D-Boon ดีบูน ฟื้นฟูกระดูกและข้อ

D-Boon ดีบูน ฟื้นฟูกระดูกและข้อ ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก D-Boon ดีบูน ฟื้นฟูกระดูกและข้อ, Bangkok.

2017.04.29 วันเสาร์
10:55 wicheat(kee) รูปภาพ
10:55 PATTA สตื๊กเกอร์
10:57 wicheat(kee) รูปภาพ
10:57 Somsuk 0859702341 รูปภาพ
10:58 KHON SOE OO
10:58 Panthita
10:58 รัตนเกล้า*tuitui*
10:58 dang 0865581755
10:58 mingkwan ��
10:58 ประภาพันธ์ พัดเยนชื
10:58 Tangmo
10:58 กัญจนา จันทกุล
10:58 Rassamee
10:58 �Kitiyakorn��
10:58 ChaYaPha
10:58 ดีเจ ไมเคิล แม่สอด
10:58 T.CHAIDEJ
10:58 สุชาติ เทพทอง
10:58 วิทยา ดีคอนแทค โคราช
10:58 อนันต์ 091 989 9099
10:58 PUY....Natnalin
10:58 Supot Khunban
10:58 sao pb
10:58 อุไรวรรณ
10:58 ต้นอ้อย 096-9064604
10:59 สายตาดีby dj.นัท
10:59 Sumonrat Thamvaranon
10:59 Niwat.Prem26
10:59 Supot Khunban สตื๊กเกอร์
10:59 ��Namtarn��
10:59 Mon
10:59 สมพร แสงกล้า
10:59 fon
10:59 joe_padol
10:59 เจี๊ยบ -ชลากร
10:59 กนกธร ใจพรมมา รูปภาพ
10:59 Nat natthamon
10:59 Oilnaka
10:59 Boonlue_0876809355
10:59 puttimas
10:59 แตงโจ้ ขส.ทบ
10:59 Chaisuriya T.
10:59 pilaiporn(Lar)
10:59 Samphanrit Jannak
10:59 Tangmo
10:59 Art
10:59 Pooja_supaporn
10:59 โอม
11:00 Hut
11:00 Best Nan
11:00 ทักษ์ขุนเดช หิมะคุณ
11:00 Chomphoo ��
11:00 จิราพร0649835449ปุ้ย
11:00 Daeng Sithiroj
11:01 ทักษ์ขุนเดช หิมะคุณ สตื๊กเกอร์
11:01 pkunk
11:01 ปราณี สีบท
11:01 ninlaka
11:01 จอห์น จิ
11:01 pilaiporn(Lar)
11:01 BEN.มาซาฮิโกะ�
11:01 Tangmo
11:02 Chorawee Khamtanit
11:02 โอม สตื๊กเกอร์
11:02 ธัญ
11:02 MINT
11:02 รุ้งค่ะ� 0952632294
11:02 wicheat(kee) รูปภาพ
11:02 ��D'pksw'k��
11:02 KAO.자우
11:02 A-PATแอดแล้วทักเลยคะ
11:02 เกรียงไกร รูปภาพ
11:02 �ศูนย์สุขภาพดี�
11:03 ��หลิว..อลิษา��
11:03 รุ้งค่ะ� 0952632294 รูปภาพ
11:03 อริสา
11:03 อนันต์ 091 989 9099 รูปภาพ
11:04 ��D'pksw'k�� รูปภาพ
11:05 Naga Shop�0909594639
11:05 Rungfah รูปภาพ
11:05 ปราณี สีบท รูปภาพ
11:06 พิศิษฐ คำพันธ์
11:08 wai thao รูปภาพ
11:14 MEW(หมิว)
11:16 เกรียงไกร ☆ส่วนประกอบที่สำคัญ☆
1.คอลลาเจนจากปลาทะเล (Hydrolyed Fish Collagen)
2.สารสกัดจากเปลือกสน (Pine bark extract ) MSM
3.วิตามิน ซี (Vitamin C)
4.สารสกัดจากขมิ้น (Turmeric Extract)
5.วิตามิน ดี 3 (Vitamin D 3)
6.แคลเซียม คาร์บอเนต (Calcium Carbonate )
>>เหมาะสำหรับ
~ โรคข้อเข่าเสื่อม
~ โรคกระดูกพรุน
~ โรคข้ออักเสบ,รูมาตอย,เก๊าท์
~ โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน, กระดูกทับเส้นประสาท
~ นิ้วล็อค โรคฮิตของคนทำงาน
~ กลุ่มนักกีฬา
~ ผู้ที่ต้องการเพิ่มความสูง
~ ช่วยเรื่องความเสื่อมของอวัยวะต่างๆในร่างกาย
~ ผู้ที่ปวดเมื่อยตามกระดูก ข้อเข่า สันหลัง ไหล่บ่า คอ
~ วัยหมดประจำเดือน ขาดแคลเซียม
~ อาชีพที่ต้องยืนนาน

โรคกระดูกสันหลังเคลื่อน (Spondylolisthesis)อาการของโรคกระดูกสันหลังเคลื่อนอาการที่หลัง: ปวดหลังเรื้อรัง มักเกิดอาการในขณ...
22/05/2017

โรคกระดูกสันหลังเคลื่อน (Spondylolisthesis)
อาการของโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน
อาการที่หลัง: ปวดหลังเรื้อรัง มักเกิดอาการในขณะที่มีการขยับหลังมาก เช่น การก้ม เงย หรือเดิน

อาการที่ขา: ปวด ชา หนักที่บริเวณสะโพกหรือต้นขา 2 ข้าง อาการจะเป็นมากขณะเดิน และอาการจะบรรเทาเมื่อมีการก้มโค้งหลังหรือได้นั่งพัก ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าระยะทางที่เดินได้จะสั้นลงเรื่อยๆ หากโพรงประสาทตีบแคบมากอาจทำให้การควบคุมการขับถ่ายอุจจาระ/ปัสสาวะเสียไปได้

สาเหตุของโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน
ข้อต่อกระดูกสันหลังเสื่อมมาก หรือผิดปกติแต่กำเนิด
กระดูกสันหลังส่วน pars interarticularis หัก
อุบัติเหตุและการบาดเจ็บต่อกระดูกสันหลัง

การรักษาโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน
การผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูกสันหลัง
การผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงกระดูกสันหลังด้วยวิธีดั้งเดิม
การผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงกระดูกสันหลังด้วยวิธีเปิดแผลเล็ก
CR : https://www.bumrungrad.com
ถ้าไม่อยากผ่า # # # # # สนใจปรึกษาฟรีหรือสั่งซื้อ "D-Boone" ดีบูน # # #=ช่วยฟื้นฟูดูแลกระดูกและข้อ # #มี อ.ย.
ของแท้ 100% จากบริษัท
โทร : 065-0523529 by ju

“ผักและผลไม้ที่ช่วยในการป้องกันโรคกระดูก”1. กะหล่ำปลี ... ใน “กะหล่ำปลีดิบ” อุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยในการเ...
22/05/2017

“ผักและผลไม้ที่ช่วยในการป้องกันโรคกระดูก”
1. กะหล่ำปลี ... ใน “กะหล่ำปลีดิบ” อุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยในการเสริมสร้างและบำรุงกระดูก และยังมีวิตามินเอและซีสูง ทำให้ช่วยบำรุงสายตาและยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้ร่างกายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีกรดทาร์ทาริก ซึ่งมีส่วนช่วยในการยับยั้งและขัดขวางไม่ให้แป้งและน้ำตาลเปลี่ยนเป็นไขมันอีกด้วย พูดง่ายๆคือมีส่วนในการช่วยลดคอเลสเตอรอลและลดน้ำหนักได้ค่ะ

2. กล้วย ... นอกจากจะเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูงแล้วยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆหลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น มีแคลเซียมและโพแทสเซียมที่ช่วยในการเสริมสร้างและบำรุงกระดูก มีวิตามินชนิดต่างๆที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหน็บชา โรคหวัด โรคเลือดออกตามไรฟัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุที่สำคัญๆอีกหลายชนิด เช่น ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และธาตุเหล็กที่ช่วยในเรื่องของโลหิตจางได้เป็นอย่างดี

3. บล๊อคโคลี ... เป็นผักที่มีแคลเซียมสูงเช่นกัน ทำให้ช่วยในเรื่องของการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง นอกจากนี้จะมีวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆที่สำคัญอีกหลายชนิด ทำให้ช่วยบำรุงในเรื่องของสายตาและผิวพรรณ ช่วยป้องกันความดันโลหิตสูง ช่วยต่อต้านและป้องกันอนุมูลอิสระ และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วย
4. กีวี ... เป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด มีแคลเซียมที่ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และยังช่วยป้องกันฟันผุได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีวิตามินต่างๆมากมาย ทำให้ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้เป็นอย่างดี และยังช่วยในเรื่องของการลดระดับคอเลสเตอรอล ความดันสูง และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วยนะคะ
5. ผักคะน้า ... เป็นผักใบเขียวที่มีแคลเซียมสูง ทำให้ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดีและยังช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่ายกายได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่เป็นประโยชน์กับร่างกายของเราอีกหลายชนิดด้วยกัน
6. ใบยอ ... เป็นผักพื้นบ้านที่มีแคลเซียมสูงถึง 469 มิลลิกรัม ซึ่งถือได้ว่าเป็นผักที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกได้เป็นอย่างดี และยังมีวิตามินเอและซีค่อนข้างสูงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ซึ่งถือว่าเป็นสารที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายเป็นอย่างมากจริงๆค่ะ
7. หอมหัวใหญ่ ... เป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารประกอบต่างๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 300 ชนิดด้วยกัน จึงถือได้ว่าเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสูงมาก เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน ซิลิเนียม เบต้าแคโรทีน กรดโฟลิก ฟลาโวนอยด์ และเควอเซทิน ที่ช่วยยับยั้งความเสื่อมของกระดูก เพราะฉะนั้นการทานหัวหอมใหญ่เพียงวันละ 1 กรัม ก็เพียงพอกับการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงได้แล้ว
CR : http://www.gunengosothonline.com

โดยทั่วไปเมื่อนึกถึงอาหารบำรุงกระดูก ส่วนใหญ่มักจะนึกถึงแคลเซียมเป็นหลัก แคลเซียมเป็นสารอาหารจำพวกแร่ธาตุที่ร่างกายต้องก...
22/05/2017

โดยทั่วไปเมื่อนึกถึงอาหารบำรุงกระดูก ส่วนใหญ่มักจะนึกถึงแคลเซียมเป็นหลัก แคลเซียมเป็นสารอาหารจำพวกแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการในปริมาณสูง เพื่อใช้ในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันในแต่ละวัน

อาหารบำรุงกระดูก
เนื่องจากกระดูกจะปล่อยแคลเซียมให้แก่เลือดในปริมาณน้อยๆ ทุกวัน โดยเลือดจะนำแคลเซียมจากกระดูกไปใช้ทำหน้าที่ต่างๆ มากมาย ขณะเดียวกันร่างกายก็จะนำเอาแคลเซียมจากเลือด วนกลับเข้าไปเก็บไว้ในกระดูกทุกวันเช่นกัน ซึ่งแคลเซียมที่ได้ก็มาจากการดูดซึมจากทางเดินอาหารวันละสองสามครั้ง ตามมื้ออาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั่นเอง

ในแต่ละวันร่างกายต้องการแคลเซียมประมาณ 800-1,200 มิลลิกรัม อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมสูงมาก ได้แก่ นมสด ปลาตัวเล็กๆ ปูกะตอย เครื่องดื่มรสช๊อคโกแล็ต รวมถึงอาหารพื้นบ้านชาวอีสานอย่าง กบ เขียด แย้ เป็นต้น จัดได้ว่าเป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูงมาก นอกจากนี้ยังมี โยเกิร์ต กุ้ง กะปิ เต้าหู้ และผักบางชนิดจำพวกผักใบเขียว ก็มีแคลเซียมด้วยเช่นกัน

รับแคลเซียมน้อยเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าเป็นในเด็กจะมีการสร้างกระดูกน้อย ทำให้การเจริญเติบโตไม่ดี และความหนาแน่นของกระดูกไม่ถึงจุดสูงสุดสำหรับผู้ใหญ่ทำให้ความหนาแน่นของกระดูกน้อยลง กระดูกไม่แข็งแรง เป็นตะคริวง่าย เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน

รับแคลเซียมมากไปจะเกิดอะไรขึ้น
แคลเซียมจากการรับประทานอาหาร จะไม่มากเกินจนเกิดพิษต่อร่างกาย แต่อาจส่งผลให้ได้รับสารอาหารอย่างอื่นมากเกินความต้องการของร่างกายได้ เช่น โซเดียม ไขมัน เป็นต้น แต่หากรับแคลเซียมจากอาหารเสริม จะต้องระวังเรื่องสมดุลของแคลเซียม เพราะถ้าเสริมแคลเซียมเป็นประจำมากเกินไป โดยที่ร่างกายมีภาวะแมกนีเซียมต่ำ ซึ่งแมกนีเซียมจะเป็นตัวควบคุมการเคลื่อนไหวของแคลเซียม อาจเกิดปัญหาแคลเซียมไปสะสมอยู่ตามกล้ามเนื้อ จนเป็นเหตุให้การหดตัวของกล้ามเนื้อไม่ปกติ เกิดอาการสั่น เป็นตะคริว หากผนังหลอดเลือดเกิดเป็นตะคริว จะทำให้เกิดโรคหัวใจตีบ หลอดเลือดหัวใจแข็งตัว เป็นต้น ถ้าหากเสริมแคลเซียมสูง ก็ควรเสริมแหล่งอาหารที่มีแมกนีเซียมสูงให้ได้สมดุลกันไปด้วยเช่นกัน

ดังนั้น การบริโภคแคลเซียมเพียงอย่างเดียว จึงไม่เพียงพอต่อการเสริมสร้างกระดูก เพราะนอกจากแคลเซียมแล้ว กระดูกยังต้องการวิตามินดี แมกนีเซียม วิตามินเค แมงกานีส สังกะสี และทองแดงอีกด้วย

วิตามินดี : ถ้าร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายดูดซับแคลเซียมได้เพียง ร้อยละ 10-15 เท่านั้น แหล่งของวิตามินดีที่สำคัญคือ แสงแดด อาหารที่มีวิตามินดี คือ นม ปลาแซลมอน กุ้ง เป็นต้น

แมกนีเซียม : ปริมาณครึ่งหนึ่งของแมกนีเซียมในร่างกายอยู่ที่กระดูก ซึ่งจะช่วยดูดซับและใช้วิตามินดี อาหารที่มีแมกนีเซียมสูง เช่น อัลมอนด์ ผักขม ถั่วอัลฟัลฟ่า

วิตามินเค : ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ไม่หักง่าย อาหารที่มีวิตามินเคสูง เช่น ผักขม บร็อคโคลี ผักใบเขียว

เกลือแร่ : นอกจากนี้ในแต่ละวันร่างกายยังต้องการ แมงกานีสและสังกะสี ซึ่งถั่ว ธัญญพืชต่าง ๆ สับปะรด มะเขือเทศ และเต้าหู้ มีทองแดงและแมงกานีสสูง ส่วนอาหารทะเล เนื้อแดง ถั่ว เป็นแหล่งของสังกะสี
อาหารบำรุงกระดูก

โดยสรุป ร่างกายต้องการแคลเซียมประมาณวันละ 800-1,200 มิลลิกรัม ต้องการแมกนีเซียมวันละประมาณ 150 มิลลิกรัม ต้องการวิตามินดีวันละ 200 หน่วยสากล หากรับประทานอาหารให้ถูกสัดส่วน เพิ่มผักใบเขียว เสริมด้วยถั่ว และอาหารทะเลบ่อยๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่ากระดูกจะสึกหรอก่อนวัยอันควรอีกต่อไป...
CR : https://www.vejthani.com

นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพนิ้วล็อกนิ้วล็อก หมายถึง อาการที่งอข้อนิ้วมือ  แล้วเหยียดขึ้นเองไม่ได้เหมือนถูกล็อก  เป็นโรคที่...
21/05/2017

นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ
นิ้วล็อก

นิ้วล็อก หมายถึง อาการที่งอข้อนิ้วมือ แล้วเหยียดขึ้นเองไม่ได้เหมือนถูกล็อก เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนทั่วไปที่ต้องใช้มือจับสิ่งของ หรืออุปกรณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่องบ่อยๆ โรคนี้ไม่มีอันตรายใดๆ เพียงแต่ให้ความรู้สึกเจ็บปวด และใช้มือได้ไม่ถนัด เป็นโรคที่สามารถป้องกันและรักษาให้หายได้

ชื่อภาษาไทย นิ้วล็อก, ปลอกหุ้มเอ็นนิ้วมืออักเสบ
ชื่อภาษาอังกฤษ Trigger finger, Digital flexer tenosynvitis, Stenosing tenosynvits

สาเหตุ
เกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็นและปลอกหุ้มเอ็นที่ใช้ในการงอข้อนิ้วมือ ซึ่งอยู่ตรงบริเวณโคนนิ้วมือ ทำให้เส้นเอ็นหนาตัวขึ้น และติดขัดในการเคลื่อนไหวขณะเหยียดนิ้วมือ เมื่ออักเสบรุนแรงมากขึ้นจะเกิดปุ่มตรงเส้นเอ็น เวลางอนิ้วมือปุ่มจะอยู่นอกปลอกหุ้ม แต่ไม่สามารถเคลื่อนเข้าปลอกหุ้ม เวลาเหยียดนิ้วมือกลับไป ทำให้เกิดอาการนิ้วล็อกอยู่ในท่างอ ต้องออกแรงช่วยใน การเหยียด จึงจะสามารถฝืนให้ปุ่มเคลื่อนที่ผ่านปลอกหุ้มเข้าไปได้

การอักเสบของเส้นเอ็นและปลอกหุ้มเอ็นนิ้วมือมักเกิดจากแรงกดหรือเสียดสีของเส้นเอ็นซ้ำซาก หรือใช้งานฝ่ามือมากเกินไป เช่น การใช้มือหยิบจับอุปกรณ์ในการทำงานบ้าน ทำสวน ขุดดิน เล่นกีฬา เล่นดนตรี เป็นต้น โรคนี้จึงพบบ่อยในกลุ่มแม่บ้าน เลขานุการที่พิมพ์ดีดบ่อยๆ ผู้ที่ชอบเล่นกีฬา (เช่น กอล์ฟ เทนนิส) หรือเล่นดนตรี (เช่น ไวโอลิน) นอกจากนี้ยังพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อรูมาตอยด์ เบาหวาน ภาวะขาดไทรอยด์

อาการ
ระยะแรกมีอาการปวดบริเวณโคนนิ้วมือ กำมือไม่ถนัดโดยเฉพาะตอนเช้าหลังตื่นนอน พอใช้มือไปสักพักหนึ่งก็จะกำมือได้ดีขึ้น บางคนจะสังเกตว่าเวลางอแล้วเหยียดนิ้วมือจะได้ยินเสียงดังกิ๊ก ต่อมาจะมีอาการนิ้วล็อกคือ เวลางอนิ้วมือแล้วเหยียดขึ้นเองไม่ได้ มักเกิดกับมือข้างถนัดที่ใช้งาน นิ้วที่เป็นบ่อยได้แก่ นิ้วหัวแม่มือ นิ้วกลาง และนิ้วนาง อาจเป็นเพียงนิ้วเดียว หรือเป็นพร้อมกันหลายนิ้วก็ได้ และอาจเป็นที่มือข้างเดียวหรือทั้ง ๒ ข้างก็ได้ อาการมักจะเป็นมากตอนเช้า

การแยกโรค
อาการนิ้วงอ เหยียดขึ้นไม่ได้ อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น เส้นเอ็นนิ้วมือฉีกขาดจากการบาดเจ็บ (ซึ่งมักเกิดขึ้นฉับพลันหลังได้รับบาดเจ็บ) การดึงรั้งของพังผืด (เช่น ผู้ที่มีบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกที่นิ้วมือ) ความผิดปกติที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์
CR : https://www.doctor.or.th
สนใจติดต่อสอบถาม D-Boone"ดีบูน" ราคากันเอง
Tel : 065-0523529 By Ju

อาการเบ้าฟันแห้งหลังถอนฟัน: ทำความเข้าใจและป้องกันโดย Anne Maria Wynterผู้เชี่ยวชาญทางทันตกรรมอาจจะแนะนำให้คุณถอนฟันเพรา...
21/05/2017

อาการเบ้าฟันแห้งหลังถอนฟัน: ทำความเข้าใจและป้องกัน

โดย Anne Maria Wynter

ผู้เชี่ยวชาญทางทันตกรรมอาจจะแนะนำให้คุณถอนฟันเพราะหลายสาเหตุด้วยกัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรู้จักการถอนฟันคุด แต่การถอนฟันก็สามารถรักษาหรือแก้ไขการติดเชื้อ โรคปริทันต์ หรือฟันเกได้ด้วย

การถอนฟันเป็นขั้นตอนการรักษาที่ไม่ซับซ้อน แต่ถึงกระนั้น ระหว่างรอให้แผลหาย ผู้ป่วยก็ควรระมัดระวังปัญหาบางอย่าง รวมถึงอาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้บ่อยที่สุดอย่างเบ้าฟันแห้ง มาดูกันว่าภาวะเบ้าฟันแห้งส่งผลอย่างไรและคุณจะป้องกันภาวะนี้อย่างไรหลังถอนฟัน

เบ้าฟันแห้งคืออะไร

หลังจากทันตแพทย์ถอนฟันแท้ออกไป ปากของคุณจะสร้างลิ่มเลือดขึ้นมาบริเวณที่ฟันถูกถอน ลิ่มเลือดนี้มีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยปกป้องกระดูกและปลายประสาทที่อยู่ในเบ้าฟันเปล่า ๆ

หากลิ่มเลือดหลุดออกมา ละลาย หรือช่องปากสร้างลิ่มเลือดไม่สมบูรณ์ คุณก็จะเกิดภาวะเบ้าฟันแห้ง ทำให้ประสาทและกระดูกไร้สิ่งปกป้องและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทั้งยังทำให้ปวดในช่องปากและใบหน้า ซึ่งคุณควรไปให้ทันตแพทย์รักษาทันที

ภาวะเบ้าฟันแห้งเกิดจากสาเหตุใด

บางครั้ง เมื่อลิ่มเลือดหลุดออกจากเบ้าฟัน ก็อาจทำให้เกิดบาดแผลหรือแรงกดในเบ้าฟันได้ ข่าวร้ายก็คือ การหาสาเหตุที่ทำให้ลิ่มเลือดหลุดหรือช่องปากไม่ได้สร้างลิ่มเลือดที่สมบูรณ์มาตั้งแต่แรกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำกันง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่ทำให้คุณมีโอกาสเกิดภาวะเบ้าฟันแห้งได้มากขึ้น ได้แก่

การติดเชื้อ
การรับประทานยาคุมกำเนิด
การไม่ดูแลแผลอย่างเหมาะสม
การสูบบุหรี่หรือใช้ยาสูบ
คุณจะป้องกันการเกิดเบ้าฟันแห้งได้อย่างไร

ภาวะเบ้าฟันแห้งมักจะเกิดขึ้นภายในห้าวันแรกหลังจากถอนฟัน ดังนั้น ขั้นตอนแรกในการป้องกันภาวะนี้คือ หลีกเลี่ยงกิจกรรมรุนแรงที่อาจทำให้เกิดบาดแผล ซึ่งรวมถึงเรื่องปกติธรรมดาอย่างการดื่มน้ำด้วยหลอดหรือการถ่มน้ำลายแรง ๆ เพราะการกระทำทั้งสองอย่างนี้อาจทำให้ลิ่มเลือดหลุดออกจากเบ้าฟัน

การสูบบุหรี่และใช้ยาสูบจะเพิ่มโอกาสในการเกิดเบ้าฟันหลังจากถอนฟัน ดังนั้น ให้หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และใช้ยาสูบเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนและหลังจากถอนฟัน สอบถามทันตแพทย์ว่ายาที่คุณรับประทานอยู่ในปัจจุบันมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างลิ่่มเลือดหรือไม่ และคุณต้องทำอะไรบ้างเพื่อลดหรือกำจัดความเสี่ยงนี้

ทันตแพทย์หรือศัลยแพทย์ช่องปากอาจจะแนะนำวิธีการรักษาตัวที่บ้านหรือเคล็บลับบางอย่างที่คุณต้องนำไปปฏิบัติตามหลังจากถอนฟันเสร็จ เช่น การดื่มน้ำเยอะ ๆ ไม่แปรงฟันภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังจากถอนฟัน หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด และใช้น้ำยาบ้วนปากป้องกันแบคทีเรีย ผู้เชี่ยวชาญทางทันตกรรมอาจจะให้คำแนะนำอย่างอื่นด้วย ขึ้นอยู่กับประวัติการทำฟัน สุขภาพของระบบภูมิคุ้มกัน และยาที่คุณรับประทาน

การปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวอย่างเข้มงวดจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเบ้าฟันแห้งและทำให้แผลหายดีหลังจากถอนฟัน
CR : http://www.colgate.co.th

เมนูอาหารสำหรับคนที่รักสุขภาพบำรุงกระดูก แถมยังได้ประโยชน์ ทำให้อิ่มท้อง และทำไม่ยากอย่างที่คิด สามารถทานได้ทั้งครอบครัว...
21/05/2017

เมนูอาหารสำหรับคนที่รักสุขภาพบำรุงกระดูก แถมยังได้ประโยชน์ ทำให้อิ่มท้อง และทำไม่ยากอย่างที่คิด สามารถทานได้ทั้งครอบครัว
ส่วนผสมเมี่ยงแซลมอน

เนื้อปลาแซลมอนหั่นลูกเต๋า ลวก 400 กรัม
ขิงอ่อนหั่นลูกเต๋า 1/2 ถ้วย
หอมแดงหั่นลูกเต๋า 1/2 ถ้วย
พริกขี้หนูซอย 1/4 ถ้วย
ตะไคร้ซอย 1/2 ถ้วย
มะนาวหั่นลูกเต๋า 1/2 ถ้วย
น้ำเมี่ยง 1

ส่วนผสมตัวแป้ง

ขนมปังแผ่นสำหรับทำแซนวิช 10 แผ่น
เนยสดชนิดจืดเล็กน้อย

วิธีทำ
ทำตัวแป้งด้วยการตัดขนมปังแซนวิชเป็นชิ้น วงกลมขนาด 2 นิ้ว รีดขนมปังให้แบนเล็กน้อยด้วยไม้คลึงแป้ง
กรุลงในพิมพ์มัฟฟินที่ทาเนยบางๆ อบไฟ 180 องศาเซลเซียสประมาณ 10-15 นาที หรือจนขนมปังกรอบเป็นสีเหลืองทอง
ทำน้ำเมี่ยงโดยเคี่ยวน้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย ผสมกับ น้ำปลา 1/2 ถ้วยให้ข้น พักไว้ให้เย็น
วิธีรับประทาน ใส่เครื่องเมี่ยงทีละน้อยลงในถ้วยขนมปังอบ ใส่น้ำเมี่ยง แล้วรับประทานเป็นคำ

โรคกระดูกพรุน     อำภารัตน์ แม่บ้านวัย 60 ปี สุขภาพดีแข็งแรง เพราะว่าเธอออกกำลังกายโดยการเล่นแบตมินตันเป็นประจำ วันหนึ่ง...
20/05/2017

โรคกระดูกพรุน

อำภารัตน์ แม่บ้านวัย 60 ปี สุขภาพดีแข็งแรง เพราะว่าเธอออกกำลังกายโดยการเล่นแบตมินตันเป็นประจำ วันหนึ่งขณะที่อำภารัตน์กำลังทำงานบ้านอยู่ ได้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มเธอหงายหลังก้นกระแทกพื้น ทำให้เอวข้างซ้ายเจ็บ ขยับตัวไม่ได้ ผลจากการเอกซเรย์ พบว่ากระดูกขาส่วนต้นด้านซ้ายร้าวและหักตามรอยร้าวนั้น กระดูกหักได้จากการล้มเพียงเล็กน้อย เพราะผู้หญิงวัย 60 ปีขึ้นไป แคลเซียมในร่างกายจะมีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ความหนาแน่นของกระดูกลดลงตามไปด้วย
หลังจากได้รับการผ่าตัดและทำกายภาพบำบัดเพียง 1 ปี อำภารัตน์ก็กลับมาออกกำลังกายเบาๆได้อีกครั้ง หลังจากนั้นเธอก็รับประทานอาหารประเภทแคลเซียมเป็นประจำ 6 เดือนผ่านไป อำภารัตน์ก็สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้เป็นปกติ จนเวลาผ่านไป 1 ปี เธอสามารถไปตีแบดมินตัน ออกกำลังกายได้เหมือนเดิม แต่ก็ต้องเล่นด้วยความระมัดระวังตามคำเตือนของหมอ แต่เธอกลับคิดว่า ผ่านไปตั้ง 1 ปีแล้ว ไม่น่าจะเกิดอะไร จู่ ๆ หลังจากที่ตีแบดมินตันเสร็จ เธอกลับเจ็บแปลบที่สะโพกซ้ายขึ้นมา
3 วันต่อมา อำภารัตน์ รู้สึกว่าอาการเจ็บตรงต้นขาซ้ายที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้นหายดีแล้ว จึงไม่ใส่ใจอะไร เธอจึงวอร์มร่างกายตามปกติ แต่พบว่าไม่สามารถเอามือแตะปลายเท้าได้เช่นทุกที และบางทีก็เจ็บสะโพกซ้าย แต่เธอเข้าใจว่าเป็นผลจากการออกกำลังกายจึงไม่คิดอะไร กระทั่ง 2 อาทิตย์ถัดมา ขณะทำสวนหน้าบ้านกับสามี เธอทำกรรไกรตัดกิ่งตกลงไปหลังกองกระถางต้นไม้ใหญ่ สามีจึงคิดจะเก็บให้แต่เอื้อมไม่ถึง จึงเดินไปหาไม้มาเขี่ย เธอไม่อยากรอจึงติดสินใจยกกระถางต้นไม้นั้นออกเอง ทันทีที่เธอก้มลงยกกระถางก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นอย่างรุนแรง เธอล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด เกิดอะไรขึ้นกับอำภารัตน์กันแน่

กลุ่มเสี่ยง
พบมากในกลุ่มผู้สูงอายุทั้งชายและหญิง ผู้ที่ชอบออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนัก ๆ รวมถึงคนที่เคยกระดูกหักมาแล้ว

อาการที่พึงระวัง
คนที่เคยกระดูกหักมาแล้ว มีโอกาสที่จะเกิดโรคกระดูกหักได้อีก หรือมีอาการเจ็บที่ต้นขาหรือข้อพับบ่อย ๆ และคนที่ออกกำลังกายหักโหมมาเกินไป คนที่มีอาการเหล่านี้บ่งบอกถึงอาการเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนหรือกระดูกหักได้ง่าย

ลักษณะของโรคกระดูกพรุน
โรคหัวกระดูกข้อสะโพกตาย เกิดจากหัวของกระดูกข้อสะโพกที่มีลักษณะเป็นทรงกลมขยับอยู่ในเบ้าเกิดตายเนื่องจากหลอดเลือดที่หล่อเลี้ยงกระดูกเกิดการฉีกขาดจึงไม่สามารถลำเลียงสารอาหารไปหล่อเลี้ยงกระดูกได้ ทำให้กระดูกอ่อนแอจนตายไปในที่สุด เมื่อเกิดการขยับรุนแรงข้อกระดูกบริเวณที่ตายจะทรุดตัวลง
กลุ่มที่เสี่ยงต่อโรคกระดูกหักที่พบและเป็นอันตรายมากที่สุดคือ กลุ่มผู้สูงอายุที่กระดูกหักบริเวณสะโพกเพราะผู้สูงอายุมักมีโรคประจำตัว และมักเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด รองลงมาคือการหักของกระดูกบริเวณสันหลัง เมื่อกระดูกพรุนและได้รับการกระแทกแรงๆ ให้กระดูกทรุดตัวลงทีละน้อย ทำให้มีอาการปวดหลัง กระดูกบริเวณข้อมือหักบ่อยซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากที่ล้มแล้วเอามือค้ำยันทำให้กระดูกข้อมือที่รับน้ำหนักหักได้

วิธีการรักษา
หัวกระดูกข้อต่อสะโพกตาย สามารถรักษาได้โดยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม

ทุก 30 วินาทีทั่วโลกจะมีคน 1 คนที่กระดูกหักจากภาวะโรคกระดูกพรุน 1 ใน 3 ของผู้หญิง และ 1 ใน 8 ของผู้ชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนได้

รู้ไว้ ไกลโรค
โรคกระดูกพรุน หรือกระดูกหัก สามารถป้องกันได้ โดยรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมปริมาณสูง เช่น นมหรือผลิตภัณฑ์จากนม ปลา ผักใบเขียว การออกกำลังกายให้พอเหมาะกับวัย เช่น การเดินเร็ว รำมวยจีน รับประทานยาเสริมแคลเซียม ต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หรือรับประทานต่อเนื่องใช้เวลา 1-3 ปี และการตรวจวัดมวลกระดูกทุก ๆ กระดูกพรุนหรือไม่ โดยบอกเป็นคะแนนที.สกอร์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
1. กระดูกปกติ คือมีคะแนนมากว่า -1
2. กระดูกบาง คือมีคะแนนอยู่ระหว่าง -2.5 ถึง -1
3. กระดูกพรุน คือมีคะแนนต่ำกว่า -2.5

***ภาพเอกซเรย์กระดูกสะโพกหัก เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดในผู้สูงอายุ***
***หลอดเลือดขาดทำให้กระดูกตาย เมื่อกระดูกเกิดการแตกหักเสียแล้วทำให้หลอดเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงกระดูกฉีกขาด กระดูกจึงไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง ทำให้กระดูกตาย***

แพทย์ผู้ให้ข้อมูล : นายแพทย์ ธนาวุฒิ เลิศเอกธรรม แพทย์หัวหน้าศูนย์กล้ามเนื้อกระดูกและข้อ โรงพยาบาลพญาไท 3
CR : http://www.joelookyoung.com
สนใจติอต่อสอบถาม D-Boone "ดีบูน"
Tel : 065-0523529 By Ju

ใครเริ่มมีอาการกระดูกลั่น เวลาขยับตัวหรือบิดขี้เกียจบ้างค่ะ สัญณาญร้ายของโรคกระดูกมาแล้วค่ะ เราควรที่จะเลือกทานอาหารที่ม...
20/05/2017

ใครเริ่มมีอาการกระดูกลั่น เวลาขยับตัวหรือบิดขี้เกียจบ้างค่ะ สัญณาญร้ายของโรคกระดูกมาแล้วค่ะ
เราควรที่จะเลือกทานอาหารที่มีสารอาหารบำรุงกระดูกบ้างนะคะ เพราะเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้นจะได้ไม่ต้องกังวลในเรื่องโรค โรคกระดูกพรุน โรคกระดูกเปราะ

ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยสูงอายุ เราควรที่จะเลือกทานอาหารในแต่ละมื้อเพื่อบำรุงกระดูก ดูแลสุขภาพบ้างนะคะ เพราะถ้าถึงวัยชราแล้วจะทำให้ท่านยังแข็งแรงและไม่ดูแก่ก่อนวัยด้วยค่ะ การสร้างกระดูกให้แข็งแรงนั้น สารอาหารหลักคือแคลเซียมและวิตามินดี เพราะวิตามินดีจะช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและเพิ่มการเจริญเติบโตของกระดูก

สารอาหารเหล่านี้มันมีประโยชน์ต่อสุขภาพ คุณควรบริโภคซะ ตั้งแต่วัยรุ่นนะคะ เพราะเมื่อคุณมีอายุที่เพิ่มขึ้น โรคที่เกี่ยวกับกระดูกอย่างเช่น โรคกระดูกพรุน โรคกระดูกเปราะ สารอาหารอย่างแคลเซียมและวิตามินดี จะช่วยชะลอและป้องกันการเกิดโรคเหล่านี้ค่ะ

สารอาหารบำรุงกระดูก ที่ควรบริโภคในแต่ละวันของผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ควรจะได้รับสารอาหารบำรุงกระดูก 1,000 มิลลิกรัมขึ้นไป วันนี้เราลองดูอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี เพื่อบำรุงกระดูก และสุขภาพที่ดีกันค่ะ

- โยเกิร์ต : คนส่วนใหญ่คิดว่า วิตามินดีจะได้รับจากการสัมผัสกับแสงแดด แต่อาหารบางชนิดเช่น โยเกิร์ตจะเสริมสร้างวิตามินดีได้เช่นกันค่ะ บำรุงสุขภาพและกระดูกได้ดีเลยค่ะ

- นม : การกินนม จะทำให้คุณได้รับสารอาหาร 30% ของปริมาณของแคลเซียมประจำวัน อย่าลืมเลือกยี่ห้อเสริมด้วยวิตามินดีด้วยนะคะ จะได้รับประโยชน์สุขภาพดี แพ็คคู่ กันไปเลยค่ะ

- ชีส : ชีสเต็มไปด้วยแคลเซียม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องกินมันเยอะๆนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะได้ความอ้วน เสียสุขภาพ แถมมาอีกอย่างนะคะ

- ปลาซาร์ดีน : จะพบมากในปลากระป๋องใช่ไหมค่ะ บางคนอาจสงสัยว่ามันจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงหรอ แต่จริงๆมันมีทั้งแคลเซียมและวิตามีนดีที่สูงนะค่ะ แต่เลือกทานเป็นบางวันก็พอนะคะ

- ไข่ : ไข่มีวิตามีนดี 6 % ส่วนมากจะอยู่ในไข่แดงค่ะ ไข่ถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการหาวิตามีนดีเข้าสูงร่างกายใช่ไหมล่ะคะ แต่ทานประมาณที่เหมาะสม ร่างกายสุขภาพจะแข็งแร็งค่ะ
CR : http://www.108health.com

- ปลาแซลมอน  :  ปลาแซลมอนเป็นที่รู้จักกันมีมากมาย สุดยอดอาหารที่มี โอเมก้า 3 แต่ไม่น่าเชื่อว่าปลาแซลมอนเพียง 3 ออนซ์ จะม...
20/05/2017

- ปลาแซลมอน : ปลาแซลมอนเป็นที่รู้จักกันมีมากมาย สุดยอดอาหารที่มี โอเมก้า 3 แต่ไม่น่าเชื่อว่าปลาแซลมอนเพียง 3 ออนซ์ จะมีวิตามินดีมากกว่า 100% ของที่ร่างกายต้องการ บำรุงไดทั้งสมอง สุขภาพครบถ้วนเลยค่ะ
- ผักขม : ถ้าคุณกำลังจะลดความอ้วน แทนที่จะเลือกกิน นม เนย ชีส เปลี่ยนมาททานผักขมก็ดีไม่ใช่เล่นนะคะ เพราะมันมีแคลเซียมประมาณ 25 % ของสารอาหารแคลเซียมที่จะได้รับประจำวันค่ะ นอกจากนั้นคุณยังจะได้รับ ธาตุเหล็กและวิตามินเอ บำรุงสุขภาพ ร่างกายได้มากเลยค่ะ

- อาหารเช้าซีเรียล : เช้าๆบางคนนิยมทานซีเรียลเพราะง่าย เพราะซีเรียลล้วนแล้วแต่จะเป็นธัญพืชค่ะ มันก็จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีสารอาหารของวิตามีนดีถึง 25 % นี่ก็เป็นวิธีหาวิตามินดีง่ายๆ ในมื้อแสนอร่อยของคุณค่ะ

- ปลาทูน่า : ปลาทูน่ากระป๋อง มีแคลเซียลและวิตามีนดี ประมาณ 39% ของปริมาณของวิตามินประจำวันของคุณ เอามาปรุงเป็นอาหาร ก็อร่อยดีนะ

- น้ำส้ม : ไม่ใช่นางเอกดื่มได้อย่างเดียวนะคะ เราๆก็ดื่มได้ ในน้ำส้มไม่มีทั้ง แคลเซียมหรือวิตามินดีหรอกค่ะ แต่การทานน้ำส้มนั้นจะมี วิตามินซี ช่วยการดูดซึมแคลเซียม ดังนั้นน้ำส้มจะทำให้คุณได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ในการรับประทานอาหารที่เสริมแคลเซียมและวิตามินดี

กระดูกหัก (Bone Fracture) คือภาวะที่กระดูกได้รับแรงกระแทกมากเกินไป ส่งผลให้กระดูกไม่สามารถรองรับน้ำหนักจากแรงดังกล่าวได้...
19/05/2017

กระดูกหัก (Bone Fracture) คือภาวะที่กระดูกได้รับแรงกระแทกมากเกินไป ส่งผลให้กระดูกไม่สามารถรองรับน้ำหนักจากแรงดังกล่าวได้ และเกิดหัก ก่อให้เกิดอาการปวด เสื่อมสมรรถภาพในการทำงาน รวมทั้งมีเลือดออกและได้รับบาดเจ็บบริเวณรอบกระดูกที่ได้รับแรงกระแทก โดยทั่วไปแล้ว กระดูกจัดเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยแคลเซียมและเซลล์กระดูก ตรงกลางกระดูกจะอ่อนกว่า เรียกว่าไขกระดูก ซึ่งทำหน้าที่ผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง กระดูกแต่ละส่วนจะประกอบกันเป็นโครงสร้างกระดูกที่รองรับร่างกาย ช่วยในการเคลื่อนไหว และปกป้องอวัยวะภายในของร่างกาย หากร่างกายได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง จะส่งผลให้กระดูกแตกหรือหักได้

โดยทั่วไปแล้ว กระดูกหักสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ กระดูกหักชนิดไม่มีแผล (Closed Fracture) และกระดูกหักแบบแผลเปิด (Open หรือ Compound Fracture) ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

กระดูกหักชนิดไม่มีแผล (Closed Fracture) คือ กระดูกหัก แต่ผิวหนังไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ
กระดูกหักแบบแผลเปิด (Open หรือ Compound Fracture) คือ กระดูกที่ทิ่มผิวหนังออกมา หรือได้รับบาดเจ็บจนผิวหนังเปิด ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้สูง
นอกจากนี้ กระดูกหักยังแบ่งตามลักษณะของกระดูกที่หักได้อีกหลายประเภท ดังนี้
กระดูกหักทั่วไป (Simple Fracture) คือ กระดูกที่แตกออกเป็น 2 ชิ้น
กระดูกยุบตัว (Compression Fracture) คือ กระดูกที่เกิดการยุบตัวเมื่อได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง
กระดูกหักเป็นเกลียว (Spiral Fracture) คือ ภาวะกระดูกที่หักเป็นเกลียว ซึ่งเกิดจากกระดูกถูกบิด
กระดูกเดาะ (Greenstick Fracture) คือ กระดูกที่แตกเพียงด้านเดียว ส่วนกระดูกอีกด้านโก่งไปตามแรงกดที่ปะทะเข้ามา ภาวะนี้มักเกิดขึ้นกับเด็ก เนื่องจากกระดูกของเด็กมีความยืดหยุ่นมากกว่ากระดูกของผู้ใหญ่
กระดูกแตกย่อย (Comminuted Fracture) คือ ภาวะที่กระดูกแตกออกเป็น 3 ชิ้นขึ้นไป
กระดูกหักตามขวาง (Transverse Fracture) คือ กระดูกที่แตกออกตามแนวขวางซึ่งเป็นส่วนที่สั้นของกระดูก ไม่ได้เกิดรอยแตกไปตามแนวยาวของกระดูก
กระดูกหักเฉียง (Oblique Fracture) คือ กระดูกที่เกิดการแตกเป็นแนวโค้งหรือลดหลั่นลงมา
ปุ่มกระดูกแตก (Avulsion Fracture) คือ กระดูกที่หักจากแรงกระชาก มักพบที่หัวไหล่และหัวเข่า
กระดูกหักยุบเข้าหากัน (Impacted Fracture) คือ ภาวะที่กระดูกทั้ง 2 ด้านได้รับแรงกด ส่งผลให้กระดูกแตกทั้ง 2 ด้าน เด็กเล็กมักเกิดกระดูกหักฝังที่แขน
กระดูกหักล้า (Stress Fracture) คือ กระดูกที่ปริออกจากกัน ซึ่งเกิดจากการใช้งานซ้ำ ๆ
กระดูกหักจากพยาธิสภาพ (Pathologic Fracture) คือ ภาวะกระดูกหักที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของกระดูกหรือการป่วยเป็นโรคที่ทำให้มวลกระดูกเสื่อมลง
CR : https://www.pobpad.com

อาการเจ็บปวดเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการชราภาพ แต่ถ้ามันเป็นผลมาจากโรคข้อเสื่อมแล้ว ผู้คนที่ประสบปัญ...
30/04/2017

อาการเจ็บปวดเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการชราภาพ แต่ถ้ามันเป็นผลมาจากโรคข้อเสื่อมแล้ว ผู้คนที่ประสบปัญหาจากโรคนี้ควรจะรู้ว่ามันมีทางที่จะทำให้เราสามารถทนกับมันได้ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุและการรักษาโรคข้อเสื่อมสามารถช่วยลดอาการเจ็บปวดเหล่านี้ได้

โรคข้อเสื่อมถือเป็นรูปแบบที่พบได้มากที่สุดของโรคปวดข้อ (arthritis) และมีผลกระทบต่อเกือบทุกคนที่เริ่มมีอายุ มันคือโรคที่ข้อต่อของกระดูกนั้นเริ่มเสื่อมลง รู้จักในชื่อ “wear and tear arthritis” ซึ่งพอจะแปลเป็นไทยได้ว่า โรคปวดข้อที่เกิดจากการใช้งานเป็นเวลานานๆ มันจะเกิดขึ้นบ่อยในข้อต่อที่จะต้องรับน้ำหนัก เช่น เข่า สะโพก ข้อศอก โรคนี้ทำให้กระดูกอ่อนซึ่งหุ้มปลายของกระดูกแต่ละชิ้นในข้อต่อนั้นค่อยๆเสื่อมสลายไปอย่างช้าๆ ซึ่งโดยปกติแล้วกระดูกอ่อนจะทำหน้าที่เป็นตัวลดแรงกระแทก แต่ผู้ที่เป็นโรคข้อเสื่อมนั้นจะทำให้ผิวของกระดูกอ่อนซึ่งเรียบนั้นขรุขระมากขึ้นและยุบลงไป เพราะฉะนั้นการที่ไม่มีพื้นผิวที่ราบเรียบจึงส่งผลให้กระดูกในบริเวณข้อต่อบดขยี้ซึ่งกันและกันทำให้เกิดการอักเสบ ความเจ็บปวดและยากต่อการเคลื่อนที่ สภาพเช่นนี้สามารถนำไปสู่โรคกระดูกงอกที่ผิดปกติได้

ความเจ็บปวดนั้นถือเป็นอาการแรกและชัดเจนที่สุดของโรคข้อเสื่อม แรกๆนั้นจะมีอาการเจ็บเพียงเล็กน้อยแต่จะเริ่มปวดเมื่อมีการเคลื่อนไหว จากนั้นจะมีอาการเจ็บที่รุนแรงซึ่งสามารถเกิดได้แม้ขณะพักผ่อนอยู่เฉยๆ มันเกิดจากการระคายเคืองและแรงดันบนปลายประสาท อาการที่ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกนั้นก็เป็นอาการหนึ่งของโรคข้อเสื่อม ผู้ป่วยจะไม่สามารถก้มลงหรือลุกขึ้นได้อย่างปกติอีกต่อไป การเคลื่อนที่ที่ไม่สะดวกเช่นนี้ทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมบริเวณข้อต่อที่ได้รับผลกระทบนั้นอ่อนแอลง และสภาพร่างกายโดยรวมจะประสบกับความตึงและเหนื่อยล้า

โรคข้อเสื่อมนั้นถือว่าค่อนข้างง่ายต่อการวินิจฉัย ศัลยแพทย์กระดูกจะทำการ x-ray บริเวณข้อต่อที่รับน้ำหนักและทำการตรวจสอบอย่างง่าย กระบวนการวินิจฉัยนั้นจะไม่กินเวลา ไม่เปลืองเงินและไม่มีผลร้ายใดๆ

มันไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้สำหรับโรคข้อเสื่อม แต่ปัจจุบันมีแนวทางใหม่ในการจัดการกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ความสามารถในการเคลื่อนที่และอาการอ่อนล้า การใช้สาร Hyaluronate เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดในการจัดการกับอาการเจ็บปวด มันเป็นสารเคมีสังเคราะห์ที่เลียนแบบของเหลวที่ใช้ในการหล่อลื่นของหัวเข่าและช่วยลดอาการเจ็บปวดไปได้ประมาณ 9-12 เดือน โดยคนไข้จะได้รับการฉีดสาร Hyalgen (ชื่อการค้าของ hyaluronate) ลงไปในหัวเข่าจำนวน 5 ครั้ง ทุกๆ 1 อาทิตย์

การรักษาด้วยยาสามารถช่วยลดความเจ็บปวดได้เช่นกัน ยาแอสไพรินจะช่วยบรรเทาอาการปวดให้คนไข้ได้และเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สารสเตอรอยด์ (NSAIDS) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดอาการปวด แต่ไม่ควรนำไปใช้ร่วมกับยาแอสไพริน

การฉีดฮอร์โมน cortisone สามารถช่วยลดการอักเสบได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่กล่าวว่าการฉีดแต่ละครั้งจะช่วยให้พวกเขาปราศจากอาการต่างๆไปหลายเดือนหรือเป็นปี โดยปกติแล้วจะฉีดประมาณ 4-6 ครั้งต่อปี

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคจะเป็นผลดีต่อโรคข้อเสื่อม ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ามีอาหารใดที่ช่วยป้องกันหรือบรรเทาอาการได้ แต่การกินอย่างเหมาะสมและรักษารูปร่างเป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าโรคนี้ส่งผลกระทบต่อข้อต่อที่รับน้ำหนัก ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักมาก็ย่อมจะเจ็บมากขึ้นด้วยเช่นกัน สำหรับการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ดีนั้นจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถลดความเจ็บปวดบริเวณข้อต่อพร้อมๆกันกับปรับปรุงคุณภาพชีวิตของเขาเอง

การออกกำลังกายและพักผ่อนที่สิ่งสำคัญที่จะต้องทำให้พอเหมาะ การนอนอยู่บนเตียงมากเกินไปจะทำให้เกิดความเมื่อยล้าในข้อต่อที่พบอาการ ในขณะที่การออกกำลังกายที่มากเกินไปนั้นก็จะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อข้อต่อเช่นกัน การหาความสมดุลระหว่างการออกกำลังกายและการพักผ่อนนั้นถือเป็นกุญแจสำคัญเลยทีเดียว

Arthrinox อาธริน็อกซ์ รักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
มีทางเลือกในด้านศัลยกรรมการผ่าตัดสำหรับผู้ที่พบปัญหาโรคข้อเสื่อม เช่น Arthroscopy ซึ่งโดยทั่วไปแล้วไม่ได้ถูกใช้กับผู้ที่เป็นโรคข้อเสื่อมแต่สามารถช่วยได้หากคนไข้มีอาการขยับขึ้นลงของกระดูกบริเวณเข่าซึ่งทำให้สภาพแย่ลงเรื่อยๆ เราสามารถลดอาการขยับนี้ได้ด้วยการอาศัยวิธี arthroscopy และมันก็จะช่วยลดความเจ็บปวดของโรคข้อเสื่อมได้

การเปลี่ยนหัวเข่าและสะโพกถือเป็นทางเลือกที่เพิ่มเข้ามา การผ่าตัดเปลี่ยนข้อต่อนั้นมักจะเห็นผลดีกับการเจ็บปวดที่ร้ายแรงหรือการพิการที่เกิดจากโรคข้อเสื่อมขั้นรุนแรง กระดูกอ่อนที่ขรุขระและทรุดโทรมในหัวเข่าของคนไข้นั้นจะถูกแทนที่ด้วยพลาสติกหรือโละที่มีผิวเรียบ

ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะต้องประสบกับปัญหาโรคเข่าเสื่อมในจุดหนึ่งของชีวิต แต่เราก็ควรจะจำไว้ว่ามันมีทางเลือกมากมายในการลดและขจัดความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากสภาพโรคที่พบได้บ่อยนี้

โรคข้อเข่าเสื่อม Osteoarthritis of the kneeข้อเข่าเสื่อมหรือโรคข้อเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่ข้อเข่าผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน...
29/04/2017

โรคข้อเข่าเสื่อม Osteoarthritis of the knee

ข้อเข่าเสื่อมหรือโรคข้อเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่ข้อเข่าผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน เกิดการเสื่อมของข้อ ทำให้มีการงอกของกระดูกเวลาเดินจะเจ็บข้อ มีการผิดรูปของข้อเข่า โรคข้อเข่าเสื่อมมักพบในผู้สูงอายุทำให้เกิดความทรมานแก่ผู้สูงอายุเป็นอย่างยิ่ง คุณภาพชีวิตลดลง และทำให้โรคอื่นๆกำเริบ เช่นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เนื่องจากออกกำลังไม่ได้


โครงสร้างของข้อเข่า

ข้อเข่าของคนประกอบไปด้วยกระดูก 3 ส่วนคือ

กระดูกต้นขา Femur ซึ่งเป็นกระดูกส่วนบนของเข่า
กระดูกหน้าแข็ง Tibia ซึ่งเป็นกระดูกส่วนล่างของเข่า
กระดูกสะบ้า Patella ซึ่งอยู่ส่วนหน้าของเข่า
ผิวของข้อเข่าจะมีกระดูกอ่อน cartilage รูปครึ่งวงกลมหุ้ม ทำหน้าที่กระจายน้ำหนัก ในข้อเข่าจะมีน้ำเลี้ยง synovial fluid เปรียบเสมือนน้ำหล่อลื่น เป็นการป้องกันการสึกของข่อเข่า เมื่อเราเดินหรือวิ่ง ข้อของเราจะต้องรับน้ำหนักเพิ่ม ดังนั้นยิ่งน้ำหนักตัวมากเท่าใดข้อต้องรับน้ำหนักมากเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีเอ็นและกล้ามเนื้อที่ทำให้ข้อเข่าแข็งแรง

กลไกการเกิดข้อเข่าเสื่อม

ข้อเข่าเสื่อมหมายถึงการที่กระดูกอ่อนของเข่ามีการเสื่อมสภาพ ทำให้กระดูกอ่อนไม่สามารถเป็นเบาะรองรับน้ำหนัก และมีการสูญเสียคุณสมบัติของน้ำหล่อเลี้ยงเข่า เมื่อมีการเคลื่อนไหวของข้อเข่า ก็จะเกิดการเสียดสี และเกิดการสึกหรอของกระดูกอ่อน ผิวของกระดูกอ่อนจะแข็ง ไม่เรียบ เมื่อข้อเข่าเคลื่อนไหวจะเกิดเสียงดังในข้อ เกิดอาการเจ็บปวด หากข้อเข่ามีการอักเสบก็จะมีการสร้างน้ำข้อเข่าเพิ่มทำให้เกิดการบวม ตึง และปวดข้อเข่า

เมื่อมีการเสื่อมมากขึ้น ข้อเข่าก็จะมีการโก่งงอ ทำให้เกิดอาการปวดเข่าทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว และขนาดของจ้อเข่าก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ในที่สุดผู้ป่วยต้องใช้ไม้เท้าช่วยในการเดิน บางท่านไม่เดินทำให้กล้ามเนื้อต้นขาลีบและไม่มีกำลัง ข้อจะติดเหมือนมีสนิมเกาะเท้าจะเหยียดไม่สุด

เมื่อข้อเข่าเสื่อมมากขึ้น กระดูกอ่อนจะมีขนาดบางลง ผิวจะขรุขระ จะมีการงอกของกระดูกขึ้นมาเรียกว่า osteophyte เมื่อมีการอักเสบเยื่อหุ้มข้อจะสร้างน้ำเลี้ยงข้อเพิ่ม ทำให้ข้อมีขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น กล้ามเนื้อลีบลง การเปลี่ยนแปลงของข้อจะเป็นไปอย่างช้าๆ โดยที่ผู้ป่วยไม่ทราบ ในรายที่เป็นรุนแรงกระดูกอ่อนจะบางมาก ปลายกระดูกจะมาชนกันเวลาขยับข้อจะเกิดการเสียดสีในข้อ

โทร : 065-0523529
By : จู
Line :

ที่อยู่

Bangkok
10510

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ D-Boon ดีบูน ฟื้นฟูกระดูกและข้อผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram