27/08/2024
AIMMURA 19
ดีต่อภูมิคุ้มกัน
รวมพลังสารสกัดธรรมชาติเด่น 2 สารสำคัญ ได้แก่ SESAMIN 10X จากงาดำ และสารสกัด EGCG จากชาเขียว
------------
EGCG ย่อมาจาก epigallocatechin gallate เป็นสารในกลุ่ม Polyphenol ที่ได้จากพืช เป็นสารที่พบมากสุดในกลุ่มคาเทชิน (catechin) ที่มีในใบชาเขียว
ประโยชน์ของ EGCG
จากงานวิจัยบ่งบอกว่า EGCG มีฤทธิ์ชะลอวัย ต่อต้านริ้วรอย ถือได้ว่าเป็นการบำบัดที่ได้จากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอย่างแท้จริง และช่วยป้องกันโรคบางขนิดได้ดี เช่น
- ต้านและกำจัดอนุมูลอิสระ
- ต้านการอักเสบ
- ยับยั้งการเสื่อมของระบบประสาท
- ต่อต้านมะเร็ง (anti-carcinogenic)
- จับกับโลหะหนัก (Metal-chelating)
- เพิ่มการเผาผลาญ - ช่วยลดน้ำหนักได้ดี
ฤทธิ์ของ EGCG ที่รู้จักกันดี
1. ลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น และต้านการอักเสบ
จากการวิจัย พบว่า EGCG จะลดการสะสมของอนุมูลอิสระ ด้วยการเปลี่ยนการส่งสัญญานในการตอบสนองต่อการอักเสบที่มากเกิน, ลดระดับของ NO (Nitric oxide: เป็นสารในการนำส่งสัญญาน) และสภาวะเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า EGCG จะทำปฏิกิริยาโดยตรงกับโปรตีนและฟอสโฟไลปิด (*) และควบคุมเส้นทางการส่งสัญญาณ, transcription factor, DNA methylation, การทํางานของไมโตคอนเดรียและ autophagy (วิธีที่ร่างกายใช้กำจัดเซลล์ที่เสียหาย/ตาย)
นั่นหมายความว่า EGCG ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาพได้หลากหลายมาก โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการอักเสบและการเสื่อมสภาพ
2. เสริมการทำงานของหัวใจ
สาร catechin ในใบชา จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่างต่อหัวใจและเส้นเลือด
จากข้อมูลของ Harvard Health Publishing ระบุว่า สารฟลาโวนอยด์ช่วยยับยั้งการอักเสบและลดการสะสมของคราบ (Plaque) ที่เกิดขึ้นในหลอดเลือดแดง, ช่วยเพิ่มปฏิกิริยาของหลอดเลือด, ช่วยปรับความดันโลหิตให้ดีขึ้น และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิด LDL
นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า การดื่มชาอย่างสม่ำเสมอ จะลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและสโตรค จากการทำสำรวจ พบว่า ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและสโตรคแบบไม่รุนแรงที่ 39%, และความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและสโตรคที่รุนแรงที่ 56% และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตทุกขนิดถึง 29% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ดื่มชาเขียวประจำ
3. ช่วยปกป้องสมอง
นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่า EGCG มีประโยชน์ในการปกป้องระบบสมองและประสาท เนื่องจากฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และความสามารถในการเรียกใช้กลไกของเซลล์ในสมอง การดื่มชาเขียวเป็นประจำจะสัมพันธ์กับการป้องกันโรคทางระบบประสาทที่เพิ่มมากขึ้นตามอายุ เช่น โรคอัลไซเมอร์, ภาวะสมองเสื่อม และโรคพาร์กินสัน
จากการวิจัยพบว่า สารกลุ่มคาเทชินจะช่วยกระบวนย้อนกลับของระบบประสาทที่เกิดความเสียหายได้ และป้องกันการตายของเซลล์ประสาท, ลดอาการของการรับรู้ความเข้าใจที่ผิดปกติในผู้สูงอายุ
การศึกษาจํานวนมากพบว่า คนที่ดื่มชาเขียววันละ 2 -3 แก้ว นานหลายปี มีโอกาสเกิดความบกพร่องทางสติปัญญาลดลง เช่น โอกาสเกิดโรคพาร์กินสันเพียง 30 - 40 %
นอกจากนี้ ยังช่วยลดอาการความทรงจำที่ผิดปกติ, EGCG ช่วยเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้โดยการลดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชันในสมอง
4. ช่วยการเผาผลาญให้ดีขึ้น และลดน้ำหนัก
แม้จะไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักที่ได้ผลรวดเร็ว แต่ก็มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า EGCG สามารถป้องกันกลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญและช่วยในการสลายไขมันได้หลายวิธี เช่น การลดการอักเสบ ลดความอยากอาหาร และเพิ่มการใช้พลังงาน เป็นต้น EGCG จะช่วยเพิ่มกระบวนการเทอร์โมเจเนซิส (ร่างกายผลิตความร้อนโดยใช้พลังงาน) ได้ด้วย แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดแต่ผลนี้ค่อนข้างชัดเจน
การดื่มชาเขียวมัทฉะวันละ 2 แก้วขึ้นไปจะมีความสัมพันธ์กับการมีสุขภาพที่ดี
การบริโภค EGCG ร่วมกับคาเฟอีน จะเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกันให้แรงขึ้น (อาจจะเป็นชา หรือเป็นสารสกัดจากชา หรืออาหารเสริม ก็ได้) มีงานวิจัยที่พูดถึงการรับประทานอาหารเสริม EGCG ที่ผสมคาเฟอีน กินต่อเนื่องหลายเดือน จะช่วยสลายไขมันในคนที่มีน้ำหนักเกิน
5. ช่วยป้องกันมะเร็ง
EGCG มีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งได้ดี Ke-Wang Luo และคณะได้ตีพิมพ์งานวิจัยใน Gastroenterology Report พบว่า EGCG สามารถยับยั้งการเจริญเติบโต และยับยั้งการลุกลามของมะเร็งลำไส้-ทวารได้
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจำนวนมากที่น่าสนใจบ่งชี้ว่า EGCG เป็นสารจากธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้ป้องกันมะเร็งได้ ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของนักวิทยาศาสตร์ทั่วไป และทยอยนำออกมาเผยแพร่จำนวนมาก
สรุป
EGCG คือ epigallocatechin gallate. เป็นสารในกลุ่ม catechin ซึ่งพบได้มากในใบชาเขียวและชาดำ
EGCG มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง รวมทั้งต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ, ช่วยเรื่องหัวใจและกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย, ช่วยสลายไขมันและลดน้ำหนักได้ และป้องกันสมองไม่ให้เสื่อมสภาพ