Mindful Yoga Bkk รับสอนโยคะทั้งเป็นกลุ่มและส่วนตัว

หนักหน่วงจากการทำขนมส่ง สิ่งที่ต้องทำทุกครั้งหลังทำขนมเสร็จ คือ ยืดกล้ามเนื้อค่ะ โดยเฉพาะ หลัง ขา สะบัก แขน จะปวดมาก เคย...
01/08/2025

หนักหน่วงจากการทำขนมส่ง สิ่งที่ต้องทำทุกครั้งหลังทำขนมเสร็จ คือ ยืดกล้ามเนื้อค่ะ โดยเฉพาะ หลัง ขา สะบัก แขน จะปวดมาก เคยไม่ยืด คือเดินไม่ได้เลย 😅

รูปทางขวา ช่วยยืดกล้ามเนื้อหลัง โดยเฉพาะ lower back ใต้ขา หรือ hamstring หลังส่วนบน สะโพก ได้เป็นอย่างดี และเรามักใช้ในการยืดเป็นประจำ สบายตัวมากๆขอบอก ♥️🥰

โยคะมีมาก่อนศาสนาพุทธ ใครเคยฝึกโยคะ แล้วได้มาฝึกปฏิบัติสมาธิตามแนวทางของพระพุทธศาสนา จะรู้ได้ด้วยตัวเองว่ามันมีบางอย่างเ...
30/07/2025

โยคะมีมาก่อนศาสนาพุทธ ใครเคยฝึกโยคะ แล้วได้มาฝึกปฏิบัติสมาธิตามแนวทางของพระพุทธศาสนา จะรู้ได้ด้วยตัวเองว่ามันมีบางอย่างเชื่อมโยงถึงกันจริงๆ

บางคนบอกว่า
ศาสนาพุทธมีที่มาจากโยคะ
ผลคือเถียงกันจนวงแตก
แทบจะฆ่ากันตาย

🌻

โยคะมีรากฐานในอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ เมื่อราว 5,000 ปีก่อน ได้รับการพัฒนาเป็นระบบปรัชญาชัดเจนโดยปตัญชลิในโยคสูตร ราว 400 ปีก่อนคริสตกาล

โยคะเป็นหนึ่งในปรัชญาหลักของอินเดียโบราณ มุ่งเน้นการควบคุมจิตและการรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล

ปตัญชลี (Patanjali) เป็นนักปราชญ์ชาวอินเดียโบราณที่มีชีวิตอยู่ราว 400 ปีก่อนคริสตกาล เป็นผู้รวบรวมและเรียบเรียง "โยคสูตร" ซึ่งถือเป็นคัมภีร์สำคัญที่สุดของปรัชญาโยคะ

โยคสูตรประกอบด้วยสูตร (ข้อความสั้นๆ) 196 ข้อ แบ่งเป็น 4 บท อธิบายหลักการและวิธีปฏิบัติโยคะเพื่อควบคุมจิตและบรรลุสมาธิขั้นสูง โดยนิยามโยคะว่าเป็น "การหยุดความปรวนแปรของจิต"

ปตัญชลีได้เสนอแนวทางปฏิบัติที่เรียกว่า "อัษฎางคโยคะ" (Ashtanga Yoga) หรือโยคะแปดองค์ ซึ่งประกอบด้วย ยมะ นิยมะ อาสนะ ปราณยามะ ปรัตยาหาระ ธารณา ธยานะ และสมาธิ

โยคสูตรยังอธิบายเรื่องเกลศ (Klesha : สิ่งที่ทำให้จิตเศร้าหมอง) และวิธีการขจัดเกลศเพื่อบรรลุโมกษะ (การหลุดพ้น)

โยคสูตรของปตัญชลีได้กลายเป็นรากฐานสำคัญของปรัชญาและการปฏิบัติโยคะในยุคต่อมา และยังคงมีอิทธิพลต่อการสอนโยคะในปัจจุบัน​​​​​​​​​​​​​​​​

ในยุคกลาง โยคะได้ผสมผสานกับแนวคิดตันตระ พัฒนาเป็น“หฐโยคะ”(Hatha Yoga) ที่เน้นการฝึกร่างกายควบคู่กับจิตใจ ในศตวรรษที่ 19-20 โยคะเริ่มแพร่หลายสู่ตะวันตก โดยครูโยคะชาวอินเดียหลายท่าน เช่น สวามี วิเวกานันทะ
(Swami Vivekananda)

ปัจจุบัน โยคะได้รับความนิยมทั่วโลกในฐานะวิธีการออกกำลังกายและพัฒนาจิตใจ มีรูปแบบหลากหลาย เช่น อัษฎางคโยคะ ไอเยนการ์โยคะ วินยาสะ โดยยังคงรักษาแก่นของการพัฒนากายและจิตเพื่อบรรลุสภาวะสูงสุดของการหลุดพ้น​​​​​​​​​​​​​​​​

🌻

พุทธศาสนาก่อกำเนิดในอินเดียราว 2,500 ปีก่อน โดยเจ้าชายสิทธัตถะ หลังจากตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ได้เผยแผ่คำสอนเรื่องอริยสัจ 4 และมรรคมีองค์ 8 เพื่อดับทุกข์

ศาสนาพุทธแพร่หลายในอินเดียและเอเชียใต้ ต่อมาแยกเป็นนิกายหลัก คือ เถรวาท และมหายาน

พุทธศาสนาเถรวาทแพร่หลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนมหายานแพร่หลายในจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และทิเบต ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 13-18 พุทธศาสนาเสื่อมลงในอินเดีย แต่ยังคงเจริญรุ่งเรืองในประเทศอื่นๆ

ปัจจุบัน พุทธศาสนามีผู้นับถือทั่วโลกกว่า 500 ล้านคน โดยยังคงเน้นหลักคำสอนเรื่องการดับทุกข์ การปฏิบัติสมาธิ และการพัฒนาปัญญาเพื่อหลุดพ้นจากวัฏสงสาร​​​​​​​​​​​​​​​​

🌻

จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ จึงเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าพระพุทธเจ้าได้เคยศึกษาโยคะมาก่อน โดยมีหลักฐานและเหตุผลสนับสนุนดังนี้

1. บริบททางประวัติศาสตร์ โยคะมีรากฐานมาจากอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ ซึ่งเก่าแก่กว่าสมัยพุทธกาลหลายพันปี

2. การศึกษาของเจ้าชายสิทธัตถะ ตามประวัติ ก่อนตรัสรู้ พระองค์ได้ศึกษาวิธีปฏิบัติทางจิตวิญญาณต่างๆ ที่มีอยู่ในอินเดียสมัยนั้น ซึ่งรวมถึงรูปแบบของโยคะด้วย

3. ครูของพระพุทธเจ้า มีบันทึกว่าพระองค์ได้ศึกษากับอาฬารดาบสและอุทกดาบส ซึ่งสอนเทคนิคการทำสมาธิที่คล้ายคลึงกับโยคะ

4. ความคล้ายคลึงของวิธีปฏิบัติ หลายเทคนิคในพุทธศาสนา เช่น อานาปานสติ มีลักษณะคล้ายคลึงกับเทคนิคในโยคะ

5. การปฏิเสธวิธีทรมานร่างกาย พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธวิธีบำเพ็ญทุกรกิริยา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโยคะบางสำนักในสมัยนั้น แสดงให้เห็นว่าพระองค์คุ้นเคยกับวิธีปฏิบัติเหล่านี้เป็นอย่างดี

6. ทางสายกลาง: แนวคิดนี้อาจเป็นการสังเคราะห์ของพระพุทธเจ้าจากประสบการณ์การศึกษาโยคะและวิธีปฏิบัติอื่นๆ

จึงไม่ถูกต้องนักหากจะสรุปว่าพุทธศาสนาเป็นเพียงการต่อยอดจากโยคะ เพราะพระพุทธเจ้าได้พัฒนาแนวคิดและวิธีปฏิบัติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยเฉพาะหลักอริยสัจสี่และมรรคมีองค์แปด

กล่าวคือแม้จะมีความเป็นไปได้สูงที่พระพุทธเจ้าได้ศึกษาโยคะมาก่อน แต่พุทธศาสนาก็มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากโยคะอย่างมีนัยสำคัญ​​​​​​​​​​​​​​​​

🌻

โยคะและพุทธศาสนามีความเชื่อมโยงกันในหลายด้าน แม้ว่าทั้งสองจะมีต้นกำเนินและพัฒนาการที่แตกต่างกัน

ทั้งโยคะและพุทธศาสนามีจุดมุ่งหมายเน้นการพัฒนาจิตใจและการหลุดพ้นจากความทุกข์ ทั้งสองใช้เทคนิคการทำสมาธิและการฝึกสติเพื่อพัฒนาจิตใจ

ทั้งสองมีความเชื่อในกฎแห่งกรรมและผลของการกระทำ ทั้งโยคะและพุทธศาสนาสอนวิธีควบคุมความคิดและอารมณ์ มุ่งสู่การหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่นและกิเลส

แม้ว่าโยคะจะเน้นการฝึกร่างกายมากกว่า แต่พุทธศาสนาก็ยอมรับความสำคัญของสุขภาพกายต่อการปฏิบัติธรรม

ในประวัติศาสตร์ ทั้งสองได้มีการแลกเปลี่ยนแนวคิดและวิธีปฏิบัติระหว่างกัน

โยคะมีมาก่อนศาสนาพุทธ
แต่พุทธศาสนาไม่ได้นำโยคะมาใช้โดยตรง

🌻

โยคะในพุทธศาสนามีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน พุทธศาสนาและโยคะพัฒนาขึ้นในอินเดียในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน แต่เป็นอิสระจากกัน

เทคนิคการทำสมาธิและฝึกสติที่พัฒนาขึ้นก็แยกกัน แต่มีลักษณะคล้ายคลึงกันในบางแง่มุม

ในยุคหลัง บางสำนักของพุทธศาสนาอาจนำเทคนิคบางอย่างของโยคะมาประยุกต์ใช้ มีการพัฒนาแนวทางที่เรียกว่า "พุทธโยคะ" ซึ่งผสมผสานแนวคิดของทั้งสองเข้าด้วยกัน แต่นี่เป็นการพัฒนาในยุคหลังๆ

🌻

พุทธโยคะ (Buddhist Yoga) เป็นการผสมผสานระหว่างหลักปฏิบัติของพุทธศาสนากับเทคนิคของโยคะ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจควบคู่กันไป

ลักษณะสำคัญของพุทธโยคะ เป็นการผสมผสานการปฏิบัติ นำเอาการฝึกอาสนะ (ท่ากาย) และปราณยามะ (การควบคุมลมหายใจ) จากโยคะมาประยุกต์ใช้ร่วมกับการเจริญสติและวิปัสสนาของพุทธศาสนา ใช้การฝึกโยคะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาสติ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการปฏิบัติธรรมตามแนวพุทธ

แม้จะใช้เทคนิคจากโยคะ แต่ไม่ยึดติดกับอัตตา ยังคงยึดหลักอนัตตาตามแนวพุทธ ไม่เน้นการรวมอาตมันกับพรหมัน

🌻

"อาตมัน"(Atman) ในโยคะและปรัชญาฮินดูหมายถึงตัวตนที่แท้จริงหรือวิญญาณนิรันดร์ เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของพรหมัน (Brahman) หรือจิตสากล เป้าหมายของโยคะคือการตระหนักรู้ถึงอาตมันและรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพรหมัน ซึ่งนำไปสู่การหลุดพ้น (โมกษะ)

ในพุทธศาสนาปฏิเสธแนวคิดเรื่องอาตมันหรือตัวตนถาวร แต่สอนหลักอนัตตา (Anatta) ว่าไม่มีตัวตนที่แท้จริงและถาวร ทุกสิ่งล้วนเกิดจากเหตุปัจจัยและไม่เที่ยง การยึดมั่นในตัวตนถาวรถือเป็นสาเหตุของทุกข์ การเข้าใจอนัตตาจึงเป็นส่วนสำคัญในการบรรลุนิพพาน

ความแตกต่างในมุมมองเรื่องอาตมันนี้เป็นหนึ่งในความแตกต่างที่สำคัญระหว่างโยคะ/ฮินดูกับพุทธศาสนา​​​​​​​​​​​​​​​​

พุทธศาสนามีเป้าหมายสูงสุดคือการบรรลุนิพพาน ไม่ใช่การรวมเป็นหนึ่งกับจักรวาลอย่างในโยคะดั้งเดิม การปฏิบัติก็เป็นแบบองค์รวม เน้นการพัฒนาทั้งกาย วาจา และใจไปพร้อมกัน

🌻

การพัฒนาพุทธโยคะไม่ได้มีผู้คิดค้นเพียงคนเดียว แต่เป็นการพัฒนาที่เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปผ่านการผสมผสานแนวคิดและการปฏิบัติของทั้งพุทธศาสนาและโยคะ มีบุคคลสำคัญจำนวนมากที่มีส่วนในการพัฒนาและเผยแพร่แนวคิดนี้ อาทิ

1. อนาคาริก ธรรมปาละ (Anagarika Dharmapala : 1864-1933) ชาวศรีลังกาที่มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูพุทธศาสนาและผสมผสานแนวคิดโยคะเข้ากับการปฏิบัติธรรม

2. นยานโปนิกะ เถระ (Nyanaponika Thera : 1901-1998) พระภิกษุชาวศรีลังกาที่นำเทคนิคการหายใจแบบโยคะมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติวิปัสสนา

3. เอส.เอ็น.โกเอ็นกา (S.N. Goenka : 1924-2013) ผู้เผยแพร่เทคนิควิปัสสนาที่ผสมผสานแนวคิดของโยคะเข้ากับการปฏิบัติธรรมแบบพุทธ

4. ติช นัท ฮันห์ (Thich Nhat Hanh : 1926-2022): พระภิกษุชาวเวียดนามที่นำเสนอแนวทางการปฏิบัติที่ผสมผสานระหว่างเซนและโยคะ

5. บี.เค.เอส. ไอเยนการ์ (B.K.S. Iyengar:1918-2014)แม้จะไม่ได้เน้นพุทธศาสนาโดยตรง แต่เป็นผู้พัฒนาวิธีการสอนโยคะที่เน้นการมีสติ ซึ่งสอดคล้องกับหลักพุทธศาสนา

6.ไมเคิล สโตน ( Michael Stone : 1974-2017) นักเขียนและครูโยคะชาวแคนาดาที่เชี่ยวชาญในการผสมผสานโยคะ จิตวิทยา และพุทธศาสนา

7. ซาราห์ เพาเวอร์ (Sarah Powers: 1962-ปัจจุบัน) ผู้พัฒนา Insight Yoga ซึ่งผสมผสานโยคะ ไทชิ และการปฏิบัติธรรมแบบพุทธ

แม้ว่าจะไม่มีผู้คิดค้นคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ แต่บุคคลเหล่านี้และอีกจำนวนมากก็ได้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและเผยแพร่แนวคิดพุทธโยคะให้เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย

ทำให้เกิดการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการปฏิบัติโยคะและหลักธรรมในพุทธศาสนา​​​​​​​​​​​​​​​​

🌻

นานมาแล้วที่มีการนำหลักการทั้งจากโยคะและพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างการปฏิบัติพุทธโยคะ

- เริ่มด้วยการฝึกอาสนะเพื่อเตรียมร่างกาย*
- ใช้ปราณยามะเพื่อสงบจิตใจ*
- ต่อด้วยการเจริญสติและวิปัสสนาตามแนวพุทธ*
- ปิดท้ายด้วยการแผ่เมตตา*

🌻

อาสนะ คือท่าทางต่างๆในโยคะที่ใช้ฝึกร่างกาย ช่วยเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการปฏิบัติขั้นสูงต่อไป โดยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ปรับสมดุลระบบต่างๆในร่างกาย ช่วยให้นั่งสมาธิได้นานขึ้น เมื่อร่างกายพร้อม จิตใจก็จะพร้อมสำหรับการฝึกสมาธิและวิปัสสนาต่อไป

แนวคิดนี้สอดคล้องกับหลักพุทธศาสนาที่เน้นการพัฒนาทั้งกายและใจควบคู่กันไป การเริ่มด้วยอาสนะจึงเป็นการวางรากฐานที่ดีสำหรับการปฏิบัติธรรมในขั้นสูงต่อไป

การฝึกอาสนะในชีวิตประจำวันมีขั้นตอนปฏิบัติดังนี้

1. เตรียมความพร้อม:
- เลือกพื้นที่สะอาด เงียบสงบ
- ใช้เสื่อโยคะหรือผ้าปูพื้น
- สวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ
- ฝึกตอนท้องว่าง (2-3 ชั่วโมงหลังอาหาร)

2. เริ่มด้วยการผ่อนคลาย:
- นั่งหรือนอนในท่าสบาย
- หายใจลึกๆ ช้าๆ
- ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทีละส่วน

3. อบอุ่นร่างกาย:
- ทำท่าง่ายๆ เช่น หมุนข้อต่อ ยืดเหยียดเบาๆ
- เพิ่มการไหลเวียนเลือด

4. ฝึกท่าอาสนะ:
- เริ่มจากท่าง่ายไปยากลำดับดังนี้:

4.1 ท่าง่าย:
- ท่าภูเขา (Tadasana)
- ท่าแมว-วัว (Cat-Cow Pose)
- ท่าเด็ก (Child's Pose)
- ท่าสุนัขหมอบ (Downward Facing Dog)
- ท่าต้นไม้ (Tree Pose)

4.2 ท่าปานกลาง:
- ท่านักรบ 1 และ 2 (Warrior I and II)
- ท่าสามเหลี่ยม (Triangle Pose)
- ท่าคันไถ (Plow Pose)
- ท่าก้มตัวไปข้างหน้า (Forward Bend)
- ท่าบิดตัว (Seated Twist)

4.3 ท่ายาก:
- ท่าคันธนู (Bow Pose)
- ท่าสะพานโค้ง (Bridge Pose)
- ท่าพีระมิด (Forearm Stand)
- ท่าหางนกยูง (Peacock Pose)
- ท่ายืนด้วยศีรษะ (Headstand)

4.4 ท่าขั้นสูง:
- ท่าลอยตัว (Crow Pose)
- ท่าพระจันทร์ครึ่งดวง (Half Moon Pose)
- ท่าผีเสื้อ (Butterfly Pose)
- ท่าล็อตัส (Lotus Pose)
- ท่าสกอร์เปี้ยน (Scorpion Pose)

ควรเริ่มจากท่าง่ายและค่อยๆ เพิ่มความยากขึ้นตามความสามารถของร่างกาย ไม่ควรรีบร้อนหรือฝืนทำท่ายากเกินไป เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

- ทำแต่ละท่าช้าๆ ควบคุมลมหายใจ
- รักษาท่าตามกำลังความสามารถ
- ผ่อนคลายระหว่างท่า

5. ท่าผ่อนคลาย:
- จบด้วยท่านอนศพ (ศวาสนะ)
- ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทั้งร่างกาย

6. สม่ำเสมอ:
- ฝึกเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
- เริ่มจาก 15-20 นาที ค่อยๆ เพิ่มเวลา

7. ปรับให้เหมาะกับตนเอง:
- เลือกท่าที่เหมาะกับร่างกายและเป้าหมายของตน
- ปรับความยากง่ายตามความสามารถ

8. ใส่ใจความปลอดภัย:
- ไม่ฝืนร่างกายจนเกินไป
- หากมีอาการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

🌻

* ปราณยามะ (Pranayama) เป็นเทคนิคการควบคุมลมหายใจในโยคะ คำว่า "ปราณ" (Prana) หมายถึงลมหายใจหรือพลังชีวิต และ "ยามะ" (Yama) หมายถึงการควบคุม

“การใช้ปราณยามะเพื่อสงบจิตใจ”จึงหมายความว่า…

1. การควบคุมลมหายใจ: ใช้เทคนิคการหายใจแบบต่างๆ เช่น การหายใจลึกๆ ช้าๆ หรือการหายใจสลับรูจมูก

2. ผลต่อจิตใจ: การควบคุมลมหายใจช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และความฟุ้งซ่านของจิตใจ

3. เชื่อมโยงกาย-จิต: ปราณยามะช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างร่างกายและจิตใจ

4. เตรียมพร้อมสำหรับสมาธิ: การทำให้จิตใจสงบผ่านก

Breathe in deeply....to bring your mind hometo your body.Thich Nhat hanh
15/02/2025

Breathe in deeply....
to bring your mind home
to your body.

Thich Nhat hanh

บทสัมภาษณ์ลงมติชน เมื่อ 10 ปีที่แล้วค่ะ เผื่อใครอยากรู้จักเรามากขึ้น ♥️
18/01/2025

บทสัมภาษณ์ลงมติชน เมื่อ 10 ปีที่แล้วค่ะ เผื่อใครอยากรู้จักเรามากขึ้น ♥️

อรรถสามาสนะ (Adha Samasana)>> อาสนะนี้ดีมาก สำหรับเป็นท่ายืดก่อนและหลังการออกกำลังกายทุกชนิด เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยา...
14/01/2025

อรรถสามาสนะ (Adha Samasana)

>> อาสนะนี้ดีมาก สำหรับเป็นท่ายืดก่อนและหลังการออกกำลังกายทุกชนิด เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน ค่ะ

วิธีปฏิบัติง่ายๆด้วยตนเอง http://yogadhamma.blogspot.com/2011/06/ardha-samasana.html

ประโยชน์
1. ช่วยยืดกล้ามเนื้อขา ทำให้ขาแข็งแรง ลดอาการเส้นเลือดขอดที่ขาได้
โดยเฉพาะคนที่น่องเป็นลูก

2. ช่วยยืดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณโคนขาด้านหลัง น่อง และเอ็นร้อยหวาย

3. ช่วยขจัดหินปูนบริเวณฝ่าเท้าและส้นเท้า รักษาอาการรองช้ำอักเสบ

4. ช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเพศ และกระตุ้นอวัยวะภายในช่องท้อง

5. ช่วยเรื่องระบบการขับถ่าย

สมดุลซ้ายขวา…ตรีโกณาสนะ (Trikonasana)วิธีปฏิบัติด้วยตนเอง http://yogadhamma.blogspot.com/2011/06/trikonasana.htmlประโยชน...
12/01/2025

สมดุลซ้ายขวา…

ตรีโกณาสนะ (Trikonasana)

วิธีปฏิบัติด้วยตนเอง http://yogadhamma.blogspot.com/2011/06/trikonasana.html

ประโยชน์
1. ช่วยกระตุ้นการย่อย การขับถ่าย ความอยากอาหาร (กลุ่มคนที่เป็นโรค Anorexia or Bulimia ท่านี้จะช่วยให้อยากอาหาร) ส่วนผู้ที่ทานจุ ท่านี้จะช่วยปรับให้ทานอย่างสมดุล
2. ช่วยยืดกระดูกสันหลังทั้งแนวบิดและโค้ง
3. ช่วยฟื้นฟูอวัยวะภายในทั้งตับ ไต ลำไส้เล็กและใหญ่ให้ทำงานเป็นปกติ ดีสำหรับผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) คือ ท้องผูกและท้องเสียสลับกัน ซึ่งเกิดจากเครียดลงกระเพาะ
4. ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเฉพาะ ต่อมน้ำเหลือง ให้ทำงานดีขึ้น
5. ช่วยขจัดไขมันบริเวณเอว สะโพกและหน้าท้อง ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่สร้างภูมิคุ้มกันและกระตุ้นการผลิตฮอร์โมน

หัตถะ บาทา ชานุศีรษาสนะ (Hasta Pada Janusirshasana) วิธีปฏิบัติ http://yogadhamma.blogspot.com/2011/06/hasta-pada-janu-s...
11/01/2025

หัตถะ บาทา ชานุศีรษาสนะ (Hasta Pada Janusirshasana)

วิธีปฏิบัติ http://yogadhamma.blogspot.com/2011/06/hasta-pada-janu-sirshasana.html

ประโยชน์
1. ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนเลือดส่วนใบหน้าและศีรษะ จึงช่วยเพิ่มความจำและพัฒนาสมอง อีกทั้งช่วยให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ และรักษาสิวฝ้า
2. ช่วยยืดกระดูกสันหลัง กล้ามเนื้อสะโพก Hamstring และน่อง ซึ่งกล้ามเนื้อพวกนี้ส่วนใหญ่หดตัวตลอดเวลา
3. ช่วยกระชับกล้ามเนื้อสะโพก หลัง เอว และน่อง
4. ช่วยกระตุ้นฟังก์ชั่นการทำงานของอวัยวะภายในช่องท้อง
5. ช่วยปรับรูปร่างให้สมสัดส่วน
6. ช่วยเพิ่มทักษะด้านการทรงตัว เมื่อเราอายูมากขึ้นฟังก์ชั่นการทรงตัวจะเสียก่อน

อรรถจันทราสนะ (Adha Chandrasana)>> เป็นหนึ่งในท่ามหัศจรรย์ที่ทำให้ดูเด็ก ถ้าใครทำได้ทุกเช้า หุ่นจะสวยตลอด วิธีปฏิบัติตาม...
10/01/2025

อรรถจันทราสนะ (Adha Chandrasana)

>> เป็นหนึ่งในท่ามหัศจรรย์ที่ทำให้ดูเด็ก ถ้าใครทำได้ทุกเช้า หุ่นจะสวยตลอด

วิธีปฏิบัติตามลิงค์ http://yogadhamma.blogspot.com/2011/06/ardha-chandrasana.html

ประโยชน์
1. ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กระดูกสันหลังด้านข้าง หรือ Oblique ซึ่งในชีวิตประจำวันเราไม่ค่อยได้มีการยืดตัวไปด้านข้าง มีแต่แอ่นไปข้างหลังและก้มไปด้านหน้า ถ้ากล้ามเนื้อด้านข้างไม่แข็งแรง จะทำให้พุงย้วย

2. ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้แขนโดยเฉพาะตรงซอกรักแร้ อีกทั้งยังช่วยสร้างและกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเพศหญิงและชายซึ่งมีฐานสร้างอยู่ที่ทรวงอกจำนวนหนึ่ง

3. ช่วยกระชับกล้ามเนื้อทุกส่วนจึงทำให้หุ่นดูดีอยู่ตลอดเวลา

4. ช่วยเพิ่มทักษะการทรงตัวและปรับดุลยภาพโครงสร้างของร่างกาย

09/01/2025

"ผู้ใดปฏิบัติสุริยนมัสการเป็นนิจ ย่อมได้รับพลังอันยิ่งใหญ่ไว้ในตนไม่เสื่อมคลาย" สุริยนมัสการไม่ใช่เป็นท่าเดียวโดดๆที่ฝึกรวดเดียวจบในตัวเอง แต่ประกอบขึ้นด้วยอาสนะต่างๆที่ต่อเนื่องกันเป็นสายลูกโซ่ ลีลาของแต่ละอาสนะที่ประกอบกันนี้ลัวนสัมพันธ์กันอย่างลงตัว ต่างเสริมและแก้กันตามลำดับ ทำให้สุริยนมัสการเป็นอาสนะที่ทรงพลังยิ่ง มีประสิทธิภาพสูงและมีผลดีต่อสุขภาพโดยรวม เมื่อฝึกเป็นประจำจะส่งผลให้ร่างกายยืดหยุ่น รูปร่างโดยรวมจะสวยงาม สมสัดส่วน กล้ามเนื้อกระชับ ไม่หย่อนยาน เป็นการชะลออายุ ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย

สุขภาพแข็งแรงกันทุกท่านนะคะ จาก♥️ ค่ัะ
31/12/2024

สุขภาพแข็งแรงกันทุกท่านนะคะ จาก♥️ ค่ัะ

ไม่ว่าจะเป็นการ bend แบบไหน forward หรือ side สิ่งที่ต้องทำเหมือนกัน คือยืดไปให้สุดก่อนทำการ bend และเมื่อร่างกายยืดเหยี...
07/12/2024

ไม่ว่าจะเป็นการ bend แบบไหน forward หรือ side สิ่งที่ต้องทำเหมือนกัน คือยืดไปให้สุดก่อนทำการ bend และเมื่อร่างกายยืดเหยียดได้ยาก ก็นำอุปกรณ์ที่หาได้เข้ามาช่วย เพื่อให้ร่างกายยืดเหยียดได้เต็มที่ค่ะ .. ฝึกตามร่างกาย ไม่ฝืน ไม่เจ็บ คือสิ่งสำคัญ

Morning Yoga ♥️

ยืดสะบัก ต้นคอ เอว lower back  เสร็จแล้วจะสบายคอ สะบัก และ lower back มากๆ ทำเท่าที่ได้ ดีกว่าไม่ทำนะคะ Morning yoga ♥️
05/12/2024

ยืดสะบัก ต้นคอ เอว lower back เสร็จแล้วจะสบายคอ สะบัก และ lower back มากๆ ทำเท่าที่ได้ ดีกว่าไม่ทำนะคะ

Morning yoga ♥️

ที่อยู่

Tararom Ramkhumhang Soi 9
Bangkok
10310

เบอร์โทรศัพท์

+66816499688

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Mindful Yoga Bkkผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram