เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/339899982550625/

NB Medlaw Consult

ให้คำปรึกษาคดีความทางการแพทย์ คดีฟ้องร้องสถานพยาบาลและบุคลากรทางสาธารณสุข

16/08/2024

ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินคดีความทางการแพทย์ คือ ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับการรักษาไม่ได้อยู่ที่ผู้ป่วย กลไกและขั้นตอนการได้มาของข้อมูลก็มีความยุ่งยากซับซ้อนอยู่ และในบางกรณีแม้ผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยจะได้รับรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษามาถือไว้ในมือแล้วก็อาจจะไม่ได้ข้อมูลอะไรมากเนื่องจากเจอ encoder ขั้นเทพ

ส่วนตัวผมเอง เคยทั้งเป็นคนเขียนและเป็นคนอ่านแผ่นนี้มาหลายปี แต่เจออย่างในรูปเข้าไปยอมรับว่าลำบากจริง ต้องใช้สมาธิมากกว่าจะได้แต่ละบรรทัด

16/08/2024

"จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่เพียงใด"
เชื่อว่าท่านทั้งหลายหากได้เคยมีประสบการณ์ไปขึ้นศาลในฐานะโจทก์หรือจำเลย และเคยได้ไปวันที่ศาลดำเนินกระบวนการชี้สองสถาน หากท่านเคยได้อ่านรายงานกระบวนพิจารณาในคดีละเมิด ท่านจะต้องเคยเห็นคำคำนี้

คำนี้เป็นคำที่มีความสำคัญในกรณีที่ศาลกำหนดประเด็นพิพาทในกรณีคดีละเมิด
อย่างที่เคยได้กล่าวมา คดีละเมิดมูลเหตุเกิดมาจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 "ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น"
โดยคดีแพ่งสามัญ โจทก์มีภาระการนำสืบข้อเท็จจริงให้ศาลเห็นว่าจำเลยเป็นฝ่ายกระทำละเมิดตามบทบัญญัติของกฎหมายมาตราดังกล่าว หากโจทก์สามารถนำสืบได้ ย่อมตอบคำถามที่ศาลตั้งประเด็นพิพาทเบื้องต้นว่า "จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่" ได้

คำถามต่อมาที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือ "จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์เพียงใด" คำว่าเพียงใด แปลตรงๆภาษาชาวบ้านก็คือ จ่ายที่ตัวเลขเท่าไหร่
โดยทั่วไปในการบรรยายฟ้องของโจทก์ ทนายความโจทก์จะบรรยายความเสียหายที่เกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยเป็นค่าเสียหายต่างๆที่เกิดจากการกระทำละเมิดนั้นๆ ยกตัวอย่างในกรณีของคดีทางการแพทย์กรณีที่เกิดผลข้างเคียงจากการรักษาเป็นเหตุให้ผู้ป่วยบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการรักษาก่อนที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิต ค่าทำศพ ค่าขาดไร้อุปการะ ค่าเสียความสามารถในการประกอบการงาน ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอื่นอันมิใช่ตัวเงิน ฯลฯ โดยโจทก์จะคิดคำนวณค่าใช้จ่ายมาแต่ละรายการและบรรยายมาในฟ้อง และสุดท้ายศาลจะเป็นผู้พิจารณาแต่ละรายการให้ตามข้อเท็จจริงและปรับตามความสมเหตุสมผลเป็นตัวเลขที่จำเลยต้องชำระแก่โจทก์ นี่คือคำตอบว่า จำเลยต้องชำระแก่โจทก์เพียงใด

ที่นี้เราก็จะได้คำตอบในประเด็นพิพาทที่ศาลตั้งไว้ทั้งหมด นำไปสู่คำพิพากษา ที่จะมีเนื้อความสรุปสิ่งที่ศาลตั้งคำถามว่าจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่เพียงใด

ปรึกษาคดีความการแพทย์ NB Medlaw Consult
โทร 099-435-2453 line 0994352453

16/08/2024

"ประมาทเลินเล่อ"
คำว่าประมาทเลินเล่อนั้น ไม่มีนิยามที่ชัดแจ้งในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในทางปฎิบัติเมื่อเวลาทนายความบรรยายฟ้องคดีละเมิดที่มูลเหตุแห่งคดีเกิดจากความประมาท ทนายความหลายๆท่านจะหยิบยืมถ้อยคำที่นิยามความประมาทจากประมวลกฎหมายอาญามาใช้ โดยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 วรรคสี่ได้นิยามความประมาทว่า "กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่"
เราจะสังเกตองค์ประกอบของความประมาทได้เป็น 3 ส่วน โดยแยกเป็นประเด็นดังนี้
1. กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นจำเลยต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์
2. จำเลยอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้
3. แต่จำเลยหาได้ใช้เพียงพอไม่

เมื่อเรานำองค์ประกอบเหล่านี้มาประยุกต์ใช้เข้ากับคดีความทางการแพทย์แล้วเราจะสังเกตว่าเมื่อโจทก์ต้องการจะฟ้องแพทย์ โจทก์มีหน้าที่ที่จะนำเสนอข้อเท็จจริงให้ศาลเห็นถึงองค์ประกอบของความประมาทเหล่านี้
1. แพทย์กระทำโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นแพทย์ต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์
- ความระมัดระวังที่บุคคลในภาวะเช่นแพทย์ต้องมีนั้นคืออะไร สิ่งนี้คือมาตรฐานการรักษาโรคนั้นๆ หรือ clinical practice guideline ในการ management อาการเจ็บป่วยต่างๆที่ผู้ป่วยเป็น ว่าโรคนี้ผู้ป่วยมาด้วยอาการแบบนี้ ตามมาตรฐานแพทย์ต้องควรจัดการด้วยวิธีนี้ ส่งตรวจวินิจฉัยด้วยสิ่งนี้ ตามขั้นตอนนี้ ผลออกมาแบบนี้รักษาแบบนี้ ถ้าผลออกมาแบบนี้รักษาแบบนี้
2. แพทย์อาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้
- แพทย์ต้องไม่มีข้อจำกัดการสั่งการรักษา หรือ สั่งการวินิจฉัยโรค ณ สถานที่ ณ ห้วงเวลานั้นๆ เช่นผู้ป่วยปวดท้องมากๆบนเครื่องบิน แต่ท่านบรรยายฟ้องแพทย์ว่าไม่ส่งผู้ป่วยไป ct scan แบบนี้อาจไม่ค่อยจะถูกต้องเท่าไหร่นัก
3. แพทย์หาได้ใช้เพียงพอไม่
- สรุปสิ่งที่แพทย์ต้องทำตามมาตรฐาน แพทย์สามารถทำได้โดยไม่มีเงื่อนไขและข้อจำกัด แต่สุดท้ายแพทย์กลับไม่ทำโดยไปทำสิ่งอื่นแทน

เมื่อท่านสรุปข้อเท็จจริงเหล่านี้นำเสนอสู่ศาล ศาลรับฟังข้อเท็จจริงตามที่ท่านเสนอได้เป็นที่ยุติ ก็จะสรุปได้ว่าแพทย์กระทำการประมาทเลินเล่อหรือไม่ และนำไปสู่คำพิพากษาต่อไป

ปรึกษาคดีความทางการแพทย์ NB Medlaw Consult
โทร 099-435-2453 line 0994352453

15/08/2024

คดีความทางการแพทย์มีความสำคัญและมีความแตกต่างจากคดีแพ่งอย่างอื่นอย่างไร
คดีความทางการแพทย์พูดง่ายๆก็คือคดีความแพ่งที่มีมูลเหตุแห่งคดีเกิดมาจากความเสียหายทางการแพทย์
ขึ้นชื่อว่าคดีแพ่ง ก็ต้องนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฏหมายแพ่งว่าด้วยลักษณะละเมิดมากล่าว "ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่ำสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น"
ผู้ใด "จงใจ" คงไม่น่ามีบุคลากรทางการแพทย์ท่านใดจงใจกระทำละเมิดต่อผู้ป่วยเป็นแน่ ยกเว้นมีเรื่องบาดหมางกันเป็นส่วนตัว
ที่นี้ก็เหลือ "ประมาทเลินเล่อ" keyword นี่แหละที่เป็น key หลักที่ทนายความใช้บรรยายฟ้อง และศาลใช้วินิจฉัยมูลเหตุแห่งคดีความทางการแพทย์ทั้งมวล
เดี๋ยวเราจะมาติดตามกันต่อในบทความหน้าว่า อะไรคือประมาท อะไรคือไม่ประมาท ประมาททางการแพทย์นี่มันเหมือนขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนศรไหมนะ รอติดตามกันต่อไป

ปรึกษาคดีความทางการแพทย์ NB Medlaw Consult
โทร 099-435-2453 line 0994352453