เปิดทำการกี่โมง?

จันทร์ 09:00 - 18:00 อังคาร 09:00 - 18:00 พุธ 09:00 - 18:00 พฤหัสบดี 09:00 - 18:00 ศุกร์ 09:00 - 18:00 เสาร์ 09:00 - 18:00

Neurobalance

Neurobalance is a rehabilitation center with new holistic approach. We gather cutting edge technology

ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมแนวทางใหม่ ที่รวบรวมเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นที่ยอมรับ มีมาตรฐาน และผลวิจัยรับรอง โดยทางศูนย์มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพคอยดูแลแนะนำและให้คำปรึกษาที่มีประโยชน์กับลูกค้าตลอดการเข้ารับบริการ

เรามุ่งเน้นในการปรับความสมดุลด้านสุขภาพแบบองค์รวม ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้าของสมอง หรือ ระบบของเหลวภายในร่างกายโดยคัดสรรและนำเสนอโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพที่เหมาะสมสำหรับบุคคลนั้นๆ เพื่อช่วยเสริมสร้างสภาวะของสมองและร่างกายให้อยู่ในสภาวะที่สมดุล และ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ผู้เข้ามารับบริการ

อาการที่สามารถพัฒนาได้ดีด้วยวิธีการของเรา

กลุ่มเด็ก

- ออทิสติก
- เรียนรู้และพัฒนาการช้า
- สมาธิสั้น
- อารมณ์ก้าวร้าว

กลุ่มผู้ใหญ่/ผู้สูงอายุ

- เครียด
- ปัญหาด้านการนอน
- อาการซึมเศร้า
- ปัญหาด้านความจำ
- การเคลื่อนไหวช้า

อาการอื่นๆ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้

22/11/2025

📌ภาวะพูดช้า เดินช้า มือสั่น ในผู้สูงอายุ ต้องระวัง!!
ผู้สูงอายุเป็นช่วงวัยที่ร่างกายเริ่มเสื่อมถอยตามธรรมชาติ การดูแลสุขภาพให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ตนเองสามารถใช้ชีวิตได้อย่างแข็งแรงและมีความสุข แต่เนื่องจากอายุที่มีมากแล้ว ก็มักเกิดความเสี่ยงต่อโรคหลายชนิด เพราะระบบภูมิคุ้มกันลดลงและการทำงานของอวัยวะต่างๆ ไม่สมบูรณ์เหมือนเดิม
ดังนั้นการรู้ทันถึงอาการต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่ดี รู้ไวก็จะสามารถช่วยชะลอความรุนแรงของโรคได้มาก อย่างอาการ พูดช้า เดินช้า มือสั่น ในผู้สูงอายุ ก็เป็นอาการที่ลูกหลานหรือผู้ดูแลไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคทางระบบประสาทได้
อาการ พูดช้า เดินช้า มือสั่น ในผู้สูงอายุ มักเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง โดยเฉพาะ สมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวและการขาดสารสื่อประสาทที่ชื่อว่า โดปามีน (Dopamine) ซึ่งทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้
👉โรคที่ต้องระวังเกี่ยวกับอาการ พูดช้า เดินช้า มือสั่น ในผู้สูงอายุ

1.โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) เกิดจากการเสื่อมของเซลล์สมองส่วนที่สร้างสารโดปามีน (Dopamine) ที่ผลิตสารควบคุมการเคลื่อนไหวและการทรงตัว เมื่อเซลล์สมองเสื่อมสภาพหรือถูกทำลายไป การสร้างสารโดพามีนลดลง จึงส่งผลให้เกิดความผิดปกติของการเคลื่อนไหว
👴อาการที่เห็นได้ชัดเจน
-มือสั่น (ขณะอยู่นิ่ง)
-เดินช้า เคลื่อนไหวช้า ก้าวสั้นๆ
-กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง เคลื่อนไหวยาก
-เดินตัวงอหรือทรงตัวไม่ดี เสียการทรงตัว
-พูดเสียงเบา น้ำลายไหล หน้าตาเฉยไม่แสดงอารมณ์
-การเดินและการทรงตัวลำบาก
2. โรคสมองเสื่อม (Dementia) เป็นภาวะที่สมองทำงานเสื่อมลงกว่าปกติ โดยเฉพาะในด้านความจำ ความคิด เหตุผล และการตัดสินใจ สมองเสื่อม เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากโรคหรือความผิดปกติหลายอย่างที่กระทบต่อสมอง ทำให้สมองค่อยๆ สูญเสียความสามารถในการทำงาน ทำให้ความสามารถทางสติปัญญา ความจำ การคิด การตัดสินใจ ภาษา และการรับรู้ ลดลงจากเดิม จนกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
👴อาการที่เห็นได้ชัดเจน
-พูดติดขัด พูดซ้ำ พูดไม่รู้เรื่อง
-มีอาการแข็งเกร็ง เคลื่อนไหวลำบาก
-ลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น สับสนเวลาและสถานที่
-บุคลิกภาพและอารมณ์เปลี่ยน
-จำคนในครอบครัวไม่ได้
-ความสามารถช่วยเหลือตนเองลดลง
3. โรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก (Stroke) สาเหตุหลักมาจากความเสื่อมของหลอดเลือดในสมอง อาจด้วยอายุที่มากขึ้น การได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ โรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ หรือ การใช้ชีวิตและปัจจัยอื่นๆ ที่กระทบต่อสุขภาพหลอดเลือด ทำให้สมองขาดเลือด ขาดออกซิเจน เป็นเหตุให้เซลล์สมองตาย
👴อาการที่เห็นได้ชัดเจน
-พูดช้า พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ หรือฟังไม่เข้าใจ
-ใบหน้า มุมปากตก ยิ้มไม่เท่ากัน หน้าบูดเบี้ยว
-แขน ขาอ่อนแรง ยกแขนไม่ขึ้น หรือยกแล้วตกข้างหนึ่ง
4. โรคพาร์กินสัน (Parkinson's disease) เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์ประสาทบริเวณก้านสมอง ทำให้สารโดปามีนในระบบประสาทลดน้อยลง ส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางการเคลื่อนไหวของร่างกาย
👴อาการที่เห็นได้ชัดเจน
-มือหรือแขนสั่น
-กล้ามเนื้อเกร็ง
-ก้าวเดิน เคลื่อนไหวช้า ก้าวลำบาก
-มีปัญหาด้านการทรงตัว
-อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล ท้องผูกเรื้อรัง นอนละเมอ
👉การป้องกันหรือลดความเสี่ยงของอาการ พูดช้า เดินช้า มือสั่นหรือโรคทางสมองในผู้สูงอายุ
1. การตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อค้นหาความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ หมั่นสังเกตอาการเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน เพื่อรักษาน้ำตาลและไขมันในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
2. ออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ส่งผลดีต่อเซลล์สมองและร่างกายโดยรวม การเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับวัย
3. การทำกิจกรรมที่กระตุ้นสมอง กระตุ้นความคิด เช่นอ่านหนังสือ เกมฝึกสมองหรือทำสิ่งใหม่ๆ จะช่วยฝึกสมอง ให้สมองทำงานได้เป็นปกติและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคทางสมอง
4. รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ลดเค็ม ลดทอด งดของกินที่มีไขมันสูง เน้นอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและไขมันดี จะช่วยให้การทำงานของเซลล์สมองและส่วนอื่นๆของร่างกาย เป็นปกติมากขึ้น
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ส่งผลต่อสุขภาพสมองได้ดีมาก แต่ผู้สูงอายุมักเจอปัญหาการนอนไม่หลับ หลับไม่สนิท ตื่นง่าย ควรปรับสภาพแวดล้อมในการนอนให้เหมาะสม สร้างบรรยาการห้องนอนให้สงบ เงียบ รวมถึงปรับอุณหภูมิห้องที่เหมาะสมด้วย
การดูแลผู้สูงอายุ การสังเกต การใส่ใจ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และความรู้สึก เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขและรู้สึกมีคุณค่าอยู่เสมอ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ดังนั้นหากพบว่ามีอาการที่ผิดปกติหรือมีอาการดังที่กล่าวมา อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบพบแพทย์เพื่อจะได้รับการวินิจฉัยได้ไว
#นูโรบาลานซ์ #นิวโรบาลานซ์ #นูโรฟีดแบค #นิวโรฟีดแบค #ไบโอฟีดแบค #สมองเสื่อม #อัลไซเมอร์ #พาร์กินสัน #ผู้สูงอายุ
📌จองคิว ปรึกษา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
☎️ โทร : 02-245-4227 / 097-429-1546
Line : หรือ https://line.me/R/ti/p/
เว็บไซต์ : www.neurobalanceasia.com
ทำการนัดหมายออนไลน์ : https://rebrand.ly/x8zzl1b

15/11/2025

📌ลูกมีปัญหาด้านความจำระยะสั้น (Short-Term Memory Loss) จะช่วยได้อย่างไร?
คุณพ่อคุณแม่เคยเจอไหม เพิ่งสอนการบ้านลูกไปไม่กี่นาที แล้วลูกบอกว่าลืม ทำไม่ได้ แล้วก็กลับมาถามแล้วถามอีกหรือจะให้สอนซ้ำๆ หลายๆ รอบถึงจะเข้าใจ อาการเหล่านี้อาจจะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าลูกของเราอาจจะมีปัญหาด้านความจำระยะสั้น (Short-Term Memory Loss)🧠
ความจำระยะสั้น (Short-Term Memory) จัดอยู่ในกลุ่ม Working Memory เป็นกระบวนการที่สมองใช้ในการเก็บข้อมูลชั่วคราวในช่วงเวลาสั้นๆ โดยมากไม่เกิน 15 - 30 วินาที เพื่อนำข้อมูลนั้นไปใช้งานได้ทันที และการที่เด็กจะมีความจำระยะสั้นที่ดีได้ เกิดจากการมีสมาธิและความจดจ่อควบคู่กันไปด้วย เช่น การจำหมายเลขโทรศัพท์ การฟังคำสั่งและทำตามขั้นตอนในทันที การเขียนบันทึกสั้นๆ เป็นต้น
🌟ความสำคัญของความจำระยะสั้นที่มีต่อเด็ก
1. ช่วยเด็กให้มีสมาธิ ความจำระยะสั้นเกี่ยวข้องกับ สมาธิ และการควบคุมตนเอง เด็กที่จำข้อมูลได้ในระยะสั้นจะสามารถจดจ่อกับงานได้ดีขึ้น
2. ช่วยเด็กในการวางแผนและแก้ปัญหา ในการวางแผนหรือแก้โจทย์ปัญหา เด็กต้องจำข้อมูลหลายอย่างพร้อมกัน เช่น กฎ กติกา หรือข้อกำหนดของโจทย์
3. ช่วยให้เด็กสามารถทำตามคำสั่งได้ เด็กที่มีความจำระยะสั้นดี จะสามารถจำคำสั่งได้ เช่น “หยิบดินสอ เปิดหนังสือหน้า 5 แล้วเขียนชื่อ” ได้ครบถ้วนโดยไม่ลืมระหว่างทำ
4. ช่วยเด็กในการเรียนรู้ภาษา การจำคำศัพท์ การฟังประโยคยาวๆ และการสนทนา จำเป็นต้องใช้ความจำระยะสั้น เช่น การจำคำถามที่เพิ่งได้ยินเพื่อที่จะตอบได้ถูกต้อง
5. ช่วยเด็กในเรื่องการอ่านและการคิดเลข ซึ่งการอ่าน เด็กต้องจำคำที่อ่านไว้ขณะประมวลผลความหมายของประโยค สำหรับคณิตศาสตร์ เด็กก็ต้องจำข้อมูลตัวเลข คำสั่ง และวิธีการคำนวณในหัวขณะทำโจทย์
🌟สาเหตุที่ทำให้เด็กมีปัญหาด้านความจำระยะสั้น
1. พันธุกรรม ความผิดปกติของยีนที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาการของสมอง ซึ่งได้แก่ ภาวะออทิสติกสเปกตรัม และ Dyslexia ซึ่งมักมีผลต่อความจำระยะสั้นด้วย
2. คุณแม่มีภาวะขาดสารอาหาร สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้ยาในระหว่างการตั้งครรภ์ รวมถึงภาวะคลอดก่อนกำหนด หรือขาดออกซิเจนในระหว่างคลอด การติดเชื้อในระบบประสาทช่วงวัยทารก
3. การเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อม เด็กขาดการกระตุ้นทางการเรียนรู้หรือการพูดคุยในช่วงปฐมวัย มีภาวะเครียดเรื้อรังหรือความรุนแรงในครอบครัว และการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ
4. ขาดสารอาหารสำคัญ เช่น ไอโอดีน เหล็ก สังกะสี หรือกรดไขมันโอเมก้า 3 มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ส่งผลต่อการทำงานของสมอง
5. มีภาวะวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือขาดสมาธิ เด็กที่มีความเครียดมาก มักจำสิ่งใหม่ได้ยาก

🌟วิธีสังเกตเด็กที่มีปัญหาด้านความจำระยะสั้น
1. ลืมสิ่งที่เพิ่งเรียนไป จำคำสั่งหรือคำอธิบายสั้นๆไม่ได้
2. ฟังคำสั่งแล้วยังทำผิดหรือทำไม่ครบ ทำตามขั้นตอนไม่ได้
2. มีปัญหาเมื่อต้องอ่านหรือทำอะไรที่มีขั้นตอนเยอะๆ เช่น การอ่าน การเขียนหรือทำคณิตศาสตร์
3. ถามคำถามเดิมซ้ำๆ บ่อยๆ ลืมว่าตนเองถามคำถามนั้นไปแล้ว
4. มีปัญหาในการสนทนา พูดวนซ้ำเรื่องเดิม หยุดพูดกลางคันแล้วลืมว่าจะพูดอะไร
5. ลืมของบ่อย เช่น ยางลบ ดินสอ ของใช้ส่วนตัว และดูเหม่อลอยเหมือนไม่ตั้งใจที่จะทำอะไร
🌟การช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้
การฝึกความจำระยะสั้น จะพัฒนาได้ด้วยการฝึกกิจกรรม ฝึกความจำ ที่เน้นการใช้หลายประสาทสัมผัส ความสนุก และการทำซ้ำในรูปแบบต่าง ๆ โดย
1. เริ่มจากง่ายไปยาก เพิ่มจำนวนสิ่งที่ต้องจำทีละน้อย
2. เชื่อมโยงข้อมูลกับภาพหรือเรื่องราว เพื่อให้จำง่ายขึ้น
3.ใช้เกมและกิจกรรมที่เด็กชอบ จะช่วยให้มีแรงจูงใจมากขึ้น
4. ฝึกเป็นประจำ วันละ 10 –15 นาที
5. ให้คำชมและรางวัลเล็กๆ เพื่อเสริมแรงเชิงบวก
🌟ตัวอย่างกิจกรรมฝึกความจำสำหรับเด็ก
1. เกม “จำภาพจำสิ่งของ” วางของเล่นหรือของใช้ 5 ชิ้นบนโต๊ะ ให้เด็กดู 20 วินาที จากนั้นคลุมผ้าหรือเอาออก แล้วถามเด็กๆ จำได้ไหมว่ามีอะไรบ้าง?” ช่วยพัฒนาความจำสายตา (Visual memory)
2. เกม “จับคู่ภาพเหมือน” ใช้บัตรภาพ (Memory cards) วางคว่ำ แล้วให้เด็กเปิดทีละคู่เพื่อหาภาพเหมือนกัน ช่วยฝึกการจดจำตำแหน่งและภาพในสมอง
3. เล่านิทานแล้วถามคำถาม อ่านนิทานสั้น ๆ แล้วถามคำถาม เช่น “ใครเป็นตัวละครหลัก?”
“เกิดอะไรขึ้นก่อน–หลัง?” ช่วยฝึกความจำลำดับเหตุการณ์ และความเข้าใจเชิงเนื้อหา
4. “Simon Says” (เกมฟังคำสั่ง) ผู้ใหญ่พูดคำสั่ง เช่น “แตะหัว ตบมือ หมุนตัว” ให้เด็กทำตามลำดับที่ถูกต้อง
ความจำระยะสั้นจึงมีความสำคัญมากสำหรับเด็กๆ ที่จะช่วยทั้งในด้านการเรียนรู้เป็นการเก็บข้อมูลระยะสั้นก่อนส่งต่อไปยังความจำระยะยาว ช่วยให้คิด วิเคราะห์และแก้ปัญหาได้ต่อเนื่อง รวมถึงการใช้ภาษา มีความเข้าใจและสื่อสารได้อย่างลื่นไหล ช่วยในเรื่องการเข้าสังคม การฟัง พูด และตอบสนองต่อคนอื่น
#นูโรบาลานซ์ #นิวโรบาลานซ์ #นูโรฟีดแบค #นิวโรฟีดแบค #ไบโอฟีดแบค #ครอบครัว #การเลี้ยงดู #เด็ก #พัฒนาการเด็ก #ออทิสติก #แอสเพอร์เกอร์ #สมาธิสั้น #ไฮเปอร์ #พัฒนาการช้า #บกพร่องทางการเรียนรู้
👶กลุ่มอาการที่สามารถพัฒนาได้ด้วยเทคโนโลยี Biofeedback [❌ปราศจากการใช้ยา]
>>ออทิสติก (ASD) https://rebrand.ly/2omivz5
>>สมาธิสั้น (ADHD) https://rebrand.ly/5wcy8lf
>>บกพร่องทางการเรียนรู้ https://rebrand.ly/naq19sb
>>ดาวน์ซินโดรม https://rebrand.ly/3fbsi4k
----------------------------------------
📌จองคิว ปรึกษา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
☎️ โทร : 02-245-4227 / 097-429-1546
Line : หรือ https://line.me/R/ti/p/
เว็บไซต์ : www.neurobalanceasia.com
ทำการนัดหมายออนไลน์ : https://rebrand.ly/x8zzl1b

13/11/2025

พฤติกรรมถ่มน้ำลายในเด็ก
ออทิสติก แก้ไขได้อย่างไร?🤤
(อ่านต่อใน Comment)

11/11/2025

📌ซน กับ สมาธิสั้นต่างกันอย่างไร?🏃‍♂️
มีหลายๆบ้านยังมีความสับสนกับพฤติกรรมของลูกที่อยู่ไม่นิ่ง วิ่งไปวิ่งมา วอกแวกง่าย คือ ไม่รู้ว่าลูกซน หรือเป็นสมาธิสั้นกันแน่ แต่ในความเป็นจริงเด็กซนกับเด็กสมาธิสั้นจะไม่เหมือนกัน จะมีความต่างกันอยู่
🔹ความแตกต่างของเด็กซนกับเด็กสมาธิสั้น
👉เด็กซน
-รับฟัง เมื่อถูกตักเตือน มีเหตุมีผล
-จดจ่อกับสิ่งที่ชอบและสนใจได้เป็นเวลานานๆ
-ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้
-ควบคุมตนเองได้
✨วิธีการดูแลเด็กซน
-จะเน้นให้เด็กทำกิจกรรมเพื่อช่วยสลายพลังงาน ซึ่งเมื่อเขาโตขึ้น อาการเหล่านี้จะหายไปเอง
👉เด็กสมาธิสั้น
คือสมองส่วนหน้ามีการทำงานที่ผิดปกติ ทำให้มีปัญหาในการควบคุมตนเอง เด็กจะมีพลังงานเหลือล้นเหมือนกัน แต่เขาจะมีความก้าวร้าวหรือความรุนแรงซ่อนอยู่ หากผู้ใหญ่ตักเตือนเด็กกลุ่มนี้จะไม่ฟัง ไม่สามารถจดจ่อกับอะไรได้นานๆ อาจทำให้ผู้ปกครองไม่ทราบได้เลยว่าเขาชอบหรือมีความสนใจอะไรเป็นพิเศษ เพราะเวลาเล่นอะไรแต่ละอย่างจะใช้เวลาสั้นๆ แล้วก็เปลี่ยน เด็กจะไม่จดจ่อกับอะไรได้เลยถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะสนใจมากที่สุด และเวลาเล่นกับเพื่อน มักจะมีความรุนแรงซ่อนอยู่ เล่นไม่เป็น ควบคุมอารมณ์และสถานการณ์ไม่ได้ เผลอทำร้ายร่างกายเพื่อนๆ จึงเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกมาดูมีความก้าวร้าว
-สมองส่วนหน้ามีการทำงานที่ผิดปกติ
-ไม่มีสมาธิในการทำอะไรนานๆ
-ไม่รับฟัง มักพูดแทรก
-ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ควบคุมตนเองไม่ได้
-ไม่จดจ่อ แม้ว่าสิ่งนั้นอาจจะดูเหมือนชอบหรือสนใจ
-อยู่ไม่นิ่ง หุนหันพลันแล่น
-เหม่อลอย หลงลืมง่าย
-เรียนรู้ช้าในทุกด้าน ทักษะการแก้ปัญหาไม่ดี
-เล่นแรง เล่นไม่เป็น เล่นไม่กลัวเจ็บ ทำให้เพื่อนหรือตนเองบาดเจ็บได้
✨วิธีการฟื้นฟูอาการสมาธิสั้น
จะเน้นการปรับพฤติกรรม ร่วมกับการให้ยา การฟื้นฟูอาการสมาธิสั้น สามารถฟื้นฟูให้อาการดีขึ้นได้ แม้ว่าจะยังไม่หายขาดเพราะจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาต่อเนื่องและสม่ำเสมอ แต่ก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ สิ่งสำคัญหากว่าผู้ปกครองไม่แน่ใจว่าเด็กๆแค่ “ซน” หรือว่ามีอาการ “สมาธิสั้น” ควรพาไปปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ นักจิตวิทยา เพราะจะมีการวิเคราะห์และประเมินผลย่างละเอียด

✨วิธีช่วยเหลือเด็กสมาธิสั้น

วิธีนี้เป็นการฝึกให้เด็กสมาธิสั้นได้ค่อยๆ ฝึกสมาธิ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทีละนิด ซึ่งจะทำให้เด็กมีสมาธิที่ดีขึ้นได้
1. ผู้ปกครองควรทำความเข้าใจอาการสมาธิสั้น โดยการปรับพฤติกรรมที่ไม่ใช้การลงโทษที่รุนแรง และต้องทำเป็นแนวทางเดียวกันทั้งครอบครัว อีกทั้งต้องอาศัยความสม่ำเสมอและความต่อเนื่อง
2. ควรมีกิจกรรมที่ต้องออกกำลังกายในทางสร้างสรรค์ เช่น ช่วยทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย เช่นเตะฟุตบอล ปั่นจักรยาน
3. ควรกำหนดตารางเวลากิจวัตรประจำวันให้เป็นระเบียบแบบแผน
4. ควรจัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้านไม่ให้มีสิ่งเร้ามากเกินไป
5. ควรฝึกให้เด็กจดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งต่อเนื่องเป็นเวลา 30 นาที โดยไม่ทำอย่างอื่น เริ่มจากกิจกรรมที่เด็กชอบ เช่น ต่อเลโก้ ปั้นแป้ง และหลีกเลี่ยงการใช้สื่อทางหน้าจอ
✨สมาธิสั้น หากไม่รักษาจะส่งผลกระทบต่อเด็กอะไรบ้าง
1. ทำให้เด็กไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนเท่าที่ควร หรือเรียนได้ไม่เต็มศักยภาพ
2. เด็กอาจถูกทำโทษบ่อยๆ เนื่องจากพฤติกรรมจากอาการสมาธิสั้น เช่น เล่นรุนแรง นั่งไม่เป็นที่
3. เด็กอาจมีความรู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า หรือด้อยค่าตนเองได้ เรียนหรือทำอะไรไม่ทันเพื่อน
4. มีปัญหาการเข้าสังคม เพื่อนไม่อยากเล่นด้วย
5. มีความเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย หรือติดสารเสพติด
#นูโรบาลานซ์ #นิวโรบาลานซ์ #นูโรฟีดแบค #นิวโรฟีดแบค #ไบโอฟีดแบค #ครอบครัว #การเลี้ยงดู #เด็ก #พัฒนาการเด็ก #ออทิสติก #แอสเพอร์เกอร์ #สมาธิสั้น #ไฮเปอร์ #พัฒนาการช้า
👶กลุ่มอาการที่สามารถพัฒนาได้ด้วยเทคโนโลยี Biofeedback [❌ปราศจากการใช้ยา]
>>ออทิสติก (ASD) https://rebrand.ly/2omivz5
>>สมาธิสั้น (ADHD) https://rebrand.ly/5wcy8lf
>>บกพร่องทางการเรียนรู้ https://rebrand.ly/naq19sb
>>ดาวน์ซินโดรม https://rebrand.ly/3fbsi4k
----------------------------------------
📌จองคิว ปรึกษา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
☎️ โทร : 02-245-4227 / 097-429-1546
Line : หรือ https://line.me/R/ti/p/
เว็บไซต์ : www.neurobalanceasia.com
ทำการนัดหมายออนไลน์ : https://rebrand.ly/x8zzl1b

08/11/2025

ออทิสติกกับการทำร้ายตนเอง เกี่ยวข้องกันอย่างไร?😡
(อ่านต่อใน Comment)

01/11/2025

📌เด็กออทิสติก ชอบขว้างปาสิ่งของ ต้องแก้อย่างไร? 😡
การขว้างปาสิ่งของต่างๆ เป็นพฤติกรรมหนึ่งที่พบได้บ่อยในวัยเด็กเล็กๆ ช่วงอายุ 1-3 ขวบ ซึ่งถือว่าอยู่ในช่วงการเรียนรู้ที่สำคัญ ซึ่งเด็กอาจยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ หรือบอกความต้องการด้วยคำพูดออกมาได้ เมื่อเริ่มโตขึ้นพฤติกรรมนี้จะค่อยๆหายไป
แต่สำหรับในกลุ่ม “เด็กออทิสติก” มักจะแสดงพฤติกรรมที่แตกต่างจากเด็กทั่วไปในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร พฤติกรรม และการแสดงออกทางอารมณ์ การขว้างปาสิ่งของ ก็เป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่งที่พบได้บ่อย และอาจสร้างความกังวลให้กับผู้ปกครอง แต่หากเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรมนี้อย่างถูกต้องและแก้ไข ก็จะสามารถช่วยให้เด็กปรับตัวและเรียนรู้ได้ดีขึ้น
👉สาเหตุุของเด็กออทิสติกขว้างปาสิ่งของ
1) เด็กไม่สามารถ สื่อสาร บอกความต้องการหรือบอกความรู้สึกให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจได้ว่าเขาหิว เจ็บปวดหรือเสียใจ
2) ความไวต่อประสาทสัมผัส เป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้ารอบตัว เช่น เสียงดัง แสงจ้า หรือการสัมผัส ซึ่งก็อาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้น
3) การควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ยาก การขว้างปาสิ่งของ เพื่อช่วยระบายอารมณ์ เมื่อรู้สึกเครียด หงุดหงิด หรือโกรธ
4) การเรียกร้องความสนใจ ทุกครั้งที่มีการขว้างปาสิ่งของ ทำให้คุณพ่อคุณแม่สนใจในตัวเด็กมากขึ้น หรือให้ในสิ่งที่เขาต้องการ จึงทำให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะนำพฤติกรรมนี้มาใช้เพื่อเรียกร้องความสนใจ
5) การเลียนแบบพฤติกรรม เด็กอาจเคยเห็นผู้อื่นขว้างปาสิ่งของ แล้วได้รับการตอบสนองในเชิงบวกหลังจากทำพฤติกรรมนี้ ก็อาจลอกเลียนพฤติกรรมนั้นซ้ำ
👉ผลกระทบที่เกิดขึ้น หากเด็กไม่ได้รับการแก้ไข
1. เด็กอาจได้รับบาดเจ็บจากสิ่งของที่ขว้างปาใส่ หรือสิ่งของที่มีคม แตกง่าย ซึ่งเป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่น
2. เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ไม่เหมาะสม จากการขว้างปาสิ่งของเพื่อระบายอารมณ์ซ้ำๆ อาจทำให้ไม่สามารถเรียนรู้วิธีควบคุมอารมณ์หรือใช้การสื่อสารทางบวกได้
3. เด็กอาจถูกจำกัดกิจกรรมหรือไม่ให้ร่วมกิจกรรมในกลุ่ม เพราะพฤติกรรมมีความเสี่ยง ส่งผลต่อการเรียนรู้
4. เกิดความเครียดในครอบครัว ในโรงเรียนและผู้ดูแล อาจรู้สึกเหนื่อยล้า เครียด และกังวลในการวางแผน จะรับมืออย่างไร
5. เกิดความเข้าใจผิดจากสังคม คนทั่วไปที่ไม่เข้าใจภาวะออทิสติก อาจมองว่าเด็กเป็น เด็กเกเร ก้าวร้าว หรือ นิสัยไม่ดี
👉วิธีการแก้ไขและช่วยเหลือเด็กออทิสติกขว้างปาสิ่งของ
1) ผู้ปกครองควรตั้งสติ และควบคุมอารมณ์ของตัวเอง อย่าตะโกน ดุด่า หรือใช้ความรุนแรง ควรเข้าใจว่าพฤติกรรมนี้ เป็นการสื่อสาร เพราะเขาไม่สามารถบอกในสิ่งที่เขาต้องการหรือเขารู้สึกได้
2) สังเกตสิ่งกระตุ้นหรือสถานการณ์ก่อนเกิดพฤติกรรม เมื่อใด เวลาไหนและเกิดอะไร ในช่วงลูกขว้างปาสิ่งของ หากรู้ถึงสาเหตุก็จะช่วยจัดการสิ่งกระตุ้นและลดพฤติกรรมนี้ได้ เช่น ถูกขัดใจ ถูกเปลี่ยนกิจกรรม เหนื่อย หิว ง่วงนอน เครียด
3) สอนพฤติกรรมอื่นทดแทน แทนการขว้างปาสิ่งของ เช่น เวลาเด็กหงุดหงิด ให้บีบลูกบอล ให้พูดว่า ขอ หรือชี้ภาพ ถ้าเด็กอยากได้ของ หรือไม่อยากทำกิจกรรม อาจจะยกบัตรคำว่า พอแล้ว เป็นต้น
4) ใช้รูปภาพหรือคำง่ายๆ สื่อสารกับเด็ก ออทิสติกมักจะเข้าใจ “ภาพ” มากกว่าคำพูด เช่น การใช้บัตรสื่อถึงอารมณ์ เช่น โกรธ เหนื่อย ไม่ชอบ หรือ คำพูดสั้นๆ ชัดเจน เข้าใจง่าย เช่น “ไม่โยนของ”
5) การให้รางวัลแก่พฤติกรรมเชิงบวก ชมเชยทันทีที่ลูกสามารถทำได้ ไม่ขว้างปาสิ่งของ เด็กจะเรียนรู้ว่าพฤติกรรมที่ดี ทำให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ เช่น การยื่นของแทนการปา
6) การสร้างสภาพแวดล้อมในบ้าน เป็นพื้นที่ปลอดภัยและสงบ ลดสิ่งเร้าที่รุนแรง และฝึกให้เด็กใช้มุมนี้เมื่อเริ่มมีอารมณ์หงุดหงิด ก่อนขว้างปาสิ่งของ
7) ปรึกษาขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ นักกิจกรรมบำบัด (OT) นักจิตวิทยาเด็ก และนักวิเคราะห์พฤติกรรม (ABA) ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นให้เด็กเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ
พฤติกรรมการปาสิ่งของในเด็กออทิสติก เป็นสัญญาณที่เด็กพยายามสื่อสารบางอย่างให้เข้าใจ หากผู้ปกครองรู้ถึงสาเหตุและมีวิธีจัดการแก้ไขอย่างเหมาะสม จะช่วยให้เด็กสามารถพัฒนาและปรับตัวได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
#นูโรบาลานซ์ #นิวโรบาลานซ์ #นูโรฟีดแบค #นิวโรฟีดแบค #ไบโอฟีดแบค #ครอบครัว #การเลี้ยงดู #เด็ก #พัฒนาการเด็ก #ออทิสติก #แอสเพอร์เกอร์ #สมาธิสั้น #ไฮเปอร์ #พัฒนาการช้า
👶กลุ่มอาการที่สามารถพัฒนาได้ด้วยเทคโนโลยี Biofeedback [❌ปราศจากการใช้ยา]
>>ออทิสติก (ASD) https://rebrand.ly/2omivz5
>>สมาธิสั้น (ADHD) https://rebrand.ly/5wcy8lf
>>บกพร่องทางการเรียนรู้ https://rebrand.ly/naq19sb
>>ดาวน์ซินโดรม https://rebrand.ly/3fbsi4k
----------------------------------------
📌จองคิว ปรึกษา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
☎️ โทร : 02-245-4227 / 097-429-1546
Line : หรือ https://line.me/R/ti/p/
เว็บไซต์ : www.neurobalanceasia.com
ทำการนัดหมายออนไลน์ : https://rebrand.ly/x8zzl1b

27/10/2025

สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ 🤍

ขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหารและพนักงาน
บริษัท นูโร บาลานซ์ จำกัด🙏

16/10/2025

📌6 วิธีเตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนพูด 💬👧
มีหลายครอบครัวที่บุตรหลานมีปัญหาด้านการพูด เช่น พูดช้า ไม่ยอมพูด
ลองนำวิธีการเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ
Reference : คู่มือการฝึกพูดเบื้องต้น สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
👶กลุ่มอาการที่สามารถพัฒนาได้ (สำหรับเด็ก)
>>ออทิสติก (ASD) https://rebrand.ly/2omivz5
>>สมาธิสั้น (ADHD) https://rebrand.ly/5wcy8lf
>>บกพร่องทางการเรียนรู้ https://rebrand.ly/naq19sb
>>ดาวน์ซินโดรม https://rebrand.ly/3fbsi4k
✅ทำแบบประเมินอาการออทิสติก ATEC ได้ที่ >> https://neurobalanceasia.com/atec/
📌จองคิว ปรึกษา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
☎️ โทร : 02-245-4227 / 097-429-1546
Line : หรือ https://rebrand.ly/030e3nv
เว็บไซต์ : https://neurobalanceasia.com/

30/07/2025

ทางศูนย์ Neuro Balance จะหยุดให้บริการชั่วคราว ตั้งแต่ "วันพฤหัสฯที่ 31 ก.ค.2568 ถึง วันเสาร์ที่ 2 ส.ค. 2568" เนื่องจากเป็นวันหยุดของทางบริษัท และจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติใน "วันจันทร์ที่ 4 ส.ค. 2568"
ขออภัยในความไม่สะดวก ขอบคุณค่ะ 🙏
☎️ โทร : 02-245-4227 / 097-429-1546
📱Line : หรือ https://line.me/R/ti/p/
🌐เว็บไซต์: www.neurobalanceasia.com

22/07/2025

ก่อนเข้าอนุบาลต้องฝึกทักษะอะไรบ้าง? 🏨
(อ่านต่อใน Comment)

10/07/2025

📢[Review] ผลลัพธ์หลังเข้าคอร์สกับ NeuroBalance 💗
"น้องมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น
เป็นสิ่งที่ทางบ้านรู้สึก Happy มากๆค่ะ 🥰
ตั้งแต่เข้าคอร์ส น้องเรียนค่อนข้างดีขึ้นมากๆ มีพัฒนาการเริ่มจะสมวัย ร่าเริงขึ้น
ป้าอยากใช้คำว่า เราสามารถดึงหลานเรากลับมาได้ เรามีความสุขมากๆค่ะ"
👉อยากฝากอะไรถึงผู้ปกครองที่กำลังเจอปัญหานี้?
ถ้าลูกเราอยู่ในสภาวะคล้ายๆกับปัญหาที่เราเจอ อยากให้ใส่ใจลูกมากขึ้น
ลองหาผู้ช่วยที่สามารถทำให้ลูกหลานเราพัฒนาการเป็นปกติ
อยากจะแนะนำที่นี่ได้ผล ที่สำคัญคือปลอดภัย
ไม่เป็นอันตรายต่อบุตรหลานที่เราอยากจะพามา
ต้องขอบคุณ Neurobalance มากๆนะคะ ที่ทำให้ครอบครัวเรากลับมามีรอยยิ้ม😄
#ยิ่งรู้เร็ว #ทำสม่ำเสมอ #ยิ่งมีประสิทธิภาพ💯
📃งานวิจัยเพิ่มเติม : https://t.ly/CvnUY
⭐️รีวิวเพิ่มเติม : https://t.ly/2vOgf
-----------------------------------------
✨ทำไมต้อง Neurobalance✨
✅ปลอดภัย ไม่ใช้ยา
✅ไม่มีผลข้างเคียง
✅เห็นผลระยะยาว
✅ผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์เฉพาะด้านมากกว่า 10 ปี
-----------------------------------------
✨สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับ✨
✅ตรวจเช็ค+ประเมินผลและให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ
[ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ]
✅ออกแบบโปรแกรมที่เหมาะสม ตรงจุด เฉพาะบุคคล
✅ติดตามผลหลังจบคอร์ส
-----------------------------------------
📌จองคิว ปรึกษา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
☎️ โทร : 02-245-4227 / 097-429-1546
Line : หรือ https://line.me/R/ti/p/
เว็บไซต์: www.neurobalanceasia.com
ทำการนัดหมายออนไลน์ : https://t.ly/CzfoA
***มีแค่สาขาเดียว ที่อาคารชำนาญเพ็ญชาติ พระราม9 เท่านั้น!!***
📍Location : https://t.ly/SMQW0

08/07/2025

วิธีช่วยให้เด็กจัดการกับอารมณ์รุนแรงได้ 😠

(อ่านต่อใน Comment)

ที่อยู่

Rama 9
Bangkok
10310

เวลาทำการ

จันทร์	09:00 - 18:00
อังคาร	09:00 - 18:00
พุธ	09:00 - 18:00
พฤหัสบดี	09:00 - 18:00
ศุกร์	09:00 - 18:00
เสาร์	09:00 - 18:00