
13/07/2025
“เด็กดื้อ”
ทันทั่นวัย 5 ปีไม่ตั้งใจฟังคุณครู เล่นเสียงดังในห้องเรียนทำให้เพื่อนๆไม่ได้ยินนิทานที่ครูเล่า...เมื่อกลับมาอยู่บ้าน ทันทั่นมักซน เล่น จนข้าวของเสียหาย พูดไม่ฟัง ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ก็เริ่มทนไม่ไหวกับความดื้อของทันทั่น
ไม่ว่าอยู่ที่โรงเรียนหรืออยู่บ้าน ทันทั่นมักโดนดุว่าเป็น “เด็กดื้อ”
หลายๆครั้งที่ทันทั่นโกรธจนตัวสั่นเมื่อได้ยินคำนี้ แม้แต่เพื่อนๆก็เคยโดนเตะ เพราะไปพูดใส่หน้าว่า “ทันทั่นเด็กดื้อ”
“เด็กดื้อ” เป็นคำที่มีผลกระทบต่อตัวตน ความรู้สึกมีคุณค่า (self esteem) ของเด็กมาก ทำให้เด็กไม่รู้สึกถึงศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง แต่กลับรู้สึกกว่า “ถูกตีตรา” เปลี่ยนแปลงไม่ได้
หากเราอยากให้เด็กเปลี่ยนแปลง แก้ไขตนเอง ก็ควร #ตำหนิเฉพาะพฤติกรรมที่เป็นปัญหา เพื่อความชัดเจนในการแก้ไข เช่น “ป้อมส่งเสียงดัง รบกวนคนอื่นแบบนี้ เพื่อนๆจะไม่ได้ยินเสียงคุณครู”
เมื่อตำหนิพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมให้ป้อมรู้แล้ว ก็ #ต้องสอนวิธีแก้ปัญหาด้วย เช่น “ทันทั่นอยากเล่นรถบรื๋นๆ ต้องเล่นตอนเวลาพักนะครับ” หรือ กระตุ้นให้เด็กคิดแก้ปัญหาเองก็ได้ เช่น “ทันทั่นคิดว่าเล่นรถดังๆแบบนี้ ควรเล่นที่ไหน? และตอนไหน?"
การระบุพฤติกรรมที่เป็นปัญหาพร้อมสอนการแก้ไข ทำให้เด็กเห็นภาพชัดเจนว่าตนเองต้องเปลี่ยนแปลงอะไร ดีกว่าคำ “เด็กดื้อ” ซึ่งเป็นคำเหมารวมนิสัยที่ไม่ดี ไม่ชัดเจนว่า “ฉันต้องเปลี่ยนแปลงอะไร”
หมอมักถามเด็กทุกคนที่บอกว่าตนเองเป็นเด็กดื้อว่า “ดื้อคืออะไรคะ” หรือ “หนูทำอะไร ถึงมีคนพูดคำนี้กับหนู” เด็กประมาณครึ่งหนึ่ง เงียบ ดูงง เหมือนหาคำตอบชัดเจนในสมองไม่ได้
เด็กอีกครึ่งพยายามคิด และใช้เวลานานกว่าจะนึกออกและตอบว่า “ไม่เชื่อฟังพ่อแม่” หรือ “ไม่เชื่อฟังครู”
ครั้นหมอถามต่อว่า “แล้วต้องเชื่อฟังเรื่องอะไรล่ะ” หรือ “ครู/พ่อแม่อยากให้เราทำอะไรหรือ?” พอเจอคำถามลงรายละเอียดที่เขาควรปรับปรุง... ส่วนใหญ่ตอบไม่ได้!!!
ทั้งๆที่ นี่คือสิ่งที่เราต้องการให้เด็กเปลี่ยนแปลง แต่เด็กกลับไม่รู้ชัด!😢
หากสมองเด็กจับภาพของความไม่ดี ความเป็นเด็กดื้อชัดเจน แต่ไม่ชัดเจนว่าต้องทำอะไรแทน โอกาสที่เด็กจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตนเองก็คงยาก....
หมอหวังว่า ผู้ใหญ่ที่ปรารถนาให้เด็กมีพฤติกรรมที่ดี ลอง #งดใช้คำตีตราเด็ก แล้วหันมา #ใช้คำพูดที่ระบุเฉพาะพฤติกรรมที่เป็นปัญหาพร้อมสอนสิ่งที่ควรทำแทน นะคะ 😊
สมองเด็กจะได้จดจำสิ่งที่ควรทำ แทนคำพูดตีตราที่มีแต่ลดคุณค่าในตัวเองลง....
ระลึกไว้ว่า “เมื่อใดที่คุณเปลี่ยน ลูกจะเปลี่ยนตาม” (quote จากหนังสือปราบลูกดื้อฯ รวมเทคนิคเชิงบวก)
เหลือ 2 ที่นั่ง คลาส “สื่อสารให้เป็น หนักแน่นให้ได้” เรียน 20 กรกฎาคมนี้ที่โรงแรมจัสมิน ราคา 9,500 บาทต่อท่าน มา 2ท่าน ลด 5% , มา 4 ท่าน ลด 10 % ลงทะเบียนเรียนแอดไลน์ https://lin.ee/IT43gvK (หมอเสาวภา-คลาสเรียนพ่อแม่)
ใครติดเรื่องทุนทรัพย์ไลน์เข้ามา และตอบคำถามนี้ "คุณจะนำสิ่งที่เรียนไป นอกจากเพื่อครอบครัวแล้ว คุณจะนำไปช่วยชุมชนหรือสังคมอย่างไร" มีผู้ได้รับทุนหลายท่านแล้ว 🙂 เชิญชวนค่ะ
#หมอเสาวภาเลี้ยงลูกเชิงบวก