ร้านขายยา แม็ก Pharmacy สาขา ใกล้เซเว่นเมืองเก่าชัยภูมิ

ร้านขายยา แม็ก Pharmacy สาขา ใกล้เซเว่นเมืองเก่าชัยภูมิ ❤️💊บริการใกล้ชิด เป็นมิตร ห่วงใย💊❤️

17/10/2025

ปอดคืออวัยวะที่ขยับตลอดชีวิต
อะไรที่น้องปอดเกลียดๆ เลี่ยงไว้บ้างก็ดีมากค่ะ


1️⃣ บุหรี่

หายนะหลักมาจากการเผาไหม้ ทำให้กำเนิดควันที่รวบรวมมวลมหาพิษที่ปอดทั้งเกลียดทั้งกลัว ไม่ว่าจะเป็นเหล่าแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์, Tar, acrolein, thiol-reactive aldehyde ฯลฯ ก่อสารอนุมูลอิสระละเลงปอด กระตุ้นให้น้อง dust (เม็ดเลือดขาวประจำปอด) เครียดจนหลั่งน้ำย่อย ย่อยปอดเอง โดนทั้งหลอดลมและถุงลม

หากรับเยอะ (> 10 pack.year) สะสมไปเรื่อยๆ ยิ่งเสี่ยงถุงลมโป่งพอง ที่หายใจเหนื่อย ไล่อากาศออกจากปอดยาก เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอด

♥️ เลี่ยงเถอะจ้า


2️⃣ บุหรี่ไฟฟ้า

แม้ไม่มีการเผาไหม้ แต่น้ำยา+ไอความร้อน สร้างสาร reactive carbonyl เช่น formaldehyde, acrolein สร้างอนุมูลอิสระได้, บางชนิดใช้ vitamin E acetate + glycerin สร้างละอองไขมันที่เม็ดเลือดขาวกินแล้ว กลายเป็นร่างเป็น Foam cell (คล้ายกับที่เจอที่คราบไขมันผนังหลอดเลือด) หากเจอหนักๆ อาจเกิดปอดอักเสบเฉียบพลันที่เรียกว่า EVALI

♥️ เลี่ยงเถอะจ้า


3️⃣ PM2.5

‘ขยะสาธารณะ’ ที่รวมอะไรแย่ๆ จากมลภาวะมากองอยู่ในก้อนจิ๋วนี้หมดแล้ว มีทั้งแก๊สพิษและโลหะหนัก กระตุ้นการสร้างสารอนุมูลอิสระ ทำลายปอดอย่างเรื้อรัง จะมาจะน้อยขึ้นกับปริมาณ PM2.5 ในวันนั้นๆ ยิ่งช่วงไม่ค่อยมีฝน ลมน้อย ตัวดีเลย

♥️ ติดตามข่าว PM2.5 ทุกปี ช่วงขึ้นสูง หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ใส่หน้ากาก N95 อยู่ในบ้านใช้เครื่องฟอกอากาศ HEPA filter


4️⃣ นอนกรนรุนแรง

นอนกรนคือ ทางเดินหายใจส่วนบนมันตีบตอนนอน ทั้งจากไขมันบริเวณนั้นสะสมเยอะขึ้น (คอ+ลิ้น), หรือมีต่อมแถวคอโต (มักเจอในเด็ก), โครงหน้าเสี่ยง สุดท้ายตีบ อากาศเข้าได้น้อยมาก ออกซิเจนในเลือดเริ่มน้อยลง ก้านสมองรับรู้เริ่มกระวนกระวาย สั่งปอดอย่างรุนแรง

จนระบบกล้ามเนื้อหายใจ หายใจสู้จุดตีบ กระชากปอดให้สร้างแรงดันลบสู้จุดตีบให้ได้ สร้างความเสียหายให้ปอดได้

♥️ นอนกรนอย่าปล่อย ต้องรักษา ตรวจ sleep test, ลดความอ้วน, ในรายที่เป็นรุนแรงอาจต้องใช้เครื่องแรงดันบวก CPAP


5️⃣ อะไรก็ตามที่หัวใจเกลียด ขอเกลียดด้วย

ไม่ใช่ว่ารักหัวใจอะไรหรอก เพียงแต่หัวใจฝั่งซ้ายฉิบหายขึ้นมา บีบไม่ออก ปอดคือคนรับกรรมทั้งหมด เพราะเลือดที่ฟอกที่ปอด ต้องระบายไปให้หัวใจสูบฉีด ดังนั้นถ้าฉีดไม่ออก เลือดคั่งในปอด จนน้ำรั่วเข้าถุงลม น้ำท่วมปอดจ้า

หัวใจล้มเหลวส่วนใหญ่เกิดจาก โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ดังนั้นมาจากปัจจัยเสี่ยงทาสุขภาพทั้งหมดเลยค่ะ ไล่ไปเลยน้ำหนักเกิน, ดื้ออินซูลิน, ความดันสูง, LDL สูง, บุหรี่, สุรา, PM2.5

♥️ ควบคุมอาหาร เพิ่มการออกกำลังกาย ตรวจสุขภาพเสมอค่ะ

30/09/2025

กรมวิทย์ เผยความรุนแรง โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ XFG พบในไทยป่วยแล้ว 33 ราย ย้ำป้องกันตนเอง ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงที่แออัด มีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์

14/09/2025

🧬 ออกกำลังกายไม่ใช่แค่ป้องกันมะเร็งเท่านั้น
แต่สามารถยับยั้งมะเร็งได้ทุกระยะเลยค่ะ


1️⃣ ลดการเกิดมะเร็งตั้งแต่แรกเลย
✔️ สารจากกล้ามเนื้อเพิ่มเม็ดเลือดขาว Treg ปล่อยสารต้านอักเสบ ลดภาวะอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการสร้างแวดล้อมที่เสี่ยงมะเร็ง
✔️ เพิ่มความสามารถ NK cell และ CD8+ T cell กำจัดมะเร็ง
✔️ ลดไขมันช่องท้อง ทำให้ลดสารที่ปล่อยจากเนื้อเยื่อไขมันที่เพิ่มโอกาสมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้


2️⃣ หากเป็นระยะแรกแล้วก็จะเบรกจากลุกลาม
✔️ สารจากกล้ามเนื้อ ปรับหลอดเลือดมะเร็งให้ปกติมากขึ้น แตกแขนงมากขึ้น กำจัดภาวะขาดออกซิเจน ที่มะเร็งใช้บีบให้ตัวเองดุร้าย
✔️ เลือดที่ไหลแรง กระแทกให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันของมะเร็งจัดระเบียบใหม่ เม็ดเลือดขาวทะลวงง่ายขึ้น


3️⃣ หากมะเร็งหลุดเข้าเลือดแล้ว ก็จะกำจัดได้ง่าย
✔️ ออกกำลังกายบีบให้ NK cell และ CD8+ T cell ออกสู่กระแสเลือดได้มากขึ้น เพิ่มโอกาสเจอมะเร็งที่กำลังเดินทาง
✔️ มะเร็งชอบเอาเกล็ดเลือดมาบังโดยกาวยึด ออกกำลังกายทำลายกาวเหล่านั้นได้


4️⃣ หากลุกลามมาถึงที่ใหม่แล้ว ก็มีชีวิตอยู่รอดยาก
✔️ ออกกำลังกายทำให้ผนังหลอดเลือด ยอมให้มะเร็งแทรกตัวออกมาอยู่ที่ใหม่ยากขึ้น
✔️ ผลจากการลดอักเสบทำให้เซลล์ที่คอยรอรับมะเร็งที่อวัยวะปลายทาง ไม่รอด
✔️ หลอดเลือดที่แตกแขนงมากขึ้น ทำให้ยาและการรักษาต่างๆ ทะลวงได้ง่ายมาก


📑 แม้ว่าภาพนี้จะถูกนำมาจากงานวิจัยการรักษามะเร็งเต้านม แต่ถ้าลองดูงานวิจัยอื่น ๆ ก็พอพบว่า มะเร็งชนิดอื่น ๆ ก็ผลไม่ต่างกันมาก


🏃‍♀️ การออกกำลังกายที่ส่งผล มักจะพูดตรงกันนั่นคือ การออกที่หลากหลายทั้ง แอโรบิก + ออกแบบมีแรงต้าน + ยืดเหยียด

โดยแอโรบิกเน้นระดับปานกลาง 150-300 นาที/สัปดาห์, ออกแบบมีแรงต้าน 2-3 ครั้ง/สัปดาห์, มียืดเหยียดด้วยยิ่งดี หลีกเลี่ยงการออกหนักมากเกินไป เพราะจะสร้างแวดล้อมอักเสบช่วงแรก ๆ

ในคนที่เป็นมะเร็งแล้วปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน 💙

12/09/2025

✨ ป้องกันไม่ให้ RSV ลงปอดได้ไหม? ✨

ช่วงนี้คำถามยอดฮิตที่คุณพ่อคุณแม่มักถามบ่อยๆ คือ
“ถ้าลูกติดเชื้อ RSV แล้ว ทำยังไงไม่ให้เชื้อลงปอด?”

คำตอบสั้นๆเลยครับ 👉 ไม่มีวิธีป้องกัน 100%

เชื้อจะลงปอดหรือไม่ มันขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น
1️⃣ ปริมาณเชื้อที่ลูกได้รับเข้าไป
2️⃣ ความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันเด็กแต่ละคน
3️⃣ โรคประจำตัวที่ลูกมี เช่น คลอดก่อนกำหนด โรคปอด โรคหัวใจ หรือโรคทางระบบประสาท

ดังนั้น มันมีสิ่งที่"เราควบคุมได้" และ สิ่งที่ "เราควบคุมไม่ได้"



✅ สิ่งที่เราควบคุมได้
คือช่วยให้ภูมิคุ้มกันของลูกแข็งแรงที่สุดเท่าที่ทำได้
• 🛌 นอนพักผ่อนเพียงพอ งดนอนดึก ลดกิจกรรมไม่จำเป็น
• 🍲 กินอาหารครบถ้วนและมีคุณภาพ
👉 ไม่จำเป็นต้องหาซื้ออาหารเสริมแพงๆ แค่กินอาหารหลัก 5 หมู่ครบก็พอครับ
• กินนมแม่ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันป้องกันโรคได้
• 💧 ดื่มน้ำ/นมให้เพียงพอ ตามปริมาณที่ลูกควรได้รับต่อวัน
• 🚫 หลีกเลี่ยงการไปในที่แออัด หรือโรงเรียนช่วงป่วย เพื่อไม่ให้ติดเชื้ออื่นซ้ำเติม
เพราะเด็กที่ติด RSV แล้ว ร่างกายต้องใช้ภูมิคุ้มกันต่อสู้เต็มที่อยู่แล้ว ช่วงนี้จะติดเชื้ออื่นเพิ่มได้ง่าย และถ้าไปรับเชื้อใหม่เพิ่ม เช่น ไข้หวัดใหญ่, อะดีโนไวรัส ฯลฯ อาการอาจจะหนักขึ้นได้

❌ สิ่งที่เรา “ควบคุมไม่ได้”
• ปริมาณเชื้อที่ลูกได้รับเข้าไป
จะมากหรือน้อย ขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและจังหวะที่สัมผัสเชื้อ เราไม่สามารถกำหนดได้
• ปัจจัยเฉพาะตัวของลูก
เช่น คลอดก่อนกำหนด มีโรคปอด โรคหัวใจ โรคประสาทและกล้ามเนื้อ หรือภูมิคุ้มกันอ่อนแอจากโรคประจำตัว
• ธรรมชาติของเชื้อ RSV เอง
RSV เป็นไวรัสที่ทำให้เด็กบางคนแค่เหมือนเป็นหวัด แต่บางคนอาจลงหลอดลมหรือปอดได้ แม้ไม่มีปัจจัยเสี่ยงชัดเจน



🧘‍♀️ สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ
• ไม่ตื่นตระหนกเกินไป
➡️ เด็กส่วนใหญ่ติด RSV จะเหมือนเป็นหวัดธรรมดา มีเพียงประมาณ 1 ใน 3 เท่านั้นที่ลงหลอดลมหรือปอด
• ถ้ารู้สึกเครียด จิตตกมากจากการอ่านเคสในโซเชียล
➡️ แนะนำ social detox ปิดโซเชียล พักหน้าจอบ้าง แล้วโฟกัสที่อาการลูกของเราก็พอ
• เฝ้าสังเกตอาการลูก โดยเฉพาะช่วงวันที่ 3–5 ของโรค และรู้จักสัญญาณเตือนที่อาจบอกว่าเชื้อเริ่มลงปอด
(ลองดูคลิปเรื่องนี้ได้ในคอมเมนต์ครับ)
• ดูแลตามอาการ เช่น กินยาลดไข้เมื่อมีไข้สูงและไม่สบายตัว ดูแลการกินน้ำกินนมให้เพียงพอ เป็นต้น



❗สิ่งที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับเชื้อ RSV ลงปอด

1) “พาลูกไปนอนโรงพยาบาลตั้งแต่วันแรก จะกันไม่ให้ลงปอดได้”

➡️ ไม่จริงครับ

ความจริงคือ
• การที่เชื้อ RSV จะลงปอดหรือไม่ ขึ้นกับตัวโรคและร่างกายของเด็กคนนั้น ไม่ได้ขึ้นกับว่าไปนอนโรงพยาบาลเร็วแค่ไหนครับ
• RSV มักมีอาการหนักที่สุดในวันที่ 3–5 ของโรค ต่อให้เข้ารพ.ตั้งแต่วันแรก ถ้าเชื้อมีโอกาสลงปอด มันก็ยังสามารถลงได้

แล้วทำไมหมอถึงไม่รีบให้นอนรพ. ตั้งแต่วันแรก?
• เพราะโรงพยาบาลคือที่ที่มีเด็กป่วยจำนวนมาก แม้จะมีมาตรการป้องกันแต่ก็มีความเสี่ยงที่เด็กอาจไปรับเชื้อไวรัสอื่นเพิ่มได้
• วันแรกๆเด็กมักมีอาการไม่มาก การดูแลที่บ้านอย่างใกล้ชิด มักจะปลอดภัยกว่าครับ



2) "ไปพ่นยา ดูดเสมหะแล้วเชื้อจะไม่ลงปอด"

➡️ ไม่จริงครับ

ความจริงคือ
• การพ่นยาและการดูดเสมหะไม่ได้ป้องกัน ไม่ให้ RSV ลงปอด
• หมอมักใช้การพ่นยา ในบางกรณีเท่านั้น 👉 เช่น เด็กที่เริ่มมีอาการเชื้อลงปอดแล้ว เริ่มหอบ หรือเสมหะเหนียวข้นมาก
• จุดประสงค์คือเพื่อให้ เสมหะไม่เหนียวเกินไป และเด็กไอออกง่ายขึ้น → ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
• ส่วนการดูดเสมหะ มันเจ็บนะครับ ดังนั้นเราจะทำเฉพาะบางรายเท่านั้น เช่น เด็กที่เสมหะเยอะมาก จนหอบเหนื่อย จนหายใจลำบาก กินนมไม่ได้ นอนไม่ได้
ถ้าเด็กไม่มีอาการเหล่านี้ ก็ไม่จำเป็นต้องดูดเสมหะเขานะครับ

ทั้งการพ่นยาและดูดเสมหะ ไม่สามารถหยุดไม่ให้เชื้อลงปอดได้นะครับ!

สรุปสั้นๆ: การพ่นยา = ช่วย “บรรเทาอาการ” ไม่ใช่การ “ป้องกันลงปอด”



3) ล้างจมูกช่วยกันไม่ให้เชื้อลงปอด

➡️ ไม่จริงครับ

ความจริงคือ
• การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ไม่ได้ทำให้เชื้อ RSV หยุดอยู่แค่จมูก หรือป้องกันไม่ให้ลงปอด
• จุดประสงค์จริงๆ คือ ➡️ ช่วยให้จมูกโล่ง หายใจสะดวกขึ้น กินนม/อาหารได้ดีขึ้น และนอนหลับสบายขึ้น
• ไม่มีความจำเป็นต้องโหมล้างมากเกินไป เพียงเพื่อจะป้องกันการลงปอดนะครับ

สรุปสั้นๆ: ล้างจมูก = “ช่วยให้ลูกสบายขึ้น” แต่ ❌ ไม่ใช่ “การป้องกันเชื้อลงปอด”



4. กินยาปฏิชีวนะ(antibiotic) ตั้งแต่แรก จะไม่เป็นปอดอักเสบ

➡️ ไม่จริงครับ

ความจริงคือ
• เด็กที่ปอดอักเสบ ส่วนใหญ่เกิดจากตัวเชื้อไวรัส RSV เอง >> ❌ ไม่ใช่เพราะเชื้อแบคทีเรีย
• ยาปฏิชีวนะ คือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ➡️ ไม่สามารถฆ่าไวรัส RSV ได้เลย
• หมอจะให้ยาปฏิชีวนะเฉพาะเมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบจากแบคทีเรียจริงๆ เท่านั้น

❌ ถ้าให้ยาปฏิชีวนะตั้งแต่ยังไม่จำเป็น จะเกิดผลเสียมากกว่าได้ประโยชน์

1️⃣ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียดีๆในลำไส้
ในลำไส้ลูกมี “แบคทีเรียดีๆเต็มไปหมด” ที่ช่วยย่อยอาหาร ดูดซึมสารอาหาร และสร้างภูมิคุ้มกัน
การกินยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นจะฆ่าเชื้อเหล่านี้ไปด้วย

2️⃣ เสี่ยงสร้างเชื้อดื้อยาในตัวลูกเอง
ทุกครั้งที่กินยาปฏิชีวนะเกินจำเป็น จะเหมือน “ฝึกเชื้อให้แข็งแรงขึ้น” จนกลายเป็นเชื้อดื้อยา
ถ้าวันหน้าลูกป่วยจากเชื้อจริงๆ ➡️ ยาเดิมอาจเอาไม่อยู่ ทำให้รักษายากขึ้น

3️⃣ ถ้าเจอแบคทีเรียดื้อยาจริงๆ การรักษาจะยากกว่าเดิม
สมมติวันแรก ให้ยาดักไว้ตั้งแต่ยังไม่มีแบคทีเรียเลย ➡️ วันที่ 4–5 ลูกปอดอักเสบจริงและซ้ำด้วยแบคทีเรีย
ถ้าแบคทีเรียตัวนั้น “ดื้อยา” ➡️ ยากินธรรมดาเอาไม่อยู่ อาจจะต้องนอนรพ.เพื่อใช้ยาฉีดแทน

4️⃣ เสี่ยงผลข้างเคียงไม่จำเป็น
ผื่นแพ้ยา คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ➡️ ทำให้ร่างกายลูกยิ่งอ่อนเพลียทั้งที่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้ยา



💡 ฝากถึงคุณพ่อคุณแม่

ในโซเชียลตอนนี้ มักเห็นแต่เคสที่อาการหนักถูกแชร์ออกมา
แต่จริงๆ แล้ว เด็กส่วนใหญ่ที่ติด RSV อาการไม่รุนแรง และหายได้เอง

ดังนั้น อย่าเสพโซเชียลจนทำให้จิตตกเกินไป
โฟกัสที่อาการของลูกเราเป็นหลัก เพราะเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ถ้าไม่แน่ใจ ให้พาลูกไปพบแพทย์ดีกว่าครับ

24/07/2025
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีมากๆ ตัวช่วยสำหรับท่านที่เจ็บคอ ไอ เสียงแหบแห้ง ปรึกษาฟรีที่ ร้านขายยา แม็ก Pharmacy สาขา ใกล้เซเว่นเม...
11/06/2025

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีมากๆ ตัวช่วยสำหรับท่านที่เจ็บคอ ไอ เสียงแหบแห้ง ปรึกษาฟรีที่ ร้านขายยา แม็ก Pharmacy สาขา ใกล้เซเว่นเมืองเก่าชัยภูมิ และ แม็ก Pharmacy ร้านยาสีเหลือง สามแยกราชพฤกษ์ ชัยภูมิ 📍📍📍

09/06/2025

ไข้เลือดออกตอนนี้เริ่มระบาดแล้วนะครับ
สารพัดโรคเลยช่วงนี้

 1. ไข้เลือดออกไม่ติดต่อจากคนสู่คน เราไม่ติดจากการจับมือ กอด หรือหายใจรดกัน การติดเชื้อมาจาก “ยุงลายตัวเมีย” ที่ไปกัดคนที่มีเชื้อไวรัสเดงกี แล้วมากัดเราอีกที

2. ยุงลายชอบกัดกลางวัน นี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิด ยุงลาย ไม่ได้กัดกลางคืน เหมือนยุงก้นปล่อง แต่มันออกหากินช่วงกลางวัน โดยเฉพาะ เช้า–เย็น เพราะฉะนั้นกลางวันก็ต้องทายากันยุง ใส่เสื้อแขนยาวด้วย

3. ไม่ใช่ทุกคนที่ติดจะมีผื่น คนชอบจำว่าต้องมีผื่นแดงเต็มตัวถึงจะเป็นไข้เลือดออก จริง ๆ แล้วบางคนไม่มีผื่นเลย แต่มี ไข้สูงลอย ปวดหัว ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อย ปวดข้อ ซึม เหนื่อยง่าย

4. ไข้สูงลอย คือจุดต้องระวัง ถ้าอยู่ดี ๆ เป็นไข้สูง 39-40 องศา กินยาลดไข้ก็ไม่ค่อยลง หรือดีลงแป๊บเดียวแล้วกลับมาขึ้นใหม่ ให้สงสัยไข้เลือดออกไว้ก่อน โดยเฉพาะในช่วงที่มีระบาดแบบนี้

5. กินยาแก้ปวดผิดชีวิตเปลี่ยน ถ้าไม่รู้ว่าใช่ไข้เลือดออกหรือไม่ ห้ามรีบกินยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน แอสไพริน เด็ดขาด เพราะจะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น อันตรายถึงชีวิตได้ ยาพาราเซตามอลคือทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า

6. อาการที่ต้องรีบพบแพทย์ ถ้าเป็นไข้ 2-3 วันแล้วยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการเหล่านี้ต้องรีบมา รพ.ทันที → อาเจียนมาก เบื่ออาหาร ซึม เหนื่อย หอบ ปวดท้องมาก จุดเลือดออกตามตัว เลือดกำเดาออก อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายดำ

7. ระยะวิกฤตซ่อนอยู่ช่วงไข้ลด คนส่วนใหญ่นึกว่าไข้ลดคือดีแล้ว แต่ ไข้เลือดออกจะมีช่วงอันตราย หลังไข้เริ่มลดลงในวันที่ 4-6 เพราะเป็นช่วงที่เส้นเลือดรั่วง่าย เลือดออกในช่องท้องและปอดได้ เพราะฉะนั้นถ้าไข้ลดแล้วคนไข้กลับซึมลงต้องรีบกลับมา รพ.

8. การรักษาไม่มี “ยาเฉพาะ” ปัจจุบันยังไม่มี “ยาฆ่าเชื้อไวรัสเดงกี” โดยตรง การรักษาเป็นแบบประคับประคอง ดูแลสมดุลน้ำเกลือในร่างกายอย่างใกล้ชิด ต้องดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะถ้าระบายของเหลวในเส้นเลือดผิดเวลา อาจทำให้ช็อกได้

9. วัคซีนมี แต่ยังใช้จำกัด ตอนนี้ในไทยมีวัคซีนไข้เลือดออก ที่เริ่มใช้ได้ในบางกลุ่ม แต่ ยังไม่ใช่วัคซีนที่ฉีดกันได้ทั่วทั้งประเทศทุกคน และต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล ฉีดแล้วก็ยังต้องกันยุงเหมือนเดิม เพราะไม่ครอบคลุม 100%

10. คนเสียชีวิตทุกปี เพราะประมาท อย่าคิดว่าไข้เลือดออกเป็นแค่ “ไข้หวัดธรรมดา” ปี ๆ หนึ่งในไทยมีคนเสียชีวิตหลักร้อย–พันคน บางคนเป็นคนแข็งแรงมาก่อน ไม่รู้ว่าตัวเองเสี่ยง พอไป รพ.ช้า เสียชีวิตจากภาวะช็อกได้ง่ายมาก

หมอเจด...เจตนาดี

#หมอเจด #มะเร็งป้องกันได้ไม่ควรเป็น
#มะเร็งรักษาได้ไม่ควรตาย
#หมอเจดสุขภาพ #สุขภาพ
#สุขภาพดี #สุขภาพดีกับหมอเจด
#เบาหวานหายได้ #อ้วนได้ก็ผอมได้

06/05/2025

📋เช็คอาการทางผิวหนังผื่นแบบไหนคืออะไร เกิดจากอะไร ❓

• แมลงก้นกระดก
เป็นผื่นทางยาว แมลงชนิดนี้สามารถปล่อยสาร Pederin ออกมา ก่อให้เกิดความระคายเคืองกับผิวหนังมาก ทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังของผู้ที่สัมผัสโดน และจะมีอาการแสบร้อน

• เห็บกัด จุดตุ่มสีแดง หรือก้อนเนื้อแข็งเล็กๆ การติดเชื้อจากการถูกเห็บกัด และมีอาการคัน

•เริม โรคติดต่อ จากการสัมผัสเป็นๆหายๆ มีอาการแสบร้อน มีตุ่มน้ำเกิดขึ้น บางรายอาจมีอาการไข้ร่วมด้วย จากกำเริบมากขึ้นเมื่อร่างกายอ่อนแอ

• รูขุมขนอักเสบ รูขุมขนมีสีแดงคันพบได้ทุกส่วนของผิวหนังที่มีรูขุมขน พบมากในผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่มีสารดูดความชุ่มชื้นหรือรุนแรงกับผิว ทำให้รูขุมขนเกิดการอักเสบ

•ภูมิตก หรือภูมิแพ้ตัวเอง อันตรายถึงชีวิต อาการ ส่วนใหญ่มักแสดงออกทางผิวหนัง โดยสังเกตเห็นว่าบริเวณผิวหนังมีผื่นแดงขึ้น ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าแพ้น้ำ แพ้อากาศ แพ้เครื่องสำอาง บางคนอาจมีอาการผมร่วงร่วมด้วย

•อีสุกอีใส ปวดเมื่อยตามตัว หลังจากมีไข้จะมีผื่นแดง เม็ดเล็กๆต่อมาจะกลายเป็นตุ่มน้ำใส มากขึ้นเรื่อยเรื่อยบริเวณลำตัว ลามไปที่คอผิวหน้าและหนังศีรษะ แขนขา

•ลมพิษ เป็นผื่นบวม นูน แดง กระจายตามลำตัว แขนขา มีอาการคันท่วมด้วยแบ่งออกเป็น2ชนิดลมพิษแบบเฉียบพลันและลมพิษแบบเรื้อรัง

•สะเก็ดเงิน โรคผิวหนังที่รักษาไม่หายขาด ผื่นที่มีวงขอบเขตชัดเจน ผิวแห้งจนตกสะเก็ดและมีเลือดออก มีอาการเจ็บแสบคันร้อน

•หิด ตุ่มแดงและตุ่มน้ำใสเล็กๆสามารถติดต่อกันได้ทางการสัมผัส มีอาการคันมาก หากติดเชื้อครั้งแรกจะแสดงอาการใน2ถึง6สัปดาห์

•แพ้เหงื่อ ผื่นแดงคันบริเวณที่มีเหงื่อหรือตามข้อพับคอรักแร้ขาหนีบ คล้ายอาการอีสุกอีใส มักมีอาการอ่อนเพลียร่วมด้วย

•กลาก ผื่นแดงเป็นขุยที่อาจแตก แตกออก และลอกได้ ผื่นอาจลามออกเป็นวงสีแดง โดยจะมีผิวหนังที่ดูเหมือนปกติอยู่ตรงกลาง

•เกลื้อน ผื่นเป็นวงเล็ก ๆ รอบรูขุมขน หรือรวมกันเป็นปื้นใหญ่ มีขุยละเอียด ผื่นอาจมีสีขาว ชมพู หรือน้ำตาล ขึ้นเป็นวงเดียวหรือหลายวงก็ได้

•หมัดกัด ตุ่มนูนสีแดงเล็กๆ ที่แข็งเมื่อสัมผัส รอยแดงจะหายไปเมื่อกดลงไป รอยกัดของหมัดอาจทำให้คันมาก และอาจมีเลือดออกเมื่อเกา

•ผิวหนังอักเสบ ผิวหนังแดงและบวม แห้งแตกเป็นขุยหรือมีรอยแตก คันผิวอย่างรุนแรง ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว บางกรณีเป็นตุ่มน้ำใสหรือหนอง

•ผิวติดสาร เกิดเป็นตุ่มมีลักษณะคล้ายสิวขนาดเม็ดเท่าๆกันและถี่ มีสีแดงพร้อมกับอาการแสบคัน สภาพผิวโดยรวมอ่อนแอและแพ้ง่ายยิ่งขึ้น

•เชื้อราแมว ผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย มีทั้งวงเล็กและวงใหญ่ มีขุยบริเวณรอบผื่นแดง มีอาการคันตามผื่นแดงตลอดเวลา

🚨หากมีอาการแทรกซ้อนเช่น เป็นไข้ ท้องเสียหรือเกิดหนองติดเชื้อควรพบแพทย์ทันที

วิธีการดูแลต่อใต้โพสต์

ปรึกษาตรง https://opl.to/rabyexdamask

#ผิวแห้ง #แผลเป็น #น้ำเหลืองไม่ดี #รูขุมขนอักเสบ #สิวติดสาร #ผิวแห้งคัน

08/04/2025

ทำไมแพทย์จึงมักจะจ่ายวิตามิน D ในรูป D2, D3 ที่ต้องมาผ่านตับ/ไต?
ทำไมไม่ให้รูปใช้งานมาเลย (1,25(OH)2D - Calcitriol)

ตอบ:

1. วิตามิน D รูปที่พร้อมใช้งาน มีค่าครึ่งชีวิตสั้นมาก ไม่ทันไรก็โดนเอนไซม์ในร่างกายกำจัดทิ้งไปแล้ว เพราะแนวทางปกติของร่างกายคือ จะให้วิตามิน D มีอยู่ในรูปนี้สั้นที่สุด อยากใช้เยอะก็ค่อยเร่งให้ไต (ขั้นสุดท้าย) สร้างไวๆ แทน

เลยทำให้ไม่ค่อยสะดวก จะใช้ก็ต้องให้ถี่ เลยไว้ใช้สำหรับผู้ที่มีไตเสื่อมเรื้อรังระยะท้ายๆ ที่เปลี่ยนไม่ไหวแล้ว

2. แม้การสร้างวิตามิน D จะผ่านการสร้างถึง 3 อวัยวะ นั่นคือ ผิวหนัง —> ตับ —> ไต และตัวปัญหาของพวกเราคือผิวหนังเพราะต้องใช้ UVB

แต่จุดที่สำคัญที่สุดในมุมสรีรวิทยาคือขั้นสุดท้ายที่ไต เพราะอะไรให้ดูภาพเลยค่ะ

เพราะมันเป็นจุดที่ใช้ตัวควบคุมอัตราการสร้างวิตามิน D ให้พอเหมาะ เช่น

🎯 ถ้าตอนนั้นแคลเซียมในเลือดต่ำไป ก็จะมีฮอร์โมน Parathyroid (PTH) มาเร่งขั้นสุดท้ายนี้ให้เกิดไวมาก
🎯 ถ้าตอนนั้นแคลเซียมในเลือดสูงไป ฮอร์โมน PTH ต่ำลง ก็จะกดขั้นตอนนี้
🎯 ถ้าตอนนั้นฟอสเฟสในเลือดสูงไป กระดูกจะหลั่งฮอร์โมน FGF-23 มากขึ้น มากดขั้นตอนนี้ (เพราะร่างกายกลัวแคลเซียมฟอสเฟตสูงตีคู่กัน แล้วตกผลึกได้ง่าย)

การที่ได้รับในรูป D2, D3 ที่ต้องผ่านขั้นตอนนี้ก่อน มันเลยเหมือนเป็นการ “จูน” กับสรีรวิทยาของร่างกาย ประมาณว่าฉันให้สารตั้งต้นไปเยอะแล้วนะ แต่แกจะสร้างมากหรือน้อยแล้วแต่แกเลย

ทำให้ป้องกันผลข้างเคียงของวิตามิน D เกิน อย่างแคลเซียมในเลือดสูงจนเป็นอันตรายได้

แอบเกริ่นไว้ว่าการเลือกใช้ยา หรือแม้กระทั่งหายา/หาสารใหม่ๆ มารักษา ไม่ว่าจะเป็นตัวไหนก็ตาม

มันไม่ได้มองแค่ว่าออกฤทธิ์ยังไงเท่านั้น จุดสำคัญมากๆ คือ เราจะทำยังไงให้ยาไปถึงจุดออกฤทธิ์ และอยู่นานพอให้การเกิดรักษาค่ะ จึงเป็นที่มาว่าสารบางสารวิจัยมาฤทธิ์สารพัด แต่ใช้จริงไม่ได้ เพราะไม่สามารถส่งมัันไปถึงจุดที่ต้องการได้ดีพอค่ะ

ซึ่งองค์ความรู้ตรงนี้จะอยู่ในสาขาเภสัชวิทยา (Pharmacokinetics/Pharmadynamics)

22/02/2025

🔥 HDL ที่บอกว่าดี
มันไปช่วยเอาไขมันออกจากผนังหลอดเลือดยังไง?

1. กำเนิด HDL

▪️ตับและลำไส้เล็กสร้าง Apo-A1 ออกมา เป็นตัวสำคัญในการประกอบร่าง HDL

▪️Apo-A1 วิ่งไปรับเยื่อหุ้ม (Phosholipid) และคลอเลสเตอรอล กลายร่างเป็นรถบรรทุกกลมๆ ที่มีโพรงข้างในไว้เก็บ cholesterol

▪️ได้ HDL หน้าใหม่พร้อมทำงานตลอดชีพ

2. ทำงานตัวเป็นเกลียว เก็บ cholesterol จากที่ที่ไม่ควรอยู่

▪️HDL ไหลไปทั่วร่าง รวมทั้งผนังหลอดเลือดด้วย

▪️ที่ผนังหลอดเลือด จะมีเหล่าเม็ดเลือดขาวผู้หลงผิด หลงไปกินตัวขนส่ง Cholesterol ชื่อ LDL ทำให้ตัวมัน ขับ cholesterol ออกไปไม่ได้ แล้วกำลังจะตุย

▪️HDL จะเข้าไปประกบ กระตุ้นเครื่องปั้มชื่อ ABCA1/G1 ปั้ม cholesterol ที่ขังในเม็ดเลือดขาวให้เข้ามาสู่ตน

▪️HDL ใช้สกิลส่วนตัว (LCAT) เปลี่ยน cholesterol เป็น Cholesterol ester ซึ่งละลายน้ำได้น้อยมาก จึงเคลื่อนเข้าสู่ใจกลาง HDL ทำให้ผิว HDL พร้อมรับตัวใหม่ๆ เข้ามา

3. คืน Cholesterol สู่ตับ

▪️HDL เดินทางมาถึงตับ ใช้สวิตซ์ชื่อ SR-B1 ในการส่ง cholesterol เข้าเซลล์ตับ

▪️วิธีนี้ไม่ต้องต่อคิวแย่งกับพวก VLDL/LDL แถม HDL ตัวนั้นยังวนกลับมาทำงานได้ต่อด้วย (คือยืนหน้าบ้านแล้วส่ง cholesterol เข้าตับ ไม่ต้องเข้าตับทั้งก้อน HDL)

▪️อีกวิธีนึงคือ HDL จะกระจาย Cholesterol ไปให้ตัวขนส่งตัวอื่น (VLDL/LDL) แล้วแลกเอาไขมันไตรกลีไรด์มาแทน วิธีนี้เกิดเยอะแล้วไม่ดีเท่าไหร่ (มักเจอในคนดื้ออินซูลิน) เพราะไตรกลีเซอไรด์ใน HDL จะโดนสลายไป โมเลกุล HDL จะเล็กลงๆ เรื่อยๆ มีโอกาสสูงที่จะถูกเคลียร์ออกจากกระแสเลือดไป

▪️ตับที่รับ Cholesterol มา ก็จะขับทิ้งทางน้ำดี ไม่ก็เปลี่ยนไปสร้างสารอื่น (เช่น กรดน้ำดี)

วิธีที่เพิ่ม HDL ได้ดีที่สุดคือ ทำสภาพร่างกายให้กลับมาปกติเหมือนเดิม คือลดความอ้วน แก้การดื้อของอินซูลิน โดยการคุมอาหาร, รวมทั้งการออกกำลังกายก็เพิ่ม HDL ได้โดยตรงด้วยค่ะ

ที่อยู่

บรรณาการ
Chaiyaphum
36000

เวลาทำการ

จันทร์ 07:00 - 21:00
อังคาร 07:00 - 21:00
พุธ 07:00 - 21:00
พฤหัสบดี 07:00 - 21:00
ศุกร์ 07:00 - 21:00
เสาร์ 07:00 - 21:00
อาทิตย์ 07:00 - 21:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ร้านขายยา แม็ก Pharmacy สาขา ใกล้เซเว่นเมืองเก่าชัยภูมิผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง ร้านขายยา แม็ก Pharmacy สาขา ใกล้เซเว่นเมืองเก่าชัยภูมิ:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram