ธรรมชาติบำบัดโรค NCDS

ธรรมชาติบำบัดโรค NCDS ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก ธรรมชาติบำบัดโรค NCDS, แพทย์, Buriram.

17/03/2020

ไทรอยด์ ภัยเงียบที่ใครหลายคนมองข้าม...

ดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนดีจริงไหม ถ้ามาไขความลับของน้ำมะนาวจริง ๆ จะรู้เลยว่านอกจากช่วยลดความอ้วนแล้ว น้ำมะนาวยังมีประโยชน์ต่...
28/02/2020

ดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนดีจริงไหม ถ้ามาไขความลับของน้ำมะนาวจริง ๆ จะรู้เลยว่านอกจากช่วยลดความอ้วนแล้ว น้ำมะนาวยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกเพียบ !

ประโยชน์ของน้ำมะนาวกับการดื่มก่อนนอน ถ้ายังสงสัยอยู่ว่าการดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนจะดีต่อสุขภาพหรือทำให้เสี่ยงต่อผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า วันนี้เราจะพามาไขคำตอบให้รู้ชัด ๆ ไปเลยว่าดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนดีหรือไม่ เชื่อสิว่าถ้ารู้ครบตามที่เรากำลังจะบอกต่อ คงอยากรีบดื่มน้ำมะนาวกันแทบไม่ทัน เพราะว่าประโยชน์ของการดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนน่ะดี๊ดี...

ประโยชน์ของน้ำมะนาวที่เคยบอกไว้ว่าถ้าดื่มน้ำมะนาวตอนเช้าจะช่วยลดน้ำหนัก และยังพ่วงด้วยสรรพคุณอื่น ๆ อีกเพียบ ทำให้เกิดกระแสดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนเพื่อลดความอ้วนขึ้นมาด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วการดื่มน้ำมะนาวไม่ว่าจะตอนเช้าหรือก่อนนอนก็ได้ประโยชน์ที่น่าลิ้มลองด้วยกันทั้งคู่ค่ะ

โดยอธิบายประโยชน์ของการดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนให้เข้าใจกันได้ว่า มะนาวมีวิตามินซีสูงมาก และยังแอบมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในตัว พร้อมทั้งวิตามินบี แร่ธาตุ ไฟเบอร์ แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และโปรตีนอยู่ด้วย

ที่สำคัญในน้ำมะนาวยังมีส่วนประกอบของกรดซิตริก กรดมาลิก ซึ่งเมื่อผ่านกระบวนการย่อยของร่างกายแล้ว ก็จะแปรสภาพเป็นด่างที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยคงสมดุลค่า pH ในร่างกายของเราให้เป็นปกติได้ และถ้าดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนเป็นประจำ ร่างกายจะแข็งแรงขึ้น สุขภาพโดยรวมจะดีขึ้น ไม่เป็นหวัดง่าย และทำให้กระดูกแข็งแรงอีกด้วย

ดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนดีไหม

ดื่มน้ำมะนาวก่อนนอน ลดความอ้วนได้จริงไหม ?

มะนาวถือเป็นตัวช่วยอย่างดีที่จะช่วยให้สาว ๆ ลดพุงได้ง่ายขึ้น โดยในทุก ๆ วันหลังตื่นนอนและก่อนเข้านอนให้ดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่น 1 แก้ว วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายของสาว ๆ ให้ทำงานได้ดีขึ้น สิ่งที่ตกค้างในร่างกายก็จะลดน้อยลง ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ไม่เพียงแค่ช่วยลดความอ้วนเท่านั้น แต่การดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนยังมีประโยชน์ด้านสุขภาพที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงกันด้วย ไม่เชื่อลองตามมาอ่านข้อมูลด้านล่างนี้

ช่วยในการขับถ่าย

สำหรับคนที่ถ่ายยากถ่ายเย็นเป็นนิสัย แนะนำให้ลองดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นแก้วใหญ่ (มะนาวน้ำเยอะ 1 1/2 ลูก ผสมน้ำอุ่น 2 แก้วกาแฟ) เป็นประจำทุกคืน ปริมาณน้ำอุ่นที่ดื่มจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้ลำไส้ ส่วนกรดและไฟเบอร์ในน้ำมะนาวจะทำหน้าที่เคลียร์สิ่งตกค้างในลำไส้เมื่อคุณตื่นขึ้นมาในยามเช้า

ดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนดีไหม

แก้เจ็บคอ

วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมะนาวจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบในลำคอได้ และสำหรับคนที่รู้สึกเจ็บคอเหมือนจะเป็นหวัด ลองดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นและน้ำผึ้งก่อนนอนสักแก้ว ให้วิตามินซีในมะนาวและสารต้านการอักเสบในน้ำผึ้งช่วยรักษาอาการเจ็บคอระหว่างที่เรานอนหลับ

กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

วิตามินซีเป็นเครื่องปรุงสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้นการดื่มน้ำมะนาวที่มีวิตามินซีสูง ๆ ก็จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี โดยวิตามินซีในรูปสารละลายในน้ำมะนาวจะจับเข้ากับเชื้อโรคในกระแสเลือด และนำออกไปเมื่อถูกขับถ่ายเป็นปัสสาวะ

