
26/09/2025
RECAP : ถอดรหัส 5 เรื่องจริงถนนทรุด แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น ใต้พื้นดินใจกลางกรุง!
ภาพหลุมยุบขนาดยักษ์กลางถนนสามเสนที่เราเห็น... เป็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น แล้วใต้ดินที่มองไม่เห็นมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง?
ภาพหลุมยุบขนาดมหึมาใจกลางถนนสามเสน กลายเป็นภาพที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนกรุงเทพฯในชั่วข้ามคืน ถนนที่หายไปทั้งแถบ อาคาร สน.สามเสนที่แตกร้าวน่าหวาดเสียว แต่สิ่งที่เราเห็นด้วยตาเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของปัญหาใหญ่ที่ซ่อนอยู่ใต้ดิน
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกรและประธานการประชุมอุโมงค์โลกปี 2012 ได้วิเคราะห์เหตุการณ์นี้และเผย 5 ความจริงที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
🔵 [ความจริงข้อ 1: ท่อน้ำแตกคือ "ผลลัพธ์" ไม่ใช่ "ต้นเหตุ"]
คำอธิบายแรกที่คนส่วนใหญ่เข้าใจคือ ท่อประปาขนาดใหญ่แตกจนน้ำเซาะดินและทำให้ถนนยุบตัว แต่
ดร.เอ้ เสนอทฤษฎีที่ตรงกันข้าม ลำดับเหตุการณ์ที่แท้จริงน่าจะเป็นดังนี้
ขั้นที่ 1: เริ่มจากรอยรั่วของอุโมงค์ ณ จุดเชื่อมต่อระหว่างตัวสถานีรถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้วกับอุโมงค์ที่เพิ่งเจาะทะลุเข้ามา
ขั้นที่ 2: ดินและทรายไหลเข้าอุโมงค์อย่างต่อเนื่องผ่านช่องว่างนี้ ทำหน้าที่เหมือนท่อระบายขนาดยักษ์ จนเกิดเป็นโพรงใหญ่ใต้ดิน
ขั้นที่ 3: เมื่อโพรงขยายใหญ่ขึ้น ดินที่เคยรองรับท่อประปาเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.20 เมตรก็หายไป ทำให้ท่อไม่สามารถรับน้ำหนักและแรงดันน้ำได้ จึงหักลงในที่สุด
หลักฐานสนับสนุนคือ มิเตอร์วัดแรงดันของการประปานครหลวงไม่พบความผิดปกติตลอดทั้งคืน และเพิ่งแจ้งเตือนแรงดันลดลงในเวลา 6 โมงเช้า ชี้ว่าท่อเพิ่งแตกตอนนั้น แต่รอยรั่วของอุโมงค์เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นนานแล้ว
แล้วทำไมปัญหาใต้ดินถึงซับซ้อนกว่าที่คิด?
🔵 [ความจริงข้อ 2: อุโมงค์ซ้อนชั้น ความลับที่หลายคนไม่เคยรู้]
ความแตกต่างครั้งนี้คือลักษณะทางวิศวกรรมที่ไม่เหมือนใคร โดยปกติอุโมงค์รถไฟฟ้ามักวิ่งขนานกันสองท่อในแนวราบ แต่เนื่องจากถนนสามเสนกว้างไม่เพียงพอ วิศวกรจึงออกแบบให้เป็นแบบ "ซ้อนกัน" ในแนวดิ่ง เหมือนเตียงสองชั้น
เหตุการณ์ถล่มครั้งนี้เกิดกับ "อุโมงค์ตัวบน" ที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานี ส่วนความท้าทายต่อไปคือสภาพของ "อุโมงค์ตัวล่าง" ที่อยู่ลึกลงไปอีกประมาณ 10 เมตร ยังคงเป็นปริศนาที่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด
การมีอุโมงค์ซ้อนชั้นนี้ทำให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนขึ้นอีกระดับ เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของทั้งสองชั้น
แล้วอาคารที่อยู่ข้างๆ จะเป็นอย่างไร?
🔵[ความจริงข้อ 3: อาคารที่ถูก "กัดเซาะฐาน" และอาจต้อง "ผ่าตัด" ทิ้ง]
สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคืออาคาร สน.สามเสน ที่ตั้งอยู่ติดกับหลุมยุบ เนื่องจากเป็นอาคารไม่สูงมาก ฐานรากและเสาเข็มจึงไม่ลึกถึงชั้นดินแข็งเหมือนอาคารสูง ทำให้ฐานรากอยู่ในบริเวณที่ดินทรุดตัว
ดร.เอ้ อธิบายสภาพที่น่าหวาดเสียวว่า "อาคาร สน.สามเสน ครึ่งหนึ่งทางฝั่งขวาแทบจะไม่มีดินรองรับฐานรากเหลืออยู่แล้ว ที่ยังคงตั้งอยู่ได้ก็เพราะครึ่งซ้ายคอยค้ำไว้ แต่อาคารทั้งหลังก็ได้เกิดการบิดตัวและแตกร้าวอย่างรุนแรงแล้ว" การแก้ไขไม่ใช่แค่การถมดินกลับ เพราะดินบริเวณนั้นสูญเสียความสามารถในการยึดเกาะและรับน้ำหนักไปแล้ว ดังนั้นแนวทางเพื่อความปลอดภัยอาจรุนแรงถึงขั้นต้อง "หั่นครึ่ง" หรือรื้อถอนส่วนอาคารที่เสียหายทิ้งไปเลย ในทางกลับกัน อาคารโรงพยาบาลวชิรพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงมีความปลอดภัยสูงกว่า เนื่องจากใช้ฐานรากเสาเข็มลึกถึง 52 เมตร
แล้วการแก้ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร?
