Heal By Nature ข้อมูลความรู้การดูแลสุขภาพและสินค้าจากธรรมชาติ

📕 กรมทรัพยากรธรณี ขอแนะนำสมุดแผนที่รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย ฉบับล่าสุด พ.ศ. 2566 นำเสนอข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัยที่อาจจะไ...
03/04/2025

📕 กรมทรัพยากรธรณี ขอแนะนำสมุดแผนที่รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย ฉบับล่าสุด พ.ศ. 2566 นำเสนอข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัยที่อาจจะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในอนาคต รอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย เน้นภาพแผนที่เป็นหลัก เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบหมู่บ้านตนเองได้ว่ามีแนวรอยเลื่อนมีพลังพาดผ่านหรือไม่ 🏘 พร้อมภาพประกอบข้อมูล ในรูปแบบ Infographic ที่อธิบายระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว ตามมาตราเมอร์คัลลี่ด้วย ⚡️⚡️

📘 📙 คลิกลิงก์อ่าน e-book 👉🏻 https://anyflip.com/kera/wglh/

#ธรณีพิบัติภัย #แผ่นดินไหว #รอยเลื่อนมีพลัง #กรมทรัพยากรธรณี

ใจ ใจ ใจดี ใจถึง พึ่งได้…เมื่อแผ่นดินไหว ⛑..มันน่ากลัวดีครับ ใจสั่นไปหมดเลย ตึกหยุดสั่นแล้ว มือกับใจยังสั่นอยู่เลย เพราะ...
29/03/2025

ใจ ใจ
ใจดี ใจถึง พึ่งได้


เมื่อแผ่นดินไหว ⛑
..มันน่ากลัวดีครับ ใจสั่นไปหมดเลย ตึกหยุดสั่นแล้ว มือกับใจยังสั่นอยู่เลย เพราะไม่เคยเจอมาก่อน เลยอยากจะขอเล่าผ่านตัวอักษรครับ

☀️ประมาณบ่ายโมง ผมกำลังอยู่ในห้องประชุม ขณะที่แพทย์ประจำบ้าน ผู้ซึ่งผมเป็นที่ปรึกษา เธอกำลังนำเสนอ ผลงานโครงร่างวิจัยอย่างเข้มข้นอยู่นั้น ก็มีเสียง “ปั้ง ปั้ง ปั้ง” 💥สักสามถึงสี่ครั้ง ออกจากเพดานห้องประชุม ทันใดนั้น ผมก็รู้สึกเวียนศีรษะ มีความรู้สึกโครงเครง จึงลุกขึ้นยืน พบว่ายืนแล้วเซเล็กน้อย

❤️พร้อมกันนั้น มีรุ่นพี่รีบเดินออกมาจากห้องด้านในถัดไปอีกห้องหนึ่ง พร้อมตะโกนว่า... “แผ่นดินไหว รีบออกจากตึก”... ขณะนั้น ผมและทุกคนในห้องประชุมพยายามรีบเอาตัวออกจากตึกให้เร็วที่สุด โดยรีบเดินไปที่บันไดหนีไฟ ที่เราเดินกันอยู่ทุกวี่วัน แต่วันนี้นั้น มันไม่เหมือนเดิม ผู้คนพยายามวิ่งบ้าง เดินเร็วบ้าง เกาะราวบันไดบ้าง บ้างก็ช่วยกันพยุงลงจากบันได กันอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ตัวเองจะขยับตัวไหว 🏃🏻‍♂️

🏨ผมลงมาถึงชั้นล่างสุด และออกจากตึกมาได้ อาจารย์รุ่นพี่ท่านหนึ่ง ดึงแขนผมและพูดว่า “ออกไปให้ห่างจากตัวตึกนะเต้” ผมจึงรีบเดินไปให้อยู่ในที่โล่งที่สุดและไกลจากตึกที่สุด
..เดินไปเกือบๆจะถึงทางเลี้ยวออกหน้าโรงพยาบาล ก็มีโทรศัพท์เข้ามา ปลายสายเป็นอาจารย์วิสัญญีที่เคารพรักขึ้นมาบนหน้าจอมือถือ ว่ามีสายเรียกเข้า

ผมรับสาย เสียงปลายสายนั้น เป็นเสียงชายหนุ่มทุ้มๆ ซึ่งผมเพิ่งจะพูดคุยด้วย หลังจากผ่าตัดเสร็จไปในช่วงเช้า

👨🏻‍⚕️เสียงในสายพูดว่า “อาจารย์เต้ ออกไปจากโรงพยาบาลแล้วหรือยังครับ รบกวนขึ้นมาช่วยผ่าตัดคลอดที่ชั้น 5 ได้ไหมครับ จะได้เสร็จไว เพราะตอนนี้ แพทย์ประจำบ้านกำลังผ่าตัดอยู่”
ในใจก็คิดว่าเอาไงดี ภาพในหัวที่ปรากฎขึ้นคือ ภาพในข่าว ที่คนติดอยู่ภายใต้ซากตึกที่ถล่มลงมา แต่ก็คิดต่อไปอีกว่า “เอาวะ เป็นไงเป็นกัน”

🏃🏻‍♂️🏃🏻ผมจึงหยุดเดินและวิ่งสวนทางกลับ วิ่งไปคิดว่าเร็วกว่าตอนลงมาเสียอีก วิ่งกลับเข้าตึก ชั้น 1 เริ่มไม่มีคนแล้ว พอไปถึงบันไดหนีไฟ ผู้คน เจ้าหน้าที่และผู้ป่วย ก็กำลังทะยอยออกมาจากตึก มีเสียงพูดจากผู้คนที่ผมวิ่งสวนทางไปว่า “อาจารย์เต้ไปไหน” “อาจารย์เต้ไปทางนี้” “ลงครับ ออกด้านนี้”

🆗พอผมขึ้นไปถึงชั้น 5 ตอนนั้น ด้านนอกห้องผ่าตัดไม่มีคนแล้ว ผมวิ่งเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุด หยิบเสื้อคลุม และเดินเข้าไปยังห้องผ่าตัดห้องที่ 4 พบว่าแพทย์ประจำบ้านกำลังผ่าตัดเพื่อทำคลอดทารกอยู่ คุณพยาบาลที่รักท่านหนึ่ง เดินมาแล้วพูดว่า “เข้าเคสเลยนะคะ” ผมพยักหน้า แล้วเข้าเคสไปช่วยผ่าตัด ขณะผ่าตัดนั้น ก็ยังมีความโครงเครง และตึกยังโยกอยู่บ้างเบาๆ

🔪การผ่าตัดราบรื่นดี มารดาและทารกปลอดภัย หลังจากผ่าตัดเสร็จในไม่นาน เราก็วิ่งอีกรอบเพื่อลงจากตึก

🙂เมื่อวิ่งแบบช้าๆลงมาตรงบันไดหนีไฟทางเดิม พบว่า มีผู้ป่วยที่ผมเพิ่งผ่าตัดมดลูกให้กับเธอไปเมื่อเช้า นั่งอยู่ตรงทางเชื่อมชั้น 4 เพราะญาติๆของเธอได้พยายามอุ้มเธอลงมาแต่ เพราะหลายชั้น จึงหยุดพัก

💪🏻ผมผู้ซึ่ง adrenaline หลั่งพุ่งพล่านมาก จึงขออาสาแบกเธอขึ้นหลัง และพาเธอลงมาได้อย่างปลอดภัย แล้วเราก็มาดูแลกันต่อด้านนอก โชคดีว่า after shock ไม่รุนแรง และความร่วมมือร่วมใจของคนในโรงพยาบาล มีให้กันอย่างมากมาย เราจึงผ่านเหตุการณ์อันน่าตื่นตระหนก ที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นในเมืองไทยครั้งนี้มาได้

❤️
จอบอ
#พบหมอเต้

ปล ขออนุญาตนำภาพของแพทย์ประจำบ้านท่านหนึ่งที่โพสในไอจีมาประกอบครับ 🙂

เมื่อแผ่นดินไหว ⛑
..มันน่ากลัวดีครับ ใจสั่นไปหมดเลย ตึกหยุดสั่นแล้ว มือกับใจยังสั่นอยู่เลย เพราะไม่เคยเจอมาก่อน เลยอยากจะขอเล่าผ่านตัวอักษรครับ

☀️ประมาณบ่ายโมง ผมกำลังอยู่ในห้องประชุม ขณะที่แพทย์ประจำบ้าน ผู้ซึ่งผมเป็นที่ปรึกษา เธอกำลังนำเสนอ ผลงานโครงร่างวิจัยอย่างเข้มข้นอยู่นั้น ก็มีเสียง “ปั้ง ปั้ง ปั้ง” 💥สักสามถึงสี่ครั้ง ออกจากเพดานห้องประชุม ทันใดนั้น ผมก็รู้สึกเวียนศีรษะ มีความรู้สึกโครงเครง จึงลุกขึ้นยืน พบว่ายืนแล้วเซเล็กน้อย

❤️พร้อมกันนั้น มีรุ่นพี่รีบเดินออกมาจากห้องด้านในถัดไปอีกห้องหนึ่ง พร้อมตะโกนว่า... “แผ่นดินไหว รีบออกจากตึก”... ขณะนั้น ผมและทุกคนในห้องประชุมพยายามรีบเอาตัวออกจากตึกให้เร็วที่สุด โดยรีบเดินไปที่บันไดหนีไฟ ที่เราเดินกันอยู่ทุกวี่วัน แต่วันนี้นั้น มันไม่เหมือนเดิม ผู้คนพยายามวิ่งบ้าง เดินเร็วบ้าง เกาะราวบันไดบ้าง บ้างก็ช่วยกันพยุงลงจากบันได กันอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ตัวเองจะขยับตัวไหว 🏃🏻‍♂️

🏨ผมลงมาถึงชั้นล่างสุด และออกจากตึกมาได้ อาจารย์รุ่นพี่ท่านหนึ่ง ดึงแขนผมและพูดว่า “ออกไปให้ห่างจากตัวตึกนะเต้” ผมจึงรีบเดินไปให้อยู่ในที่โล่งที่สุดและไกลจากตึกที่สุด
..เดินไปเกือบๆจะถึงทางเลี้ยวออกหน้าโรงพยาบาล ก็มีโทรศัพท์เข้ามา ปลายสายเป็นอาจารย์วิสัญญีที่เคารพรักขึ้นมาบนหน้าจอมือถือ ว่ามีสายเรียกเข้า

ผมรับสาย เสียงปลายสายนั้น เป็นเสียงชายหนุ่มทุ้มๆ ซึ่งผมเพิ่งจะพูดคุยด้วย หลังจากผ่าตัดเสร็จไปในช่วงเช้า

👨🏻‍⚕️เสียงในสายพูดว่า “อาจารย์เต้ ออกไปจากโรงพยาบาลแล้วหรือยังครับ รบกวนขึ้นมาช่วยผ่าตัดคลอดที่ชั้น 5 ได้ไหมครับ จะได้เสร็จไว เพราะตอนนี้ แพทย์ประจำบ้านกำลังผ่าตัดอยู่”
ในใจก็คิดว่าเอาไงดี ภาพในหัวที่ปรากฎขึ้นคือ ภาพในข่าว ที่คนติดอยู่ภายใต้ซากตึกที่ถล่มลงมา แต่ก็คิดต่อไปอีกว่า “เอาวะ เป็นไงเป็นกัน”

🏃🏻‍♂️🏃🏻ผมจึงหยุดเดินและวิ่งสวนทางกลับ วิ่งไปคิดว่าเร็วกว่าตอนลงมาเสียอีก วิ่งกลับเข้าตึก ชั้น 1 เริ่มไม่มีคนแล้ว พอไปถึงบันไดหนีไฟ ผู้คน เจ้าหน้าที่และผู้ป่วย ก็กำลังทะยอยออกมาจากตึก มีเสียงพูดจากผู้คนที่ผมวิ่งสวนทางไปว่า “อาจารย์เต้ไปไหน” “อาจารย์เต้ไปทางนี้” “ลงครับ ออกด้านนี้”

🆗พอผมขึ้นไปถึงชั้น 5 ตอนนั้น ด้านนอกห้องผ่าตัดไม่มีคนแล้ว ผมวิ่งเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุด หยิบเสื้อคลุม และเดินเข้าไปยังห้องผ่าตัดห้องที่ 4 พบว่าแพทย์ประจำบ้านกำลังผ่าตัดเพื่อทำคลอดทารกอยู่ คุณพยาบาลที่รักท่านหนึ่ง เดินมาแล้วพูดว่า “เข้าเคสเลยนะคะ” ผมพยักหน้า แล้วเข้าเคสไปช่วยผ่าตัด ขณะผ่าตัดนั้น ก็ยังมีความโครงเครง และตึกยังโยกอยู่บ้างเบาๆ

🔪การผ่าตัดราบรื่นดี มารดาและทารกปลอดภัย หลังจากผ่าตัดเสร็จในไม่นาน เราก็วิ่งอีกรอบเพื่อลงจากตึก

🙂เมื่อวิ่งแบบช้าๆลงมาตรงบันไดหนีไฟทางเดิม พบว่า มีผู้ป่วยที่ผมเพิ่งผ่าตัดมดลูกให้กับเธอไปเมื่อเช้า นั่งอยู่ตรงทางเชื่อมชั้น 4 เพราะญาติๆของเธอได้พยายามอุ้มเธอลงมาแต่ เพราะหลายชั้น จึงหยุดพัก

💪🏻ผมผู้ซึ่ง adrenaline หลั่งพุ่งพล่านมาก จึงขออาสาแบกเธอขึ้นหลัง และพาเธอลงมาได้อย่างปลอดภัย แล้วเราก็มาดูแลกันต่อด้านนอก โชคดีว่า after shock ไม่รุนแรง และความร่วมมือร่วมใจของคนในโรงพยาบาล มีให้กันอย่างมากมาย เราจึงผ่านเหตุการณ์อันน่าตื่นตระหนก ที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นในเมืองไทยครั้งนี้มาได้

❤️
จอบอ
#พบหมอเต้

ปล ขออนุญาตนำภาพของแพทย์ประจำบ้านท่านหนึ่งที่โพสในไอจีมาประกอบครับ 🙂

🚮| เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะสร้างขยะพลาสติก 15.4 ล้านตันในปี 2024 โดยคิดเป็น 7% ของยอดรวมทั่วโลก (220 ล้านตัน) ชาวสิงคโปร...
28/03/2025

🚮| เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะสร้างขยะพลาสติก 15.4 ล้านตันในปี 2024 โดยคิดเป็น 7% ของยอดรวมทั่วโลก (220 ล้านตัน) ชาวสิงคโปร์เป็นผู้ผลิตขยะสูงสุดต่อหัว

======____=====____=====___======

เครดิต: ASEAN community
ที่มา: goodstatsid

🚮| Southeast Asia will generate 15.4 million tonnes of plastic waste in 2024, accounting for 7% of the global total (220 million tonnes). Singaporeans are the highest waste producers per capita.

======____=====____=====___======

Credit:ASEAN community
Source: goodstatsid

ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมงาน "รู้ทันภัยเงียบ มะเร็งลำไส้" CRC AWARENESS ในวันที่ 21 มีนาคม 2568 เวล...
21/02/2025

ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมงาน "รู้ทันภัยเงียบ มะเร็งลำไส้" CRC AWARENESS ในวันที่ 21 มีนาคม 2568 เวลา 08.30-12.00 น. ณ ลานพระบิดาชั้น 1 ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก

ร่วมฟังการเสวนา ในหัวข้อ
- รู้ทันมะเร็งลำไส้ใหญ่
- การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้
- ส่องกล้องสบายใจ
- มะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่ใช่จุดจบ
- เสียงจากประสบการณ์

กิจกรรมภายในงาน
- ให้ความรู้และปรึกษา เรื่อง การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
- การส่องกล้องและการเตรียมตัวก่อนส่องกล้องลำไส้ใหญ่
- อาหารป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ตอบคำถามชิงรางวัลพร้อมรับของที่ระลึก

เปิดลงทะเบียน เพื่อคัดกรองมะเร็งลำไส้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (100 ท่าน)​ วันที่ 15 ม.ค. - 7 มี.ค 2568 ได้ที่
https://qrco.de/bffm3D
(กรณีลงทะเบียนผ่าน จะมีเจ้าหน้าที่ โทรแจ้งและนัดหมายอีกครั้งค่ะ)​

สอบถามเพิ่มเติม หน่วยอายุรกรรม 1 โทร 02-8496600 ต่อ 2611-2612

ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
ตั้งอยู่ ถนนบรมราชชนนี ตำบลศาลายา
อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

#ศิริราชกาญจนา
#ได้โอกาสให้โอกาส
#มะเร็งลำไส้

ทำไมวัยเด็กจึงสำคัญและผูใหญ่ควรปกป้องเด็กจากการถูกกระทำรุนแรงทั้งกายและจิตใจ …🧠🥲 เครียดรุนแรงตั้งแต่วัยเด็ก (Early life ...
15/02/2025

ทำไมวัยเด็กจึงสำคัญ
และผูใหญ่ควรปกป้องเด็กจากการถูกกระทำรุนแรงทั้งกายและจิตใจ


🧠🥲 เครียดรุนแรงตั้งแต่วัยเด็ก (Early life stres) เปลี่ยนแปลงการใช้ DNA (Epigenetics) เสี่ยงโรคซึมเศร้า ตอนวัยรุ่นขึ้นไป

เราเคยเขียนไปในบทความอื่นแล้วว่า ความเครียดเรื้อรัง (Chronic stress) สามารถพัฒนาไปสู่โรคซึมเศร้าได้ คำถามคือ ทำไมทุกคนที่เครียดเรื้อรังถึงไม่เป็น

คำตอบคือ แต่ละคนเสี่ยงไม่เหมือนกัน
ปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่ส่งผลมากคือ
ความเครียดรุนแรงในวัยเด็ก (Early life stress)

นั่นเพราะในช่วงอายุน้อยกว่า 15 สมองยังมีคงมีความพัฒนาการต่อเนื่อง ทั้งการแตกแขนงของเซลล์ประสาท (neuroplasticity), การลดการแตกแขนงที่ไม่จำเป็น (neuronal pruning)

ซึ่งสมองส่วนที่มีการพัฒนามากๆ คือ Prefrontal cortex (การคิด/การยับยั้งชั่งใจ), Hippocampus (จดจำ/เรียนรู้), Amygdala (การตอบสนองเชิงอารมณ์) ซึ่งทั้ง 3 จุด มักเป็นจุดหลักๆ ในโรคซึมเศร้าที่เปลี่ยนแปลง

ซึ่งช่วงที่เสี่ยงที่สุดจะเป็นช่วง 0-7 ปีแรก และนี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมปัจจัยทางครอบครัวถึงสำคัญมากๆค่ะ

ตัวอย่างความเครียดรุนแรงที่พบเป็นเหตุได้บ่อย
▪️ การเจ็บป่วยเรื้อรัง จะเป็นแนวๆ เด็กต้องนอน รพ. บ่อยๆ รุนแรงบ่อยๆ
▪️ การทำร้ายร่างกายเด็ก (Child abuse)
▪️ การทำร้ายเชิงอารมณ์รุนแรง เช่น การตะคอกรุนแรงเป็นประจำ โดยเฉพาะไปในทางข่มขู่ถึงที่รุนแรง, การทำให้อับอายรุนแรง
▪️ การถูกทอดทิ้ง มักพบในครอบครัวที่มีการหย่าร้างและให้การดูแลบุตรหลังจากนั้นไม่ดี
▪️ การถูกบูลลี่ที่โรงเรียนในระดับรุนแรงและต่อเนื่อง
▪️ ผ่านชีวิตช่วงสงครามและความอดอยาก

เมื่อสมองถูกใช้งานหนักตั้งแต่เด็ก มีการเปิดใช้งาน stress response ตลอดเวลา ซ้ำไปซ้ำมา จะทำให้บรรดาเซลล์ประสาทเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับ DNA ด้วย 2 กลไกที่สำคัญ

🧬 DNA methylation: ยีนบางยีนจะถูกสารเล็กๆ ชื่อ Methyl มาแปะไว้ แล้วโดนปิดผนึกการทำงาน, บางยีนมีสารนี้แปะน้อยลง ทำให้ทำงานมากขึ้น

🧬 microRNA: มีการสร้างสาร microRNA มากขึ้น ซึ่งสารนี้จะเล็งทำลาย mRNA ที่กำลังจะไปสร้างโปรตีน ทำให้ถูกสกัดดาวรุ่ง โปรตีนนั้นไม่ถูกสร้าง

จะเห็นว่าสองกลไกนี้ ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงรหัสบนสาย DNA (คือไม่ใช่ mutation) แต่เป็นการปิดผนึกแทน เรียกกลไกแบบนี้ว่า Epigenetics

เหล่ายีนที่โดนผลกระทบนี้ คือยีนที่สร้างโปรตีน…

1️⃣ ตัวรับการตอบสนองฮอร์โมน cortisol (NR3C1/GR) ที่สมองส่วน hypothalamus มีจำนวนลดลง:

ทำให้กลไกการ cortisol ไม่ามารถย้อนกลับมายับยั้งระบบที่ควบคุมตัวเองได้ (HPA-axis) ผลคือ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นแล้วมีความเครียดเรื้อรัง จะทำให้ระดับ cortisol สูงและนานกว่าคนทั่วไป

2️⃣ สัญญาณที่ควบคุมการทำงานของตัวรับ cortisol (FKBP5) ที่สมองส่วน hypothalamus มีจำนวนลดลง:

ผลจะเหมือนกับข้อ 1 เลยค่ะ คือเครียดเรื้อรังแล้ว cortisol จะสูงและนานกว่าคนปกติ

3️⃣ สารเร่งการแตกแขนงของเซลล์ประสาท BDNF มีจำนวนลดลง:

ผลคือทำให้การแตกแขนงและการพัฒนาของเซลล์ประสาทในช่วงพัฒนาการช้าลง ถ้าโดนจุดที่เกี่ยวกับอารมณ์ ก็จะเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าในอนาคต

4️⃣ โปรตีนเคลียร์สาร serotonin (SLC6A4/SERT) มีจำนวนลดลง:

ผลคือสารสื่อประสาท serotonin ถูกเคลียร์ช้าลง กระตุ้นเซล์ประสาทมากเกินไป จนทำให้เซลล์ประสาทปลายทางลดการตอบสนองต่อ serotonin ดังนั้นหากในอนาคตมี serotonin ต่ำลง ก็จะซึมเศร้ารุนแรง

5️⃣ ตัวรับสัญญาณจาก serotonin (5-HT1RA) มีจำนวนลดลง:

ผลจะคล้ายข้อ 4 คือ serotonin จะกระตุ้นได้เบาลง

จะเห็นว่าผลลัพธ์มันจะทำให้ การพัฒนาสมองนำไปสู่ สมองที่ไวควบคุมระดับ cortisol ไม่ดี, มีสารกระตุ้น BDNF น้อย, มีแนวโน้ม serotonin ลดลง

ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ แล้วเจอความเครียดเรื้อรังมา trigger แล้วมีโอกาสสูงมากที่จะพัฒนาไปเป็นโรคซึมเศร้า

จริงๆ ไม่ใช่แค่ซึมเศร้า แต่เพิ่มความเสี่ยงหลายโรคเลย เช่น โรควิตกกังวล, โรคจิตเภท แต่กลไกจะแตกต่างกันไป

ที่น่าสนใจคือมีความแตกต่างระหว่างเพศด้วยค่ะ

▪️ ในผู้หญิงมันจะเหนี่ยวนำไปในทางสมองไวต่อการรับรู้อารมณ์เชิงลบ คือมาแนวๆ เซนซิทิฟ ไวต่อสารเชิงลบมาก เกิดอารมณ์เศร้าง่ายมาก

▪️ ส่วนผู้ชายจะเหนี่ยวไปในทางการตอบสนองต่ออารมณ์เชิง(Externalization behavior) คือจะมาแนวๆ แก้ไขปัญหา stress ด้วยวิธีอันตราย เช่น ใช้ความรุนแรง

🔮 สรุป: การได้รับ stress ในวัยเด็กรุนแรง เช่น ทำร้ายร่างกาย/ใช้ความรุนแรง/ถูกทอดทิ้ง จะปิดผนึก/เปิดผนึกยีนหลายจุด นำไปสู่การพัฒนาของสมองที่เสียระบบควบคุมฮอร์โมนเครียด/การสร้างสารกระตุ้นBDNF/วงจร serotonin ทำให้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว ปะทะความเครียดเรื้อรัง มีโอกาสสูงที่จะพัฒนาเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ

“ชีวิตในช่วงวัยเด็ก เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากๆ ค่ะ”

🧠🥲 เครียดรุนแรงตั้งแต่วัยเด็ก (Early life stres) เปลี่ยนแปลงการใช้ DNA (Epigenetics) เสี่ยงโรคซึมเศร้า ตอนวัยรุ่นขึ้นไป

เราเคยเขียนไปในบทความอื่นแล้วว่า ความเครียดเรื้อรัง (Chronic stress) สามารถพัฒนาไปสู่โรคซึมเศร้าได้ คำถามคือ ทำไมทุกคนที่เครียดเรื้อรังถึงไม่เป็น

คำตอบคือ แต่ละคนเสี่ยงไม่เหมือนกัน
ปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่ส่งผลมากคือ
ความเครียดรุนแรงในวัยเด็ก (Early life stress)

นั่นเพราะในช่วงอายุน้อยกว่า 15 สมองยังมีคงมีความพัฒนาการต่อเนื่อง ทั้งการแตกแขนงของเซลล์ประสาท (neuroplasticity), การลดการแตกแขนงที่ไม่จำเป็น (neuronal pruning)

ซึ่งสมองส่วนที่มีการพัฒนามากๆ คือ Prefrontal cortex (การคิด/การยับยั้งชั่งใจ), Hippocampus (จดจำ/เรียนรู้), Amygdala (การตอบสนองเชิงอารมณ์) ซึ่งทั้ง 3 จุด มักเป็นจุดหลักๆ ในโรคซึมเศร้าที่เปลี่ยนแปลง

ซึ่งช่วงที่เสี่ยงที่สุดจะเป็นช่วง 0-7 ปีแรก และนี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมปัจจัยทางครอบครัวถึงสำคัญมากๆค่ะ

ตัวอย่างความเครียดรุนแรงที่พบเป็นเหตุได้บ่อย
▪️ การเจ็บป่วยเรื้อรัง จะเป็นแนวๆ เด็กต้องนอน รพ. บ่อยๆ รุนแรงบ่อยๆ
▪️ การทำร้ายร่างกายเด็ก (Child abuse)
▪️ การทำร้ายเชิงอารมณ์รุนแรง เช่น การตะคอกรุนแรงเป็นประจำ โดยเฉพาะไปในทางข่มขู่ถึงที่รุนแรง, การทำให้อับอายรุนแรง
▪️ การถูกทอดทิ้ง มักพบในครอบครัวที่มีการหย่าร้างและให้การดูแลบุตรหลังจากนั้นไม่ดี
▪️ การถูกบูลลี่ที่โรงเรียนในระดับรุนแรงและต่อเนื่อง
▪️ ผ่านชีวิตช่วงสงครามและความอดอยาก

เมื่อสมองถูกใช้งานหนักตั้งแต่เด็ก มีการเปิดใช้งาน stress response ตลอดเวลา ซ้ำไปซ้ำมา จะทำให้บรรดาเซลล์ประสาทเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับ DNA ด้วย 2 กลไกที่สำคัญ

🧬 DNA methylation: ยีนบางยีนจะถูกสารเล็กๆ ชื่อ Methyl มาแปะไว้ แล้วโดนปิดผนึกการทำงาน, บางยีนมีสารนี้แปะน้อยลง ทำให้ทำงานมากขึ้น

🧬 microRNA: มีการสร้างสาร microRNA มากขึ้น ซึ่งสารนี้จะเล็งทำลาย mRNA ที่กำลังจะไปสร้างโปรตีน ทำให้ถูกสกัดดาวรุ่ง โปรตีนนั้นไม่ถูกสร้าง

จะเห็นว่าสองกลไกนี้ ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงรหัสบนสาย DNA (คือไม่ใช่ mutation) แต่เป็นการปิดผนึกแทน เรียกกลไกแบบนี้ว่า Epigenetics

เหล่ายีนที่โดนผลกระทบนี้ คือยีนที่สร้างโปรตีน…

1️⃣ ตัวรับการตอบสนองฮอร์โมน cortisol (NR3C1/GR) ที่สมองส่วน hypothalamus มีจำนวนลดลง:

ทำให้กลไกการ cortisol ไม่ามารถย้อนกลับมายับยั้งระบบที่ควบคุมตัวเองได้ (HPA-axis) ผลคือ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นแล้วมีความเครียดเรื้อรัง จะทำให้ระดับ cortisol สูงและนานกว่าคนทั่วไป

2️⃣ สัญญาณที่ควบคุมการทำงานของตัวรับ cortisol (FKBP5) ที่สมองส่วน hypothalamus มีจำนวนลดลง:

ผลจะเหมือนกับข้อ 1 เลยค่ะ คือเครียดเรื้อรังแล้ว cortisol จะสูงและนานกว่าคนปกติ

3️⃣ สารเร่งการแตกแขนงของเซลล์ประสาท BDNF มีจำนวนลดลง:

ผลคือทำให้การแตกแขนงและการพัฒนาของเซลล์ประสาทในช่วงพัฒนาการช้าลง ถ้าโดนจุดที่เกี่ยวกับอารมณ์ ก็จะเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าในอนาคต

4️⃣ โปรตีนเคลียร์สาร serotonin (SLC6A4/SERT) มีจำนวนลดลง:

ผลคือสารสื่อประสาท serotonin ถูกเคลียร์ช้าลง กระตุ้นเซล์ประสาทมากเกินไป จนทำให้เซลล์ประสาทปลายทางลดการตอบสนองต่อ serotonin ดังนั้นหากในอนาคตมี serotonin ต่ำลง ก็จะซึมเศร้ารุนแรง

5️⃣ ตัวรับสัญญาณจาก serotonin (5-HT1RA) มีจำนวนลดลง:

ผลจะคล้ายข้อ 4 คือ serotonin จะกระตุ้นได้เบาลง

จะเห็นว่าผลลัพธ์มันจะทำให้ การพัฒนาสมองนำไปสู่ สมองที่ไวควบคุมระดับ cortisol ไม่ดี, มีสารกระตุ้น BDNF น้อย, มีแนวโน้ม serotonin ลดลง

ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ แล้วเจอความเครียดเรื้อรังมา trigger แล้วมีโอกาสสูงมากที่จะพัฒนาไปเป็นโรคซึมเศร้า

จริงๆ ไม่ใช่แค่ซึมเศร้า แต่เพิ่มความเสี่ยงหลายโรคเลย เช่น โรควิตกกังวล, โรคจิตเภท แต่กลไกจะแตกต่างกันไป

ที่น่าสนใจคือมีความแตกต่างระหว่างเพศด้วยค่ะ

▪️ ในผู้หญิงมันจะเหนี่ยวนำไปในทางสมองไวต่อการรับรู้อารมณ์เชิงลบ คือมาแนวๆ เซนซิทิฟ ไวต่อสารเชิงลบมาก เกิดอารมณ์เศร้าง่ายมาก

▪️ ส่วนผู้ชายจะเหนี่ยวไปในทางการตอบสนองต่ออารมณ์เชิง(Externalization behavior) คือจะมาแนวๆ แก้ไขปัญหา stress ด้วยวิธีอันตราย เช่น ใช้ความรุนแรง

🔮 สรุป: การได้รับ stress ในวัยเด็กรุนแรง เช่น ทำร้ายร่างกาย/ใช้ความรุนแรง/ถูกทอดทิ้ง จะปิดผนึก/เปิดผนึกยีนหลายจุด นำไปสู่การพัฒนาของสมองที่เสียระบบควบคุมฮอร์โมนเครียด/การสร้างสารกระตุ้นBDNF/วงจร serotonin ทำให้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว ปะทะความเครียดเรื้อรัง มีโอกาสสูงที่จะพัฒนาเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ

“ชีวิตในช่วงวัยเด็ก เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากๆ ค่ะ”

ข้อมูลวิเคราะห์สถานการณ์สุขภาพและการเผาที่เกี่ยวข้องกับฝุ่น PM2.5 เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี ! 📒ปี 2567 พื้นที่ไหนในประเทศไทยที...
14/02/2025

ข้อมูลวิเคราะห์สถานการณ์สุขภาพและการเผาที่เกี่ยวข้องกับฝุ่น PM2.5 เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี ! 📒

ปี 2567 พื้นที่ไหนในประเทศไทยที่เผชิญปัญหาฝุ่น PM2.5 บ้าง สาเหตุและปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดหมอกควันพิษปกคลุมชีวิตคนไทยคืออะไร มาหาคำตอบที่เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ได้ใน "ข้อมูลวิเคราะห์สถานการณ์สุขภาพและการเผาที่เกี่ยวข้องกับฝุ่น PM2.5” ดาวน์โหลดรายงานได้ที่ https://tinyurl.com/52a76k7b

แล้วพบกันตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. งาน "PM2.5 Talk Forum รู้ลึกก่อนใคร… สถานการณ์ฝุ่นปี 2567 เพื่อเฝ้าระวังอนาคต” อย่าลืมตั้งเตือนไว้ แล้วมาพบกัน !

อย่าลืมกด ‘Like / Follow’ ไว้ติดตามข้อมูล ข่าวสารและกิจกรรมดี ๆ อีกมากมายที่
เว็บไซต์ : Resourcecenter.thaihealth.or.th/
YouTube : ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ
Email : Thaihealthcenter@thaihealth.or.th

#สสส #ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ #สานพลัง #สร้างนวัตกรรม #สื่อสารสุข #ฝุ่นPM25 #ฝุ่น #เทรนด์สุขภาพ2025

28/01/2025

"มองออกไปข้างนอกเห็นหมดว่าฝุ่นยังไง พี่เห็นหมด ฝุ่นเข้ามาวันก่อน เกาะถ้วยชาม ขวด กะละมัง พี่เห็นหมด ก็ต้องเช็ด ต้องล้างใหม่ พี่ก็เลยบอก[สามี]ว่ามีแผ่นป้ายโฆษณาไหม เอามาติดหน่อย" ลัดดาเล่าถึงความพยายามจะทำให้ห้องเช่าของเธอปลอดฝุ่น อ่านเรื่องราวความเป็นอยู่ของเด็กในชุมชนแออัด ในระหว่างกรุงเทพฯ จมฝุ่น PM2.5 ได้ที่:https://bbc.in/4jCbRBh

28/01/2025

งายวิจัย การวิ่ง การออกกำลังกายในภาวะฝุ่น อันตรายของฝุ่นPM2.5 ลึกกว่าที่คิด ในระยะยาว


พีรภัทร ศิริเรือง นักศึกษาปริญญาเอก ด้าน Clinical Exercise หวังสะท้อนปัญหาฝุ่นในไทยที่อยู่ในขั้นวิกฤต ผ่านผลงานวิจัยของชาวอินโดนีเซีย ที่พบว่า การวิ่งในพื้นที่ที่มีฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน เป็นอันตรายต่อปอด-เลือด และสุขภาพในระยะยาว โดยเขายังหวังว่าจะมีการแก้ปัญหาฝุ่นอย่างจริงจัง เพื่อคืนอากาศให้กลุ่มคนชอบออกกำลังกายและนักกีฬา

#วิ่ง #วิ่งฝ่าฝุ่น #ฝุ่นPM25 #ฝุ่นพิษ #ค่าฝุ่นวันนี้ #ข่าวไทยพีบีเอส #ข่าวที่คุณวางใจ

 #ส่งความสุข   #ส่งความสดชื่นด้วยผลิตภัณฑ์จากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ  #พิเศษสำหรับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพช่วงปีใหม่ ยาดมน้...
28/12/2024

#ส่งความสุข #ส่งความสดชื่นด้วยผลิตภัณฑ์จากน้ำมันหอมระเหย
ธรรมชาติ
#พิเศษสำหรับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพช่วงปีใหม่

ยาดมน้ำมันหอม ขนาด 5 มล. และ 10 มล. บรรจุถุงผ้าติดลูกไม้ฝ้าย งาน Handmade ไม่เหมือนใคร ราคา 65 และ 85 บาท
อโรมสเปรย์ ขนาด 100 มล. บรรจุถุงผ้าติดลูกไม้ฝ้าย งาน Handmade ราคา 165 บาท
ราคาละเอียดสินค้า
ยาดมน้ำมันหอมจาก Mood Indogo
คัดสรรการบูรและเมนทอล เกรดพิเศษสำหรับทำยา
ปรุงกลิ่นด้วยน้ำมันหอมระเหย(Essencetial Oil) สกัดจากธรรมชาติ 100%
เพื่อความปลอดภัยและเพิ่มคุณประโยชน์ จากคุณค่าของน้ำมันหอมระเหย
ปลอดกลิ่นสังเคราะห์
ใช้ดมเพื่อเพิ่มความสดชื่น ผ่อนคลาย ลดอาการวิงเวียน
เพิ่มคุณสมบัติพิเศษ ตามกลิ่นน้ำมันหอมระเหย 3 กลิ่น
1.น้ำมันหอมระเหยกลิ่นส้ม ช่วยเพิ่มความสดชื่น
2.น้ำมันหอมระเหยกลิ่นเปปเปอร์มิ้นต์ ช่วยให้รู้สึกกระปรี่กระเปร่า
3.น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ ช่วยคลายเครียด
บรรจุในขวดสีชา เพื่อรักษาคุณสมบัติของน้ำมันหอม
ลูกกลิ้งโลหะทนทาน
ขนาด 5 มล.
ขวดละ 45 บาท 3 ขวด 120 บาท
แบบบรรจุถุงผ้า ขวดละ 65 บาท ซื้อ 10 ขวด แถม 2 ขวด
ขนาด 10 มล.
ขวดละ 65 บาท 3 ขวด 180 บาท
แบบบรรจุถุงผ้า ขวดละ 85 บาท ซื้อ 10 ขวด แถม 2 ขวด
อโรมาสเปรย์
1️⃣ ความหอมช่วยฆ่าเชื้อโรคและบำบัดความเครียด จากน้ำมันหอมระเหยสกัดจากธรรมชาติ 100%
2️⃣ ปลอดภัยด้วย เอทิลแอลกอฮอล์ ฟูดเกรด ขององค์กรสุรา
3️⃣ ใช้ฉีดพ่นฆ่าเชื้อบนพื้นผิวต่างๆ ฉีดในรถและในห้องนอน ห้องทำงาน เพื่อบรรยากาศที่สะอาดและผ่อนคลาย
4️⃣ อโรมาสเปรย์ เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับการใช้ในรถและในที่ทำงาน จากคุณสมบัติที่ดีของทั้ง 3 กลิ่น
1.Summer Garden เป็นการผสมผสานของกลิ่นดอกสายน้ำผึ้ง ส้ม มะนาว และเกรฟฟรุต ให้ความหอมหวาน แบบสดชื่น เหมือนนั่งพักสบายๆ ในสวนยามฤดูร้อน
2.Vanilla Sky ท้องฟ้าสีครามอมเหลืองในยามเย็นให้ความรู้สึก สงบ และผ่อนคลาย เหมือนการผสมผสานของกลิ่นหวานๆจากฝักวนิลลา ดอกลาเวนเดอร์ ที่ไม่เพียงช่วยให้รู้สึกสงบ ยังมีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อ และมะนาวที่มาช่วยเติมความสดใส
3.Clean Air ประกอบด้วยทีทรีเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในแง่ช่วยฆ่าเชื้อโรค เช่นเดียวกับยูคาลิปตัส ที่ส่งผลดีต่อระบบทางเดินหายใจ ผสมกับกลิ่นสดชื่นของมะนาว ให้ความรู้สึกโล่งสบาย กระปรี่กระเปร่า เหมือนกับที่เราได้สูดลมหายใจสะอาดๆ เต็มปอด
5️⃣ ขนาด 100 มล. 145 บาท 3 ขวด 380 บาท
แบบ บรรจุถุง ขวดละ 165 บาท 3 ขวด 450 บาท
ค่าส่งทั่วประเทศ 20 บาท
#ทางเลือกที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น #ของขวัญปีใหม่ #ของขวัญพิเศษ
#น้ำมันหอมสำหรับสูดดม #แตกต่างที่ความปลอดภัย

เปิดโปง สินบนจากบริษัทยา บทความนี้ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน (journal of American Medical Association JAMA) วันที...
24/12/2024

เปิดโปง สินบนจากบริษัทยา
บทความนี้ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน (journal of American Medical Association JAMA) วันที่ 10 ตุลาคม 2024
• รายงานถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกรรมการผู้พิจารณาบทความ (reviewers) ว่า แท้จริงแล้ว เกินครึ่งของบุคคลกรรมการเหล่านี้ ต่างได้รับเงินสนับสนุนในการศึกษาวิจัย หรือเงินสนับสนุนในด้านผลิตภัณฑ์เครื่องมือ ต่างๆ จากบริษัทที่ตรงมาเข้าบุคคลนั้น หรือที่เข้ามายังบุคคลนั้น และสถาบันที่บุคคลนั้นอยู่

• และเป็นประเด็นที่ตั้งคำถามถึง ความเที่ยงตรง integrity และ ความมีอิสระเที่ยงตรงในการตัดสิน ในการที่จะไม่รับ หรือรับตีพิมพ์บทความที่ส่งเข้ามา

• และหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ จากหลายสถาบัน ในต่างประเทศ รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอังกฤษ ต่างให้ข้อมูลที่ตนเองประสบและถ่ายทอดในสื่อต่างๆโดยเฉพาะที่ประสบในช่วงโควิด
ที่เกี่ยวข้องกับการไม่ให้ลงตีพิมพ์ การใช้ยาบางตัว ที่มีการทดสอบแล้วว่าได้ผลทั้งๆที่ราคาถูก เข้าถึงได้ และจนกระทั่งถึงงานที่ตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการถอดออก และ ที่สำคัญก็คือเรื่องผลกระทบของวัคซีนที่ ถึงชีวิตหรือพิการ

• วารสารที่ถูกเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ ที่กรรมการพิจารณาบทความได้รับเงินสนับสนุน ต่างก็เป็นวารสารชั้นนำ เช่น British Medical journal Lancet New England journal เป็นต้น
โดยมูลค่าของเงินสนับสนุนเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 1,000,000,000 เหรียญสหรัฐ

https://jamanetwork.com/journals/jama/article-abstract/2824834?utm_source=substack&utm_medium=email

เชื่อถือได้หรือ? https://mgronline.com/qol/detail/9670000100753

นักวิชาการ วิจัย แพทย์ วารสาร รับสินบนบริษัทยา 1000 ล้านเหรียญ

ที่อยู่

Taweewattana
Bangkok
10170

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Heal By Natureผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

HEaL

HEaL Application ช่วยดูแลสุขภาพรายบุคคล ตามแนวทางดุลยภาพบำบัด เพื่อสุขภาพที่ดี และชีวิตที่ยืนยาว