อีกทั้งการดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนยังเป็นการเติมวิตามินซีในเวลาที่เหมาะสมด้วย เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันจะมีเวลาทำงานได้อย่างเต็มที่เมื่อเรานอนหลับพักผ่อน ดังนั้นภูมิคุ้มกันที่กำลังบูตตัวเองตอนเรานอนหลับ พอได้รับวิตามินซีจากน้ำมะนาวเข้าไปเสริม ก็น่าจะเหมือนได้เติมพลังในการต่อสู้กับเชื้อโรคและไวรัสต่าง ๆ แบบทวีคูณเลยเนอะ

ดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนดีไหม

ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง

วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ สามารถช่วยลดริ้วรอย สิว แก้ปัญหาผิวมัน ทำให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล และช่วยฆ่าแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว แถมยังช่วยทำให้สุขภาพผิวดีจากภายในสู่ภายนอก เราสามารถนำมะนาวมาใช้กับแผลเป็นโดยตรงเพื่อทำให้แผลเป็นจางลงได้อีกด้วย ได้ยินแบบนี้แล้วสาว ๆ จะไม่ดื่มน้ำมะนาวได้ไงล่ะ

ส่วนเรื่องผลกระทบในการดื่มน้ำมะนาวก่อนนอน ต้องบอกว่าสำหรับคนที่มียาต้องกินเป็นประจำ อาจต้องปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ประจำตัวก่อนว่าน้ำมะนาวจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อยาที่กินอยู่ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้กินยาอะไรอยู่แล้ว ระวังแค่อย่าโหมดื่มน้ำมะนาวก่อนนอนเข้าไปเกินขนาดก็พอ สักวันละแก้วกำลังดีนะคะ

อ้อ ! แต่กับคนที่ไม่ชินกับการดื่มน้ำก่อนนอน อาจรำคาญใจที่ต้องลุกมาเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ในช่วงแรก ๆ บ้าง และขอเตือนอีกอย่างว่าไม่ควรทำน้ำมะนาวทิ้งไว้นาน ๆ ด้วย ทำสด ๆ ดื่มทันทีแบบนี้จะคงคุณค่าของน้ำมะนาวไว้ครบถ้วนที่สุดค่ะ ทั้งยังช่วยป้องกันความเสี่ยงอาการท้องเสียด้วยจ้า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
OrganicREADY
LEMON WATER
tasty-yummies

 #สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทที่สำคัญ คือ👉1. เกิดจากสิ่งแวดล้อมหรือภายนอกร่างกาย ซึ่งปัจจ...
28/02/2020

#สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทที่สำคัญ คือ
👉1. เกิดจากสิ่งแวดล้อมหรือภายนอกร่างกาย ซึ่งปัจจุบันนี้เชื่อกันว่ามะเร็ง ส่วนใหญ่ เกิดจากสาเหตุได้แก่
1.1 สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหารและเครื่องดื่ม เช่น
- สารพิษจาก เชื้อราที่มีชื่อ อัลฟาทอกซิน (Alfatoxin)
- สารก่อมะเร็งที่เกิดจากการปิ้ง ย่าง พวกไฮโดคาร์บอน (Hydrocarbon)
- สารเคมีที่ใช้ในขบวนการถนอมอาหาร ชื่อไนโตรซามิน (Nitosamine)
- สีผสมอาหารที่มาจากสีย้อมผ้า
1.2 รังสีเอ็กซเรย์ อุลตราไวโอเลตจากแสงแดด
1.3 เชื้อไวรัส ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสฮิวแมนแพบพิลโลมา
1.4 การติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับ
1.5 จากพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การสูบบุหรี่และดื่มสุรา เป็นต้น
1.6 สาเหตุอื่น ๆ ทำให้เกิดการทำลายดีเอ็นเอ เช่น มลภาวะจากสิ่งแวดล้อม, สารอนุมูลอิสระ

👉2. เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกาย ซึ่งมีเป็นส่วนน้อย เช่น
- เด็กที่มีความพิการ มาแต่ กำเนิดมีโอกาสเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว
- การมีภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง
- ภาวะ ทุพโภชนาการ เช่น การขาดไวตามินบางชนิด เช่น ไวตามินเอ ซี เป็นต้น

ภัยเงียบจากการไม่กิน “ผัก”ภัยเงียบคุกคามเด็กไทย อัตราการบริโภคผัก-ผลไม้ดิ่งเหวติดต่อกันตั้งแต่ปี 2544 เพิ่มความเสี่ยงต่อ...
28/02/2020

ภัยเงียบจากการไม่กิน “ผัก”
ภัยเงียบคุกคามเด็กไทย อัตราการบริโภคผัก-ผลไม้ดิ่งเหวติดต่อกันตั้งแต่ปี 2544 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายหลายชนิด ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขยืนยันมะเร็งคร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับหนึ่งมาตั้งแต่ปี2545แนะควรสร้างนิสัยการกินผักผลไม้เริ่มตั้งแต่วันนี้เพื่อสุขภาพที่ดี
ข้อมูลล่าสุดจากการประชุมวิชาการส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 2 ประจำปี 2550 ของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า โรคมะเร็งกลายเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของคนไทยใน ปัจจุบัน เอาชนะอุบัติเหตุและโรคหัวใจที่เคยครองอันดับหนึ่งสาเหตุการตายมาหลายสิบปีแล้ว โดยมะเร็งลำไส้กำลังก้าวขึ้นมาเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ โดยที่คนไทยเราไม่ค่อยตระหนักถึงภัยของโรคนี้กันเท่าไรนัก
นางอลิสรา วิจารณกรณ์ ผู้จัดการด้านโภชนาการและสุขภาพ บริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า สถิติล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขระบุชัดว่า คนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งถึงปีละกว่า 50,000 ราย โดยที่มะเร็งลำไส้ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 รองจากมะเร็งปอดและเต้านม นอกจากนี้คนไทยยังเป็นโรคเบาหวานที่รู้ตัวแล้วถึงกว่า 3 ล้านราย และกว่า 10 ล้านรายมีอัตราความเสี่ยงสูงเนื่องจากมีปริมาณน้ำตาล ในเลือดสูงเกินกำหนด ภาวะเสี่ยงที่กำลังคุกคามชีวิตของคนไทยในขณะนี้ 85% เกิดจากสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษ การรับประทานอาหารไม่สมดุล รับประทานอาหารที่มีแป้ง ไขมัน น้ำตาล และเนื้อสัตว์มากเกินไป และบริโภคผักผลไม้น้อยลง ทำให้เกิดอาการท้องผูก มีการคั่งค้างของอุจจาระในลำไส้ใหญ่ เยื่อบุลำไส้จึงสัมผัสกับสารก่อมะเร็งที่มักพบมากในกากอาหารจำพวกไขมันได้นานขึ้น
ที่สำคัญคือ สถานการณ์การบริโภคผักผลไม้ของคนไทยอยู่ในขั้นน่าเป็นห่วงมาก ปัจจุบันคนไทยรับประทานผักผลไม้เฉลี่ยวันละประมาณ 186 กรัมต่อวันเท่านั้น ขณะที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ผู้บริโภครับประทานผักผลไม้วันละประมาณ 400 กรัม ซึ่งเท่ากับว่าคนไทยบริโภคผักผลไม้เพียงประมาณหนึ่งในสามของที่ควรจะได้รับเท่านั้น และจากสถิติที่ยูนิลีเวอร์เก็บย้อนหลังไปประมาณ 10 ปี พบว่า ตั้งแต่ พ.ศ.2544 เป็นต้นมา ปริมาณการบริโภคผักและผลไม้ของคนไทยลดต่ำลงอย่างมาก
นอกจากนี้ยูนิลีเวอร์ยังได้ศึกษาแนวโน้มการบริโภคอาหารใน 4 ประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยเก็บสถิติย้อนหลัง 10 ปี พบว่าแนวโน้มการบริโภคอาหารในทั้ง 4 ประเทศมีความคล้ายคลึงกัน คือ รับประทานผักผลไม้น้อยลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา แต่รับประทานแป้ง น้ำตาล ไขมันและเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ คนไทยยังหันไปรับประทานพืชมีหัวที่เป็นแป้งมากขึ้น เช่น มันฝรั่ง จึงทำให้ปริมาณผักใบเขียว, ผลไม้ที่รับประทานในแต่ละวันลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ด้านนางกฤษฎี โพธิทัต นักกำหนดอาหารชั้นนำของประเทศไทยเปิดเผยว่า ในส่วนของเยาวชนไทยนั้น การรับประทานผักผลไม้น้อยทำให้สุขภาพของเด็กแย่ลง ที่เห็นชัดเจนคือเป็นหวัดบ่อย ติดเชื้อง่าย เจ็บคอ ทำให้ต้องกินยา เสียเงินค่ารักษาพยาบาลโดยไม่จำเป็น บางครอบครัวต้องพาลูกเข้าๆ ออกๆ ในโรงพยาบาลปีละหลายครั้ง เสียค่าหมอเป็นเรือนพันเรือนหมื่นต่อปี อาการเหล่านี้สามารถป้องกันได้ง่ายๆ โดยการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับเด็กๆ ได้ทุกวันโดยการกินผักผลไม้เพิ่มขึ้น นอกจากจะได้รับวิตามิน เกลือแร่จากผักผลไม้แล้ว เขายังจะได้รับเส้นใยอาหารที่ช่วยจับไขมันและสารพิษต่างๆ ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงเช่น มะเร็ง ออกไปจากร่างกาย และช่วยให้การขับถ่ายดี ไม่เป็นโรคท้องผูก
“สาเหตุเล็กๆ จากการรับประทานอาหารไม่สมดุลเพียงแค่นี้อาจนำไปสู่ภัยอันใหญ่หลวง เช่น โรคมะเร็งลำไส้ ที่ทำลายชีวิตคนไทยเพิ่มขึ้นทุกขณะ, โรคอ้วนซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ซึ่งในอดีตมักพบในผู้ใหญ่ แต่ปัจจุบันเด็กอายุ 3 ขวบ ก็เป็นโรคร้ายแรงเหล่านี้ได้เช่นกัน”
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การแก้ไขหรือป้องกันปัญหานี้สามารถทำได้ โดยเริ่มจากการปลูกฝังนิสัยการรับประทานอาหารที่ถูกต้องตั้งแต่ยังเด็ก
“พ่อแม่ควรชักชวนให้ลูกกินผัก อย่าปล่อยให้พี่เลี้ยงทำอาหารง่ายๆ แต่ไม่ถูกหลักโภชนาการให้ลูกกิน พ่อแม่ควรใส่ใจ พิถีพิถันในการเลือกปรุงแต่งเมนูผักให้หลากหลาย และถูกใจเด็ก ๆ มากขึ้น เปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมตั้งแต่การเลือกซื้อ การปรุง และมีเทคนิคที่ทำให้เด็กสนุกกับการรับประทานผัก รู้สึกว่าผักอร่อย ไม่ได้เหม็นหรือกินยากอย่างที่คิด และควรรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัวอย่างน้อยวันล ะ 1 มื้อ จะช่วยให้เด็กมีทัศนคติที่ดีและรับประทานผักได้ง่ายขึ้น เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีทั้งกายและใจ”
ที่มา : ladytip.com
ขอบคุณ www.ecepost.com
ขอบคุณที่มา : รักษ์สุขภาพโดยวิถีธรรมชาติ
#สุขภาพสร้างได้
----------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :รักษ์สุขภาพโดยวิถีธรรมชาติ
ladytip.com
www.ecepost.com
----------------------------------------------------------------------------
ร่วมสร้างสุขภาพไปกับเราได้ที่วิถีธรรมชาติบำบัด" มีบทความเกี่ยวกับสุขภาพ และนานาสาระมาให้อ่านกันจ้า

ว่า “เกลือ” ล่ะก็ ทุกคนคงร้องอ๋อ...เพราะแท้จริงแล้วโซเดียมที่เราทานเข้าไปมักอยู่ในรูปของเกลือแกงนั่นเอง นอกจากนี้ โซเดีย...
28/02/2020

ว่า “เกลือ” ล่ะก็ ทุกคนคงร้องอ๋อ...เพราะแท้จริงแล้วโซเดียม

ที่เราทานเข้าไปมักอยู่ในรูปของเกลือแกงนั่นเอง นอกจาก

นี้ โซเดียมอาจปะปนอยู่ในเครื่องปรุงรสและผลิตภัณฑ์

ประกอบอาหารอื่นๆ ด้วย เช่น น้ำปลา ซอส ผงชูรส ผงฟู และ

เครื่องดื่มชูกำลัง โซเดียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมาก

แต่ขณะเดียวกัน การรับโซเดียมมากเกินไปก็อาจเป็น

โทษต่อสุขภาพอย่างรุนแรงได้

เคล็ดลับการกินให้ห่างไกลมะเร็ง1.กินผักหลากสีทุกวัน สีสันของผักนอกจากจะดูสวยงามแล้ว ผักแต่ละชนิดยังมีปริมาณและชนิดของไฟโต...
28/02/2020

เคล็ดลับการกินให้ห่างไกลมะเร็ง

1.กินผักหลากสีทุกวัน สีสันของผักนอกจากจะดูสวยงามแล้ว ผักแต่ละชนิดยังมีปริมาณและชนิดของไฟโตนิวเทรียนท์แตกต่างกันออกไปตามสีของผัก ดังนั้น การกินผักให้หลากหลายหรือกินผักให้ครงทั้ง 5 สีจะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อสุขภาพ

🍅 สารสีแดง เช่น มะเขือเทศ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า “ไลโคปีน” ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งปอด

🍋สารสีเหลือง / ส้ม เช่น ฟักทอง แคร์รอต มีสารต้านอนุมูลอิสระ “แคโรทีนอยด์” และอุดมไปด้วยวิตามินที่สามารถต้านการเกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย

🥦สารสีเขียว เช่น คะน้า บรอกโคลี อุดมไปด้วยวิตามินซี รวมถึงผักบุ้ง กวางตุ้ง ตำลึง ซึ่งมีวิตามินเอ

🍇สารสีม่วง เช่น กะหล่ำสีม่วง มะเขือม่วง พืชผักสีม่วงเหล่านี้มีสารแอนโทไซยานินซึ่งจะช่วยยับยั้ง สารก่อมะเร็ง

🥥 สารสีขาว เช่น ผักกาดขาว มะเขือเปาะ ดอกแค โดยเฉพาะยอดแค มีสารเบต้าแคโรทีนสูงซึ่งมีคุณสมบัติในการกำจัดสารอนุมูลอิสระ

2.รับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ ผลไม้ประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รวมทั้งมีเส้นใยอาหารที่ช่วยระบบย่อยอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างปกติ เช่น ส้ม สับปะรด และมะม่วง ที่มีทั้งวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง หรือมะละกอที่มีทั้งวิตามินเอ บี และซี ที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานปกติลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้เช่นกัน

3.ประกอบอาหารธัญพืชและเส้นใย ธัญพืชเต็มเมล็ดคือธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีน้อยที่สุด ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวสาลี ข้าวโพด ลูกเดือย เป็นต้น ธัญพืชประเภทนี้จะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น วิตามิน แร่ธาตุ ไฟโตนิวเทรียนท์ เส้นใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆนอกจากนี้ใยอาหารในธัญพืชยังทำหน้าที่สำคัญในการพาสารต่างๆที่เป็นโทษต่อร่างกายซึ่งเกาะติดบริเวณลำไส้ให้ขับถ่ายออกไป จึงมีส่วนสำคัญในการลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งในทางเดินอาหารและมะเร็งในลำไส้ใหญ่

4.ใส่เครื่องเทศเสริมรสชาติอาหาร เครื่องเทศหมายถึงส่วนต่างๆของพืชที่นำมาใช้เป็นเครื่องปรุงรสอาหารหรือเพื่อให้อาหารมีกลิ่นหอมและยังมีสรรพคุณลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

5.เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ โดยการดื่มเครื่องดื่มธรรมชาติซึ่งนำมาจากส่วนต่างๆของพืช เช่น ชาเขียวที่เต็มไปด้วยสาร EGGC ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเซลล์มะเร็ง เป็นต้น

6.ปรุงอาหารอย่างถูกวิธี เช่น ไม่ปิ้งย่างอาหารประเภทเนื้อสัตว์จนไหม้เกรียม ไม่กินอาหารสุกๆ ดิบๆ หรือไม่ใช้น้ำมันทอดอาหารหลายครั้ง

7.ลดการบริโภคเนื้อแดง เนื่องจากเป็นอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้และทวารหนัก มะเร็งเต้านม และโรคอ้วน

8.เกลือแกง อาหารหมักดองต้องน้อยลง โซเดียมพบมากในเนื้อเค็ม ปลาเค็ม และผลไม้ดองมีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการต่างๆในร่างกายแต่หากได้รับปริมาณที่มากเกินไปก็จะเป็นโทษต่อร่างกายได้เช่นกัน

9.หลีกหนีอาหารไขมัน โดยเฉพาะอาหารประเภทที่มีกรดไขมันอิ่มตัวซึ่งพบมากในอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์และน้ำมันที่ได้จากพืชบางชนิด เช่น เนย ไขมันสัตว์ กะทิ น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม

ท้องผูกถ่ายไม่ออกเป็นเวลานาน ๆจะอันตรายขนาดไหน ถึงแก่ชีวิตได้เลยจริงหรือ👏อาการท้องผูกสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งซึ่งนั่นก...
28/02/2020

ท้องผูกถ่ายไม่ออกเป็นเวลานาน ๆ
จะอันตรายขนาดไหน ถึงแก่ชีวิตได้เลยจริงหรือ👏

อาการท้องผูกสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง
ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกาย
และการรับประทานอาหาร
แต่ถ้าหากเป็นท้องผูกบ่อย ๆ จนกลายเป็นอาการเรื้อรัง
ก็ควรระมัดระวังให้ดี เพราะอาการท้องผูกบ่อย ๆ นั้น
อาจจะทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวาร
หรือทำให้เป็นแผลแตกรอบ ๆ ทวารหนักได้
เนื่องจากก้อนอุจจาระแข็งทำให้เบ่งยาก
และไปกดครูดกับบริเวณทวารหนัก
ทำให้เกิดความเจ็บปวดขณะที่ถ่ายอุจจาระได้ค่ะ

🚩วิธีแก้ท้องผูก ง่ายสุด ๆ เริ่มได้ที่ตัวคุณ🚩

อาการท้องผูกมีสาเหตุมาจากตัวของเราเอง ฉะนั้นเราก็ควรจะแก้ไขด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร ซึ่งควรหันมารับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากขึ้น และการดื่มน้ำที่ควรจะดื่มให้มากขึ้น หรือแม้แต่ลดภาวะความเครียดลง ด้วยการหากิจกรรมเพื่อการผ่อนคลาย นอกจากนี้การออกกำลังกายก็สามารถช่วยได้ หรือจะนำสมุนไพรบางชนิด เช่น มะขามแขก แมงลัก ขี้เหล็ก มารับประทานก็สามารถแก้ท้องผูกได้เหมือนกันค่ะ

อาการท้องผูกไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่เป็นข่าว เพียงแต่ต้องคอยกำกับให้ตนเองมีวิถีในการดำเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ หากเราสามารถทำได้ รับรองได้เลยว่าอาการท้องผูกนั้นจะไม่เป็นปัญหากวนใจคุณแน่นอนค่ะ

5 สัญญาณเตือนมะเร็งกระเพาะอาหาร1.อาการปวดตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่    ซึ่งเป็นอาการที่บ่อยที่สุดของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะ...
28/02/2020

5 สัญญาณเตือนมะเร็งกระเพาะอาหาร

1.อาการปวดตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่
ซึ่งเป็นอาการที่บ่อยที่สุดของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะเริ่มแรกของมะเร็งกระเพาะอาหารจะมีอาการปวดเมื่อยเรื่อยๆมักจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร หรือเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร

2. ความรู้สึกไม่สบายตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่
ส่วนใหญ่จะมีความรู้สึกว่าท้องอืดและแสบมากสามารถบรรเทาความรู้สึกนี้แบบชั่วคราวได้แต่อาการก็จะปรากฏขึ้นอีก

3. เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย
และอาการอื่นๆหลังอาหารมักจะรู้สึกว่าท้องอืดและแน่นตรงบริเวณใต้ดินปีมากพร้อมกับมีอาการตดบ่อย

4. อุจจาระเป็นสีดำ
หรือมีเลือดออกมาด้วยในกรณีที่ไม่ได้กินยาหรืออาหารที่ได้ผสมสีมาก่อนและอุจจาระที่ขับถ่ายออกมาเป็นสีดำหรือมีเลือดออกมาด้วยคุณก็ควรรีบไปหาหมอให้เร็วที่สุด

5. ไม่มีแรงน้ำหนักลดและโรคโลหิตจาง
นี้เป็นอาการที่พบบ่อยมากที่สุดเมื่อเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารเนื่องจากการเบื่ออาหารและมีอาการเลือดออกในระบบทางเดินอาหารทำให้ ผู้ป่วยรู้สึกเหนื่อยล้าและไม่มีแรงขอเตือนอีกครั้งหนึ่งว่าเมื่อมีอาการโรคกระเพาะอาหารหรือรู้สึกท้องไม่ค่อยสบายควรรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลจะดีกว่า

 #สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกกว่า 99%  #มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ผ่านการมีเพศสัมพันธ...
28/02/2020

#สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกกว่า 99% #มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ และยังมีสาเหตุอื่นที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในระยะก่อนมะเร็งมดลูก (CIN) ภูมิคุ้มกันต่ำ การสูบบุหรี่ และการมีลูกหลายคน
หลายท่านที่พลาดโอกาส เพราะคำว่า คิดดูก่อน ศึกษาดูก่อน สุดท้ายไม่ทันรักษา
คุณไม่ได้โดดเดี่ยว เราจะสู้ไปด้วยกันและรอดไปด้วยกันครับ

👉🏻สาเหตุอะไรที่ทำให้เกิดมะเร็ง👈🏻ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งกว่าร้อยละ 90 เป็นสาเหตุจากปัจจัยภายนอก ไม่ใช่เรื่องพัน...
28/02/2020

👉🏻สาเหตุอะไรที่ทำให้เกิดมะเร็ง👈🏻

ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งกว่าร้อยละ 90 เป็นสาเหตุจากปัจจัยภายนอก ไม่ใช่เรื่องพันธุกรรมในครอบครัวอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ ปัจจัยภายนอกที่ว่านั้นคือพฤติกรรมการปฎิบัติตัวให้สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง มีดังนี้

> พฤติกรรมการกินเนื้อสัตว์ประเภทปิ้งย่าง อาหารทอด อาหารไขมันสูง หรือรับประทานอาหารซ้ำ ๆ

> การสูบบุหรี่

> การดื่มสุรา

> ความเครียด

> การได้รับรังสี

> ติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย พยาธิ

> ความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน

> ความอ้วน

> ไม่ออกกำลังกาย

> ไม่ทานผัก-ผลไม้สด

เพราะมะเร็งบางชนิดไม่แสดงอาการ

อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าโรคมะเร็งจะเริ่มก่อตัวในร่างกาย มะเร็งบางชนิดอาจไม่มีความผิดปกติของร่างกายใดๆ ให้เห็น ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือการการตรวจคัดกรอง (Screening for cancer) เป็นการตรวจโรคในระยะต้น สามารถรักษาโรคเหล่านี้ได้ ปัจจุบันการตรวจคัดกรองมีประสิทธิผลสูงทั้งโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

“ตรวจพบเร็ว...รักษาทันท่วงที”

ปัจจุบันโรคมะเร็งสามารถรักษาหายขาดได้ตั้งแต่ตรวจพบในระยะต้น จึงอยากให้ทุกคนตระหนักถึงการตรวจคัดกรองโรคและดูแลสุขภาพเพื่อให้ความสมบูรณ์ของร่างกายกลับคืนมาและลดการเจ็บป่วย

 #ความดันโลหิตต่ำ เป็นภาวะความดันโลหิตในหลอดเลือดแดงต่ำกว่าปกติ มักทำให้มีอาการป่วย เช่น เวียนศีรษะ มองเห็นไม่ชัด คลื่นไ...
28/02/2020

#ความดันโลหิตต่ำ เป็นภาวะความดันโลหิตในหลอดเลือดแดงต่ำกว่าปกติ มักทำให้มีอาการป่วย เช่น เวียนศีรษะ มองเห็นไม่ชัด คลื่นไส้ สับสน ใจสั่น ผิวซีด ผิวหนังเย็นหรือชื้นผิดปกติ เสียการทรงตัว ร่างกายอ่อนแอ ชีพจรเต้นเร็ว เป็นลม หรืออาจเกิดอาการช็อกได้หากภาวะความดันต่ำมีความรุนแรงมาก
คนส่วนมากมักไม่ค่อยให้ความสนใจ แต่ถ้าความดันโลหิตต่ำลงมาก ๆ จะเป็นผลเสียต่อร่างกาย ภาวะความดันโลหิตต่ำ = ค่าความดันโลหิตต่ำกว่า 90/60 มิลลิเมตรปรอท
👉🏻สาเหตุเกิดจาก
> การลุกขึ้นทันทีจากท่านอน โดยเฉพาะเมื่อนอนนาน ๆ
> ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย หรือนั่งนานๆ
> กินอาหารมื้อใหญ่หรือปริมาณมากเกินไป
> การขาดน้ำหรือท้องเสีย อาเจียนรุนแรง
> ยืนหรือนั่งไขว้ห้างนาน ๆ
> อยู่ในที่แออัดหรืออบอ้าว
> การหยุดพักทันทีขณะออกกำลังกายอย่างหนัก
👉🏻วิธีป้องกัน
> พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่อดนอน
> คอยตรวจวัดความดันสม่ำเสมอ
> ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
> ท่าออกกำลังกายที่ควรเลี่ยง คือการเคลื่อนไหวเปลี่ยนท่าทาง อย่างรวดเร็วและท่าที่ศรีษะอยู่ต่ำกว่าหัวใจ

 #แชร์เพื่อบอกต่อสาเหตุและปัจจัย เสี่ยงของการเกิดมะเร็ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทที่สำคัญ คือ1. เกิดจากสิ่งแวดล้อมหรือ ภายนอก...
28/02/2020

#แชร์เพื่อบอกต่อ
สาเหตุและปัจจัย เสี่ยงของการเกิดมะเร็ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทที่สำคัญ คือ

1. เกิดจากสิ่งแวดล้อมหรือ ภายนอกร่างกาย ซึ่งปัจจุบันนี้เชื่อกันว่ามะเร็ง ส่วนใหญ่ เกิดจากสาเหตุได้แก่

1.1 สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหารและเครื่องดื่ม เช่น สารพิษจาก เชื้อราที่มีชื่อ อัลฟาทอกซิน (Alfatoxin) สารก่อมะเร็งที่เกิดจากการปิ้ง ย่าง พวกไฮโดคาร์บอน (Hydrocarbon) สารเคมีที่ใช้ในขบวนการถนอมอาหาร ชื่อไนโตรซามิน (Nitosamine) สีผสมอาหารที่มาจากสีย้อมผ้า
1.2 รังสีเอ็กซเรย์ อุลตราไวโอเลตจากแสงแดด
1.3 เชื้อไวรัส ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสฮิวแมนแพบพิลโลมา
1.4 การติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับ
1.5 จากพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การสูบบุหรี่และดื่มสุรา เป็นต้น

2. เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกาย ซึ่งมีเป็นส่วนน้อย เช่น เด็กที่มีความพิการ มาแต่ กำเนิดมีโอกาสเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น การมีภูมิคุ้มกันที่บกพร่องและภาวะ ทุพโภชนาการ เช่น การขาดไวตามินบางชนิด เช่น ไวตามินเอ ซี เป็นต้น จะเห็นว่า มะเร็งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อม ดังนั้น มะเร็งก็น่าจะเป็นโรคที่สามารถ ป้องกัน ได้เช่นเดียวกับโรคติดเชื้ออื่นๆ (Hill R.P,Tannock IF,1987) ถ้าประชาชนมี ความรู้เกี่ยวกับสารก่อมะเร็ง และสารช่วยหรือให้เกิด มะเร็งที่มีอยู่ในสิ่งแวด ล้อมแล้ว พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเหล่านั้น เช่น งดสูบบุหรี่ หรือหลีกเลี่ยงจากบริเวณ ที่มีควันบุหรี่ เป็นต้น สำหรับสาเหตุภายในร่างกายนั้นการป้องกันคงไม่ได้ผลแต่ทำให้ ทราบว่า ตนเองจัดอยู่ในกลุ่มที่มีอัตราเสี่ยงต่อการเป็น มะเร็งสูงหรือมากกว่ากลุ่ม อื่น ๆ ดังนั้นก็ควรไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับความรู้เรื่องมะเร็งต่อไป กรณีที่เป็น มะเร็ง ได้ตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งจะมีการตอบสนองต่อการรักษาค่อนข้างดี

ปัจจัย เสี่ยงต่อการเป็นโรค มะเร็ง ที่ สำคัญ มี 2 ข้อ
ข้อ แรก คือ ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย เช่น สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อน ในอาหาร อากาศ เครื่องดื่ม ยารักษาโรค เป็นต้น รวมทั้งการได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และพยาธิบางชนิด
ข้อที่สอง คือ ได้แก่ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ความผิดปกติทางพันธุกรรม ความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน และภาวะทุพโภชนา เป็นต้น

ผู้ ที่มีความเสี่ยงต่อการ เป็นโรคมะเร็ง มีดังนี้

1. ผู้ที่สูบบุหรี่ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของระบบหายใจ ได้แก่ ปอด และกล่องเสียง เป็นต้น
2. ผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ตับ ถ้าทั้งดื่มสุราและสูบบุหรี่จัด จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ช่องปากและในลำคอด้วย
3. ผู้ที่เป็นพาหะของเชื้อ ไวรัสตับอักเสบชนิดบี หรือผู้ที่ชอบรับประทานอาหารที่มี สารพิษ ชื่อ อัลฟาทอกซิล ที่พบจากเชื้อราที่ปนเปื้อนในอาหารเช่น ถั่วลิสงป่น เป็นต้น หากรับประทานประจำจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ และหากได้รับทั้ง 2 อย่าง โอกาส จะเป็นมะเร็งตับมากขึ้น
4. ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เต้านม ลำไส้ใหญ่ เยื่อบุมดลูก และต่อมลูกหมาก
5. ผู้ที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ และรับประทานอาหารที่ใส่ดิน ประสิวเป็นประจำ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
6. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอันเกิดจากความผิดปกติจากพันธุกรรมหรือติดเชื้อไวรัส เอดส์ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งของหลอดเลือด เป็นต้น
7. ผู้ที่รับประทานอาหารเค็ม จัด อาหารที่มีส่วนผสมดินประสิวและส่วนไหม้เกรียม ของอาหารเป็นประจำจะเสี่ยง ต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะ อาหารและลำไส้ใหญ่
8. ผู้ที่มีประวัติโรคมะเร็งในครอบครัว อาทิ มะเร็งของจอตา มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิดที่ เป็นติ่งเนื้อ เป็นต้น
9. ผู้ที่ตากแดดจัดเป็นประจำจะ ได้รับอันตรายจากแสงแดดที่ มีปริมาณของแสงอุลตรา ไวโอเลต จำนวนมาก มีผลทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้

 #อาการเนื้องอกที่มดลูก1.ประจำเดือนมามากกว่าปกติ หรือมานานกว่า 1 สัปดาห์2.รู้สึกแน่นหรือปวดบริเวณท้องน้อย3.ท้องน้อยมีขนา...
28/02/2020

#อาการเนื้องอกที่มดลูก

1.ประจำเดือนมามากกว่าปกติ หรือมานานกว่า 1 สัปดาห์
2.รู้สึกแน่นหรือปวดบริเวณท้องน้อย
3.ท้องน้อยมีขนาดโตขึ้น
4.ปัสสาวะบ่อย หรือปัสสาวะลำบาก
5.รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
6.ปวดหลัง หรือปวดขา
7.ท้องผูก
8.เกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ คลอดบุตร หรือมีความเสี่ยงที่ทำให้ต้องผ่าคลอด
มีบุตรยาก แต่มักเกิดขึ้นได้น้อย
ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด หากมีอาการ เช่น ปวดบริเวณท้องน้อยอย่างเรื้อรัง ประจำเดือนมามากและนานกว่าปกติ เจ็บขณะมีประจำเดือน หรือมีปัญหาในการปัสสาวะ เป็นต้น และควรรีบเข้ารับการรักษาทันทีหากมีเลือดออกทางช่องคลอดอย่างผิดปกติ หรือปวดแปลบบริเวณท้องน้อยอย่างเฉียบพลัน เพราะอาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคที่เกี่ยวกับอุ้งเชิงกรานได้

มะเร็ง เกิดจากอะไร? ใครรู้บ้าง?มะเร็งเกิดจากเซลล์ที่ผิดปกติในระดับสารพันธุกรรม หรือที่เราเรียกกันว่า ดีเอ็นเอ พวกเรามีเซ...
28/02/2020

มะเร็ง เกิดจากอะไร? ใครรู้บ้าง?

มะเร็งเกิดจากเซลล์ที่ผิดปกติในระดับสารพันธุกรรม หรือที่เราเรียกกันว่า ดีเอ็นเอ พวกเรามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในทุกๆ วัน โดยเกิดขึ้นในวันหนึ่งๆ เป็นพันๆ เซลล์ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นโรคมะเร็ง

ปัจจัยภายใน คือ เซลล์ในร่างกายที่มีความผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด

ปัจจัยภายนอก คือ การที่เราได้รับสารก่อมะเร็งเข้าไปในร่างกาย เช่น บุหรี่ นับเป็นสารก่อมะเร็งที่ชัดเจนที่สุด

ทำไมเราถึงไม่ได้เป็นโรคมะเร็งกันทุกคน?

ที่เซลล์เหล่านี้ไม่ได้ทำให้บางคนเป็นโรคมะเร็ง เป็นเพราะว่าในร่างกายของเรามีเม็ดเลือดขาวที่สามารถเข้าไปกำจัดเซลล์มะเร็งเหล่านี้ให้ออกไปจากร่างกายได้ 100% เลยนั่นเอง แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งเม็ดเลือดขาวทำหน้าที่บกพร่องไปเล็กน้อย เหลือเซลล์มะเร็งหลุดรอดไปได้ อาจจะเพียงแค่ 1% แต่ 1% นั้นที่เหลืออยู่ในร่างกายเรา จะสามารถเจริญเติบโต และแบ่งเซลล์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นก้อนมะเร็งในที่สุด

อย่าพึ่งบล๊อคกันนะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่คนที่เรารัก ^_^

"ไม่เห็นโรงศพ ไม่หลั่งน้ำตา"เป็นสำนวนที่เก่าแก่ แต่เรายังคงเพิกเฉย แม้แต่เรื่องสุขภาพที่ใช้แรงกายเพื่อหาเงินให้กับเราผลส...
28/02/2020

"ไม่เห็นโรงศพ ไม่หลั่งน้ำตา"

เป็นสำนวนที่เก่าแก่ แต่เรายังคงเพิกเฉย แม้แต่เรื่องสุขภาพที่ใช้แรงกายเพื่อหาเงินให้กับเรา

ผลสำรวจคนไทยใส่ใจสุขภาพต่ำกว่าค่าเฉลี่ยสากล ทุกคนทราบดีว่าการออกกำลังกายเป็นประจำทำให้มีสุขภาพดี แต่มีเพียง 48% เท่านั้นที่สามารถปฏิบัติได้จริง O.o"

ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของคนไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี จากประมาณการค่าใช้จ่ายโรคร้ายแรงพบว่า ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมะเร็งระยะลุกลาม สูงถึง 1 ล้านบาทต่อปี O.O!!

จะดีกว่าไหมถ้าเราดูแลสุขภาพก่อนที่จะสายเกินไป.......

🌺 มีปัญหาสุขภาพ สอบถามเบื้องต้นก่อนได้นะคะ เจ้าหน้าที่ใจดีค่ะ 🌺

มะเร็ง. รู้ทัน. ต้านภัย. คนที่คุณรัก
28/02/2020

มะเร็ง. รู้ทัน. ต้านภัย. คนที่คุณรัก

22/02/2020

กำลังตามหาคนที่สุขภาพไม่ดี หรือผู้ป่วยทุกโรค เพื่อเติมเต็มให้ร่างกายแข็งแรง .....0864695719...

ที่อยู่

Buriram
31000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ธรรมชาติบำบัดโรค NCDSผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท