
01/10/2025
คำว่า “พ่อปู่” ที่ผมเรียกแทนพลังงานที่เข้ามาพูดคุยหรือแนะนำผู้คนในการทำงานด้านจิตวิญญาณของผมนั้น
ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นไปตามเหตุปัจจัยและเงื่อนไขของเวลาของแต่ละคน ด้วยข้อความหรือสิ่งที่ท่านทำพิธีกรรมให้นั้นไม่สามารถไปกำหนดกฏเกณฑ์ใดได้
พ่อปู่นี้จะเป็นพระคเณศหรือไม่ตามที่ผมนำเสนอผ่านคำพูดที่กล่าวออกไป หรือ เป็นเทพ เป็นคุรุองค์ใด ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ใครจะเชื่อหรือไม่ สำหรับผมแล้วไม่ใช่สาระสำคัญ
ถ้าท่านยังสั่งสอนหรือมอบปริศนาธรรมให้ไปขบคิดอยู่ก็ถือว่าท่านยังเมตตา ส่วนจะตีความอย่างไรก็เป็นระดับปัญญาของบุคคลนั้น
แต่สิ่งที่ต้องทำการบ้านต่อคือ พิจารณาคำสอนหรือเหตุการณ์ทั้งหลายที่ได้ประสบพบเจอว่าเราได้เรียนรู้อะไรหรือมีอะไรต้องปรับเปลี่ยนชีวิตตนเองบ้างตามสิ่งที่ได้รับคำแนะนำมา
ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าหลายคนโชคดีมากที่ได้รับโอกาสบางอย่าง ใครนำสิ่งที่ได้รับจากการทำงานร่วมกันไปต่อยอดชีวิตก็คือ การแสดงความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณ
ส่วนใครวางเฉยหรือเลือกที่จะทำเหมือนเดิมก็เป็นสิทธิเฉพาะบุคคล แต่เชื่อผมเถิดว่าวันหนึ่งโอกาสนี้ก็คงหมดไป ซึ่งถ้าวันนั้นมาถึงผมก็คงช่วยอะไรไม่ได้
การได้เดินป่าเพื่อทำพิธีครั้งนี้สอนให้รู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของการดำเนินชีวิตคือสติ การรู้เนื้อรู้ตัว รู้สิ่งที่พูด รู้สิ่งที่กำลังดำเนินอยู่ รู้จุดหมาย และ เพียรไปถึงจุดหมายอย่างไม่ลดละ ด้วยชีวิตก็เหมือนเส้นทางในป่าวันนั้น
ถ้าขาดสติเมื่อใด ก็อาจจะตกลงไปนอนเจ็บอยู่ในหลุมดักสัตว์ หรือ เหวข้างเส้นทางนั้นก็เป็นได้
สุดท้ายนี้ขออวยพรให้ทุกคนผ่านหลุมกับดักของตนเอง แล้วมุ่งสู่ความสุขที่แท้จริง ความสุขที่ไม่ทำร้ายใคร ความสุขที่ไม่เอาเปรียบใคร ความสุขที่ต่อยอดความสุขให้แก่ผู้คนรอบข้าง และแน่นอนที่สุดความสุขอันเป็นนิรันดร์
ไม่เคยเสียใจที่จะมีคนเกลียด
แต่เสียดายเวลาและโอกาสของคนที่ไม่รู้จักตื่น
กิตติเชษฐ์ สิริศรีพรชัย
~สวัสดีสันติสุข~