กายภาพบำบัด มหาชน

14/03/2023

19/10/2022

นั่งยื่นคอไปข้างหน้ารบกวนการหายใจ

16/10/2022

จริงมากคอยื่น ไหล่งุ้ม

Episode 140 Creep กับการเล่นโทรศัพท์มือถือ

“พวกเราจะหมดแรงดึงหัวเจ้านายกลับมาตั้งตรงแล้วนะวากัส” เหล่ากล้ามเนื้อด้านหลังคอ บ่า และสะบักบ่นกันอื้ออึง เพราะเวลาผ่านไปกว่าสองชั่วโมงกว่าแล้วที่เจ้านายของพวกเราก้มคอทำงานกับเจ้ามือถือโดยไม่สนใจไยดีกับอาการปวดคอซึ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หนักกว่านั้นคือนายของฉันหยิบเอายาแก้อักเสบขึ้นมากลืนลงคอไปพร้อมน้ำอึกใหญ่อย่างรวดเร็ว

“อีกแล้ว นี่เป็นยาแก้อักเสบเม็ดที่ห้าแล้วนะในสามวันนี้” เส้นประสาทวากัสอย่างฉันบ่นบ้าง ฉันยังจำเสียงคุณหมอเตือนเจ้านายฉันเมื่อครั้งที่แล้วได้ขึ้นใจเลยว่า

“อย่าทานยาแก้อักเสบบ่อยและนานไปนะครับ ทานเฉพาะที่ปวดมาก ยาแก้อักเสบมีผลต่อไต และอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้”

แม้เจ้านายจะจำได้ แต่เมื่อฤทธิ์ยาออกฤทธิ์ นั่นทำให้เขาพอใจในการกินยาทุกครั้งที่อาการปวดกำเริบ แทนที่จะนั่งให้คอตรงเวลาทำงาน หรือพักบ้างอย่าทำงานกับมือถือนานเกินสามสิบนาที

“สงสารพวกเธอจัง ยิ่งเจ้านายก้มคอมากเท่าไหร่พวกเธอต้องออกแรงหดตัวมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้นายของพวกเราปวดขึ้นท้ายทอยแล้ว”

“พวกเราขอโทษที่ไปหนีบพวกเธอนะเส้นประสาทวากัส” กล้ามเนื้อท้ายทอยว่า ไม่เพียงแต่แรงหดตัวของกล้ามเนื้อคอด้านหลังจะหนีบเส้นประสาทอย่างฉัน แต่เส้นเลือดดำและแดงที่อยู่ในปลอกหุ้มเดียวกันกับฉันก็โดนไปด้วย เจ้าเส้นเลือดดำ internal jugular บ่นงึมงำว่า

“creep คอของนายเกิด creep”

“อะไรคือ creep พวกเราไม่เข้าใจ” เหล่ากล้ามเนื้อตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ

“ให้เจ้าวากัสเล่าเถอะ” เส้นเลือดดำโบ้ยมาให้ฉันอธิบาย

“creep ธรรมชาติอย่างหนึ่ง บ่งบอกว่าเกิดการคลากของเนื้อเยื่อโดยแรงกระทำคงที่ ก็เพราะน้ำหนักหัวกะโหลกของนายคงที่ แต่การที่เจ้านายของเราก้มคอค้างไว้นาน แรงกระทำด้านหลังคอจึงยึดเอ็นยึดกระดูกด้านหลังให้คลากและเกิดความไม่มั่นคงต่อคอพวกเราไง”

“น่ากลัวจัง”

“ในขณะที่เอ็นยึดกระดูกสันหลังด้านหลังของคอเกิด creep แต่พวกเธอรู้ไหมว่าทุก ๆ หนึ่งนิ้วที่คอก้มลงไปทางด้านหน้า จะเกิดแรงกระทำต่อกระดูกสันหลังบริเวณคอมากขึ้นเยอะมาก ว่ากันว่าถ้าก้มคอออกจากแนวตรงไปด้านหน้า 2 นิ้ว จะมีแรงกระทำผ่านคอราว 32 ปอนด์ และหากก้มคอเพิ่มไปอีก 1 นิ้วแรงกระทำผ่านคอเพิ่มขึ้นเป็น 40 ปอนด์เลยล่ะ”

“เธอสังเกตไหมระยะหลัง ๆ มานี่ นายของเราหายใจลำบากขึ้น” ฉันยกประเด็นอีกเรื่องหนึ่งที่มักไม่ค่อยมีใครนึกถึงว่าการหายใจจะเกี่ยวข้องกับการก้มคอ ฉันไม่รอคำถามต่อแต่อธิบายไปเลยว่า

“คอที่พับลงด้านหน้าจะส่งผลให้กล้ามเนื้อหายใจออกอ่อนแรงลง หายใจออกไม่สุดและสัมพันธ์กับอาการปวดคอเรื้อรัง แต่สิ่งที่น่าคิดอีกอย่างคือ เจ้านายของเราหยุดหายใจเวลานอนหลับด้วยนะ”

ฉันอ้างถึงภาวะหยุดหายใจเวลานอนหลับหรือ obstructive sleep apnea syndrome แม้ว่าสาหตุของโรคนี้จะมีหลากหลาย แต่นักวิชาการก็สนใจเรื่องความผิดปกติของส่วนโค้งกระดูกสันหลังกับโรคนี้

“ฉันขอเสริมเส้นประสาทวากัสนะ ในฐานะที่ฉันเป็นกะบังลม ฉันจะหดตัวและคลายตัวได้ลำบากมากเวลาที่เจ้านายอยู่ในท่าทางไม่ดี” กะบังลมหยิบยกเรื่องการทรงท่ากับการหายใจหรือ posturo-respiratory coupling มาเสริมฉัน

“ก็เพราะคอกับทางเดินหายใจส่วนบนอยู่ใกล้กันไงล่ะ ถ้าคอพับไปด้านหน้าจนเป็นนิสัย ย่อมส่งผลกระทบต่อตำแหน่งทางเดินหายใจด้วย อาจทำให้หายใจลำบากหรือหยุดหายใจในเวลาหลับได้นะ”

“อันตรายมากมายขนาดนี้ นายของเราจะไม่นั่งตั้งคอตรง ๆ เวลาใช้เจ้ามือถือนั่นเลยหรือ” กล้ามเนื้อท้ายทอยถามฉัน แม้เขาจะปวดน้อยลงจากยาแก้อักเสบที่เริ่มออกฤทธิ์ แต่เขาคิดว่าถ้าหมดฤทธิ์ยาเขาต้องกลับมาปวดอีกแน่นอน

“การจะนั่งคอตรงได้ เจ้านายเราต้องออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อคอทุกด้านเกิดกำลังและความทนทานด้วยและต้องฝึกร่วมกับกล้ามเนื้อรอบสะบัก” ฉันภาวนาให้เจ้านายเริ่มฝึก การออกกำลังกายเพื่อความมั่นคงของคอและสะบัก หรือ neck and scapular stabilizing exercises เสียที

ทำไม่ยาก ยากที่ไม่ทำ!!!

แม้นายของฉันจะไม่ได้ยินเสียงสนทนาของพวกเรา แต่เรื่องที่น่าดีใจก็คือ นายของฉันมีนัดหมายกับนักกายภาพบำบัด จึงต้องละตัวเองออกจากมือถือ

ฉันภาวนาเงียบ ๆ ว่า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงดีดีกับนายของฉันในไม่ช้านี้

สรุปเนื้อหาสำคัญ
1.การนั่งก้มคอไปด้านหน้ายิ่งนานเท่าใดจะเกิดภาวะคลากต่อเอ็นยึดกระดูกด้านหลังของคอและทำให้เกิดภาวะคอไม่มั่นคงได้
2.ทุก ๆ หนึ่งนิ้วในการก้มคอไปด้านหน้าคอจะรับแรงกระทำมากขึ้นและปวดคอ
3.ภาวะศีรษะยื่นไปทางด้านหน้าอาจทำให้หายใจออกลำบาก และในบางรายอาจเกิดภาวะหยุดหายใจเวลาหลับได้
4.การรับประทานยาต้านอาการอักเสบต่อเนื่องไม่ดีต่อไต และทางเดินอาหาร ดังนั้นยากลุ่มนี้เราควรหลีกเลี่ยงและรับประทานเมื่อจำเป็นเท่านั้น
ด้วยความรักยิ่ง
วีเรศวร
15 ตค 65
บรรณานุกรม
Clavel L, Rémy-Neris S, Skalli W, Rouch P, Lespert Y, Similowski T, Sandoz B, Attali V. Cervical spine hyperextension and altered posturo-respiratory coupling in patients with obstructive sleep apnea syndrome. Frontiers in Medicine. 2020 Feb 7;7:30.
Kang JH. Associations Among Temporomandibular Joint Osteoarthritis, Airway Dimensions, and Head and Neck Posture. Journal of Oral and Maxillofacial Surgery. 2020 Dec 1;78(12):2183-e1.
Pettit NJ, Auvenshine RC. Change of hyoid bone position in patients treated for and resolved of myofascial pain. CRANIO®. 2018 Jul 31.
บรรณานุกรมภาพ
Hauser R. Forward head posture, symptoms and complications.

02/08/2022

หลักการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท #รักษาตรงจุดกับบัณฑิต #ปวดเอว #หมอนรองกระดูกทับเส้น------------👩🏻‍⚕️👨🏻‍⚕.....

02/08/2022

ดีงาม^^

#ชามือ #ชานิ้ว แก้ง่ายๆ ด้วยวิธีนี้Chapters0:00 - highlight0:25 - อาการและสาเหตุ3:39 - วิธีตรวจร่างกาย5:00 - นวดแก้อาการที่ต้นคอ6:46 - นวด...

02/08/2022

Before bed time

31/07/2022

ดีต่อใจ

Episode 125 ฉันเป็นน้องคนที่ 10 (Vagus nerve exercise ตอนที่ 1)

เสียงหัวใจเต้นแรงรัว ลมหายใจถี่คล้ายหอบเหนื่อย น้ำลายในช่องปากเหนียวข้น นี่ยังไม่รวมเหงื่อไหลซึมทั่วกาย ฉันเป็นห่วงเจ้านายของฉันเหลือเกิน แต่ทำอะไรตอนนี้ยังไม่ได้เพราะเพื่อนของฉัน เพื่อนหมายถึงระบบประสาทซิมพาเทติคต้องทำงานหนักขึ้นด้วยการเพิ่ม sympathetic tone เพื่อให้นายของฉันรับมือกับสถานการณ์ตึงเครียด เส้นประสาทเวกัสอย่างฉันต้องหาหนทางช่วยเสียแล้ว

เจ้านายของฉันมีอาการปวดต้นคออย่างรุนแรง ซึ่งฉันรู้ดีว่าเจ้านายของฉันกลัวว่าจะเกิดโรคร้ายแก่ตัวเขา เพราะความพยายามหาหนทางรักษาหลากหลายวิธีก็แล้ว อาการปวดเปลี่ยนแปลงเพียงทุเลาแต่ก็กลับมาเกิดวนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนระยะหลังมานี้เจ้านายของฉันเครียดจนนอนไม่หลับ แต่วันนี้ความเครียดนั้นทวีความรุนแรงขึ้นเพราะแพทย์ผู้ดูแลเขากล่าวด้วยน้ำเสียงเห็นอกเห็นใจว่า

“อาจต้องผ่าตัดนะครับ เพราะหมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณคอปลิ้นหลายระดับ คุณจะเจ็บและชามาก”

ความกลัวเป็นความคิดที่ไม่เป็นมิตรกับร่างกายของเจ้านายเสียเลย สัญญาณไฟฟ้าจำนวนมากเข้มข้นพอที่จะกระตุ้นการทำงานของสมองส่วน amydala ซึ่งเป็นสมองตอบสนองต่อความกลัว

ฉันอยากตะโกนบอกเจ้านายว่า “ปล่อยเถอะ วางเถอะ เดี๋ยวเจ้านายจะป่วยนะ กายป่วยแล้วทำไมใจต้องป่วยไปด้วย” นั่นเป็นเพียงความคิดของเส้นประสาทอย่างฉัน แต่ในความเป็นจริงฉันทำเช่นนั้นไม่ได้ ฉันครุ่นคิดหาวิธีการรักษาสุขภาพของเจ้านาย แต่เสียงเกรี้ยวกราดดังก้องขึ้นมารอบ ๆ ฉัน ดึงฉันออกจากความคิดนั้นทันที

“อย่าฮึกเหิมไปเลยเวกัส ถ้าเจ้านายของพวกเราคิดไม่ได้ เจ้าก็สู้พลังของเราไม่ได้หรอก” เจ้าสารเคมีชื่อ cortisol บอกกับฉันด้วยความเย่อหยิ่ง พร้อมกับกล่าวต่อไปว่า

“เวลาพวกเราอารมณ์ดี ฉันก็ช่วยเจ้านายหลายอย่างนะ” เสียงนั้นคล้ายจะกล่าวอ้างบุญคุณ จริงอย่างที่เจ้า cortisol ว่า เพราะเมื่อใดที่ร่างกายของมนุษย์มีความรู้สึกตัวเต็มเปี่ยม ระดับ cortisol ที่พอเหมาะจะไม่ทำอันตรายร่างกายของพวกเขา มิหนำซ้ำโครงสร้างที่เป็น steroid ยังช่วยลดอาการอักเสบได้ด้วย แต่เมื่อใดที่ cortisol เพิ่มระดับขึ้นในเลือดเป็นปริมาณมากและยาวนานยามที่พวกมนุษย์เครียด

คุณสมบัติความเป็น steroid นี่เอง ที่กดภูมิคุ้มกัน

คนที่สะสมความเครียดจึงเจ็บป่วยทั้งร่างกายและจิตใจ

จาก hypothalamus ยามรับรู้ความเครียดเขาจะส่งสัญญาณบอกให้ต่อมใต้สมองส่วนหน้า (anterior pituitary gland) สร้างสารเคมีชื่อ ACTH หรือ adrenocorticotrophic hormone ล่องลอยไปตามกระแสเลือดแต่ไปออกฤทธิ์เฉพาะที่ต่อมหมวกไตชั้นนอกให้ปลดปล่อย cortisol ออกมาเป็นจำนวนมากนั่นเอง

เส้นทางจาก hypothalamus เชื่อมต่อกับต่อมใต้สมองส่วนหน้าและต่อมหมวกไตชั้นนอกจึงเรียกว่า แกนความเครียดหรือ hypothalmo-pituitary adrenal axis นั่นเอง

ความทรมานคือความเจ็บปวดคูณด้วยการผลักไส

ถ้าเรายอมรับในธรรมชาติ เข้าใจในทุกข์ ยามเราทุกข์เราจึงไม่จำเป็นต้องทรมาน

สิ่งนี้เป็นสัจจะนิรันดร์ที่พระพุทธเจ้าเผยแสดง

คำอธิษฐานของเส้นประสาทเวกัสอย่างฉันเป็นจริงแล้ว แรงสั่นสะเทือนจากการสัมผัสเบา ๆ ของเพื่อนเจ้านาย ทำให้ oxytocin โลดแล่นออกมาในยามคับขัน

“ฉันมาช่วยแล้วเวกัส สัมผัสแห่งความรักปลดปล่อยให้ฉันออกมาช่วยเจ้านายของเรา แค่เจ้านายของพวกเรารู้สึกดี ระบบประสาทซิมพาเทติคจะคลายความเกรี้ยวกราดลง รวมถึงเจ้าพวก cortisol ที่เกินมาด้วยนะ”

Oxytocin เป็นสารเคมีแห่งสุขปรากฏในการยามได้รับสัมผัสแห่งรัก เขาให้กำลังใจและเชื่อว่าอีกไม่นานการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในกายนี้แล้ว คนที่จะคลี่คลายช่วยเจ้านายฉันและเป็นคนสำคัญคือ เพื่อนของเขาเอง

ฉันตั้งใจฟังบทสนทนาระหว่างพวกเขาด้วยใจจดจ่อ เมื่อไหร่หนอเขาจะดึงฉันออกมาช่วยเสียที
เร็วสิ รอไม่ไหวแล้วนะ...................ฉันเหมือนนักวิ่งที่อยู่จุดสตาร์ทเพียงเพื่อรอเสียงปืนลั่นให้ออกวิ่งเท่านั้นเอง

“ไม่ต้องกลัวนะเพื่อน ทุกปัญหามีทางแก้ไข อาการป่วยกายเราก็รักษาไป แต่เราอยากแนะนำวิธีการรับมือกับความเครียด” นอกจากสัมผัสจะอ่อนโยนแล้ว น้ำเสียงยังเปี่ยมด้วยความเมตตา

“ทำไงล่ะ ฉันเครียดมากนะ ฉันกลัวการผ่าตัดมาก ฉันมีห่วงหลายอย่าง” แม้เจ้านายฉันรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง เพราะหัวใจเริ่มเต้นช้าลงแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังกังวลอยู่ดี

“ลมหายใจไง เราใช้ลมหายใจฝึกเส้นประสาท เวกัส ได้ เคยได้ยินไหม vagus nerve exercise” ฉันแอบยิ้มเมื่อได้ยินเพื่อนของเจ้านายเอ่ยถึงฉัน เขากล่าวต่อไปว่า

“การปรับอัตราเร็วในการหายใจสามารถปรับแต่งความแรงของระบบประสาทอัตโนมัติได้” เขาจึงอธิบายอิทธิพลของความเครียดที่มีต่อระบบประสาทซิมพาเทติคและพาราซิมพาเทติคได้อย่างชำนาญ

“กรณีของนายมีความเครียดมาก นายต้องเพิ่ม vagus tone หรือการทำงานของระบบประสาทพาราซิมพาเทติคให้สูงขึ้น ลองดูนะ” เจ้านายของฉันเปลี่ยนอิริยาบถมานั่งขัดสมาธิ จากนั้นเขาเริ่มหายใจเข้าช้า ๆ เข้าทางรูจมูกโดยมีเสียงนับระยะเวลา 7 วินาทีประกอบ และหายใจออกทางจมูกช้า ๆ แต่เพิ่มระยะเวลาผ่อนลมหายใจเป็นสองเท่าหรือ 14 วินาที ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจ้านายของฉันเริ่มหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ

เส้นประสาท เวกัส อย่างฉันจึงได้แสดงบทบาท วาดลวดลายทำให้เกิดการผ่อนคลาย หัวใจเริ่มเต้นช้าลง การหายใจเหนื่อยหอบเริ่มค่อย ๆ ผ่อนคลาย แม้เจ้า cortisol ยังคงระดับสูงอยู่ในเลือดของเจ้านายฉัน แต่พวกมันก็เริ่มออกฤทธิ์ได้น้อยลง ส่วนหนึ่งนั่งทำตาปริบ ๆ ดูเส้นประสาท เวกัสอย่างฉันยิ้มอย่างผู้ชนะ

“มันดีจริง ๆ ฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้น”

“มันยังไม่ถึงที่สุดของการฝึก แรกเริ่มนายจะรู้สึกดีขึ้นเพราะว่าจิตของนายมาอยู่กับลมหายใจที่ช้าและลึกนั่นหมายถึงนายทิ้งความรู้สึกกลัวหรือเครียดเพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่มหัศจรรย์แห่งลมหายใจยังมีอีกนะ ถ้านายฝึกเป็นประจำในยามที่มีความเครียด นายจะเริ่มเห็นว่านายไม่ได้ทุกข์เพราะโรคที่นายเป็น แต่นายทุกข์เพราะความคิดกลัว ความไม่อยากเจ็บป่วย แต่ไม่ว่านายจะกลัวไม่กลัว อยากหรือไม่อยากนายก็ต้องป่วย นายจะถูกบีบเข้าสู่หนทางเดียวคือ ปล่อยวางด้วยความเข้าใจ”

ฉันยังทำหน้าที่ปรับความแรงของหัวใจและลมหายใจช่วยการฝึก ขณะเดียวกันก็ฟังทุกคำของเพื่อนเจ้านายไปด้วย

“ในทางตรงกันข้าม เวลาที่เรารู้สึกง่วงซึม หรือเหมือนไม่มีพลัง เฉื่อยชา เราสามารถใช้ลมหายใจเร่ง sympathetic tone ได้ด้วย แค่นายปรับการหายใจเข้าทางจมูกเต็มที่ด้วยความเร็วในช่วงเวลา 3 วินาที จากนั้นให้เราเปิดปากและถอนหายใจออกมาให้เร็วกว่าการหายใจเข้า ทำต่อเนื่องไปหนึ่งนาทีเหมือนกัน เราจะรู้สึกสดชื่นและตื่นตัวนะ คนที่นั่งสมาธิแล้วง่วงเขาสามารถใช้วิธีการนี้ดึงจิตให้หายจากความง่วงนอนได้”

ลมหายใจคือหน้าต่างที่เปิดไปสู่การเชื่อมต่อกับระบบประสาทอัติโนมัติ

ฉันฟังการสนทนาของเจ้านายและเพื่อนเสียเพลิน ตอนนี้หัวใจของเจ้านายฉันผ่อนคลายลงมาก sympathetic one ลดลง และการเร่งเร้า parasympathetic tone ด้วยฝีมือของ vagus nerve อย่างฉัน ทำให้ร่างกายของเจ้านายสดชื่นและผ่อนคลายความวิตกกังวลลงบ้างแล้ว

“การทำอาสนะโยคะหรือการเดินจงกรมเป็นการนำลมหายใจเป็นเครื่องมือประกอบการเคลื่อนไหวอย่างมีสติ หรือการทำนั่งสมาธิก็ตาม การปรับเปลี่ยนลมหายใจคือการเปิดเผยความลับของระบบประสาทอัตโนมัติ สิ่งที่สำคัญในอานาปานสติ คือ รู้สึกกับลมหายใจในปัจจุบันขณะ เราหวังว่านายจะไม่ทิ้งการฝึกนี้นะ เรื่องหมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณคอปลิ้นเป็นการบาดเจ็บทางกาย แต่ใจนายไม่ควรบาดเจ็บ เราต้องรักษากายและใจของเราไว้ สู้กับความจริงนะ”

เส้นประสาท เวกัส อย่างฉันมีความสุขจัง
วันนี้ฉันกับนายร่วมมือ ใช้ลมหายใจกับการทำงานของระบบประสาทพาราซิมพาเทติค ปรับลดความเครียดลงได้
แม้ว่าฉันจะไม่ใช่ เส้นประสาทสมองที่สำคัญที่สุดของมนุษย์
แต่เชื่อเถอะ ถ้าพวกเธอรู้จักใช้งาน vagus nerve อย่างฉัน
ฉันจะช่วยรักษาสุขภาพของเธอที่ถูกคุกคามความเจ็บปวดและความเครียดได้นะ
วิธีการสื่อสารกับฉัน ยังมีอีกหลายวิธี ฉันรู้ว่าเธอจะติดตามไปกับฉันในกายอันมหัศจรรย์นี้ เราจะเดินทางไปด้วยกัน ฉันจะรอ
ปล......ฉันได้ตั้งใจร้อยเรียง vagus nerve exercise เป็นนวนิยาย หากกุศลใดจะเกิดขึ้น ฉันขออธิษฐานให้กับทุกท่านมีความสุขสุขภาพแข็งแรง
กราบเท้าพระพุทธเจ้า พระเจ้าทุกพระองค์ในความรัก ความเมตตาอันหาประมาณมิได้
กราบเท้าคุณยายทมยันตี ในเสียงกระซิบข้างหูฉันว่า จงเขียนเพราะเจ้าเกิดมาเป็นนักเขียน
ขอบคุณทุกท่านที่ไม่เคยทิ้งฉันเลย
ฉันอ่านและตอบทุกความคิดเห็น
ด้วยความรัก
วีเรศวร
30 กค 65
บรรณานุกรม
Werner D. The illuminated breath.Victory Belt publishing, Las Vagas, 2021.

23/06/2022

"Text Neck Syndrome - ภัยเงียบของคนทำงานในยุคก้มหน้า"
..

“Text Neck Syndrome” หรือ “โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ” โรคนี้หลายคนอาจไม่รู้จักชื่อ แต่เป็นโรคที่มีมานานแล้ว เป็นพี่น้องตระกูลเดียวกันกับ “Office Syndrome” อยู่ในกลุ่มอาการของโรคใกล้เคียงกัน

โรคนี้ถูกพูดถึงมากขึ้นเมื่อ2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะ ‘โควิด19’ และปรากฏการณ์ Lock Down ที่เกิดขึ้น ทำให้มนุษย์เงินเดือนเลยต้อง Work From Home กันถ้วนหน้า การติดต่อสื่อสารทั้งหมดก็เลยกลายมาเป็นรูปแบบออนไลน์100% ทั้งโทรศัพท์มือถือ Laptop อยู่กับเราตั้งแต่ตื่นนอน ยันเข้านอนกันเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าในตอนนี้สถานการณ์จะดีขึ้น บางบริษัทเริ่มกลับมาทำงานกันที่ออฟฟิศเป็นส่วนใหญ่แล้ว แน่นอนตลอดทั้งวันเรายังมีการนั่งทำงานอยู่กับที่ การนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ในท่าเดิมๆเป็นเวลานานๆ หรือแม้แต่ก้มมองโทรศัพท์เป็นเวลานานๆ พฤติกรรมที่เราทำตามความเคยชินนี้เอง ที่ทำให้มองข้ามสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคนี้ไป
..

"คนไทยใช้เวลาหมดไปกับการเล่นอินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ยสูงถึง 9 ชั่วโมง 06 นาทีต่อวัน และเป็นการใช้จากมือถือถึง 5 ชั่วโมง 28 นาทีต่อวัน"

จากสถิติจะเห็นว่าคนไทยใช้เวลากับการอยู่หน้าจอนานๆ โดยที่บางครั้งไม่ก็รู้ตัว และมีแนวโน้มการใช้ดิจิตอลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มความเสี่ยงในการเป็น ‘Text Neck Syndrome’ สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตามมาเช่นกัน
..

"เพราะศรีษะของมนุษย์มีน้ำหนักราวๆ 4 – 5 กิโลกรัม ดังนั้น การก้มคอนานๆ ก็ทำให้เป็น ‘Text Neck Syndrome ได้"

รู้หรือไม่... การที่เราก้มหน้ามองจอมือถือ ในทุกๆ การก้มต่ำลงไป 15องศา คอและหลังของเราจะรับน้ำหนักศีรษะเพิ่มมากยิ่งขึ้น เมื่อเราก้มศีรษะมากถึง 60 องศา จะทำให้คอและหลังของเรารับน้ำหนักมากถึง 27 กิโลกรัม (5 – 6 เท่าของน้ำหนักศีรษะจริงของเรา)

นั่นจึงทำให้ เรามีอาการตึง ปวดเมื่อยบริเวณ คอและบ่า บางคนเกิดอาการรุนแรงถึงขั้นมีอาการหมอนรองกระดูกตรงช่วงลำคอ กดทับรากของประสาทที่อยู่รอบบริเวณกล้ามเนื้อตรงลำคอ อาจจะต้องได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน
..

"อาการบ่งชี้ว่า เรากำลังเป็น Text Neck Syndrome หรือเปล่า?"

จากข้อมูลของโรงพยาบาลธนบุรี ระบุบว่า อาการของ Text Neck Syndrome มีข้อสังเกตอาการของโรคดังนี้ เช่น

อาการปวดกล้ามเนื้อแบบต่อเนื่องไม่หายสักทีบริเวณต้นคอ บ่า ไหล่ หรือสะบัก

อาการชา ปวดจากคอไปยังมือ หรือ มีอาการอ่อนแรงของแขนและมือ

หรือ อาการอาจจะดีขึ้นชั่วคราว หลังผู้ป่วยรับประทานยา หรือ ทำการยืดกล้ามเนื้อ แต่อาการจะกลับมาเป็นใหม่เมื่อเริ่มมีพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์มือถือในลักษณะเดิมๆ
..

"หากเป็นแล้ว จะมีวิธีการรักษาและดูแลอย่างไร?"

ทางรักษามีตั้งแต่ระดับอาการเริ่มต้นไปจนถึงระดับอาการรุนแรงดังต่อไปนี้

รักษาโดยการยืดคลายกล้ามเนื้อ เพื่อการสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและการปรับท่าทางของร่างกายให้อยู่ในลักษณะท่าทางที่เหมาะสม

ใช้ทานยาเพื่อลดอาการอักเสบ และคลายกล้ามเนื้อ สามารถช่วยลดอาการปวดคอได้

สำหรับคนที่มีอาการรุนแรงจนถึงมีการเสื่อมของกระดูก หรือหมอนรองกระดูกคอ ร่วมกับการกดทับของไขสันหลังหรือรากประสาท จึงต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการพิจารณาวินิจฉัยอาการ และรับการรักษาโดยการผ่าตัด เพื่อหยุดไม่ให้อาการที่เป็นอยู่เรื้อรังสะสมเนเวลานาน
..

"ถ้ายังไม่เป็นในตอนนี้ ทำอย่างไรให้ ห่างไกล Text Neck Syndrome?"

วิธีง่ายที่สุดเลย ก็คือการเริ่มต้นจากตัวเราเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน

เช่น พยามใช้โทรศัพท์มือถือให้อยู่ในระดับสายตา ไม่ให้ก้มต่ำลงเพื่อ ปรับลดระยะการใช้งาน โทรศัพท์มือถือ หรือ Laptop ให้ไม่ใช้เวลาติดกันเป็นเวลานานมากจนเกินไป

หรือ การปรับท่านั่งที่ไม่ก้มหน้ามากจนเกินไป ไม่นั่งหลังงอ ไม่ห่อไหล่ เป็นเวลานานๆ มีช่วงเวลาพักสายตา ยืดกล้ามเนื้อ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อตึงจนเกินไป เป็นต้น
..

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องทำเพื่อร่างกายของตัวเอง รักตัวเองกันให้มากขึ้น อย่าปล่อยให้ปัญหาเล็กๆในการใช้ชีวิตประจำวันที่ถูกมองข้าม เข้ามาเป็นปัญหาใหญ่ของสุขภาพของเราในอนาคต

#มนุษย์เงินเดือนพันธุ์ใหม่
..

บรรเทาอาการปวดหลัง คอและบ่า ได้ด้วยชุด สุดคุ้ม Bewell Jumbo Set เบาะรองหลังทรงสูง + เบาะรองรองนั่ง + หมอนรองคอ เพื่อสุขภาพ เป็นสินค้าที่ผู้เชียวชาญเขาแนะนำ มากับโปรโมชั่น ลด 42% จาก 2,556 เหลือ 1,490 บาท รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้ที่ https://shope.ee/79zp4d2VMG
..

เรื่อง : อริษรา นาสารีย์
ภาพ : ทีมงาน The Practical

06/06/2022

ท่าในการรักษาการเคลื่อนไหวของข้อกระดูกสันหลัง
lower spine

Joint Mobilization - Lumbar Spine - There are many aspects that need to be addressed when eliminating low back pain. One of the key aspects is joint mobility...

04/06/2022

อาการปวดสะโพก ร้าวลงขา
Piriformis syndrome

ถามจริง ตอบจริง ตอนที่ 2
ถาม คนที่มีฝ่าเท้าคว่ำ หรือ pronated foot ทำไมจึงก่อให้เกิดปัญหาต่อกล้ามเนื้อ piriformis

Identify the problem!!!!
Not accounting for the kinetic chain

ตอบ เนื่องจากฝ่าเท้าคว่ำส่งผลให้ข้อเข่าเกิดการบิดหมุนเข้าทางด้านในหรือ internal rotation ซึ่งกระดูกต้นขาจึงเกิดแรงบิดหมุนเข้าด้านในเช่นกัน ดังนั้นกล้ามเนื้อ piriformis ที่เกาะจากกระดูกกระเบนเหน็บมายังกระดูกต้นขาส่วน greater trochanter จึงต้องหดตัวต้านทานการหมุนเข้าด้านในของข้อเข่า และถ้าต้องเป็นเช่นนี้ไปนาน ๆ ผลคือจะเกิดแรงกดอัด หรือ compression ต่อเส้นประสาท sciatic และเกิด sciatica pain ตามมา ในผู้ป่วยเช่นนี้จะแก้ไขที่กล้ามเนื้อ piriformis ไม่ได้ค่ะ เพราะไม่หายแน่นอน ต้องไปหาผู้ชำนาญในการรักษาการคว่ำของเท้าให้ได้ normal alignment จึงจะกลับคืนสู่ปกติค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นหากปล่อยไว้นาน การหุบเข้าหรือ inflare ของเชิงกรานที่ไปตามการหมุนของข้อเข่า จะมีผลทำให้กล้ามเนื้อพื้นเชิงกรานมีแรงหดตัวที่ด้อยประสิทธิภาพลงซึ่งกระทบต่อการหายใจปกติ และอาจส่งผลต่อการปวดหลังส่วนล่าง รวมถึงการปวดคอด้วย
บรรณานุกรม
ภาพจาก prlviclock.com

Calyton P. Sacroiliac joint dysfunction and piriformis syndrome: the complete guide for physical therapists. North Atlantic Books, London, 2016.

29/05/2022