28/08/2025
📝 โรคเชื้อราผิวหนัง (Dermatophytosis in Animals) 🐶🐱🐰
โดย สพ.ญ. ศุภวัลย์ ศรีวิเศษ (หมอบุษ)
โรคเชื้อราผิวหนังในสัตว์เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Dermatophyte (เชื้อราก่อโรคผิวหนัง) ซึ่งเมื่อสัตว์ติดเชื้อราในกลุ่มนี้จะส่งผลให้เกิดการอักเสบบริเวณผิวหนังชั้นตื้น และทำให้เกิดอาการทางผิวหนังที่เด่นๆ ได้แก่ ขนร่วง คัน ผิวหนังอักเสบแดง
เชื้อราก่อโรคผิวหนังมีจำนวนมากกว่า 40 ชนิด สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ทั้งในสัตว์และมนุษย์ โดยเชื้อราก่อโรคผิวหนังจะอาศัยเคราติน (keratin) ที่ผิวหนัง ขน และ เล็บ เป็นแหล่งอาหาร เกิดการเพิ่มจำนวนและลุกลามจากตำแหน่งหนึ่งไปยังตำแหน่งอื่นๆของผิวหนัง ซึ่งความรุนแรงในการแสดงอาการของสัตว์ที่ติดเชื้อจะขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อรา และปัจจัยของตัวสัตว์เอง นอกจากนั้นเชื้อราผิวหนังสามารถติดต่อระหว่าง สัตว์สู่สัตว์ หรือสัตว์สู่คนได้
โรคเชื้อราผิวหนังถือว่าเป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยในสัตว์ โดยเฉพาะสุนัข แมว และกระต่าย โดยเชื้อราที่มักเป็นสาเหตุของการเกิดโรคในสุนัขและแมว คือ Microsporum canis , Microsporum gypseum และ Trichophyton mentagrophytes ซึ่งเชื้อที่พบบ่อยที่สุดคือ Microsporum canis
สาเหตุ
เชื้อราในกลุ่ม dermatophytes (เชื้อราก่อโรคผิวหนัง) จัดอยู่ในไฟลัมดิวเทอโรไมโคตา (Phylum Deuteromycota) จำแนกเป็น 3 เจเนอรา คือ Epidermophyton, Micosporum และ Trichophyton
เชื้อราผิวหนังก่อโรคได้อย่างไร
เชื้อราผิวหนังสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ตามสิ่งแวดล้อมที่เชื้อชอบอาศัยอยู่ ได้แก่ กลุ่ม geophilic (soil-loving) มักพบในดิน สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อมาสู่คนและสัตว์ได้ กลุ่ม zoophilic พบตามผิวหนังและขนของสัตว์ สามารถก่อโรคในสัตว์ และติดมาสู่คนได้ กลุ่ม anthropophilic เป็นกลุ่มที่พบตามผิวหนังของคนและก่อโรคในคนเป็นหลัก ไม่ค่อยพบว่าก่อโรคในสัตว์
การติดเชื้อจากสัตว์สู่คนส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ผ่านเส้นขนของสัตว์ที่มีการติดเชื้อหรือ สะเก็ดผิวหนังที่มีเชื้อราปนเปื้อน
เชื้อราผิวหนังสามารถติดเข้าสู้ผิวหนังของสัตว์ ผ่านทางสปอร์ของเชื้อรา (arthrospores) โดยสปอร์ของเชื้อจะเข้าสู้ผิวหนังผ่านทางรอยแผล หรือ ตำแหน่งของผิวหนังที่เกิดความเสียหาย หลังจากนั้นจะเกิดการเพิ่มจำนวนของเชื้อราเข้าไปในส่วนของเคราติน ที่เป็นองค์ประกอบในชั้นสตราตัม คอร์เนียม ของผิวหนัง เส้นขน หรือเล็บ แล้วมีการผลิตเอ็นไซม์ที่มีชื่อว่าเคราติเนส (keratinase) ไปกระตุ้นให้เกิดกระบวนการการอักเสบในตำแหน่งของผิวหนังที่เกิดการติดเชื้อ และทำให้สัตว์แสดงอาการทางผิวหนังได้แก่ ผิวหนังอักเสบ แดง ขนร่วง
ปัจจัยโน้มนำหรือสัตว์ที่มีความเสี่ยง
1. สัตว์ที่อายุน้อย หรือ สัตว์อายุมาก
2 .สัตว์ป่วยที่มีร่างกายไม่แข็งแรง มีภาวะเครียด หรือมีภาวะภูมิคุ้มกัน
บกพร่อง
3. สัตว์ที่ขนยาว ขนสกปรก หรือ ขนเปียกชื้น
4. ปริมาณของเชื้อที่ได้รับ เช่น สัมผัสกับสัตว์ป่วย หรือ บริเวณที่มีสปอร์ของ
เชื้อในปริมาณที่มาก
ลักษณะของอาการที่ผิวหนัง
สัตว์ที่มีเชื้อราผิวหนังมีทั้งแบบที่แสดงอาการ และ แบบที่มีเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น โดยลักษณะอาการที่พบได้บ่อยๆ คือ ขนร่วง ขนหัก คัน มีสะเก็ด โดยลักษณะของขนร่วงนั้น มักร่วงเป็นวงกลม บริเวณขอบของวงมักมีลักษณะนูน แดง อักเสบ หรือ เป็นสะเก็ด อาจพบการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อยีสต์ร่วม
การตรวจวินิจฉัย
1. ส่องด้วยไฟ Wood’s lamb
โดยเชื้อราที่ให้ผลบวกต่อการตรวจวิธีนี้ คือ Microsporum canis โดยเส้นขนที่มีการติดเชื้อจะมีการเรืองแสงสีเขียวเหลือง (เป็นการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้น)
2. การส่องดูสปอร์ หรือ สายราผ่านกล้องจุลทรรศน์ โดยใช้เทคนิค
- การดึงขน (Trichogram)
- การทำ KOH preparation เพื่อเป็นการกำจัดเคอราตินที่เกาะอยู่ตรงเส้นขน ทำให้สามารถเห็นลักษณะของ สปอร์ หรือ สายราได้ชัดเจน
3. การเพาะเชื้อรา ทำโดยการเก็บตัวอย่างจากขน หรือสะเก็ดไปเพาะในอาหารเลี้ยงเชื้อที่มีความจำเพาะ ใช้เวลาเพาะประมาณ 1-3 อาทิตย์ หลังจากนั้นนำโคโลนีของเชื้อราที่โตไปส่องดูลักษณะจำเพาะภายใต้กล้องจุลทรรศน์เพื่อระบุชนิดของเชื้อรา
การรักษา
การรักษาโรคเชื้อราผิวหนังมีหลายวิธี โดยจะพิจารณาจากความรุนแรงของโรค หากเป็นไม่มากอาจใช้การรักษาแบบ topical treatment เช่น การทายาฆ่าเชื้อรา หรือฟอกแชมพูยา แต่ถ้าเป็นเยอะร่วมกับมีอาการทางผิวหนังที่รุนแรง อาจต้องใช้ยาในรูปแบบกินร่วมด้วย โดยระยะเวลาในการรักษาใช้เวลานานประมาณ 1 เดือนขึ้นไป ขึ้นกับความรุนแรงของโรค นอกจากนั้นแล้วเจ้าของควรสังเกตว่าสัตว์มีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อราจากทางไหนบ้าง เพื่อจะได้เป็นการป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
ตัวอย่างยาที่ใช้ในการรักษาเชื้อราผิวหนัง ได้แก่
1. กลุ่มแชมพูฟอกที่มีส่วนผสมของ Miconazole หรือ Enilconazole
2. กลุ่มครีมทา หรือ สเปรย์ รักษาเชื้อรา เช่น Ketoconazole cream , Ketoconazole spray , Miconazole spray
3. กลุ่มยาฆ่าเชื้อราในรูปแบบกิน เช่น ยาในกลุ่ม Imidazole (Itraconazole Fluconazole Ketoconazole ) , Griseofulvin , Lufenuron , Terbinafine
4. สารทำความสะอาดกำจัดสปอร์เชื้อราในสิ่งแวดล้อม
- Bleach (1:10 dilution)
- Enilconazole solution (0.2%)
🐶🐱🐭🐹🐰🦊🐻🐯🐮🐷🐸🐵🐔🐦🦅🦉🐢🐍🦎
#คลินิกออนไลน์สำหรับสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ
www.epofclinic.com...............................................................................
#โรคเชื้อราผิวหนัง
#เชื้อราก่อโรคผิวหนังในสัตว์เลี้ยง
#รักษาสัตว์เลี้ยง #ปัญหาสุขภาพในสัตว์เลี้ยง #เกร็ดวิชาการขวัญคำ
#หมอเอกโซติก #หมอสารพัดสัตว์
#โรงพยาบาลสัตว์ขวัญคำ #โรงพยาบาลสัตว์ExoticPet