อัฏฐเวช คลินิกการแพทย์แผนไทย

21/08/2025

ดอกของต้นอะไร
กินได้หรือไม่

12/08/2025

หั่นมะตาด ไปตากแดด มีแดดตาก
แต่ลำบาก ตากครู่เดียว ดันมีฝน
เมืองฝนแปด แต่แดดสี่ นี้ชอบกล
อลวน ฝนเจ้ากรรม ทำรำคาญ

ผลมะตาด ส่วนผสม ของกับข้าว
มอญไทยเอา ผลอ่อนใส่ ในอาหาร
ทั้งแกงส้ม และแกงคั่ว นัวทุกจาน
รสเปรี้ยวหวาน เป็นยาเย็น เน้นแก้ไอ

04/08/2025

🙏❤️

ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอท่าใหม่
🎉ขอแสดงความยินดี🎉
นายวชิรวิทย์ จวนสวัสดิ์
อัฎฐเวช คลินิคการแพทย์แผนไทย
ได้รับคัดเลือก การปฏิบัติงานดีเด่น สกร. ดีเด่นระดับ
ประเทศ ประจำปี 2567 สาขาภาคีเครือข่ายรางวัลที่ 1
หน่วยงานภาคีเครือข่ายภาคเอกชนดีเด่น

03/08/2025

1 สิงหาคม 2568

ประกาศ กรมส่งเสริมการเรียนรู้
เรื่อง ผลการคัดเลือกการปฏิบัติงาน สกร.ดีเด่น ระดับประเทศ

สาขาภาคีเครือข่าย:
หน่วยงานภาคีเครือข่ายภาคเอกชนดีเด่น
รางวัลที่ 1 ได้แก่ อัฏฐเวช คลินิกการแพทย์แผนไทย
อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
...........................................

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว
หลังจากที่เรียนจบแพทย์แผนไทยใหม่ๆ
ได้มีโอกาสได้ใช้ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพร
ในการเป็นวิทยากรอิสระสอนให้กับหน่วยงานต่างๆ
และที่แรก ของการเป็นวิทยากร คือ กศน. ครับ

จำได้ครั้งแรกๆ ที่เป็นวิทยากร
เป็นช่วงที่ กศน.อำเภอท่าใหม่
กำลังจะรับการตรวจประเมินจาก สำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ.

งานวิทยากรตอนนั้นคือ
บรรยายและสาธิตเกี่ยวกับการทำผงสมุนไพรถั่วเขียวขัดหน้าอายุรเวท ให้กับคณะกรรมการฟัง
ณ พื้นที่ กศน.ตำบลรำพัน อ.ท่าใหม่
ซึ่งถือว่า ผ่านไปด้วยดี และทำให้มีงานวิทยากรเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งงานวิทยากร ก็มีทั้ง กศน.และหน่วยงานอื่นๆ
แต่ที่ได้รับโอกาสบ่อยๆ ก็ กศน.นี่แหละครับ
...........................................

**อธิบายเพิ่มเติม
ปัจจุบัน กศน. หรือ สำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
เปลี่ยนชื่อเป็น สกร. หรือ กรมส่งเสริมการเรียนรู้
...........................................

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ตั้งแต่เป็นแค่นายวชิรวิทย์ วิทยากรธรรมดาๆ คนหนึ่ง
จนผันเปลี่ยนเป็นอัฏฐเวชคลินิกการแพทย์แผนไทย
สกร.ระดับอำเภอท่าใหม่และตัวผม
ได้ทำงานร่วมกันมากมาย
ต่างสนับสนุน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
สกร.ระดับอำเภอท่าใหม่ ได้มอบบทบาทต่างๆ ให้ทำ
จนเป็นภาคีเครือข่ายที่ใกล้ชิดกันมากๆ

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
เคยได้ร่วมคัดเลือกการปฏิบัติงานดีเด่น
ทั้งในด้านภาคีเครือข่ายเอกชน
และ ด้านภูมิปัญญา/ปราชญ์ชาวบ้าน
ผลการคัดเลือกไปได้ดีที่สุด คือ รางวัลที่ 1 ระดับภาคตะวันออก เท่านั้น

แต่ในปีที่ผ่านมา สกร.ระดับอำเภอท่าใหม่
ภายใต้การนำของ ผอ.บุณยรัตน์นันท์ อารีรอบ
และการทำงานของ ครูนก กนกรัตน์ ดอกแก้ว
ตลอดจนข้าราชการที่รับผิดชอบ

ก็พา อัฏฐเวชคลินิกการแพทย์แผนไทย
ผ่านระดับจังหวัด ผ่านระดับศูนย์ภาค (5 จังหวัด)
ผ่านระดับภาคตะวันออก
และท้ายสุด ก็ไปถึงรางวัลที่ 1
สาขาภาคีเครือข่าย หน่วยงานภาคีเครือข่ายภาคเอกชนดีเด่น ระดับประเทศ ในที่สุด
...........................................

ในนามอัฏฐเวชคลินิกการแพทย์แผนไทย
ขอแสดงความยินดีกับ สกร.ระดับอำเภอท่าใหม่
รางวัลนี้คือความภูมิใจร่วมกันของพวกเรา

ผมรู้สึกตื้นตันใจและภูมิใจในรางวัลนี้มากๆ
รางวัลอื่นๆ ที่ได้รับจาก สกร.ก็เป็นที่น่าภูมิใจเช่นกัน
รู้สึกได้รับโอกาส ได้รับเกียรติเป็นอย่างยิ่งครับ

ขอขอบพระคุณครับ

30/07/2025

วันนี้ทีมหมอจากอัฏฐเวช คลินิกการแพทย์แผนไทย
ประกอบด้วย หมอเตย หมอไพ หมอจุ๋ม และ หมอสร
ได้รับโอกาสดีๆ จาก เทศบาลตำบลสองพี่น้อง
โดยการประสานงานจาก สกร.อำเภอท่าใหม่
ให้มาเป็นวิทยากรตามโครงการส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพใจผู้สูงอายุ 4 มิติ
ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลสองพี่น้อง
อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

โดยกิจกรรมในครั้งนี้
ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพก่อนเจ็บป่วยด้วยสมุนไพรในครัวเรือน
ให้แนวคิดการนำสมุนไพรสดที่หาได้ง่ายมาใช้ดูแลสุขภาพ เช่น การทำยาดมสมุนไพรสด การเข้ากระโจมอบสมุนไพร การทำลูกประคบ และการเลือกสมุนไพรสำหรับแช่เท้า เป็นต้น

ทั้งนี้ได้มีการฝึกปฏิบัติและสาธิตการเข้ากระโจมอบสมุนไพร และการทำลูกประคบ
ให้ผู้เข้าร่วมอบรมทุกคนได้ลองทำอีกด้วย

อัฏฐเวชคลินิกการแพทย์แผนไทย ขอขอบคุณ
อ.สายทอง อยู่ในธรรม ครู สกร.อำเภอท่าใหม่
และเทศบาลตำบลสองพี่น้อง ที่จัดกิจกรรมดีๆ
มา ณโอกาสนี้ด้วยครับ

25/07/2025

วันนี้ทีมงานจาก อัฏฐเวช คลินิกการแพทย์แผนไทย
กระจายทีมงานกัน แบ่งไปเป็นวิทยากรถึง 3 ที่
2 ทีม อยู่ โซนอำเภอแหลมสิงห์
ส่วนทีมนี้อยู่ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ครับ

โดยมาให้ความรู้เรื่องเร่วถิ่นจันท์
และภูมิปัญญาการดูแลสุขภาพทางแพทย์แผนไทย
ซึ่งแบ่งกิจกรรมเป็นการบรรยายเรื่องเร่ว
และฐานเรียนรู้ 3 ฐาน ได้แก่ การเข้ากระโจมอบไอน้ำ
การนั่งถ่าน และการทำยาดมสมุนไพร
กลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษาและประชาชนทั่วไป
...................................................................

ทั้งนี้ ขอขอบคุณ อ.เปิ้ล
จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.ราชภัฏรำไพพรรณี
ที่จัด "โครงการกิจกรรมบูรณาการการเรียนรู้และถ่ายทอดภูมิปัญญาเร่วถิ่นจันท์สู่ชุมชน ภายใต้โครงการสำรวจ เก็บรวบรวม ปลูกรักษา และบูรณาการองค์ความรู้สู่การถ่ายทอดความรู้พืชสกุลเร่วเพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์สู่ชุมชน" ขึ้นมานะครับ

ขอบคุณทีมงานหุบเขาคนโฉดทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจ
ไปช่วยงานในทุกโอกาสด้วยนะครับ 🙏

10/07/2025

"พระคัมภีร์ตักศิลา"
เป็นคัมภีร์ที่กล่าวถึงลักษณะอาการของไข้พิษไข้กาฬ ต่างๆ ซึ่งจำแนกไว้หลายจำพวก
ตลอดจน กล่าวถึงการพิจารณาข้อห้ามในการรักษาไข้พิษไข้กาฬ ที่ผู้ไข้และผู้รักษา ควรรู้
อีกทั้ง ยังครอบคลุมไปถึงยาขนานต่างๆ ที่ใช้ในการรักษาไข้พิษไข้กาฬ อีกด้วย
...............................................

ถ้าพูดถึงยาขนานต่างๆ ในการรักษาไข้พิษไข้กาฬ
ในคัมภีร์ได้บอกไว้ว่า ให้แพทย์ใช้ยากระทุ้งพิษให้สิ้น
ถ้ากระทุ้งพิษไม่หมด ก็จะกลับลงไปกินตับกินปอด
ให้ถ่ายออกมาเป็นโลหิตเสมหะ ทำพิษต่าง ๆ
ถ้ารักษาดีก็มีโอกาสรอด ถ้ารักษาไม่ดีก็ตาย

ดังนั้น การรักษาจึงต้องกระทุ้งพิษออกมา
รวมทั้ง ใช้ยาสำหรับรักษาอาการแทรกซ้อน
และตัดรากโรคด้วย ตามลำดับ
...............................................

ซึ่งเวลาเรียนเวชกรรมไทย
เราจะเคยได้ยิน การรักษาโดยให้ยา 3 ขั้นตอน คือ
ให้ยากระทุ้งพิษไข้ ให้ยาแปรไข้ และ ให้ยาครอบไข้
โดยมียาขนานต่างๆ ได้แก่
-ยากระทุ้งพิษไข้ ชื่อว่า ยาแก้วห้าดวง
-ยาประสะผิวภายนอก
-ยาพ่นภายนอก
-ยาพ่นและยากิน
-ยาแปรไข้
-ยาพ่นแปรผิวภายนอก
-ยาครอบไข้ตักศิลา
**หมายเหตุ: ชื่อยาจากหนังสือต่างๆ อาจแตกต่างกัน

แต่สิ่งที่เรียนในตำรา
กับสิ่งที่นำมาใช้จริงในคลินิก ก็ไม่เหมือนกัน

ในการรักษาไข้พิษไข้กาฬ
ไม่จำเป็นจะต้องใช้ยาให้ครบทุกขนานที่กล่าวมา
ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหมอ
และอาการที่สำแดงออกมาของผู้ไข้แต่ละราย

อาจจะไม่ต้องเตรียมยาให้ครบทั้งหมด
แต่ใช้การยักยาอื่นๆ นอกเหนือจาก 7 ขนานนี้
มาร่วมในการรักษาไข้พิษไข้กาฬก็ได้

เช่น ในผู้ไข้ที่มีอาการสำแดงออกทางผิวหนัง
หากไม่มียาพ่นผิวภายนอก
ก็อาจจะใช้ยาเขียวหอมทาบริเวณผิว
หรือจะใช่ยาเกล็ด เช่น ใบตำลึงตำพอกผิวก็ได้

หรือแม้ผู้ไข้ในจำพวกไข้หวัดน้อยไข้หวัดใหญ่
ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกินยาแก้วห้าดวงกระทุ้งไข้
โดยให้ใช้ยาสามัญในหมวดแก้ไข้กินแทนได้เช่นกัน
...............................................

แต่ไหนๆ อัฏฐเวชฯ ก็ชื่นชอบในการปรุงยาอยู่แล้ว
ก็มีไว้ ดีกว่า ไม่มี มียาเก็บไว้ อุ่นใจดีกว่า

วันนี้จึงขอนำภาพตำรับยา 2 ภาพ 2 ขนาน มาให้ดู
ซึ่งเป็นยาในการรักษาไข้พิษไข้กาฬ
ที่อยู่ในคัมภีร์ตักศิลา ขนานที่ 4 และ ขนานที่ 6 ครับ

ภาพแรก
"ยาขนานที่ 4 ยาพ่นและยากิน"
ประกอบด้วย ใบทองหลางใบมน
เปลือกทองหลางใบมน และข้าวสาร
เอาหนักสิ่งละเสมอภาค
บดแทรกดินประสิว ใช้ทั้งกินทั้งพ่น

ภาพที่สอง
"ยาขนานที่ 6 ยาพ่นแปรผิวภายนอก"
ประกอบด้วย รังหมาร่าที่ค้างแรมปี หญ้าแพรก
หญ้าปากควาย ใบมะเฟือง เอาหนักสิ่งละเสมอภาค
บดปั้นเป็นเม็ด เอาน้ำซาวข้าวเป็นกระสายยา
ละลายพ่นวันละ 1 ครั้ง พ่นเพียง 3 วันเท่านั้น

27/06/2025

ก่อนอื่นเลย "บอกมาคนละ 1 ตำรับยา"
ชื่อตำรับยาที่ใช้ "หัวดองดึง" เป็นส่วนประกอบ
ตอบเลย อย่าเพิ่งเปิดหนังสือนะครับ
..................................................

ถ้าพูดถึง #ดองดึง ในตำรับยา
เราก็มักจะใช้ส่วน หัวและราก ในการปรุงยา
แม้ดอกจะสวยโดดเด่น แต่ก็เก็บไว้ประดับสวนเถอะ
แล้วขุดหัวมาให้ผม 🤣🤣🤣

หัวดองดึง สรรพคุณ:
รสร้อนเมา ขับผายลม แก้โรคเรื้อน คุดทะราด
แก้โรคปวดข้อ แก้กามโรค แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย
หัวสด ใช้ตำพอกหรือทาแก้ปวดข้อ แก้พิษแมลงกัดต่อย
ตำผสมทำยาประคบแก้ปวดข้อ
แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แก้ข้ออักเสบฟกบวม
หัวแห้ง กรุงเป็นยากินรักษาโรคเรื้อน มะเร็ง คุดทะราด

รากดองดึง สรรพคุณ:
รสร้อนเมา แก้ลมจุกเสียด แก้เสมหะ
ทาแก้โรคผิวหนัง แก้ปวดข้อ
ตำพอกหรือทาแก้โรคผิวหนัง เรื้อน มะเร็ง คุดทะราด
แก้ปวดข้อ ต้มดื่ม แก้ลมจุกเสียด แก้เสมหะ

ข้อควรระวัง
ต้องใช้ในปริมาณที่น้อยและเจือจาง
หากใช้เกินขนาดอาจมีโทษและเกิดขึ้นกับชีวิตได้