อัฟณาญเภสัช ร้านยาหน้ารพ.เบตง - Afnan Pharmacy Betong

อัฟณาญเภสัช ร้านยาหน้ารพ.เบตง - Afnan Pharmacy Betong ร้านขายยามุสลิมในเบตง ขายยาโดยเภสัชกร 💊 เปิดทุกวัน 07.30 – 22.00 น. ปรึกษาเรื่องยา 📞 081-968-5465

อัฟณาญเภสัช (Afnan Pharmacy) ร้านขายยาโดยเภสัชกรตลอดเวลาทำการ
เปิดบริการทุกวัน 07.30 - 21.00 น.
โทร. 081-968-5465 LINE OA: (with@)

01/09/2025
🤒👦🏻
29/07/2025

🤒👦🏻

20/06/2025
ว่าด้วย  #อัลปราโซแลม
12/06/2025

ว่าด้วย #อัลปราโซแลม

06/06/2025

สภาเภสัชกรรมรับทราบเรื่องกรณี "เพจดังเตือนภัย หญิงวัย 56 ซื้อยาชุดคลายเส้นจากร้านโชห่วยมากินหวังแก้ปวดหลัง แต่ทำอาการหนัก ทั้งอ่อนเพลีย อาเจียน มือเท้าเย็น ความดันสูงขึ้นเรื่อย ๆ ต้องโร่หามส่งโรงพยาบาล ลูกสาวเผยอยากให้เป็นอุทาหรณ์ถึงอันตราย จากการซื้อยาประเภทนี้ โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากเภสัชกร"

สภาเภสัชกรรม ขอส่งความห่วงใยและปรารถนาดีไปยัง “คุณลุง” ที่ได้รับอันตรายจากการกินยาชุดดังกล่าว ให้ท่านมีอาการแข็งแรง ปลอดภัยขึ้นได้ในเร็ววัน

วัน ศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน 2568
สภาเภสัชกรรม องค์กรตัวแทนวิชาชีพเภสัชกร แห่งประเทศไทย รับทราบข่าวสังคม กรณี จากกรณีเพจ “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” ได้โพสต์เรื่องราวเตือนภัย เป็นอุทาหรณ์ โดยเพจได้โพสต์ข้อความว่า

“หามส่งโรงพยาบาลด่วน หลังคุณแม่กินยาชุดคลายเส้น ลูกสาวบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตัวเองให้เพจช่วยนำเสนอเป็นอุทาหรณ์ หลังจากคุณแม่กินยาชุดคลายเส้นเข้าไปไม่นาน แล้วเกิดอาการเวียนหัว สักพัก บ้านหมุน อ่อนเพลียไม่มีแรง คลื่นไส้ อาเจียน หน้าซีด มือเท้า เย็น ความดันสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงรีบแจ้งรถพยาบาลให้มารับตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลทันที"
_____________________
_____________
_______
_

สภาเภสัชกรรม ห่วงใยประชาชนทุกท่าน .. จึงแนะนำ วิธีสังเกตยาชุด รูปร่างหน้าตา "ยาชุด" ที่มักได้พบมากในประเทศไทย ที่อาจจะมีความ "อันตราย (อาจถึงแก่ชีวิต)
มี 2 ข้อ ได้แก่
1. มียาหลายเม็ด หลายสี หลายรูปทรง แต่มักเป็นยาที่ออกฤทธิ์ซ้ำซ้อน และยาอาจจะตีกัน ผลลัพธ์ที่ได้ จะเป็นผลเสีย มากกว่าผลดีต่อร่างกาย
2. มีฉลากที่ไม่เหมาะสม สีสั แปลกตา และมีคำโฆษณาเชิญเชื่อ โอ้อวดสรรพคุณที่เกินจริง และไม่มีระบุข้อมูลความปลอดภัย

จากข้อมูลทางการแพทย์ "ยาชุด" ส่วนใหญ่คือการใช้ยาในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งเป็นการเพิ่ม GI Risk Ulceration (แผลในกระเพาะอาหาร) และ ส่งผลต่อการกรองของเสียของหน่วยไต ส่งผลต่อระดับแร่ธาตุ และของเสียในร่างกาย . . พบว่า 2 อวัยวะที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก จากการกินยาชุดแก้ปวดแบบนี้ คือ กระเพาะอาหาร จะทำให้มีโอกาสเกิดแผลในกระเพาะจนอาจจะกระเพาะทะลุได้ และ ไต ซึ่ง เป็นอวัยวะในการกรองของเสียออกจากร่างกาย ในการกินยาแก้ปวด อักเสบหลายตัวพร้อมกัน ทำให้การกรองของไตมีปัญหา และไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพการแก้ปวดให้ดีขึ้นแต่เพิ่มอาการข้างเคียงเกิดอันตรายได้
_
________
______________
_____________________

แจ้งเตือนประชาชน !
ห้ามใช้ยาในลักษณะดังกล่าว เนื่องจากเป็นการใช้ยาโดย ไม่มีข้อบ่งใช้ที่เหมาะสมตรงตามอาการ ก่อให้เกิดอันตรายต่อตับไต ของร่างกายจนอาจทำให้เสียชีวิตได้
❌💊..🗣️💬🧑‍⚕️
#รักและห่วงใยประชาชน
#สภาเภสัชกรรมเคียงข้างประชาชน
#อันตรายยาชุดคลายเส้น
#ตำบลคณฑี
#จังหวัดกำแพงเพชร

25/05/2025

ปวดฟัน หรือจริง ๆ คือไมเกรน (When a 'Toothache' is Really a Migraine)

อาการปวดฟัน ปวดเหงือก หรือปวดใบหน้า อาจไม่ได้มีสาเหตุจากปัญหาที่ฟันหรือเหงือกโดยตรง แต่อาจเกิดจากกล้ามเนื้อ เส้นประสาท หรือแม้แต่อาการปวดศีรษะไมเกรน บางครั้งไมเกรนอาจทำให้เกิดอาการปวดลามมาที่ใบหน้าและช่องปาก ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเข้าใจผิดคิดว่ามีปัญหาฟันหรือปวดใบหน้าจากสาเหตุอื่น

ไมเกรนเป็นโรคปวดศีรษะที่พบบ่อย ผู้ป่วยมักมีอาการปวดศีรษะข้างเดียว ปวดเป็นพัก ๆ แต่ละครั้งนานประมาณ 4–72 ชั่วโมง มีอาการปวดตุบ ๆ ตามจังหวะชีพจร (pulsating or throbbing) มักมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนร่วมด้วย และอาการปวดมักรุนแรงขึ้นเมื่อเจอแสงจ้า (photophobia) หรือเสียงดัง (phonophobia) ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการทางระบบประสาทแบบชั่วคราว ที่เกิดขึ้นก่อนการปวดศีรษะไมเกรน เรียกว่า “ออร่า” (aura) ที่พบบ่อยที่สุดคือ ความผิดปกติทางการมองเห็น (visual aura) ผู้ป่วยมักอธิบายว่าเห็นเส้นแสงซิกแซกระยิบระยับ หรือเห็นเป็นเงามืด ออร่าอีกรูปแบบที่พบบ่อย คือ ความผิดปกติทางความรู้สึก (somatosensory aura) มักเกิดเป็นอาการชาด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณมือและปาก นอกจากนี้ ยังอาจพบ ความผิดปกติทางการพูดหรือภาษา (speech or language disturbances) เช่น พูดช้าลงหรือพูดติดขัด

ไมเกรนมักทำให้เกิดอาการปวดในบริเวณศีรษะ เหนือคิ้วและรอบตา แต่บางครั้งก็อาจทำให้ปวดในบริเวณแก้ม ขากรรไกรบนและขากรรไกรล่างได้ ทั้งนี้อาการปวดอาจเกิดแค่ตำแหน่งของขากรรไกรบนและล่างโดยไม่มีอาการปวดศีรษะด้วยซ้ำ ทำให้ทันตแพทย์ยิ่งสับสนและวินิจฉัยผิดว่าเป็นอาการปวดที่มาจากฟัน จากการศึกษาพบว่า ประมาณ 8% ของผู้ป่วยไมเกรน มีอาการปวดศีรษะที่ลามมายังใบหน้าและช่องปาก (Migraine with facial pain involvement) และ 5% มีอาการปวดเฉพาะบริเวณใบหน้าและช่องปากโดยไม่มีอาการปวดศีรษะ (Orofacial migraine) นอกจากนี้ยังพบว่า 37% ของผู้ป่วยไมเกรนมีอาการปวดหรือไวต่อความรู้สึกบริเวณฟันและเหงือกในระหว่างที่เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนอีกด้วย

International Headache Society (IHS) ได้กำหนดเกณฑ์การวินิจฉัยโรคปวดศีรษะไมเกรนไว้ใน International Classification of Headache Disorders-3 (ICHD-3) โดยอาศัยลักษณะทางคลินิกของอาการปวดศีรษะและอาการร่วมอื่น ๆ ดังที่กล่าวข้างต้น ไมเกรนสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามจำนวนวันที่ปวดศีรษะ คือ episodic migraine (อาการปวดศีรษะไม่เกิน 15 วันต่อเดือน) และ chronic migraine (อาการปวดศีรษะมากกว่าหรือเท่ากับ 15 วันต่อเดือนต่อเนื่องนานกว่า 3 เดือน) ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้มีลักษณะการวินิจฉัยและแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน สำหรับ episodic migraine สามารถจำแนกย่อยได้อีก 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ไมเกรนที่ไม่มีออร่า (migraine without aura) และ ไมเกรนที่มีออร่า (migraine with aura)

การวินิจฉัยไมเกรนจำเป็นต้องอาศัยการซักประวัติอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ในสถานพยาบาลหรือคลินิกที่มีเวลาจำกัด อาจใช้แบบคัดกรองเบื้องต้น เช่น ID Migraine ซึ่งประกอบด้วย 3 คำถาม คือ
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะร่วมกับอาการต่อไปนี้หรือไม่

1. มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือ รู้สึกไม่สบายท้อง
2. มีอาการตาไม่สู้แสงหรือกลัวแสงมากขึ้นเวลาเกิดอาการ
3. เวลาปวดศีรษะ ทำให้ไม่สามารถทำงาน เรียน หรือทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ

หากตอบว่า “ใช่” 2 ใน 3 ข้อ มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจเป็นไมเกรน โดยแบบสอบถามนี้มีความไว (sensitivity) 81% ความจำเพาะ (specificity) 75% และค่าคาดการณ์ผลบวก (positive predictive value) 93% ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพค่อนข้างดีในการคัดกรอง

ดังนั้น หากผู้ป่วยมีอาการปวดฟัน ปวดเหงือก หรือปวดใบหน้าเรื้อรังโดยไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน การซักประวัติอาการปวดศีรษะและอาการร่วมอื่นๆ อาจช่วยให้วินิจฉัยโรคได้ถูกต้อง ทันตแพทย์อาจพิจารณาจ่ายยารักษาเฉียบพลัน เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและอาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น โดยยาที่แนะนำ ได้แก่ ยาแก้ปวดทั่วไป เช่น พาราเซตามอล หรือยากลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) รวมถึงยาเฉพาะสำหรับไมเกรน เช่น ยากลุ่มทริปแทน (triptans) และยาอนุพันธ์เออร์โกทามีน (ergotamine) ทั้งนี้ ควรพิจารณาส่งต่อผู้ป่วยไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปวดศีรษะหรืออายุรแพทย์ระบบประสาท เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

#เพราะหมอฟันดูแลได้มากกว่าฟัน #ไมเกรน #ปวดฟัน

References
1. Yoon, M.-S. et al. Prevalence of Facial Pain in Migraine: A Population-Based Study. Cephalalgia 30, 92–96 (2010).
2. Lambru, G., Elias, L.-A., Yakkaphan, P. & Renton, T. Migraine presenting as isolated facial pain: A prospective clinical analysis of 58 cases. Cephalalgia 40, 1250–1254 (2020).
3. Yilmaz, M., Kale, E. & Ozge, A. The link between cutaneous allodynia and pain/sensitivity in teeth and gums during migraine episodes. BMC Oral Health 24, 1043 (2024).
4. Lipton, R. B. et al. A self-administered screener for migraine in primary care. Neurology 61, 375–382 (2003).
5. แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัยและการรักษา ปวดศีรษะไมเกรน ฉบับสมบูรณ์ 2565 ชมรมศึกษาโรคปวดศีรษะภายใต้สมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย

19/05/2025

โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในหญิงตั้งครรภ์
(UTIs in pregnancy)

วินิจฉัยและตรวจเพิ่มเติม
• แนะนำส่ง urine culture 1 ครั้ง ในการฝากครรภ์ครั้งแรกแม้ไม่มีอาการ เพื่อการตรวจคัดกรอง asymptomatic bacteriuria
• แนะนำให้ส่ง urine culture เมื่อมีอาการและอาการแสดงของภาวะ cystitis หรือ pyelonephritis โดย urine culture ควรพบเชื้อก่อโรคทางเดินปัสสาวะ >10° CFU/mL

คำแนะนำในการรักษา

* ต้องหลีกเลี่ยงยาที่อาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ เช่น Auoroquinolones ในหญิงตั้งครรภ์ทุกไตรมาส

1. Asymptomatic bacteriuria และ acute cystitis

ยาหลักที่แนะนำ คือ Nitrofurantoin กิน 7 วัน (หลีกเลี่ยงช่วงไตรมาสที่ 3 เพราะเสี่ยงต่อภาวะ hemolysis ในทารกแรกเกิด)
• Fosfomycin trometamol กินครั้งเดียว
• ยาทางเลือกแนะนำ คือ Amoxicillin/clavulanic acid กิน 7 วัน
• Amoxicilin กิน 7 วัน กรณีผล urine culture ยืนยันว่าเชื้อไวต่อยา

2. Acute pyelonephritis

กรณียังไม่ทราบผลเพาะเชื้อ
• ยาหลักที่แนะนำ ได้แก่ ceftriaxone หรือ amoxicillin/clavulanic acid
• ยาทางเลือกที่แนะนำ ได้แก่ cefotaxime หรือ gentamicin (ใช้เฉพาะกรณีจำเป็นเพราะอาจเกิดพิษต่อหูและไตของทารก)

* แนะนำส่ง urine culture ซ้ำที่ 1-2 สัปดาห์หลังการรักษาครบ และเมื่อเกิดอาการ

จากหนังสือแนวทางเวชปฏิบัติการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2568

🚬
18/05/2025

🚬

โทษของบุหรี่ไฟฟ้า 🚬⚡️

“บุหรี่ไฟฟ้า” เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเลียนแบบการสูบบุหรี่แบบดั้งเดิม ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมแพร่หลายอย่างมากโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน พบว่า เกินกว่าครึ่งของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในไทย เป็นเยาวชน อายุ 15-24 ปี หลายคนเข้าใจผิดและมองว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในทางการแพทย์ยังไม่พบประโยชน์ที่แท้จริงของบุหรี่ไฟฟ้า ที่จะมาหักล้างกับโทษร้ายแรงที่ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของผู้สูบเองและคนรอบข้าง

จากซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ (2:195)
อัลลอฮ์อัซซะวะญัล ได้ตรัสว่า

‎وَأَنفِقُواْ فِى سَبِيلِ ٱللَّهِ وَلَا تُلۡقُواْ بِأَيۡدِيكُمۡ إِلَى ٱلتَّهۡلُكَةِۛ وَأَحۡسِنُوٓا۟ۛ إِنَّ ٱللَّهَ يُحِبُّ ٱلۡمُحۡسِنِينَ

ความว่า “และพวกเจ้าจงบริจาคในหนทางของอัลลอฮฺ และจงอย่านำตัวของพวกเจ้าไปสู่ความหายนะ และจงทำดีเถิด แท้จริงอัลลอฮฺทรงรักผู้กระทำดี”

จากตัฟซีรซะอ์ดีย์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า "และจงอย่านำตัวของพวกเจ้าไปสู่ความหายนะ" นั้นหมายถึง การกระทำสิ่งที่นำไปสู่การทำลายตนเองหรือจิตวิญญาณ เช่น ยาเสพติดทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่มวน, บุหรี่ไฟฟ้า, ใบจาก, ใบกระท่อม, กัญชา, ยาบ้าและอื่นๆ อีกด้วย

อีกทั้งมีรายงานจากฮะดีษว่าจากอบี สะอีด อัล-คุดรี رضي الله عنه เล่าว่า ท่านรอซูลุลลอฮ์ ﷺ กล่าวว่า:

‎«لَا ضَرَرَ وَلَا ضِرَارَ، مَنْ ضَارَّ ضَرَّهُ اللَّهُ، وَمَنْ شَاقَّ شَقَّ اللَّهُ عَلَيْهِ»

"ไม่มีการก่อความเสียหาย และไม่มีการตอบโต้ความเสียหาย ผู้ใดก่อความเสียหาย อัลลอฮ์จะทรงก่อความเสียหายแก่เขา และผู้ใดสร้างความยากลำบาก อัลลอฮ์จะทรงสร้างความยากลำบากแก่เขา"
[เศาะฮีห์ด้วยหลักฐานสนับสนุน] - [บันทึกโดย อัด-ดารุกุฏนี] - [สุนัน อัด-ดารุกุฏนี - 3079]

ท่านนบี ﷺ ได้ชี้แจงว่า จำเป็นต้องป้องกันความเสียหายทุกประเภทและทุกรูปแบบ ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ดังนั้น จึงไม่อนุญาตให้ผู้ใดทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นในลักษณะเดียวกัน

🫁 ระบบทางเดินหายใจ

• EVALI (E-cigarette or Va**ng product use-Associated Lung Injury): เป็นภาวะปอดอักเสบรุนแรงที่เชื่อมโยงกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้า มีรายงานผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากภาวะนี้

• โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และโรคหอบหืด: มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจเพิ่มความเสี่ยงหรือทำให้อาการของโรคเหล่านี้แย่ลง

• การระคายเคืองทางเดินหายใจ: สารเคมีในไอของบุหรี่ไฟฟ้า เช่น โพรไพลีนไกลคอล (Propylene Glycol) และกลีเซอรีน (Glycerin) รวมถึงสารปรุงแต่งรส อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง แสบร้อน ไอ และหายใจลำบาก

• การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปอด: ไอของบุหรี่ไฟฟ้ามีสารเคมีที่เป็นอันตรายหลายชนิด เช่น โลหะหนัก (ตะกั่ว นิกเกิล โครเมียม) สารก่อมะเร็ง (เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ อะซีตัลดีไฮด์) และอนุภาคขนาดเล็กจิ๋ว (Ultrafine Particles) ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดและกระแสเลือดได้ ส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของเซลล์ในปอด ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาว

🫀ระบบหัวใจและหลอดเลือด

• เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด: นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าสามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และทำให้หลอดเลือดตีบ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

• การอักเสบของหลอดเลือด: สารเคมีบางชนิดในไอของบุหรี่ไฟฟ้าอาจกระตุ้นการอักเสบของหลอดเลือด

🧠 ระบบประสาทและสมอง

• เสพติดนิโคติน: บุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่มีนิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติดสูง การเสพติดนิโคตินส่งผลต่อพัฒนาการสมอง โดยเฉพาะในวัยรุ่น และเพิ่มความเสี่ยงในการเสพติดสารอื่นๆ ในอนาคต

• ผลกระทบต่อพัฒนาการสมองในวัยรุ่น: สมองของวัยรุ่นยังพัฒนาไม่เต็มที่ การได้รับนิโคตินอาจส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ ความจำ และสมาธิ

• โรคทางจิตเวช: พบว่าผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีอัตราการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าสูงกว่าคนทั่วไป

แม้ว่ามีการพยายามทำการตลาดของบุหรี่ไฟฟ้า ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ รสชาติที่หลากหลาย และอ้างว่ามีสารพิษบางชนิดในระดับที่ต่ำกว่าบุหรี่มวน แต่เราก็ยังคงสรุปได้เหมือนเดิมว่า ไม่ว่าบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้าล้วนแต่มีโทษมหันต์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก เยาวชน หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ดังนั้นการเลิกสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเลยจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพของตนเองและคนที่คุณรัก และร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้สังคมนี้ให้น่าอยู่มากขึ้น

_____________________________
#ฝ่ายการแพทย์และสาธารณสุข #มูลนิธิเพื่อนมุสลิม
#บุหรี่ไฟฟ้า #หะรอม #สุขภาพ #เทรนวันนี้

💫
16/05/2025

💫

🚬
16/05/2025

🚬

ยิ่งสูบ ยิ่งพัง!! 10 อันตรายจากนิโคติน ในบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า 🚭
#สสส #สื่อสารสุข #บุหรี่ทุกชนิดอันตราย #ลดละเลิกสูบบุหรี่

14/03/2025

กินซาโฮร - ละศีลอดยังไง ?
ไม่ให้กรดไหลย้อนเล่นงาน 🔜
(Gastroesophageal Reflux Disease ; GERD)

Send a message to learn more

รู้ทัน❗🛡️ ป้องกัน สำลัก และของติดคอ 😣(สำหรับเด็กทารก เด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน)
27/02/2025

รู้ทัน❗🛡️ ป้องกัน สำลัก และของติดคอ 😣
(สำหรับเด็กทารก เด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน)

รู้ทัน❗🛡️ ป้องกัน สำลัก และของติดคอ 😣
(สำหรับเด็กทารก เด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน)

📺 จากเหตุการณ์ เด็ก 10 ขวบ กินลูกอมแล้วติดคอจนถึงแก่ชีวิต 🏢 กรมอนามัย ส่งความห่วงใยผ่าน 💌 วิธีการดูแลเด็ก โดยเฉพาะในช่วงอายุที่มีความเสี่ยง ที่จะสำคัญสิ่งแปลกปลอม การป้องกันจึงมีความสำคัญมาก ซึ่งการสำลักสามารถทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ พบมากในเด็กเล็กอายุ 1 ปีขึ้นไป ด้วย 2 วิธีการใส่ใจที่ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญ ดังนี้

1️⃣. ใส่ใจในเรื่องการจัดการอาหารแต่ละมื้อ
🔸 เตรียมอาหารด้วยความระมัดระวัง สำหรับเด็กต่ำกว่า 5 ขวบ ควรหั่นสับ หรือบดเป็นชิ้นเล็ก ๆ และไม่ควรให้เด็กกินอาหารที่มีลักษณะเป็นทรงกลม
🔸 ไม่ควรแหย่หรือหยอกล้อกับเด็กในขณะกิน เพราะ หากเด็กหัวเราะ อาจทำให้เกิดอาหารสำลักอาหารได้
🔸 ควรฝึกเด็กในการนั่งกินอาหารบนโต๊ะ ไม่ควรให้ลูกกินไปวิ่งเล่นไป และเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เมื่อมีความจำเป็นต้องป้อนเด็กในรถ
🔸 สอนไม่ให้เด็กพูด ตอนมีอาหารอยู่ในปาก

2️⃣. ใส่ใจสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก
🔸 เก็บของใช้ เศษเหรียญ ลูกปัด หรือของอื่น ๆ ที่มีขนาดเล็ก ซึ่งเด็กสามารถหยิบเข้าปากได้ง่าย ให้เรียบร้อย หรือ ให้ไกลจากตัวลูกน้อย
🔸 หมั่นสังเกต และเฝ้าระวัง โดยไม่ปล่อยเด็กให้คาดสายตา หรือทิ้งเด็กให้อยู่ตามลำพัง
🔸 เลือกของเล่นให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก

❝การที่เด็กเอาของเข้าปาก ไม่เพียงแค่ทำให้เด็กเกิดการสำลัก แต่อาจทำให้เด็กเจ็บป่วยได้ง่ายอีกด้วย❞

📍 ด้วยรักและห่วงใย อยากให้คนไทยรอบรู้เรื่องสุขภาพ และมีสุขภาพที่ดีได้ทุกวัยในทุกวัน จาก กรมอนามัย 💝

📌 อย่าลืมกดติดตาม Facebook กรมอนามัย เพื่อติดตามข่าวสาร สาระสุขภาพ และกิจกรรมดี ๆ จากเรานะคะ

👉 ท่านสามารถ ติดตามสาระความรู้สุขภาพ เพิ่มเติมได้ที่
https://multimedia.anamai.moph.go.th/
👉 และอีกหนึ่งช่องทาง เพื่อ ติดตามสาระความรู้สุขภาพควบคู่ไปกับความบันเทิง เพิ่มเติมได้ที่
https://www.tiktok.com/.anamai.thailand
tiktok.com/.thailand

#กรมอนามัย #เด็กติดคอ #ลูกอม #สุขภาพดีสร้างได้
#กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข
#กรมอนามัยส่งเสริมให้คนไทยสุขภาพดี

ที่อยู่

2/19 ม. 1 ต. ยะรม อ. เบตง จ. ยะลา
Betong
95110

เวลาทำการ

จันทร์ 07:30 - 22:00
อังคาร 07:30 - 22:00
พุธ 07:30 - 22:00
พฤหัสบดี 07:30 - 22:00
ศุกร์ 07:30 - 22:00
เสาร์ 07:30 - 22:00
อาทิตย์ 07:30 - 22:00

เบอร์โทรศัพท์

+66819685465

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ อัฟณาญเภสัช ร้านยาหน้ารพ.เบตง - Afnan Pharmacy Betongผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง อัฟณาญเภสัช ร้านยาหน้ารพ.เบตง - Afnan Pharmacy Betong:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram