06/12/2017
15ผลไม้ลดท้องผูก
อาการท้องผูก นับว่าพบได้มากในผู้คนยุคปัจจุบัน แม้ว่าจะไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร แต่ก็มักสร้างปัญหาในชีวิตประจำวัน ทั้งการถ่ายอุจจาระไม่ออก ก็อาจนำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บมากมายโดยจะทำให้รู้สึกอึดอัด อ่อนแรง หงุดหงิดง่าย แล้วหากว่าปล่อยให้อาการท้องผูกเป็นเรื้อรังนานๆ ก็มีโอกาสเป็นริดสีดวงและอาจร้ายแรงถึงขั้นมะเร็งลำไส้ได้ สาเหตุสำคัญของอาการท้องผูกคือการรับประทานอาหารที่มีกากใยไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยมากๆ และมีฤทธิ์ช่วยให้ระบาย อย่างที่ Kaijeaw.com มีมาแนะนำกันในวันนี้ค่ะ ได้แก
1. มะขามเปียก นอกจากมะขามเปียกจะมีกากใยอาหารแล้วด้วยรสเปรี้ยวมีฤทธิ์ทำให้ระบายอ่อนๆหากมีอาการท้องผูกรุนแรงแนะนำให้นำมาขยำกับน้ำสุกประมาณ 3 แก้ว จะได้น้ำมะขามข้นๆ เติมเกลือลงไป 1 ช้อนกาแฟแล้วดื่มให้หมดก่อนนอนประมาณ 1-2 ชั่วโมง จะช่วยทำให้ถ่ายง่าย
2. มะขามแขก มีฤทธิ์เป็นยาระบายเช่นกัน ใช้ใบแห้ง 1-2 หยิบมือ หรือ ใช้ฝัก 4-5 ฝัก หักเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มกับน้ำ 1 ถ้วย นาน 15 นาทีดื่มก่อนนอนถ้ามีอาการแน่นจุกเสียดให้ใช้ร่วมกับยาขับถ่าย เช่น ขิงแก่ กระวาน หรือ กานพูล มีข้อควรระวังคือ อย่ารับประทานมะขามติดต่อกันนานเกินไปควรใช้รักษาอาการท้องผูกเป็นครั้งคราวเท่านั้น เพราะจะทำให้ขาดธาตุโปแตสเซียม และทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการบีบตัวของลำไส้ได้
3. พรุน รับประทานได้ทั้งแบบผล และน้ำลูกพรุนที่มีวางขายทั่วไป เพื่อจะได้กากอาหาร ควรรับประทานทานตอนกลางคืนก่อนเข้านอน ควรระวังปริมาณน้ำตาลที่สูงมาก ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอยู่แล้ว ควรหลีกเลี่ยง
4. แอปเปิลเขียว ใน 1 ผล ให้ใยอาหารมากถึง 4.4 กรัม ที่สำคัญยังมีน้ำตาลน้อยอีกด้วย และไม่ควรปอกเปลือกนะคะ เพราะเปลือกแอปเปิลมีกากใยมากยิ่งกว่า สามารถกินทั้งผลหรือปั่นทั้งกากก็ได้
5. ถั่วดำ ถือเป็นธัญพืชที่มีใยอาหารสูงมาก โดยถั่วดำต้มหรือนึ่ง 1 ถ้วย มีใยอาหารมากถึง 15 กรัม
6. สับปะรด มีกากใยอาหารอาหารมากซึ่งมีความสำคัญกับการย่อยอาหาร
ในสับปะรดมีเอนไซม์ตามธรรมชาติที่มีชื่อว่า “บรอมีเลน” สามารถช่วยย่อยอาหารได้ทั้งใสภาวะเป็นกรดและด่าง จึงเหมาะมากที่จะพาไปช่วยย่อยในกระเพาะซึ่งเป็นกรด หากกินสัปปะรดหลังอาหารเป็นประจำจะช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายได้ดี
7. มะละกอ ทานได้ทั้งแบบสุกและแบบดิบ มีสรรพคุณที่ช่วยในการขับปัสสาวะ และมะละกอยังเป็นยาระบายอ่อนๆ สำหรับผู้ที่ขับถ่ายไม่ค่อยสะดวกอีกด้วย ลองนำมะละกอสุกไปแช่เย็น จะช่วยให้ทานง่ายและมีรสชาติดีขึ้น แต่ก็ไม่ควรทานบ่อยและติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจจะทำให้ผิวดูเหลืองขึ้นไ
8. เม็ดแมงลัก เมื่อนำไปแช่น้ำจะทำให้มีเมือกหล่อลื่น ช่วยให้อุจจาระอ่อนตัว จะช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา แช่ในน้ำเปล่า 1 แก้ว (250 ซีซี) รอให้พองตัวเต็มที่ แล้วค่อยดื่มก่อนนอน โดยต้องรอให้แมงลักพองตัวเต็มที่ก่อนจึงจะทานได้ไม่เช่นนั้นเม็ดแมงลักจะไปดูดน้ำจากกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้อุจจาระแข็งและอุดตันเกิดอาการท้องผูกมากยิ่งขึ้น
9. ขี้เหล็ก สมุนไพรที่มีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ ช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น รับประทานอาหารไม่ได้ และมีอาการท้องผูก ให้นำใบอ่อนหรือดอกตูมมาประกอบอาหารรับประทาน หรือจะนำใบขี้เหล็ก 4-5 กำมือ มาต้มกับน้ำพอท่วม แล้วดื่มก่อนนอน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการนอนไม่หลับได้อีกด้วย
10. กล้วยน้ำว้าสุก เป็นผลไม้ที่มีสารเพ็กตินสูง ช่วยเพิ่มกากอาหาร และยังมีเมือกลื่นทำให้ขับถ่ายได้สะดวกขึ้น ทานตอนเช้าขณะท้องว่าง 2-4 ผล แล้วดื่มน้ำตามให้มาก ควรทานเป็นประจำทุกวัน
11. มะเฟือง ผลไม้รสเปรี้ยวชนิดนี้สามารถบรรเทาอาการท้องผูกได้เช่นกัน เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบาย และยังช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารด้วย โดยทานมะเฟือง 2-3 ลูก
12. เมล็ดแฟล็กซ์ (flaxseed) อาจโรยลงในซีเรียล หรือสลัด เมื่อทานแล้วจะไปพองตัวในร่างกาย ช่วยดูดซึมของเหลว และไปเพิ่มกากอาหารให้กับอุจจาระ
13. ชุมเห็ดเทศ เป็นสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายได้ผลดี โดยให้ใช้ดอกสดมาต้มจิ้มกินกับน้ำพริก หรือนำใบสดไปหั่นตากแห้ง แล้วนำไปต้มดื่มเป็นน้ำชาก็ได้
14. น้ำผึ้ง นำน้ำผึ้งผสมน้ำดื่มเป็นอาหารคลายท้องผูกชั้นเยี่ยม เพราะน้ำผึ้งมีฤทธิ์ช่วยระบายอยู่แล้ว จากอณูน้ำตาลสุขภาพที่มีอยู่แล้วจากอณูน้ำตาลสุขภาพที่มีอยู่มาก หากได้น้ำสะอาดเพิ่มเข้าไปด้วยก็จะช่วยให้กากอาหารอ่อนนุ่มลงแบบธรรมชาต
15. ว่านหางจระเข้ นำมาปอกเปลือกล้างให้สะอาดเอาเฉพาะวุ้นใสๆ ของว่านหางจระเข้ มีส่วนช่วยลำไส้ได้มากอย่างมาก เพราะมันมีเส้นใยที่ดีต่อสุขภาพอยู่ หรือจะนำมาปั่นทำเป็น “น้ำว่านหางจระเข้” ดื่มก็จะสะดวกยิ่งขึ้น