ER PMK กองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

29/05/2025

เนื่องจากมีผู้ติดต่อเพื่อขอฝึกงาน elective ที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปีการศึกษา หากท่านมีความสนใจ กรุณาแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ให้ครบถ้วนผ่าน FB messenger เพื่อการพิจารณารับฝึกงาน

1. ชื่อ นามสกุล
2. ระดับที่กำลังศึกษา (นักศึกษาแพทย์ แพทย์ใช้ทุน หรือ แพทย์ประจำบ้านชั้นปีใด)
3. สถาบัน โรงพยาบาล หรือต้นสังกัดปัจจุบัน
4. ห้วงเวลาที่ต้องการฝึกงาน
5. มีความสนใจจะฝึกงาน ศึกษา หรือดูงานหัวข้อใดเป็นพิเศษ
6. หมายเลขโทรศัพท์ email address ที่จะให้ติดต่อกลับ

ทางเราจะพยายามจัดสรรให้ท่านได้ฝึกงานในห้วงเวลาที่ไม่ทับซ้อนกับการเรียนการสอนประจำ และมีอาจารย์แพทย์คอยดูแลได้ตลอดเวลา เพื่อให้ท่านได้ประโยชน์สูงสุดในการฝึกงาน

Send a message to learn more

พันเอกอารัญ สวัสดิพงษ์ รองผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน นำคณาจารย์และพยาบาลหัวหน้าห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน เข้า...
19/04/2025

พันเอกอารัญ สวัสดิพงษ์ รองผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน นำคณาจารย์และพยาบาลหัวหน้าห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน เข้าพบ พลตรีนครินทร์ ศันสนยุทธ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เพื่อแสดงความขอบคุณที่ให้ความอนุเคราะห์ให้ใช้พื้นที่ดูแลผู้ป่วย ที่ถูกอพยพจากอาคารสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในเหตุแผ่นดินไหวในวันที่ 28 มีนาคม 2568

ครบ 1 สัปดาห์เหตุแผ่นดินไหว 28 มีนาคม 2568นอกจากภารกิจนอกโรงพยาบาล แล้ว ความวุ่นวายภายในโรงพยาบาลก็หนักหนาไม่แพ้กัน ขอบั...
04/04/2025

ครบ 1 สัปดาห์เหตุแผ่นดินไหว 28 มีนาคม 2568

นอกจากภารกิจนอกโรงพยาบาล แล้ว ความวุ่นวายภายในโรงพยาบาลก็หนักหนาไม่แพ้กัน ขอบันทึกไว้เป็น digital footprint ถึงวันที่แผ่นดินพิโรธ

เมื่อแพทย์ประจำบ้านแผนกต่างๆ ในห้องฉุกเฉินรับรู้ได้ถึงการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และมีเสียงดังเกิดขึ้นจากกระเบื้องที่ดีดตัว ผนังที่ร้าว ฝ้าที่ร่วง สิ่งแรกที่น้องๆ ทำคือ “มุดโต๊ะ” ตามหลักการ ทุกคนรับรู้ว่าแล้วว่ากำลังเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง และมีสัญญาณว่าตึกอาจจะถล่ม สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือ ย้ายตัวเองและผู้ป่วยทั้งหมดออกจากอาคาร

กองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน เลือกพื้นที่ลานจอดรถของ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (AFRIMS) เป็นจุดรวมพล เนื่องจากใกล้ที่สุด และไม่มีอาคารสูงเสี่ยงต่อการถล่มทับ เมื่อการสั่นสะเทือนครั้งแรกหยุดลง แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยกันย้ายผู้ป่วยออกจากอาคาร โดยเริ่มจากผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้ให้เดินออกไปก่อน ส่วนผู้ป่วยนอนเปลจะมีเจ้าหน้าที่ทยอยพาออกไป แน่นอนว่าในห้องฉุกเฉินต้องมีผู้ป่วยวิกฤตที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ และมีเฟอร์นิเจอร์ติดตัวมากมาย การขนย้ายผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงเป็นไปอย่างทุลักทุเล แต่ทีมก็ช่วยกันนำผู้ป่วยทุกรายออกมาได้อย่างปลอดภัย

หลังจากใช้เวลาอพยพประมาณ 45 นาที แพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล เจ้าหน้าที่กองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน และเจ้าหน้าที่ EMS นำผู้ป่วยจากห้องฉุกเฉิน หอผู้ป่วยสังเกตอาการ และหอผู้ป่วยอุบัติเหตุชาย/หญิง มารวมกันที่จุดรวมพล ซึ่งสิ่งที่ทีมทำต่อไป คือ

- ตรวจสอบยอดเจ้าหน้าที่ เพื่อให้รู้ว่าทุกคนปลอดภัย และมีทีมที่พร้อมจะทำงานต่อ ซึ่งพบว่ายอดเจ้าหน้าที่ “เกิน” … เนื่องจากมีผู้ที่ถึงแม้ไม่ได้อยู่เวรส่วนหนึ่ง เดินทางจากหอพักกลับมายังโรงพยาบาลเพื่อช่วยกันดูแลผู้ป่วยโดยไม่ได้ร้องขอ
- ตรวจสอบยอดผู้ป่วย และจัด priority โดยให้พยาบาลแต่ละหอผู้ป่วยรายงานยอดผู้ป่วยต่อ zone commander เนื่องจากสถานการณ์ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอาคาีจะปลอดภัยพอให้สามารถย้ายผู้ป่วยกลับเข้าตึกได้หรือไม่ จึงจัดทำทะเบียนแบบย่อ (ชื่อ เพศ อายุ การวินิจฉัย แผนการรักษา ทรัพยากรที่ต้องใช้) ของผู้ป่วยทั้งหมดในความรับผิดชอบ เผื่อกรณีที่ต้องส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลอื่น แน่นอนว่ามีผู้ป่วยอาการเล็กน้อย และเดินได้ หายไประหว่างการอพยพ ทีมพยาบาลได้โทรตรวจสอบทุกราย พบว่ากลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
- ตรวจสอบทรัพยากรที่มี และหาได้ในเวลานั้นให้พร้อมใช้
- จัดรถ EMS 🚑 เป็น Resuscitation bay ในกรณีที่มีผู้ป่วยอาการแย่ลง หรือต้องรับผู้บาดเจ็บจากข้างนอก

ในเหตุเดียวกันนี้ก็ได้รับคำสั่งให้จัดชุดแพทย์ไปหน้างานที่เกิดเหตุตึกถล่ม หันซ้ายหันขวาเจอแพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3 (พระเอกของเราจากโพสต์ก่อนหน้านี้) จึงมอบหมายให้ไปกับทีม EMS รวมทั้งตรวจสอบ surge capacity อันน้อยนิด เพื่อเตรียมรับ mass casualty เท่าที่ทำได้

ถึงตอนนี้เราเริ่มพบปัญหาว่ามีผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้ oxygen จำนวนมาก ต้องคอยตรวจสอบถัง oxygen ว่าจะใกล้จะหมดหรือยัง ทีมจึงเริ่มทำการจัด zone ให้ผูฝเหมือนในห้องฉุกเฉิน เพื่อสะดวกในการจัดแพทย์ พยาบาล และผู้ช่วยพยาบาลไปดูแล รวมถึงง่ายต่อการบริหารทรัพยากร โดยแบ่งเป็น
- Zone สีแดง : ผู้ป่วยที่ต้องใช้ ventilator และผู้ป่วยที่ต้องได้รับการ monitor
- Zone สีส้ม : ผู้ป่วยที่ใช้ถัง oxygen
- Zone สีเหลือง : ผู้ป่วยเปลนอน
- Zone สีเขึยว : ผู้ป่วยรถนั่ง และผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองได้

