06/11/2025
คุยกับคุณหมอขวัญคำ
“เมื่อกระต่ายน้อยถ่ายเหลวจนคราบอึเลอะก้น!”
โดย สพ.ญ. สุกฤตา ไตรวัฒนธงไชย (หมอเอม)
🧐 คุณหมอคะกระต่ายน้อยที่เพิ่งรับมาเลี้ยง ซึม ไม่กิน ถ่ายเหลวจนคราบอึเลอะก้นไปหมดเลยค่ะ ทำยังไงดีคะ?😭
👩🏻⚕️ ถ้าน้องกระต่ายที่บ้านมีอาการแบบนึ้ ให้รีบพามาพบคุณหมอด่วนเลยค่ะ❗️
เพราะการถ่ายเหลวเป็นภาวะฉุกเฉินที่อาจเกิดจากเชื้อโปรโตซัวตัวร้ายอย่างเชื้อ Eimeria (Coccidiosis in Rabbits) หรือที่เรียกกันว่าเชื้อบิดนั่นเองค่ะ
แล้วเชื้อบิดคืออะไร? วันนี้จะมาทำความรู้จักถึงภัยร้ายตัวจิ๋วกันค่ะ🔬
โรคบิด (Coccidiosis) เป็นโรคติดเชื้อโปรโตซัวที่เกิดจากเชื้อในสกุล Eimeria ซึ่งมีผลต่อระบบทางเดินอาหารของกระต่ายโดยเฉพาะ โดยพบได้บ่อยในกระต่ายอายุน้อยหรือช่วงหย่านม (4-16 สัปดาห์) หรืออาจพบในกระต่ายโตก็ได้เช่นกัน
โดยสายพันธุ์ที่สำคัญ ได้แก่
🐰 Eimeria stiedae ทำให้เกิด hepatic coccidiosis หรือบิดชนิดก่อโรคที่ตับ
🐰 Eimeria intestinalis, E. magna, E. media, E. perforans ทำให้เกิด intestinal coccidiosis หรือบิดชนิดลำไส้ ซึ่งเชื้อกลุ่มนี้มักจะทำให้เกิดการถ่ายเหลวได้กระต่ายเด็กนั่นเอง
🔍 เชื้อจะแพร่โดยการกินตัวแพร่ของเชื้อเรียกว่า โอโอซีสท์ (oocyst) จากสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อน เช่น อาหาร น้ำ หรืออุจจาระของกระต่ายติดเชื้อ โดย Oocyst สามารถคงทนต่อสภาพแวดล้อมได้เป็นเวลานาน และทนต่อยาฆ่าเชื้อหลายชนิด
😨 พยาธิกำเนิด (Pathogenesis)
หลังจากกระต่ายกิน oocyst แล้ว เชื้อจะปลดปล่อยตัวนำโรคหรือสปอร์เรียกว่า สปอโรซอยท์ (sporozoite) ออกมาในลำไส้เล็ก จากนั้นเชื้อจะบุกรุกเข้าสู่เยื่อบุผนังลำไส้และเพิ่มจำนวนทำให้เซลล์เยื่อบุลำไส้ถูกทำลาย เกิดการอักเสบและหลั่งมูกออกมามากผิดปกติ
📌 อาการทางคลินิก - อาการของโรคขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของการติดเชื้อ
1. บิดชนิดลำไส้ (Intestinal coccidiosis)
💥 ถ่ายเหลว อาจมีมูกหรือเลือดปน
💥 ท้องอืด เบื่ออาหาร ซึม น้ำหนักลด
💥 ขนหยาบและร่วงง่าย
💥ในรายรุนแรงอาจเกิดภาวะช็อกจากการขาดน้ำ ชักจากภาวะน้ำตาลต่ำและเสียชีวิตได้ ‼️
2. บิดชนิดตับ (Hepatic coccidiosis)
🤒 ซึม เบื่ออาหาร ตัวซีด
🤒 ท้องบวม ตับโต
🤒 ในรายเรื้อรังอาจพบภาวะตัวเหลือง (icterus)
การวินิจฉัย
🔬ในกรณีของเชื้อบิดในลำไส้ จะใช้การตรวจอุจจาระ เพื่อหา oocyst ของเชื้อ Eimeria spp.
🔬เชื้อบิดในตับจะทำการวินิจฉัยได้ยากกว่า มักใช้การตรวจเลือดเพื่อดูค่าตับ หรืออาจะพิจารณาทำการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อจากลำไส้เพื่อส่องดูลักษณะทางพยาธิวิทยา
การรักษา
💊 จะใช้ยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม มีความสามารถในการลดจำนวนเชื้อลงได้ โดยให้ต่อเนื่อง 7-14 วัน
💊 ให้สารน้ำและอาหารเสริมพลังงานสูง เพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหาร และในรายที่รุนแรงมีความจำเป็นต้องดูแลใกล้ชิดและรักษาประคับประคองอาการสำคัญเอาไว้ด้วย เพราะบิดเกิดได้ทั้งในทางเดินอาหารและตับ
‼️ที่สำคัญที่สุด คือ ควรแยกกระต่ายป่วยออกจากกลุ่ม เพื่อลดการแพร่กระจายของ oocyst
การป้องกันและควบคุมโรค
🧹รักษาความสะอาดของกรงและอุปกรณ์เลี้ยง
🧹 ทำความสะอาดถาดรองอุจจาระทุกวันเพื่อลดการสะสมของ oocyst โดยน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถจัดการเชื้อได้คือ แอมโมเนียเข้มข้นเท่านั้น น้ำยาฆ่าเชื้อทั่วไปจะไม่สามารถทำลายเชื้อได้
🧹 หลีกเลี่ยงความแออัดและลดความเครียดในช่วงหย่านม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสัตว์ขวัญคำ
#อาหารกระต่าย #อาหารเสริมกระต่าย #กระต่าย #สัตว์กินพืช #อาการท้องอืดในกระต่าย #หมอเอ็กโซติก