
09/05/2025
อาการปวดเป็นปัญหาสุขภาพที่รบกวนการดำเนินชีวิตของผู้สูงวัย ห้ามพลาดการติดตามสาระน่ารู้ทางสุขภาพสำหรับผู้สูงวัยได้ที่นี่
ทุกคนน่าจะเคยมีอาการปวด อย่างน้อยก็หนึ่งครั้งในชีวิต บางครั้งอาจเป็นอาการปวดซึ่งคงอยู่ไม่นาน อาทิ ปวดศีรษะ ปวดแผล ฟกช้ำ อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุหลายคนอาจมีอาการปวดซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยาวนาน โดยมีสาเหตุจากปํญหาทางสุขภาพ เช่น โรคข้อเสื่อม โรคเบาหวาน โรคงูสวัด และโรคมะเร็ง เป็นต้น
อาการปวดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. อาการปวดเฉียบพลัน มักเกิดขึ้นแบบทันทีทันใด แต่จะคงอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ และอาการจะดีขึ้นเมื่อร่างกายมีการซ่อมสร้างตัวเอง เช่น อาการปวดหลังการผ่าตัดกระดูกหัก อาการปวดฟัน อาการปวดจากการมีนิ่วในไต เป็นต้น
2. อาการปวดเรื้อรัง มักมีอาการคงอยู่เป็นระยะเวลานาน อย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่อาจมีอาการปวดเรื้อรังจากโรคข้อเสื่อม การบาดเจ็บ หรือเคยได้รับการผ่าตัด ซึ่งเคยมีอาการปวดเฉียบพลันจนกระทั่งมีอาการปวดแบบเรื้อรังตามมา
อาการปวดส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้สูงอายุ ดังนี้
- รบกวนการทำกิจวัตรประจำวัน
- รบกวนการนอน การรับประทานอาหาร
- มีความยากลำบากในการทำงานที่ต้องอาศัยความต่อเนื่อง
- ทำให้รู้สึกเป็นกังวล หรืออาจเกิดอาการซึมเศร้าได้
- เก็บตัว ไม่ยอมทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน และครอบครัว
เมื่อเกิดอาการปวดขึ้นอาจตั้งคำถามกับตนเอง ดังนี้
- ปวดบริเวณไหนของร่างกาย?
- เริ่มปวดตั้งแต่เมื่อไหร่?
- เมื่อปวดแล้วหายได้เองไหม?
- ปวดแบบไหน ปวดแปล๊บๆ ตื้อๆ ตุ๊บๆ หรือแสบร้อน?
- มีอาการอื่นๆ เช่น ไข้ เบื่ออาหาร ร่วมด้วยไหม?
- ปวดมากในช่วงเวลาใด ตอนเช้า ตอนเย็น หรือหลังรับประทานอาหาร?
- ปวดมากน้อยเพียงใด โดยอาจให้ระดับคะแนนปวด ตั้งแต่ 0-10 เมื่อ 0 คือไม่รู้สึกปวด และ 10 คือ รู้สึกปวดมากจนทนไม่ไหว
- เมื่อปวดแล้วทำอย่างไร ประคบ ประคบเย็น เปลี่ยนท่าทาง แล้วอาการดีขึ้นไหม?
- ยาที่รับประทานอยู่เป็นประจำส่งผลข้างเคียงให้มีอาการมากขึ้นไหม?
อาการปวดอาจเป็นสัญญาณเตือนความผิดปกติของร่างกาย ไม่ควรละเลย ควรพาผู้สูงอายุไปเข้ารับการตรวจ และรักษาอย่างเหมาะสม