Sorot Clinic: โสฬสคลินิก คลินิกรักษาไมเกรนและโรคกล้ามเนื้อเรื้อรัง

20/10/2025

เอสอาร์คลินิก ใช้วิธีการรักษาที่เรียกว่า
#การกดจุดลึก และ #การปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อ

รักษา #จุดกดเจ็บ (Trigger Point) และ สลาย #ปมกล้ามเนื้อ (Muscle Knot) ซึ่งเป็นวิธีที่ยอมรับของแพทย์แผนทางเลือก ทั้งในเอเชีย และในประเทศตะวันตกมากมาย เช่น สหรัฐอเมริกาและเยอรมัน

📌 รักษาโดยหมอที่มีใบประกอบโรคศิลปะ

📌 ประสบการณ์ด้านการรักษา trigger point มามากกว่า 20 ปี

🔥หมอทำการรักษาให้โดยตรง ไม่ใช่นักกายภาพหรือหมอนวด

📄 ไม่ใช่ยา ไม่ใช้เข็ม ไม่บิดดัดกระดูก

✅ แพทย์สามารถออกใบรับรองแพทย์พร้อมใบเสร็จเพื่อทำการเบิกกับบริษัทที่ทำการเบิกค่ารักษาได้✍️
(ใบรับรองแพทย์ทางเลือกสาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์)

----------------------------------------------
เอสอาร์คลินิก รักษาไมเกรนและอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง

🏥 ตั้งอยู่ในห้างพาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 3
⏱️ เปิดรักษาทุกวัน เวลา 10.30 น.- 20.00 น.
📞 โทรปรึกษาอาการฟรีหรือนัดทำการรักษา 0841546253, 0612629725

#หายได้ไม่ใช้ยา #โสฬสคลินิก #เอสอาร์คลินิก #พาราไดซ์พาร์ค

#ปวดหัวไมเกรน #ปวดหัวคลัสเตอร์ #ปวดหัวจากความเครียด #ไหล่ติด #ปวดหัวไหล่ #มือชา #ออฟฟิศซินโดรม #ปวดคอบ่าไหล่ #ปวดร้าวลงแขน #หมอนรองกระดูกทับเส้น #บ้านหมุน #เวียนหัวบ่อย #ปวดหัวบ่อย #ไมเกรนตัวร้าย #ปวดหลัง
#ปวดสะโพกร้าวลงขา #ปวดเข่า #ปวดขา #ปวดคอบ่าไหล่ #มือชา #นิ้วล็อค #ชามือชาเท้า See less

17/10/2025

“เจ็บส้นเท้าแบบนี้...อาจเป็น ‘รองช้ำ’ ก็ได้นะ!”

โรครองช้ำ (Plantar Fasciitis) พบได้บ่อยในคนยืน เดิน หรือใส่รองเท้าไม่พอดี
รู้ไว้ก่อน ป้องกันได้ — เพราะเท้าคู่เดียวพาเราไปได้ทุกที่ 💕

💢รองช้ำ (Plantar Fasciitis) คือภาวะที่เกิดจากการอักเสบของพังผืดใต้ฝ่าเท้า ซึ่งทำหน้าที่รองรับน้ำหนักตัว โดยเฉพาะบริเวณ “ส้นเท้า”
มักพบผู้ที่ต้อง “ยืน เดิน หรือวิ่ง” เป็นเวลานานๆ

👣 สาเหตุของรองช้ำ

ยืนหรือเดินนานเกินไป – โดยเฉพาะบนพื้นแข็ง

น้ำหนักตัวมาก – ทำให้ฝ่าเท้ารับแรงกดมากขึ้น

ใส่รองเท้าไม่เหมาะสม – พื้นแข็งเกินไป หรือไม่มีการซัพพอร์ตส้นเท้า

รูปเท้าผิดปกติ – เช่น เท้าแบน หรือเท้าโก่ง

อายุที่เพิ่มขึ้น – พังผืดสูญเสียความยืดหยุ่น

😣 อาการของรองช้ำ

- ปวดส้นเท้า โดยเฉพาะตอน “ลุกจากเตียง”

- ปวดมากขึ้นเมื่อ “เดินหรือยืนนาน”

- มักรู้สึกเหมือนมีของแหลมแทงที่ส้นเท้า

- อาการปวดจะค่อย ๆ ลดลงเมื่อได้พัก

💆‍♀️ วิธีรักษาและดูแลตัวเอง

- พักเท้า – หลีกเลี่ยงการยืนนานหรือเดินระยะไกล

- แช่น้ำอุ่น – เพิ่มการไหลเวียนเลือด ลดอาการอักเสบ

- ยืดกล้ามเนื้อฝ่าเท้า-น่อง ทุกวัน วันละ 2–3 ครั้ง

- กดจุดลึ - คลายปม Trigger Point บริเวณส้นเท้า ฝ่าเท้า

- เปลี่ยนรองเท้าให้เหมาะสม – พื้นนุ่ม มีซัพพอร์ตส้นเท้า

- ลดน้ำหนัก ถ้ามีน้ำหนักเกิน

- นวดฝ่าเท้าเบา ๆ ด้วยลูกบอลกลมๆ

***พบแพทย์ หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2–3 สัปดาห์ อาจต้องใช้แผ่นรองส้นเท้า
เฉพาะทาง

“รองช้ำ” แม้ไม่อันตราย แต่สร้างความทรมานได้มาก
หากดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการพักเท้า เปลี่ยนรองเท้า และยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำ ก็สามารถบรรเทาอาการและป้องกันได้ไม่ยากเลย 💪👣

🏥 เอสอาร์คลินิกตั้งอยู่ในห้างพาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 3
⏱️ เปิดรักษาทุกวัน เวลา 10.30 น.- 20.00 น.
📞 โทรปรึกษาอาการฟรีหรือนัดทำการรักษา 0841546253, 0612629725

#รองช้ำ #ปวดส้นเท้า #หายได้ไม่ใช้ยา #โสฬสคลินิก #เอสอาร์คลินิก #พาราไดซ์พาร์ค

10/10/2025

แบ่งปันความรู้ดีๆ "ผลของการออกกำลังกายทุกวันนะคะ"

🏥เอสอาร์คลินิกตั้งอยู่ในห้างพาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 3
⏱️เปิดรักษาทุกวัน เวลา 10.30 น.- 20.00 น.
📞โทรปรึกษาอาการฟรีหรือนัดทำการรักษา 0841546253, 0612629725

#โสฬสคลินิก #ปวดไมเกรน #พาราไดซ์พาร์ค

ออกกำลังกายทุกวันนะคะ เปลี่ยนกล้ามเนื้อที่ฝ่อ แถมเต็มไปด้วยไขมันแทรกทั่วเซลล์อย่างกับวากิว ให้กลายเป็นเตาเผาน้ำตาลและไขมันขนาดใหญ่ พร้อมส่งฮอร์โมนช่วยทั้งร่าง


เรื่องที่มั่นใจว่าทุกคนทราบดีแน่ๆ ว่า ถ้าไม่ออกกำลังกาย แถมชีวิตประจำวันก็นั่งๆ นอนๆ (Sedentary lifestyle) กล้ามเนื้อจะฝ่อ ออกแรงได้น้อย

แต่เชื่อว่าทุกคนไม่รู้ว่า มันจะหนักแบบในภาพค่ะ ใช่ค่ะ มันไม่ใช่แค่ฝ่อ แต่เซลล์กล้ามเนื้อที่ควรจะมีแต่โปรตีนแท้ๆ กลับเต็มไปด้วย ‘คลังเก็บไขมัน’ (Lipid droplet) กระจัดกระจายทั่วเซลล์

ขวางการทำงานกล้ามเนื้อ ขวางปฏิกิริยาเคมีต่างๆ โดยเฉพาะวงจรสัญญาณอินซูลิน บางครั้งก็เก็บไม่อยู่ เพราะกรดไขมันยังทะลักเข้าเซลล์มาเรื่อยๆ สุดท้ายรั่วออกมานอกคลัง เปลี่ยนเป็นสารพิษทำให้ใยกล้ามเนื้ออักเสบอ่อนๆ (Lipotoxicity)


กล้ามเนื้อที่อยู่ในสภาพนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องออกแรงได้น้อย/ล้าไว แต่เราจะสูญเสีย ‘แหล่งสูบน้ำตาลออกจากเลือด’ ไปกว่า 50-70% เลย ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงลอยอยู่ได้นานมาก เกิดพิษต่ออวัยวะต่างๆ ได้ง่ายมาก

แถมไมโตคอนเดรียในเซลล์ก็มีจำนวนน้อย โครงสร้างเสียหายยับเยินจากพิษของไขมัน ผลคือการเผาผลาญไขมันก็ยิ่งแย่ไปอีก ขาดเตาเผาไขมัน ทำให้ที่อ้วนอยู่แล้ว ก็ยิ่งอ้วนง่ายขึ้น


และที่น่าเสียดายที่สุดคือ ขาดแหล่งสร้างฮอร์โมนดีๆ ของร่างกายไป ไม่ว่าจะเป็น
✔️ IL-6, IL-15 ที่คอยเพิ่มเม็ดเลือดขาว Treg ต้านอักเสบ
✔️ ฮอร์โมน Irisin ที่ช่วยเพิ่มสาร BDNF ในสมองเร่งการฟื้นฟู
✔️ Lactate ที่คอยให้แบคทีเรียในลำไส้ใช้เป็นอาหาร เพื่อเติบโตดูแลเรา
✔️ Myonectin ที่ช่วยให้หัวใจอึดทนต่อการขาดเลือดได้ดี


🔮 หรือสรุปก็คือ เสียทั้งกำลัง เสียทั้งแหล่งเคลียร์น้ำตาล เสียทั้งเตาเผาไขมัน และเสียเครือข่ายฮอร์โมน อวัยวะต่างๆ ศักยภาพหายตามมาเป็นลูกโซ่


ดังนั้นลุกมาออกกำลังกาย กู้อาณาจักรกล้ามเนื้อให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งเถอะค่ะ เพราะการออกกำลังกายถือการแก้ตรงจุดเลยค่ะ

เพราะยิ่งออกยิ่งเป็นการซ้อมให้กล้ามเนื้ออยู่ในสภาพ ‘พลังงานต่ำ’ เซนเซอร์วัดพลังงานชื่อ AMPK จะรับรู้ทันที และรีบเปิดมาตรการหาพลังงานมาทดแทน นั่นคือบีบให้กล้ามเนื้อต้องสลายไขมันที่ฝังอยู่ในตัวมาใช้

ซึ่งถ้ากระตุ้นรุนแรงมากพอ กล้ามเนื้อจะใช้วิธีสลายไขมัน ด้วยวิธีพิเศษที่เอาทั้งคลังไขมันปาเข้าถุงย่อยเลย เรียกกลไกนี้ว่า Lipophagy ซึ่งเปิดใช้งานได้สองวิธีหลักๆ เท่านั้นคือ ออกกำลังกายในระดับปานกลาง กับ Fasting


ยังไม่จบเท่านั้น กล้ามเนื้อที่ถูกซ้อมให้ stress จากตอนออกกำลังกาย จะส่งสัญญาณไปเพิ่มการสร้างไมโตคอนเดรีย เพิ่มการซ่อมแซม เพิ่มการรีไซเคิลตัวที่เสียหายมากๆ

สุดท้ายกล้ามเนื้อก็จะเต็มไปด้วยไมโตคอนเดรีย ที่พร้อมไล่เผาผลาญไขมันที่สะสมในตัวเอง และเมื่อเผาหมดแล้ว ก็เผาไขมันในร่างต่อไป เพื่อลดน้ำหนัก

และเซลล์กล้ามเนื้อที่ไร้ไขมันฝังกล้าม ก็กลับมาอีกครั้ง ไม่เกิด stress อีกต่อไป ตอบสนองต่ออินซูลินได้ดี กลับมาเป็นป้อมปราการคอยดูดน้ำตาลเข้าเซลล์ ไม่ให้น้ำตาลมันสูงลอย

แถมยังสร้างสารพัดฮอร์โมนป้องกันโรคสารพัดค่ะ


วันนี้ไม่ออก พรุ่งนี้ก็ต้องออกอยู่ดี เลี่ยงไม่ได้หรอกค่ะ
แต่ถ้าออกวันนี้ มันก็จะเริ่มต้นที่วันนี้เลย
ถ้าไม่ออก มันก็จะผ่านไปเรื่อยๆ แว้บเดียวก็ 1 ปี 5 ปี 10 ปีแล้ว

เริ่มเลยค่ะ แค่ 30 นาทีเท่านี้เอง

26/09/2025

"หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นทับเส้นประสาท"

เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อหมอนรองกระดูกซึ่งทำหน้าที่เหมือนเบาะรองระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ เกิดการเสื่อมสภาพ ฉีกขาด หรือเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม จนไปกดทับเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้เกิดอาการปวดและชา ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากในบริเวณหลังมาก

💬สาเหตุหลัก
สาเหตุมีหลายอย่าง ส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันและพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง
เช่น:
- การยกของหนักผิดท่า: การก้มหลังยกของ แทนที่จะใช้กำลังจากขาและสะโพก ทำให้หมอนรองกระดูกต้องรับแรงกดอย่างมาก

- การนั่งผิดท่าเป็นเวลานาน: โดยเฉพาะการนั่งหลังค่อม หรือการนั่งที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้กระดูกสันหลังทำงานหนักเกินไป

- อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น หมอนรองกระดูกจะเสื่อมสภาพลงตามธรรมชาติ ทำให้ขาดความยืดหยุ่นและเปราะง่าย
- อุบัติเหตุ: เช่น การหกล้ม หรือการบาดเจ็บที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระดูกสันหลัง
- น้ำหนักตัวที่มากเกินไป: การมีน้ำหนักตัวมาก โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ทำให้กระดูกสันหลังส่วนล่างต้องแบกรับภาระหนัก

👀อาการที่สังเกตได้
อาการของหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาทอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิด แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีอาการที่สำคัญดังนี้

💥อาการปวด: ปวดหลังส่วนล่าง หรือปวดคอ โดยอาการปวดอาจร้าวลงไปที่ก้น สะโพก ขา
🔆อาการชา: รู้สึกชา หรือมีอาการคล้ายไฟช็อตตามแนวเส้นประสาทที่ถูกกดทับ
👨‍🦯กล้ามเนื้ออ่อนแรง: อาจมีอาการอ่อนแรงของขาหรือแขน ทำให้ทรงตัวลำบาก หรือเดินลำบาก
🤧ปวดมากขึ้นเมื่อไอ จาม หรือเบ่ง: การเพิ่มแรงดันในช่องท้อง จะไปเพิ่มแรงกดที่หมอนรองกระดูก ทำให้รู้สึกปวดมากขึ้น

💬การรักษา
การรักษาหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาทมักจะเริ่มต้นด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดก่อน ซึ่งได้ผลดีในผู้ป่วยส่วนใหญ่
- การพักผ่อน: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้หลังหนัก และพักผ่อนให้เพียงพอ
- การใช้ยา: แพทย์อาจให้ยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาแก้อักเสบเพื่อบรรเทาอาการ
- การทำท่าบริหาร: ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำท่าบริหารเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscle) และยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อลดแรงกดทับ
❌️❌️ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง เช่น กลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างรวดเร็ว อาจจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยด่วน

SR CLINIC ช่วยคุณได้อย่างไร?
เอสอาร์คลินิก มีทีมหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจหาจุด Trigger Points บริเวณกล้ามเนื้อหลังตำแหน่งรอบหมอนรองกระดูกที่ปลิ้นและมีอาการปวด และรักษาด้วยเทคนิค “กดจุดลึกสลายปม Trigger Points” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ลดอาการปวด คลายกล้ามเนื้อบริเวณที่หดเกร็ง ลดการเบียดทับแนวเส้นประสาท ให้คนไข้กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น

🏥เอสอาร์คลินิกตั้งอยู่ในห้างพาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 3
⏱️เปิดรักษาทุกวัน เวลา 10.30 น.- 20.00 น.
📞โทรปรึกษาอาการฟรีหรือนัดทำการรักษา 0841546253, 0612629725

#โสฬสคลินิก #ปวดหลังร้าวลงขา

19/09/2025

🌱 Office Syndrome ไม่ได้มาเพื่ออยู่กับคุณตลอดไป⏱️⏱️

📞 โทรปรึกษาอาการฟรี!!หรือนัดทำการรักษา 0841546253, 0612629725
🏥 เอสอาร์คลินิกตั้งอยู่ในห้างพาราไดซ์ พาร์ค
ศรีนครินทร์ ชั้น 3
⏱️ เปิดรักษาทุกวัน เวลา 10.30 น.- 20.00 น.

#โสฬสคลินิก #ออฟฟิศซินโดรม #ปวดบ่า #ไมเกรน

12/09/2025

♨️ประคบร้อน-ประคบเย็น🧊
เทคนิคดูแลตัวเองง่ายๆ ที่ได้ผล

เมื่อเกิดอาการปวด บวม หรือบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุที่ไม่รุนแรง สิ่งแรกที่เรานึกถึงคือการประคบร้อนหรือประคบเย็น แต่หลายคนอาจยังสับสนว่าเมื่อไหร่ควรใช้แบบไหน และจะช่วยบรรเทาอาการได้อย่างไร บทความนี้จะสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ว่าการประคบร้อนและประคบเย็นมีประโยชน์อย่างไร และควรใช้ในสถานการณ์ไหนบ้าง

1. ประคบเย็น (Cold Compress)🧊🧊
การประคบเย็นใช้หลักการลดอุณหภูมิบริเวณที่บาดเจ็บ เพื่อทำให้หลอดเลือดหดตัว ช่วยลดการไหลเวียนของเลือดและสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ จึงเหมาะกับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นใหม่ๆ และมีอาการบวมแดงร่วมด้วย

ควรใช้เมื่อ:

🧊 บาดเจ็บเฉียบพลัน: เช่น ข้อเท้าพลิก เอ็นยืด กล้ามเนื้อฉีกขาด หรือได้รับแรงกระแทกภายใน 24-48 ชั่วโมงแรก
🧊 อาการบวมและอักเสบ: เพื่อลดอาการบวม แดง และความรู้สึกปวดแสบปวดร้อน
🧊 แมลงสัตว์กัดต่อย: ช่วยลดอาการคันและบวม
✔️✔️วิธีการ: ใช้ถุงน้ำแข็ง ห่อด้วยผ้าขนหนู หรือใช้เจลแพ็กแช่เย็น วางบนบริเวณที่บาดเจ็บ ประคบครั้งละ 5-10 นาที และไม่ควรประคบโดยตรงกับผิวหนังเพื่อป้องกันผิวไหม้จากความเย็น

2. ประคบร้อน (Hot Compress)♨️♨️
การประคบร้อนจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิ ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเกร็งและลดความปวดได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะกับอาการปวดเมื่อยที่ไม่ได้เกิดจากการอักเสบเฉียบพลัน

ควรใช้เมื่อ:

♨️ อาการปวดเมื่อยเรื้อรัง: เช่น ปวดคอ บ่า ไหล่ จากการนั่งทำงานนานๆ
♨️ ปวดประจำเดือน: ช่วยคลายกล้ามเนื้อหน้าท้องและลดอาการปวดเกร็ง
♨️ ฟกช้ำหลัง 48 ชั่วโมง: หลังจากที่อาการบวมและอักเสบลดลง การประคบร้อนจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและเร่งการสมานของเนื้อเยื่อ
✔️✔️วิธีการ: ใช้กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าชุบน้ำอุ่น หรือเจลแพ็กที่อุ่นแล้ว ประคบครั้งละ 15-20 นาที ระวังอย่าให้อุณหภูมิสูงเกินไปเพื่อป้องกันผิวหนังพุพอง

ข้อควรระวัง❌️❌️
ไม่ควรประคบร้อนในบริเวณที่มีอาการบวม แดง หรืออักเสบเฉียบพลัน เพราะจะยิ่งทำให้หลอดเลือดขยายตัวและอาการบวมมากขึ้น และไม่ควรประคบเย็นนานเกินไป เพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อเสียหายได้

🏥 เอสอาร์คลินิกตั้งอยู่ในห้างพาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 3
⏱️ เปิดรักษาทุกวัน เวลา 10.30 น.- 20.00 น.
📞 โทรปรึกษาอาการฟรีหรือนัดทำการรักษา 0841546253, 0612629725

#โสฬสคลินิก

08/09/2025

นิ้วล็อค (Trigger finger)🔐🔐

เป็นโรคที่มีความผิดปกติของการเคลื่อนไหว (งอ-เหยียด) นิ้วมือ

สาเหตุ✍️
เกิดจากการใช้งานซ้ำๆจนทำให้เส้นเอ็นกลุ่มที่ทำหน้าที่งอข้อนิ้วอักเสบ บวมขึ้น และเสียดสีบริเวณปลอกหุ้มเอ็นมาก เกิดการหนาตัวขึ้นของปลอกรัดเส้นเอ็น

สิ่งที่ตรวจพบ✔️✔️
1.กดเจ็บบริเวณ โคนนิ้ว อาจคลำได้ก้อนที่เกิดจากเส้นเอ็นบวม
2.พบการเคลื่อนไหวนิ้วฝืด หรือล็อค

ระยะต่างๆของโรคนิ้วล็อคแบ่งตามความรุนแรง

ระยะ 1 : Pre-triggering
มีอาการกดเจ็บที่โคนนิ้วด้านหน้า การเคลื่อนไหวของนิ้วอาจสะดุดบ้าง แต่ยังงอเหยียดนิ้วได้สุด

ระยะ 2 : Active correctable
มีอาการปวดเมื่อเคลื่อนไหวนิ้ว ยังคงงอนิ้วเข้าได้ เมื่อเหยียดนิ้วจะสะดุดติด แต่เหยียดนิ้วออกสุดปกติได้

ระยะ 3 : Passive correctable
ต้องใช้มือช่วยเหยียด งอนิ้วเข้าเองไม่ได้

ระยะ 4 : Contracture
นิ้วล็อคค้าง นิ้วยึดติด

การดูแลและบรรเทาอาการเบื้องต้น
1. พักการใช้งาน: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้งานนิ้วและมือซ้ำๆ หรือออกแรงมากเกินไป ให้เวลานิ้วได้พักผ่อน

2. ประคบเย็น: หากมีอาการบวมหรือปวดเฉียบพลัน ให้ประคบเย็นบริเวณโคนนิ้วประมาณ 15 นาที วันละ 2-3 ครั้ง

3. ยืดเหยียดนิ้วเบาๆ: ค่อยๆ ยืดเหยียดนิ้วและฝ่ามืออย่างนุ่มนวล เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดความแข็งตึง

4. หลีกเลี่ยงการถือของหนัก: ลดการถือของหนัก หรือใช้ถุงมือช่วยในการทำงาน

5. ปรับเปลี่ยนท่าทาง: ปรับท่าทางการทำงานให้เหมาะสม ลดการงอนิ้ว หรือกำมือแน่นๆ เป็นเวลานานๆ

🏥 เอสอาร์คลินิกตั้งอยู่ในห้างพาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 3
⏱️ เปิดรักษาทุกวัน เวลา 10.30 น.- 20.00 น.
📞 โทรปรึกษาอาการฟรีหรือนัดทำการรักษา 0841546253, 0612629725

#โสฬสคลินิก

18/08/2025

ปวดสะโพกร้าวลงขา🦵🦵 อาจไม่ได้เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เสมอไป

กลุ่มอาการที่เกิดจาก Trigger points บริเวณกล้ามเนื้อสะโพก หรือ Piriformis มักมีอาการปวดร้าวลงขา คล้ายกับอาการปวดของเส้นประสาท Sciatic จนทำให้ผู้ป่วยเข้าใจเองว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ครั้งนี้ จะขออธิบายถึงโรคยอดฮิตของคนนั่งนานๆ ที่เรียกว่า "Piriformis Syndrome"

กายวิภาค :
กล้ามเนื้อ piriformis อยู่ตรงสะโพกเกาะจากกระดูกก้นกบไปถึงกระดูกต้นขา

หน้าที่ :
หมุนขาออกด้านนอกและเหยียดสะโพก

สาเหตุ
เกิดจากการเกร็งตัวแข็งเกร็งสะสมของกล้ามเนื้อ piriformis จนหนีบรัดหรือกดทับเส้นประสาท ไซแอติก (Sciatic )

อาการของ Piriformis Syndrome
แสดงออกในรูปของอาการปวดและ/หรือชาบริเวณหลังส่วนล่าง ขาหนีบ อวัยวะเพศ ก้น สะโพก ต้นขา ปลายขา เท้า อาการถูกกระตุ้น💥💥ให้ชัดเจนขึ้นด้วยการนั่งไขว้ห้างนานๆ

SR CLINIC ช่วยคุณได้อย่างไร?
เอสอาร์คลินิก มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจหาจุด Trigger Points บริเวณกล้ามเนื้อสะโพก และรักษาด้วยเทคนิค “กดจุดลึกสลายปม Trigger Points” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ลดอาการปวด คลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกล้ามเนื้อ ให้กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น

เอสอาร์คลินิกตั้งอยู่ในห้างพาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 3
⏱️เปิดรักษาทุกวัน เวลา 10.30 น.- 20.00 น.
📞โทรปรึกษาอาการฟรีหรือนัดทำการรักษา 0841546253, 0612629725

#โสฬสคลินิก #ปวดสะโพกร้าวลงขา

15/08/2025

เตือนภัย💥💥 กินยาแก้ปวดจนกระเพาะทะลุ โสฬสคลินิก เน้นรักษากลุ่มอาการปวดไมเกรนและปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง มุ่งเน้นที่สาเหตุแท้จริง โดยไม่ต้อง ❌️กินยา💊 ❌️ฉีดยา💉 ❌️จัดกระดูก โสฬสคลินิก (เอสอาร์คลินิก)ตั้งอยู่ในห้างพาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 3
⏱️เปิดรักษาทุกวัน เวลา 10.30 น.- 20.00 น.
📞โทรปรึกษาอาการฟรีหรือนัดทำการรักษา 0841546253, 0612629725

#โสฬสคลินิก #ไมเกรน #ปวดหัว

ผู้ป่วยมาด้วย อาเจียนเป็นเลือด 2 ชม. ก่อนมา

ประวัติ ไปฉีดยา และกินยาแก้ปวดลดอักเสบ
3วันต่อมา ปวดจุกท้อง จึงกลับไปและได้รับการรักษากระเพาะอาหารอักเสบ
ต่อมา เริ่มมีอาการถ่ายดำ เป็นระยะๆ

,,,,และวันนี้ ก็อาเจียนเป็นเลือด 🩸

รูปภาพอาจจะน่ากลัว แต่สถานการณ์จริงยิ่งกว่า เนื่องจากผู้ป่วยอาเจียนเป็นเลือดสด ปนลิ่มเลือด
ประมาณ 800-1,000 cc
(เกือบเต็มถุงเซเว่นใบใหญ่)

💊จึงอยากให้ระมัดระวังการใช้ยาแก้ปวดลดอักเสบ
ทั้งแบบกินและฉีด💉(NSAIDs) ที่มากเกินความเหมาะสม
ยาจะมีผลข้างเคียงทั้งระบบทางเดินอาหาร
การทำงานของไต รวมถึงระบบหัวใจและหลอดเลือด

ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ สำหรับทุกๆคน

ทางคลินิกเราพยายามเน้น ในการแนะนำคนไข้ การปรับพฤติกรรม และปรับยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนเป็นหลัก

หมอของเราจะไม่ค่อยสั่งฉีดยา หากไม่จำเป็น
หมออาจจะสอนและอธิบาย แนะนำการปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับโรคที่เป็น พูดเยอะ เสียงดังบ้าง
อยากให้ผู้ป่วยเข้าใจ อย่าเพิ่งโกรธกันนะคะ 😂

14/08/2025

แบ่งปันประสบการณ์รักษาจริง
>>ปวดคอ บ่า
>>ปวดศีรษะ
>>ชาแขน
ทางคลินิกขอขอบคุณมากค่า 🙏🙏

Sorot Clinic (SR CLINIC) เอสอาร์คลินิก
คลินิกรักษาไมเกรนและโรคกล้ามเนื้อเรื้อรัง

สนใจปรึกษาแพทย์หรือนัดทำการรักษาได้ทุกวัน
📞 084-154-6253 , 061-262-9725
📍 ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค
📣 เปิดบริการทุกวัน 10.30 - 20.00 น.

🚝 เดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ลงสถานีสวนหลวง ร.9 ทางออก 2

#พาราไดซ์พาร์ค #ไมเกรน #ปวดหัว #ปวดหลัง #หายได้ไม่ใช้ยา

11/08/2025

หมั่นตรวจเช็คท่านั่งกันนะคะ😊😊

Sorot Clinic (SR CLINIC) เอสอาร์คลินิก
คลินิกรักษาไมเกรนและโรคกล้ามเนื้อเรื้อรัง

สนใจปรึกษาแพทย์หรือนัดทำการรักษาได้ทุกวัน
📞 084-154-6253 , 061-262-9725
📍 ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค
📣 เปิดบริการทุกวัน 10.30 - 20.00 น.

🚝 เดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ลงสถานีสวนหลวง ร.9 ทางออก 2

#พาราไดซ์พาร์ค #ไมเกรน #ปวดหัว #ปวดหลัง #หายได้ไม่ใช้ยา

10/08/2025

บรรยากาศภายในคลินิก ยินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ 🥰🥰

Sorot Clinic (SR CLINIC) เอสอาร์คลินิก
คลินิกรักษาไมเกรนและโรคกล้ามเนื้อเรื้อรัง

สนใจปรึกษาแพทย์หรือนัดทำการรักษาได้ทุกวัน
📞 084-154-6253 , 061-262-9725
📍 ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค
📣 เปิดบริการทุกวัน 10.30 - 20.00 น.

🚝 เดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ลงสถานีสวนหลวง ร.9 ทางออก 2

#พาราไดซ์พาร์ค #ไมเกรน #ปวดหัว #ปวดหลัง #หายได้ไม่ใช้ยา