Cellfood Thailand

Cellfood Thailand ผลิตภัณฑ์เสริมออกซิเจนจากสหรัฐอเม?

ผลิตภัณฑ์เสริมออกซิเจนจากสหรัฐอเมริกา ลดอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง เบาหวาน ความดันและโรคที่เกิดจากความเสื่อม มีใช้กันอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้รักสุขภาพ นักกีฬา และในกลุ่มผู้ดูแลเด็กออทิสติก สามารถใช้ควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์ได้

17/09/2025

CELLFOOD กับ ออกซิเจน เกี่ยวกับ หลอดเลือดอุดตัน และหัวใจ ยังไง

16/09/2025

หากในวันหนึ่งเราพบว่า ตัวเรา หรือคนที่เรารักเป็น “โรคมะเร็ง” จะทำอย่างไร

“โรคมะเร็ง” นั้นถือได้ว่าคร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับ1จาก โรคร้ายหลายๆโรค ที่จริงแล้ว มะเร็งร้ายนี้มีจุดอ่อนค่ะ ซึ่งก็คือ

****เซลล์มะเร็งไม่สามารถ เจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีออกซิเจน ซึ่งสอดคล้องกับคุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร CELLFOOD โดยตรงนั่นก็คือ การเพิ่มออกซิเจนให้กับเซลล์ของร่างกายด้วยโทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ

12/09/2025
09/09/2025
09/09/2025
สารทจีนนี้ หลายท่านเอ็นจอยกับอาหาร และขนมต่างๆ อาทิ เนื้อสัตว์ ขนมเทียน ขนมเข่ง ที่ไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ หลังอาหารมื้อหนั...
05/09/2025

สารทจีนนี้ หลายท่านเอ็นจอยกับอาหาร และขนมต่างๆ อาทิ เนื้อสัตว์ ขนมเทียน ขนมเข่ง ที่ไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ หลังอาหารมื้อหนักๆอยากให้ท่านดื่ม Cellfood เพื่อช่วยกระตุ้นภูมิต่างๆในร่างกายให้มีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น เพื่อช่วยลดการสะสมของไขมัน ในกระแสเลือด และช่วยการทำงานของเซลล์ต่างให้ดีขึ้น ด้วยเทคโนโลยี่ ฉยกโมเลห

บ่ายๆ หลังมื้อเที่ยงแบบนี้ ท่านที่ทานอาหารหนักๆ แป้งเยอะ หวานมากๆ ง่วงนอนกันไหมเอ่ย หากเป็นละก็หยิบ CELLFOOD มาดื่มเพิ่มออกซิเจน สร้างความสดชื่นกันเลยนะ

คุณรู้ไหม เหตุใด  Cellfood  ที่ผลิตใน USA จึงโดดเด่น และมีการจำหน่ายมานานกว่า 50 ปี และมีการใช้บริโภคใน กว่า 100 ประเทศท...
02/09/2025

คุณรู้ไหม เหตุใด Cellfood ที่ผลิตใน USA จึงโดดเด่น และมีการจำหน่ายมานาน
กว่า 50 ปี และมีการใช้บริโภคใน กว่า 100 ประเทศทั่วโลก เป็นเพราะ Cellfood มีคุณสมบัติที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบ มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยี่ที่พิเศษ ร่างกายสามารถตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ ได้รวดเร็ว มีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถบริโภคได้สำหรับทุกเพศ ทุกวัย ทั้งในด้านการดูแลสุขภาพของคนปกติ และช่วยเหลือสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์ต่างๆและบางกรณีที่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ เช่นอาการป่วยที่เกิดเนื่องมาจากอนุมูลอิสระ สภาพแวดล้อม มลพิษ หรืออาการแพ้ต่างๆ

หลายๆท่านเพิ่งจะรู้ ว่าน้ำตาลที่หวานๆ ก้อเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ ฉะนั้น เราต้องมาดูแลสุขภาพของเรา เอง เพ...
01/09/2025

หลายๆท่านเพิ่งจะรู้ ว่าน้ำตาลที่หวานๆ ก้อเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ ฉะนั้น เราต้องมาดูแลสุขภาพของเรา เอง เพราะอะไรที่มากก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป บางครั้งน้อยไปก็ไม่เป็นผลดี เดินสายกลางดีที่สุด

"หวานเป็นลม ขมเป็นยา" โบราณท่านว่าไว้ แต่ถ้าหวานมากเกินไป มันก็จะไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ ท่่านทราบหรือไม่ว่า โรคร้ายที่มากับความหวาน มีอะไรบ้าง

10 โรคร้าย ที่แฝงมากับ "น้ำตาล"
Cr. www.sanook.com
GED Good Life
สนับสนุนเนื้อหา

น้ำตาล ที่ให้ความหวานกับเรา อาจจะไม่หวานอีกต่อไปหากได้รู้ถึง โทษของน้ำตาล เพราะในอาหารหวาน ๆ ที่เรากินกันเป็นประจำทุกวันทั้งอาหารคาวหวาน เครื่องดื่ม กลับมาทำร้ายสุขภาพของเราอย่างช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว
น้ำตาล ถือว่าเป็นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตให้พลังงานกับร่างกาย เหมือนกินข้าว กินแป้ง น้ำตาลยังช่วยกระตุ้นการหลั่งของสารเคมีบางชนิดในสมอง ทำให้รู้สึกสดชื่น อารมณ์ดี และช่วยให้วงจรต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้น้ำตาลจะให้พลังงานกับร่างกาย แต่ร่างกายต้องการเพียงน้อยนิดเท่านั้น เพราะหากได้รับน้ำตาลมากเกินไป จากประโยชน์อาจกลายเป็นโทษได้

มารู้จักโครงสร้างของน้ำตาล
น้ำตาลที่เรากินกันประจำคือ น้ำตาลทราย แต่จริง ๆ แล้วน้ำตาลมีหลายประเภท เราสามารถแบ่งประเภทของน้ำตาลตามคุณสมบัติทางโครงสร้างได้ ดังนี้

น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว คือน้ำตาลที่มีโมเลกุลของคาร์โบไฮเดรตที่เล็กสุด เมื่อกินเข้าไป กระเพาะและลำไส้เล็กสามารถดูดซึมได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย มีรสหวาน สามารถละลายน้ำได้ ได้แก่

กลูโคส คือน้ำตาลที่เป็นผลสุดท้ายของการย่อยคาร์โบไฮเดรตก่อนถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย พบได้ในผักและผลไม้ทั่วไป

ฟรุกโตส พบในผักผลไม้ที่มีรสหวานทั่ว ๆ ไป และในน้ำผึ้ง

กาแลกโตส คือน้ำตาลที่ได้จากการสลายตัวของแลกโทสในน้ำนม พบได้ในน้ำนม
น้ำตาลโมเลกุลคู่ เป็นคาร์โบไฮเดรตที่เกิดจากการรวมตัวกันของน้ำตาลเชิงเดี่ยวสองโมเลกุล มีรสหวาน ละลายน้ำได้ เมื่อรับประทานเข้าไป น้ำตาลประเภทนี้ไม่สามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทันที จะต้องผ่านกระบวนการย่อยให้เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวก่อน จึงจะสามารถนำไปใช้งานได้ ได้แก่

ซูโครส ได้จากน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลอ้อย เป็นน้ำตาลที่เรากินกันเป็นประจำ กินมากกว่าคาร์โบไฮเดรตอื่น ๆ เมื่อน้ำตาลซูโครสแตกตัวหรือถูกย่อยจะให้น้ำตาลกลูโคสกับน้ำตาลฟรุกโตสอย่างละ 1 โมเลกุล

มอลโตส เป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ที่เกิดจาการรวมตัวของกลูโคส 2 โมเลกุล เป็นน้ำตาลที่มีอยู่ในเมล็ดพืชที่กำลังงอก เช่น น้ำตาลมอลต์ที่ได้จากข้าวมอลต์

แลกโตส เกิดจากการรวมตัวกันของกลูโคสกับกาแลกโตส อย่างละ 1 โมเลกุล ไม่พบในพืช มักพบอยู่ในน้ำนม เราจึงรู้จักในชื่อ น้ำตาลนม
โทษของน้ำตาล อันตรายอย่างไร?
โทษของน้ำตาล ทำให้อ้วน ถ้ากินน้ำตาลที่มากเกินความต้องการของร่างกาย เมื่อร่างกายใช้ไม่หมดจะเป็นพลังงานส่วนเกิน และเปลี่ยนเป็นไขมันเก็บสะสมในร่างกายเป็นสาเหตุของ ภาวะอ้วน ซึ่งทำให้เกิดโรคเรื้อรังหลาย ๆ โรคตามมา เช่น โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ

ร่างกายติดเชื้อง่าย คนที่ชอบกินน้ำตาล กินหวานจัดบ่อย ๆ จะทำให้ระบบความสมดุลแร่ธาตุในร่างกายเสีย ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายลดต่ำลง ทำให้ติดเชื้อง่าย เจ็บป่วยง่าย

ทำให้ไขมันไตรกลีเซอไรด์สูง การเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายบ่อย ๆ ยังเป็นตัวเร่งให้เกิดอนุมูลอิสระ เมื่อกินน้ำตาลเป็นเวลานาน จะทำให้ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงขึ้น

ร่างกายเซื่องซึม เมื่อกินน้ำตาลซูโครสมากเกินแทนที่จะสดชื่น แต่จะทำให้กรดอะมิโนที่มีชื่อว่า ทริปโตฟาน ถูกเร่งเข้าสู่สมองมากเกินไป ทำให้เสียสมดุลของฮอร์โมนในสมอง ผลที่ตามมาก็คือทำให้เกิดอาการเซื่องซึม เหนื่อย ไม่กระฉับกระเฉง ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ เรียนไม่รู้เรื่อง

สาเหตุโรคเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง เลือดเป็นกรด ร่างกายไม่สมดุล ทำให้ตับอ่อนให้ผลิตฮอร์โมนอินซูลินเพื่อที่จะได้เปลี่ยนระดับน้ำตาลให้กลายเป็นไกลโคเจน และไขมัน ทำให้ตับอ่อนล้าหรือเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ และผลที่ตามมาก็คือการเกิดโรคเบาหวาน

10 โรคร้าย ที่แฝงมากับ "น้ำตาล"
โรคเบาหวาน การกินหวานมากเกินไป ทำให้มีโอกาสเกิดโรคเบาหวานที่เกิดจากการสร้างอินซูลินไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย หรือร่างกายดื้อต่ออินซูลิน โดยเมื่อกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงเป็นเวลานานก็เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เป็นเบาหวานได้ หากร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินออกมาเพียงพอ

โรคอ้วน เมื่อกินหวาน กินน้ำตาลมากเกินความต้องการ ร่างกายจะเผาผลาญไม่หมด ทำให้น้ำตาลกลายเป็นไขมันส่วนเกินในร่างกาย จนเกิดภาวะอ้วน เป็นโรคอ้วนได้

โรคผิวหนัง เมื่อเกิดภาวะอ้วนขึ้นจากการกินน้ำตาลมากเกินไป ทำให้ร่างกายมีโอกาสติดเชื้อราได้ง่าย มักพบบริเวณขาหนีบหรือรอยพับของผิวหนัง และอาจเกิดเส้นเลือดขอดตามแขนขาได้อีกด้วย รวมทั้งทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัยด้วย

โรคมะเร็ง เมื่อกินน้ำตาลมากเกินไป ทำให้เกิดภาวะอ้วน ซึ่งความอ้วนมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งในอวัยวะบางส่วนของร่างกาย เช่น มะเร็งเยื่อบุมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อลูกหมาก มะเร็งหลอดอาหาร หรือมะเร็งปอดในผู้ที่ไม่สุบบุหรี่ เป็นต้น

โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่ปัจจัยจากความอ้วน และ น้ำตาลในเลือดสูงเพราะโรคเบาหวาน ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงให้มีโอกาสเกิดโรคหัวใจได้เช่นกัน

กระดูกพรุน เมื่อเป็นเบาหวานไม่ว่าจะชนิดใด ระดับน้ำตาลในเลือดจึงสูงอยู่เป็นเวลานานจนเกิดผลเสียต่อร่างกายรวมถึงกระดูกด้วย ทำให้ความแข็งแรงของกระดูกลดลงอย่างมากแม้ว่าความหนาแน่นของกระดูกอาจไม่ลดลง

ไขมันพอกตับ เกิดจากร่างกายมีไขมันสะสมมากเกินไป จนทำให้เกิดการสะสมอยู่ที่ตับ ซึ่งไขมันส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ในรูปของไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งมาจากอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน และ น้ำตาล นั่นเอง

ความดันโลหิตสูง สาเหตุของโรคความดันโลหิตอาจจะไม่แน่ชัด แต่น้ำหนักตัวเกินและภาวะอ้วน อาจทำให้เกิดความเสี่ยง เพราะโรคหลอดเลือดต่าง ๆ ที่ตีบจากภาวะไขมันเกาะผนังหลอดเลือด เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงตามมาได้

โรคซึมเศร้า มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ทำการทดลองเรื่องระดับน้ำตาลกับภาวะซึมเศร้ากับหนู แสดงให้เห็นว่าการได้รับน้ำตาลในปริมาณที่เกินขนาด จะทำให้การผลิตโปรตีนที่ชื่อว่า BDNF ในสมองลดลง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการควบคุมระดับความเครียด และนำไปสู่ภาวะอารมณ์แปรปรวนขั้นรุนแรงได้

ฟันผุ น้ำตาลทรายเป็นน้ำตาลประเภทซูโครส เป็นน้ำตาลที่อันตรายที่สุดต่อฟัน เพราะเป็นน้ำตาลที่จุลินทรีย์ ซึ่งอยู่ในจุลินทรีย์ชอบมากที่สุด หากกินหวานมาก ๆ โดยไม่ดูแลช่องปากให้สะอาด โดยเฉพาะในเด็ก ๆ มีโอกาสเกิดฟันผุได้ง่ายมาก ซึ่งฟันผุนั้นหากไม่รักษาก็อาจส่งผลให้เกิดโรคเหงือกและช่องปากร้ายแรงตามมาได้

29/08/2025

ความสมดุลกรด-ด่าง (pH) ในร่างกายของเราทำอย่างไรให้สมดุล ‼️

👉👉ความสมดุลกรด-ด่าง (pH) มีความสำคัญต่อทุกๆเซลล์ในร่างกาย ระบบการทำงานต่างๆ การไหลเวียนโลหิต การหายใจ การย่อยอาหาร การผลิตฮอร์โมน ขบวนการขับพิษ ปัจจัยที่ทำให้ร่างกายมีความเป็นกรดสูง ได้แก่ ความเครียด สารพิษ เชื้อโรค และอาหารที่เรารับประทาน หากเรารับประทานอาหารจำพวกที่มีภาวะเป็นกรดมากเกินไปจะส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในเซลล์ลดน้อยลง เมื่อเซลล์ขาดออกซิเจนนานๆ จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกาย และความไม่สมดุลนี้มีผลต่อสภาวะความเป็นกรดในเลือดสูง (Acidemia) หรือสภาวะความเป็นด่างในเลือดสูง (Alkalemia) อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติต่างๆได้ อาทิ คลื่นไส้ อาเจียน หายใจถี่ ความดันลดลง ปวดศีรษะ หากมีอาการต่อเนื่อง อาจทำให้ช็อคหมดสติ และหากร่างกายของเราเสียสมดุลกรด-ด่าง (pH) ต่อเนื่องสะสมเป็นระยะเวลานานระบบการทำงานต่างๆ ก็จะค่อยๆเสื่อมลง ส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ทำงานหนักและอ่อนแอลง ทำให้สารพิษตกค้าง ก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง โรคมะเร็ง และโรคแห่งความเสื่อมต่างๆ ฯลฯ

📍ศาสตราจารย์ แรกนาร์ เบิร์ก จากประเทศสหรัฐอเมริกาได้กล่าวไว้ว่า ผู้ปรารถนาที่จะมีสุขภาพดีควรจะรับประทานอาหารที่มีความเป็นกรดเพียงแค่ 20% ต่อวัน และรับประทานอาหารที่มีความเป็นด่างไม่ต่ำกว่า 80% ในแต่ละวัน ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่ทำให้ร่างกายมีสภาพเป็นกรดคือ การไม่บริโภคอาหารที่มีความเป็นด่างหรืออาจจะบริโภคอาหารที่มีความเป็นด่างในปริมาณที่ไม่เพียงพอ

✅ หากเราต้องการมีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคร้าย ก็ต้องสร้างสมดุลค่า pH ในร่างกายให้เหมาะสม เราสามารถลดภาวะความเป็นกรดสูง และสร้างสมดุล ด้วย ATM CELLFOOD อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะสร้างความสมดุลกรด – ด่าง (pH) ในร่างกายของเรา ด้วยเทคโนโลยีไดเบส-ไดโพล เซลล์ฟู้ดสามารถทำงานในร่างกายได้ทั้งในสภาวะที่เป็นกรดและด่างโดยจะช่วยปรับสมดุลค่า pH ในร่างกายให้เป็นไปตามปกติ ช่วยให้ระบบและอวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างเหมาะสม ช่วยฟื้นฟูส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรงกลับมาสดชื่นได้อีกครั้ง

ดูแลสุขภาพกันทั้งที่ดื่ม CELLFOOD ของแท้กันนะค่ะ #ด้วยรักและห่วงใย #สมดุลกรดด่าง

-------------------------------------------------------------

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่เลยจ้าาา
LINE : คลิ๊กได้เลยจ้าา http://line.me/ti/p/%40fmy9781l
หรือ 📩 INBOX ได้เลยจ้า : :http:// m.me/Cellfood.Fanclub

มรหลยท่านสงสัยเกี่ยวกับ Cellfood  ว่าใช้อย่างไร  กินอย่างไร ปริมาณเท่าไร ลองมาดูวิธีใช้ Cellfood กัน
28/08/2025

มรหลยท่านสงสัยเกี่ยวกับ Cellfood ว่าใช้อย่างไร กินอย่างไร ปริมาณเท่าไร ลองมาดูวิธีใช้ Cellfood กัน

👉ATM CELLFOOD ผลิตภัณฑ์เสริมออกซิเจน นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ตัวช่วยส่งเสริมการลดสารพิษ

สมาชิก ATM Cellfood เป็นที่ทราบกันถึงคุณประโยชน์มากมายของ Cellfood เราอยู่แล้ว และเซลล์ฟู้ดของเรานอกเหนือจากการรับประทานแล้ว ยังสามารถใช้ดูแล ผิวพรรณภายนอก และดวงตา ได้อีกด้วย วันนี้เรามาดูวิธีการใช้ Cellfood สำหรับภายนอกกันค่ะ ไปดูกันเลย 👉👉👉

-------------------------------------------------------------
👉ATM CELLFOOD ผลิตภัณฑ์เสริมออกซิเจน นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ตัวช่วยส่งเสริมการลดสารพิษ และอนุมูลอิสระในระดับเซลล์ เพิ่มภูมิต้านทาน เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงสู้กับโรคร้ายต่างๆได้ อาทิ มะเร็ง เบาหวาน หัวใจ ความดัน อ่อนเพลีย ชาปลายมือปลายเท้า ตาพร่ามัว ปัญหาการขาดออกซิเจน และอีกมากมาย

📌สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ http://www.tips2health.com/cellfood/
http://www.cellfood.com/thailand.htm
CELLFOOD สนับสนุนให้ทุกๆคนมีสุขภาพที่ดีนะค่ะ
#ด้วยรักและห่วงใย

หลายท่านคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ อนุมูลอิสระ และสารต้านอนุมูลอิสระมาบ้างแล้ว แต่ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับ Cellfood ที่หลายท่านยั...
26/08/2025

หลายท่านคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ อนุมูลอิสระ และสารต้านอนุมูลอิสระมาบ้างแล้ว แต่ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับ Cellfood ที่หลายท่านยังไม่ทราบก็คือ Cellfood ไม่ใช่สารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะคอยกำจัดอนุมูลอิสระเฉยๆ แแต่ Cellfood เป็นสิ่งที่เปลี่ยน อนุมูลอิสระที่เป็นตัวอันตราย ให้กลายเป็นออกซิเจน เกิดใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เซลล์ต่างๆต้องการ เพื่อนำไปใช้ได้ทันที

รู้หรือไม่ว่า? อนุมูลอิสระ (Free Radicals) เกิดขึ้นง่ายแค่เพียงหายใจเข้าออก ซึ่งหมายความว่าเซลล์ในร่างกายจะถูกทำลายลงตลอดเวลา ทำให้มีความจำเป็นต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) เพื่อมาช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของร่างกายที่เกิดขึ้น

สารต้านอนุมูลอิสระมีความสำคัญอย่างไรบ้าง สรุปให้เข้าใจกันง่าย ๆ ดังนี้

① ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย คงความอ่อนเยาว์ มีอายุที่ยืนยาวขึ้น

② ช่วยขับสารพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็งออกจากร่างกาย จึงลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งทุกชนิดได้

③ ลดและบรรเทาอาการอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ

④ ป้องกัน และยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

⑤ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย

⑥ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ โรคความดัน โรคกระดูกพรุน และโรคเรื้อรังที่พบได้ในวัยผู้ใหญ่

⑦ ปกป้องเซลล์ผิวหนังจากแสงแดด และช่วยสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง สดใส

เรียกว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย คุณก็จะสุขภาพดีแบบเห็นได้ชัดทั้งภายใน และภายนอกเลยทีเดียว!

25/08/2025

งานที่หนักมาพร้อมกับการใช้ชีวิตที่รีบเร่ง ทั้งอาทิตย์นี้หลายๆท่านอาจไม่ค่อยมีเวลาดูแลสุขภาพ การพักผ่อนน้อยลงไปหรือแทบไม่มีเวลา

วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ ให้เวลาดูแลตัวเองสักนิดเพืิ่อสุขภาพกันบ้าง เช่น เรื่องอาหารที่มีประโยชน์ และการพักผ่อนที่เพียงพอ จะทำให้สุขภาพดีขึ้นอีกนิด และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขขึ้นอีกหน่อยนะคะ

CELLFOOD เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถแก้ไขปัญหาสุขภาพส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมรับมือกับทุกปัญหาสุขภาพ

#โรคมะเร็ง #โรคเบาหวาน #โรคหัวใจ #ออกซิเจน สิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงลึกถึงระดับเซลล์ ตอบโจทย์ทุกปัญหาสุขภาพ
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน
http://www.tips2health.com/cellfood/
http://www.cellfood.com/thailand.htm

ที่อยู่

816/818 ถนนทรงวาด แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์
Bangkok
10100

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66 2 235 2255

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Cellfood Thailandผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Cellfood Thailand:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram