Docteichannel Body Contouring Surgery

18/09/2025

High Definition Liposuction: ศิลปะของการดูดไขมันที่มากกว่าการลดสัดส่วน

การดูดไขมัน (Liposuction) ถือเป็นหนึ่งในหัตถการศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก เนื่องจากช่วยปรับรูปร่าง ลดไขมันเฉพาะจุดที่ดื้อการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเทคนิคที่ยกระดับขึ้นจากการดูดไขมันทั่วไป คือ High Definition Liposuction (HD Lipo) ซึ่งไม่ได้มุ่งแค่การลดไขมัน แต่ต้องการ “แกะสลัก” ร่างกายให้เห็นความชัดเจนของกล้ามเนื้อและโครงสร้างร่างกายที่ซ่อนอยู่ใต้ชั้นไขมัน

---
High Definition Liposuction คืออะไร?

HD Liposuction เป็นเทคนิคการดูดไขมันที่เน้นสร้างความคมชัดของสัดส่วน โดยเฉพาะบริเวณที่มีโครงสร้างกล้ามเนื้อ เช่น หน้าท้อง (six-pack หรือ line V) แขน ไหล่ หลัง เอว และต้นขา แพทย์จะไม่เพียงแค่เอาไขมันออก แต่จะ “ออกแบบ” และ “เหลาปรับ” ปริมาณไขมันที่เหลือไว้ เพื่อให้โครงสร้างกล้ามเนื้อเด่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

แตกต่างจากการดูดไขมันแบบดั้งเดิม (Conventional Liposuction) ที่เป้าหมายหลักคือการลดปริมาณไขมันและทำให้รูปร่างเล็กลง แต่ไม่เน้นรายละเอียดเชิงโครงสร้างมากนัก
---

ความท้าทายของ High Definition Liposuction

HD Lipo ต้องการทั้ง ศิลปะและความแม่นยำสูง จึงท้าทายกว่าการดูดไขมันทั่วไปในหลายมิติ ได้แก่:

1. การออกแบบรูปร่าง (Body Sculpting Skill)

แพทย์ต้องมีความเข้าใจเรื่องกายวิภาคและมิติของกล้ามเนื้อเป็นอย่างดี

การเหลือไขมันบางจุดและกำจัดบางจุดต้องแม่นยำ เพื่อสร้างเงาและไฮไลต์ให้เหมือนการแกะสลัก

2. ความสม่ำเสมอของผิว (Skin Smoothness)

หากทำไม่ชำนาญ อาจเกิดความไม่เรียบ ผิวขรุขระ หรือเป็นคลื่นได้ง่าย เพราะ HD Lipo ต้องดูดใกล้ผิวหนังมากกว่าปกติ

3. การควบคุมการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ

ยิ่งเน้นความละเอียดมากเท่าไร ความเสี่ยงในการบอบช้ำของเส้นเลือด เส้นประสาท และผิวหนังก็สูงขึ้น หากใช้เทคนิคไม่เหมาะสม

---

Ultrasound-Assisted Liposuction (UAL): ตัวช่วยสำคัญของ HD Lipo

หนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้ HD Liposuction ประสบความสำเร็จมากขึ้นคือ Ultrasound-Assisted Liposuction (UAL) เช่น VASER® ซึ่งใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการสลายไขมันก่อนดูดออก

คุณสมบัติเด่นของ UAL ที่ช่วย HD Lipo

1. สลายไขมันเฉพาะเจาะจง (Selective Fat Targeting)

คลื่นอัลตราซาวด์ทำให้ไขมันแตกตัวและกลายเป็นอิมัลชัน (liquefied fat) ดูดออกง่ายขึ้น

ลดแรงดึงของแพทย์และลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อรอบข้าง เช่น เส้นเลือดและเส้นประสาท

2. ผลงานคมชัด (Enhanced Definition)

UAL ช่วยให้สามารถดูดไขมันใกล้ชั้นผิวหนังได้อย่างปลอดภัยกว่า

ส่งผลให้การสร้างเส้นกล้ามเนื้อ (muscle definition) ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง แขน และแผ่นหลัง

3. ผิวเรียบและกระชับ (Skin Retraction)

ความร้อนที่เกิดขึ้นเล็กน้อยจากคลื่นอัลตราซาวด์กระตุ้นให้ผิวหนังหดตัวและกระชับ

ลดความเสี่ยงที่ผิวหนังจะหย่อนหรือย้วยหลังดูดไขมัน

4. ลดการเสียเลือดและบวมช้ำ (Less Trauma)

เพราะไขมันถูกทำให้เหลว การดูดจึงใช้แรงน้อยกว่า

ผู้ป่วยเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับเทคนิคทั่วไป
---

HD Liposuction + UAL: ผลลัพธ์ที่เหนือกว่า

เมื่อรวมเทคนิคการออกแบบรูปร่างแบบ HD เข้ากับเทคโนโลยี UAL แพทย์สามารถ:

ปั้นร่างกายให้ได้สัดส่วนที่สวยงาม เห็นกล้ามชัด

ลดความเสี่ยงผิวไม่เรียบหรือไม่สม่ำเสมอ

ลดบวมช้ำ ฟื้นตัวเร็ว

ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

---

สรุป

High Definition Liposuction ไม่ใช่แค่การดูดไขมัน แต่เป็นการสร้างสรีระให้ดูมีมิติราวกับงานศิลปะ ความท้าทายจึงอยู่ที่ทักษะของแพทย์และความแม่นยำในการออกแบบรูปร่าง การนำ Ultrasound-Assisted Liposuction (UAL) มาใช้ช่วยให้ไขมันสลายได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ลดบาดเจ็บ ฟื้นตัวไว และที่สำคัญทำให้ได้ ผลลัพธ์ที่คมชัดและปลอดภัย ซึ่งเป็นหัวใจของการทำ HD Lipo ที่แท้จริง

เขียนโดยนพ.วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง (หมอเต้ย)
Wutthiwat Anupansawang, MD.

สอบถามเพิ่มเติม : line Fraframe
Whatsapp TH +66 971077722

10/09/2025

Gynecomastia (ไกเนโคมาสตีอา) หรือ ภาวะเต้านมโตในผู้ชาย คือภาวะที่มีการขยายของเนื้อเยื่อต่อมเต้านม (glandular tissue) ทำให้เต้านมของผู้ชายดูโตขึ้นผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้
---

🔎 สาเหตุหลัก

1. ฮอร์โมนไม่สมดุล

ระดับ เอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) สูงเกิน หรือ เทสโทสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย) ต่ำเกิน

มักพบในช่วงวัยรุ่น หรือในผู้สูงอายุ

2. ยาและสารบางชนิด

ยาลดความดัน (spironolactone, verapamil)

ยารักษาแผลในกระเพาะ (cimetidine)

สเตียรอยด์บางชนิด, ยาต้านแอนโดรเจน, กัญชา, แอลกอฮอล์

3. โรคบางอย่าง

โรคตับแข็ง, ไตวายเรื้อรัง, เนื้องอกอัณฑะหรือต่อมหมวกไต

4. สาเหตุไม่ทราบแน่ชัด (Idiopathic)

---

🩺 อาการ

หน้าอกขยาย มักคลำเจอก้อนเนื้อบริเวณใต้หัวนม (แตกต่างจาก “ไขมันสะสม” ที่มักกระจาย)

อาจมีความรู้สึกเจ็บหรือกดเจ็บ

ส่วนใหญ่ไม่ร้ายแรง แต่บางกรณีอาจต้องแยกโรคจาก มะเร็งเต้านมในผู้ชาย

---

✅ การรักษา

1. ติดตามอาการ

ในวัยรุ่น ส่วนใหญ่หายเองภายใน 6–18 เดือน

ถ้าไม่เจ็บ ไม่กังวลเรื่องรูปลักษณ์ อาจไม่ต้องรักษา

2. หยุดหรือปรับยา/สารที่เป็นสาเหตุ

3. รักษาด้วยยา (ถ้าอาการเป็นใหม่ๆ ไม่เกิน 6–12 เดือน)

ยาต้านเอสโตรเจน เช่น Tamoxifen

Aromatase inhibitors (เช่น anastrozole) ใช้ในบางกรณี

4. การผ่าตัด (สำหรับผู้ที่เป็นเรื้อรัง, เต้านมโตมาก, หรือกังวลเรื่องความสวยงาม)

Liposuction ดูดไขมันออก

Subcutaneous mastectomy ตัดต่อมเต้านมออกผ่านแผลเล็กๆ

บางครั้งใช้ทั้งสองวิธีร่วมกัน

---

สรุป:
Gynecomastia คือการที่เนื้อต่อมเต้านมในผู้ชายขยายตัวจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน ยา หรือโรคบางชนิด ส่วนใหญ่ไม่อันตรายและอาจหายเอง แต่ถ้าเป็นมากหรือรบกวนความมั่นใจ สามารถรักษาด้วยยาและการผ่าตัดได้ครับ

เขียนโดย
นพ.วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง (หมอเต้ย)
Wutthiwat Anupansawang, MD.
สอบถามเพิ่มเติม : line Fraframe
Whatsapp TH +66 971077722

31/08/2025

พังผืดรัดเต้านม หลบอย่างไร เลี่ยงยังไง แก้ได้ไหม..

08/08/2025

เทรนด์เสริมหน้าอกของสาวไทย: จาก “ใหญ่พุ่ง” สู่ “สวยพอดี ดูเป็นธรรมชาติ”

ตลอดสิบปีที่ผ่านมา เทรนด์การเสริมหน้าอกของสาวไทยได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่ยุคก่อนสาวๆ มักนิยมซิลิโคนขนาดใหญ่ 350–450cc ทรงพุ่งแบบ High Profile เพื่อให้ได้ความอวบอิ่มและเต่งตึงชัดเจนในทันที แต่หลายครั้งก็อาจทำให้รูปร่างโดยรวมดูแน่นเกินไป ไม่สอดคล้องกับสรีระ หรือทำให้หุ่นดูไม่เพรียวตามค่านิยมความงามในเวลานั้น

จาก “ใหญ่จัดเต็ม” สู่ “สวยพอดี”

ในปัจจุบัน กระแสความงามได้เคลื่อนตัวมาสู่ความ เพรียวบางแต่มีส่วนโค้งเว้า (S-Curve) ที่ดูเป็นธรรมชาติ สาวๆ เริ่มให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างหน้าอกและรูปร่างมากขึ้น ไม่ต้องการเพียงแค่ “อกใหญ่” แต่ต้องการให้ดูเข้ากับโครงตัว สวมใส่เสื้อผ้าได้หลากหลาย และไม่บ่งบอกจนเกินไปว่าผ่านการศัลยกรรมมา

ผลลัพธ์คือ เทรนด์การเลือกซิลิโคนจึงขยับไปสู่ ขนาดเล็กลง อยู่ในช่วง 200–250cc และเลือกใช้ทรง Moderate Profile ที่ให้เนินอกสวยพอดี ไม่พุ่งเกินไป แต่ยังมีความโค้งมนและความนุ่มนวล ดูเป็นธรรมชาติ

ปัจจัยที่ทำให้เทรนด์เปลี่ยน

1. ค่านิยมความงามที่เปลี่ยนไป
แฟชั่นและโซเชียลมีเดียทำให้ภาพลักษณ์ของความงามในยุคนี้เอนเอียงไปทางความบางเพรียว แต่ยังคงความเป็นผู้หญิงที่มีสัดส่วนโค้งเว้า

2. ความรู้และข้อมูลที่มากขึ้น
ปัจจุบันสาวๆ สามารถหาข้อมูลเรื่องซิลิโคน โปรไฟล์ และขนาดที่เหมาะสมกับร่างกายได้ง่ายขึ้น ทำให้ตัดสินใจเลือกสิ่งที่เข้ากับตัวเองมากกว่าเลือกตามกระแส

3. เทคนิคศัลยกรรมที่พัฒนา
ศัลยแพทย์มีเทคนิคการวางซิลิโคนที่แม่นยำมากขึ้น ทำให้สามารถใช้ขนาดเล็กลง แต่ยังได้รูปทรงที่สวยและดูเต็มตา

บทสรุปของเทรนด์ใหม่

การเสริมหน้าอกในปัจจุบันไม่ใช่การ “ทำให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่ทำได้” อีกต่อไป แต่เป็นการ “ออกแบบรูปร่างให้ลงตัว” สาวไทยจึงหันมาเลือกซิลิโคนขนาดพอดี โปรไฟล์กลางๆ เพื่อให้ได้ลุคที่ดูแพง หรูหรา และสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

เทรนด์นี้สะท้อนให้เห็นว่า ความงามในยุคปัจจุบัน คือความพอดีที่ส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจ มากกว่าการทำตามกระแสเพียงอย่างเดียว

>>บทความโดย

23/07/2025

📍 “การเสริมหน้าอกแผลใต้ราวนม (IMF) ด้วยเทคนิค Dual Plane ร่วมกับ Endoscope ดีกว่าทางรักแร้อย่างไร?”

การเสริมหน้าอกในปัจจุบันมีหลายวิธีให้เลือก โดยเฉพาะตำแหน่งของแผลผ่าตัด ซึ่งเป็นจุดที่คนไข้ให้ความสำคัญมาก ทั้งในเรื่องความสวยงาม ความแม่นยำของการวางซิลิโคน และความปลอดภัยในระยะยาว

หนึ่งในเทคนิคที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือ:
"การเสริมหน้าอกผ่านแผลใต้ราวนม (Inframammary Fold หรือ IMF) ร่วมกับเทคนิค Dual Plane และการใช้กล้อง Endoscope ช่วยผ่าตัด"

ซึ่งในหลายกรณี เทคนิคนี้ให้ผลลัพธ์ดีกว่าการผ่าทางรักแร้ (Transaxillary) โดยเฉพาะในแง่ของความแม่นยำทางกายวิภาค และการวางตำแหน่งซิลิโคน

---

✅ จุดเด่นของเทคนิคนี้

1. การควบคุมโพรงใต้กล้ามเนื้อได้ดีกว่า

การใช้กล้อง endoscope ในแผล IMF ช่วยให้ศัลยแพทย์มองเห็นชั้นกล้ามเนื้อได้ชัดเจน สามารถเลาะโพรงใต้กล้ามเนื้อได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะใน dual plane ซึ่งต้องมีการปลดกล้ามเนื้อบางส่วนเพื่อให้เต้านมคลุมซิลิโคนได้ดีขึ้น

> ลดโอกาสเลาะผิดชั้น ลดปัญหา rippling หรือ double bubble ได้มาก

---

2. ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ

เมื่อใช้กล้องช่วย ศัลยแพทย์สามารถเลี่ยงเส้นเลือดสำคัญ (เช่น perforator vessels) ได้แม่นยำกว่าการมองด้วยตาเปล่า
ช่วยลดการเกิด hematoma, bleeding ซ่อนเร้น และช่วยลดโอกาสเกิดพังผืดในอนาคต

---

3. สามารถตรวจสอบ symmetry ได้ดีกว่า

ผ่านแผล IMF จะมองเห็นทั้งสองฝั่งอย่างชัดเจน วัด midline และตำแหน่งฐานเต้านมได้เป๊ะ จึงเหมาะกับเคสที่ต้องการความสมมาตรสูง เช่น คนไข้หน้าอกไม่เท่ากันเดิม หรือเคสแก้ไข

---

4. แผลเล็กและซ่อนอยู่ในรอยพับธรรมชาติ

แม้จะผ่าผ่านใต้ราวนม แต่แผลจะถูกซ่อนอยู่พอดีกับรอยพับธรรมชาติ เมื่อแผลหายดีแล้วมองแทบไม่เห็น โดยเฉพาะถ้าเย็บอย่างประณีต
ต่างจากแผลรักแร้ ที่บางคนแผลหายช้า เป็นคีลอยด์ หรือเห็นชัดเวลาใส่เสื้อสายเดี่ยว

---

🤔 แล้วทางรักแร้ไม่ดีตรงไหน?

จุดด้อยของแผลรักแร้ (Transaxillary)

ต้องเลาะโพรงไกล ทำให้คอนโทรลโพรงยากขึ้น
เสี่ยงเลาะผิดชั้นมากกว่า โดยเฉพาะในเคส dual plane
ยากต่อการปรับ midline และฐานล่างของซิลิโคน
หากต้องแก้ไขในอนาคต มักต้องผ่าทาง IMF ซ้ำอยู่ดี
บางคนมีแผลเป็นนูนหรือสีคล้ำในรักแร้ถาวร

สรุปคือ หากต้องการ “ผลลัพธ์ระยะยาวที่แม่นยำและสมมาตร” แผล IMF + dual plane + endoscope ให้ความคุมโพรงที่ดีกว่ามาก

---

🔍 แผล IMF + dual plane + endoscope เหมาะกับใคร?

✅ คนผิวบาง หน้าอกเล็ก
✅ เคสแก้ไข หรือเคยเสริมมาแล้ว
✅ คนที่ต้องการให้หน้าอกดูเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่มีขอบ
✅ เคสที่ต้องการความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีกว่า ในแง่ความสมมาตร ความแม่นยำของการสร้าง dual plane

นพ.วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง (หมอเต้ย)
Wutthiwat Anupansawang, MD.

สอบถามเพิ่มเติม : line Fraframe
Whatsapp TH +66 971077722
---

01/07/2025

การเสริมก้นด้วยซิลิโคน (buttock implant surgery) โดยเฉพาะในผู้ที่รูปร่างผอม หรือมีเนื้อก้นน้อย การเลือกใช้ anatomical implant (ทรงหยดน้ำ) มักได้รับการแนะนำมากกว่าทรงกลม (round implant)
---

✅ ข้อดีของ anatomical implant (ทรงหยดน้ำ)

1. ให้รูปทรงก้นที่เป็นธรรมชาติ

ทรงหยดน้ำเลียนแบบกายวิภาคของก้นจริง: แบนเล็กน้อยด้านบน และป่องด้านล่าง

ทำให้ก้นดูยกกระชับ มีความโค้งเว้าลงตัว โดยเฉพาะในมุมด้านข้างและเฉียง

2. ลดโอกาสเกิด double bubble หรือรูปร่างผิดธรรมชาติ

ทรงกลมอาจทำให้ก้นดูเป็นก้อนกลมผิดปกติ โดยเฉพาะในผู้ที่ก้นแบน

Anatomical implant กระจายน้ำหนักและแรงกดได้สมดุลมากกว่า

3. เหมาะกับการวางใต้กล้ามเนื้อ gluteus maximus (intramuscular placement)

ทรงหยดน้ำจะปรับเข้ากับช่องวางซิลิโคนที่แคบเฉพาะ และช่วยให้การเคลื่อนไหวดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ

4. ช่วยปรับสมดุลรูปร่างโดยรวม

โดยเฉพาะในผู้ที่มีช่วงลำตัวยาวหรือไม่มีสะโพกเด่น การใช้ anatomical implant จะช่วยให้รูปร่างดูมี curve มากขึ้น

---

⚠️ ข้อจำกัดของทรงกลม (Round implant)

ทำให้ก้นดู “โป่ง” ขึ้นแบบไม่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะเวลานั่งหรือยืนตรง

มีโอกาสสูงกว่าในการทำให้ผิวหนังบางหรือกดทับในบริเวณที่รับแรงมาก (เช่น ด้านบนของร่องก้น)

ไม่เหมาะกับคนผอม เพราะความกลมอาจเห็นเป็นขอบซิลิโคนง่าย

---

การเลือกทรงของ buttock implant ควรพิจารณาตาม:

ปริมาณเนื้อก้นเดิมของคนไข้

เป้าหมายรูปร่างที่ต้องการ

เทคนิคการวางซิลิโคน (subfascial, intramuscular หรือ submuscular)

แต่ในกรณีทั่วไป โดยเฉพาะผู้หญิงเอเชียรูปร่างผอม การเลือกใช้ anatomical implant จะให้ผลลัพธ์ที่ สวยงามและเป็นธรรมชาติกว่า ทรงกลมอย่างชัดเจน

นพ.วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง (หมอเต้ย)
Wutthiwat Anupansawang, MD.

สอบถามเพิ่มเติม : line Fraframe
Whatsapp TH +66 971077722

22/06/2025

Capsular contracture (พังผืดรัดเต้านม) คือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน โดยร่างกายสร้างพังผืด (capsule) หุ้มรอบซิลิโคนตามปกติ แต่ในบางกรณี พังผืดนี้เกิดการหดรัดตัวผิดปกติ ทำให้เต้านมแข็ง บิดเบี้ยว หรือเจ็บปวด

---

🔍 สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด Capsular Contracture

1. การติดเชื้อ (Subclinical Infection)
แม้ไม่แสดงอาการชัดเจน แบคทีเรียที่ตกค้างรอบซิลิโคนอาจกระตุ้นการอักเสบเรื้อรังและการสร้างพังผืดมากผิดปกติ

2. เลือดคั่งหรือของเหลวสะสม (Hematoma / Seroma)
ของเหลวที่ไม่ถูกระบายออกอาจทำให้ร่างกายตอบสนองทางอักเสบมากขึ้น

3. ผิวของซิลิโคน (Smooth vs Textured Surface)
ซิลิโคนผิวเรียบมีแนวโน้มเกิดพังผืดรัดรอบมากกว่าซิลิโคนผิวขรุขระ (textured)

4. การวางซิลิโคน (เหนือกล้าม vs ใต้กล้าม)
การวางใต้กล้ามเนื้อ (submuscular) ลดความเสี่ยงมากกว่าการวางเหนือกล้าม (subglandular)

5. การสูบบุหรี่
ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวได้ไม่ดี

6. การเคลื่อนไหวของซิลิโคน
การเคลื่อนไหวไม่สม่ำเสมอ หรือมีแรงกดรอบเต้านม อาจกระตุ้นพังผืด

---

📌 อาการของ Capsular Contracture

แพทย์มักแบ่งระดับความรุนแรงตาม Baker Grade I-IV:

Baker Grade ลักษณะอาการ

I เต้านมนิ่ม ดูเป็นธรรมชาติ
II เต้านมแข็งขึ้นเล็กน้อย แต่ยังดูปกติ
III เต้านมแข็งและมีรูปร่างผิดปกติ
IV เต้านมแข็ง บิดเบี้ยว และเจ็บปวด

---

✅ การป้องกัน Capsular Contracture

1. ใช้เทคนิคผ่าตัดที่ปลอดเชื้ออย่างเข้มงวด (No-touch technique)
เช่น การใช้ Keller funnel หรือ gloves เปลี่ยนใหม่ก่อนใส่ซิลิโคน

2. ให้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสม
ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังผ่าตัด

3. เลือกตำแหน่งการวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ
ช่วยลดแรงกดและการสะสมของเชื้อหรือเลือด

4. ใช้ซิลิโคนผิวขรุขระหรือ Motiva ที่มี nano-surface
ช่วยลดอัตราการเกิดพังผืดในบางการศึกษา

5. หลีกเลี่ยงภาวะเลือดคั่ง/Seroma
โดยใช้ drain และระมัดระวังเทคนิคผ่าตัด

6. งดบุหรี่ และดูแลแผลอย่างดีหลังผ่าตัด

---

🛠️ แนวทางการรักษา Capsular Contracture

ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง:

Grade I–II: อาจไม่ต้องรักษาหากไม่มีอาการ

Grade III–IV:

1. Capsulectomy: ผ่าตัดเลาะพังผืดรอบซิลิโคน

2. Capsulotomy: ผ่าตัดเปิดพังผืด (น้อยใช้ในปัจจุบัน)

3. เปลี่ยนซิลิโคนใหม่: โดยอาจเปลี่ยนตำแหน่งการวาง หรือเลือกซิลิโคนชนิดใหม่

4. ใช้ ADM (Acellular Dermal Matrix): ลดโอกาสเกิดพังผืดซ้ำ (เฉพาะรายที่เสี่ยงสูงหรือเกิดซ้ำ)

---

📌 หมายเหตุเพิ่มเติม

อัตราการเกิดพังผืดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5–10% ภายใน 10 ปี แต่สามารถลดลงได้มากหากใช้เทคนิคและอุปกรณ์ที่ทันสมัย

หากมีอาการผิดปกติ เช่น เต้านมแข็ง เจ็บ บิดเบี้ยว ควรพบศัลยแพทย์ทันทีเพื่อวินิจฉัย

นพ.วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง (หมอเต้ย)
Wutthiwat Anupansawang, MD.

สอบถามเพิ่มเติม : line Fraframe
Whatsapp TH +66 971077722

09/06/2025

🎈ซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงหยดน้ำทุกแบรนด์ มีพื้นผิวแบบหยาบ (textured surface) มีจุดไหนที่ควรทราบและระวัง !?

คำถามนี้ถือว่า “ตรงจุด” มากเลยครับเพราะประเด็นเรื่อง พื้นผิว (surface) ของซิลิโคน โดยเฉพาะ แบบ textured เป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงกันอย่างจริงจังในวงการศัลยกรรมเต้านมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

---

⚠️ ความกังวลเกี่ยวกับซิลิโคนผิว Textured

1. ความเสี่ยงต่อ BIA-ALCL (Breast Implant-Associated Anaplastic Large Cell Lymphoma)

เป็นมะเร็งชนิดหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันที่พบได้ เฉพาะในผู้ที่มีซิลิโคน textured บางประเภท

ไม่ใช่มะเร็งเต้านมโดยตรง แต่เกิดในแคปซูลรอบๆ ซิลิโคน

มีความสัมพันธ์ชัดเจนกับ textured ที่ ผิวหยาบมาก (macro-textured) โดยเฉพาะของบางแบรนด์ เช่น Biocell (Allergan)

2. บางประเทศสั่งระงับการใช้ textured

เช่น ฝรั่งเศส, แคนาดา, ออสเตรเลีย ห้ามใช้ textured บางรุ่น

FDA สหรัฐฯ ยังอนุญาต แต่มีคำเตือน ให้คนไข้รับรู้ความเสี่ยงก่อนใช้

3. ความเสี่ยงด้านอื่นๆ

ผิว textured แม้จะยึดกับเนื้อเยื่อได้ดี ลดการเคลื่อนหรือหมุนของซิลิโคน (จุดขายของทรงหยดน้ำ)

แต่อาจทำให้เกิด การหดรัดของแคปซูล (capsular contracture) แบบรุนแรงในบางราย และทำให้ผ่าตัดแก้ไขยากขึ้น

---

🔄 เทียบกับผิว Smooth หรือ Nano/Micro-texture รุ่นใหม่

🎈Smooth ผิวเรียบ: ไม่มีความเสี่ยง BIA-ALCL, แผลหายไว เคลื่อนตัวง่าย ต้องเทคนิคผ่าตัดแม่นยำ
🎈Micro/Nano-texture ผิวละเอียด: ช่วยยึดแต่ยังปลอดภัยกว่า textured หยาบ ขึ้นกับแต่ละแบรนด์ บางรุ่นยังอยู่ใน gray zone
🎈Macro-texture ผิวหยาบ : ยึดเกาะดี เหมาะกับทรงหยดน้ำ มีความเสี่ยง BIA-ALCL สูง

---

ปัจจุบันแบรนด์ชั้นนำเริ่ม “ถอย” ออกจากการผลิตซิลิโคนผิวหยาบ เช่น Mentor, Motiva, Sebbin หันมาผลิต smooth หรือ microtexture แทน

หากยังต้องใช้ทรงหยดน้ำ บางแบรนด์ (เช่น Mentor CPX หรือ Sebbin anatomical) ก็มีรุ่นที่ผิวไม่หยาบมาก

---

✅ สรุปสั้น:

แม้ทรงหยดน้ำจะมักมาพร้อมกับ textured surface แต่ในปัจจุบันแพทย์จำนวนมากหลีกเลี่ยงการใช้ macro-textured implant เพราะความเสี่ยงของ BIA-ALCL และหันไปใช้ ทรงกลมที่เลียนแบบธรรมชาติได้ดี แทน ซึ่งมาพร้อมพื้นผิวที่ปลอดภัยกว่า เช่น smooth หรือ micro-texture

นพ.วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง (หมอเต้ย)
Wutthiwat Anupansawang, MD.

สอบถามเพิ่มเติม : line Fraframe
Whatsapp TH +66 971077722

09/06/2025

🔍 จะเสริมหน้าอก..ทำไมไม่จำเป็นต้องเลือกทรงหยดน้ำเสมอไปแล้ว?

1. ซิลิโคนทรงกลมรุ่นใหม่ "โฉบเฉี่ยว" มากขึ้น

ซิลิโคนกลมรุ่นใหม่ เช่น mentor xtra, motiva ergonomix, หรือ sebbin soft touch ออกแบบให้ “ทรงเปลี่ยนตามแรงโน้มถ่วง” (ergonomic/soft gel)

เมื่อคนไข้นอน หน้าอกจะดูกลมสวย แต่เมื่อลุกขึ้นยืน เจลจะไหลลงล่าง ทำให้ "คล้ายทรงหยดน้ำโดยธรรมชาติ"

2. ลดความเสี่ยงเรื่องการหมุน (rotation)

ซิลิโคนทรงหยดน้ำ หากหมุนหรือบิดตัวเล็กน้อยจะดูผิดรูปชัดเจน ต้องผ่าตัดแก้

ทรงกลมไม่มีปัญหาเรื่องการหมุน เพราะทุกด้านสมมาตร

3. ศัลยแพทย์มีเทคนิคที่แม่นยำขึ้น

การใช้เครื่องมือวางตำแหน่ง (เช่น sizer, 3D simulation, dual plane technique) ทำให้สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดู “เป็นธรรมชาติ” ได้แม้ใช้ทรงกลม

---

✅ ข้อดีของซิลิโคนทรงกลมรุ่นใหม่

🎈ทรงชัด อวบอิ่ม ให้เนินอกดูเต็มและเซ็กซี่โดยเฉพาะช่วงบน
🎈ปลอดภัยจากการหมุน ลดโอกาสเกิดปัญหาผิดรูปภายหลัง
🎈สัมผัสนิ่มขึ้น เจลรุ่นใหม่ๆ นิ่มและยืดหยุ่นคล้ายเนื้อจริง
🎈เคลื่อนไหวได้ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะรุ่น ergonomic gel เช่น Motiva Ergonomix
🎈ศัลยกรรมง่ายกว่า ทรงกลมวางตำแหน่งง่าย ลดความซับซ้อนของผ่าตัด

---

📌 แล้วเมื่อไหร่ถึงจะยังเหมาะกับ “ทรงหยดน้ำ”?

เคสผิวบาง หน้าอกแบนมาก และต้องการผลลัพธ์ที่ “เนียนเป็นธรรมชาติสุดๆ”

คนที่ไม่ต้องการความอวบอิ่มด้านบนเลย เช่น นางแบบสาย minimal

บางเคสแก้ไขที่เคยเสริมมาแล้วเป็นทรงหยดน้ำเดิม

---

สรุปสั้นๆ:
ซิลิโคนทรงกลมรุ่นใหม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ "ดูเป็นธรรมชาติ" ได้ไม่ต่างจากทรงหยดน้ำ แต่มีข้อดีเรื่องความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และลดความเสี่ยงในระยะยาว จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ "ใช้งานได้กว้างกว่า" ในยุคนี้ครับ

นพ.วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง (หมอเต้ย)
Wutthiwat Anupansawang, MD.

สอบถามเพิ่มเติม : line Fraframe
Whatsapp TH +66 971077722

01/06/2025

ขอแสดงความยินดีกับ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี จากใจจริง กับการคว้ามงกุฏ Miss World อย่างสง่างามเมื่อคืนนี้

โอปอลไม่ใช่แค่หญิงสาวที่เปล่งประกายด้วยความงามภายนอก แต่เธอมี ออร่าของความสงบ ความสง่า และปัญญา ที่ฉายชัดออกมาจากภายใน ทุกย่างก้าวของเธอสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจที่ไม่จำเป็นต้องเอะอะโวยวาย ไม่ต้องตะโกนเรียกร้องสายตา แค่ “เป็นตัวของตัวเอง” เธอก็เปล่งประกายได้อย่างสง่างาม

โอปอลเป็นภาพแทนของผู้หญิงไทยยุคใหม่ที่เปี่ยมด้วย พลัง ความคิด และหัวใจที่อ่อนโยน เธอเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทั่วโลกว่า “ความสวย” ที่แท้จริง คือการรักตัวเอง เข้าใจโลก และกล้าที่จะยืนหยัดด้วยคุณค่าในแบบของตัวเอง

นี่ไม่ใช่แค่ชัยชนะบนเวที แต่คือชัยชนะของหัวใจหลายดวงที่มองเห็นเธอด้วยความภาคภูมิใจ
ประเทศไทยภูมิใจในตัวเธออย่างที่สุด — ขอบคุณที่เป็นแบบอย่างของความงามที่แท้จริง 💙👑🌏

#หญิงไทยหัวใจโลก

30/05/2025

Surgeon across borders | หมอศัลย์ข้ามพรมแดน

ขอบคุณจากใจครับ ที่คุณให้ความไว้วางใจเลือกผมเป็นหมอผ่าตัดเสริมหน้าอกให้คุณ
การได้มีโอกาสเนรมิตความงาม และช่วยเสริมความมั่นใจให้กับคุณ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับผม

ผมตั้งใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติที่สุด
ขอบคุณที่เชื่อมั่นในฝีมือหมอไทย และหวังว่าหน้าอกใหม่จะเป็นพลังบวกที่ทำให้คุณมีความสุขกับตัวเองมากยิ่งขึ้นนะครับ 💖

ด้วยความเคารพและปรารถนาดี

นพ.วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง (หมอเต้ย)
Wutthiwat Anupansawang, MD.

สอบถามเพิ่มเติม : line Fraframe
Whatsapp TH +66 971077722

หลายคนชอบคิดว่าผมไปเที่ยวเมืองจีนบ่อยจังเลยน่าอิจฉา แต่จริงๆแล้วผมอยากจะบอกว่าผมแทบจะไม่เคยได้ออกไปเ.....

25/05/2025

หลายคนยังคงมีความกังวลใจเกี่ยวกับการเสริมก้น ทั้งในเรื่องของความเจ็บปวด การพักฟื้น หรือความเสี่ยงจากการผ่าตัด แต่ในความเป็นจริง การเสริมก้นในปัจจุบันไม่ได้ยุ่งยากหรือน่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด

🎈ทางเลือกในการเสริมก้น🎈

การเสริมก้นสามารถทำได้หลายวิธี โดยแต่ละวิธีมีข้อดี-ข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ได้แก่

1. การฉีดไขมันตัวเอง (Fat Grafting)
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เพราะใช้ไขมันจากร่างกายของเราเอง ซึ่งปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ขั้นตอนคือการดูดไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา แล้วนำมาฉีดเติมเต็มที่ก้น ข้อดีคือไม่ต้องใส่วัสดุแปลกปลอม และสามารถเก็บไขมันส่วนเกินไปพร้อมกันได้อีกด้วย

2. การเสริมด้วยซิลิโคนก้น
ซิลิโคนที่ใช้จะเป็นชนิดแข็งพิเศษสำหรับเสริมก้นโดยเฉพาะ ผ่าตัดผ่านรอยพับก้น ทำให้แผลผ่าตัดซ่อนตัวได้ดี วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อก้นน้อยหรือไม่เพียงพอที่จะใช้ไขมันตนเอง การใส่ซิลิโคนจะให้ผลลัพธ์ชัดเจนและถาวรมากกว่า

🎈การเตรียมตัวและพักฟื้น🎈

การเสริมก้นไม่ใช่หัตถการที่ซับซ้อน หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การฟื้นตัวส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์

สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ในเวลาไม่นาน เพียงให้ระมัดระวังในการนั่งในช่วงแรกๆ 1-2สัปดาห์

ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงและให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

นพ.วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง (หมอเต้ย)
Wutthiwat Anupansawang, MD.

สอบถามเพิ่มเติม : line Fraframe
Whatsapp TH +66 971077722