
03/09/2021
ในคลินิกหรือโรงพยาบาล ทำอย่างไรให้ห้องแอร์สะอาด ปลอดภัยจากเชื้อโรค เครื่องกรองอากาศ ต่างจากเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศอย่างไร?
-เครื่องฟอกอากาศ แบ่งชนิดง่ายๆ ได้เป็นเครื่องกรองอากาศ(โดยใช้ไส้กรอง) และเครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ (โดยพลาสม่า หรือUV หรือโอโซน)
-เครื่องกรองอากาศ มีข้อดีคือ สามารถกรองฝุ่นหยาบ และเชื้อโรคได้ด้วยไส้กรองHepa แต่ข้อเสียคือ ไส้กรอง Hepa มีอายุการใช้งานสั้นเพียง3เดือน จะให้แน่ใจว่าเครื่องกรองทำงานได้ดีจำเป็นต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อยๆ และเปลี่ยนไส้กรองบ่อยขึ้นอีกเมื่อใช้ในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองมาก
-เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ มีจุดประสงค์เพื่อฆ่าเชื้อโรคในอากาศโดยเฉพาะ ข้อดีคือ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไส้กรองจึงไม่มีค่าซ่อมบำรุง ข้อจำกัดคือ เหมาะกับพื้นที่ไม่ได้มีฝุ่นหยาบมาก หรือไซต์งานก่อสร้าง เช่น ในห้องนอน ห้องผู้ป่วย วอร์ดคนไข้ ห้องอาหาร
- โดยมาตรฐานในวอร์ดผู้ป่วยโรงพยาบาล เครื่องฟอกอากาศควรฟอกอากาศภายในห้องทั้งหมดได้ 10รอบในเวลา 1ชั่วโมง เช่น ห้องขนาด 35-45 ตารางเมตร ก็ควรใช้เครื่องที่มีอัตราดูดอากาศ 1000ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง
- คู่มือการป้องกันโรคทางเดินหายจากจากไวรัสโคโรน่า โดยรัฐบาลจีน กำหนดให้เลือกใช้ เครื่องฆ่าเชื้อโรคชนิด Plasma Sterilizer เป็นอันดับแรกในวอร์ดผู้ป่วย Covid19 เนื่องจากเป็นระบบฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถฆ่าเชื้อโรคได้เร็วกว่า UV และโอโซน ถึง 100เท่า และยังสามารถกำจัดฝุ่นPm2.5 รวมถึงกลิ่นและก๊าซออแกนิกที่เป็นพิษได้ด้วย
#เยนเทลอุดรธานี เลือกใช้เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศชนิด Plasma 1000ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง คลินิกซื้อมาในราคา 29900 บาท ถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับสเป็ก ใครทำงานในห้องแอร์ ต้องเจอผู้คนเยอะๆ ร้านอาหารห้องแอร์ มีไว้ก็อุ่นใจครับ