
18/02/2025
ตอนบวชเป็นพระ ได้มีโอกาสไปฟังเทศน์พระครูรูปหนึ่ง (ชั้นยศพระครู) ธรรมะที่ท่านเทศน์ เป็นธรรมะที่เรียกว่าคนที่ไม่มีสติ ไม่มีปัญญา ฟังๆไปก็จะปรามาทท่าน ฟังๆไปใจก็ตี ก็ค้านอยู่ตลอด ... ท่านเทศน์ว่า
" บุญคือกิเลส บุญคือความอยาก " พวกมึงทำบุญ พวกมึงก็หวังว่าพวกมึงจะต้องรวยในวันข้างหน้า พวกมึงก็หวังว่าชีวิตพวกมึงจะต้องดี อยากกลับมาเกิดเป็นเศรษฐี อยากไปเกิดบนสวรรค์ต่างๆนาๆ
จบประโยคนี้ ทำให้ข้าพเจ้าเองก็ต้องมานั่งพิจารณา พิจารณาอยู่วันสองวันได้ บุญที่ทำไปนั้นเจือปนไปด้วยกิเลส ความอยากต่างๆ
แล้วถามตัวเองว่า เราทำบุญทุกวันนี้ ทำไปเพื่ออะไร ...
คำถามนี้เราตอบได้แล้ว ...
" ข้าพเจ้าขอให้ทรัพย์ปัจจัยนี้เป็นไปเพื่อต่ออายุพระพุทธศาสนา ขอให้พระศาสนายังคงอยู่ จนกว่าข้าพเจ้าจะเข้าสู่พระนิพพาน "
" บุญคือกิเลส บุญคือความอยาก " ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับพระครูท่านนั้น
ชอบทำบุญ เป็นเรื่องที่ดี ... แต่ถ้าวางในบุญ วางตัวข้างในจิตได้ ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าบุญนี้แล้ว ใจเบา ใจสบาย ใจไม่มีพันธะใดๆ
ใครจะเอาพระไตรปิฎก ใครจะเอาตำราอะไรมา เชิญตามสะดวกตามสบาย คิดและพิจารณาให้มาก ให้แยบยล เรื่องบางเรื่องก็อยู่นอกตำราเยอะแยะ และเป็นจริงเป็นประจักษ์อยู่เช่นนั้นก็มีถมไป " ธรรมะ ธรรมชาติ ธรรมดา "