25/06/2025
🛑 ความเห็นต่อประเด็นที่มีการแชร์ใน Social media ว่าการกระตุ้นคอลลาเจนด้วยเลเซอร์, RF, HIFU ก่อให้เกิดพังผืดและแผลเป็นใต้ผิวหนัง จนผิวหนังตึงแข็งและขยับลำบาก???
🛑 จากการสืบค้นข้อมูลในฐานข้อมูลทางการแพทย์ (PubMed) และการประมวลผลโดย ChatGPT 4o ร่วมกับประสบการณ์ตรงในการใช้เลเซอร์และอุปกรณ์ส่งพลังงาน (Energy-Based Devices) ได้แก่ คลื่นวิทยุ (Radiofrequency) และคลื่นเสียงความเข้มข้นสูง (Ultrasound) มาเป็นเวลากว่า 29 ปี พบว่า:
✅ ข้อกล่าวอ้างที่ว่าการกระตุ้นคอลลาเจนด้วยเครื่องมือเหล่านี้ส่งผลให้เกิดพังผืดหรือแผลเป็นใต้ผิวหนัง ยังไม่มีหลักฐานวิชาการรองรับ และไม่ปรากฏในวรรณกรรมทางการแพทย์ที่ผ่านการตรวจสอบทางวิชาการ (Peer-reviewed journal) ที่จริงแล้วเครื่องมือเหล่านี้ส่วนหนึ่งใช้กันทั่วโลกมานานเกือบ 30 ปี หากทำให้เกิดผลข้างเคียงที่กล่าวอ้างในผู้ป่วยจำนวนมากจริงต้องมีรายงานถึงอุบัติการณ์นี้เผยแพร่ออกมาเป็นจำนวนมาก
✅ ความคิดเห็นดังกล่าวมาจากศัลยแพทย์ตกแต่งชาวอเมริกันรายหนึ่งซึ่งบรรยายโดยใช้ความเห็นส่วนตัว โดยไม่ได้มีรายงานหรืองานวิจัยยืนยันรองรับในฐานข้อมูลทางการแพทย์ (PubMed) คำเห็นลักษณะเช่นนี้เรียกว่า “Expert opinion” ซึ่งจัดอยู่ในระดับความน่าเชื่อถือน้อยที่สุด
✅ ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ทศวรรษในการรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก รวมถึงหลายรายที่รับการรักษาซ้ำหลายครั้ง และจากประสบการณ์ทำงานและตีพิมพ์งานวิจัยประเภทการวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (Randomized Controlled Trial - RCT) กว่า 50 เรื่องโดยใช้เครื่องมือหลายชนิดเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ผมไม่เคยพบผู้ป่วยรายใดที่เกิดพังผืดใต้ผิวหนังจากเลเซอร์, RF และ focused ultrasound
✅ หากการรักษาดังกล่าวก่อให้เกิดผลข้างเคียงในวงกว้างจริง เช่นในสหรัฐอเมริกา องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (US FDA) คงมีประกาศเตือนหรือระงับการใช้ไปแล้ว ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้น
✅ ChatGPT ยังยืนยันว่า ภาวะพังผืดจากเครื่องมือกลุ่มนี้เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ “น้อยมาก (rare)”
✅ กลไกการทำงานของเลเซอร์และเครื่องมือพลังงานอยู่ภายใต้การควบคุมที่แม่นยำตามหลักฟิสิกส์ สามารถกำหนดระดับความลึกและพลังงานได้อย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คาดเดาได้
✅ ในทางตรงข้ามเลเซอร์และ RF ระบบ Fractional ยังใช้ในการรักษาแผลเป็นนูน (hypertrophic scar) และแผลเป็นจากไฟไหม้ (burn scar) โดยอาศัยกลไกการใช้พลังงานความร้อนในการทำลายคอลลาเจนที่ผิดปกติและกระตุ้นให้เกิดคอลลาเจนที่ปกติขึ้นใหม่
✅ ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมักสัมพันธ์กับการใช้พลังงานเกินมาตรฐาน หรือการใช้เครื่องมือผิดวิธีหรือไม่ได้มาตรฐาน
✅ ข้อความนี้ ไม่ครอบคลุมถึงสารกระตุ้นคอลลาเจนประเภทฉีด (Biostimulator) เช่น PLLA หรือ CaHA เนื่องจากสารเหล่านี้กระจายตัวได้กว้าง ขึ้นกับแรงดันยาและความลึกของการฉีด และการตอบสนองของผิวหนังแต่ละบุคคลแตกต่างกัน จึงควบคุมผลลัพธ์ได้ยากกว่า