรีย์ดีในลำใส้• ระบบหลอดเลือด และหัวใจ ...
01/06/2022

SIETE ซีเอเต้- โพรไบโอติก ดีท๊อกซ

คุณสมบัติ :

• ระบบขับถ่าย และลำใส้ ช่วยเพิ่มจุรินทรีย์ดีในลำใส้

• ระบบหลอดเลือด และหัวใจ ช่วยปรับระดับความดัน

• ระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ลดการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง

• ระบบเผาผลาน และควบคุมน้ำหนัก กระตุ้นต่อมไทรอย

• ระบบประสาท และสมอง ช่วยเรื่องความจำ

• ระบบผิวหนัง ช่วยลดริ้วรอย ผิวสว่างกระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ และลดรอยด่างดำบนใบหน้า

• ระบบฮอร์โมน ช่วยปรับสมดุล ลดอาการผิดปกติ ของภาวะวัยทอง

• ระบบการมองเห็น ช่วยดูแลสายตา ตาบอดกลางคืน

• ดูแลตับอ่อน ช่วยขับล้างสารพิษ ควบคุมระดับน้ำตาล

ส่วนประกอบ : ไซเลี่ยมฮัสก์, ไคโตซาน, สารสกัดจากบุก, พาร์เชียลลี่ไฮโดรไลซ์กัวร์กัม, สารสกัดจากกระบองเพชร,

แอล-ฟี นิอะลานิน, แอล-คาร์นิทีน, โครเมี่ยมพิโคลิเนท สารสกัดจากชาเขียว, สารสกัดจากเมล็ดกาแฟเขียว (ไม่คั่ว),

สารสกัดจากส้มแขก ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์, เบต้ากลูแคน, สารสกัดจากราสเบอร์รี่, ซิตรัสไบโอฟลาโว นอยด์,

สารสกัดจากมะม่วง, โคเอ็นไซม์คิว 10, สารสกัดจากต้นอ่อนข้าวสาลี สารสกัดจากอัลฟาฟ่า

วิธีรับประทาน : เทพลิตภัณฑ์ 1 ซอง 15 กรัม. ลงในน้ำอุณหภูมิห้อง (ก่อนนอน)

📣📣 “เห็ด” อาหารต้านโรคร้าย‼🥰เห็ดมีมากมายหลายชนิดทั้งที่กินได้และกินไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเห็ดที่กินได้ เห็ดมีสารอา...
01/06/2022

📣📣 “เห็ด” อาหารต้านโรคร้าย‼🥰

เห็ดมีมากมายหลายชนิดทั้งที่กินได้และกินไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเห็ดที่กินได้ เห็ดมีสารอาหารโปรตีนสูง รวมทั้งแร่ธาตุต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก, ฟอสฟอรัส, แคลเซียม โดยเฉพาะมีเกลือแร่ เช่น ซิลิเนียม ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน

นอกจากนี้ เห็ดยังอุดมไปด้วยวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบีรวม (ไรโบฟลาวิน) และไนอาซิน ซึ่งจะช่วยควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหาร

ที่สำคัญเห็ดมีคุณค่าทางอาหารที่สามารถทดแทนเนื้อสัตว์ได้ แต่ไม่มีโคเลสเตอรอลที่เป็นอันตรายต่อระบบไหลเวียนของโลหิต เห็ดจึงมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีสรรพคุณทางยามากมาย ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน อัลไซเมอร์ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน และความดันโลหิตสูง เป็นต้น

เห็ดเป๋าฮื้อสกัดเข้มข้น ส่วนประกอบ : เห็ดเป๋าฮื้อสกัดเข้มข้น 100%วิธีรับประทาน : รับประทานเช้า 1-2 เม็ด/ เย็น 1-2 เม็ด ห...
31/05/2022

เห็ดเป๋าฮื้อสกัดเข้มข้น

ส่วนประกอบ : เห็ดเป๋าฮื้อสกัดเข้มข้น 100%

วิธีรับประทาน : รับประทานเช้า 1-2 เม็ด/ เย็น 1-2 เม็ด หลังอาหารทันที

‼เสียดายผู้ป่วยมะเร็งที่แอบใช้น้ำมันกัญชา ไม่ได้อ่าน 👀⁉🌿โดยในขณะนี้ได้มีผู้ป่วยจำนวนมากแอบใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคของตัวเอง...
31/05/2022

‼เสียดายผู้ป่วยมะเร็งที่แอบใช้น้ำมันกัญชา ไม่ได้อ่าน 👀⁉

🌿โดยในขณะนี้ได้มีผู้ป่วยจำนวนมากแอบใช้กัญชาเพื่อรักษาโรคของตัวเองและคนในครอบครัว ทั้งๆที่ผู้ป่วยเหล่านี้ต่างก็มีความวิตกกังวลในคุณภาพของกัญชาที่แอบใช้กันอยู่ทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าจำเป็นต้องใช้ จำเป็นต้องซื้อเพราะดีกว่าไม่มีให้ใช้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ป่วยที่มีการแอบใช้กันมากที่สุดในเวลานี้คือ ”ผู้ป่วยโรคมะเร็ง” !!!!🛌

เพราะไม่ว่าสรรพคุณของกัญชาที่ว่า ทำให้นอนหลับ, ลดอาการปวด, ทำให้เจริญอาหาร, ทำให้ผ่อนคลายลดความเครียด สรรพคุณเหล่านี้อาจจะสามารถทดแทนด้วยยาอย่างอื่นได้
แต่ที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งจำนวนมากที่ต้องมาแอบใช้กัญชา🧪 ถึงขั้นยอมเสี่ยงคดีอาญาหรือยอมเสี่ยงที่จะมีอาการต่อจิตประสาท หรือแม้แต่กล้าที่จะใช้ทั้งๆ ที่มีข้อสงสัยเรื่องคุณภาพของกัญชา เพราะผู้ป่วยโรคมะเร็งเหล่านั้นหวังผลไปไกลกว่านั้นคือเชื่อว่า “กัญชาจะช่วยรักษาโรคมะเร็ง”ได้
“ใช้น้อยไม่หาย ใช้มากไม่ตาย” คือคำเชิญชวนของพ่อค้าน้ำมันกัญชาสกัดรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งที่ขายใต้ดินกันอย่างเอิกเกริก เพราะถ้าผู้ป่วยใช้กัญชาตามคำเชิญชวนอย่างนั้นก็ยิ่งทำให้พ่อค้าน้ำมันกัญชาขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
“น้ำมันกัญชา” ที่มีการแอบใช้ใต้ดินกันอยู่ในขณะนี้ คือการใช้กัญชาอัดแท่ง เอามาละลายสารสำคัญให้ออกมาด้วยเอธานอล 95%-98% แล้วกรองกากกัญชาออกไป จากนั้นก็ต้มแอลกอฮอล์ที่ละลายสารสำคัญของกัญชาออกมาด้วยหม้อหุงข้าวหรือดูดีขึ้นมาอีกนิดคือใช้หลอดแก้วทดลองต้มโดยใช้เตาไฟฟ้าหรือหม้อหุงข้าว เพื่อใช้ความร้อนเพื่อไล่แอลกออฮอล์ออกไปจนเกือบหมดจนเหลือเพียงน้ำมันสีดำ หลังจากนั้นของเหลวน้ำมันที่เหลืออยู่พอจะเทออกได้ ก็มีนำไปใส่ถ้วยเล็ก ๆ เพื่อไปไล่แอลกอฮอล์ขั้นสุดท้ายในเตาอุ่นถ้วยกาแฟ จนเหลือแต่น้ำมันเหนียวข้นคล้ายยางมะตอยในอุณหภูมิปกติ เมื่อจะนำมาใช้งานก็ต้องนำมาอุ่นอีกครั้งให้พอเหลวตัว และบางคนก็ผสมกับน้ำมันชนิดอื่น เช่นน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกเพื่อให้เหลวตัวสะดวกในการใช้งาน
สถานการณ์ของประเทไทยในเวลานี้พบว่ามีความต้องการใช้กัญชาในทางการแพทย์มากขึ้นนั้น ก็ยิ่งทำให้สารสกัดในน้ำมันกัญชามีไม่เพียงพอ และคุณภาพที่ได้ก็เจือจางลงไปมาก

พ่อค้าบางรายมีการใช้กากกัญชามาสกัดซ้ำหลายๆ รอบเพื่อประหยัดต้นทุน บางรายผสมน้ำมันมะพร้าวไปในสัดส่วนที่มากจนทำให้สารสำคัญยิ่งน้อยลงไปอีก ไม่ต้องพูดถึงการเร่งสกัดด้วยอุณหภูมิสูงๆหรือไม่ควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งเป็นผลทำให้สารสำคัญหายไปกับแอลกอฮอล์ที่ระเหยออกไปด้วย

ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ขอให้ผู้แอบใช้น้ำมันกัญชาทั้งหลายโปรดสังเกตผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชาที่แอบใช้กันอยู่ในขณะนี้ว่าเหลวตัวมาก ไม่เหนียวข้นเหมือนยางมะตอย และมีกลิ่นกัญชาเจือจางมาก

แต่ก็อีกนั่นแหละ เนื่องจากกัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ผู้แอบใช้กัญชาส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นของเปรียบเทียบว่าสินค้าที่มีคุณภาพนั่นเป็นอย่างไร ทำให้พ่อค้าขายน้ำมันกัญชาจะขายในราคาเท่าไหร่ก็ได้ เจือจางเท่าไหร่ก็ได้ สารสำคัญจะเหลือเท่าไหร่ก็ได้ และอาจมีการปนเปื้อนสิ่งแปลกปลอมอย่างอื่นได้ด้วย เนื่องจากกัญชาเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายทั้งผู้ครอบครอง ผู้เสพ ดังนั้นจึงไม่มีองค์กรใดที่จะสามารถช่วยตรวจสอบคุณภาพกัญชาให้ผู้ป่วยได้เลย

นั่นหมายความว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งนอกจากจะต้องซื้อสารสกัดกัญชาที่แพงมหาศาลแล้ว ยังอาจได้ของคุณภาพต่ำด้วย และบางครั้งก็คิดว่าได้สินค้าราคาไม่แพงแต่น้ำมันกัญชาที่ได้กลับเจือจางมาก ทำให้ต้องใช้น้ำมันกัญชาในปริมาณที่มากกว่าคนอื่นทั้งโลก และนี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงได้ต้องเป็นสโลแกนของพ่อค้าขายน้ำมันกัญชาบางรายว่า “ใช้น้อยไม่หาย ใช้มากไม่ตาย”
แต่ข่าวร้ายที่ไม่ค่อยได้ยินความจริงอีกด้านหนึ่งคือ มีผู้ป่วยโรคมะเร็งที่แอบใช้ “น้ำมันกัญชา” เสียชีวิตไปแล้วจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ใช้น้ำมันกัญชาเป็นยาเดี่ยวที่คิดว่าจะสามารถเป็นยารักษาโรคมะเร็งด้วยการใช้น้ำมันกัญชาเพียงอย่างเดียวโดยไม่ต้องทำอย่างอื่นเลย

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่หายป่วยจากโรคมะเร็งโดยใช้น้ำมันกัญชานั้นก็มีอยู่จริงในโลกใบนี้ แต่คนเหล่านั้นเกือบทั้งหมดผ่านกระบวนการรักษาอย่างอื่นมาแล้ว หรือไม่ก็มีการบูรณาการหลายศาสตร์เข้ามาร่วมในการรักษาด้วย
ผู้ป่วยโรคมะเร็งจำนวนหนึ่งที่ผ่านการคีโมบำบัดแล้วเมื่อใช้สารสกัดกัญชาก็มีอาการดีขึ้น ลดการอาเจียน ลดอาการปวด รับประทานอาหารได้ นอนหลับ ลดความเครียด เมื่ออาการเหล่านี้ลดลงจึงทำให้หายป่วยได้แต่เฉพาะสรรพคุณยาในยุคปัจจุบันที่มีการจดสิทธิบัตรว่าสารสำคัญในกัญชาว่าช่วยลดอาการปวด, ทำให้นอนหลับ, เจริญอาหาร, ลดอาการเครียด, ฯลฯ สรรพคุณเหล่านี้เป็นสิ่งที่ชาวเอเชียซึ่งเป็นต้นกำเนิดในการใช้กัญชานั้นรู้มานานมากแล้วนับหลายพันปี ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย
ยกเว้นกรณีของโรคมะเร็งสมองที่ดูเหมือนจะมีข่าวดีจากกรณีศึกษาว่าสารสกัดจากกัญชามีโอกาสที่จะช่วยลดมะเร็งสมองได้ก้าวหน้ามากกว่าโรคมะเร็งชนิดอื่นในขณะนี้
อย่างไรก็ตามสารสำคัญอย่าง THC ที่สกัดออกมาจากัญชามีผลเสียอยู่หลายด้าน เป็นผลทำให้มนุษย์ใช้ได้ในปริมาณอย่างจำกัด ดังนั้นผลงานวิจัยส่วนใหญ่ในโลกใบนี้ที่จะถึงขั้นใช้กัญชารักษาโรคมะเร็งในมนุษย์จึงยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

ขอบคุณข้อมูลจาก mgronline. com

15 สรรพคุณของเห็ดเป๋าฮื้อ และประโยชน์ต่างๆ1. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ภายในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะช่...
30/05/2022

15 สรรพคุณของเห็ดเป๋าฮื้อ และประโยชน์ต่างๆ
1. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ภายในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายรอดพ้นจากเชื้อโรคร้าย สิ่งแปลกปลอมอย่างพวกแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา เป็นต้น ซึ่งมักเจือปนมากับปัจจัยต่างๆ เช่น อาหาร น้ำดื่ม อากาศ ฯลฯ ทำให้ร่างกายลดอาการเจ็บป่วยลงหรือไม่เป็นเลย

2. ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายไหลเวียนได้ดี

ซึ่งนอกจากจะช่วยในการนำสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ แล้ว ยังจะทำให้การขับของเสียออกจากร่างกายง่ายขึ้น ช่วยควบคุมและรักษาน้ำและอุณหภูมิภายในร่างกายให้เป็นปกติ

3. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในระดับที่ปกติ

จึงเหมาะกับคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือมีความเสี่ยงจะเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งต้องระวังเรื่องการกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง รวมทั้งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลอีกด้วย

4. ช่วยบรรเทา อาการของโรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน ทำให้อาหารย่อยง่าย

ช่วยลดอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะโรคกระเพาะอาหารด้วย โดยอาจไม่จำเป็นต้องกินยาบรรเทาอาการของโรคเลยก็ได้

5. ช่วยบรรเทา โรคหวัด ลดน้ำมูก และอาการไข้

เนื่องจากมีวิตามินซี สูง และเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันเชื่อไวรัส แบททีเรีย เชื่อรา ต่างๆ

6. ช่วยทำให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้ดี

ทำให้ถ่ายอุจจาระง่ายขึ้น ท้องไม่ผูก ลดโอกาสที่จะเกิดโรคริดสีดวงทวารด้วย

7. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้ายและเซลล์มะเร็งได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็ง

8. ช่วยลดและบรรเทาอาการอักเสบต่างๆ

รวมทั้งอาการอักเสบเรื้อรังได้เป็นอย่างดี ทำให้อวัยวะทั้งภายในและภายนอกร่างกายสามารถจะทำงานได้อย่างเป็นปกติ

9. ช่วยในการขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายให้ออกไปได้ง่าย

โดยเฉพาะสารพิษที่ตกค้างอยู่ในตับซึ่งเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่ในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย การที่มีสารพิษหมักหมมจะทำให้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงและเจ็บป่วยง่าย

10. ดูแลระดับความดันของร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ

จึงช่วยบรรเทาการเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ ทำให้การเต้นและการทำงานของหัวใจเป็นปกติ

11. ช่วยบำรุงร่างกาย

ทำให้สุขภาพโดยรวมมีความแข็งแรง และลดอากาศผิดปกติของภาวะวัยทอง รวมทั้งยังช่วยลดอารมณ์หงุดหงิด วิตกกังวล หรือคลายความเครียด

12. ช่วยลดอาการบวมน้ำ

13. ช่วยเพิ่มการพองตัวในเพศชาย

14. ลดอาการเมาค้าง

15. บรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน

รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหาร หรือหลังอาหาร 20-30 นาที

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+66802895953

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เสริมภูมิคุ้มกันดูแลโรคเบาหวาน มะเร็ง ซีสต์และโรคเสื่อมNcdsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram