Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา

Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา นักจิตวิทยาการปรึกษา - ให้บริการด้านสุขภาพจิต
บทความเกี่ยวกับความรู้และแนวคิดทางด้านจิตวิทยา

22/01/2025

ขออภัยผู้รับบริการใหม่ทุกท่าน
ที่โทรเข้ามาเพื่อนัดคิวนะครับ

เนื่องจากผมทำนัดด้วยตัวเอง
แล้วจะมีคิวเต็มเกือบทุกวัน
ทำให้ไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้

ส่วนทางเพจ ก็ยังมีปัญหาอยู่ครับ
คือข้อความจะไม่ขึ้นในกล่องข้อความผมทันที
ตอนนี้แนะนำให้แอดไลน์แล้วทักผมมานะครับ

จะรีบตอบโดยเร็วที่สุด
Line ID : trust.counseling

Send a message to learn more

18/01/2025

อาการป่วยทางจิตเวช และ โรคทางจิตเวช
ไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นคำด่า

ไม่ควรวิเคราะห์หรือตัดสินใครว่าป่วยเป็นอะไร
หากไม่ใช่ผู้เชียวชาญที่สำเร็จการศึกษา มีประสบการณ์ในการทำงาน และมีใบประกอบวิชาชีพ

แม้จะเป็นนักวิชาชีพก็ไม่สามารถทำได้

หากบุคคลท่านนั้นไม่ได้มีความต้องการเข้ารับบริการทางการแพทย์ด้านจิตเวช
ณ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
คงไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย

แต่ขอให้สังคมของเราได้ตระหนักกับเรื่องนี้
ถอดบทเรียนจนมองเห็นความสำคัญ

เพื่อสังคมที่ดีขึ้นครับ

18/01/2025

สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้จากการเป็นผู้อ่านประเด็นดราม่าต่าง ๆ บวกกับการชอบดูรายการโหนกระแส

ผมได้ข้อคิดที่สำคัญว่า
" ในโลกออนไลน์ เราอย่าฟังอะไรฝ่ายเดียวแล้วตัดสินทันที เพราะมันคือการฟังความข้างเดียว "
พอได้พูดได้พิมพ์น้อยลง (แต่ก็มีอยู่บ้าง 😅)
ก็ได้กลายเป็นผู้ฟัง ผู้อ่านผู้สังเกตมากขึ้น

ในทุกปีผมเห็นบทเรียนในเรื่องนี้มีมาให้เตือนใจตลอด
กับการที่มีใครซักคนพูดอะไรออกมา แล้วเราก็เชื่อ
จนอีกฝ่ายออกมาพูดบ้าง ก็มีการแบ่งฝั่ง เปลี่ยนฝ่าย

แล้วก็เกิดปรากฏการณ์ทัวร์ลง ทั้งลงถูกที่ และ ไม่ถูกที่
นั่นส่งผลให้บางครั้ง ผู้ที่ไม่ได้กระทำความผิด
แต่ถูกกล่าวถึงก่อน ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ซึ่งเกิดจาก "การตีตราตัดสิน" อย่างรวดเร็ว

ซึ่งเราสามารถให้กำลังใจ หรือใช้คำพูดที่ดี
เป็นการ support จิตใจของใครซักคน
หากเราหวังดีและรู้สึกเป็นห่วงเขาคนนั้น

แต่ไม่ได้แปลว่า เราจะต้องไปตัดสินชีวิตคนอื่น
ตำหนิรุนแรง กล่าวว่าด่าทอ
โดยที่ยังไม่ได้รับรู้สารอะไรจากเขาเลย
สิ่งนี้ผมคิดว่า มันคือเรื่องละเอียดอ่อน
ที่ทุกคนจะต้องระมัดระวังตนเองให้มาก
พลาดมาก็อาจจะถูกฟ้องร้องแบบหลายเคสที่มีให้เห็น

รวมไปถึงการทำความเข้าใจว่า
เราสามารถ support คนที่เรารักและรู้สึกดี
โดยที่ไม่ต้องไปทำร้ายคนอื่น (ทั้งที่เรายังไม่รู้จักเขา)

Social media ในแต่ละ application
แทบจะเปลี่ยนสถานะจาก "สังคมจำลอง"
เป็น "สังคมจริง" ในชีวิตของเราไปแล้ว

ซึ่งนี่อาจจะทำให้การปฏิสัมพันธ์ และ การสร้างตัวตนของเราไม่แข็งแรงและเปราะบาง มันอาจจะส่งผลต่อชีวิต ความคิด และจิตใจในการดำเนินชีวิตจริงของเราก็เป็นได้
อยากแชร์ความรู้สึกและการตกตะกอนออกมาครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ ให้ผู้คนฉุกคิด แล้วใจเย็นลงบ้าง

ปล.ไม่ขอเจาะจงเรื่องหรือประเด็นในสังคมนะครับ มันมีให้เห็นกันอยู่เรื่อย ๆ ครับ แค่ผมรู้สึกอยากจะแชร์มันออกมาในเวลานี้เท่านั้นเองครับ

15/01/2025

การที่คน ๆ นึงจัดการหรือลำดับความสำคัญเรื่องราวในชีวิตไม่ได้

มันไม่ได้มาจากการคิดไม่ได้เท่านั้น
แต่บางทีมันมาจากการเก็บกดทางอารมณ์
จนทำให้ลืมเรื่องนั้นไป

แล้วเกิดเป็นการละเลยความสำคัญ
จริงอยู่ว่า cognition เป็นสิ่งสำคัญ
ในการจัดลำดับเรื่องราวต่าง ๆ

แต่หากเราเจอสภาวะทางอารมณ์
ที่เราไม่สามารถเผชิญหน้ากับมันได้
จนทำได้เพียงเก็บกดเรื่องราวนั้นไว้

ความสำคัญก็จะถูกละเลยเพราะเราอยากหลีกเลี่ยง
หนำซ้ำ เราอาจจะพรีเซนท์เรื่องที่เก็บกด
ให้ดูเป็นเรื่องธรรมดาเรื่องนึง

ไม่ใช่เพราะเรารู้สึกว่ามันธรรมดา
แต่มันไม่อยากเผชิญกับ
ภาวะอารมณ์ที่ เข้มข้น และ ตึงเครียด

จนบางทีก็นำมาซึ่งปัญหาในความสัมพันธ์
เพราะอีกฝ่ายก็จะรับรู้แต่แง่มุมที่ถูกแสดงออก
แต่ไม่สามารถสัมผัสถึงอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริง

ที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในใจได้

12/01/2025

บางครั้ง ความรู้สึกเจ็บปวด
ที่มาพร้อมความรู้สึกที่รักใครสักคนนึง

ก็เกิดขึ้นจากการที่เราเจ็บปวดอยู่ในใจ
เราหลีกเลี่ยงที่จะรู้สึกเจ็บปวด
พาตัวเองมาอยู่กับความสุขที่เคยเกิดขึ้น
เราอาจจะคาดหวังเพียงแค่ว่า
ขอให้ฉันไม่เจ็บมากเกินไป
ขอให้ฉันยังทำใจได้
ขอให้ฉันไม่ทรมานไปมากกว่านี้

แต่นั่นอาจจะต้องแลกมาด้วย
ความทุกข์ใจที่หนักอึ้งเพราะยังรู้สึกรักอยู่

ความรู้สึกรักที่ไม่ได้จริงแท้
เกิดขึ้นเพราะการหลีกหนีความเจ็บปวด
คงไม่อาจสร้างความสุขที่แท้จริงให้เราได้

มีเหตุผลซ่อนอยู่ในความรักเสมอ~ถ้าเราเข้าใจความสัมพันธ์ของเรามากเพียงพอ
07/01/2025

มีเหตุผลซ่อนอยู่ในความรักเสมอ~ถ้าเราเข้าใจความสัมพันธ์ของเรามากเพียงพอ

ในช่วงปี 2024 ที่ผ่านมาตัวผมเองเจอเรื่องราวมากมายที่รู้สึกน่ายินดีก็คือ ทุกเรื่องจบในปี 2024แล้วบางเรื่องก็มีโอกาสแก้ตัว...
07/01/2025

ในช่วงปี 2024 ที่ผ่านมา
ตัวผมเองเจอเรื่องราวมากมาย
ที่รู้สึกน่ายินดีก็คือ ทุกเรื่องจบในปี 2024

แล้วบางเรื่องก็มีโอกาสแก้ตัวในปี 2025
#ความเชื่อ ที่ผมพกติดตัวเองตลอดในการใช้ชีวิตก็คือ "ทุกสิ่งเกิดขึ้นแล้ว ล้วนดีงามเสมอ" ซึ่งเป็นภาษาทางศาสนาพุทธ

หากเปลี่ยนเป็นภาษาของผมเอง ก็คงพูดได้ว่า
" ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ดีที่สุดแล้วเสมอ "
นี่ไม่ใช่การมองโลกในแง่บวก
ไม่ใช่การให้กำลังใจตัวเอง
ในวันที่เราเจอเรื่องเลวร้ายใด ๆ

แต่มันคือความรู้สึกแรก ที่ผมมักจะเจอ
เมื่อตกตะกอนอะไรบางอย่างได้
หรือผ่านเรื่องราวหนัก ๆ ในชีวิต

สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่า มันดีจริงหรือไม่จริง
มันดีกับเรายังไงบ้าง
สิ่งสำคัญของความเชื่อนี้ก็คือ
คุณผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาอย่างไร
ใช้วิธีการและกระบวนการอะไรในการผ่านมันมา

