Doctor Chawin Clinic นพ.ชวินทร์ คลินิก (2025)

03/10/2024

แนวทางการเลือกสารกันแดดที่ปลอดภัยต่อทะเล

1. เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีฉลากระบุว่า “Reef-safe” หรือ “Reef-friendly” ซึ่งหมายความว่าไม่มีส่วนผสมของสารที่เป็นอันตรายต่อปะการัง เช่น Oxybenzone, Octinoxate, Octocrylene, Avobenzone, Homosalate และ Fragrance
2. ใช้ครีมกันแดดที่มีสารกันแดดชนิดกายภาพ (Physical UV Filter) เช่น Non-nano Zinc Oxide หรือ Non-nano Titanium Dioxide ซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่าสารกันแดดชนิดเคมี
3. หลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดดที่มีน้ำหอมหรือสารกันเสียที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น Paraben และ BHT

สรุปสารที่ควรหลีกเลี่ยงในครีมกันแดดสำหรับการใช้งานในทะเลหรือพื้นที่ทางธรรมชาติ

• Ethylhexyl Methoxycinnamate (Octinoxate)
• Butyl Methoxydibenzoylmethane (Avobenzone)
• Octocrylene
• Homosalate
• Fragrance (น้ำหอม)
• BHT (Butylated Hydroxytoluene)

หากคุณต้องการสร้างผลิตภัณฑ์กันแดดที่ปลอดภัยต่อทะเล ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเหล่านี้

02/10/2024

สารกันแดดในกลุ่ม Physical Sunscreen หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Mineral Sunscreen ทำหน้าที่ป้องกันรังสี UV โดยการสะท้อนหรือกระจายรังสีออกจากผิวหนัง ซึ่งต่างจาก Chemical Sunscreenที่ทำงานโดยการดูดซับรังสี UV เข้าไปและแปลงเป็นพลังงานความร้อน สารกันแดดประเภท Physical มีความอ่อนโยนต่อผิวและเหมาะกับผิวแพ้ง่าย ซึ่งมีสารสำคัญหลัก 2 ชนิด ได้แก่ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide

1. Zinc Oxide
ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ทำงานเต็มประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA1 ซึ่งมีความยาวคลื่นสูงที่สุด และยังมีคุณสมบัติป้องกันรังสีอินฟราเรดและแสงสีฟ้าได้ด้วย
ข้อดี อ่อนโยนต่อผิวมากที่สุด เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่าย และมักถูกใช้ในผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับเด็กหรือผู้ที่มีผิวหนังอักเสบ
ข้อเสีย มักทิ้งคราบขาวบนผิวหลังทา เนื่องจากมีคุณสมบัติการกระจายรังสี UV ออก ทำให้เนื้อครีมขาวกว่าปกติ

2. Titanium Dioxide
ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB แต่มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA1 ต่ำกว่า Zinc Oxide แต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันรังสี UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของผิวไหม้แดด
ข้อดี เนื้อบางเบากว่า Zinc Oxide จึงมักทำให้ครีมกันแดดซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่ายกว่า และมักทิ้งคราบขาวน้อยกว่า
ข้อเสีย ป้องกันรังสี UVA1 ได้ไม่ดีเท่ากับ Zinc Oxide ทำให้ต้องใช้ร่วมกับสารกันแดดชนิดอื่นๆ เพื่อป้องกันครบถ้วน

ความแตกต่างระหว่าง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide
ในแง่การป้องกันรังสี Zinc Oxide มีความสามารถในการป้องกันรังสี UVA ได้ดีกว่า Titanium Dioxide โดยเฉพาะรังสี UVA1 ที่ทะลุผ่านผิวได้ลึกกว่า ขณะที่ Titanium Dioxide มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันรังสี UVB
ในด้านความเบาของเนื้อครีม Titanium Dioxide มักมีเนื้อที่บางเบากว่า Zinc Oxide ทำให้ซึมลงผิวได้ง่ายกว่าและไม่ทิ้งคราบขาวบนผิวมากนัก
ส่วนความอ่อนโยนต่อผิวนั้น ทั้งสองสารถือว่าอ่อนโยนต่อผิว แต่ Zinc Oxide มักถูกใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่ายหรือเด็กมากกว่า เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงและมีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดการระคายเคืองต่ำมาก

ข้อแนะนำการเลือกใช้ Physical Sunscreen
ผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย ควรเลือกกันแดดที่มี Zinc Oxide เป็นส่วนประกอบหลัก เพราะมีความอ่อนโยนสูง
ผู้ที่ต้องการปกป้องจากรังสี UVB สูง Titanium Dioxide เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันรังสี UVB ที่เป็นสาเหตุของผิวไหม้แดด

Physical Sunscreen มักได้รับความนิยมจากผู้ที่ต้องการการป้องกันแบบไม่ทำร้ายผิวและเน้นความอ่อนโยนสูง จึงเหมาะกับผิวแพ้ง่าย เด็ก หรือผู้ที่ต้องการการปกป้องตลอดวัน

01/10/2024

Sunscreen: เกราะปกป้องผิวจากรังสี UV

Sunscreen เป็นผลิตภัณฑ์สำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากอันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งผิวหนัง ริ้วรอยก่อนวัย และจุดด่างดำ รังสี UV แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก คือ UVA ซึ่งทำให้ผิวเหี่ยวย่น และ UVB ซึ่งทำให้ผิวไหม้เกรียม

Sunscreen แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ Physical Sunscreen ที่สะท้อนรังสี UV ออกจากผิว และ Chemical Sunscreen ที่ดูดซับรังสี UV เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าสู่ผิวหนัง การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับประเภทผิวและกิจกรรม เช่น Physical Sunscreen เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ส่วน Chemical Sunscreen มักจะเป็นที่นิยมเพราะเนื้อเบาและซึมง่าย

การทา Sunscreen อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพผิว ไม่ว่าจะในวันที่แดดแรงหรืออากาศครึ้ม โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงเมื่อออกแดดนาน ๆ เพื่อให้การปกป้องผิวมีประสิทธิภาพสูงสุด

26/09/2024

แสงแดดมีผลกระทบต่อผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ซึ่งเป็นส่วนที่สัมผัสกับแสงแดดมากที่สุด ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหลายอย่าง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ดังนี้

1. ผิวไหม้แดด (Sunburn)
เมื่อใบหน้าสัมผัสกับรังสี UVB มากเกินไป ผิวจะเกิดการอักเสบและไหม้แดด ทำให้ผิวแดง แสบร้อน และอาจลอกในระยะต่อมา อาการผิวไหม้แดดซ้ำ ๆ จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังในอนาคต

2. ริ้วรอยและความเหี่ยวย่น
รังสี UVA ที่ทะลุเข้าสู่ชั้นผิวลึกจะทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ส่งผลให้ผิวหน้าสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหย่อนคล้อย และร่องลึก โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและปาก

3. จุดด่างดำและฝ้า
การสัมผัสแสงแดดอย่างต่อเนื่องจะกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินในผิว ทำให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก และจมูก ฝ้าและจุดด่างดำเหล่านี้ยากที่จะรักษาให้หายขาด

4. ผิวแห้งและขาดน้ำ
แสงแดดทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวแห้งตึง ลอกเป็นขุย และมีลักษณะแข็งกร้าน ความชุ่มชื้นที่ลดลงจะทำให้ผิวสูญเสียเกราะป้องกันตามธรรมชาติ ทำให้ผิวหน้าอ่อนแอและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย

5. การเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว
รังสี UV ทั้ง UVA และ UVB ทำให้เซลล์ผิวถูกทำลาย เกิดความเสียหายสะสม ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและฟื้นฟูได้ช้าลง เมื่อผิวถูกทำร้ายซ้ำ ๆ จากแสงแดด เซลล์ผิวอาจเกิดการกลายพันธุ์และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง

6. มะเร็งผิวหนัง
การได้รับแสงแดดโดยไม่มีการป้องกันเป็นเวลานานทำให้ผิวหน้ามีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง

การปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ควรใช้ครีมกันแดดทุกวัน สวมหมวกปีกกว้าง และหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่แสงแดดแรงเพื่อป้องกันผลกระทบเหล่านี้

21/10/2023

รับสมัครผู้ช่วยแพทย์
ทำงานวัน
เสาร์-อาทิตย์

10/07/2023

CHAN by Dr Chawin สบู่แร่สำหรับสิวอุดตัน สิวเสี้ยน

Saturday	10:00 - 20:00
Sunday	10:00 - 20:00

Doctor Chawin Clinic นพ.ชวินทร์ คลินิก

03/10/2024

02/10/2024

01/10/2024

26/09/2024

21/10/2023

10/07/2023

Address

Opening Hours

Telephone

Website

Alerts

Shortcuts

Share