เดอะ เวลเนสฯ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พิษณุโลก

เดอะ เวลเนสฯ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พิษณุโลก รับดูแลผู้สูงอายุ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
#ผู้สูงอายุหลังผ่าตัด #อัลไซเมอร์ #ติดเตียง #มะเร็ง

How are you this good? 😍
30/08/2025

How are you this good? 😍

🌸 ชีวิตที่มีค่า ไม่ได้วัดจากจำนวนปี แต่วัดจากรอยยิ้มและความรักที่เราแบ่งปัน💝🏡
25/08/2025

🌸 ชีวิตที่มีค่า ไม่ได้วัดจากจำนวนปี แต่วัดจากรอยยิ้มและความรักที่เราแบ่งปัน💝🏡

24/08/2025

🥩 โปรตีนขาด vs โปรตีนเกิน 💢
มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้ ⚠️
“โปรตีน” เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่การบริโภคโปรตีนอย่างเหมาะสมสำคัญยิ่งกว่าค่ะ หากร่างกายได้รับโปรตีนไม่พอ อาจส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ แต่หากได้รับมากเกินไปก็สามารถก่อปัญหาต่อสุขภาพในระยะยาวได้เช่นกัน มาดูรายละเอียดกันว่า "โปรตีนขาด" และ "โปรตีนเกิน" มีผลต่อร่างกายอย่างไร พร้อมทั้งวิธีรักษาสมดุลให้เหมาะสมค่ะ
🍖 หน้าที่สำคัญของโปรตีนในร่างกาย
โปรตีนเป็นส่วนประกอบสำคัญของทุกเซลล์ในร่างกาย โดยมีบทบาทมากมายที่ช่วยให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างปกติ เช่น
▪️ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ: โปรตีนช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ และอวัยวะที่เสียหาย
▪️ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: โปรตีนช่วยผลิตแอนติบอดีที่ป้องกันร่างกายจากโรค
▪️ รักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย: โปรตีนในเซลล์ช่วยควบคุมสมดุลน้ำทั้งในและนอกเซลล์
▪️ ผลิตพลังงาน: เมื่อร่างกายขาดพลังงานจากแหล่งอื่น โปรตีนสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานได้
▪️ สร้างฮอร์โมนและเอนไซม์: โปรตีนเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสารสื่อประสาท ฮอร์โมน และเอนไซม์
⚠️ เมื่อร่างกายขาดโปรตีน
หากร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ อาจเกิดผลกระทบดังนี้ค่ะ
1️⃣ กล้ามเนื้อลดลง อ้วนง่าย
โปรตีนจำเป็นต่อการสร้างและคงสภาพกล้ามเนื้อ หากโปรตีนไม่พอ กล้ามเนื้อจะลดลง ทำให้ระบบเผาผลาญพลังงานทำงานช้าลง จนนำไปสู่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
2️⃣ สับสน อารมณ์แปรปรวน
โปรตีนช่วยผลิตสารสื่อประสาทในสมอง หากขาดโปรตีน การทำงานของสมองจะติดขัด ส่งผลให้คิดช้าลง ฉุนเฉียว หรือโกรธง่าย
3️⃣ แผลหายช้า
โปรตีนคือวัตถุดิบในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ หากขาดโปรตีน แผลที่เกิดขึ้นจะใช้เวลานานกว่าจะหาย
4️⃣ ตัวบวมน้ำ
โปรตีนช่วยรักษาสมดุลของเหลวในเซลล์ หากได้รับโปรตีนน้อย ร่างกายจะสูญเสียความสามารถนี้ ส่งผลให้เกิดการบวมน้ำ
5️⃣ หิวบ่อย
การขาดโปรตีนทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากขึ้น จึงกระตุ้นความอยากอาหารโดยรวม
6️⃣ ผิว ผม เล็บอ่อนแอ
โปรตีนเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหนัง เส้นผม และเล็บ เมื่อขาดโปรตีน ผิวอาจหยาบกร้าน ผมหลุดร่วง และเล็บเปราะบาง
7️⃣ เหนื่อยล้า ไม่มีแรง
โปรตีนช่วยผลิตพลังงานในร่างกาย การขาดโปรตีนจึงทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย
⚠️ เมื่อร่างกายได้รับโปรตีนเกิน
การบริโภคโปรตีนมากเกินความจำเป็นก็มีผลเสียเช่นกัน ดังนี้ค่ะ
1️⃣ ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็นฉุน
ร่างกายต้องกำจัดแอมโมเนีย (ผลพลอยได้จากการย่อยโปรตีน) ออกในรูปของยูเรีย ซึ่งหากมีโปรตีนเกิน ร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะ ทำให้มีกลิ่นฉุน
2️⃣ ตับและไตทำงานหนัก
ตับต้องแปรรูปแอมโมเนียเป็นยูเรีย และไตต้องขับยูเรียออก หากโปรตีนเกิน ตับและไตจะต้องทำงานหนักเกินความจำเป็น
3️⃣ ขาดน้ำ ท้องผูก
การย่อยโปรตีนต้องใช้น้ำในปริมาณมาก ร่างกายอาจเกิดภาวะขาดน้ำ ทำให้ลำไส้แห้งและท้องผูก
4️⃣ กระดูกบางลง
การขับแอมโมเนียทำให้ร่างกายมีสภาพเป็นกรด ร่างกายต้องดึงแคลเซียมจากกระดูกมาปรับสมดุลกรดด่าง ทำให้เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน
5️⃣ ไทรอยด์เป็นพิษ
โปรตีนบางชนิดมีกรดอะมิโนไทโรซีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของไทรอยด์ฮอร์โมน หากได้รับมากเกิน อาจทำให้เกิดไทรอยด์เป็นพิษ
6️⃣ ผิวคล้ำ
การได้รับไทโรซีนมากเกินไปทำให้ร่างกายผลิตเมลานิน (เม็ดสีน้ำตาล) มากขึ้น ส่งผลให้ผิวคล้ำ
7️⃣ แก่เร็ว
โปรตีนกระตุ้นกระบวนการแบ่งเซลล์ที่มากเกินไป ซึ่งอาจเร่งกระบวนการเสื่อมของเซลล์ ทำให้ร่างกายแก่เร็วขึ้น
✅ กินโปรตีนอย่างไรให้สมดุล
1️⃣ ปริมาณที่เหมาะสม
▪️ ผู้ใหญ่ทั่วไปต้องการโปรตีนประมาณ 0.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน
▪️ คนออกกำลังกายหรือสร้างกล้ามเนื้อ อาจต้องการเพิ่มเป็น 1.2-2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
2️⃣ เลือกแหล่งโปรตีนที่ดี
▪️ โปรตีนจากสัตว์: ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา
▪️ โปรตีนจากพืช: ถั่ว เมล็ดธัญพืช เต้าหู้
3️⃣ ทานอาหารให้สมดุล
▪️ รับประทานอาหารหลากหลายประเภทในสัดส่วนที่พอดี
▪️ ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อช่วยกระบวนการย่อยโปรตีน
4️⃣ ระวังปริมาณโปรตีนเสริม
▪️ สำหรับคนที่ทานเวย์โปรตีนหรือโปรตีนเสริม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม
✨ สรุปก็คือ โปรตีนเป็นสิ่งจำเป็น แต่ควรบริโภคให้พอดี ไม่มากไปหรือน้อยไป การกินโปรตีนที่สมดุลช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาวค่ะ 💪
#อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ #โปรตีนขาด #โปรตีนเกิน #กล้ามเนื้อลดลง

ปรบมือให้กับความสามารถของทีม😍
12/08/2025

ปรบมือให้กับความสามารถของทีม😍

Happy mother's Day & Happy birthday พ่อตี๋ 🎂🥰🙏
12/08/2025

Happy mother's Day & Happy birthday พ่อตี๋ 🎂🥰🙏

๑๒ สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ ขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล“ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน”ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ...
12/08/2025

๑๒ สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ ขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล
“ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน”

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า เดอะ เวลเนส เนร์สซิ่งโฮม และทีมงาน

11/08/2025

❌ เลิกได้เลิก! อย่ากินยาดักไข้ก่อนป่วย 💊
หลายคนเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะป่วย หรือเพิ่งตากฝนมาหมาดๆ บางคนอาจจะรีบกินยาพาราเซตามอลหรือยาลดไข้ในทันที โดยมีความเชื่อว่าให้กินยาดักไข้เสียก่อนจะได้ไม่เป็นไข้ในภายหลัง แต่จริงๆ แล้วยาพาราเซตามอลและยาลดไข้นั้นมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดและลดไข้หลังอาการเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น และไม่ได้มีสรรพคุณในการป้องกันโรคล่วงหน้าแต่อย่างใดค่ะ
ดังนั้น การกินยาดักไข้ตอนที่ยังไม่มีอาการ จึงไม่สามารถช่วยป้องกันการเป็นไข้ได้เลย แถมยังอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายมากขึ้นด้วยซ้ำหากเรากินยาพร่ำเพรื่อโดยไม่จำเป็นติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะ “ยาพาราเซตามอล” (500 มิลลิกรัม) หากกินเกินวันละ 8 เม็ด ต่อเนื่องเกิน 5 วัน อาจส่งผลทำให้ตับทำงานหนัก เซลล์ตับถูกทำลาย จนอาจเป็นตับอักเสบได้ในที่สุดค่ะ
แล้วหากคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะป่วย หรือเพิ่งตากฝนมาหมาดๆ ควรทำอย่างไรบ้าง? เรามีวิธีดีๆ ที่ช่วยป้องกันไข้โดยไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกายมาฝากกันค่ะ
✅ ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ จะช่วยลดอาการเจ็บคอและคัดจมูก และสามารถช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ดี
✅ หากเริ่มมีอาการเจ็บหรือระคายเคืองในลำคอ หรือมีเสมหะในคอมาก ให้กลั้วคอด้วยน้ำผสมเกลือเจือจางเล็กน้อย จะช่วยลดอาการได้
✅ ทานวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีนั้นจะช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายของคุณสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น
✅ นอนพักผ่อนให้มากๆ เพราะการนอนคือวิธีการฟื้นฟูร่างกายที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคเพื่อต่อสู้กับอาการเจ็บป่วย
✅ หากมีไข้สูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป จึงค่อยรับประทานยาลดไข้ตามอาการ และเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่น ซึ่งจะช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ดีมากค่ะ
ทั้งนี้ หากกินยาลดไข้หวัดแล้วไม่หายใน 3 วัน มีไข้สูงเกิน 39.5 °C มีอาการปวดรุนแรง หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย ก็ควรเข้าพบแพทย์ เพราะอาจเกิดจากสาเหตุหรือโรคอื่นๆ ที่ทำให้เกิดไข้สูง เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ก็เป็นได้ค่ะ
#อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ #กินยาดักไข้ #พาราเซตามอล #ยาลดไข้

✅️
07/08/2025

✅️

🧠✨วิตามิน 4 ชนิดที่สมองต้องการ
เพื่อเพิ่มพลังความจำและสมาธิ 💪🏿
“สมอง” เป็นอวัยวะสำคัญที่ควบคุมการทำงานของร่างกายทุกส่วน ทั้งความคิด ความจำ อารมณ์ รวมถึงการเคลื่อนไหวต่างๆ การดูแลสมองให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องที่เราทุกคนไม่ควรมองข้าม 💡 นอกจากการออกกำลังกายและการพักผ่อนที่เพียงพอแล้ว การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ
วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ 4 วิตามินสำคัญที่ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท พร้อมแนะนำแหล่งอาหารที่คุณสามารถหาได้ง่ายในชีวิตประจำวันค่ะ 💪🥗
1. วิตามินเอ 🥕
เมื่อพูดถึงวิตามินเอ หลายคนมักนึกถึงประโยชน์ที่ช่วยบำรุงสายตา แต่รู้หรือไม่ว่าวิตามินเอยังมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของสมองอีกด้วย!
🔸 บทบาทของวิตามินเอต่อสมอง
วิตามินเอ โดยเฉพาะในรูปของสารเบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) ที่พบในผักผลไม้สีส้ม แดง และเหลือง เช่น แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ และผักใบเขียว เช่น ตำลึงและปวยเล้ง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหาย และลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน
🔸 คำเตือน
สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมที่มีวิตามินเอในปริมาณสูง เพราะอาจส่งผลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ค่ะ 👶
2. วิตามินบี รวม 🌾
วิตามินบีเป็นกลุ่มวิตามินที่มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง โดยเฉพาะวิตามินบี 6, บี 9 (โฟเลต) และบี 12 ที่ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมและหลอดเลือดสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🔸 ทำไมวิตามินบีสำคัญต่อสมอง?
วิตามินบีช่วยลดระดับโฮโมซิสเทอีน (Homocysteine) ซึ่งเป็นสารที่หากสะสมในร่างกายมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อหลอดเลือดในสมอง นอกจากนี้ วิตามินบียังช่วยปรับสมดุลของอารมณ์ โดยสนับสนุนการผลิตสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนินและโดปามีน ที่ช่วยให้คุณรู้สึกสงบและมีสมาธิมากขึ้นค่ะ 😊
🔸 แหล่งอาหารที่มีวิตามินบี
พบได้ในธัญพืชไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ ไข่ นม ปลา ผักใบเขียว และถั่วต่างๆ การรับประทานอาหารหลากหลายมักเพียงพอที่จะได้รับวิตามินบีอย่างครบถ้วนโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาหารเสริม
3. วิตามินซี 🍊
วิตามินซีไม่ได้มีดีแค่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน แต่ยังช่วยดูแลสมองของเราให้แข็งแรงอีกด้วย
🔸 ประโยชน์ของวิตามินซีต่อสมอง
วิตามินซีมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์สมอง และมีส่วนสำคัญในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทต่างๆ ที่ช่วยให้การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยชะลอความเสื่อมถอยของความคิดและความจำ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
🔸 อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี
คุณสามารถรับวิตามินซีได้จากผักผลไม้สดๆ เช่น ส้ม สตรอว์เบอร์รี กีวี มะเขือเทศ บรอกโคลี และกะหล่ำดาวค่ะ 🥦🍓
4. วิตามินอี 🌻
วิตามินอีเป็นอีกหนึ่งวิตามินที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพสมอง โดยเฉพาะในเรื่องของการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ในระยะแรกเริ่ม
🔸 วิตามินอีช่วยอะไรบ้าง?
วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และยังช่วยเสริมสร้างระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างราบรื่น ผู้สูงอายุที่ได้รับวิตามินอีในปริมาณที่เหมาะสมอาจมีโอกาสลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ค่ะ 💡
🔸 แหล่งอาหารของวิตามินอี
พบได้ในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก รวมถึงถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืช และผักใบเขียว เช่น บรอกโคลีและหน่อไม้ฝรั่ง
🍽️ ดูแลสมองง่ายๆ ด้วยอาหารที่สมดุล
วิตามินที่กล่าวมาข้างต้นล้วนสำคัญต่อการทำงานของสมอง แต่การได้รับจากอาหารที่หลากหลายและครบถ้วนย่อมดีที่สุด การรับประทานผักผลไม้สด เนื้อสัตว์ และธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินในปริมาณที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด และงดการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อสมองและระบบประสาทค่ะ และหากต้องการรับประทานอาหารเสริม ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการได้รับวิตามินในปริมาณที่เกินความจำเป็นนะคะ 🩺
สมองที่ดีคือกุญแจสำคัญของชีวิตที่มีคุณภาพ ใส่ใจสุขภาพสมองตั้งแต่วันนี้ เพื่อความคิด ความจำ และสมาธิที่ดีในทุกช่วงวัยค่ะ 😊💖
ที่มา:
https://www.pobpad.com/4-วิตามินบำรุงสมอง
#อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ #วิตามินบำรุงสมอง #วิตามินเอ #วิตามินบี #วิตามินซี

💛 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 💛๗๘ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระห...
28/07/2025

💛 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 💛
๗๘ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
#ทรงพระเจริญ #ในหลวงรัชกาลที่10 #๒๘กรกฎาคม #วันเฉลิมพระชนมพรรษา

จริง
20/07/2025

จริง

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราไม่มีฮอร์โมนเครียด?

หลายคนคงคิดว่าถ้าเกิดเราไม่มี Cortisol หรือ ฮอร์โมนเครียด เนี่ย ชีวิตก็จะแฮปปี้สุดๆใช่มั้ย

แต่รู้มั้ย แม้แต่ฮอร์โมนเครียด ก็สำคัญต่อร่างกายเราเหมือนกัน แค่เราต้องการให้มันมีปริมาณพอดี เพราะมันมีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น

- บูสต์พลังงานให้ร่างกาย
ด้วยการเพิ่มระดับนํ้าตาลในเลือด เพราะนํ้าตาลเป็นพลังงานสำคัญของร่างกาย ที่อวัยวะต่าง ๆต้องการ

- บูสต์ความดันโลหิต
เมื่อนํ้าตาลในเลือดเพิ่มแล้ว ความดันเลือดก็สำคัญต่อการขนส่งพลังงานเหล่านั้นไปให้อวัยวะต่าง ๆ

- ดูแลระบบภูมิคุ้มกัน
เพราะ Cortisol ที่พอดี เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการลดการอักเสบในร่างกาย

แล้วถ้า Cortisol เราน้อยเกินไป จะเป็นยังไงหละ?

- อ่อนเพลีย ไม่มีพลังงาน ตื่นมาไม่มีแรง ไม่สดชื่น

- ติดหวาน เพราะไม่มีตัวบูสต์นํ้าตาล ทำให้ร่างกายพยายามเติมนํ้าตาลในเลือดเข้าไปอีก

- ความดันตก เพราะขาดฮอร์โมนเพิ่มความดัน

เพราะทุกฮอร์โมนเครียด ก็จำเป็นต่อร่างกายเหมือนกัน แต่ฮอร์โมนเครียดที่เยอะเกินไปจะทำลายสุขภาพได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
นพ.อรรถสิทธิ์ ศักดิ์สุธาพร
ช่อง อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ

อ้างอิง
https://shorturl.asia/sL8Oz

ที่อยู่

ถนนหมู่บ้านชาวฟ้า
Bueng Phra
65000

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00
เสาร์ 09:00 - 17:00
อาทิตย์ 09:00 - 17:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เดอะ เวลเนสฯ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พิษณุโลกผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง เดอะ เวลเนสฯ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ พิษณุโลก:

แชร์