ในช่วงเวลาที่เผชิญเรื่องราวเลวร้าย
เราคงไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย
มีเพียงแต่จะต้องคิดว่า

เราจะผ่านมันไปให้ได้ดีที่สุดอย่างไร
เพราะนี่คือความรับผิดชอบต่อการใช้ชีวิตของตัวเราเอง
เมื่อเรื่องราวต่าง ๆ ได้เดินทางมาถึงปลายทาง
เราเดินทางมาถึงจุดจบ ได้ค้นพบบทสรุป

เราอาจจะรู้สึกทันทีก็ได้ว่า #ก็ดีเหมือนกันที่เป็นแบบนี้

หรือผลลัพธ์สุดท้าย อาจจะกำลังทำงาน
ได้ให้ข้อคิด หรือเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต
เราก็จะรู้สึกเหมือนกันว่า #ถ้าวันนั้นไม่เป็นแบบนั้นก็คงไม่มีวันนี้แบบทุกวันนี้
ที่ผมอยากแชร์เรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะว่า
อยากให้ทุกคนคิดว่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้น
มันจะเป็นเรื่องดีสำหรับเราเสมอ

การที่เราจะค้นพบว่า ทุกเรื่องนั้นดีงามในแบบของมันเอง
มันไม่ใช่แค่การตั้งความคิดของตัวเองขึ้นมา
แต่มันคือการทำงานกับตัวเองอย่างหนัก

เผชิญหน้ากับความรู้สึกในใจอย่างมากมาย
โอบรับความย่ำแย่ของตัวเองและชีวิตเอาไว้
ยืดอกรับมือและแก้ไขมันอย่างจริงใจ

เมื่อเราผ่านกระบวนการเหล่านี้
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ท้ายที่สุดเราจะยอมรับตนเอง ยอมรับโลกใบนี้มากขึ้น

ซึ่งนั่นต้องมาพร้อมกับเรื่องราวดี ๆ ในแบบของเรา
ท้ายที่สุดนี้
ผมเป็นคนไม่เชื่อในคำอวยพรและการอธิษฐาน
ไม่ใช่เพราะว่ามันไม่มีจริงหรือไร้ประโยชน์

แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตของคนเรานั้น
ก็คือตัวของเราเอง ปัจจัยอื่น ๆ ก็ย่อมมีผล
ขอบอกกล่าวข้อความในใจว่า
ปี 2025 นี้ ขอให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
ถอดบทเรียนชีวิตตัวเองให้ละเอียด

ไม่ดีที่สุดก็ไม่เป็นไร ขอให้ไตร่ตรองมาดีแล้วก็พอ
ตระหนักรู้กับตัวเองให้มากขึ้น กดดันตัวเองให้น้อยลง
รับผิดชอบตัวเองให้ดีขึ้น คาดหวังกับคนอื่นให้น้อยลง

ใช้ชีวิตอยู่บนความเป็นจริงของชีวิต
มากกว่าสิ่งยั่วใจที่ทำให้เรารู้สึกดี แต่ไม่ได้ทำให้ชีวิตเราเดินไปข้างหน้า

ปีไหน ๆ ก็คงไม่ใช่ปีของเรา
ถ้าตัวเราเองไม่คว้าโอกาส หรือ สร้างเรื่องราวดี ๆ ให้ตนเอง
ขอให้ทุกท่านได้ใช้ชีวิตอย่างชัดเจนและจริงใจกับตัวเองในปี 2025 นี้ครับผม

Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา

บางครั้งคน ๆ นึงก็ไม่ได้อ่อนแอไปซะทุกเรื่องแต่ด้วยความที่ในมุมที่อ่อนแอเป็นมุมที่อยากถูกรัก ถูกปลอบโยน จึงเกิดการเรียกร้...
11/12/2024

บางครั้งคน ๆ นึงก็ไม่ได้อ่อนแอไปซะทุกเรื่อง
แต่ด้วยความที่ในมุมที่อ่อนแอ
เป็นมุมที่อยากถูกรัก ถูกปลอบโยน

จึงเกิดการเรียกร้องความรักด้วยการเป็นคนอ่อนแอ
เพราะอยากให้เขาเห็นว่า ฉันเองก็สมควรถูกรักถูกดูแล
ด้วยความอ่อนโยนในความสัมพันธ์เหมือนกัน
ซึ่งนั่นอาจจะทำให้คน ๆ นั้นรับรู้ตนเองผิดไปจากความเป็นจริง แล้วใช้ชีวิตแบบคนอ่อนแอที่เปราะบางมาตลอด

แต่ถ้าหากเราตระหนักได้ว่า
เราก็มีด้านที่ดีและแข็งแรงนะ
ยอมรับและให้คุณค่าในจุดนี้บ้าง

เราก็จะมองเห็นได้ว่า ความรักและความสัมพันธ์ที่ดี
จะเกิดขึ้นจากจุดที่แข็งแรง
เมื่อคน ๆ นั้นรักเราอย่างแท้จริง เขาจะได้เห็นจุดอ่อนแอของเราจริง ๆ
แล้วเราก็ไม่ใช่คนอ่อนแอที่ล้มตัวใส่คนรักแล้วคอยคาดหวังให้เขาดูแลเราอย่างเดียว

แต่เราคือคน ๆ นึงที่มีคุณค่าและดูแลความสัมพันธ์ได้ดี
เขาก็จะตอบแทนเราด้วยการดูแลเราดีเช่นกัน

ด้านของเราที่อ่อนแอ ก็จะถูกดูแลด้วยความรักที่อ่อนโยนบนความสัมพันธ์ที่ดี โดยที่เราไม่ต้องทำตัวอ่อนแอเพื่อร้องขอความรักอยู่ตลอดเวลา

01/12/2024

แจ้งวันหยุดทำการนะครับ
2-5 ธ.ค. 2567
30-31 ธ.ค. 2567
1-5 ม.ค. 2568

วันดังกล่าวจะไม่ได้มีการตอบกลับการทำนัดนะครับ
ทั้งทางไลน์และทางเพจเลยครับ

ส่วนวันหยุดปกติรายสัปดาห์ จันทร์ อังคาร
ที่ไม่ตรงกับเวลาตามที่แจ้ง ยังตอบตามปกตินะครับ

Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา

19/11/2024

อะไรที่รู้สึกไม่สบายใจ เราสามารถพูดมันออกมาได้ และเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงได้

ไม่เว้นแม้กระทั่งการพบนักจิตหรือจิตแพทย์
หลายครั้งที่ผมเห็นสถานการณ์ที่
คุยกันแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าได้อะไร
ไปหาแล้วก็ไม่ดีขึ้นซะที

แต่เคสยังต้องเลือกที่จะอยู่ในกระบวนการแบบเดิม

ทั้งด้วยกลัวถูกตำหนิ กลัวจะเป็นคนผิด
กลัวจะทำให้จิตแพทย์หรือนักจิตเสียใจ
หรือบางครั้งก็พูดออกไปแล้ว แต่สิ่งที่พูดไปนั้น

ถูกปฏิเสธผ่านความพยายามที่จะดึงเคสให้อยู่ในกระบวนการแบบเดิม
ในความเป็นจริงนั้น ไม่มีนักจิตหรือจิตแพทย์คนใด
ที่จะเข้ากับเคสที่ผ่านเข้ามาได้ทุกคนแบบ 100%

การที่ทำงานกับเคสแล้วมันไม่เกิดความคืบหน้า
มีหลายปัจจัย และ ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้

ไม่จำเป็นว่าจะต้องหาว่าใครเป็นคนผิด
แต่หาจุดที่จะเข้าใจและยอมรับความจริงในจุดร่วมตรงนี้อย่างไร
ผมเองก็พยายามเสมอ ที่จะไม่ให้เคสเกิดความเชื่อว่า
คุยกับผมคนเดียวแล้วจะดีขึ้น แล้วจะหายดี

ความเชื่อนี้เกิดขึ้นได้ เมื่อเราเห็นผลลัพธฺใน session
ไปในทิศทางที่ดี มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้จริง

ไม่ใช่ความเชื่อลอย ๆ หรือเป็นเพียงความคิด
ที่จะฉุดรั้งกันให้ทำ session ต่อไป
ไม่ว่าคุณจะป่วยเป็นอะไร เจอปัญหาแบบใด
ความพยายามที่จะแก้ไข
ความรับผิดชอบที่มาพบกันใน session

เป็นความพยายามและความตั้งใจที่น่าชื่นชม

แต่หากความพยายามนั้น ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ามากพอ
ตัวคุณเองก็ไม่จำเป็นต้องทนเหนื่อยและทุ่มเทอย่างมาก

แต่ได้ผลลัพธ์ที่ไม่คุ้มค่ากับความพยายามของคุณเลย
อะไรที่มันไม่สบายใจ หรือ ทำแล้วยังไม่ดีขึ้น
คุณมีสิทธิ์เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงได้
ไม่ว่ากับเรื่องอะไรก็ตาม

การเปลี่ยนแปลงบางทีก็น่ากลัว
เพราะที่ผ่านมาก็ตั้งใจและพยายามมามากแล้ว
แต่มันยังไม่ดีขึ้นเลย

หากเราเข้าใจกลไกที่ซ่อนอยู่ว่า
ทำไมทำขนาดนี้แล้วยังไม่ดีขึ้นล่ะ ?
เราจะเป็นช่องว่างหรือความผิดพลาดบางอย่าง
เริ่มแก้จากตรงนั้นก่อน

แล้วคุณจะค่อย ๆ ค้นพบว่า
การเปลี่ยนแปลงที่ดูน่ากลัว

มันจะทำให้กลัวน้อยลงได้
เมื่อเลือกเปลี่ยนแปลงด้วยความเข้าใจ
และมีวิธีการใหม่ ๆ ให้กับชีวิตคุณในอนาคต

Send a message to learn more

19/11/2024

พอเราตั้งความเชื่อว่า
การรักตัวเอง คือการมอบสิ่งดี ๆ ให้ตัวเอง
โดยที่ต้องไม่ทำร้ายตัวเอง

บางครั้งมันก็ทำให้เกิดการตัดสินที่ผิดพลาด
มันอาจจะดูเมคเซนท์ว่า
ถ้าเรารักตัวเอง เราก็ต้องมอบสิ่งดี ๆ ให้ตัวเองสิ
เหมือนกับที่เรารักคนอื่นไง เราก็จะทำดีกับเขา

เช่นเดียวกัน เวลาเรารักใครสักคน
เราก็ไม่อยากทำให้เขาเสียใจหรือทำร้ายเขา
ถ้าเรารักตัวเอง เราก็จะไม่ทำร้ายตัวเอง หรือทำให้ตัวเองเสียใจ
แต่การที่เราจะบอกคน ๆ นึงว่า
คุณไม่รักตัวเองเลย หรือ คุณรักตัวเองไม่มากพอ

มันไม่ได้ตัดสินกันง่าย ๆ เพียงเพราะแค่
เขายังอยู่กับสิ่งที่เขาเป็นทุกข์บ้าง เจ็บปวดบ้าง

แต่ใครจะรู้ สิ่งนั้นอาจจะปิดช่องว่างในจิตใจของเขา
ทำให้เขารู้สึกว่าได้รับการเติมเต็มแล้ว
แม้ว่าจะแลกมาด้วยการเสียใจ และ ร่ำไห้ก็ตาม
ความเชื่อแบบนี้เกี่ยวกับการรักตัวเอง
อาจไม่มากพอที่จะเข้าใจคน ๆ นึงได้ทั้งหมด

แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องเอาความเชื่อนี้ไปแนะนำหรือชี้นำการใช้ชีวิตของใคร
ผู้คนมากมาย เจ็บปวดกับเรื่องของตัวเอง
แล้วยังต้องเจ็บซ้ำเพราะถูกตีตราว่า
#ไม่รักตัวเอง #รักตัวเองไม่มากพอ

โดยที่คนมาตีตราเขา อาจจะไม่ได้เข้าใจเขาเลยด้วยซ้ำ
การรักตัวเองเป็นเรื่องที่ดี แต่มันเป็นเพียง
มิตินึงในชีวิตและตัวตนของเราเท่านั้น

ชีวิตคนเราขับเคลื่อนด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง
แค่การรักตัวเองอย่างเดียว คงไม่สามารถทำอะให้ทุกอย่างราบรื่นได้

หากเห็นใครกำลังย่ำแย่ ลองทำความเข้าใจเขา
มากกว่ามองว่า เขาไม่รักตัวเองยังไง แล้วพยายามแนะนำให้เขารักตัวเอง
บางทีเขาอาจจะรักตัวเองมากกว่าที่คุณคิดและมองเห็น
แต่เขาอาจจะมองไม่เห็นจุดเปราะบางบางอย่าง

เลยทำให้ชีวิตไม่สามารถเดินออกจากลูป
ที่ทำให้ทั้งความสุข ความเศร้า
มอบทั้งรอยยิ้มและน้ำตา

Send a message to learn more

08/11/2024

This may not be the best of all time, but it doesn't mean it's not the best at the time.

นี่อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ดีที่สุดในเวลานั้น

WHAT HAPPENED TO YOU ? เป็นหนังสือที่ผมรออ่านมาก ๆแต่มีกฎกับตัวเองว่า " ถ้ายังอ่านหนังสือที่เคยซื้อมาทั้งหมดไม่จบ ผมจะไม...
23/10/2024

WHAT HAPPENED TO YOU ?
เป็นหนังสือที่ผมรออ่านมาก ๆ
แต่มีกฎกับตัวเองว่า " ถ้ายังอ่านหนังสือที่เคยซื้อมาทั้งหมดไม่จบ ผมจะไม่ซื้อใหม่มาอ่านเพิ่ม"

ล่าสุดไปงานสัปดาห์หนังสือมา ก็ซื้อมาหลายเล่ม
เป็นเล่มที่เล็งไว้นานมาก แต่ในงานผมไม่เจอเล่มนี้
วันนี้เลยรีบไปซื้อ เพราะตั้งใจจะเป็นเล่มแรกครับ

อ่านจบแล้วจะมารีวิวให้ฟังครับ
ผมก็ไม่รู้เลยส่าหนังสือเล่มนี้ จะบอกเล่าอะไรให้ผมรู้

แต่แค่ชื่อคนเขียนและคอนเซ็ปของหนังสือ
ก็น่าอ่านแล้วครับ ส่วนเล่มอื่น ๆ อาจจะไม่ได้รีวิว

แต่คงตกตะกอนออกมาเป็นบทความบนเพจครับ
🙂🙂🙂

บางครั้งเราก็ต้องปล่อยให้ตัวเองล้มเหลว และ กระจอกบ้าง - เพื่อรู้จักตัวเองมากขึ้น แล้วเอาส่วนที่ได้รู้จักเพิ่มเติมมาพัฒนา...
21/10/2024

บางครั้งเราก็ต้องปล่อยให้ตัวเองล้มเหลว และ กระจอกบ้าง - เพื่อรู้จักตัวเองมากขึ้น แล้วเอาส่วนที่ได้รู้จักเพิ่มเติมมาพัฒนาชีวิตตัวเองต่อไป
หลายครั้งเราติดกับดักของการพัฒนาตัวเอง
ด้วยการที่ไม่ยิมยอมให้ตัวเองล้มเหลวเลย
จนนั่นไม่ใช่การพัฒนา มันแค่ปกป้องตัวตนที่อ่อนแอที่เรายอมรับไม่ได้เฉย ๆ

การให้ตัวเองล้มเหลว ผิดพลาด
ร้ายแรงหน่อยก็มีชีวิตที่บัดซบ
แต่ถ้านั่นเราเลือกเอง มันก็ไม่ผิดเสมอไป

บางครั้ง เรารู้อยู่เต็มอกว่ามันไม่ควรทำ
แต่ถ้าใจมันยากลอง แล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
ลองดูบ้างก็ได้
จะได้รู้จักตัวเองในอีกเวอร์ชั่นนึงบ้าง

ยอมรับความอ่อนแอของตัวเอง
ยอมรับความผิดพลาด ความล้มเหลว
ยอมรับตัวเองที่ไม่เคยอยากยอมรับ

เรียนรู้จากสิ่งที่ยอมรับ มาปรับปรุงชีวิตใหม่
ในแบบที่รู้จักตัวเองมากขึ้นและเป็นตัวของตัวเอง

นี่ก็เป็นการพัฒนาตัวเองอย่างหนึ่งนะ

02/10/2024

ความรัก ไม่เท่ากับ ความสัมพันธ์เสมอไป
เพราะบางความสัมพันธ์

ก็อยู่ด้วยกันทั้งที่ไม่ได้รัก
ปัญหาในความสัมพันธ์จึงไม่ได้จำกัดแค่ความรัก

บางคนรู้สึกผิดที่จะเดินออกมาก
บางคนกลัวจะไม่มีใครถ้าออกจากความสัมพันธ์
บางคนรู้สึกจะไม่มีค่าถ้าไม่มีความสัมพันธ์
เรื่องความสัมพันธ์ในห้องปรึกษา
จึงเป็นประเด็นที่ใหญ่

เหมือนกับบ้านหนึ่งหลัง
ที่เราจะต้องไปดูห้องแต่ละห้องในบ้าน
ดูองค์ประกอบของบ้าน
โครงสร้างของบ้าน

เพราะบางครั้งบ้านมันก็ไม่น่าอยู่แล้ว
แต่กลับมีคน ๆ หนึ่งยังอาศัยอยู่

Send a message to learn more

26/09/2024

ผมกลับมาสนใจเรื่อง FWB (Friend with Benefits) อีกครั้งด้วยมุมมองแบบใหม่

อาจจะด้วยการทำเคสในช่วงนี้
มีเรื่องให้พิจารณาประเด็นนี้เพิ่มเติม
ผมค้นพบว่า การที่เราผิดหวัง แตกสลาย หรือ พังทลายจากความสัมพันธ์ที่เราจริงจัง (Commitment relationship , Serious relationship)

เราไม่อาจละทิ้งความต้องการส่วนลึกภายในจิตใจได้ ที่ยังอยากมีความสัมพันธ์อยู่ (Id)

แต่เราเองก็ยังรักษาแผลใจของตัวเองไม่หาย
จึงใช้กลไกการป้องกันตัวเองเข้ามาช่วย

แล้วเลือกพัฒนาความสัมพันธ์แบบ FWB ขึ้นมา
เรื่องนี้มีความซับซ้อนมากกว่านี้
เพราะความต้องการที่อยากจะมีความสัมพันธ์

มันซ้อนด้วยกลไกการป้องกันตนเองอีกชั้นนึง
คือความสัมพันธ์แบบคนรักมาทดแทนหรือชดเชย

สิ่งที่มันขาดหายไปในอดีตหรือวัยเด็กของตัวเอง
มันไม่เพียงทำให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีและชัดเจนไม่ได้

แต่มันทำให้เราไม่กล้าปล่อยตัวเองออกจากการพัฒนาความสัมพันธ์แบบ FWB เพราะทั้งหวาดกลัวความผิดหวัง กลัวว่าจะมีแผลเพิ่ม

หนำซ้ำอาจจะกลัวมองเห็นตัวเองกับไปพังทลายและแตกสลายเพราะความสัมพันธ์อีกรอบ ทั้งที่ตัวเองคาดหวังกับความสัมพันธ์ไว้สูง
ในมิติของกลไกการป้องกันตนเองและความสัมพันธ์นั้น
FWB เป็นอะไรที่มากกว่าแค่การสร้างความสัมพันธ์แล้วมี s*x กัน

เพราะ s*x อาจจะสร้างความรู้สึกอบอุ่น ใกล้ชิด เป็นที่รัก ได้แสดงตัวตนและถูกยอมรับ ยิ่งถ้าอยู่ใน FWB ก็อาจจะทำให้คน ๆ นั้นเชื่อว่า เขาจะได้ในสิ่งที่เขาต้อง

โดยที่เขาไม่ต้องผิดหวังหรือเอาอะไรไปเสี่ยง
แล้วพัฒนาตัวเองให้รู้สึกพึงพอใจกับชีวิตแบบนี้
ทั้งที่จริงแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้นเลยด้วยซ้ำ
กักขังตัวเองในพื้นที่ปลอดภัยในความสัมพันธ์ที่มันไม่มั่นคงและยืนยาว

นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจที่คนหนึ่งคนต้องใช้ชีวิตแบบนี้
เพียงเพราะรักษาแผลใจตัวเองไม่ได้และไม่อยากเจ็บซ้ำ

ในความเป็นจริงแล้ว เขาควรได้รับโอกาสปรับปรุงตัวเอง
ได้เข้าใจตัวเองใหม่อีกครั้ง แล้วพาตัวเองไปเจอความสัมพันธ์ที่ดี
ไม่จำเป็นด้วยซ้ำที่จะต้องให้ความสัมพันธ์แบบคนรัก
มาทดแทนหรือชดเชยความขาดและบกพร่องในอดีตของเรา

เราสามารถยอมรับและชื่นชมความสัมพันธ์แบบคนรักในแบบที่มันเป็นได้

ซึ่งถ้ามันดีจริง ๆ เราจะค้นพบว่า เราเองก็มีช่องว่างในใจได้
แต่เราไม่ต้องเอาตัวเองไปนั่งกอดเข่าร้องไห้ในช่องว่างนั้นแล้ว

ในเมื่อเรามีคนรักและความสัมพันธ์ที่ดีอยู่ตรงหน้าเรา

Send a message to learn more

16/09/2024

ในความเป็นจริงนั้น ไม่มีสิ่งใดในโลกที่ทดแทนหรือชดเชยกันได้ #แม้กระทั่งความสัมพันธ์

ต่อให้เราใช้กลไกการป้องกันตัวเองที่สูงและแข็งแรง
จนทำให้เราเชื่อว่า "มันถูกทดแทนกันได้แล้ว"

ก็เปลี่ยนความจริงที่มันไม่ได้ทดแทนหรือชดเชยกันได้
เราแค่สร้างความรู้สึกที่เราเชื่อว่ามันจริงขึ้นมา

แต่ความจริงแล้ว มันไม่ได้เป็นจริงอย่างที่เรารู้สึก

ขออภัยหลาย ๆ ท่านที่ผมตอบกลับช้าจอมือถือเสียชีวิตไปครึ่งจอแล้วครับต้องตอบจากคอมอย่างเดียวตอนนี้ได้มือถือสำรองมาใช้แล้วคร...
27/08/2024

ขออภัยหลาย ๆ ท่านที่ผมตอบกลับช้า
จอมือถือเสียชีวิตไปครึ่งจอแล้วครับ

ต้องตอบจากคอมอย่างเดียว
ตอนนี้ได้มือถือสำรองมาใช้แล้วครับ
อาจมีคนถามว่าทำไมไม่รีบซื้อใหม่
คิวที่ลงไว้ แน่นทุกวันเลยครับ

ไม่รู้จะปริตัวไปซื้อตอนไหนดี

พยายามทำงานด้วยมือถือเครื่องเดียวมา 5 ปี
นี่เป็นเหตุการณ์แรกที่มือถือผมมีปัญหาก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องใหม่

ชีวิตเอาแน่เอานอนไม่ได้จริง ๆ 😅😅😅

ที่อยู่

279 ม. หมู่บ้านบุรีรมย์ ประชาอุทิศ 76/1 ทุ่งครุ
Bangkok
10140

เวลาทำการ

อังคาร 09:00 - 23:00
พุธ 09:00 - 23:00
พฤหัสบดี 09:00 - 23:00
ศุกร์ 09:00 - 00:00
เสาร์ 09:00 - 23:00
อาทิตย์ 09:00 - 23:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา:

แชร์

ทำไมถึงชื่อ Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา

ผมเป็นคนไม่ถนัดเรื่องตั้งชื่อหรือไอเดียสร้างสรรค์เท่าไหร่ อาจจะเพราะเป็นคนที่ใช้การคิดวิเคราะห์อย่างมากมาตลอด พอจะตั้งชื่อหรือนึกชื่อให้คนจดจำก็นึกไม่ออก แต่ก็มีไอเดียว่าอยากให้เป็นชื่อที่มันเกิดขึ้นได้เพราะตัวตนของผม มีอุดมการณ์ของผมแฝงอยู่ในชื่อนั้น มีแก่นของชีวิตของผมแทรกซึมอยู่ในชื่อนั้น ทุกอย่างก็เริ่มต้นจากการทบทวนตนเอง

ผมถามตัวเองว่าตัวตนในงานปรึกษาและบำบัดของผมคือะไร ผมก็รู้สึกว่างานของเราเนี่ยบางทีมันก็ย้อนแย้งในตัวเองนะ ผมมีหน้าที่ให้ผู้รับบริการเข้าใจตัวเอง เข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของตนเองโดยที่ก้าวผ่านหน้ากากบางอย่างที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ชีวิตในสังคม แต่ในขณะเดียวกันนักจิตวิทยาการปรึกษาอย่างผมกลับต้องสร้างภาพพจน์บางอย่างขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการทำงาน แต่ถึงท้ายที่สุดเราก็ใช้ความจริงใจและความเป็นตัวเองพูดคุยกับผู้บริการอยู่ดี ก็เลยได้ไอเดียว่า งานของเราเนี่ยมันขับเคลื่อนผ่านสิ่งที่เรียกว่า “Trust” ถ้าไม่มี Trust นี้งานเราก็ไปไหนไม่ได้ มันไม่เกิดความก้าวหน้า และเราเองก็พยายามสร้าง Trust นี้ในความสัมพันธ์ระหว่างเรากับผู้รับบริการ. ก็พูดขึ้นมาว่า “เอ้อ นี่แหละตัวตนของเราเลย” งั้นใช้ชื่อว่า Trust นี่แหละ มันใช่ที่สุดแล้ว แต่ก็รู้สึกว่ามันสั้นไปนะ ดูยังไม่อิน งั้นเอาเป็น Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา แล้วกัน ใส่หัวใจในเนื้องานเราเข้าไป ผสมผสานกับอาชีพของเรา เพื่อให้คนได้สัมผัสถึงตัวตนของเรา

.

Trust.นักจิตวิทยาการปรึกษา มันแฝงไปด้วยอุดมการณ์และแก่นของชีวิตอย่างไร? ผมมีความเชื่อว่าที่ผู้คนยังไม่นิยมเดินมาพบนักจิตวิทยาเพื่อดูแลจิตใจตนเองนั้น เป็นเพราะพวกเขาเหล่านั้นยังขาดข้อมูลที่ถูกต้อง ขาดความเข้าใจที่เป็นจริง. ผมไม่ได้อยากหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพนักจิตวิทยาการปรึกษาเท่านั้น ผมมีความต้องการที่จะขับเคลื่อนวงการนักจิตวิทยาการปรึกษาและวงการสุขภาพภาพจิตในสังคมไทย ผมรู้สึกว่าเมื่อนักจิตวิทยาการปรึกษาอย่างผมหรือคนอื่น ๆ ก้าวออกมาสื่อสารกับผู้คนในสังคม สร้างความเชื่อที่ดี ความเข้าใจที่ถูกตัว ให้พวกเขาได้รับข้อมูลจากนักจิตวิทยาการปรึกษาที่ได้ทำงานด้านนี้จริง ๆ เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นผู้คนก็จะมีความเชื่อใหม่ ๆ ที่ดี มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ต้องมาคิดเรื่องกล้าหรือไม่กล้ามาพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ เพราะความกล้ามันไม่ควรมาเป็นประเด็นในการตัดสินใจ เมื่อต้องชั่งใจกับความกล้า นั่นอาจจะหมายถึงมีความกลัวบางอย่างอยู่ในใจ ซึ่งผมมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยนะ ประเด็นที่ผู้คนควรขบคิดเรื่องที่ว่า ฉันอยากมาพบหรือไม่อยากมาพบกันแน่นะ? ฉันจะสำรวจตัวเองอย่างไรว่าควรมาพบได้หรือยัง และถ้าอยากมาพบจะไปเจอกันที่ไหนบ้าง และผู้คนในสังคมก็ควรยินดีที่เพื่อมนุษย์เลือกที่จะใส่ใจดูแลตนเอง ไม่ใช่ไปหยอกล้อซ้ำเติมตามความเชื่อเดิม ๆ ทั้งที่ในความจริงตรงหน้า “เขาเพียงแค่ดูแลจิตใจของตนเองร่วมกับนักวิชาชีพด้านสุขภาพจิต” เท่านั้นเอง!