ศูนย์พิษวิทยาศิริราช Siriraj Poison Control Center

ศูนย์พิษวิทยาศิริราช Siriraj Poison Control Center ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก ศูนย์พิษวิทยาศิริราช Siriraj Poison Control Center, ศูนย์พิษวิทยาศิริาช หอพักพยาบาล 3 ชั้น 6 โรงพยาบาลศิริาช, Bangkok.

24/7&Free toxicology consultation&drug information service by toxicology trained pharmacists and toxicologist faculties, Siriraj Hospital Faculty of Medicine (02-419-7007) พันธกิจของหลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอดอนุสาขาเวชเภสัชวิทยาและพิษวิทยา

การให้บริการทางการแพทย์ด้านพิษวิทยา มุ่งเน้นการวินิจฉัย การรักษา การป้องกัน ภาวะพิษ ซึ่งอาจรวมถึงภาวะอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ภาวะพิษที่เกิดการการประกอบอาชีพ สิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม จากสารเสพเพื่อผ่อนคลาย อาหาร สารชีวภาพ และสารกัมมันตรังสี ในกลุ่มผู้ป่วย ที่ครอบคลุมถึงทุกกลุ่มอายุตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และ กลุ่มประชากรพิเศษ เช่น หญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ เป็นต้น แพทย์ที่ผ่านการอบรมจะต้องมีความรู้ความสามารถในเวชปฏิบัติที่ครอบคลุมและเหมาะสม สามารถวางแผน ให้บริการ ประเมินผลการดูแลรักษา และป้องกันภาวะพิษ ทั้งในระดับ ผู้ป่วยเดี่ยว กลุ่มผู้ป่วย และเหตุอุบัติภัยได้ โดยการดูแลผู้ป่วยจากภาวะพิษนี้ต้องทำได้ทั้งในคลินิกผู้ป่วยนอก ห้องฉุกเฉิน หอผู้ป่วย หออภิบาล ศูนย์พิษวิทยาและในสถานการณ์นอกโรงพยาบาล เช่น ชุมชน สถานที่ทำงาน หรือโรงงานอุตสาหกรรมได้ โดยเวชปฏิบัติเหล่านี้ต้องมีความเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย มีความเอื้ออาทรและใสใจในความปลอดภัย เพื่อการแก้ไขปัญหาและการส่งเสริมสุขภาพ โดยยึดถือผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางบนพื้นฐานของการดูแลแบบองค์รวม นอกจากนี้เวชเภสัชวิทยาเป็นการประยุกต์และบูรณาการองค์ความรู้ทางเภสัชวิทยาและทักษะทางคลินิก เพื่อการใช้ยาในการดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย คุ้มค่า และมีความเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ตามหลักของการแพทย์เฉพาะบุคคล (personalized medicine) แพทย์ที่ผ่านการอบรมต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางเวชเภสัชวิทยาและพิษวิทยา การแปลผล การตรวจวิเคราะห์เพื่อการดูแลผู้ป่วย สามารถทำงานเป็นทีมร่วมกับเพื่อนร่วมงานทั้งในวิชาชีพของตนเองและวิชาชีพอื่นๆ และจะต้องมีการเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วย
การจัดหลักสูตรฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอดชั้นปีที่เพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม อนุสาขาเวชเภสัชวิทยาและพิษวิทยาของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงมีพันธกิจของหลักสูตรที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของคณะ ฯ และสอดคล้องกับเป้าหมายของหลักสูตร ดังนี้
1. ผลิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางเวชเภสัชวิทยาและพิษวิทยา เพื่อเป็นผู้ให้การดูแลรักษา แนะนำให้คำปรึกษา ส่งเสริมและป้องกันทางด้านเวชเภสัชวิทยาและพิษวิทยา และ/หรือ เพื่อเป็นอาจารย์แพทย์ฝึกอบรมความรู้และทักษะในด้านเวชเภสัชวิทยาและพิษวิทยา สอดคล้องต่อความต้องการของประเทศ มีความสามารถด้านการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ และนำไปประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับสังคม
2. ส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความเป็นมืออาชีพ มีความรับผิดชอบ สามารถสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ ปฏิบัติงานเป็นทีมร่วมกับสหสาขาวิชาชีพ มีจริยธรรมแห่งวิชาชีพ มีทัศนคติ และเจตคติที่ดีต่อผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย ผู้ร่วมงาน และองค์กร มีความเอื้ออาทรและใส่ใจในความปลอดภัยโดยยึดถือผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางบนพื้นฐานของการดูแลแบบองค์รว
3. ส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถพัฒนาตนเอง เรียนรู้ และพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง

🥤อันตรกิริยาระหว่างน้ำผลไม้กับยาน้ำผลไม้เป็นผลิตภัณฑ์ที่นิยมบริโภคในชีวิตประจำวันและมักถูกมองว่าเป็นอาหารสุขภาพ อย่างไรก...
15/09/2025

🥤อันตรกิริยาระหว่างน้ำผลไม้กับยา

น้ำผลไม้เป็นผลิตภัณฑ์ที่นิยมบริโภคในชีวิตประจำวันและมักถูกมองว่าเป็นอาหารสุขภาพ อย่างไรก็ตาม มีรายงานทางวิชาการระบุว่าน้ำผลไม้บางชนิดอาจก่อให้เกิดอันตรกิริยากับยา โดยเฉพาะเมื่อบริโภคในปริมาณมากหรือบริโภคต่อเนื่องเป็นเวลานาน กลไกที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

1. การยับยั้งหรือกระตุ้นเอนไซม์ในกลุ่มไซโตโครม พี 450 (Cytochrome P450; CYP450) โดยเฉพาะเอนไซม์ CYP3A4

2. การรบกวนการทำงานของโปรตีนลำเลียงยา เช่น พี-ไกลโคโปรตีน (P-glycoprotein; p-gp)

กลไกเหล่านี้ทำให้การดูดซึม การกระจายตัว การเมแทบอลิซึม และการขับถ่ายยาถูกเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ระดับยาในเลือดสูงหรือต่ำกว่าปกติ และอาจมีผลทางคลินิกที่ไม่พึงประสงค์

ตัวอย่าง น้ำผลไม้ที่มีอันตรกิริยากับยา
1. น้ำเกรปฟรุต
💊 Simvastatin, lovastatin, amiodarone, cyclosporine, carbamazepine (CYP3A4 substrates)
⚠️ เพิ่มระดับยาในเลือด → เสี่ยงพิษจากยา

2. น้ำส้ม
💊 Alendronate, fexofenadine, atenolol, montelukast
⚠️ ลด bioavailability → ลดประสิทธิภาพยา

3. น้ำส้มเสริมแคลเซียม
💊 ยาที่มี Al, ธาตุเหล็ก, fluoroquinolones (ciprofloxacin)
⚠️ ลดการดูดซึมยา

4. น้ำแอปเปิล
💊 Fexofenadine, atenolol, montelukast, aliskiren
⚠️ ลด bioavailability → ลดประสิทธิภาพยา

5. น้ำส้มโอ
💊 Sildenafil, cyclosporine
⚠️ ลดฤทธิ์ sildenafil แต่เพิ่มพิษ cyclosporine

6. น้ำทับทิม
💊 Sildenafil
⚠️ เพิ่ม bioavailability → เสี่ยงอาการไม่พึงประสงค์

7. น้ำแครนเบอร์รี่
💊 Simvastatin
⚠️ เพิ่มเสี่ยงตับอักเสบ และ rhabdomyolysis

✅ สรุป
น้ำผลไม้บางชนิดที่บริโภคในชีวิตประจำวัน อาจส่งผลกระทบต่อยาที่ใช้ได้ โดยเฉพาะหากบริโภคในปริมาณมาก ประเด็นที่ต้องคำนึงถึงคือ น้ำผลไม้สามารถลดประสิทธิภาพของยาหรือเพิ่มความเป็นพิษของยาได้

💢ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมา อาจต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำผลไม้บางชนิดระหว่างการใช้ยาบางประเภท💢

📝 บทความโดย: เภสัชกร หน่วยข้อมูลยาและพิษวิทยา

📸 รูปภาพประกอบโดย: นายนภดล ปฏิรัตนัง
(นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์)

💬 เผยแพร่โดย: ทนพญ. รัษฎา บุญประเสริฐ
(นักเทคนิคการแพทย์ เชี่ยวชาญ)

#สาระพิษวิทยา #ศูนย์พิษวิทยาศิริราช

เปิดรับแพทย์ประจำบ้านต่อยอดแล้วค่ามาร่วมทีมกับเราได้นะคะ :)
03/09/2025

เปิดรับแพทย์ประจำบ้านต่อยอดแล้วค่า
มาร่วมทีมกับเราได้นะคะ :)

🧪 พิษวิทยา: ภาวะแมกนีเซียมในเลือดสูง (Hypermagnesemia)🧲 Magnesium (Mg) เป็นสารประจุสองบวก (divalent) ที่ร่างกายต้องการใน...
01/09/2025

🧪 พิษวิทยา: ภาวะแมกนีเซียมในเลือดสูง (Hypermagnesemia)
🧲 Magnesium (Mg) เป็นสารประจุสองบวก (divalent) ที่ร่างกายต้องการในกระบวนการทำงานภายในเซลล์ และจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาท

💊 Magnesium มีข้อบ่งใช้ในการรักษาหลายอย่าง เช่น
• ใช้เป็นยาน้ำลดกรด
• ยาระบาย
• ยาฉีดเพื่อรักษาภาวะครรภ์เป็นพิษ (eclampsia และ pre-eclampsia)
• ยาฉีดเพื่อแก้ไขภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ

⚠️ ภาวะแมกนีเซียมในเลือดสูง (Hypermagnesemia)
เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
💉 ได้รับยาเกินขนาด
• ความคลาดเคลื่อนทางยาที่ทำให้ได้รับยาฉีดในขนาดที่สูงมากเกินไป
• ความตั้งใจรับประทานยาในขนาดที่สูงมาก (massive overdose)
🧑‍⚕️ กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดพิษจากยา
• ผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตบกพร่อง
• ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (myasthenia gravis)

📊 ระดับ Mg และอาการ
✅ 1.7 – 2.4 mg/dL → ค่าปกติ
🤢 > 3.5 → คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแรง หน้าแดง
📈 > 6 → EKG ผิดปกติ (PR, QRS, QT prolonged)
💤 8 – 12 → ความดันต่ำ, ง่วงซึม, loss of reflexes
💥 > 12 → กล้ามเนื้ออัมพาต, หยุดหายใจ, arrhythmia
☠️ > 17 → เสียชีวิต (respiratory / cardiac arrest)

🩺 การรักษา
🫁 เปิดทางเดินหายใจและช่วยการระบายอากาศ (ventilation) ตามความจำเป็น
💧 ให้สารน้ำทดแทน แก้ไขความผิดปกติของเกลือแร่ และให้ยาบีบหลอดเลือด
💉 Calcium IV: ช่วยแก้ไขภาวะกดการหายใจ ความดันโลหิตต่ำ และหัวใจเต้นผิดจังหวะได้
⚡ การเร่งขับออกของสาร
• การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (hemodialysis)
• การเร่งขับของสารทางปัสสาวะ (forced diuresis) ด้วยการให้ยาฉีด furosemide และ normal saline

📝 บทความโดย: เภสัชกร หน่วยข้อมูลยาและพิษวิทยา

📸 รูปภาพประกอบโดย: นายนภดล ปฏิรัตนัง
(นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์)

💬 เผยแพร่โดย: ทนพญ. รัษฎา บุญประเสริฐ
(นักเทคนิคการแพทย์ เชี่ยวชาญ)

#สาระพิษวิทยา #ศูนย์พิษวิทยาศิริราช

𝘿𝙧𝙪𝙜-𝙁𝙤𝙤𝙙 𝙞𝙣𝙩𝙚𝙧𝙖𝙘𝙩𝙞𝙤𝙣: ที่เกี่ยวข้องกับ 𝙏𝙮𝙧𝙖𝙢𝙞𝙣𝙚🧪 Tyramine เป็นสารธรรมชาติที่พบในอาหารหมัก บ่ม หรือเก็บรักษาไว้นาน เช่น ...
17/08/2025

𝘿𝙧𝙪𝙜-𝙁𝙤𝙤𝙙 𝙞𝙣𝙩𝙚𝙧𝙖𝙘𝙩𝙞𝙤𝙣: ที่เกี่ยวข้องกับ 𝙏𝙮𝙧𝙖𝙢𝙞𝙣𝙚

🧪 Tyramine เป็นสารธรรมชาติที่พบในอาหารหมัก บ่ม หรือเก็บรักษาไว้นาน เช่น ชีสบางชนิด 🧀 ไวน์แดง 🍷 และถั่วเหลืองหมัก 🌱

สารนี้มีผลต่อระบบประสาทซิมพาเทติก
โดยสามารถกระตุ้นการหลั่ง norepinephrine (NE) ในร่างกายได้

โดยปกติ tyramine จะถูกทำลายโดยเอนไซม์ monoamine oxidase (MAO) ดังนั้นผู้ที่รับประทานยากลุ่ม monoamine oxidase inhibitors (MAOIs) เช่น phenelzine 💊 tranylcypromine 💊

ควร หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มี tyramine เนื่องจากยา MAOIs จะไปยับยั้งการทำลาย tyramine ทำให้ระดับ NE ในร่างกายสูงขึ้น

⚠️ ผลลัพธ์: อาจนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตสูงอย่างรุนแรง (𝙝𝙮𝙥𝙚𝙧𝙩𝙚𝙣𝙨𝙞𝙫𝙚 𝙘𝙧𝙞𝙨𝙞𝙨)

อาการที่อาจเกิดขึ้น:
🤯 ปวดศีรษะรุนแรง
❤️ หัวใจเต้นเร็ว
😰 เหงื่อออกมาก

ยากลุ่ม MAOIs
💊 Isocarboxazid
💊 Phenelzine
💊 Selegiline
💊 Rasagiline
💊 Tranylcypromine

🍽️ อาหารที่พบ Tyramine สูง
🧀 Aged/Strong Cheese → Parmesan, Aged cheddar, Blue cheese
🍶 Soy/Teriyaki sauce
🌱 Fava beans
🍺🍷 Alcoholic beverages → Beer (โดยเฉพาะ draft beer), Wine
🥢 Fermented foods → Tofu, Kimchi, Salami
🍖 Smoked/Processed meats → Smoked fish, Bacon, Hot dogs
🥬 Sauerkraut

📝 บทความโดย: เภสัชกร หน่วยข้อมูลยาและพิษวิทยา

📸 รูปภาพประกอบโดย: นายนภดล ปฏิรัตนัง
(นักวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์)

💬 เผยแพร่โดย: ทนพญ. รัษฎา บุญประเสริฐ
(นักเทคนิคการแพทย์ เชี่ยวชาญ)

#สาระพิษวิทยา #ศูนย์พิษวิทยาศิริราช

08/08/2025

แจ้งปิดปรับปรุงระบบโทรศัพท์
ของโรงพยาบาลศิริราช
ในวันที่ 12 สิงหาคม 2568
เวลา 00.00 - 05.00 น. ส่งผลให้
ไม่สามารถติดต่อศูนย์พิษวิทยาศิริราชได้ในเวลาดังกล่าว
ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้

02/07/2025

ชมนิทรรศการ "Tox fun fest" พิษวิทยาฉบับเข้าใจง่าย แล้วได้อะไร???

#คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
#งานวันประมงน้อมเกล้าครั้งที่35 #ศูนย์พิษวิทยาศิริราช

พิษวิทยา: ภาวะพิษจากสารหนู (Arsenic Poisoning) #ด้วยรักเเละห่วงใยจากศูนย์พิษวิทยาภาวะพิษจากสารหนู คือภาวะที่ร่างกายได้รั...
30/06/2025

พิษวิทยา: ภาวะพิษจากสารหนู (Arsenic Poisoning)
#ด้วยรักเเละห่วงใยจากศูนย์พิษวิทยา
ภาวะพิษจากสารหนู คือภาวะที่ร่างกายได้รับสารหนู (Arsenic) ในปริมาณมากเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากการรับประทานน้ำ อาหาร หรือการสัมผัสกับดินและฝุ่นที่ปนเปื้อนสารหนู สารหนูมีอยู่ตามธรรมชาติในสิ่งแวดล้อม และสามารถพบได้ในอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น โรงงานถลุงโลหะ การทำเหมืองและการผลิตสารเคมี
อาการสำคัญ/ภาวะแทรกซ้อน
-อาการของพิษจากสารหนูแบ่งได้เป็นแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง
-การได้รับสารหนูในปริมาณสูงแบบเฉียบพลันทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียรุนแรง คลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก อ่อนแรง และอาจเสียชีวิตได้
-การได้รับสารหนูเรื้อรัง อาจทำให้เกิดผิวหนังเปลี่ยนสี hyperpigmentation สลับกับhypopigmentation ผิวหนาขึ้น (hyperkeratosis) ปลายมือปลายเท้าชา (peripheral neuropathy) aplastic anemia และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
การวินิจฉัยและรักษาภาวะพิษจากสารหนู
สามารถทำได้โดยการตรวจวัดระดับสารหนูในเลือด ปัสสาวะ หรือเส้นผม การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยเป็นการรักษาตามาอาการ เช่น ถ้ามีการสูญเสียน้ำจากการถ่ายเหลวมากให้เกลือแร่ทดแทนได้ สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับพิษเฉียบพลันและมีอาการรุนแรงอาจมีการพิจารณารักษาด้วย Chelating agents เช่น Dimercaprol (British Anti-lewisite; BAL) หรือ Succimer เพื่อเร่งการกำจัดสารหนูออกจากร่างกาย
การป้องกัน ทำได้โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสแหล่งสารหนู เช่น น้ำปนเปื้อน และควบคุมมลภาวะในสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ
#สาระพิษวิทยา #ศูนย์พิษวิทยาศิริราช

ที่อยู่

ศูนย์พิษวิทยาศิริาช หอพักพยาบาล 3 ชั้น 6 โรงพยาบาลศิริาช
Bangkok
10500

เบอร์โทรศัพท์

+6624197007

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ศูนย์พิษวิทยาศิริราช Siriraj Poison Control Centerผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram