09/09/2025
การเยียวยาเด็กน้อยในวัยเด็ก เราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเยียวยาเรื่องอะไรบ้าง??
แม่หมอลองถาม ai มาเบื้องต้น ได้คำตอบดังนี้ค่ะ
การ “เยียวยาเด็กน้อยในใจ” (Inner Child Healing) เป็นการกลับไปมองบาดแผลทางอารมณ์ที่เราอาจไม่รู้ตัวว่ามันยังส่งผลกับเราอยู่
นี่คือวิธีที่เราจะรู้ว่าเราต้องเยียวยาเรื่องอะไรบ้าง
🪞 1. สังเกตพฤติกรรมซ้ำ ๆ ของตัวเอง
ลองถามตัวเองว่า
• มีเรื่องอะไรที่เราจะ “เจ็บง่าย” หรือ “โกรธง่าย” ซ้ำ ๆ
• มีรูปแบบความสัมพันธ์แบบเดิมที่ดึงดูดเข้ามาเสมอไหม (เช่น เจอคนไม่พร้อม เจอคนที่ไม่ให้คุณค่าเรา)
• เราหลีกเลี่ยงเรื่องไหนมากจนเกินไป เช่น การพูดในที่สาธารณะ การขอความช่วยเหลือ
สิ่งเหล่านี้มักจะเชื่อมโยงกับบาดแผลวัยเด็ก เช่น กลัวถูกปฏิเสธ, กลัวถูกทอดทิ้ง, กลัวผิดพลาด
⸻
📝 2. สะท้อนความรู้สึกเมื่อเผชิญสถานการณ์
เวลาที่รู้สึกอารมณ์แรง ๆ ให้ลองถามตัวเอง
• รู้สึกแบบนี้ครั้งแรกเมื่อไรในชีวิต?
• ตอนนั้นฉันอายุประมาณเท่าไหร่?
• ถ้าเด็กคนนั้นนั่งอยู่ตรงหน้า ฉันอยากพูดอะไรกับเขา?
นี่จะช่วยเปิดประตูให้เราเห็นว่าเรื่องใดที่ยังค้างคา
⸻
💬 3. ฟังเสียงวิจารณ์ในหัว
เสียงในหัวที่ชอบว่าเราว่า “ไม่ดีพอ”, “ห้ามทำผิดพลาด”, “อย่าพูดมาก เดี๋ยวโดนดุ”
ส่วนใหญ่เสียงเหล่านี้มาจากสิ่งที่เราเคยถูกสอนหรือถูกตำหนิในวัยเด็ก สิ่งที่ต้องเยียวยาคือการ “แทนที่เสียงเหล่านั้น” ด้วยเสียงที่อ่อนโยนและโอบกอดตัวเอง
⸻
🧘 4. สังเกตสิ่งที่เราโหยหา
สิ่งที่เราเรียกร้องมาก ๆ จากความสัมพันธ์ เช่น
• อยากให้ใครมารักอย่างไม่มีเงื่อนไข
• อยากให้ใครมาปกป้อง ดูแล
• อยากให้ใครมาบอกว่าเราดีพอ
นั่นคือสัญญาณว่า “เด็กน้อยในใจ” ของเรายังต้องการสิ่งนั้น
⸻
🌸 สรุป
เราจะรู้ว่าต้องเยียวยาอะไรจาก
• เรื่องที่ทำให้เรารู้สึกแรง ๆ
• เรื่องที่เรากลัวหรือหลีกเลี่ยง
• เรื่องที่เราต้องการย้ำซ้ำ ๆ
• เสียงในหัวที่ตำหนิเรา
การรู้จักสังเกตและจดบันทึก จะช่วยให้เราเห็นภาพชัดขึ้น
ใครรู้วิธีค้นหาสิ่งที่ต้องเยียวยาในวัยเด็ก นอกเหนือจากนี้ มาแชร์กันได้นะคะ เราจะได้กลับไปเยียวยาเด็กน้อยคนนั้นไปพร้อมกันค่ะ ❤️
"เด็กคนนั้น" โตมาเป็นฉันคนนี้
ถ้าแผลใจไม่ได้รับการเยียวยา
มันยากมากที่เราจะแข็งแรงจากภายใน
กลับไป "ดูแลหัวใจ" เด็กน้อยคนนั้นกันเถอะ
🌷The power of inner child healing.🌷
ไม่ว่าเราจะเติบโตไปมากขนาดไหน
ไม่ว่าเราจะล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จ
ไม่ว่าเราจะผ่านร้อนผ่านหนาว หรือเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มามายมายแค่ไหน
แต่รู้ไหมว่า"เด็กน้อย"คนหนึ่ง ยังคงรอการปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากทุกความเจ็บปวดในอดีตของเราอยู่เสมอ
หากปล่อยให้ตัวเองมีบาดแผลในใจโดยไม่ได้รับการเยียวยา อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจอย่างมากทำให้เติบโตมาพร้อมความหลังฝังใจและพยายามซ่อนบาดแผลไว้จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งบาดแผลภายนอกเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการ
เพราะเรามองเห็นมันได้ด้วยตาเปล่า
แต่บาดแผลภายใน ถ้าเราไม่จัดการอย่างถูกวิธี
มันจะกลายเป็นแผลเป็น และเป็นปมชีวิตที่ทำให้เราไม่สามารถ level up ได้
พอเติบโตขึ้นแต่ปมในวัยเด็กยังไม่ได้รับการดูแลหรือแก้ไข เมื่อมีอะไรมากระตุ้นแม้เพียงเล็กน้อย เราก็พร้อมจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ
กลับไปดูแลหัวใจในวันที่เรายังเป็นเด็ก ด้วยสายตาผู้ใหญ่ที่พร้อม "ให้อภัยและกลับมารักตัวเอง" อีกครั้งกันเถอะ
🌷ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น
ก้าวแรกของการที่จะเยียวยาทุกสิ่งคือ "การยอมรับความจริง" เราเปลี่ยนอดีตไม่ได้ แต่เราเรียนรู้จากมันได้นะ หาบทเรียนหรือข้อดีของเรื่องนั้น ๆ ให้เจอ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนสอนอะไรเราบางอย่างเสมอ
🌷โอบกอดเด็กน้อยคนนั้นด้วยความเข้าใจ
เราในวัยนั้นอาจไม่เข้าใจอะไรมากมายหรอก
อาจจะทำผิดพลาดไปบ้าง ตัดสินใจผิดไปบ้าง
แต่ต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้
เชื่อเถอะว่าเราก็จะทำแบบเดิมอีกแน่นอน
ดังนั้นอย่าโกรธตัวเองนักเลย ให้โอกาสเด็กน้อยคนนั้นได้เรียนรู้ชีวิตเถอะ
🌷ให้อภัยตัวเองและคนอื่น
"ให้อภัยตัวเอง"เพื่อที่เราจะได้มูฟออนและไปต่อได้
"อภัยคนอื่น"เพื่อปลดปล่อยตัวเราเองให้เป็นอิสระจากบ่วงของอารมณ์ทั้งปวง เพราะใจของเราคู่ควรกับความสงบสุข
แม้บางคนอาจเคยทำให้เราทุกข์ แต่เราไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเกลือกกลั้วกับความทุกข์นั้นไม่จบสิ้น
🌷อยู่กับปัจจุบัน***
'เมื่อวานคืออดีต พรุ่งนี้คือปริศนา วันนี้คือของขวัญและของจริง' ที่เราสามารถกำหนดทิศทางการกระทำของตัวเองได้
ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริง ๆ แล้วเราต้อง "ฝึก"
เพราะโดยปกติจิตของเรามักจะไหลไปกับอดีตและอนาคตโดยไม่รู้ตัว
กว่าเราจะโตมาเป็น "เรา" อย่างในทุกวันนี้
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เราเก่งมากแล้ว :)
และต่อจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก
เชื่อเถอะว่า เราก็จะผ่านมันไปได้เสมอ 🧡
#สุขภาพจิต
#ทัศนคติบวก
#เกลาไปพร้อมกัน
#เกลานิสัยอันตราย
Writer : kanompang
