23/10/2025
มาทำความรู้จักกับพี่แอล บัณฑิตพิการ มศว
และฝากติดตามพี่แอลในช่อง L Spiration
ทุกแพลตฟอร์มได้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/share/1CnkE38GDm/
“เราเป็นต้อหินมาตั้งแต่เกิด จำได้ว่าตอนเด็กปวดตาบ๊อยบ่อย เวลาหมอคุยกับพ่อแม่ เราก็อยู่ในห้องตรวจ เลยรับรู้มาตลอดว่าวันหนึ่งจะมองไม่เห็น ช่วงแรกเรายังมองเห็น อ่านหนังสือได้ เขียนหนังสือได้ เวลาผ่านไปการมองเห็นค่อยๆ ลดลง เริ่มเห็นแค่สี เห็นแค่โครงร่าง ภาพตรงหน้าเหมือนหมอกลง ถ้าเทียบวันนี้กับเมื่อวานคือไม่ต่าง แต่ถ้าเทียบกับปีที่แล้วหรือสองปีก่อน ถึงรู้ว่าความต่างคืออะไร จนกระทั่งอายุ 17 เราก็ตาบอดสนิท ตอนนั้นเรียนอยู่ ม.ปลาย
“หมอเคยแนะนำว่า ถ้าต้องการเรียนในระดับสูงขึ้น ควรเรียนโรงเรียนสอนคนตาบอด เพื่อเรียนอักษรเบรลล์และฝึกใช้ไม้เท้าขาว เราเข้าไปเรียนตอน ป.2 ตอนนั้นการมองเห็นเริ่มลดลงแล้ว เราไม่ได้โฟกัสว่า ‘เดี๋ยวฉันจะตาบอด’ ‘เดี๋ยวฉันจะตาบอด’ ‘เดี๋ยวฉันจะตาบอด’ ก็ใช้ชีวิตแล้วปรับตัวไปเรื่อยๆ จากเห็นแก้วน้ำแล้วหยิบได้เลย พอเห็นไม่ชัดแบบเดิม ก็ต้องค่อยๆ เอื้อมไปหยิบ เลยไม่ได้รู้สึกเสียใจขนาดนั้น ข้อดีของการรู้ว่าวันหนึ่งจะตาบอด คือเราจะได้เตรียมตัว
“เราชอบอธิบายให้คนเข้าใจ ฝันว่าอยากเป็นครูมาตั้งแต่เด็ก ตอนที่มองไม่เห็นแล้ว ความฝันก็ยังเหมือนเดิม ช่วงนั้นมีข่าวครูไอซ์ คนตาบอดที่สอนภาษาอังกฤษให้เด็กตาดี ถ้าเขาเป็นได้ เราก็เป็นได้ เราตัดสินใจเข้าเรียนที่คณะสังคมศาสตร์ สาขาสังคมศึกษา มศว พอต้องไปอยู่หอ เราเลยไปเรียนการใช้ไม้เท้าขาวและการใช้ชีวิตของคนตาบอดที่สถาบันราชสุดา ตั้งแต่ตาบอด เราได้พี่ชายที่ดีมากช่วยอ่านหนังสือให้ฟัง เรามองว่าคนเป็นครูต้องมีความรู้เลยตั้งใจเรียนมาก ตอนนั้นเรียนจบมาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
“แต่ช่วงฝึกสอนทำให้เราเปลี่ยนความคิด คนเป็นครูไม่ได้มีแค่สอน ต้องทำเอกสารเยอะแยะเลย อาชีพนี้คงไม่เหมาะกับเรา ย้อนไปช่วงเรียนปี 3 เราเคยฝึกงานที่ Choojai แล้วพบว่าตัวเองชอบเล่าเรื่อง ถ้าไม่ใช่ครู มีอาชีพอะไรอีก หลังจากเรียนจบ เรามองไปที่งานมาร์เก็ตติ้งและงานคอนเทนต์ ตอนแรกลังเลว่าควรใส่ว่าเป็นคนตาบอดไหม เลยทำใบสมัคร 2 แบบ คือ ระบุไปเลยว่าเป็นคนตาบอด ปรากฏว่าแบบนั้นไม่มีคนติดต่อกลับมาเลย อีกแบบคือไม่ระบุว่าเป็นคนตาบอด มีคนติดต่อกลับมานะ แต่พอรู้ว่าเป็นคนตาบอด เขาก็ปฏิเสธในหลายรูปแบบ
“พวกเขาคงคิดว่าคนตาบอดทำงานไม่ได้ ไม่ใช่ทุกคนที่มีเพื่อนเป็นคนตาบอด พอไม่รู้จักเลยไม่รู้ว่าคนตาบอดทำอะไรได้หรือไม่ได้ เราเสียใจที่แก้ไขสิ่งนี้ไม่ได้ เราตาบอดน่ะ จะให้ทำยังไง ขณะเดียวกัน เราเข้าใจว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น เพราะสังคมไม่มีพื้นที่ให้คนตาบอดออกมาใช้ชีวิต เราเลยตัดสินใจทำช่อง L Spiration อยากเล่าให้คนทั่วไปได้รู้ว่า คนตาบอดทำอะไรได้บ้าง เช่น คนตาบอดเขียนไม่ได้ แต่เราพิมพ์ได้ คนตาบอดอ่านเอกสารที่เป็นกระดาษไม่ได้ แต่ทุกวันนี้มีเทคโนโลยีทำให้เราอ่านได้ คนตาบอดอ่านรูปภาพไม่ได้ แต่ทุกวันนี้ AI ทำให้เรารู้รูปภาพได้
“ปัจจุบันเรามีรายได้จากการรับเขียนบทความให้เพจแห่งหนึ่ง ขณะเดียวกัน เรากับแฟนช่วยกันทำช่องเพื่อเล่าเรื่องคนตาบอด อยากให้คนทั่วไปรู้จักเนเจอร์ของคนตาบอดว่า เราใช้ชีวิตกันยังไง ยังไม่ต้องเข้าใจก็ได้นะ เพราะสุดท้ายคนตาบอดก็ปัจเจก เราเป็นแบบหนึ่ง คนตาบอดคนอื่นก็อาจเป็นอีกแบบ เราทำช่องมาเข้าปีที่สองแล้ว เป้าหมายก็อยากให้ช่องมีรายได้นะ (ยิ้ม) อยากเป็นยูทูปเบอร์ อยากเป็นแบบฟาโรสน่ะ (หัวเราะ)
“เรามีความสุขที่ชีวิตเป็นแบบนี้ แต่ขณะเดียวกัน ก็มีอีกหลายอย่างที่อยากทำ แต่ทำไม่ได้เพราะตาบอด เช่น เราอยากทำงานมาร์เก็ตติ้ง แต่ก็ทำไม่ได้ (หยุดคิด) ตอนนี้เรามองว่า ถ้ารู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร ก็แบ่งย่อยออกมาเป็นส่วนได้ เช่น เราอยากสื่อสาร ถึงไม่มีคนรับเข้าทำงาน ตอนนี้ช่องที่ทำก็เป็นการสื่อสารแล้ว เป็นการหามุมอื่นที่ทำได้กับสิ่งนั้นแทน”
L Spiration
[1/2]