20/07/2019
สมองเสื่อม (Dementia) หรือภาวะสมองเสื่อม คือกลุ่มอาการที่เกิดจากระบบการทำงานของสมองที่ค่อย ๆ เสื่อมลงหรือมีความบกพร่อง ซึ่งผู้ป่วยไม่ได้มีเพียงแค่ความบกพร่องในด้านความทรงจำเท่านั้น แต่จะรวมถึงด้านอื่น ๆ ด้วย ได้แก่ การใช้ความคิด การตัดสินใจ ความเข้าใจสิ่งต่าง ๆ การเรียนรู้ การใช้ภาษา หรือการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ เป็นต้น
สมองเสื่อม
สมองเสื่อมมักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุวัย 65 ปี ขึ้นไป จัดว่าเป็นภาวะที่พบได้บ่อย ซึ่งความเสี่ยงของการเกิดสมองเสื่อมจะเพิ่มมากขึ้นตามอายุ
อาการสมองเสื่อม
อาการสมองเสื่อมจะแตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับสาเหตุและบริเวณที่ได้รับผลกระทบ อาการที่พบได้บ่อยแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวกับกระบวนการคิดหรือกระบวนการรับรู้
เสียความทรงจำ มักจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นในช่วงแรกและเป็นอาการที่สังเกตได้ชัดที่สุด ซึ่งจะมีปัญหาในการจดจำเหตุการณ์ ผู้คน หรือสถานที่
มีปัญหาในการให้เหตุผล หรือการแก้ไขปัญหา
มีปัญหาในการสื่อสาร การใช้คำและภาษา เช่น ไม่สามารถเลือกใช้คำที่เหมาะสมในการพูดคุยสื่อสารได้
มีปัญหาในการวางแผนและจัดการการงานต่าง ๆ เช่น ไม่สามารถจัดลำดับขั้นตอนในการทำงาน
มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวประสานงานกันของกล้ามเนื้อ ทำให้ไม่สามารถทำงานที่ละเอียดหรือประณีตได้
มีความสับสน มึนงง เลอะเลือน
การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับทางด้านจิตใจ
มีการเปลี่ยนแปลงของบุคลิกภาพ หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
มีอาการซึมเศร้า
เกิดความวิตกกังวล
มีความหวาดระแวง
ภาวะกายและใจไม่สงบ กระสับกระส่าย
มีอาการประสาทหลอน
สมองเสื่อมบางประเภททำให้เกิดอาการจำเพาะ เช่น ผู้ป่วยสมองเสื่อมที่มาพร้อมอาการทางประสาท (Dementia with Lewy Bodies) มักจะเกิดอาการเห็นภาพหลอนชัดเจน หรือสมองเสื่อมชนิด Frontotemporal Dementia: FTD อาการแรกเริ่มของผู้ป่วยจะมีการเปลี่ยนแปลงของบุคลิกหรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยผู้ป่วยที่ประสบกับภาวะนี้อาจไม่สามารถแสดงความรู้สึกให้ผู้อื่นรับรู้ได้ หรืออาจชอบพูดจาหยาบคาย เปิดเผยตัวเอง หรือให้ความเห็นเรื่องทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง
หากพบว่าคนใกล้ตัวมีปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำหรืออาการดังกล่าวข้างต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและวินิจฉัยโรคต่อไป
สาเหตุของสมองเสื่อม
สมองเสื่อมมีสาเหตุมาจากความเสียหายหรือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสมอง โดยโรคอัลไซเมอร์เป็นสาเหตุที่พบมากที่สุด และสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือด (Vascular Dementia) เป็นสาเหตุรองลงมา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสมองเสื่อมจะไม่สามารถรักษาให้กลับคืนเป็นปกติได้ และอาการมักเป็นมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
สาเหตุของสมองเสื่อมชนิดที่ไม่สามารถกลับคืนเป็นปกติ ที่พบบ่อยมีดังนี้
โรคอัลไซเมอร์ เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด มักจะเกิดกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป
ผู้ป่วยสมองเสื่อมที่มาพร้อมอาการทางประสาท (Dementia with Lewy Bodies) สามารถทำให้เสียความทรงจำในระยะสั้น และยังทำให้มีปัญหาในการนอนหลับ อาการประสาทหลอน หรือร่างกายขาดสมดุล
สมองเสื่อมชนิด Frontotemporal Dementia: FTD อาการที่พบ ผู้ป่วยจะมีบุคลิกที่เปลี่ยนแปลงไป หรือทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น พูดจาหยาบคาย หรือแสดงกริยาที่ไม่เหมาะสมต่อผู้อื่น
โรคพาร์กินสัน เป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทที่ทำให้เกิดสมองเสื่อมได้เช่นกัน ผู้ป่วยจะมีปัญหาในการเคลื่อนไหว และการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ
ภาวะสมองเสื่อมที่มาจากโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือด (Vascular Dementia) มักจะเกิดในผู้ป่วยเป็นโรคสมองขาดเลือด เป็นความดันโลหิตสูงระยะยาว โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis)
การได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง อาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับความจำและสมาธิ
สาเหตุของสมองเสื่อมชนิดที่อาจรักษาให้กลับคืนเป็นปกติได้ ที่พบบ่อยมีดังนี้
ได้รับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว
การขาดวิตามิน บี 12
ภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism)
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา
เนื้องอกในสมองบางชนิด
ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ (Hydrocephalus)
สมองอักเสบ
ราเรื้อรัง
เอดส์ เอชไอวี (HIV)
โรคอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับสมองเสื่อม
โรคฮันติงตัน (Huntington's Disease) เป็นโรคทางพันธุกรรมชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดความเสื่อมกับระบบประสาทและส่งผลนำไปสู่ภาวะสมองเสื่อม มักจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยมีอายุประมาณ 30-40 ปี
สมองบาดเจ็บ (Traumatic Brain Injury) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นจากการที่สมองได้รับบาดเจ็บซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง เช่น เกิดกับนักมวยหรือนักฟุตบอล ซึ่งเป็นภาวะที่สามารถนำไปสู่ สมองเสื่อมได้ เช่น เสียความทรงจำ หรือเกิดภาวะซึมเศร้า
โรควัวบ้า (Creutzfeldt-Jakob Disease) มักเป็นโรคที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เกิดขึ้นได้จากกรรมพันธุ์หรือการสัมผัสกับโรคสมองหรือเนื้อเยื่อระบบประสาทที่เป็นโรค เช่น เนื้อสมองจากวัวที่เป็นโรค
ปัจจัยที่ทำให้เกิดสมองเสื่อม
อายุ ความเสี่ยงในการเป็นสมองเสื่อมจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 65 ปี ขึ้นไป
มีประวัติคนในครอบครัวเป็นสมองเสื่อม หากมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นสมองเสื่อม ก็จะทำให้มีความเสี่ยงที่สูงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นสมองเสื่อมมีโอกาสเป็นได้เช่นกัน
ความบกพร่องของสมรรถนะทางสมอง เกี่ยวข้องหรือมีปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำ แต่จะไม่รวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ในชีวิตประจำวัน โดยความบกพร่องดังกล่าวมีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดสมองเสื่อมได้
ดาวน์ซินโดรม การพัฒนาเป็นโรคอัลไซเมอร์จะพบบ่อยในผู้ที่เป็นดาวน์ซินโดรมในวัยกลางคน
พันธุกรรม ความผิดปกติบางอย่างที่ทำให้สมองเสื่อมเกิดขึ้นได้จากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยแพทย์มักจะพบผู้ป่วยสมองเสื่อมประเภทนี้ที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี
ปัจจัยอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคซึมเศร้า การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์จัด
การวินิจฉัยสมองเสื่อม
การวินิจฉัยสมองเสื่อม จะอาศัยการตรวจร่างกายและตรวจสอบประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย หากสงสัยว่ามีภาวะสมองเสื่อม แพทย์จะตรวจเพิ่มเติม ได้แก่ ตรวจสอบระบบประสาท ตรวจสอบสุขภาพทางจิต หรือการตรวจอื่น ๆ เช่น การตรวจเลือดและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตัวอย่างการตรวจของแพทย์ที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคสมองเสื่อม ได้แก่
การตรวจสุขภาวะทางจิตแบบย่อ (MMSE) เป็นการทำแบบสอบถามเพื่อวัดความบกพร่องของสมรรถนะทางสมอง (Cognitive Impairment) ซึ่งอาจเป็นการประเมินเกี่ยวกับปัญหาเรื่องความจำเบื้องต้น การใช้ภาษา ความเข้าใจ หรือทักษะเกี่ยวกับเครื่องยนต์ หากได้ค่าที่ต่ำกว่า 23 จาก 30 คะแนน ถือว่ามีความผิดปกติทางสุขภาพจิต
การตรวจ Mini-Cog เป็นการตรวจเพื่อช่วยให้แพทย์วินิจฉัยสมองเสื่อมได้ โดยมี 3 ขั้นตอน คือ
ขั้นแรกแพทย์จะให้คำ 3 คำ ผู้ป่วยต้องจำและตอบกลับแพทย์ในภายหลัง
ต่อมาแพทย์จะให้ผู้ป่วยวาดหน้าปัดนาฬิกาเพื่อบอกเวลาที่ถูกต้อง
ขั้นสุดท้ายแพทย์จะให้ผู้ป่วยบอกคำที่แพทย์ให้ไว้ในตอนแรก
การตรวจ Clinical Dementia Rating: CDR หากแพทย์วินิจัยว่ามีภาวะสมองเสื่อม แพทย์จะประเมิน CDR ซึ่งหมายถึงการประเมินความสามารถทางด้านความจำ การรู้จักบุคคล เวลา สถานที่ การตัดสินใจและการแก้ปัญหา การใช้ชีวิตและงานอดิเรก การเข้าสังคมและการดูแลตัวเอง โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน ดังนี้
หากได้ค่าเป็น 0 แสดงว่าปกติ
หากได้ค่าเป็น 0.5 แสดงว่ามีภาวะสมองเสื่อมน้อยมาก
หากได้ค่าเป็น 1 แสดงว่ามีภาวะสมองเสื่อมเล็กน้อย
หากได้ค่าเป็น 2 แสดงว่ามีภาวะสมองเสื่อมปานกลาง
หากได้ค่าเป็น 3 แสดงว่ามีภาวะสมองเสื่อมรุนแรง
การสแกนสมอง
เพทสแกน (PET Scan) การถ่ายภาพทางรังสี ที่สามารถแสดงภาพรูปแบบการทำงานของสมอง เพื่อหาความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือ MRI Scan เพื่อตรวจสอบโรคหลอดเลือดในสมอง เลือดออกในสมอง เนื้องอก หรือภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การตรวจเลือดจะช่วยตรวจสอบปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมอง เช่น การขาดวิตามิน บี 12 หรือภาวะขาดไทรอยด์ ในบางกรณีการตรวจดูน้ำไขสันหลังช่วยในการตรวจหาการติดเชื้อ การอักเสบ หรือระบุความบกพร่องที่เกิดขึ้นกับร่างกายได้
การรักษาสมองเสื่อม สมองเสื่อมที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่จะช่วยไม่ให้อาการแย่ลง และทำให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
T.081-555-3897