บริษัท ภัทษชัยโกลด์ จำกัด ผู้จำหน่ายสมุนไพรบำรุงสุขภาพโสมกระชายดำพีจี : PG ผลิตจากกระชายดำและส่วนผสมสมุนไพรที่มีคุณภาพสูง แหล่งปลูกกระชายดำพันธุ์ดีนำมาจากเพชรบูรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นกระชายดำที่ให้สรรพคุณทางยาที่มีคุณภาพดีที่สุด นำมาผลิตตามกระบวนการที่ถูกสุขลักษณะ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและคุณประโยชน์ต่อผู้บริโภค ผลิตภายใต้แนวคิดกรีนโปรดักส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทมีเป้าหมายทางธุรกิจ
ทั้งในประเทศและมุ่งสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและตลาดโลก
โสมกระชายดำพีจี เป็นสุดยอดสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ ในตำรายาโบราณบันทึกไว้ว่าแพทย์แผนไทยนำกระชายดำมาเป็นส่วนผสมยาสมุนไพรบำรุงร่างกาย ส่วน "ตำราว่านมหานิยม" ถือว่ากระชายดำเป็นว่านมหามงคลที่หายาก "ตำราสมุนไพรคัมภีร์นพเก้า" ซึ่งเป็นสุดยอดตำรับยาโบราณได้นำกระชายดำมาเป็นหนึ่งในสมุนไพรเก้าชนิดปรุงเป็นยาบำรุง และ "ตำรายาขอมโบราณ" ก็นำกระชายดำผสมน้ำผึ้งปรุงเป็นตำรับยา นอกจากนี้กระชายดำยังเป็นสมุนไพรที่นิยมใช้เพิ่มสมรรถภาพทางเพศทั้งชายและหญิงมาแต่โบราณ
บริษัทได้นำกระชายดำและสมุนไพรไทยชนิดอื่น ๆ เช่น โสม ว่านชักมดลูก บอระเพ็ดพุงช้าง พลูคาว แก่นตะวัน น้ำผึ้ง และสมุนไพรอื่นๆ อีกหลายชนิด มาผสมผสานกันอย่างลงตัวเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าสูงสุดต่อผู้บริโภค โดยได้รับการตรวจและรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้รับการรับรองจาก อย. และฮาลาล ไม่มีส่วนประกอบของสารเคมีหรือสารตกค้าง และไม่มีแอลกอฮอล์ จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภคทุกท่าน
สมุนไพรโสมกระชายดำพีจี : PG ช่วยเสริมสร้างระบบการทำงานของร่างกายให้ดีขึ้น ได้แก่ * ระบบหมุนเวียนโลหิต * ระบบต่อมน้ำเหลือง * ระบบกล้ามเนื้อ * ระบบขับถ่าย * ระบบอวัยวะภายใน ม้าม ตับ ไต หัวใจ ปอด เมื่อระบบภายในของร่างกายดีขึ้น ก็จะทำให้เลือดของเราดีขึ้น เมื่อเลือดดี อวัยวะภายในร่างกายของเราก็จะดีขึ้น ทำให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันโรคร้ายต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
สรรพคุณของสมุนไพรโสมกระชายดำพีจี : PG สุดยอดสมุนไพรเข้มข้นที่มากด้วยคุณประโยชน์
* เป็นยาอายุวัฒนะ ชะลอความแก่ บำรุงสายตา บำรุงร่างกาย ทำให้นอนหลับสนิท
* ช่วยขับลม แก้อาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม จุกเสียดแน่นท้อง
* บรรเทาอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดคอ ปวดไหล่ ปวดขา ปวดเข่า บรรเทาอาการเหน็บชา อัมพฤต อัมพาต
* ลดคอเลสเตอรอล ลดไตรกรีเซอไรด์ เพิ่มไขมันดี ลดไขมันเลว
* ช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น ลดความดันโลหิต ป้องกันโรคเลือดข้น เลือดหนืด ทำให้เลือดไหลเวียนดี บำรุงโลหิต ช่วยให้เกร็ดเลือดเพิ่มขึ้นในผู้ป่วยที่มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ บรรเทาอาการผู้ป่วยโลหิตจางที่มีอาการมึนเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลมบ่อย
* บรรเทาอาการโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ บำรุงหัวใจ ช่วยขยายหลอดเลือดหัวใจ
* ดูแลระบบย่อยอาหารให้เกิดสมดุล ลดแผลอักเสบในลำไส้ บรรเทาอาการโรคกระเพาะอาหาร ลดอาการกรดไหลย้อน ทำให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้น ต้านการเกิดโรคริดสีดวงทวาร
* บรรเทาอาการโรคเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ระบบการทำงานของอินซูลินเป็นปกติ
* มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพในการต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง บรรเทาอาการของโรคมะเร็ง ช่วยให้เซลล์มะเร็งลดลง
* บรรเทาอาการโรคไตเป็นพิษ
* บรรเทาอาการโรคต่อมลูกหมากโต
* บรรเทาอาการโรคเก๊าท์ รูมาติซั่ม รูมาตอยล์เรื้อรัง
* ลดการเกิดเชื้อราที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น กลาก เกลื้อน ผดผื่นคัน สะเก็ดเงิน สะเก็ดทอง โรคผิวหนังเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ผิวหนังแข็งแห้ง
* บำรุงเลือดของสุภาพสตรี ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ ลดอาการตกขาว ลดอาการปวดท้องประจำเดือน เพิ่มน้ำนมให้คุณแม่และทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว มดลูกไม่ต่ำ บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ผุดผ่อง สดใส ไร้สิว ฝ้า จุดด่างดำ ชะลอการเกิดริ้วรอย
* มีสารเพิ่มสมรรถภาพทางเพศทั้งชายและหญิง ในตำรับยาโบราณมักใช้เป็นยาชูกำลัง เพิ่มปริมาณน้ำเชื้อท่านชายให้มีมากและแข็งแรงขึ้น ช่วยให้อารมณ์ทางเพศของท่านชายมีความสมบูรณ์ขึ้น
โสมกระชายดำพีจีประกอบด้วยสมุนไพรที่นำมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ดังนี้
1. กระชายดำ ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Kaempferia parviflora Wall. ex Baker เป็นพืชในวงศ์ ZINGIBERACEAE (องค์การสวนพฤกษศาสตร์, http://www.qsbg.org) กระชายดำกระจายพันธุ์มาจากอินเดีย พม่า และเข้าสู่ไทยทางกาญจนบุรี ตาก เพชรบูรณ์ เลย และภาคเหนือ กระชายดำเป็นไม้ล้มลุก มีเหง้าใต้ดิน สีม่วงดำ ใบเดี่ยว รูปไข่หรือรูปรี ดอกออกเป็นช่อแทรกที่โคนกาบใบ ก้านช่อยาว 5-6 ซม. กลีบดอกส่วนโคนเชื่อมเป็นหลอด ปลายแยกเป็นแฉก กลีบปากสีม่วง
คุณประโยชน์ของกระชายดำ เป็นยาอายุวัฒนะ ชะลอความแก่ บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิต แก้อาการอ่อนเพลียแก้ปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดข้อ เข่า เหน็บชา เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ บำรุงหัวใจ ขยายหลอดเลือดหัวใจ ช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น รักษาความดันโลหิต กระตุ้นระบบประสาท บำรุงประสาท ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย ช่วยขับลม แก้อาการจุกเสียด รักษาเชื้อราที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคผิวหนัง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ระบบการย่อยอาหารเกิดสมดุล ระบบขับถ่ายดีขึ้น ต้านริดสีดวง ขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา บำรุงผิวพรรณให้สดใส แก้อาการตกขาว ลดอาการปวดท้องขณะมีประจำเดือน
2. โสม (Ginseng) เป็นพืชในสกุล Panax ในวงศ์ Araliaceae (วิกิพีเดีย, http://th.wikipedia.org) เป็นพืชสมุนไพรโบราณ มีหลายสายพันธุ์ตามสถานที่ปลูก การใช้โสมถูกบันทึกไว้ในตำรับยาแพทย์แผนจีนหลายพันปีก่อน เชื่อว่าโสมยุคแรกคือโสมป่า ที่ขุดได้จากตอนเหนือของจีน มีรากคล้ายกับคน (หยิ่งเซียม) มีการใช้โสมแพร่หลายออกไปยังเกาหลี (โสมกอรียอ) และอีกหลากสายพันธุ์จากอเมริกา สมัยก่อนโสมมีราคาแพงเนื่องจากเป็นของหายาก ปัจจุบันมีการปลูกโสมในเชิงพาณิชย์
คุณประโยชน์ของโสม สาร Adaptogens ในโสม มีคุณสมบัติลดความเครียด ช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้ทนต่อภาวะต่าง ๆ ลดความเมื่อยล้า กระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายสร้างพลังงานเพิ่มขึ้น ช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง โดยการสร้างสาร Interferon ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อไวรัส และกระตุ้นการสร้างโปรตีน Interleukin-1 โสมมีส่วนช่วยเพิ่มการสร้างพลังงาน และทำให้สามารถนำพาออกซิเจนไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรเทาอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือนหรือวัยทอง ลดการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดจากต่อมหมวกไต ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ ฟื้นฟูและเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ เป็นไวอะกร้าธรรมชาติ ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ ลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับมาตรฐาน ลดอาการข้างเคียงจากการฉายรังสี
3. แก่นตะวัน หรือทานตะวันหัว (Jerusalem artichoke หรือ Sunchoke) (วิกิพีเดีย, http://th.wikipedia.org) เป็นพืชดอกในตระกูลทานตะวัน มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ ชาวอินเดียนแดงปลูกไว้รับประทานหัว โดยเชื่อว่ามีสรรพคุณช่วยทำให้เจริญอาหาร ต่อมาจึงแพร่หลายไปในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
คุณประโยชน์ของแก่นตะวัน • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้ดีขึ้น แก้อาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อย ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ลดน้ำหนัก ลดคลอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ลดความเสี่ยงความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ลดท้องผูก จุกเสียดแน่นท้อง ป้องกันมะเร็งลำไส้ ลดปริมาณแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร ลดกลิ่นปากจากแบคทีเรีย เพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ โดยเฉพาะแคลเซียมและธาตุเหล็ก ป้องกันพิษของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว
4. ว่านชักมดลูก ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma xanthorhiza ชื่อวงศ์ Zingiberaceae หรือเป็นพืชในวงศ์ขิง (วิกิพีเดีย, http://th.wikipedia.org) ลำต้นตั้งตรง แตกหน่อมาก เหง้ามีใบเกล็ดที่แก่และแห้งหุ้มเป็นวง ลักษณะลำต้นคล้ายขมิ้นอ้อย ถิ่นกำเนิดในเกาะบาหลี เกาะชวา กระจายพันธุ์มามาเลเซีย ไทย อินเดีย
คุณประโยชน์ของว่านชักมดลูก • แป้งที่ได้นิยมใช้ทำพุดดิ้งและโจ๊ก • นำเหง้าแห้งหั่นเป็นชิ้นต้มเป็นเครื่องดื่มรสหวาน เหง้าและช่อดอกอ่อนนำมารับประทานเป็นผักได้ เหง้าเป็นยาสมุนไพรใช้รักษาโรคตับ แก้ไข้ อาหารไม่ย่อย ปวดตามข้อ ใช้เป็นยาบำรุงหลังคลอดบุตร
5. บอระเพ็ดพุงช้าง หรือสบู่เลือด ชื่อวิทยาศาสตร์ Stephania venosa (Blume) Spreng (วิกิพีเดีย, http://th.wikipedia.org) เป็นพรรณไม้เถาชอบพาดพันไปตามไม้ คล้ายบอระเพ็ดเถากลม มียางสีแดง บางแห่งเรียกว่ากระท่องเลือด กลิ้งกลางดง บอระเพ็ดยางแดง บัวเครือ บัวบก เปล้าเลือดเครือ หัวสันโดด สบู่เครือ ในตำนานสมัยล้านนาใช้ใบผสมสมุนไพรตำรับที่ 23 ต้มอบไอน้ำ รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน ชาวเขาเผ่าอีก้อและมูเซอใช้เปลือกและใบต้มน้ำดื่มแก้ไข้มาลาเรีย และตำคั้นน้ำสำหรับทาห้ามเลือดและรักษาแผลสด
คุณประโยชน์ของบอระเพ็ดพุงช้าง แก้เสมหะในคอ บำรุงกำลัง บำรุงความกำหนัด แก้ไข้ แก้หืด แก้บิด ขับลม แก้ลมแน่นในทรวงอก แก้โรคเรื้อนน้อย/ใหญ่ แก้มะเร็งคุดทะราด แก้กลาก เกลื้อน หืด สิว ฟ้า แก้โรคมือเท้าไม่มีกำลัง กระจายลมในอก ขับโลหิต ระดู ขับพยาธิในลำไส้ บำรุงไฟธาตุ แก้แผลเรื้อรัง/แผลสด ฆ่าพยาธิอันเกิดจากโรคเรื้อนและกุฏฐัง ทำให้อุจจาระละเอียด แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน ช่วยย่อยอาหาร แก้เสมหะในคอและทรวงอก
6. ชะเอมเทศ (ชื่อวิทยาศาสตร์ Glycyrrhiza glabra ภาษากรีกแปลว่า "รากหวาน") เป็นพรรณไม้ที่มีอายุนานหลายปี ลำต้นมีความยาวประมาณ 1-2 เมตร มีรากใหญ่แตกแขนงมาก ใบเป็นรูปขนนก ก้านใบย่อยสั้น แผ่นใบรูปไข่ มีใบย่อย 9-17 ใบ ก้านใบย่อยสั้น ใบเป็นสีเขียวอมเหลือง ดอกออกเป็นช่อ กลีบดอกเป็นสีม่วงอ่อน ก้านดอกสั้น ฝักแบน ผิวข้างนอกเรียบนุ่ม (วิกิพีเดีย, http://th.wikipedia.org)
ข้อมูลทางคลีนิค • บรรเทาอาการปัสสาวะออกมากผิดปกติ (เบาจืด) รักษาแผลในกระเพาะอาหาร/ลำไส้เล็ก บรรเทาหอบหืดจากหลอดลมอักเสบ บรรเทาวัณโรคปอด บรรเทาเส้นเลือดดำขอด บรรเทาลำไส้บีบตัวผิดปกติ ซ้อนกันเป็นก้อน บรรเทาไข้มาลาเรีย บรรเทาโรคพยาธิใบไม้ในเลือดอย่างเฉียบพลัน บรรเทาโรคตับอักเสบชนิดติดต่อได้ บรรเทาเยื่อตาอักเสบ บรรเทาผิวหนังบริเวณแขนขาแตกเป็นขุย ผิวหนังอักเสบเป็นผื่นคัน บรรเทารปากมดลูกอักเสบ บรรเทาแผลที่เกิดจากการถูกความเย็นจัด บรรเทาเยื่อหุ้มลูกตาชั้นนอกอักเสบ
7. น้ำผึ้ง (Honey) เป็นอาหารหวานที่ผึ้งผลิตโดยใช้น้ำต้อยจากดอกไม้ (วิกิพีเดีย, http://th.wikipedia.org) น้ำผึ้งมีประวัติการบริโภคของมนุษย์มายาวนาน และถูกใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด รสชาติของน้ำผึ้งแตกต่างกันตามน้ำต้อยที่มา และมีน้ำผึ้งหลายชนิดและเกรดที่สามารถหาได้ นอกจากนี้ ยังมีภูมิปัญญาที่ใช้น้ำผึ้งในการรักษาอาการเจ็บป่วย
ตามแบบแผนการรักษาตำรับยาโบราณของไทยที่มีการสืบทอดกันมา มักนำมาใช้แต่งกลิ่นเจือรส เพราะสมุนไพรมักมีรสฝาดและขม โดยน้ำผึ้งใช้ทั้งแต่งรส ขึ้นรูป และเป็นส่วนประกอบในยาแผนโบราณหลายชนิดบำรุงกำลัง บำรุงธาตุ แก้ปวดหลัง ปวดเอว เป็นยาอายุวัฒนะ
คุณประโยชน์ของน้ำผึ้ง • บรรเทาอาการโรคผิวหนังจากเชื้อรา • ใช้น้ำผึ้งเป็นอาหารและยาลดการอักเสบ ต้านข้ออักเสบ แก้อาการท้องผูกเรื้อรัง แก้นอนไม่หลับ บำรุงเลือด บรรเทาอาการไอ บำบัดเบาหวาน ลดความดันโลหิต ปรับสมดุลร่างกายและควบคุมน้ำหนัก แก้ปัญหาผู้ที่มีปัญหาสิวเสี้ยนหรือต้องการบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ น้ำผึ้งไม่ผ่านความร้อนจะมีเอ็นไซน์ซึ่งทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่นและนุ่มนวลขึ้น และน้าผึ้งช่วยให้ผมเงางามตามธรรมชาติ
สนใจซื้อสินค้าหรือเป็นตัวแทนจำหน่าย กรุณาติดต่อ บริษัท ภัทษชัยโกลด์ จำกัด หรือสมาชิกพีจีทุกท่าน
ที่ตั้งบริษัท เลขที่ 731 อาคารพีเอ็มทาวเวอร์ ชั้น 14 ถ.อโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 ใกล้โบสถ์แม่พระฟาติมา
โทรศัพท์ 026428388
มือถือ 0614145949
เว็บไซด์และเพจ
www.patsachai.com
www.facebook.com/patsachai
www.patsachai.blogspot.com
www.patsachai.weebly.com
