Sarisa โหราศาสตร์ ดวงดาวมีผลในการกำหนดชะตาชีวิต สามารถกดติดตามเพื่อรับข่าวสารได้ฟรี

เคยได้ยินประโยคที่ว่า ‘เก่งแล้วต้องเฮงด้วย?’ งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จที่เราเห็นอาจเป็นผลจากความโชคดีเป็นหลัก
28/04/2024

เคยได้ยินประโยคที่ว่า ‘เก่งแล้วต้องเฮงด้วย?’ งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จที่เราเห็นอาจเป็นผลจากความโชคดีเป็นหลัก

UPDATE: ต้องทำความเข้าใจเสียใหม่! คนรวย (อาจ) ไม่ได้เก่งเท่าที่คุณคิด พวกเขาแค่ ‘โชคดี’ กว่า
เคยได้ยินประโยคที่ว่า ‘ถ้าเก่งจริงทำไมไม่รวย?’ หรือเปล่า งานวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จที่เราเห็นอาจเป็นผลจากความโชคดีเป็นหลัก
การกระจายตัวของความมั่งคั่งมักจะเป็นไปตามรูปแบบที่เรียกว่ากฎ 80:20 นั่นคือ 80% ของความมั่งคั่งทั้งหมดถูกครอบครองโดยคนเพียง 20% ที่เหลือ โดยมีรายงานที่สรุปว่า มีผู้ชายเพียง 8 คนที่มีความมั่งคั่งเทียบเท่ากับคนจนที่สุดในโลก 3.8 พันล้านคนรวมกัน!
รูปแบบนี้มีให้เห็นทุกสังคม และเรียกว่า Power Law ซึ่งเกิดขึ้นได้ในปรากฏการณ์ทางสังคมหลายอย่าง แต่การกระจายตัวของความมั่งคั่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่เป็นที่ถกเถียงที่สุด เพราะมันสะท้อนประเด็นเรื่องความยุติธรรมและการให้รางวัลตามความสามารถ ทำไมคนหยิบมือถึงได้ครองความร่ำรวยมากมายขนาดนั้น?
🟡 เราอาจเข้าใจผิดเรื่องระบบ ‘ให้ผลตอบแทนตามความสามารถ’
คำอธิบายทั่วไปมักจะบอกว่า เราอยู่ในสังคม Meritocracy ที่ผู้คนจะได้รับรางวัลตามพรสวรรค์ ความฉลาด ความพยายาม ฯลฯ เราอาจเห็นว่าโชคดีมีส่วนบ้าง แต่หลักๆ แล้วความสามารถต่างหากที่เป็นตัวกำหนด
แต่มันมีปัญหากับแนวคิดนี้คือ แม้ว่าการกระจายตัวของความมั่งคั่งจะเป็นไปตาม Power Law แต่การกระจายตัวของทักษะมนุษย์กลับเป็นการกระจายแบบปกติ (Normal Distribution) ซึ่งมีความสมมาตรรอบค่าเฉลี่ย ตัวอย่างเช่น คะแนน IQ ที่ใช้วัดความฉลาด ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 100 แต่มันจะไม่มีใครที่มี IQ 1,000 หรือ 10,000
และความพยายามก็เช่นกัน ถ้าคุณวัดเป็นชั่วโมงการทำงาน บางคนทำงานนานกว่าค่าเฉลี่ย บางคนทำงานน้อยกว่า แต่ไม่มีใครหรอกที่จะทำงานเป็นพันล้านชั่วโมงมากกว่าคนอื่น
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่พอเห็นรางวัลที่เกิดจากการทำงานเหล่านี้เราพบว่า บางคนมีความร่ำรวยเป็นพันล้านเท่ามากกว่าคนอื่นๆ ที่สำคัญงานวิจัยจำนวนมากก็แสดงให้เห็นว่าคนรวยที่สุดมักจะไม่ได้เก่งกว่าคนอื่นๆ ตามมาตรฐานวัดอื่นๆ
🟡 ความโชคดีสำคัญกว่าที่คาด
ปัจจัยอะไรกันแน่ที่ส่งผลให้คนบางคนร่ำรวย? จะเป็นไปได้ไหมว่าโชคมีบทบาทมากกว่าที่ใครคาดคิด? และเราจะใช้ประโยชน์จากปัจจัยนี้ได้อย่างไรบ้าง?
คำตอบมาจากผลงานวิจัยของ Alessandro Pluchino จากมหาวิทยาลัยคาตาเนียในอิตาลี และทีมงาน โดยสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์แสดงพรสวรรค์ของมนุษย์ และวิธีที่มนุษย์ใช้มันหาประโยชน์จากโอกาสในชีวิต แบบจำลองนี้ช่วยให้ศึกษาบทบาทของโชคในกระบวนการนี้ได้
ผลการทดลองชวนประหลาดใจ แบบจำลองสร้างการกระจายตัวของความมั่งคั่งให้เหมือนกับโลกจริงได้อย่างแม่นยำ แต่คนรวยที่สุดในแบบจำลองนั้นไม่ได้เก่งที่สุดแต่อย่างใด (แม้ว่าพวกเขาจะมีทักษะระดับหนึ่ง) สิ่งที่ทำให้พวกเขารวยที่สุดคือความโชคดี และนี่มีนัยสำคัญต่อวิธีที่สังคมจะเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุนทุกด้าน ตั้งแต่ธุรกิจไปจนถึงวิทยาศาสตร์
🟡 แบบจำลองของ Pluchino
แบบจำลองประกอบด้วยผู้คนจำนวนหนึ่ง แต่ละคนมีความเก่งระดับหนึ่ง ซึ่งกระจายอย่างปกติรอบค่าเฉลี่ย ดังนั้นบางคนเก่งกว่าค่าเฉลี่ย และบางคนน้อยกว่า แต่จะไม่มีใครฉลาดกว่าคนอื่นเป็นหลักร้อยหลักพันเท่า
จากนั้นจำลองการทำงาน 40 ปี โดยแต่ละคนมีโอกาสเจอเหตุโชคดีที่จะทำให้รวยขึ้นหากมีความเก่งพอ แต่ก็จะเจอเหตุการณ์โชคร้ายที่จะลดความมั่งคั่งลงได้เช่นกัน โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดแบบสุ่ม
เมื่อจำลองจบ ทีมงานก็จัดลำดับคนแต่ละคนตามความร่ำรวย และทบทวนว่าคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในแบบจำลองมีลักษณะอย่างไร และยังศึกษาการกระจายตัวของความมั่งคั่งด้วย จากนั้นจึงทำแบบจำลองเดิมแบบซ้ำๆ เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของผลลัพธ์
ผลที่ได้คือ เมื่อจัดลำดับคนตามความมั่งคั่งแล้ว การกระจายตัวจะเหมือนกับที่พบในสังคมโลกจริง แต่คนที่รวยที่สุด 20% ไม่ได้เป็นกลุ่ม 20% ที่เก่งที่สุดเลย ซึ่ง “ความสำเร็จสูงสุดไม่เคยตรงกับคนเก่งที่สุด” นักวิจัยกล่าว
🟡 ปัจจัยชี้ขาด: ความโชคดีล้วนๆ
ทีมได้พิสูจน์ข้อนี้โดยจัดอันดับบุคคลตามจำนวนเหตุการณ์โชคดีหรือโชคร้ายที่เกิดขึ้นตลอด 40 ปีของการทำงาน ผลชัดเจนว่า ‘คนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดก็คือคนที่โชคดีที่สุดด้วย และคนล้มเหลวก็คือคนที่โชคร้ายที่สุด’
ทีม Pluchino ได้ศึกษาเรื่องนี้ในมุมของงบประมาณสนับสนุนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักวิจัยทุกคนสนใจ องค์กรระดับโลกมักสนใจที่จะเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ให้มากที่สุด เมื่อเร็วๆ นี้ European Research Council ได้ลงทุนถึง 1.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 58 ล้านบาท) ในโครงการศึกษาเรื่อง Serendipity (โชคช่วย) ว่ามีบทบาทกับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์อย่างไร และจะใช้ความรู้นี้ปรับปรุงการให้งบประมาณได้อย่างไร
พวกเขาจึงพยายามหาคำตอบว่าแบบจำลองไหนจะให้ผลตอบแทนสูงสุดเมื่อต้องพิจารณาเรื่องโชคดีด้วย โดยศึกษา 3 แบบจำลอง
◾️ กระจายงบประมาณให้แก่นักวิทยาศาสตร์เท่าๆ กัน
◾️ สุ่มเลือกนักวิทยาศาสตร์ที่จะได้รับทุนส่วนหนึ่ง
◾️ ให้นักวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในอดีต
🟡 ผลลัพธ์
วิธีที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดคือ การกระจายทุนให้เท่าๆ กัน และแบบที่ดีรองลงมาคือ สุ่มให้ 10% หรือ 20% ของนักวิทยาศาสตร์ เพราะวิธีเหล่านี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถได้ประโยชน์จากการค้นพบโดยบังเอิญได้มากที่สุด เมื่อคิดย้อนหลังมันก็ชัดเจนว่า การค้นพบสำคัญโดยบังเอิญที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ได้การันตีว่าจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
แนวทางเดียวกันสามารถนำมาปรับใช้ในการลงทุนด้านอื่นๆ เช่น ธุรกิจขนาดเล็ก-ใหญ่, สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี, การศึกษาเพื่อเพิ่มพูนทักษะ หรือแม้กระทั่งการสร้างโอกาสให้เกิดโชคดีโดยบังเอิญแบบสุ่ม
กระนั้นเรายังต้องศึกษาเรื่องนี้อีกมาก แต่ที่แน่ๆ คือมีหลักฐานสำคัญแล้วว่าความร่ำรวยมหาศาลของบางคนอาจเกิดจากความโชคดีล้วนๆ มากกว่าที่คุณคิด
อ้างอิง:
https://edher.medium.com/are-you-smart-so-why-arent-you-rich-714c7827ff99
www.technologyreview.com/2018/03/01/144958/if-youre-so-smart-why-arent-you-rich-turns-out-its-just-chance/

24/09/2023

เช็คดวงโชคลาภของคุณมาจากอะไร? ประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2566 #12ราศี #โชคลาภ #ถูกหวย #รวยโชค

ที่อยู่

56/730, Beyond Sukhumvit Condo Soi Sunpawut 2
Bangkok
10260

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Sarisaผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram