Pradiphat VetClinic

Pradiphat VetClinic Line ID : pradiphatvetclinic2

เวลาทำการของสัตวแพทย์ (ทุกวัน 10.00-20.00 น)
น.สพ. คมกฤช ลออธนกุล (หมอตี๋) เข้างานทุกวันจันทร์ พฤหัส ศุกร์ และอาทิตย์
สพ.ญ. ณิชรัตน์ ลาภพัฒนะ (หมอยุ้ย) เข้างานทุกวันพุธ และเสาร์
น.สพ. ธิปก เหมพัฒน์ (หมอตั๊ก) เข้างานทุกวันอังคาร

การฝังไมโครชิปในสัตว์เลี้ยง กับ กฎหมายใหม่บังคับจดทะเบียน ฝังไมโครชิป เลี้ยงสัตว์ตามพื้นที่อาศัย หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย...
21/05/2025

การฝังไมโครชิปในสัตว์เลี้ยง กับ กฎหมายใหม่บังคับจดทะเบียน ฝังไมโครชิป เลี้ยงสัตว์ตามพื้นที่อาศัย หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย บังคับใข้ 10 ม.ค.69 เป็นต้นไป
เรามาทำความรู้จักว่าไมโครชิฟคืออะไร
ไมโครชิพ (Microchip) เป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดเล็กมาก บรรจุอยู่ในครอบแก้วซึ่งผ่านการทดสอบเเล้วว่าไม่ทำปฏิกิริยาเเละเป็นอันตรายต่อร่างกายของสัตว์เลี้ยง โดยรหัสไมโครชิพมาตราฐาน ISO และ ICAR ที่รองรับให้ใช้ในการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงได้ เป็นไมโครชิพ 15 หลัก ที่ขึ้นต้นด้วย 9 เท่านั้น การอ่านหมายเลขต้องอาศัยเครื่องอ่านรหัสไมโครชิพ (Microchip Reader) เป็นตัวแสดงผล ซึ่งเราจะไม่สามารถเปลี่ยนหมายเลขนั้นๆได้ค่ะ
การฝั่งไมโครชิพจะทำโดยใช้เข็มที่ปลอดเชื้อแล้วโดยการฆ่าเชื้อโดยก๊าซ Ethylene Oxide ฉีดไมโครชิพที่มีขนาดเล็กประมาณเม็ดข้าวเข้าไป ใต้ผิวหนังบริเวณกลางหลังระหว่างหัวไหล่ของสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นตำเเหน่งใช้กันเป็นมาตรฐานสากลทั่วโลกค่ะ
ประโยชน์ของการฝังไมโครชิพ
- ป้องกันสัตว์เลี้ยงสูญหาย
- เพื่อการพัฒนาสายพันธุ์สัตว์เลี้ยง
- ป้องกันการซื้อขายผิดตัว
- ลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงหรือขอใบเพดดีกรี
- การประกวดสัตว์ต่างๆ ก็ต้องใช้ไมโครชิพในการลงทะเบียนค่ะ
การเลี้ยงสุนัขและแมวในปัจจุบันมีกฎหมายบังคับต้องจดทะเบียนภายในระยะเวลาที่กำหนด
ภายใน 120 วันนับแต่เกิดมา หรือ ภายใน 30 วันนับแต่เลี้ยงในเขต กทม.
โดยกำหนดจำนวนการเลี้ยงตามพื้นที่อยู่อาศัย
ห้องเช่า/คอนโด 20–80 ตร.ม. : ไม่เกิน 1 ตัว
คอนโดเกิน 80 ตร.ม. : ไม่เกิน 2 ตัว
ที่ดิน ≤ 20 ตร.วา : ไม่เกิน 2 ตัว
ที่ดิน ≤ 50 ตร.วา : ไม่เกิน 3 ตัว
ที่ดิน ≤ 100 ตร.วา : ไม่เกิน 4 ตัว
ที่ดิน > 100 ตร.วา : ไม่เกิน 6 ตัว
หากพาสัตว์ออกนอกบ้าน ต้องปฏิบัติดังนี้
ใช้สายจูงที่แข็งแรงตลอดเวลา
หรือใช้กระเป๋า, คอก, กรง หรืออุปกรณ์ที่เหมาะสม
ห้ามปล่อยให้รบกวนผู้อื่น
เจ้าของต้องเก็บอุจจาระสัตว์ในที่สาธารณะทุกครั้ง
ตอนนี้ทางคลินิกประดิพัทธ์สัตวแพทย์ทั้ง 2 สาขามีบริการฝังไมโครชิฟเพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมายปัจจุบันนะคะ เจ้าของท่านใดสนใจรับบริการที่คลินิกได้นะคะ

วิธีทำให้แมวตัวเก่ายอมรับแมวตัวใหม่เมื่อต้องอยู่บ้านเดียวกันโดย สพ.ญ. ณิชรัตน์ ลาภพัฒนา (หมอยุ้ย) (คุณหมอประจำคลินิกประด...
20/05/2025

วิธีทำให้แมวตัวเก่ายอมรับแมวตัวใหม่เมื่อต้องอยู่บ้านเดียวกันโดย สพ.ญ. ณิชรัตน์ ลาภพัฒนา (หมอยุ้ย) (คุณหมอประจำคลินิกประดิพัทธ์สัตวแพทย์)

แมวแต่ละตัวมีนิสัยต่างกัน บางตัวชอบสันโดษ บางตัวชอบเล่นกับตัวอื่น แต่แมวสองตัวสามารถเรียนรู้เพื่ออยู่ร่วมกันได้ แมวสายพันธุ์ เช่น เมนคูน เปอร์เซีย เรคดอล และเบอร์แมน เป็นสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มปรับตัวง่าย อ่อนโยน และอาจยอมรับแมวใหม่ได้อย่างง่ายดายนะค่ะ เพื่อสุขภาพของแมวเก่าและแมวใหม่ เมื่อรับแมวใหม่ควรจะพาไปตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน ถ้าเป็นแมวใหม่เป็นแมวจรจัดควรถ่ายพยาธิ และตรวจให้แน่ใจว่าไม่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ (URI) หรือโรคต่างๆค่ะ

อายุหรือเพศ
แมวตัวใหม่ควรอายุน้อยกว่าหรือตัวเล็กกว่า และเป็นเพศตรงข้ามกับแมวตัวเก่า ถ้าต้องการเลี้ยงแมวเพศเดียวกัน ตัวเมียกับตัวเมีย จะดีกว่าตัวผู้กับตัวผู้ เพราะสัญชาตญาณของแมวตัวผู้พร้อมที่จะต่อสู้ และควรเลือกแมวที่มีลักษณะความซนใกล้เคียงกัน แมวตัวเก่าตัวเดียวที่ถูกเลี้ยงมานานจะปรับตัวช้ากว่าแมวตัวใหม่และอาจไม่ชอบลูกแมวที่ซน ลูกแมวที่ถูกแยกจากแม่แมวใหม่ๆจะปรับตัวง่าย แต่ถ้าเป็นลูกแมวที่ได้รับการช่วยเหลืออาจจะกลัวที่จะอยู่ร่วมกับแมวตัวอื่น

แมวเก่าตอบสนองต่อแมวใหม่อย่างไร
เมื่อนำแมวใหม่เข้าบ้าน ปฎิกริยาของแมวทั้งสองจะทำเสียงขู่ บ่งบอกว่าแมวเริ่มมีความรู้สึกไม่ชอบ ถ้าแมวทั้งสองอยู่ร่วมกันทันทีอาจจะต่อสู้กัน หรือแสดงความไม่พอใจโดยการฉี่ในบ้าน ให้นำแมวทั้งสองแยกกัน นำผ้าที่มีกลิ่นของแมวตัวเก่าและแมวตัวใหม่ไปเช็ดตัวแมวทั้งสองตัว และเช็ดบริเวณที่ให้อาหารแมว เมื่อปล่อยให้แมวทั้งสองตัวอยู่ด้วยกัน จะมีโอกาสทำให้ปรับตัวเข้ากันได้ง่ายขึ้น

แมวเป็นสัตว์ที่หวงอาณาเขต
แมวไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเมื่อมีแมวเพิ่ม ต้องมีกะบะทรายสำหรับแมวตัวใหม่เพิ่ม และควรมีกะบะทรายเผื่อ 1 อัน แล้วสังเกตว่าแมวมีความรู้สึกเครียดหรือไม่มีความสุข ซึ่งจะแสดงออกโดยการขับถ่ายนอกกะบะทราย และสุดท้ายควรปฎิบัติต่อแมวตัวเก่าให้เหมือนเดิม เช่น เคยเล่นก็ควรจะเล่นกับแมวตัวเก่าให้เหมือนเดิม

วิธีนำแมวตัวเก่าและตัวใหม่มาพบกัน
หลังจากให้แมวตัวเก่าและแมวตัวใหม่คุ้นเคยกลิ่นแล้ว ก็ให้แมวตัวใหม่เจอกับแมวตัวเก่า โดยเริ่มจากการเจอกันแล้วสังเกตว่าแมวมีอาการเครียดหรือไม่ แล้วนำของเล่นมาทำให้แมวทั้งสองเล่นด้วยกัน ถ้าแมวมีอาการเครียด ก็ให้เจอกันเป็นระยะเวลาสั้นๆ แล้วครั้งต่อไปก็ทำแบบเดิมซ้ำ แต่เพิ่มระยะเวลาเจอกันมากขึ้น การปรับตัวของแมวอาจจะเป็นระยะเวลานานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน

แมวบางตัวจะมีนิสัยก้าวร้าว หรือบางตัวมีนิสัยขี้กลัวโดยชอบไปหลบซ่อน ถ้าแมวตัวเก่าและแมวตัวใหม่เป็นแมวตัวผู้ แมวทั้งสองอาจจะไม่เล่นกัน แต่อยู่ร่วมกัน หรือกลายเป็นเพื่อนกัน การเอาใจใส่ของเจ้าของต่อแมวทั้งสองจะทำให้แมวรับรู้ถึงความรักของเจ้าของได้

สรุปการนำแมวตัวเก่าอยู่ร่วมกับแมวตัวใหม่ มีดังนี้

1.แยกบริเวณระหว่างแมวตัวเก่ากับแมวตัวใหม่
2.นำผ้าที่มีกลิ่นของแมวตัวเก่าและแมวตัวใหม่มาเช็ดตัวแมวทั้งสอง เช็ดบริเวณชามอาหารแมว เพื่อให้กลิ่นเหมือนกัน
3.แมวต่างเพศ หรือแมวตัวเมียทั้งคู่ จะสามารถอยู่ร่วมกันได้ง่ายกว่าแมวตัวผู้ทั้งคู่
4.เพิ่มกะบะทรายให้สำหรับแมวตัวใหม่ และเพิ่มกะบะทรายต่างหากอีก 1 อัน
5.เมื่อนำแมวตัวเก่าและแมวตัวใหม่มาเจอกัน ให้เริ่มจากการเจอกันในระยะเวลาสั้น แล้วดูปฎิกริยาของแมวทั้งสอง ให้เล่นของเล่นด้วยกัน ถ้าแมวยังมีความเครียดก็ให้จับแยกบริเวณ แล้ววันต่อมาค่อยทำซ้ำ โดยเพิ่มระยะเวลาการอยู่ร่วมกันมากขึ้น

โรคหวัดแมว หรือที่เรียกว่า โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนในแมว (Feline Upper Respiratory Infection - FURI) เป็นโรคที่พบได...
12/05/2025

โรคหวัดแมว หรือที่เรียกว่า โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนในแมว (Feline Upper Respiratory Infection - FURI) เป็นโรคที่พบได้บ่อยและติดต่อได้ง่ายในแมว โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีแมวอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น สถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยง
สาเหตุหลัก:
สาเหตุส่วนใหญ่ของโรคหวัดแมวมาจากเชื้อไวรัส โดยมีสองชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือ:
* ไวรัสเฮอร์ปีส์ในแมว (Feline Herpesvirus - FHV-1) หรือที่เรียกว่า ไวรัสเยื่อจมูกและหลอดลมอักเสบในแมว (Feline Viral Rhinotracheitis - FVR) มักทำให้เกิดอาการรุนแรงกว่า
* ไวรัสคาลิซิไวรัสในแมว (Feline Calicivirus - FCV) มักมีอาการไม่รุนแรงเท่า แต่สามารถทำให้เกิดแผลในช่องปากได้
นอกจากนี้ ยังมีเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่อาจเป็นสาเหตุหรือทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน เช่น:
* Bordetella bronchiseptica
* Chlamydophila felis
* Mycoplasma species
อาการ:
อาการของโรคหวัดแมวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละตัว ขึ้นอยู่กับเชื้อก่อโรคและความรุนแรงของการติดเชื้อ โดยทั่วไปอาการที่พบได้แก่:
* จาม
* น้ำมูกไหล (อาจใสหรือขุ่นข้นเป็นสีเหลืองหรือเขียว)
* น้ำตาไหล
* เยื่อบุตาอักเสบ (Conjunctivitis) ตาแดง บวม หรือมีขี้ตา
* ไอ
* เสียงดังหวีดๆ ในจมูก (Sniffles)
* ไข้
* ซึม เบื่ออาหาร
* แผลในช่องปาก (โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดจาก FCV)
* หายใจลำบาก (ในกรณีที่รุนแรง)
การติดต่อ:
โรคหวัดแมวติดต่อกันได้ง่ายผ่าน:
* การสัมผัสโดยตรง กับแมวที่ป่วย
* การสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำตา หรือน้ำลายของแมวที่ป่วย
* การแพร่กระจายของเชื้อในอากาศ ผ่านการไอหรือจาม (แม้จะไม่ใช่ช่องทางหลัก)
* การใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น ชามอาหาร ชามน้ำ หรือกระบะทราย
การรักษา:
โดยส่วนใหญ่แล้ว โรคหวัดแมวที่อาการไม่รุนแรงมักจะหายได้เองภายใน 7-10 วัน การรักษาจึงเน้นไปที่การประคับประคองเพื่อให้แมวรู้สึกสบายขึ้นและป้องกันภาวะแทรกซ้อน:
* ทำความสะอาดตาและจมูก: ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นเช็ดน้ำมูกและขี้ตาออกเบาๆ
* กระตุ้นความอยากอาหาร: ลองให้อาหารเปียกอุ่นๆ ที่มีกลิ่นแรง เพื่อกระตุ้นการดมกลิ่นและการกินอาหาร หากแมวไม่กินอาหารนานกว่า 24 ชั่วโมง ควรปรึกษาสัตวแพทย์
* ให้ความอบอุ่นและพักผ่อน: จัดหาสถานที่ที่เงียบสงบ อบอุ่น และสะดวกสบายให้แมวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
* เพิ่มความชื้นในอากาศ: ใช้เครื่องทำความชื้น (humidifier) เพื่อช่วยลดอาการคัดจมูก
* แยกแมวที่ป่วย: หากมีแมวหลายตัว ควรแยกแมวที่ป่วยออกจากแมวตัวอื่นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
การป้องกัน:
* การฉีดวัคซีน: การฉีดวัคซีนป้องกันโรคหวัดแมว (FVRCP) เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรค แม้ว่าวัคซีนอาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่จะช่วยลดความรุนแรงของอาการได้
* การจัดการสุขอนามัย: รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อมของแมว เช่น กระบะทราย ชามอาหาร และชามน้ำ
* ลดความเครียด: สภาพแวดล้อมที่เครียดอาจทำให้ภูมิคุ้มกันของแมวอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
* หลีกเลี่ยงการสัมผัสแมวป่วย: หากทราบว่ามีแมวป่วย ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
หากคุณสงสัยว่าแมวของคุณป่วยเป็นหวัด ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

หินปูนในสุนัข หรือที่เรียกว่าคราบหินปูน (tartar) เป็นปัญหาทางทันตกรรมที่พบได้บ่อยในสุนัข เกิดจากการสะสมของแบคทีเรีย เศษอ...
05/05/2025

หินปูนในสุนัข หรือที่เรียกว่าคราบหินปูน (tartar) เป็นปัญหาทางทันตกรรมที่พบได้บ่อยในสุนัข เกิดจากการสะสมของแบคทีเรีย เศษอาหาร และแร่ธาตุในน้ำลาย จนกลายเป็นคราบแข็งเกาะอยู่บนผิวฟัน หากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพช่องปากที่ร้ายแรงกว่า เช่น โรคเหงือกอักเสบ ฟันผุ และการสูญเสียฟันได้
การดูแลและป้องกันหินปูนในสุนัข:
* แปรงฟัน: การแปรงฟันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันการสะสมของหินปูน ควรแปรงฟันให้สุนัขทุกวัน โดยใช้แปรงสีฟันและยาสีฟันสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ ห้ามใช้ยาสีฟันของคน เนื่องจากมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อสุนัขหากกลืนเข้าไป
* ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลช่องปาก: มีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่ช่วยลดการก่อตัวของหินปูน เช่น น้ำยาบ้วนปากสำหรับสุนัข เจลดูแลช่องปาก หรือแผ่นเช็ดฟัน
* ขนมขัดฟัน: การให้ขนมขัดฟัน (dental chews) ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยขัดคราบพลัคและหินปูนขณะที่สุนัขเคี้ยว ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยได้
* อาหารสำหรับดูแลสุขภาพฟัน: อาหารสุนัขบางสูตรมีส่วนช่วยในการลดการก่อตัวของหินปูน
* ของเล่นสำหรับเคี้ยว: การให้ของเล่นที่ปลอดภัยสำหรับสุนัขกัดแทะ สามารถช่วยขัดฟันได้บ้าง
* การทำความสะอาดฟันโดยสัตวแพทย์: หากมีหินปูนสะสมมาก สัตวแพทย์อาจแนะนำให้ทำการขูดหินปูนภายใต้การวางยาสลบ เพื่อทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
หากคุณสังเกตเห็นหินปูนในช่องปากของสุนัข ควรปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม สัตวแพทย์จะสามารถประเมินสุขภาพช่องปากของสุนัขคุณ และแนะนำวิธีการดูแลที่เหมาะสมที่สุด

น้องฮันนี่ กับ น้องชิลลี่ วันนี้มาขูดหินปูน รักษาโรคเหงือกอักเสบกับคุณหมอช่องปากนะคะ หายไวไวนะคะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻  #ประดิพัทธ์สัตว...
29/04/2025

น้องฮันนี่ กับ น้องชิลลี่ วันนี้มาขูดหินปูน รักษาโรคเหงือกอักเสบกับคุณหมอช่องปากนะคะ หายไวไวนะคะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻 #ประดิพัทธ์สัตวแพทย์ #ผ่าตัดสุนัข #ขูดหินปูนสุนัข #ขูดหินปูนแมว

น้องหมาเลียขาบ่อยๆเกิดจากอะไร โดย สพ.ญ. ญิชารัตน์ ลาภพัฒนะคุณหมอยุ้ย คุณหมอประจำคลินิกประดิพัทธ์สัตวแพทย์หมาเลียขาบ่อยอา...
28/04/2025

น้องหมาเลียขาบ่อยๆเกิดจากอะไร โดย สพ.ญ. ญิชารัตน์ ลาภพัฒนะ
คุณหมอยุ้ย คุณหมอประจำคลินิกประดิพัทธ์สัตวแพทย์
หมาเลียขาบ่อยอาจมีสาเหตุได้หลายประการ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังนี้ค่ะ
สาเหตุทางร่างกาย:
* อาการแพ้: สุนัขอาจแพ้สารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม เช่น ละอองเกสร ไรฝุ่น หรือแพ้อาหาร ทำให้เกิดอาการคันและเลียเพื่อบรรเทาอาการ
* ปรสิต: เห็บ หมัด หรือไร อาจทำให้เกิดอาการคันและระคายเคือง สุนัขจึงเลียเพื่อกำจัดหรือลดความรู้สึกไม่สบาย
* การบาดเจ็บหรือเจ็บปวด: หากสุนัขได้รับบาดเจ็บ มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ หรือมีอาการปวดข้อ อาจเลียบริเวณนั้นเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
* ผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อ: การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือยีสต์ที่ผิวหนัง อาจทำให้เกิดอาการคัน แดง หรือมีน้ำหนอง สุนัขจึงเลียเพื่อทำความสะอาดหรือลดความรู้สึกไม่สบาย
* ผิวแห้ง: ผิวที่แห้งอาจทำให้เกิดอาการคันและสุนัขเลียเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
* โรคประจำตัว: ในบางกรณี โรคบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการคันหรือความรู้สึกไม่สบายที่ขา ทำให้สุนัขเลียบ่อยขึ้น
สาเหตุทางจิตใจ:
* ความเครียดหรือวิตกกังวล: สุนัขที่รู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือเบื่อ อาจแสดงพฤติกรรมการเลียเพื่อปลอบประโลมตนเอง
* พฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ: การเลียอาจกลายเป็นพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆ โดยไม่มีสาเหตุทางร่างกายที่ชัดเจน
สิ่งที่ควรสังเกต:
* บริเวณที่เลีย: เลียเฉพาะจุดหรือหลายจุด
* ความถี่และระยะเวลาที่เลีย: เลียบ่อยแค่ไหน เลียนานเท่าไหร่
* อาการอื่นๆ ที่พบร่วมด้วย: เช่น ผิวหนังแดง บวม มีผื่น ขนร่วง เกา หรือกัดบริเวณนั้น
คำแนะนำ:
หากคุณสังเกตว่าสุนัขของคุณเลียขาบ่อยผิดปกติ ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง สัตวแพทย์จะทำการตรวจร่างกายและอาจมีการตรวจเพิ่มเติม เช่น การขูดผิวหนัง การตรวจเลือด หรือการทดสอบภูมิแพ้ เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ

น้องฮาบิ เป็นเนื้องอกเต้านมมาผ่าตัดก้อนเนื้อเรีนยร้อยดีคะ แผลหายเร็วๆนะคะ     #ผ่าตัดสุนัข        #ประดิพัทธ์สัตวแพทย์  ...
23/04/2025

น้องฮาบิ เป็นเนื้องอกเต้านมมาผ่าตัดก้อนเนื้อเรีนยร้อยดีคะ แผลหายเร็วๆนะคะ #ผ่าตัดสุนัข #ประดิพัทธ์สัตวแพทย์ #รักษาสัตว์

Feline Panleukopenia (FPV) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้หัดแมว เป็นโรคไวรัสติดต่อร้ายแรงที่สามารถคุกคามชีวิตแมวได้ โดยเฉพาะ...
23/04/2025

Feline Panleukopenia (FPV) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้หัดแมว เป็นโรคไวรัสติดต่อร้ายแรงที่สามารถคุกคามชีวิตแมวได้ โดยเฉพาะลูกแมวที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
สาเหตุ: เกิดจากเชื้อไวรัส Feline Parvovirus ซึ่งมีความทนทานสูงในสิ่งแวดล้อม สามารถอยู่รอดได้นานหลายเดือน และแพร่กระจายผ่านอุจจาระ ปัสสาวะ และสารคัดหลั่งจากร่างกายของแมวที่ติดเชื้อ การสัมผัสโดยตรงกับแมวป่วย หรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส เช่น ชามอาหาร น้ำ ที่นอน หรือแม้แต่เสื้อผ้าและมือของผู้ดูแล ก็สามารถทำให้แมวติดเชื้อได้
อาการ: อาการมักจะปรากฏภายใน 2-7 วันหลังได้รับเชื้อ และอาจมีความรุนแรงแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอายุและสุขภาพของแมว โดยทั่วไป อาการที่พบได้แก่:
* ซึม เบื่ออาหาร
* มีไข้สูง
* อาเจียน
* ท้องเสียรุนแรง อาจมีเลือดปน
* ภาวะขาดน้ำ (สังเกตได้จากเหงือกแห้ง ตาโหล)
* ปวดท้อง
* ในลูกแมว อาจพบภาวะตัวสั่น เดินเซ หรือชัก
การวินิจฉัย: สัตวแพทย์จะทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด และอาจมีการตรวจเลือดเพื่อดูจำนวนเม็ดเลือดขาวที่มักจะต่ำลงมาก นอกจากนี้ อาจมีการตรวจอุจจาระเพื่อหาเชื้อไวรัส
การรักษา: ปัจจุบันยังไม่มียาที่สามารถรักษาโรคไข้หัดแมวได้โดยตรง การรักษาจึงเน้นไปที่การประคับประคองอาการ เพื่อให้ร่างกายของแมวสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้เอง ซึ่งประกอบด้วย:
* การให้สารน้ำทางหลอดเลือด: เพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำและรักษาสมดุลของอิเล็กโทรไลต์
* การให้ยาปฏิชีวนะ: เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
* การให้ยาแก้อาเจียน: เพื่อลดอาการอาเจียนและช่วยให้แมวรู้สึกสบายขึ้น
* การให้สารอาหาร: ในกรณีที่แมวไม่สามารถกินอาหารเองได้ อาจต้องให้อาหารทางสายยาง
* การให้เลือด: ในกรณีที่แมวมีภาวะโลหิตจางรุนแรง
การป้องกัน: วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคไข้หัดแมวคือการฉีดวัคซีน โดยลูกแมวควรได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุประมาณ 6-8 สัปดาห์ และฉีดกระตุ้นตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์แนะนำ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการนำแมวที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนไปสัมผัสกับแมวที่ไม่ทราบประวัติการฉีดวัคซีน หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง
หากสงสัยว่าแมวของคุณมีอาการของโรคไข้หัดแมว ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด เนื่องจากโรคนี้มีความรุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะในลูกแมว การรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของแมวได้

น้องปุยวันนี้มาขูดหินปูนกับคุณหมอช่องปากนะคะ ขอบคุณมากคะ ❤️❤️❤️  #ขูดหินปูนสุนัข        #ประดิพัทธ์สัตวแพทย์  #รักษาสัตว...
21/11/2024

น้องปุยวันนี้มาขูดหินปูนกับคุณหมอช่องปากนะคะ ขอบคุณมากคะ ❤️❤️❤️ #ขูดหินปูนสุนัข #ประดิพัทธ์สัตวแพทย์ #รักษาสัตว์

ทางคลินิกประดิพัทธ์รับตัดขนทรงแฟนซีของน้องแมวนะคะ ถ้าเจ้าของท่านใดสนใจสามารถโทรจองคิวตัดขนแมสได้มี่เบอร์ 0617628880 คะ
07/11/2024

ทางคลินิกประดิพัทธ์รับตัดขนทรงแฟนซีของน้องแมวนะคะ ถ้าเจ้าของท่านใดสนใจสามารถโทรจองคิวตัดขนแมสได้มี่เบอร์ 0617628880 คะ

น้อง cute วันนี้มาขูดหินปูนรักษาโรคเหงือกอักเสบกับคุณหมอช่องปากนะคะ หายไวไวนะคะ       #ขูดหินปูนสุนัข      #ประดิพัทธ์สั...
17/10/2024

น้อง cute วันนี้มาขูดหินปูนรักษาโรคเหงือกอักเสบกับคุณหมอช่องปากนะคะ หายไวไวนะคะ #ขูดหินปูนสุนัข #ประดิพัทธ์สัตวแพทย์ #รักษาสัตว์

น้องไลเดียร์วันนี้มาขูดหินปูนกับคุณหมอช่องปาดนะคะ อายุ 7 ขวบแล้วคะ ยังแข็งแรงอยู่เลยนะคะ ✌️✌️✌️    #ประดิพัทธ์สัตวแพทย์ ...
19/09/2024

น้องไลเดียร์วันนี้มาขูดหินปูนกับคุณหมอช่องปาดนะคะ อายุ 7 ขวบแล้วคะ ยังแข็งแรงอยู่เลยนะคะ ✌️✌️✌️ #ประดิพัทธ์สัตวแพทย์ #ขูดหินปูนสุนัข #รักษาสัตว์

ที่อยู่

191 ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท
Bangkok
10400

เวลาทำการ

จันทร์ 10:00 - 19:00
อังคาร 10:00 - 19:00
พุธ 10:00 - 19:00
พฤหัสบดี 10:00 - 19:00
ศุกร์ 10:00 - 19:00
เสาร์ 10:00 - 19:00
อาทิตย์ 10:00 - 19:00

เบอร์โทรศัพท์

083-036-6830

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Pradiphat VetClinicผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Pradiphat VetClinic:

แชร์

ประเภท