สาระดีเพื่อสุขภาพ

สาระดีเพื่อสุขภาพ สาระดีเพื่อสุขภาพ ให้ความรู้ด้านโรคต่างๆ สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับสุขภาพ

การดูแลสุขภาพองค์รวมทุกระบบ ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน โรคตา โรคกระดูก กระดูกทับเส้น เข่าเสื่อม โรคตับ โรคอ้วน โรคไทรอยด์ โรคเก๊าต์ โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์
โรคหลอดเลือดสมองตีบ อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคกรดไหลย้อน โรคท้องผูก โรคริดสีดวงทวาร โรควัยทอง
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคตับอักเสบ โรคตับแข็ง โรคมะเร็งลำไส้
โรคนอนไม่หลับ-เครียด โรคภูมิแพ้ ไซนัส โรครูมาตอยด์ โร

คเวียนศีรษะ มึนหัว บ้านหมุน เดินเซ โรคสะเเก็ดเงิน โรคต่อมลูกหมากโต
โรคหอบหืด โรคคลอเรสเตอรอลสูง โรคออฟพิศชินโดรม

28/08/2019

โรคร้ายที่เสี่ยงตายสูงคนไทยเป็นกันมาก

อันดับ 1. มะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งชนิดใด มะเร็งลำไส้, มะเร็งมดลูก หรือมะเร็งเต้านม ก็ล้วนแล้วแต่คร่าชีวิตคนไทยมาแล้วนักต่อนัก สถิติการเป็นมะเร็งของคนไทยนั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 70,000 คน และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ มะเร็งยังครองแชมป์การเป็นโรคที่มีคนเป็นมากที่สุดในประเทศ อันดับที่ 1 ถึง 5 ปีซ้อน และมีผู้เสียชีวิตไปด้วยโรคนี้ถึงปีละ 50,000 คนอีกด้วยโดยมะเร็งยอดฮิตที่พบมากที่สุด โดยอันดับ 1 ของมะเร็งคือ มะเร็งตับ รองลงมาคือมะเร็งลำไส้ใหญ่และปอด ซึ่งโรคเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นโรคจากการใช้ชีวิตประจำวันแบบผิด ๆ ของคนในยุคสมัยใหม่ โดยมีทั้งการรักษาทางการแพทย์ การรักษาโดยวิถีสมุนไพร หรือแม้แต่การดูแลสุขภาพแบบชีวจิต ก็ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการรักษามะเร็ง ที่ล้วนแล้วแต่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อรักษา และป้องกันการเป็นมะเร็งทั้งสิ้น

ข้อมูลจาก กองบรรณาธิการ HONESTDOCS

สาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยของอาการปวดหลัง โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั่งแต่ 50 ปีขึ้นไปโรคกระดูกสันหลังเสื่อม หมายถึง โรคที่เกิดในผู...
17/01/2019

สาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยของอาการปวดหลัง โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั่งแต่ 50 ปีขึ้นไป

โรคกระดูกสันหลังเสื่อม หมายถึง โรคที่เกิดในผู้ที่มีอายุ ตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป โดยเกิดจากการเสื่อมสถาพตามธรรมชาติของเนื้อเยื่อ อวัยวะต่างๆ รวมถึงกระดูกสันหลัง

โรคกระดูกสันหลังเสื่อมมีสาเหตุจากอะไร

1. จากการเสื่อมสภาพของกระดูกสันหลังตามธรรมชาติ

- วัยทำงาน อายุช่วง 20-50 ปี เกิดจากการทำงานมากกว่าปกติ การเล่นกีฬา การใช้หลังอย่างหนัก ก้มๆ เงย ๆ น้ำหนักตัวมาก/อ้วน กล้ามเนื่้อหลังและท้องไม่แข็งแรง และจากหมอนรองกระดูกเคลื่อน

- อายุ 50 -70 ปี เกิดจากการเสื่อมสภาพตามอายุทำงาน
มานานจากการก้มๆ เงยๆ และหมอนรองกระดูกเสื่อมตามวัย
ซึ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป กระดูกสันหลังมักมีอาการงอกของกระดูกเพิ่มขึ้น มีการเสื่อมของกล้ามเนื้อและเอ็นต่างๆ ส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงของกระดูกสันหลัง

2. จากสาเหตุอื่นๆ ที่ไม่ได้เกิดจากกระดูกสันหลัง เสื่อมสภาพ
มีอีก 2 อย่าง คือการติดเชื้อ และเนื้องอกหรือมะเร็ง

- การติดเชื้อ เป็นเรื่องที่พบบ่อยในประเทศไทย เชื้อที่เป็นสาเหตุบ่อยคือ เชื้อวัณโรค ที่คนไข้มักได้รับเชื้อมาโดยไม่รู้ตัว อยูุ่ดีๆ ก็จะมีอาการปวดหลังและมีอัมพาต

- เนื้องอกหรือมะเร็ง ก็เป็นอีกสาเหตุที่พบบ่อย คือโรคมะเร็งกระจายมาจากอวัยวะอื่นๆ เช่น จากโรคมะเร็งเต้านม หรือจากโรคมะเร็งปอด

อาการที่พบบ่อยของโรคกระดูกสันหลังเสื่อม คือ

- ปวดหลัง ปวดคอเป็นๆ หาย อาการมักเป็นเรื้อรัง อาการรุนแรงมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนท่าทาง หรือขณะทำกิจกรรมต่างๆ

- อาการปวดจะเสียวร้าวลงมาที่สะโพก คอ ไหล่ แขน มือ น่อง เท้า หรือนิ้ว ซึ่งเป็นมากขึ้นเวลาเปลี่ยนท่าทางทำกิจกรรมต่างๆ อาการปวดร้าวนี้เกิดจากเส้นประสาทที่ไขสันหลังถูกกดทับจากการที่มีกระดูกเสื่อม

- อาจมีกระดูกสันหลังผิดรูป เช่น หลังคด โก่ง หรือข้อกระดูกเคลื่อน ( เห็นได้จากภาพกระดูกสันหลังจากการเอกซเรย์)

ติดต่อสอบถามปรึกษาฟรี

โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

 # คุณผู้ชายมีอาการเหล่านี้ไหม  #   เช็คอาการด่วน ต่อมลูกหมากโต1. ปัสสาวะสะดุดไหลๆ หยุดๆ2. ปัสสาวะไม่พุ่งไหลช้าๆ เป็นลำเ...
07/11/2018

# คุณผู้ชายมีอาการเหล่านี้ไหม #
เช็คอาการด่วน ต่อมลูกหมากโต

1. ปัสสาวะสะดุดไหลๆ หยุดๆ
2. ปัสสาวะไม่พุ่งไหลช้าๆ เป็นลำเล็ก
3. ปัสสาวะมีเลือดหรือหนองปนอยู่
4. ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืน
5. ปัสสาวะเล็ด
6. ปัสสาวะต้องเบ่งหรือต้องรอนาน
7. ปัสสาวะไม่สุดและมีหยดๆ ตามมาตอนท้าย
8. ปวดถ่วงที่ท้องน้อย
9. ปวดบั้นเอวช่วงล่าง
10. ปวดถ่วงที่อัณฑะ
11. ถุงอัณฑะเย็นและชื้น
12. ตื่นนอนตอนเช้ามีน้ำเหนียวๆ ติดอยู่ปลายอวัยะเพศ
13. น้ำอสุจิมีเลือดปนอยู่หรือมีอาการปวดตอนหลั่งน้ำอสุจิ
14. รู้สึกคันยิบๆ หรือแสบร้อนภายในหรือบริเวณอวัยวะเพศ
15. หย่อนสมรรถภาพทางเพศ

หากคุณมี 3 อาการขึ้นไป สันนิษฐานได้เลยว่ามีความผิดปกติของต่อมลูกหมากกำลังเกิดขึ้น คุณควรจะหันมาใส่ใจสุขภาพของต่อมลูกหมากอย่างจริงจัง ก่อนจะนำไปสู่กรวยไตอักเสบและไตวายเรื้อรัง

ติดต่อสอบถามปรึกษาฟรี

โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา
สามารถเพิ่มเพื่อนใน Line คลิ๊กลิ้งนี้ได้ทันที่

https://line.me/R/ti/p/%40igg3266p

 # # อย่ามองข้ามระบบขับถ่าย  # #การขับถ่าย คือ  การกำจัดของเสียอันเกิดจากขบวนการเมตาโมลิซึม ออกจากร่างกาย การกำจัดการของ...
10/10/2018

# # อย่ามองข้ามระบบขับถ่าย # #

การขับถ่าย คือ การกำจัดของเสียอันเกิดจากขบวนการเมตาโมลิซึม
ออกจากร่างกาย

การกำจัดการของเสียออกจากร่างกาย มี 4 ช่องทาง

1. การกำจัดของเสียออกทางไต คือปัสสาวะ

2. การกำจัดของเสียออกทางลำไส้ใหญ่ คือ อุจาระ

3. การกำจัดของเสียออกจากผิวหนัง คือ เหงื่อ

4. การกำจัดของเสียออกทางปอด คือ ลมหายใจ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการขับถ่าย คือ ตี 5-7 โมงเช้า เพราะเป็นเวลาทำงานของลำไส้ใหญ่ 9 โมงเช้า เรายังไม่ทานอาหาร
อาหารจากลำไส้ใหญ่จะถูกขับย้อนกลับมาที่ลำไส้เล็ก และ
จะถูกย้อนกลับไปที่ลำไส้ใหญ่ และเข้าสู่กระแสเลือด กลับไปสู่หัวใจ ทำให้มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว เลือดไม่สะอาด จะมีสารพิษสะสมร่างกาย

เมื่อระบบขับถ่ายมีปัญหา จะมีอาการ

- มีอาการของโรคภูมิแพ้

- ร่างกายอ่อนเพลีย และเหนื่อยง่าย

- ภูมิต้านทานต่ำ

- มีกลิ่นปาก

- ลมหายใจมีกลิ่น

- ระบบขับถ่ายมีปัญหา

- อารมณ์แปรปรวนง่าย ประสาทตรึงเครียด

- ผิวหนังหมองคล้ำ

- เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

สอบถามปรึกษาฟรี

โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

อาการไม่น่ากลัวแต่นำไปสู่การเสียชีวิต“ลำไส้อุดตัน” (Intestinal obstruction)ภาวะที่สิ่งต่างๆในลำไส้ ได้แก่ น้ำ อาหาร น้ำย...
07/09/2018

อาการไม่น่ากลัวแต่นำไปสู่การเสียชีวิต

“ลำไส้อุดตัน” (Intestinal obstruction)
ภาวะที่สิ่งต่างๆในลำไส้ ได้แก่ น้ำ อาหาร น้ำย่อย และของเหลวต่างๆในลำไส้ ไม่สามารถเคลื่อนผ่านลำไส้ได้ตามปกติ จึงก่อให้เกิดอาการแน่นท้อง อึดอัด ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน และไม่ผายลมการอุดตันของลำไส้ อาจเกิดขึ้นทีละน้อยไม่เป็นที่สังเกต จนกระทั่งมีอาการปวดอย่างรุนแรงขึ้น!

อาการของลำไส้อุดตัน

ลำไส้อุดตันอาจแสดงออกได้หลายอาการ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของลำไส้ที่อุดตัน เช่น เบื่ออาหาร ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น ช่องท้องมีเสียงดังผิดปกติ เป็นต้น ลำไส้อุดตันทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ ดังนั้น ควรรีบไปพบแพทย์หากมีอาการที่บอกถึงการอุดตันของลำไส้ รวมถึงหากพบอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้

สาเหตุของลำไส้อุดตัน

ลำไส้อุดตันแบ่งได้ 2 ประเภท

1. ภาวะลำไส้ตีบตัน (Mechanical Obstructions) คือภาวะที่เกิดจากบางสิ่งไปอุดตันทางเดินของลำไส้ โดยเฉพาะการเกิดพังผืดในลำไส้ซึ่งมักเกิดภายหลังการผ่าตัดภายในช่องท้อง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการอุดตันของลำไส้ หรืออาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่าง ๆ

2. ภาวะลำไส้อืด (Nonmechanical Obstructions) คือภาวะการทำงานผิดปกติของลำไส้ ซึ่งทำให้ไม่สามารถบีบตัวและเคลื่อนไหวได้ตามปกติ ส่งผลต่อการทำงานของระบบขับถ่าย หรือเรียกภาวะนี้ว่า Paralytic Ileus โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่าง ๆ

อาการซึ่งเป็นผลมาจากการอุดตันที่ลำไส้เล็ก

- ปวดท้องรุนแรงบริเวณใต้ซี่โครงหรือสะดือ

- มีอาการเป็น ๆ หาย ๆ หรือพบอัตราการเต้นของชีพจรและ
การหายใจที่เร็วกว่าปกติร่วมด้วย

- คลื่นไส้ อาเจียน ไม่สามารถผายลมได้

- ท้องอืด แน่นท้อง หรืออาจกดแล้วเจ็บที่บริเวณท้อง

อาการที่เป็นผลมาจากการอุดตันที่ลำไส้ใหญ่

- ท้องอืด แน่นท้อง

- ปวดท้อง อาการจะรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการอุดตัน

- ท้องผูกในช่วงที่เกิดการอุดตันของลำไส้หรือก่อนหน้านั้นเป็นเวลาหลายเดือน

- เลือดออกทางทวารหนัก

- ท้องเสียหรือท้องร่วง ของเหลวในอุจจาระเล็ดลอดผ่านลำไส้ที่เกิดการอุดตันเพียงบางส่วน

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

อยากจะร้องโอ๊ย!! เป็นแล้วปวดทรมานมาก ท้องผูก  คือ การถ่ายอุจจาระน้อยกว่าปกติ ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือไ...
01/09/2018

อยากจะร้องโอ๊ย!! เป็นแล้วปวดทรมานมาก

ท้องผูก คือ การถ่ายอุจจาระน้อยกว่าปกติ ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือไม่ได้ถ่ายเป็นเวลานาน ถ่ายยังไง
ก็ถ่ายไม่ออก

สาเหตุของอาการท้องผูก

- การใช้ยา การทานยาบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ เช่น ยารักษาโรคซึมเศร้า ยาระงับอาการทางจิต ยาแก้อาการชัก หรืออาหารเสริมแคลเซียม และธาตุเหล็ก ยาระงับปวด และยาขับปัสสาวะ

- สภาวะทางร่างกาย ฮอร์โมนจะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเกิดความสมดุล ดังนั้นสภาวะบางอย่างที่มีผลต่อฮอร์โมนจึงอาจส่งผลกระทบ ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้เช่นกัน เช่น โรคเบาหวาน การตั้งครรภ์ ปัญหาเกี่ยวกับ
ต่อมไทรอยด์ และโรคลำไส้แปรปรวน

- ความผิดปกติจากกล้ามเนื้อ โรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อสามารถส่งผลต่อการบีบตัวของลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้ ทำให้เกิดการตกค้างของอุจจาระในระบบทางเดินอาหาร และนำไปสู่อาการท้องผูก เช่น เส้นประสาทถูกทำลายจากโรคเบาหวาน โรคพาร์กินสัน เส้นประสาทไขสันหลังบาดเจ็บ หรือโรคหลอดเลือดในสมอง

- ภาวะลำไส้อุดตัน สภาวะบางอย่างอาจทำให้เกิดอาการอุดตันภายในลำไส้ใหญ่ ส่งผลให้อุจจาระเคลื่อนตัวได้ลำบาก และยังคงเหลือค้างอยู่ภายใน เช่น แผลปริขอบทวารหนัก ลำไส้อุดตัน หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่

อาการท้องผูก สังเกตุได้ดังนี้

- ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์

- อุจจาระเป็นก้อนแข็ง แห้ง หรือเป็นเม็ดเล็ก ๆ

- รู้สึกเหมือนยังถ่ายอุจจาระไม่สุด ถ่ายไม่ออก
ถ่ายออกได้ยาก

- ต้องใช้แรงเบ่งหรือใช้มือช่วยล้วง บางคนอาจมีอาการเจ็บ
เมื่อถ่ายอุจจาระด้วย

- ท้องอืด ปวดท้อง

- มีอาการเหล่านี้นานเกินกว่า 3 เดือน

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

โรคตาแห้ง (Dry Eyes)ตาแห้งคือ อาการของดวงตาที่มีปริมาณน้ำตามาหล่อเลี้ยงให้เกิดความชุ่มชื้นกับดวงตา และเคลือบกระจกตาดำไม่...
05/08/2018

โรคตาแห้ง (Dry Eyes)

ตาแห้งคือ อาการของดวงตาที่มีปริมาณน้ำตามาหล่อเลี้ยงให้เกิดความชุ่มชื้นกับดวงตา และเคลือบกระจกตาดำไม่พียงพอ

สาเหตุของโรคตาแห้ง

- ส่วนใหญ่ไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน

- ยาบางชนิด

- ผู้ป่วยที่มีเยื่อบุตาอักเสบรุนแรงจากการติดเชื้อ หรือจากการแพ้ยา

- การใช้คอนแทคเลนส์

- การนอนผักผ่อนไม่เพียงพอ หรือ หลับไม่สนิท

- สิ่งแวดล้อม เช่น เจอสภาพอากาศแห้ง ลม หรือแสงแดด

อาการของโรคตาแห้ง

- รู้สึกฝืด เคือง ระคาย คล้ายมีเศษผงเข้าตา แสบร้อน บางรายมีขี้ตาเป็นเมือกเหนียวยืดเป็นเส้น

- มีอาการน้ำตาไหล สาเหตุจากน้ำตาปกติลดน้อยลง ทำให้เกิดอาการระคายเคือง ต่อมน้ำตาใหญ่ก็จะบีบน้ำตาออกมามากจนไหลล้น เมื่ออาการแสบตาลดลงน้ำตาก็จะหยุดไหล สลับกันไปเช่นนี้เป็นระยะ

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา
สามารถเพิ่มเพื่อนใน Line คลิ๊กลิ้งนี้ได้ทันที่

https://line.me/R/ti/p/%40igg3266p

ความผิดปกติที่คุณผู้ชายไม่ควรมองข้ามโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ  คือ  ภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัว พอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได...
06/07/2018

ความผิดปกติที่คุณผู้ชายไม่ควรมองข้าม

โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คือ ภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัว พอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้

สาเหตุ

1. การสูบบุหรี่ในชายที่เป็นโรคหัวใจ. และความดันโลหิตสูง
2. การรับประทานยาในผู้ป่วยเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันสูงและโรคซึมเศร้า
3. ระดับของคลอเรสเตอรอลชนิดดี (HDL) อยู่ในระดับต่ำ
4. ความบกพร่องของอวัยวะเพศ
5. การทำงานหนักเกินไป อ่อนล้า พักผ่อนน้อย นอนดึก
6. ปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ
7. การเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมน
8. ความผิดปกติของสมอง เช่น เนื้องอกในสมอง เส้นเลือดอุดตัน
9. ความผิดปกติที่บริเวณไขสันหลัง
10.เส้นประสาทส่วนปลายถูกทำลาย

คุณมีปัญหาเหล่านี้หรือไม่

1. ปัญหาน้องชายขนาดเล็กไม่สมส่วน
2. อวัยวะเพศไม่แข็งตัว
3. หลั่งเร็วเกินไป นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ
4. อารมณ์ทางเพศลดลงจนน่าใจหาย
5. ปัญหาสุขเพศ ที่ทำให้คู่รักของคุณเซ็ง

ระดับความแข็งตัว อ่านคลายเครียด
นะคะ

ระดับ 1. เต้าหู้ขาว น้องชายตื่นตัว แต่ไม่แข็ํงแรง
ระดับ 2. กล้วยปอกเปลือก น้องชายแข็งตัวบ้างแต่ไม่อาจทำ หน้าที่สอดใส่ได้
ระดับ 3. กล้วยไม่ปอกเปลือก น้องชายแข็งตัวไม่เต็มที่แต่ก็สอดใส่ได้
ระดับ 4 แตงกวา แข็งตัวเต็มที่ ทำหน้าที่พาคู่รักถึงฝันได้แน่ๆ

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

โรคการเรียนรู้บกพร่อง ( LD)  ย่อมาจากคำว่า learning disorder เป็นความผิดปกติของกระบวนการเรียนรู้ที่แสดงออกทางด้านการอ่าน...
16/06/2018

โรคการเรียนรู้บกพร่อง ( LD) ย่อมาจากคำว่า learning disorder เป็นความผิดปกติของกระบวนการเรียนรู้ที่แสดงออกทางด้านการอ่าน การเขียนสะกดคำ การคำนวณและเหตุผลเชิงคณิตศาสตร์ เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติ
ของสมอง ทำให้ผลการเรียนของเด็กต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริง โดยที่เด็กมีสติปัญญาอยู่ในระดับปกติและมีความสามารถด้านอื่น ๆ ปกติดี

ข้อสังเกตและอาการบ่งชี้ของภาวะความบพร่องในการเรียนรู้

1.ความบกพร่องด้านการอ่าน

- ความบกพร่องด้านการอ่านเป็นปัญหาที่พบได้ มากที่สุดของเด็ก LD ทั้งหมด

- เด็กมีความบกพร่องในการจดจำ พยัญชนะ สระ และขาดทักษะในการสะกดคำ

- เด็กมักอ่านหนังสือไม่ออกหรืออ่านช้า อ่านออกเสียงไม่ชัด ผันเสียงวรรณยุกต์ไม่ได้ อ่านข้าม อ่านเพิ่มคำ - จับใจความเรื่องที่อ่านไม่ได้

- ทำให้เด็กกลุ่มนี้มีความสามารถในการอ่านหนังสือต่ำกว่าเด็กในวัยเดียวกัน อย่างน้อย 2 ระดับชั้นปี

2. ความบกพร่องด้านการเขียนสะกดคำ

- ความบกพร่องด้านนี้ส่วนใหญ่จะพบร่วมกับความบกพร่องด้านการอ่าน

- เด็กมีความบกพร่องในการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ไม่ถูกต้อง

- มักเรียงลำดับอักษรผิด จึงเขียนหนังสือและสะกดคำผิด ทำให้ไม่สามารถแสดงออกผ่านการเขียนได้

- ตามระดับชั้นเรียน เด็กกลุ่มนี้จึงมีความสามารถในการเขียนสะกดคำต่ำกว่าเด็กในวัยเดียวกันอย่าง น้อย 2 ระดับชั้นปี

3. ความบกพร่องด้านคณิตศาสตร์

- เด็กขาดทักษะและความเข้าใจค่าของตัวเลข การนับจำนวน การจำสูตรคูณ การใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์

- เด็กไม่สามารถคำนวณคำตอบจากการบวก ลบ คูณ หาร ตามกฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ได้

- เด็กกลุ่มนี้จึงมีความสามารถในการคิดคำนวณ ต่ำกว่าเด็กในวัยเดียวกันอย่างน้อย 2 ระดับชั้นปี

พฤติกรรมที่เด็กแสดงออก

1. หลีกเลี่ยงการอ่านการเขียน

2. ไม่มีสมาธิในการเรียน ทำงานช้า ทำงานไม่เสร็จทำงาน
สะเพร่า

3. ความจำไม่ดี เรียนได้หน้าลืมหลัง

4. รู้สึกเบื่อหน่าย ท้อแท้

5. ไม่มั่นใจในตนเอง มักตอบว่า “ทำไม่ได้” “ไม่รู้”

6. อารมณ์ ขึ้น ๆ ลง ๆ หงุดหงิดง่าย ไม่อดทน

7. ก้าวร้าวกับเพื่อน พี่น้อง ครู หรือพ่อแม่

8. ขาดความภาคภูมิใจในตนเอง

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

!!!  รู้ทันภาวะสมองล้าสมองล้า “Brain Fog Syndrome” ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการเสียสมดุลของสารสื่อประสาทซึ่งเป็นสารเค...
16/06/2018

!!! รู้ทันภาวะสมองล้า

สมองล้า “Brain Fog Syndrome” ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการเสียสมดุลของสารสื่อประสาทซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลสัญญาณไฟฟ้าระหว่างเซลล์ของระบบประสาท ดังนั้นเมื่อสารสื่อประสาทในสมองเสียสมดุลก็จะทำให้ประสิทธิภาพต่างของสมองแย่ลง

สาเหตุของภาวะสมองล้า

ภาวะขาดสารอาหาร โดยเฉพาะกรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ซึ่งผู้ที่ทำงานประจำในเมืองมักเป็นกลุ่มเสี่ยงเพราะจากวิถีชีวิตที่รีบเร่ง และขาดการดูแลด้านโภชนาการที่ดี

สารพิษต่างที่เพิ่มขึ้นในชีวิตปัจจุบัน เช่น มลภาวะ โลหะหนัก สารเคมี ยาฆ่าแมลงที่อาจพบปนเปื้อนได้ทั้งในอากาศ น้ำ และอาหารที่รับประทานอยู่ทุกวัน

ความเครียดเรื้อรัง มีผลต่อฮอร์โมนต่อมหมวกไตซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของสารสื่อประสาทในสมอง นอกจากนี้เวลาที่เราเครียดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองก็จะหดตัว การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองก็จะลดลง ทำให้เวลาที่เรามีเรื่องเครียดมักจะรู้สึกหัวตื้อๆ มึนงง และความจำต่างๆแย่ลงนั่นเอง

การใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บแล็ต มากเกินไป เพราะคลื่นแม่เหล็กจากเครื่องมือสื่อสารเหล่านี้ล้วนมีผลรบกวนต่อการหลั่งสารสื่อประสาทในสมองทั้งสิ้น

การนอนดึก การขาดการออกกำลังกาย

การทานยาเป็นประจำโดยเฉพาะยาลดน้ำมูก ยาแก้แพ้ต่างๆ

อาการแสดงออกมาได้หลากหลายอาทิเช่น
นอนไม่หลับ ปวดศีรษะเรื้อรัง จัดการหรือแก้ไขปัญหาต่างๆได้ไม่ดีเหมือนเดิม อารมณ์แปรปรวนและหงุดหงิดง่ายขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือหลงลืมง่ายขึ้น ความจำระยะสั้นแย่ลง สมาธิไม่ดี ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆที่เคยมีกลับหายไป
ทำให้มีการอุปมาอุปไมยเปรียบเทียบของกลุ่มอาการนี้ว่าสมองมันล้า

ขอขอบคุณความรู้สุขภาพจาก:
นพ.ศิต เธียรฐิติ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ชะลอวัย และฟื้นฟูสุขภาพ

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

แผ่นรองส้นเท้าบาดเจ็บแผ่นรองส้นเท้า เรียกอีกชื่อว่า "แผ่นไขมัน(Fat pad)" เป็นอวัยวะที่มีความยืดหยุ่นที่เต็มไปด้วยไขมัน จ...
06/06/2018

แผ่นรองส้นเท้าบาดเจ็บ

แผ่นรองส้นเท้า เรียกอีกชื่อว่า "แผ่นไขมัน(Fat pad)" เป็นอวัยวะที่มีความยืดหยุ่นที่เต็มไปด้วยไขมัน จะช่วยลดและซึมซับแรงที่เกิดจากการชนกระแทกระหว่างส้นเท้าและพื้น การใช้งานหนักเกินไปหรือการได้รับบาดเจ็บกะทันหันมักเป็นสาเหตุของแผ่นรองส้นเท้าอักเสบเรื้อรังที่พบบ่อย

อาการที่พบบ่อย

รู้สึกเจ็บขณะเดิน โดยเฉพาะเมื่อใส่รองเท้าพื้นแข็ง

อาการบาดเจ็บที่แผ่นรองส้นเท้า และอาการผังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบมีความแตกต่างกันมาก การรักษาอาการผังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบจะต้องใช้การดึงเส้นเอ็น การฝึกกล้ามเนื้อและการทำกายภาพ ในขณะที่การรักษาอาการบาดเจ็บที่แผ่นรองส้นเท้าคือลดกิจกรรมเดินและใช้ยางรองส้นเท้า การทำกายภาพจะไม่ให้ผลชัดเจนเท่าไหร่

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

อาการปวดจี๊ดๆ ที่ฝ่าเท้าอย่ามองข้ามโรครองช้ำ หรือ โรคพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ ( Plantar  fasciitis)  เป็นโรคที่มีอาการอักเ...
06/06/2018

อาการปวดจี๊ดๆ ที่ฝ่าเท้าอย่ามองข้าม

โรครองช้ำ หรือ โรคพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ ( Plantar fasciitis) เป็นโรคที่มีอาการอักเสบของพังผืดใต้ฝ่าเท้า ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดที่ส้นเท้ามาก แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานเท้าหนัก

โรคพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ หรือที่มักจะรู้จักกันในชื่อ โรครองช้ำ เป็นโรค
ที่พบได้บ่อย โดยจะพบมากในผู้ป่วยอายุ 40 ปีขึ้นไป

สาเหตุของโรคอาจเกิดได้จาก

- การรับน้ำหนักเป็นเวลานาน ทำให้เอ็นที่ฝ่าเท้ารับน้ำหนักมาก พบได้บ่อย
ในผู้ที่ต้องยืนเป็นเวลานานในระหว่างวัน เช่น ผู้ที่ต้องยืนตลอดกะการทำงาน
ทั้ง 8 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้นน้ำหนักตัวมาก น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอาจก่อให้เกิดพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบได้

- สวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าที่ไม่มีพื้นบุรองส้นเท้า

- ลักษณะการทำกิจกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น เพิ่มระยะทางการวิ่งออกกำลังกาย การเดิน/วิ่งบนพื้นผิวที่ต่างไปจากเดิมหรือบนพื้นผิวแข็ง (เช่น พื้นซีเมนต์หรือคอนกรีต)

- เอ็นร้อยหวายยึด ทำให้ส้นเท้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติ

- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์หรือข้อสันหลังอักเสบ อาจทำให้มีโอกาสเกิดการอักเสบที่เส้นเอ็นในจุดใดจุดหนึ่งที่เชื่อมต่อกับกระดูก ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบได้

- ปัจจัยทางโครงสร้างร่างกาย เช่น เท้าแบนเกินไป อุ้งเท้าโก่งมากเกินไป
หรือเส้นเอ็นยึดบริเวณน่องทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวข้อเท้าได้ตามปกติ

อาการของโรค

อาการหลักๆ ของโรคพังผืดใต้ฝ่าเท้าอักเสบ คือ อาการเจ็บที่ส้นเท้าและ
ลามไปทั่วฝ่าเท้า ในบางครั้งอาจลามไปที่อุ้งเท้าด้วย ลักษณะของอาการ
เจ็บจะเป็นแบบปวดจี๊ดขึ้นมาและปวดแสบ โดยมากความเจ็บปวดจะค่อยๆ เกิดขึ้นทีละน้อย จนคิดว่าเดี๋ยวอาการปวดก็หายไป แต่ก็จะกลับมาปวดอีก อาการปวดจะรุนแรงที่สุดเมื่อเริ่มมีการลงน้ำหนักที่ส้นเท้าในก้าวแรก เช่น เมื่อลุกเดินก้าวแรกหลังตื่นนอน หรือหลังจากนั่งพักเป็นเวลานาน นอกจากนี้ อาจมีอาการปวดมากขึ้นได้ในช่วงระหว่างวันและ/หรือหลังจากที่เท้าต้องรับน้ำหนักเป็นเวลานาน เช่น ยืนหรือเดินเป็นเวลานาน และเมื่อมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นก็จะยิ่งมีอาการปวดมากขึ้น

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

โรคจอตาเสื่อมจากเบาหวาน เป็นสาเหตุให้ตาบอดถาวรได้เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) เป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ที่ม...
24/05/2018

โรคจอตาเสื่อมจากเบาหวาน เป็นสาเหตุให้ตาบอดถาวรได้

เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) เป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ทำให้เส้นเลือดที่เรตินาหรือจอตาได้รับความเสียหายจากน้ำตาลอุดตันและเลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ ในช่วงแรกอาจไม่พบอาการหรืออาจมองเห็นผิดปกติเพียงเล็กน้อย แต่หากมีอาการรุนแรง แล้วปล่อยไว้ไม่เข้ารับการรักษาอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ในที่สุด

จอประสาทตา เป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ด้านในสุดของลูกตา ประกอบด้วยเชลล์ประสาทรับแสงหลายล้านเซลล์ ทำหน้าที่เปลี่ยนแสงหรือภาพที่ผ่านเข้ามาในลูกตา เป็นสัญญาณประสาท ส่งต่อไป
ที่สมอง ทำให้เรารับรู้ถึงการมองเห็นต่างๆ ได้ ถ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้นที่จอประสาทตา ก็จะมีผลกระทบทำให้การมองเห็นผิด
ปกติได้ิ

การเกิดเบาหวานขึ้นตา เริ่มจากหลอดเลือดในจอตาเกิดความผิดปกติ มีการอักเสบสาเหตุจากเบาหวาน ต่อจากนั้นมีการโป่งพองเป็นหย่อมๆ จากผนังหลอดเลือดผิดปกติ ตามด้วยมีเลือดและน้ำเหลืองซึมออกมาจากหลอดเลือด กระจายอยู่ทั่วๆไปในจอตา หากปล่อยทิ้งไว้ จะมีเลือด น้้ำเหลือง ซึมมากขึ้นตามด้วยจอตาขาดเลือด จึงเกิดการตายของจอตา ในระยะแรกอาจเป็นการตายกระจัดกระจาย นานเข้ามีการตายมากขึ้น เซลล์รับรู้การเห็นในจอตาเหลือน้อยลง การมองเห็นจะลดลงมากขึ้น

อาการโรคเบาหวานขึ้นตา

- อาจไม่มีอาการอะไรเลยในระยะแรก

- ตามัวลงเล็กน้อย ตาจะมัวลงอย่างช้าๆ เห็นเงาดำๆ ลอยไป
ลอยมาหรือมีจุดดำๆ มาบังตรงกลางของภาพ

- อาจมองเห็นภาพบิดเบี้ยว ถ้าจอตามีการบวมน้ำ หรือมีการ
ตายของเชลล์ตาเป็นหย่อมๆ

- มีลานสายตา ที่ผิดปกติ อาจเห็นมืดไปด้านใดด้านหนึ่ง

- ตามืดลงอย่างฉับพลัน มักเกิดในรายที่มีเลือดออกใน
น้ำวุ้นตาอย่างฉับพลัน

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

 # เพิ่มโปรตีนให้มื้อเช้า รับรองน้ำหนักลด  🥖 🥛 🍊➡️เชื่อว่าหลายๆ คนคงสงสัยว่าแต่ละมื้อควรทานอะไรดีที่จะช่วยให้อิ่มท้อง แถ...
06/05/2018

# เพิ่มโปรตีนให้มื้อเช้า รับรองน้ำหนักลด 🥖 🥛 🍊

➡️เชื่อว่าหลายๆ คนคงสงสัยว่าแต่ละมื้อควรทานอะไรดีที่จะช่วยให้อิ่มท้อง แถมช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย! ความสงสัยนี้จะหายไป เพราะทีมงาน RyoiiReview จะมาเฉลยว่ามื้อเช้าควรทานอะไรที่ให้ทั้งความอิ่ม ความเฟิรม์ แถมช่วยลดน้ำหนัก

➡️คำถาม: อาหารอะไรที่เหมาะกับกินเป็นมื้อเช้า แถมช่วยลดน้ำหนักให้อีก?

➡️คำตอบ: อยากได้ทั้งความอิ่ม และความเฟิรม์ ต้องทาน “โปรตีน” เท่านั้นค่ะ

➡️ มีหลายงานวิจัยที่พบว่า การรับประทานอาหารที่มี “โปรตีน” สูง เช่นไข่ และเบคอน มีประโยชน์มากกว่าอาหารที่อุดมไปด้วย “คาร์โบไฮเดรต” เช่นซีเรียล นอกจากจะอุดมไปด้วยโปรตีนซึ่งจะช่วยให้อิ่มอยู่ท้องแล้ว ยังช่วยให้ไม่รู้สึกหิวอีกด้วย

➡️อีกหนึ่งการศึกษาพบว่า ผู้ที่บริโภคอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูงจะมีการควบคุมระดับของกลูโคส และอินซูลินได้ดีกว่า ซึ่งระดับของกลูโคส และอินซูลินจะช่วยควบคุมความหิว และลดความเสี่ยงของการป่วยเป็นโรคเบาหวาน Mike Roussell

➡️นักโภชนาการประจำ Men’s Health แนะนำว่าให้เพิ่มปริมาณโปรตีนสัก 30 กรัม ในมื้ออาหารเช้า เช่นไข่, เนื้อไก่งวง, โยเกิรต์กรีก หรือน้ำปั่นสมูทตี้ อีกทั้งการนำของเหลือจากเมื่อวานมาทานเป็นอาหารก็เป็นสิ่งที่น่าทำ เพราะส่วนใหญ่แล้วอาหารมื้อเย็นจะมีปริมาณโปรตีนมากกว่ามื้ออื่นๆ

➡️การรับประทานอาหารเช้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นอกจากจะให้พลังงานแก่ร่างกายแล้ว ยังให้พลังงานแก่สมองอีกด้วย แต่หากอยากได้ทั้งความอิ่ม และความหุ่นดี

➡️ ต้องเลือกทานอาหารเช้าที่มี “โปรตีน” สูงค่ะ อย่างเช่นไข่ไก่ ที่ถูก และสามารถปรุงได้หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียว, ไข่ดาว หรือไข่ต้ม ลองเปลี่ยนมาเน้นทานโปรตีนในตอนเช้า นอกจากจะอิ่มแล้ว หุ่นยังดี แถมไม่หิวง่ายอีกต่างหาก

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

อันตรายถึงชีวิต! ออกกำลังกายหนัก ระวังโรค“เสพติดกล้ามเนื้อ”ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทรนด์ดูแลสุขภาพกำลังมาแรงมากๆ ในระยะ 2-3 ป...
06/05/2018

อันตรายถึงชีวิต! ออกกำลังกายหนัก ระวังโรค
“เสพติดกล้ามเนื้อ”

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทรนด์ดูแลสุขภาพกำลังมาแรงมากๆ ในระยะ 2-3 ปีให้หลังมานี้ ไม่ว่าจะฟิตเนส วิ่ง โยคะ และการทานอาหารคลีน ยิ่งคุณผู้ชายหันมาทานโปรตีน ทั้งโปรตีนเชค อกไก่ และยกเวทอย่างหนัก หวังจะได้กล้ามเนื้อแน่นๆ ซิกแพ็คเท่ๆ รูปร่างดี เพิ่มบุคลิกให้ตัวเอง และสุขภาพแข็งแรงด้วย แต่คุณสำรวจตัวเองดีๆ สิคะว่ากำลัง “เสพติดกล้ามเนื้อ” อยู่หรือเปล่า?

โรคเสพติดกล้ามเนื้อ คืออะไร?

รู้จักโรค “อะนอเร็กเซีย” กันแล้วใช่ไหมคะ ที่คุณผู้หญิงยอมอดอาหาร ทานแล้วล้วงคอให้อาเจียน ผอมแล้วก็ยังไม่พอ มองตัวเองว่ายังอ้วนอยู่ตลอด โรคเสพติดกล้ามเนื้อของผู้ชายก็เช่นกันค่ะ ชื่อเรียกยังคล้ายกันเลย “โรคไบกอร์เร็กเซีย” ดังนั้นอาการก็จะคล้ายกัน คือ ยังมองตัวเองว่าตัวเล็กอยู่ตลอดเวลา ตัวเล็ก กล้ามเนื้อเล็ก ต้องออกกำลังกายเพิ่ม ยกเวทเพิ่ม กินโปรตีนเพิ่ม ทั้งที่จริงแล้วคุณก็อาจกำลังมีหุ่นที่สมส่วนดีอยู่แล้ว แต่ยังไม่พอใจในรูปร่างของตัวเองเสียที เป็นอาการโรคจิตอย่างหนึ่ง

อันตรายจากโรคเสพติดกล้ามเนื้อ

ผู้ป่วยโรคเสพติดกล้ามเนื้อ ถือเป็นผู้ป่วยทางจิต ที่เมื่อไม่ได้ หรือไม่มีรูปร่างที่ตนเองต้องการ ก็จะเกิดอาการซึมเศร้า อมทุกข์ เครียด ไม่พอใจ ไม่ภูมิใจในตัวเอง จนบางครั้งนอกจากอันตรายที่เกิดขึ้นจากการขาดสารอาหารแล้ว ยังอาจได้รับอันตรายจากการใช้ยาสเตียรอยด์ ในบางรายที่เผลอใช้ตัวช่วย (เหมือนที่ผู้หญิงทานยาลดความอ้วน) และหากยังซึมเศร้าต่อไปเรื่อยๆ อาจกระทบถึงการใช้ชีวิต หน้าที่การงาน การเข้าสังคม จนเลยเถิดไปถึงการคิดฆ่าตัวตายได้ไม่พอใจในรูปร่างของตนเอง แม้ว่ารูปร่างจะปกติดีอยู่แล้ว เป็นอาการเริ่มต้นของโรคเสพติดกล้ามเนื้อ

10 สัญญาณอันตราย โรคเสพติดกล้ามเนื้อ

1. ต้องไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสทุกวัน หรือบ่อยมากที่สุดเท่าที่
จะเป็นไปได้

2. พูดถึงเรื่องออกกำลังกายบ่อยๆ หายใจเข้าออกมีแต่เรื่องออก
กำลังกาย

3. ชอบส่องกระจกนานๆ และสังเกตรูปร่าง ติเตียนรูปร่างของตัว
เองอยู่ตลอดเวลา

4. รับประทานโปรตีนเสริมมากเกินไป

5. หันไปใช้ตัวช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อทุกอย่างที่หาได้ เช่น
สารสเตียรอยด์ต่างๆ

6. อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย ใจร้อน ขี้โมโห

7. สติหลุดบ้างเป็นบางครั้ง มีอาการคลุ้มคลั่ง ระงับอารมณ์
ไม่อยู่

8. ซึมเศร้า หดหู่ เก็บตัวอยู่คนเดียว แยกตัวเองออกจากสังคม

9. ออกกำลังกายมากเกินไปจนกระทบต่อเวลาพักผ่อน และ
กล้ามเนื้อบาดเจ็บ

10. เลือกการออกกำลังกาย มากกว่าเพื่อน คนรัก คนใน
ครอบครัว งาน และสิ่งอื่นๆ

ผู้ชายที่เสพติดการออกกำลังกาย มีโอกาสเป็นโรคเสพติดกล้ามเนื้อด้วยเช่นกัน

วิธีหลีกเลี่ยงการเป็นโรคเสพติดกล้ามเนื้อ

1. ปรึกษาเทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการสร้างกล้ามเนื้อ และ
ออกกำลังกายภายใต้การดูแลของเขาอย่างจริงจัง

2. แบ่งเวลาในการออกกำลังกาย ไม่ให้กระทบต่อการทำ
กิจกรรมอื่นๆ ในชีวิต

3. อย่ากดดันตัวเอง รำลึกไว้เสมอว่า ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
ที่แข็งแรง รูปร่างเป็นเพียงผลพลอยได้

4. อย่าออกกำลังกายอย่างหักโหมมากจนเกินไป ตั้งเป้าหมาย
ในจำนวนที่พอทำไหว เมื่อถึงเป้าหมายให้หยุด ค่อยเพิ่ม
จำนวนในวันต่อๆ ไป อย่ารีบเร่ง

5. อย่าเปรียบเทียบรูปร่างของตัวเองกับผู้อื่น เพราะคนเรามี
โครงสร้างทางร่างกายไม่เหมือนกัน เราทำได้ดีในรูปร่างแบบ
ของเราก็พอ

6. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ สารอาหารต้องหลากหลาย อย่า
ทานแต่โปรตีนเพียวๆ หรือทานแต่อาหารซ้ำๆ อย่าดื่มโปรตีน
เชคมากเกินไป

7. อย่าหันไปใช้ตัวช่วยสร้างกล้ามเนื้ออย่าง สารสเตียรอยด์
เพราะอาจเกิดอันตรายต่อร่างการได้

สาวๆ ว่าต้องระวังแล้ว คราวนี้หนุ่มๆ ก็ต้องระวังบ้างเหมือนกันนะคะ เพราะฉะนั้นใครที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเสพติดกล้ามเนื้อแบบนี้แล้วล่ะก็ ตั้งสติ แล้วรีบแก้ไขตัวเองด่วนๆ ก่อนที่จะเป็นอะไรไปมากกว่านี้นะคะ

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

ระบบเผาผลาญพัง ควรแก้ไขยังไง🌀วิธีเพิ่มการเผาผลาญของร่างกาย🌀🚩บางคนกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ขณะที่บางคนหรืออาจเป็นตัวเราเองที่...
06/05/2018

ระบบเผาผลาญพัง ควรแก้ไขยังไง

🌀วิธีเพิ่มการเผาผลาญของร่างกาย🌀

🚩บางคนกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ขณะที่บางคนหรืออาจเป็นตัวเราเองที่กินน้อยก็ยังอ้วน เอ๊า ทำไมเป็นงั้น!!

🚩นั่นก็เพราะ แต่ละคนมีระบบเผาผลาญที่ต่างกัน บางคนเผาผลาญดีเกินไป ก็ไม่ใช่ว่าจะดี เพราะกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน

🚩ผอมเกินมาตรฐาน ขณะที่คนส่วนใหญ่ระบบเผาผลาญจะเริ่มแย่ลงเพราะไม่ใส่ใจในการเลือกอาหาร กินไม่ตรงเวลา ดื่มน้ำน้อย และอะไรอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น กรรมพันธุ์ เพศ และอายุ

💢เอาเป็นว่า เมื่อร่างกายเผาผลาญได้น้อยลงแล้ว ก็จะอ้วนเอา ๆ จะกินให้น้อยยังไงก็ไม่ยอมผอม

📌แบบนี้ต้องมาปฏิบัติตัวกันใหม่ เพื่อกู้ระบบเผาผลาญให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้นโดยการ

1. อย่าปล่อยให้ร่างกายหิวโหย โดยพยายามกินให้ต่อเนื่อง แบ่งเป็นมื้อย่อย ๆ แบบ Mini meals โดยเริ่มตั้งแต่ภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังจากตื่นนอน อย่ากินให้อิ่มเกินไป กินน้อย ๆ ให้พออยู่ท้อง และแบ่งช่วงระยะห่างของแต่ละมื้อให้สั้นลง จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีขึ้น

2. กินโปรตีน โปรตีนช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่า ไขมันหรือคาร์โบไฮเดรต นั่นเพราะร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้นในกระบวนการย่อยอาหาร ร่างกายจะเผาผลาญแคลอรีเป็น 2 เท่าในการย่อยโปรตีน ดังนั้นให้เพิ่มโปรตีนเป็น 2 เท่าแล้วลดคาร์โบไฮเดรตลง ลดลงนะคะ ไม่ใช่ตัดไปเลย

3. ออกกำลังด้วยการยกน้ำหนักหรือเวทเทรนนิ่ง เป็นการช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น โดยเมื่อออกกำลังยกน้ำหนัก เมื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ 1.3 กิโล และจะเพิ่มการเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น 6-8% ซึ่งเท่ากับเผาผลาญแคลอรีเพิ่มพิเศษวันละ 100 แคลอรี

4. ออกกำลังกายแบบ HITT (High Intensity Interval Training) เป็นวิธีการออกกำลังกายสไตล์คาร์ดิโอที่ผสมผสานกันระหว่างการออกกำลังกายอย่างหนักและการออกกำลังกายเบา ๆ สลับกันไป เช่น วิ่งเร็ว 30 วินาที แล้วกลับมาวิ่งเหยาะๆ 30 วินาที สลับกันไป

5. การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเผาผลาญเพิ่มขึ้น จากที่เผาผลาญ ด้วยการออกกำลังตามปกติ

6. อย่าหักโหม การทำงานของระบบเผาผลาญมากเกินไปโดยการออกกำลังกายสองหรือสามชั่วโมงทุกวัน นำไปสู่โหมดที่หนักเกินไป และในที่สุดก็ไม่ไหว ร่างกายของคุณต้องใช้เวลาพักผ่อนและกู้คืนนะ

7. เมื่อระบบเผาผลาญของคุณดีขึ้นจงรักษามันให้อยู่นานๆ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมกินแหลก อดอาหาร วันหนึ่งกินน้อย กินวันละ 500-1000 แครอรี่ การดีท็อกซ์ และการทดลองยาอาหารเสริมต่างๆ ซึ่งนำไปสู่โรคอ้วน หรือ เผาผลาญเสื่อมได้

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

โปรตีน🔻คือ สารอาหารหลักที่มีความจำเป็นมากต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เรา แหล่งของโปรตีนจะอยู่ในอาหารจำพวก เนื้อ นม ไข่ และถั...
06/05/2018

โปรตีน

🔻คือ สารอาหารหลักที่มีความจำเป็นมากต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เรา แหล่งของโปรตีนจะอยู่ในอาหารจำพวก เนื้อ นม ไข่ และถั่ว ที่อยู่ในอาหารที่กินในแต่ละวัน โดยสิ่งสำคัญที่ร่างกายคนต้องการคือโมเลกุลขนาดเล็ก ที่เรียกว่า “กรดอะมิโน” ที่ประกอบเป็นโปรตีน

🔻มีหน้าที่มาช่วยซ่อมแซมร่างกายที่สึกหรอเรา
ประโยชน์ของโปรตีน
อย่างที่ทุกคนรู้กันมานานแล้วว่าโปรตีนมีหน้าที่ช่วยซ่อมแซม ฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอของร่างกาย

🔻เพราะในการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเรา เนื้อเยื้อ และอวัยวะต่างๆในร่างกายเราได้มีการทำงาน และเกิดการสึกหรอ และเสื่อมสภาพไป ซึ่งเนื้อเยื่อเหล่านี้ถูกสร้างมาจากโปรตีน

🔻โดยร่างกายของเราจะรับโปรตีนที่เรารับประทานเข้ามา และย่อยให้กลายเป็นกรดอะมิโนต่างๆ ก่อนนำไปใช้
ทั้งนี้โปรตีนยังช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย

🔻ช่วยให้พลังงานสำรองแก่ร่างกาย รวมไปถึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และทำให้รู้สึกสดชื่นอยู่ตลอดเวลา

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา
สามารถเพิ่มเพื่อนใน Line คลิ๊กลิ้งนี้ได้ทันที่

หน้าที่สำคัญของโปรตีน🍳🍳🍗ให้กรดอะมิโนจำเป็น ซึ่งร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น🍖สร้างกล้ามเนื้อและโครงสร...
06/05/2018

หน้าที่สำคัญของโปรตีน🍳🍳

🍗ให้กรดอะมิโนจำเป็น ซึ่งร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น

🍖สร้างกล้ามเนื้อและโครงสร้างของร่างกาย รวมทั้งช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ที่สึกหรอ

🥔สร้างสารในการทำงานต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น เอนไซม์ และฮอร์โมนหลายชนิด รวมทั้งช่วยนำพาและขนส่งสารหลายชนิดในเลือด

🥜สร้างภูมิต้านทาน โดยสร้างสารแอนติบอดี้ทำหน้าที่จับและทำลายสารแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย

🥚ดูแลสมดุลของเหลว โปรตีนในเลือดทำหน้าที่รักษาสมดุลออสโมติก (Osmotic Balance) ทั้งในเลือดและในเซลล์

🍗สร้างกลูโคส ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญที่สุดในร่างกาย

🥓เป็นแหล่งพลังงาน ในบางภาวะที่ร่างกายขาดอาหารอย่างรุนแรง ร่างกายสามารถสลายโปรตีนให้เป็นกรดอะมิโนอิสระเพื่อนำไปสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย

สอบถามปรึกษาฟรี
โทร. 081 5671693 คุณ กรรยา

ที่อยู่

242 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี
Bangkok
10510

เบอร์โทรศัพท์

0815671693

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สาระดีเพื่อสุขภาพผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง สาระดีเพื่อสุขภาพ:

แชร์