เมื่อทราบว่าอาคารประภาศรีกำลังเอก (อาคารห้องฉุกเฉินเก่า) มีความมั่นคงปลอดภัยและสามารถไปใช้ได้ เราวางแผนจะย้ายผู้ป่วย zone สีแดง และสีส้มไปใช้ oxygen ที่นั้น อาจารย์แพทย์หนึ่งท่านจึงเข้าไปเป็น zone commander และสำรวจพื้นที่ ชั้น 2 (จำเป็นต้องพังประตูบ้าง ตัดโซ่บ้าง) เพื่อตรวจสอบ pipe line ทั้งหมดว่ายังใช้การได้หรือไม่ การย้ายผู้ป่วยหนักจากจุดรวมพลไปอาคารประภาศรีฯ ทีมใช้การสื่อสารกันว่า รับได้ทีละกี่คน ส่งผู้ป่วยชื่ออะไร วินิจฉัยอะไร ใช้ oxygen รูปแบบไหนไป โดยมีพยาบาลไปด้วยกับผู้ป่วยทุกราย การเคลื่อนย้ายดำเนินการโดยใช่ถนนราชวิถีหน้าโรงพยาบาล โดยขอปิดการจราจรเพียงช่องทางซ้ายสุดแค่ช่องทางเดียว ด้วยความร่วมมือจากสารวัตรทหาร และ เจ้าหน้าที่ รปภ. องค์การทหารผ่านศึก

เนื่องจากสถานการณ์มีแนวโน้มจะใช้เวลายาวนาน ผู้ป่วยบางรายมีอาการแย่ลง กอปรกับทรัพยากรที่จำกัด ทีมเลือกที่จะให้การรักษาแบบ non-invasive คือใส่ BiPAP ก่อน แล้วค่อยไปพิจารณาใส่ท่อช่วยหายใจเมื่อย้ายผู้ป่วยไปถึงอาคารประภาศรีฯ

เมื่อจัดการผู้ป่วยอาการหนักทั้งหมดแล้ว ลำดับถัดไปคือ การจำหน่ายผู้ป่วยที่พอกลับบ้านได้ การออกใบนัดใช้การแสวงเครื่อง โดยเขียนสรุปอาการ แผนการรักษา วันนัด ใส่กระดาษ A4 ให้ผู้ป่วยติดตัวกลับไป บางรายที่พร้อมกลับบ้านแต่ไม่มีรถกลับ ทีมก็ช่วยประสานรถพยาบาลเอกชนนำส่งให้เนื่องจากสภาพการจราจรภายนอกสาหัสมาก

เมื่อเหตุการณ์เริ่มสงบ ไม่มี aftershock วิศวกรประจำอาคารได้ตรวจสอบและยืนยันว่าอาคารแข็งแรงมั่นคงปลอดภัย สิ่งอุปกรณ์ ไฟฟ้า น้ำประปา pipe line สามารถใช้การได้ จึงเริ่มย้ายผู้ป่วยกลับเข้าอาคาร โดยยังคงตรวจสอบชื่อและจำนวนผู้ป่วยอยู่ตลอด เพื่อแจ้งยอดแก่ผู้บังคับบัญชาให้รับทราบ

ในช่วงแรกของการอพยพกลับ มีคำสั่งให้ใช้พื้นที่ได้เฉพาะห้องฉุกเฉิน ชั้น 1 เท่านั้น ทีมจึงจัดพื้นที่ต่างๆ ในห้องฉุกเฉินให้ผู้ป่วยจากหอผู้ป่วยเดียวกันอยู่รวมกัน เพื่อความสะดวกในการทำงานของพยาบาล และง่ายต่อการตรวจสอบผู้ป่วย

เมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ผู้ป่วยจากหอผู้ป่วยย้ายกลับขึ้นตึก ผู้ป่วยอาการหนักจากอาคารประภาศรีฯ ย้ายกลับห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ทุกคนได้ผลัดกันพักรับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำ ตรวจสอบยอดสิ่งอุปกรณ์ เวชภัณฑ์ ตรวจสอบขวัญกำลังใจ (ตามหลักการของ recovery phase) สรุปยอดผู้ป่วย debrief สั้นๆ
เราสามารถจัดเปิดห้องฉุกเฉิน 🏥 ให้พร้อมสำหรับรับผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บใหม่ได้เมื่อเวลา 21.30 น.

การที่เราสามารถผ่านพ้นวิกฤติการณ์นี้ ให้การรักษาพยาบาล และบริหารงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันอย่างรวดเร็ว ภายใต้ทรัพยากรที่จำกัด จนทำได้สำเร็จมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่งที่น่าพอใจ ตามหลักการของ Busines Continuity Plan ในภาวะวิกฤติได้นั้น เมื่อกลับมาทบทวนดูแล้ว ปัจจัยที่ส่งผลให้สำเร็จ ประกอบด้วย การมีระบบบัญชาสถานการณ์ภายในกองที่ดี การแบ่งหน้าที่ชัดเจน และทุกคนรู้หน้าที่ของตนเอง

การทำงานอย่างดีเยี่ยมของทุกคน ทำให้เราสามารถรับมือภัยที่เกิดในบ้านของเราอย่างมีประสิทธิภาพ ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

1. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร เพื่อนบ้านที่แสนดีของเรา ที่อนุญาตให้ใช้ลานจอดรถเป็นพื้นที่รองรับ กำลังพลทั้งไทยและอเมริกันต่างมาช่วยเข็นเปล ช่วยยกของ (ถัง oxygen ที่ว่าหนัก พี่ฝรั่งยกลอยสบายๆ) สนับสนุนเครื่องเสียง อุปกรณ์สำนักงาน นำน้ำดื่ม และพัดลมมาให้เรายามเหน็ดเหนื่อย

2. พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล เสมียน และเจ้าหน้าที่ทุกท่านของกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน ที่เข้มแข็ง อดทน เสียสละมาช่วยกันทั้งที่หลายท่านไม่ได้เป็นเวร ปรับเปลี่ยนให้การรักษาพยาบาลตามหน้างานได้อย่างดีเยี่ยม ของสำคัญอีกอย่างที่พยาบาลนำติดตัวมาคือ nurse note และ chart ผู้ป่วย ซึ่งทำให้ทีมสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง

3. สมาชิกศูนย์บริการแพทย์ฉุกเฉินพระมงกุฎเกล้า PMK EMS ส่งคนมาช่วยอพยพผู้ป่วยลงจากอาคาร จัดรถพยาบาลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่างอารารต่างๆ ภายใน รพ. และยังต้องจัดชุดแพทย์ไปเหตุตึกถล่มในเวลาเดียวกัน ทั้งที่ตัวเองอยู่ใต้ถุนตึก ถ้าถล่มคงไม่ต้องหา

4. อาจารย์แพทย์ทุกท่าน ที่มาช่วยกัน บางท่านลงเวรดึกไปพัก หรือไปเป็นวิทยากรที่อื่น ต่างพร้อมใจกลับมาช่วยโดยไม่ต้องร้องขอ ถึงแม้การจราจรจะติดขัด ไม่สามารถเข้าถึงโรงพยาบาลได้ อาจารย์ทุกท่านพยายามหาทางกลับมาด้วยรถประจำทาง จักรยานยนต์รับจ้าง หรือกระทั่งการเดินเท้า (วิ่งบ้าง วาร์ปบ้าง) โดยเฉพาะอาจารย์ที่ทำหน้าที่ zone commander ทั้ในจุดลานพักผู้ป่วยห้องฉุกเฉิน และที่อาคารประภาศรีกำลังเอก ส่วนอาจารย์แพทย์ที่ติดภารกิจและไม่สามารถกลับมาได้ ก็ช่วยวางแผนและคอยชี้แนะการปฏิบัติของทีมอยู่ห่างๆ อย่างทุรนทุราย (อยากกลับไปช่วยใจจะขาด แต่กลับไปไม่ได้)

5. แพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ทั้งที่ขึ้นเวร ที่ปฏิบัติหน้าที่เคลื่อนย้าย และดูแลผู้ป่วยของเราได้อย่างดีเยี่ยม และที่ไม่ได้ขึ้นเวรก็มาจากหอพักเพื่อช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าบางคนจะมาช้าไปนิดเพราะขอแวะซื้อหมวกกันน็อค⛑️ ก่อนเข้าพื้นที่

6. นักเรียนแพทย์ทหาร วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎ ที่อยู่ช่วยดูแลผู้ป่วยถึงค่ำมืด

7. เจ้าหน้าที่ส่วนสนับสนุน ที่คอยหาน้ำหาข้าวให้ จำเป็นมากทั้งระหว่างทำงาน และตอนที่สถานการณ์เริ่มสงบและมีภาวะ adrenaline withdrawal

8.น้องๆ พลทหาร ร้อย.พล.สร. รพ.รร.๖ และน้องๆ เวรเปล ที่มาช่วยย้ายคนไข้ทั้งขาไปและขากลับ น้องมากันเยอะมากและพร้อมทำงานสุดๆ ถึงแดดจะร้อน น้องก็มายืนรอพร้อมให้เรียกไปย้ายคนไข้

9. สารวัตรทหาร และ เจ้าหน้าที่ รปภ. องค์การทหารผ่านศึก ที่ช่วยดูแลเรื่องการจราจรและความปลอดภัยในพื้นที่

10. รถพยาบาลเอกชน ช่วยส่งผู้ป่วยกลับบ้าน ไม่รู้ว่าออกไปแล้วรถติดแค่ไหน ส่งผู้ป่วยถึงที่โมง และแต่ละคันกว่าจะกลับถึงบ้านตัวเองกันกี่โมง

เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราถูกทดสอบระบบ เราถูกทดสอบมาหลายครั้ง เช่น เหตุชุมนุมทางการเมือง เหตุลอบวางระเบิดในโรงพยาบาล ทุกครั้งสำเร็จเพราะความร่วมแรงร่วมใจของทุกคน ทุกเหตุการณ์ทำให้เรารู้ว่าเรามีศักยภาพแค่ไหน แต่เราจะไม่นิ่งนอนใจ เหตุใดมาคราวหน้า เราจะพร้อมกว่านี้ และทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก




#แผ่นดินไหว

เหตุภัยพิบัติมักจะก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน อย่างไรก็ตามโอกาสดีเพียงอย่างเดียวในเหตุร้ายต่างๆ สำหรับผู้ปฏิบ...
01/04/2025

เหตุภัยพิบัติมักจะก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน อย่างไรก็ตามโอกาสดีเพียงอย่างเดียวในเหตุร้ายต่างๆ สำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินและภัยพิบัติคือ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริง และวัดว่าสิ่งที่เรียนมาสามารถนำไปใช้ได้

กองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน ได้รับคำสั่งจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตามดำริของผู้บัญชาการทหารบก ให้จัดชุดแพทย์สมทบกับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทำหน้าที่เป็น medical commander ในเหตุอาคารถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568

ชุดแพทย์ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดช่วยชีวิตขั้นสูง (resuscitation) ในการปฏิบัติงานสามารถช่วยพยุงชีพผู้บาดเจ็บที่หัวใจหยุดเต้นจาก crush syndrome และนำส่งโรงพยาบาลได้สำเร็จ (สุดท้ายเราสูญเสียผู้ป่วยรายนี้จากภาวะทาง metabolic ผิดปกติอย่างรุนแรงในเช้าวันที่ 29 มีนาคม)

ในปฏิบัติการครั้งนี้ ขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมดังต่อไปนี้

ร.อ.ธนนันท์ ชวศร แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3 ที่อาสาไปปฏิบัติงานโดยที่ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของอาจารย์ พ.อ.หญิง ปิยธิดา กัลยาณมิตร ผู้ที่สำเร็จการศึกษาด้านภัยพิบัติจากประเทศญี่ปุ่น

หลังจาก ร.อ.ธนนันท์ฯ นำส่งผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล นพ.ปฏิภาน โทอินทร์ แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 1 ได้มาผลัดเปลี่ยน ไม่ได้หลับไม่ได้นอนจนถึงเช้า ต้องนอนชดเชยหลายชั่วโมงเหมือน jet lag

อาจารย์ พ.ท.หญิง ธันยพร ตั้งตรงจิตร ผู้จัดการการอพยพผู้ป่วยจากอาคารสิริกิติ์ฯ อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจารย์ พ.อ.ณัฐ ไกรโรจนานันท์ ตามมาช่วยในผลัดที่สองวันเสาร์ที่ 29 มีนาคม

อาจารย์ พ.อ.กิติศักดิ์ แสนประเสริฐ ถึงแม้จะลาออกจากราชการ แต่เลือดทหารยังไหลเวียนในตัว มาช่วยในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พร้อมกับ พญ.ณัฐพร หทัยเปี่ยมสุข แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 3 นพ.วิศรุต ถนอมพฤฒิกุล แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2 และนพ.รัฐบดินทร์ จรรยากูล แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2 ในผลัดสุดท้ายก่อนจะปรับภารกิจการค้นหาเป็นการรื้อถอน โดยมีอาจารย์นนทกา นิพิธกุล ศิษย์เก่า EP PMK รุ่น 14 ทำหน้าที่ medical commander

พ.ต.ธีร์ธวัช สถิรรัตน์ EP PMK รุ่น 13 ได้รับคำสั่งจากกรมแพทย์ทหารบกให้ stand by การส่งกลับทางอากาศในกรณีโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ไม่สามารถทำการผ่าตัดรักษาได้ ก็ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่เป็น intensivist มารอช่วยหากมีผู้ป่วยอาการหนักออกจากซากตึก

และคนสำคัญที่สุดอีกคนคือ ทีม PMK EMS ที่ทำทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง ประสานงาน เตรียมอุปกรณ์ ครบถ้วน พร้อมเข้าพื้นที่ เสียสละและอดทน

การปฏิบัติงานครั้งนี้ทำให้เห็นว่าเรามีความพร้อม ความมุ่งมั่นในการทำงานให้ดีที่สุด และเรียนรู้จากเหตุการณ์จริงโดยมีอาจารย์ดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกท่าน และเป็นกำลังใจแก่ผู้ที่ยังปฏิบัติงานต่อ หวังว่าสักวันเราจะได้กลับไปร่วมแรงร่วมใจกันอีกครั้ง




#แผ่นดินไหว
#ตึกถล่ม

Cadaveric Workshop for Emergency Procedureถึงแม้น้องๆ แพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินจะผ่านการอบรมหลักสูตร Conprehensive ...
04/03/2025

Cadaveric Workshop for Emergency Procedure

ถึงแม้น้องๆ แพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินจะผ่านการอบรมหลักสูตร Conprehensive Life Support กันมาแล้ว แต่การเสริมสร้างความมั่นใจในการทำหัตถการช่วยชีวิตขั้นสูงก่อนจะไปปฏิบัติกับผู้ป่วยจริงสามารถทำได้หลายวิธี การฝึกปฏิบัติกับเนื้อเยื่อจริงของอาจารย์ใหญ่ผู้เสียสละมีทั้งความสมจริงทั้งด้านกายวิภาค และความยืดหยุ่น

กองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ด้วยความร่วมมือของศูนย์ฝึกสถานการณ์จำลองทางการแพทย์พระมงกุฎเกล้า และภาควิชากายวิภาคศาสตร์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ได้จัด cadaveric workshop ในวันที่ 4 มีนาคม 2568 เพื่อให้แพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ฉุกเฉินทั้งสามชั้นปีได้มีประสบการณ์สมจริง ประกอบด้วย การผ่าตัดเปิดทางเดินหายใจ การเจาะระบายของเหลวจากถุงเยื่อหุ้มหัวใจ การใส่ท่อระบายทรวงอก การเปิดหลอดเลือดดำส่วนกลาง การให้สารน้ำทางโพรงไขกระดูก เป็นต้น

ขอขอบคุณบริษัท Teleflex ที่กรุณาสนับสนุนอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกอบรมในครั้งนี้เป็นอย่างสูง

เรียนเชิญชาว ER และ EMS ที่สนใจเข้าร่วมงาน EMS asia ระดับนานาชาติครับ🚑🚨🩺
12/12/2024

เรียนเชิญชาว ER และ EMS ที่สนใจเข้าร่วมงาน EMS asia ระดับนานาชาติครับ

🚑🚨🩺

 #  การสมัครเข้ารับคัดเลือกเป็นแพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ปีการฝึกอบรม 2568 # # ขั้นตอนการใช้งานระบบสมัครแพทย์ประจำบ...
30/09/2024

# การสมัครเข้ารับคัดเลือกเป็นแพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ปีการฝึกอบรม 2568

# # ขั้นตอนการใช้งานระบบสมัครแพทย์ประจำบ้าน 2568

1. บันทึกข้อมูลการสมัครที่[เว็บไซต์แพทย์สภา](http://www.tmc.or.th/tcgme) และ print เอกสารเก็บเป็นไฟล์ pdf
2. โอนเงินค่าสมัครเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย
> ชื่อบัญชี: วิทยาลัยแพทย์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย เพื่อ อฝส.
> ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 142-0-25854-0
3. [ตรวจสอบรายชื่อสถาบัน จำนวนที่เปิดรับสมัคร และจำนวนผู้สมัครแต่ละอันดับ](https://tcep.or.th/resident-matching/2568/training-center)
4. [บันทึกแบบฟอร์มสมัครเข้ารับคัดเลือกแพทย์ประจำบ้าน 2568](https://forms.gle/vQuHrq15jvBSnW7q6)
- จำเป็นต้องมี Google account เพื่อ upload ไฟล์เข้าระบบ
- 1 บัญชีผู้ใช้ จะสามารถบันทึกแบบฟอร์มได้ 1 ชุด กรณีต้องการแก้ไขให้ดูข้อ 5.
5. หลังจากบันทึกแล้ว จะมี email ยืนยันส่งไปที่ email address ที่ท่านระบุ ท่านสามารถ ตรวจสอบ และแก้ไขข้อมูลที่เคยบันทึก

หมายเหตุ:

- 1 บัญชีผู้ใช้ จะสามารถบันทึกแบบฟอร์มได้ 1 ชุด
- ผู้สมัครสามารถบันทึกข้อมูลเบื้องต้น และกลับมาแก้ไขเพิ่มเติมได้ โดยใช้บัญชีผู้ใช้เดิม ในระหว่างช่วงเวลาเปิดรับสมัคร
- หากพบปัญหาการใช้งาน กรุณาติดต่อ [webmaster@tcep.or.th](mailto:webmaster@tcep.or.th)

คณาจารย์กองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ร่วมกับ ศูนย์เวชศาสตร์ทหารพระมงกุฎเกล้า จัดการฝึกอบรมการช่...
12/09/2024

คณาจารย์กองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ร่วมกับ ศูนย์เวชศาสตร์ทหารพระมงกุฎเกล้า จัดการฝึกอบรมการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บจากสนามรบ และการยึดตรึงเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ ให้แก่ แพทย์ และพยาบาล ที่ปฏิบัติงานลำเลียงผู้ป่วยฉุกเฉินทางอากาศ (HEMS) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการสนับสนุนของ พลตรีโชคชัย ขวัญพิชิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายวชิราวุธ / แพทย์ใหญ่ กองทัพภาคที่ 4





ภาพบรรยากาศการฝึกปฏิบัติการเพชราวุธ ของนพท./นศพ. ชั้นปีที่ 6 รุ่นที่ 45 ซึ่งจัดโดยภาควิชาเวชศาสตร์ทหารและชุมชน วิทยาลัยแ...
12/09/2024

ภาพบรรยากาศการฝึกปฏิบัติการเพชราวุธ ของนพท./นศพ. ชั้นปีที่ 6 รุ่นที่ 45 ซึ่งจัดโดยภาควิชาเวชศาสตร์ทหารและชุมชน วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ทั้งนี้มีคณาจารย์จากกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฎเกล้า มีส่วนร่วมในการสอน ณ ภาคที่ตั้ง เมื่อวันที่ 29-30 ส.ค. 2567 และเข้าร่วมเป็น instructor การฝึกภาคสนามที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 3-5 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา ทั้งนี้มีแพทย์ประจำบ้านสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินที่ให้ความสนใจ เข้าร่วมสังเกตการณ์อีกด้วย…

🪖🎖️🩺🚑


เปิดรับสมัคร “แพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน”โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า  ปีการศึกษา 2568🏥 โรงเรียนแพทย์ใจกลางเมือง  🩺 มีเคสห...
11/09/2024

เปิดรับสมัคร “แพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน”
โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ปีการศึกษา 2568

🏥 โรงเรียนแพทย์ใจกลางเมือง
🩺 มีเคสหลากหลายให้ได้เรียนรู้
👩‍🏫 มีอาจารย์แพทย์คอยให้คำปรึกษาขณะปฏิบัติงาน
🚑 ACLS, PALS, ATLS, PHTLS เรียนในสถาบัน
🧐 มีศูนย์จำลองสถานการณ์การเรียนรู้ เพิ่มทักษะการดูแลผู้ป่วย มีโอกาสได้ร่วมฝึกและสังเกตการณ์ด้านภัยพิบัติ การบาดเจ็บจากการรบ ฯลฯ

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา “ER PMK”



#แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน

📣📣 งานประชุมวิชาการ สำหรับชาว “Emergency” ทุกท่าน ใกล้หมดเขตแล้วสำหรับรอบ Early bird รีบสมัครกันเข้ามาเยอะๆแล้วมาเจอกันใ...
26/08/2024

📣📣 งานประชุมวิชาการ สำหรับชาว “Emergency” ทุกท่าน ใกล้หมดเขตแล้วสำหรับรอบ Early bird รีบสมัครกันเข้ามาเยอะๆ
แล้วมาเจอกันในงานนะครับ..…
🩺💉🚨🚑

📣 ขอเชิญผู้ที่สนใจสายงาน EMS  🚑🚨
06/08/2024

📣 ขอเชิญผู้ที่สนใจสายงาน EMS 🚑🚨

We are excited to announce the launch of our highly anticipated
Asian EMS Competition 🏆 ✨

How to join the competition?

1. Build a team of 5 members, including at least one emergency physician 🩺or equivalent rescue-ability professionals 🩹.

2. Complete the registration by filling out the Google Form here: https://forms.gle/SMsKpG7KJZK2nsoQ8 📲

3. Wait for a confirmation and notification 🚨 from us.

Do not wait! ⏰
Registration deadline: 31 October 2024

Full guideline:https://emsasia2025.com/site/wp-content/uploads/2024/07/Asian-EMS-Competition-2025.pdf

If you have questions, feel free to drop them in the inbox or email: info@emsasia2025.com, and we will get back to you shortly.

ที่อยู่

315 ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
Bangkok
10400

เบอร์โทรศัพท์

+6627633453

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ER PMKผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท