22/03/2025
https://www.facebook.com/share/1Y4MxHnhYo/?mibextid=wwXIfr
EP15**🌟การปรับสมดุลระบบเวสทิบูลาร์ (Vestibular System) ร่วมกับการฝังเข็มเพื่อลดอาการเวียนหัว🧠
😘สวัสดีครับระบบเวสทิบูลาร์ (Vestibular System) เป็นระบบที่ช่วยให้ร่างกายรับรู้การเคลื่อนไหวและทรงตัวทำเกิดความสมดุลในขณะเคลื่อนไหวครับ หากระบบนี้ทำงานผิดปกติ จะทำให้เกิดอาการเวียนหัว ทรงตัวลำบาก หรือรู้สึกเหมือนสิ่งรอบตัวหมุน ซึ่งพบได้ใน BPPV และ Central Vertigo
👉ลำดับแรกเรามาทบทวนเนื้อหากันก่อนนะครับ เรามารู้จักการเวียนหัว 2 ลักษณะกัน
BPPV และ Central Vertigo คืออะไร?
👉BPPV (Benign Paroxysmal Positional Vertigo) หรือ ภาวะเวียนหัวจากหินปูนในหูชั้นในหลุด เกิดจาก otoliths (หินปูนหรือคริสตัลแคลเซียม) ใน utricle ของหูชั้นใน หลุดเข้าไปใน semicircular canals (ช่องกึ่งวงกลมของหูชั้นใน) ทำให้ระบบทรงตัวส่งสัญญาณผิดพลาดไปยังสมอง ส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัว โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนท่าทางศีรษะ เช่น หันหน้าเร็ว ๆ หรือเปลี่ยนจากท่านอนเป็นท่านั่ง เป็นสาเหตุนึงที่พบบ่อยของการเวียนหัวเลยครับ
👉Central Vertigo เป็นอาการเวียนหัวที่เกิดจาก ความผิดปกติของสมอง โดยเฉพาะบริเวณ ก้านสมอง (Brainstem) หรือสมองน้อย (Cerebellum) ซึ่งควบคุมการทรงตัวและการเคลื่อนไหว อาจเกิดจากโรคร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke), เนื้องอกในสมอง, หรือโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis, MS)เป็นต้นครับ
🥹อาการเวียนหัวของ BPPV และ Central Vertigo มีความต่างกันอย่างไร
🔎ลักษณะอาการของ BPPV (PNS)
• จะเวียนหัวรุนแรงแบบเป็น ๆ หาย ๆ และเกิดขึ้นชั่วคราว
• อาการเวียนหัวจะถูกกระตุ้นจากการเปลี่ยนท่าศีรษะ เช่น พลิกตัวบนเตียง หันศีรษะ หรือเงยหน้าขึ้นลง
• ไม่มีอาการทางระบบประสาทอื่น ๆ เช่น แขนขาอ่อนแรง หรือพูดไม่ชัด
• อาการลดลงเมื่ออยู่นิ่ง
🔎ลักษณะอาการของ Central Vertigo (CNS)
• อาการเวียนหัวเกิดขึ้นต่อเนื่อง ไม่ดีขึ้นแม้หยุดเคลื่อนไหว
• ไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนท่าทางศีรษะ
• อาจมีอาการร่วม เช่น แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด เดินเซ หรือมองเห็นผิดปกติ
• อาจมีอาการปวดศีรษะรุนแรงร่วมด้วย
🔆วิธีตรวจวินิจฉัยจำแนกการเวียนหัวแบบ BPPV และ Central Vertigo
🩺 การตรวจเพื่อยืนยัน BPPV
1. Dix-Hallpike Test
• ให้ผู้ป่วยนั่งบนเตียง หันศีรษะไปด้านขวาประมาณ 45 องศา
• นอนหงายศีรษะเลยขอบเตียงประมาณ 30 องศา สังเกตการกระตุกของลูกตา (Nystagmus) และอาการเวียนหัว
• ทำซ้ำโดยหันศีรษะไปด้านซ้าย
• หากเกิดอาการเวียนหัวและมีการกระตุกของลูกตา ถือว่าเป็น BPPV
คลิปแสดงความผิดปกติเมื่อผลเป็นบวกครับ
https://youtu.be/7ePecb9azS4?si=NZJxVr4XtL1ryRe8
2. Roll Test (ตรวจหินปูนในช่องกึ่งวงกลมแนวนอน)
• นอนหงายตรง แล้วหันศีรษะไปทางซ้ายและขวา
• สังเกตอาการเวียนหัวและการกระตุกของลูกตา
คลิปประกอบการตรวจ
https://youtu.be/_EnAGlTibd0?si=E_c5Y-wVbdJYraHq
🩺 การตรวจเพื่อยืนยัน Central Vertigo
1. HINTS Test (ใช้แยก Stroke)
• Head Impulse Test: ให้ผู้ป่วยจ้องตาหมอ จับศีรษะผู้ป่วยแล้วหันอย่างรวดเร็ว ถ้าตาไม่กระตุก → สงสัย Central Vertigo
• Nystagmus Test: ถ้ากระตุกในแนวตั้ง หรือเปลี่ยนทิศทางไปมา → สงสัย Central Vertigo
• Test of Skew: ใช้มือปิดตาข้างหนึ่งแล้วเปิดออก ถ้าตาขยับขึ้นลงผิดปกติ → อาจเป็น Stroke
คลิปอธิบายการตรวจ
https://youtu.be/1q-VTKPweuk?si=DxOuqa9C9lCw1ppj
2. MRI หรือ CT Scan
• ใช้ตรวจหาสมองขาดเลือด (Stroke), เนื้องอก หรือโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
สำหรับการรักษาและบำบัดอาการเวียนหัวเรื้อรัง ที่สามารถทำร่วมกับการฝังเข็มได้มีประสิทธิภาพ คือ
แนวทางการปรับสมดุลระบบเวสทิบูลาร์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ด้านหลัก ได้แก่
1.การออกกำลังกายฝึกสมอง (Vestibular Rehabilitation),
2.การปรับพฤติกรรม
3.การใช้เทคนิคการรักษาฝังเข็ม
สำหรับวิธีที่1-2 เราสามารถแนะนำผู้ป่วยในการฝึกฝนและปรับพฤติกรรมขณะระยะเวลาที่ทำการรักษาได้เพื่อเพิ่มประสิทธิผลการรักษาครับ
1. การออกกำลังกายฝึกสมองและระบบทรงตัว (Vestibular Rehabilitation Exercises)
การฝึกเหล่านี้ช่วยให้สมองสามารถปรับตัวและชดเชยการทำงานผิดปกติของระบบเวสทิบูลาร์
🔹 1.1 การฝึก Epley Maneuver (สำหรับ BPPV)
ช่วยเคลื่อนหินปูนที่หลุดออกจากตำแหน่งผิดปกติในหูชั้นในให้กลับเข้าที่
วิธีทำ (กรณีหินปูนหลุดในหูขวา):
1. นั่งตัวตรง หันศีรษะไปทางขวา 45 องศา
2. เอนตัวลงนอนหงาย โดยศีรษะเลยขอบเตียง ค้างไว้ 30 วินาที
3. หันศีรษะไปทางซ้าย 90 องศา ค้างไว้ 30 วินาที
4. พลิกตัวไปทางซ้ายให้นอนตะแคง โดยให้จมูกชี้ลงพื้น ค้างไว้ 30 วินาที
5. ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งตรง
(ถ้าหินปูนอยู่ในหูด้านซ้าย ให้ทำท่าตรงข้ามกัน)
ขออนุญาตแนบลิงก์ประกอบการอธิบายครับ
https://youtu.be/VmCItD9nDfY?si=esSodJT859RlMASd
🔹 1.2 การฝึก Brandt-Daroff Exercises (ช่วยสมองปรับตัวกับอาการเวียนหัว)
เป็นการฝึกที่ช่วยให้สมองเรียนรู้และปรับตัวกับอาการเวียนหัว ลดความไวต่อการเปลี่ยนท่าทาง
วิธีทำ:
1. นั่งตัวตรงบนเตียง
2. เอนตัวไปด้านขวาให้นอนตะแคง ศีรษะหันขึ้น 45 องศา ค้างไว้ 30 วินาที
3. ลุกขึ้นนั่งตรงและรอให้อาการเวียนหัวหายไป
4. เอนตัวไปด้านซ้ายให้นอนตะแคง ศีรษะหันขึ้น 45 องศา ค้างไว้ 30 วินาที
5. ทำซ้ำ 5-10 ครั้ง วันละ 2-3 รอบ
คลิปประกอบการฝึก
https://youtu.be/pcM1RIY4coM?si=Pf3r06Pc3usBXNk-
🔹 1.3 การฝึก Gaze Stabilization (เพิ่มการควบคุมการมองเห็นระหว่างเคลื่อนไหว)
ช่วยให้สมองเรียนรู้ที่จะควบคุมการทรงตัวขณะศีรษะเคลื่อนไหว
วิธีทำ:
1. จ้องมองวัตถุที่อยู่ข้างหน้า เช่น ปากกา
2. หันศีรษะไปซ้ายและขวาช้า ๆ ขณะจ้องมองปากกา
3. ค่อย ๆ เร่งความเร็วขึ้นทีละน้อย
4. ทำวันละ 2-3 รอบ
คลิปประกอบการฝึก
https://youtu.be/RzPjESAVWfk?si=ZUMO4k5KMgkjscTc
🔹 1.4 การฝึกการทรงตัว (Balance Training)
ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของร่างกายและลดอาการเซขณะเคลื่อนไหว
วิธีทำ:
1. ยืนตรง เท้าชิดกัน
2. หลับตาแล้วพยายามทรงตัวให้นานที่สุด (จับที่พิงเพื่อป้องกันล้ม)
3. ค่อย ๆ เพิ่มระดับความยาก เช่น ยืนขาเดียว หรือยืนบนพื้นผิวที่ไม่มั่นคง
2. การปรับพฤติกรรมเพื่อลดอาการเวียนหัว
🔹 หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เวียนหัว
• หลีกเลี่ยง การหันศีรษะเร็ว ๆ หรือเปลี่ยนท่าทางกะทันหัน
• ไม่ควรนอนหมุนตัวเร็ว ๆ หรือก้มเงยอย่างรวดเร็ว
🔹 ควบคุมอาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิต
• ลดโซเดียม: อาหารรสเค็มอาจทำให้ของเหลวในหูชั้นในเสียสมดุล
• งดเครื่องดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์: ลดอาการเวียนหัวจากระบบเวสทิบูลาร์
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ป้องกันภาวะขาดน้ำที่อาจกระตุ้นอาการเวียนหัว
3. เทคนิคการรักษาฝังเข็ม
🔹 การฝังเข็มเพื่อปรับสมดุลระบบเวสทิบูลาร์
ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปยังสมองและหูชั้นใน
🌀 กลไกหลักที่ทำให้เกิดอาการเวียนหัวจาก BPPV ตามแพทย์แผนจีน
1. พลังชี่ตับ (肝气) อั้น – “ตับไฟแกร่งเกินไป” (肝火上炎)
📌 อธิบาย:
ตับเป็นอวัยวะที่ช่วยควบคุมการไหลเวียนของเลือดและพลังชี่ไปทั่วร่างกาย ถ้าตับมีพลังชี่ติดขัด อาจเกิด “ไฟตับแกร่ง” ทำให้พลังชี่และเลือดไหลขึ้นศีรษะแบบไม่สมดุล ส่งผลให้เกิด เวียนหัว, หน้ามืด, ตาพร่า
📌 อาการที่พบ:
✅ เวียนหัวแบบหมุน
✅ หงุดหงิดง่าย, นอนไม่หลับ
✅ ตาแดง, ปวดศีรษะข้างเดียว
✅ ปากขม, คอแห้ง
2. เสมหะสะสมในเส้นลมปราณของถุงน้ำดี (痰湿阻滞) – “เสมหะปิดกั้นระบบทรงตัว”
📌 อธิบาย:
เสมหะเป็นสารที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของ ม้ามและกระเพาะอาหาร (脾胃) หากม้ามไม่สามารถลำเลียงของเหลวได้ดี จะทำให้เกิดเสมหะสะสมในร่างกาย เมื่อเสมหะนี้สะสมมากขึ้น อาจไปขัดขวางการทำงานของระบบทรงตัวในหูชั้นใน ทำให้เกิดอาการ เวียนหัว ทรงตัวไม่ดี คลื่นไส้
📌 อาการที่พบ:
✅ เวียนหัวคล้ายเมารถ
✅ อาการหนักขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวศีรษะ
✅ อึดอัด แน่นหน้าอก
✅ คลื่นไส้ อาเจียน
3. ภาวะเลือดพร่องไปเลี้ยงสมอง (血虚生风) – “เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ”
📌 อธิบาย:
เลือดมีบทบาทสำคัญในการหล่อเลี้ยงสมอง ถ้าเลือดพร่อง (เลือดไม่พอ, เลือดไหลเวียนไม่ดี) จะทำให้สมองขาดสารอาหารที่จำเป็น ทำให้เกิดอาการเวียนหัว คล้ายกับภาวะสมองขาดเลือดในแพทย์แผนปัจจุบัน
📌 อาการที่พบ:
✅ เวียนหัวเมื่อลุกขึ้นเร็ว ๆ
✅ อ่อนเพลีย หน้าซีด
✅ ใจสั่น เหงื่อออกง่าย
✅ มือเท้าเย็น
4. ไตหยางพร่อง (肾阳虚) – “พลังไตอ่อนแอ ทำให้สมดุลเสีย”
📌 อธิบาย:
ไตในแพทย์จีนมีหน้าที่ ควบคุมของเหลวและความสมดุลของร่างกาย ถ้าพลังไตพร่อง อาจทำให้ของเหลวในหูชั้นในไม่สมดุล เกิดความผิดปกติของระบบทรงตัว และทำให้เกิดอาการเวียนหัว
📌 อาการที่พบ:
✅ เวียนหัวตอนตื่นนอน
✅ เหนื่อยง่าย ปวดเอว ปวดเข่า
✅ ความจำลดลง หูอื้อ
จุดสำคัญที่ใช้ฝังเข็มร่วมกับการจำแนกสังกัดโรค:
1. Fengchi (风池)
• ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและหูชั้นใน
• ลดสัญญาณผิดปกติที่เกิดจากระบบทรงตัว (Vestibular System)
• บรรเทาอาการเวียนหัวที่เกิดจากการเปลี่ยนท่าทางและลดความเกร็งตึงของกล้ามเนื้อต้นคอ
2. Baihui (百会)
• กระตุ้น การทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง
• ปรับการสื่อสารระหว่าง หูชั้นในและสมอง ให้สมดุล
• ช่วยลดอาการเวียนหัวเรื้อรัง
3. Neiguan (内关)
• ลดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และอัตราเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง
4. Zusanli (足三里)
• กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและออกซิเจนไปยังสมอง
• เสริมสร้างพลังงานของร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลียจากอาการเวียนหัว
5. Tinggong (- 听宫)
• มีผลโดยตรงต่อการทำงานของ เส้นประสาทหู (Vestibulocochlear Nerve - CN VIII)
• ช่วยปรับสมดุลของเหลวในหูชั้นใน ลดการเคลื่อนไหวผิดปกติของหินปูน
6. Yintang (印堂)
• อยู่ระหว่างคิ้ว ช่วยลดความเครียดที่อาจส่งผลต่อการรับรู้การทรงตัว
• ลดอาการวิงเวียนศีรษะที่เกิดจากความเครียดสะสม
📚 งานวิจัยที่สนับสนุนการฝังเข็มกับอาการเวียนหัว
📌 งานวิจัยจาก Journal of Neurology (2021):
การฝังเข็มที่ GB20 และ PC6 ช่วยลดอาการเวียนหัวและอัตราการเกิดซ้ำของ BPPV ได้ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับการฝังเข็ม
📌 งานวิจัยจาก Chinese Medicine Journal (2019):
ฝังเข็มร่วมกับ Epley Maneuver ให้ผลดีขึ้น 30% เมื่อเทียบกับการทำ Epley Maneuver เพียงอย่างเดียว
📌 งานวิจัยจาก JAMA Otolaryngology (2023):
การฝังเข็มช่วยลดอาการเวียนหัวในผู้ป่วย Central Vertigo โดยเฉพาะกลุ่มที่มีภาวะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
🔹 กายภาพบำบัดเวสทิบูลาร์ (Vestibular Physical Therapy)
• ใช้การฝึกเคลื่อนไหวเพื่อลดความไวของระบบเวสทิบูลาร์
• ฝึกการเพ่งมอง (Gaze Training) และฝึกการทรงตัวร่วมกับนักกายภาพบำบัด
🔹 การใช้ยา (ในบางกรณี)
• ยา Betahistine ช่วยเพิ่มเติมการไหลเวียนโลหิตในหูชั้นใน
• ยาแก้แพ้บางประเภท (Antihistamines) เช่น Meclizine อาจช่วยลดอาการเวียนหัว
4. ข้อสรุป
✅ BPPV สามารถปรับสมดุลเวสทิบูลาร์ได้โดยใช้ Epley Maneuver และ Brandt-Daroff Exercises ร่วมกับการฝังเข็มและกายภาพบำบัด
✅ Central Vertigo ควรใช้ Gaze Stabilization และ Balance Training ควบคู่กับการรักษาตามสาเหตุ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง
✅ ปรับพฤติกรรม โดยลดโซเดียม งดคาเฟอีน และควบคุมการเคลื่อนไหวของศีรษะ
✅ การฝังเข็มและกายภาพบำบัด เป็นแนวทางที่ช่วยให้สมองปรับตัวและลดอาการเวียนหัวในระยะยาว
📌 ฝึกการทรงตัวเป็นประจำ ช่วยให้สมองชดเชยการทำงานของระบบเวสทิบูลาร์ที่ผิดปกติได้เร็วขึ้น! 🎯