Prof Dr Woraphong/ศ. นพ. วรพงษ์ มนัสเกียรติ

Prof Dr Woraphong/ศ. นพ. วรพงษ์ มนัสเกียรติ ศ. นพ. วรพงษ์ มนัสเกียรติ//สนใจด้านเลเซอร์ผิวหนังและศัลยกรรมผิวหนัง

This page is aimed to share the fact and my personal experience in laser and aesthetic Dermatology. Page นี้สร้างไว้เพื่อให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับผิวหนัง เลซอร์ผิวหนัง และศัลยกรรมเพื่อความงาม

📛 สรุปข้อคิดเห็นด้านจริยธรรมการให้การรักษาด้านความงามที่มากจนเกินงามจากวารสาร JAAD International 2024;16:1-2.✅ ปัจจุบันจ...
09/07/2025

📛 สรุปข้อคิดเห็นด้านจริยธรรมการให้การรักษาด้านความงามที่มากจนเกินงามจากวารสาร JAAD International 2024;16:1-2.

✅ ปัจจุบันจำนวนผู้เข้ารับการรักษาเพื่อความงาม — โดยเฉพาะหัตถการไม่ผ่าตัดอย่างเลเซอร์และการฉีดสารเติมเต็มเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในหลายประเทศ

✅ สาเหตุสำคัญได้แก่ความต้องการคงความอ่อนเยาว์ ค่านิยมทางสังคมที่ยอมรับการ “เสริมสวย” มากขึ้น ตลอดจนปัจจัยทางจิตใจ เช่น body dysmorphic disorder และภาวะเสพติดการทำหัตถการ

✅ เมื่อทำหัตถการซ้ำบ่อย ผู้ป่วยจะเสี่ยงต่อ “perception drift” — การรับรู้ภาพลักษณ์ตนเองค่อย ๆ บิดเบือนจนมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ผิดธรรมชาติของใบหน้า

✅ ในขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ก็ยังกระพือมาตรฐานความงามที่เกินจริง ทำให้หลายคนพยายามไล่ตามลุคที่ไม่สอดคล้องกับโครงสร้างใบหน้าจริงของตน

✅ หลักจริยธรรมทางการแพทย์ข้อหนึ่งที่แพทย์ยึดถือคือการที่ไม่ทำการรักษาที่ก่ออันตรายแก่ผู้ป่วย ฉะนั้นแพทย์ควรปฏิเสธหัตถการที่ไม่จำเป็นหรือเสี่ยงต่อสุขภาพกายและใจของผู้ป่วย หรืออาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาเกินความจำเป็นอย่างรุนแรง ตั้งแต่รูปหน้าผิดสัดส่วน แผลเป็น ไปจนถึงแผลไหม้ถาวร

✅ ในปัจจุบันแนวโน้ม “งานแก้” เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้ป่วยไปรับบริการจากผู้ให้บริการที่ขาดทักษะ หรือยอมทำตามความต้องการที่เกินจริงของคนไข้

✅ ก่อนตัดสินใจทำหัตถการ ผู้ป่วยควรถามตนเอง (และให้แพทย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา) ว่า 1) ได้ประโยชน์จริงหรือไม่ 2) ยอมรับความเสี่ยงได้หรือไม่ และ 3) ผลลัพธ์จะทำให้ใบหน้าดูผิดธรรมชาติหรือไม่

✅ แม้ผู้ป่วยจะพร้อมจ่ายเงิน แพทย์ควรกล้าปฏิเสธการรักษาที่ไม่สมเหตุผล ถือว่ากำลังปกป้องสวัสดิภาพของผู้ป่วยและยึดมาตรฐานวิชาชีพสูงสุด

✅ การปฏิเสธหัตถการที่ไม่เหมาะสมยังช่วยสร้าง “สัญญาณเตือน” ให้สังคมตระหนักถึงโทษของการทำหัตถการเกินจำเป็น และยืนยันว่าหน้าที่หลักของแพทย์คือการรักษา มิใช่การรองรับความต้องการที่อาจก่ออันตราย

🛑 ความเห็นต่อประเด็นที่มีการแชร์ใน Social media ว่าการกระตุ้นคอลลาเจนด้วยเลเซอร์, RF, HIFU ก่อให้เกิดพังผืดและแผลเป็นใต้...
25/06/2025

🛑 ความเห็นต่อประเด็นที่มีการแชร์ใน Social media ว่าการกระตุ้นคอลลาเจนด้วยเลเซอร์, RF, HIFU ก่อให้เกิดพังผืดและแผลเป็นใต้ผิวหนัง จนผิวหนังตึงแข็งและขยับลำบาก???

🛑 จากการสืบค้นข้อมูลในฐานข้อมูลทางการแพทย์ (PubMed) และการประมวลผลโดย ChatGPT 4o ร่วมกับประสบการณ์ตรงในการใช้เลเซอร์และอุปกรณ์ส่งพลังงาน (Energy-Based Devices) ได้แก่ คลื่นวิทยุ (Radiofrequency) และคลื่นเสียงความเข้มข้นสูง (Ultrasound) มาเป็นเวลากว่า 29 ปี พบว่า:

✅ ข้อกล่าวอ้างที่ว่าการกระตุ้นคอลลาเจนด้วยเครื่องมือเหล่านี้ส่งผลให้เกิดพังผืดหรือแผลเป็นใต้ผิวหนัง ยังไม่มีหลักฐานวิชาการรองรับ และไม่ปรากฏในวรรณกรรมทางการแพทย์ที่ผ่านการตรวจสอบทางวิชาการ (Peer-reviewed journal) ที่จริงแล้วเครื่องมือเหล่านี้ส่วนหนึ่งใช้กันทั่วโลกมานานเกือบ 30 ปี หากทำให้เกิดผลข้างเคียงที่กล่าวอ้างในผู้ป่วยจำนวนมากจริงต้องมีรายงานถึงอุบัติการณ์นี้เผยแพร่ออกมาเป็นจำนวนมาก

✅ ความคิดเห็นดังกล่าวมาจากศัลยแพทย์ตกแต่งชาวอเมริกันรายหนึ่งซึ่งบรรยายโดยใช้ความเห็นส่วนตัว โดยไม่ได้มีรายงานหรืองานวิจัยยืนยันรองรับในฐานข้อมูลทางการแพทย์ (PubMed) คำเห็นลักษณะเช่นนี้เรียกว่า “Expert opinion” ซึ่งจัดอยู่ในระดับความน่าเชื่อถือน้อยที่สุด

✅ ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ทศวรรษในการรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก รวมถึงหลายรายที่รับการรักษาซ้ำหลายครั้ง และจากประสบการณ์ทำงานและตีพิมพ์งานวิจัยประเภทการวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (Randomized Controlled Trial - RCT) กว่า 50 เรื่องโดยใช้เครื่องมือหลายชนิดเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ผมไม่เคยพบผู้ป่วยรายใดที่เกิดพังผืดใต้ผิวหนังจากเลเซอร์, RF และ focused ultrasound

✅ หากการรักษาดังกล่าวก่อให้เกิดผลข้างเคียงในวงกว้างจริง เช่นในสหรัฐอเมริกา องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (US FDA) คงมีประกาศเตือนหรือระงับการใช้ไปแล้ว ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้น

✅ ChatGPT ยังยืนยันว่า ภาวะพังผืดจากเครื่องมือกลุ่มนี้เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ “น้อยมาก (rare)”

✅ กลไกการทำงานของเลเซอร์และเครื่องมือพลังงานอยู่ภายใต้การควบคุมที่แม่นยำตามหลักฟิสิกส์ สามารถกำหนดระดับความลึกและพลังงานได้อย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คาดเดาได้

✅ ในทางตรงข้ามเลเซอร์และ RF ระบบ Fractional ยังใช้ในการรักษาแผลเป็นนูน (hypertrophic scar) และแผลเป็นจากไฟไหม้ (burn scar) โดยอาศัยกลไกการใช้พลังงานความร้อนในการทำลายคอลลาเจนที่ผิดปกติและกระตุ้นให้เกิดคอลลาเจนที่ปกติขึ้นใหม่

✅ ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมักสัมพันธ์กับการใช้พลังงานเกินมาตรฐาน หรือการใช้เครื่องมือผิดวิธีหรือไม่ได้มาตรฐาน

✅ ข้อความนี้ ไม่ครอบคลุมถึงสารกระตุ้นคอลลาเจนประเภทฉีด (Biostimulator) เช่น PLLA หรือ CaHA เนื่องจากสารเหล่านี้กระจายตัวได้กว้าง ขึ้นกับแรงดันยาและความลึกของการฉีด และการตอบสนองของผิวหนังแต่ละบุคคลแตกต่างกัน จึงควบคุมผลลัพธ์ได้ยากกว่า

16/05/2025

หลายท่านอาจมองว่าเลเซอร์ก็แค่ทำให้คนสวยหล่อขึ้น… ที่จริงแล้วเลเซอร์สามารถช่วยเปลี่ยนชีวิตของอีกหลายคน…

23/04/2025

POV: ทั้งๆที่รู้ว่าการฉีด Filler, Biostimulator, PRP, Fat มีโอกาสเสี่ยงตาบอดได้ แต่ทำไมคนไข้ถึงเลือกที่ยอมเสี่ยง?

ประเด็นสาวตาบอดจากการฉีด Biostimulator (สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน) 👁️ 👁️
23/04/2025

ประเด็นสาวตาบอดจากการฉีด Biostimulator (สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน) 👁️ 👁️

สรุปผลของหนึ่งในงานวิจัยจากศูนย์เลเซอร์ผิวหนังศิริราชซึ่งเป็น Top 10% ที่มีผู้อ่านสูงสุดของวารสาร Lasers in Surgery and ...
21/04/2025

สรุปผลของหนึ่งในงานวิจัยจากศูนย์เลเซอร์ผิวหนังศิริราชซึ่งเป็น Top 10% ที่มีผู้อ่านสูงสุดของวารสาร Lasers in Surgery and Medicine ในปี 2023



#รูขุมขนกว้าง

สรุปจากผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์จาก Lasers in Surgery and Medicine เรื่อง Nonablative monopolar radiofrequency for the reduction of facial pores and sebum excretion in Thai patients: A novel approach 😊👍

พบว่า การรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุชนิดขั้วเดี่ยวแบบไม่ทำลายผิว(Monopolar RF) มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยในการลดขนาดรูขุมขนและลดการหลั่งไขมันบนใบหน้ายาวนานถึง 6 เดือนหลังการรักษาสองครั้ง 👨‍⚕️✅✨

Ref: Nonablative monopolar radiofrequency for the reduction of facial pores and sebum excretion in Thai patients: A novel approach. Lasers Surg Med. 2023;55(6):528-535.

Read full text via an open access at https://onlinelibrary.wiley.com/share/SPZMUF2AXYWD73MPQABV?target=10.1002/lsm.23681

ที่อยู่

2 Siriraj Piyamaharajkarun Phannok Road
Bangkok
10700

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+6624199922

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Prof Dr Woraphong/ศ. นพ. วรพงษ์ มนัสเกียรติผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์