🔵 [ความจริงข้อ 4: ปัญหาแท้จริงคือ "ดินในอุโมงค์" ไม่ใช่ "หลุมบนถนน"]
การถมดินในหลุมยุบที่เราเห็นบนถนนเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาที่แท้จริงและซับซ้อนกว่าหลายเท่าตัวซ่อนอยู่ใต้ดิน ดินและทรายปริมาณมหาศาล คาดว่าอาจถึงหลักหมื่นลูกบาศก์เมตร ได้ไหลเข้าไปท่วมท้นอยู่ภายในสถานีและอุโมงค์รถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้ว ทำให้สถานีใหม่เอี่ยมกลายเป็นเหมือนอ่างเก็บดินขนาดใหญ่
ภารกิจที่ใหญ่หลวงคือการนำดินทั้งหมดออกมา แต่งานนี้ไม่สามารถเริ่มได้จนกว่ารูรั่วของอุโมงค์จะถูกปิดสนิท 100% เพราะหากเริ่มขนดินออกในขณะที่รอยรั่วยังอยู่ ดินจากภายนอกอาจทะลักเข้ามาซ้ำ อาจทำให้เกิดการถล่มครั้งใหม่และเป็นอันตรายต่อชีวิตทีมงาน
แล้วใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะแก้เสร็จ?
🔵 [ความจริงข้อ 5: ลืมเรื่อง 7 วันญี่ปุ่นได้เลย นี่คือความท้าทายคนละระดับ]
กระแสในโซเชียลมีเดียมักเปรียบเทียบกับหลุมยุบในฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ที่ซ่อมเสร็จใน 7 วัน แต่ ดร. เอ้ ยืนยันว่าทั้งสองกรณี "เทียบกันไม่ได้"
เหตุจากความซับซ้อนของกรุงเทพฯ มีหลายมิติ
ข้อจำกัดพื้นที่ : ถนนสามเสนแคบ การจราจรหนาแน่น ทำให้การนำเครื่องจักรกลหนักเข้า-ออกทำได้ลำบาก และความแคบนี้เองเป็นเหตุผลที่ต้องใช้โครงสร้างอุโมงค์ซ้อนชั้นที่ซับซ้อนตั้งแต่แรก
ผลกระทบต่ออาคาร : อาคาร สน.สามเสน เสียหายรุนแรง ต้องมีการจัดการเป็นพิเศษ
พื้นที่อ่อนไหว : จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้โรงพยาบาล ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ขนาดปัญหา : ปริมาณดินที่ต้องขนออกจากอุโมงค์เป็นหลักหมื่นลูกบาศก์เมตร
ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ คาดการณ์ว่าระยะเวลาแก้ไขและฟื้นฟูจะใช้เป็น "หลายเดือน" ไม่ใช่สัปดาห์
แล้วนี่คือบทเรียนอะไรสำหรับเรา?
🔵 [เมื่อกรุงเทพฯ เติบโตลงใต้ดิน]
เหตุการณ์อุโมงค์ถล่มบนถนนสามเสนได้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อน ความเปราะบาง และความท้าทายอย่างมหาศาลของการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใต้ดินในพื้นที่ธรณีวิทยาที่เป็นดินเหนียวอ่อนอย่างกรุงเทพมหานคร การแก้ไขปัญหาไม่ได้จบลงแค่การถมดินบนพื้นถนน แต่เป็นภารกิจทางวิศวกรรมขนาดใหญ่ที่ต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความรอบคอบในทุกขั้นตอน
ในขณะที่กรุงเทพฯ กำลังเติบโตลงสู่ใต้ดินมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากโครงการรถไฟฟ้า อุโมงค์ระบายน้ำ และโครงสร้างใต้ดินอื่นๆ เหตุการณ์ครั้งนี้ได้มอบบทเรียนสำคัญอะไรบ้าง เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต จะถูกสร้างขึ้นบนรากฐานของความปลอดภัยอย่างแท้จริง และจะไม่กลายเป็นระเบิดเวลาที่รอวันปะทุขึ้นมาอีกในอนาคต?
#ถนนทรุด #วชิรพยาบาล #ดรเอ้ #สุชัชวีร์สุวรรณสวัสดิ์ #วิศกรรม #สามเสน #โครงสร้างพื้นฐาน #รถไฟใต้ดิน