08/06/2019
😁อาหารเสริม
กฎหมายสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่293) พ.ศ.2548 เรื่อง
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งได้ให้นิยาม ดังนี้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทานนอกเหนือจากการรับประทานอาหารตามปกติซึ่งมีสารอาหารหรือสารอื่นเป็นองค์ประกอบอยู่ในรูปเม็ด
แคปซูล ผง เกล็ด ของเหลว หรือลักษณะอื่น ซึ่งมาใช้รูปแบบอาหารตามปกติ (conventional foods)
🔊ส่วนคำว่าสารอาหาร หรือสารอื่นในที่นี้ หมายถึง
1. วิตามิน กรดอะมิโน กรดไขมัน แร่ธาตุ และผลิตผลจากพืชหรือสัตว์
2. สารเข้มข้น สารเมตาโบไลท์ ส่วนประกอบหรือสารสกัดของสารในข้อ 1
3. สารสังเคราะห์เลียนแบบตามข้อ 1 หรือข้อ 2
4. ส่วนผสมอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างของสารใน (1), (2) หรือ(3)
5. สารหรือสิ่งอื่นที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาพิจารณากำหนด
🔊การเรียกชื่อ หรือขอบเขตของนิยามของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน
🔔ตามแต่นโยบายการควบคุมกำกับดูแลของประเทศนั้น ๆ เช่น
📣ประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้คำว่า “Dietary Supplements”
📣ประเทศแคนาดา ใช้คำว่า “Natural Health Products”
📣ประเทศออสเตรเลีย ใช้คำว่า “Complementary Medicines”
📣ประเทศในสหภาพยุโรปและองค์การอนามัยโลก ใช้คำว่า “Food Supplements”
ซึ่งหมายถึง วิตามิน แร่ธาตุ และเกลือแร่เท่านั้น
📣ประเทศจีนใช้คำว่า“Health Food Products” เป็นต้น
🔔มองจากทัศนะแพทย์แผนจีน
ระบบการย่อย การดูดซึมอาหารไม่มีระเบียบ ไร้กฎเกณฑ์ เกิดจากการกินอาหารจุบจิบ ตามอารมณ์แนวคิดเกี่ยวกับอาหารและอาหารสุขภาพของแพทย์ตามแนวคิดตะวันตก ซึ่งพัฒนาจากการศึกษาวิจัย ประมาณ ๖๐-๗๐ ปีที่ผ่านมา โดยศึกษาประเด็นต่างๆ ดังนี้
🔊๑. สารอาหารเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างต่างๆ ของร่างกาย ทำให้สามารถเข้าใจโครงสร้างชีวโมเลกุลของเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่างๆ ได้ จึงจัดสารอาหารเป็นหมวดหมู่ เช่น คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน เกลือแร่ วิตามิน เป็นต้น
🔊๒. ความจำเป็นของสารอาหารที่เข้าไปมีส่วนสำคัญในกระบวนการทำงานของระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่น เอนไซม์ ฮอร์โมน สารคัดหลั่งต่างๆ ล้วนมีโครงสร้างหรือส่วนประกอบของสารอาหารทั้งสิ้น
🔊๓. กลไกการเมแทบบอลิซึมระดับเซลล์หรือในกระบวนการเผาผลาญให้ได้พลังงานและการกำจัดทิ้งของเสีย ก็อาศัยสารอาหารต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงเข้าเกี่ยวข้อง
🔊♥️๔. มีความก้าวหน้าในการศึกษาสารอื่นๆ ที่ไม่ใช่สารอาหารแต่อยู่ในอาหาร และมีฤทธิ์เป็นยา มีบทบาทในการปรับสมดุลของร่างกาย หรือป้องกันการเกิดโรค (แนวคิดนี้เริ่มสอดคล้องกับแพทย์แผนจีนที่ว่าอาหารและยามาจากแหล่งเดียวกัน อาหารก็คือยา)
🔊๕. ปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตการผสมผสาน สารอาหารแบบแผนปัจจุบันกับสารที่ไม่ใช่อาหารแต่มีฤทธิ์ทางยา รวมถึงสารสกัดสมุนไพร เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในการป้องกันโรคหรือพยายามใช้อาหารธรรมชาติเป็นยาในการรักษาโรคเพื่อทดแทนหรือ ลดปริมาณการใช้ยาเคมี (ซึ่งมีฤทธิ์ตกค้างและผลแทรกซ้อนมากมาย)
🏥แนวคิดอาหารสุขภาพในทัศนะแพทย์แผนปัจจุบัน
🔊อาหารเสริม หรืออาหารสุขภาพคือ อาหารที่ประกอบด้วยสารก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย นอกเหนือจากอาหารหลักทั้ง ๖ ประเภทที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยป้องกันและลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ความเชื่อเรื่องอาหารเสริมสุขภาพ พัฒนามาจากความรู้ทางโภชนาการ ร่วมกับเทคโนโลยีอาหาร ความรู้สุขภาพและการแพทย์สมัยใหม่ หรือการผสมผสานการศึกษาวิจัยการแพทย์แบบภูมิปัญญา ผสมผสานกันทำให้เกิดการดัดแปลง ปรุงแต่ง ทำให้ได้สารอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการสูง กลายเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ง่าย สะดวกต่อการกิน และกลายเป็นทางเลือกหนึ่งของการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรค
🔔อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเรื่องอาหารเสริม ยังไม่เป็นที่ยอมรับของแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งเป็นกระแสหลักของสังคมไทยที่ยึดกับความเชื่อเรื่องอาหารหลัก ๖ หมู่เป็นสำคัญ
♥️🎯อาหารที่มีหน้าที่เป็นยา (โภชนเภสัชภัณฑ์)ศัพท์ฝรั่งเรียกอาหารที่ทำหน้าที่เป็นยาว่า nutraceutical มาจากคำว่า nutritional หมายถึงโภชนาการ กับคำว่า pharmaceutical หมายถึงยา บางท่านใช้ราก-ศัพท์มาตั้งชื่อเป็นโภชนเภสัชภัณฑ์ ซึ่งยังไม่ใช่ชื่อที่บัญญัติเป็นทางการอาหารที่มีหน้าที่เป็นยาเป็นสารสกัดจากพืชสมุน-ไพรหรือผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ รวมถึงสารอาหารหลัก ตัวอย่างเช่น
♥️๑. สารสกัดจากพืชและสมุนไพรที่ไม่ใช่สารอาหารหลักกลุ่มไฟโทเคมิคอล (phytochemicals)
- ไฟโทเอสโทรเจน ฟลาโวนอยด์
- โพรไบโอติด พรีไบโอติก
- กลุ่มไกลโคไซด์
- แคโรทีนอยด์ เป็นสารธรรมชาติที่พบในพืชผักผลไม้ สีส้ม เหลือง แดง
♥️๒. กลุ่มอาหารที่มีหน้าที่เป็นยาที่สกัดจากสาร อาหารหลัก เช่น วิตามินซี วิตามินอี บีตาแคโรทีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก ซิลิคอน โบรอน ไฟเบอร์ ซีลีเนียม เป็นต้น
🔊จากข้อมูลต่างๆ และแนวโน้มของการเกิดโรคสมัยใหม่ พบว่าสาเหตุสำคัญอันหนึ่งคือ ความเสียสมดุล ในการกินอาหารโดยเฉพาะสังคมเมือง (ปัจจุบันลุกลาม ไปชนบท ที่โลกาภิวัตน์ย่างกรายไปถึง) แนวโน้มการกินอาหารที่หนักไปทางไขมัน น้ำตาล แป้ง และเกลือ (ซึ่งดูได้จากอาหารแบบตะวันตก รวมถึงของขบเคี้ยวที่เป็นแป้ง เค็ม มีสารปรุงแต่งรสจำนวนมาก) ทำให้ได้รับสารเคมีหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เกิดความเสียสมดุลทางโภชนาการ ขาดวิตามิน เกลือแร่ ไฟเบอร์ ก่อให้เกิดการสะสมไขมัน เกิดการสะสมสารพิษ เกิดอนุมูลอิสระ เกิดความเสื่อมของหลอดเลือดและระบบต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสื่อมชรา โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง นี้ยังไม่รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น น้ำ เครื่อง-ดื่ม อากาศ ความเครียด การพักผ่อน การออกกำลังกาย ซึ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ก่อให้เกิดการเสียสมดุลของร่างกายทั้งสิ้น ด้วยการศึกษาวิจัย และเทคโนโลยีทางอาหารในการแยกส่วนหรือสกัดสารที่ไม่ใช่อาหารหลัก (หรือที่เรียกว่าไฟโทเคมิคอล) แต่เป็นสารชีวเคมีของสิ่งมีชีวิตที่มีบทบาทในการปรับสมดุล และมีฤทธิ์ทางยาด้วย
🔊♥️ความพยายามผลิตอาหารเสริมสุขภาพ หรืออาหารที่มีหน้าที่เป็นยา โดยถือหลักเติมเต็มสิ่งที่ขาดไปในวิถีชีวิตของโลกาภิวัตน์ แล้วยังเติมสารสกัดธรรมชาติ ที่เชื่อว่าจะช่วยขจัดและป้องกันความเสื่อมของเซลล์ร่างกาย โดยเฉพาะกลุ่มขจัดอนุมูลอิสระ กลุ่มต้านมะเร็ง กลุ่มป้องกันการเสื่อมของหลอดเลือด กลุ่มควบคุมการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน มาจากอาหาร หรือพืชสมุนไพรที่เป็นภูมิปัญญาสั่งสมกันมานาน